ความคิดเห็นที่ 1 อืมมม.... ผมเห็นใจคุณและแฟนคุณครับ ที่เจ็บป่วยแล้วยังต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ แต่..ผมสงสัยว่าจู่ๆหมอเขาหยาบคายแบบนั้นจริงๆเหรอครับ เพราะมันเป็นการฟังจากฝ่ายคุณเพียงฝ่ายเดียวเท่านั้นจริงๆ ไม่ได้หมายความว่าคุณมาเล่าความเท็จดอกนะครับ แต่อารมณ์ของหมอที่แสดงออกมันมากจนเกินจริงของคนปกติ อีกทั้งมันเป็นการได้ยินกันเพียงแค่แฟนคุณ กับคุณหมอคนนั้น 2 คน มันเลยทำให้สงสัยว่ามีที่มาที่ไปอะไรก่อนหน้านี้หรือเปล่า ?? เพราะผมมองว่าวุฒิภาวะทางอารมณ์ของหมอมันควรจะดีกว่านี้ ใครรู้จักคุณหมอใน รพ.นี้ลองตามมาตอบกระทู้หน่อยซิครับ จะได้ฟังความอีกด้านจากคนที่โดนกล่าวหาบ้าง คุณกล่องข้าวน้อยฯอย่าลงชื่อหมอเขานะครับ เพราะโดนฟ้องหมดตัวแน่ๆ...ไม่ว่าจะเป็นเรื่องจริงหรือไม่จริง จากคุณ : ตุ้ม แม็คคาร์ทนี่ย์ (Toom McCartney) เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 53 21:16:07

ความคิดเห็นที่ 2 มารับฟังหูไว้หูนะคะ เพราะไม่รู้ว่า เป็นเรื่องจริงหรือเปล่า เราเองก็ไม่ค่อยชอบโรงพยาบาลนัก ถ้าเป็นไปได้ ควรหลีกเลี่ยงทุกอย่างที่เป็นอันตรายต่อตัวเรา จะได้ไม่ต้องเจอหมอแย่ๆไง ยิ่งประกันสังคมด้วยนะ อื้อหือออเชียว จากคุณ : ลิเซิ่ล เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 53 21:26:13

ความคิดเห็นที่ 3 สงสัยว่าแฟนคุณอาจจะมีภาวะบาดเจ้บที่กระดูกต้นคอนะครับ แนะนำว่าให้ไปตรวจอีกครั้งและเน้นอาการชาที่ขาด้วยนะครับ อยากจะบอกว่าหมอก็มีร้อยพ่อพันแม่อ่ะครับ เจอยังงี้เป็นผม ผมก็เซ็ง จากคุณ : Nighthawk121 เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 53 21:31:55

ความคิดเห็นที่ 4 โรงพยาบาลสมุทรปราการหรอ.. ไม่ใช่พระประแดงใช่ไหม? จากคุณ : paefah (paefah) เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 53 21:36:16

ความคิดเห็นที่ 5 ฟังหูไว้หูค่ะ จากคุณ : ไชเท้าก๋วย เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 53 21:39:19

ความคิดเห็นที่ 6 แบบนี้แล้วแต่คนจริงๆแหละครับ ขึ้นกับตัวบุคคลจริงๆ อยากให้อัดที่เค้าพูดไว้แล้วเปิดให้เขาฟังจริงๆ แค่นี้ก็คงสำนึกบ้างแล้วแหละนะ จากคุณ : xanyz เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 53 21:47:23

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาฟังนะครับ แต่ผมเชื่อแฟนผมครับ เพราะผมเชื่อใจเขา ผมคบแฟนผมมาหลายปีเขาไม่เคยว่าใครบ่อยๆ ถ้าไม่โมโหจริง และไม่มีเหตุผลใดที่แฟนผมจะมาว่าร้ายให้กับหมอที่ช่วยเค้านะครับ แต่คนนี้นี่....อ่ะนะ ผมขอแค่มาระบายครับ ยังไงก็ขอขอบคุณทุกท่านนะครับ ขอบคุณ คุณ Toom McCartney นะครับที่เตือนผม และขอบคุณ คุณNighthawk121 สำหรับคำแนะนำนะครับ จากคุณ : กล่องข้าวน้อยรักแม่ เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 53 21:50:43

ความคิดเห็นที่ 8 เมื่อกี้แฟนผมมาอ่านกระทู้ ที่คุณToom McCartney บอกว่า ไม่ได้หมายความว่าคุณมาเล่าความเท็จดอกนะครับ แต่อารมณ์ของหมอที่แสดงออกมันมากจนเกินจริงของคนปกติ อีกทั้งมันเป็นการได้ยินกันเพียงแค่แฟนคุณ กับคุณหมอคนนั้น 2 คน แฟนผม ยืนยันและบอกว่าไม่ได้ยินแค่คนเดียว หมอก็ไม่ได้ด่าแค่แฟนผมคนเดียว แต่ได้ยินกันหลายคนครับ เพราะเปิดประตูห้อง และมีคนไข้ที่รอคิวอยู่ในห้องอีก 5-6 คน รวมทั้งพยาบาลก็อยู่ด้วย ได้ยินกันหมดครับ   คอนเฟริมและฟันธง ฉึกๆ จากคุณ : กล่องข้าวน้อยรักแม่ เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 53 22:03:13

ความคิดเห็นที่ 9 ยังไงลองส่งชื่อหมอมาหลังไมค์หน่อยนะครับ ผมทำงานอยู่กระทรวงสาธารณสุข.. อาจจะไม่ได้ถึงขนาดไปร้องเรียนหมอท่านนั้น แต่ส่วนงานของกรมผม+โรงพยาบาลนั้นพอมีอยู่บ้างครับ เผื่อวันไหนแกจะเข้ามาเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ในกรม ผมจะได้ไม่เลือกแกไว้ที่ทำงาน เอ่อ ผมไม่ใช่คนใหญ่คนโตอะไรครับ เป็นชั้นผู้น้อยคนนึง แต่เวลาลงคะแนนเสียงกัน มันก็พอจะมีน้ำหนักบ้างน่ะครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : paefah เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 53 22:05:22

ความคิดเห็นที่ 10 เห็นใจค่ะ .... แนะนำว่าจำชื่อหมอคนนี้ไว้ก็พอค่ะ คราวหน้าคราวหลังถ้าไปก็ไม่ต้องไปตรวจอีก คอมเม้นต์ไปเลยว่าไม่ขอคุณหมอท่านนี้ คนพวกนี้ (พวกนี้ในที่นี้คือ คุณหมอแบบนี้ ไม่ใช่ทั้งหมดนะคะ) อีโก้สูงค่ะ คิดว่าตัวเองใหญ่ที่สุด ไม่มีใครกล้า ชีวิตนี้เราเจอพวกนี้สี่คน คนแรกเป็นอดีตแฟนเราเอง เราเคยเตือนเค้าเนื่องด้วยพฤติกรรมต่อหน้าผู้ป่วยไม่เหมาะสม แต่คำพูดที่ได้กลับมาคือ ตั้งแต่เกิดมาจนโต ไม่เคยมีใครว่าเค้าแบบนี้เลยนะ (เออ........แค่บอกว่าคนไข้ยกมือไหว้น่ะ หันไปยิ้มให้คุณยายหน่อยก็ยังดีนะ พูดแค่นี้จริงๆ) รายที่สอง เราไม่ได้ติดต่อเอาโดยตรงค่ะ แต่พอดีไปติดต่องานที่รพ. ไปนั่งรอรับตัวอย่างเลือด บังเอิญว่าตรงไหนไม่นั่ง ไปนั่งหน้าห้องตรวจเพราะคนไข้น้อย ก็เห็นว่าคุณหมอรายนึงคนไข้ออกมาคนแรกหน้าจ๋อยไปเลย เราก็คิดว่าคงจะโดนคุณหมอดุเอาแน่ๆ อาจจะเพราะไม่ปฏิบัติตัวตามคำแนะนำ รายที่สองคุณยายร้องไห้เลย (นึกในใจอะไรมันจะขนาดนั้น ไหนย้ายที่นั่งสิ อยากเจ๋อนั่นเอง) พอได้ฟังคุณหมอพูดกับคนไข้คนที่สามเท่านั้นล่ะค่ะ ตกใจ!! เนื่องมาจากคุณยายคนที่สามเป็นความดัน และทานยาไม่ตรงเวลาหมอนัดแล้วไม่มา มาช้าไปสามวัน คุณหมอพูดอย่างหัวเสียปนตะคอกว่า "ตายผมไม่รับผิดชอบนะ กินยาไม่ตรงเวลาเอง" ......(โห ลดความรุนแรงของคำพูดลงมาหน่อยก็ดีนะคะคุณหมอ) รายที่สามเจอมากับตัว อันเนื่องมาจากไปขอใบส่งตัวให้คุณยายที่กำลังจะผ่าตัด ก่อนไปก็ติดต่อกับทางรพ.ไว้แล้วล่ะค่ะว่าจะขอใบส่งตัวผู้ป่วยในโครงการ (เค้ามีประวัติเรียบร้อย เรียกว่านัดไปเอาใบส่งตัวเท่านั้น) สอบถามทางรพ.ก็แน่ชัดแล้วว่าไม่ต้องนำผู้ป่วยไป นั่งรอเรียกตามปกติค่ะ ในใจลึกๆทำใจไว้แล้วว่า หมอคนนี้:-) ด่าคนไข้ร้องไห้ 90%.....อย่าไปยุ่งกับแกเลย ปล่อยแกแก่ตายดีกว่า เราเป็นเด็กอย่าหาเรื่อง เข้าไปเท่านั้นล่ะค่ะ โดนมองด้วยสายตาไม่ค่อยเป็นมิตรเท่าไร พร้อมกับคำถาม "มาทำไม" เราก็ตอบไปด้วยความนอบน้อมที่เด็กควรจะมีต่อผู้ใหญ่ รวมถึงสถานะของเราและคุณหมอ คำถามต่อมาคือ คนไข้ละ......ไม่เอาคนไข้มาแล้วจะรู้ได้ยังไงว่าเป็นแค่ไหน มาแทนคนไข้อ่ะรู้หรอว่าเค้าเป็นอะไร ใกล้ตายยัง แล้วถ้าเขียนใบส่งตัวผิด ผ่าผิดที่ไปจะทำยังไง เป็นญาติจะรู้ดีกว่าคนไข้ได้ยังไง เสียงดังฟังชัดเล่นเอาหูอื้อ วิ้งๆเลย(แหม...อยากเอารองเท้ายัดปาก) ฟิวส์ขาดค่ะ ...... ด้วยความรู้ทางการแพทย์ที่มีติดสมองก้อนน้อยๆผสมแกลบ แต่ก็ร่ำเรียนและทำงานสายนี้เหมือนกัน เราขึ้นเสียงกลับไปด้วยศัพท์แพทย์ว่าอาการเป็นอย่างไร ผ่าตรงไหนยังไง ถึงจะได้ใบส่งตัวมา แต่ได้แบบโยนๆมาให้อย่างไม่พอใจ รายที่สี่ เคยมาบ่นไว้ในพันทิปแล้วค่ะ พาคุณยายไปหาหมอด้วยอาการบวมหลังผ่าตัด ท่าทางคำพูดของคุณหมอก็แนวๆนี้ล่ะค่ะ แถมคนไข้ถามว่าคนไข้เป็นอะไรได้คำตอบมาว่ายังไม่รู้ แต่เราขี้เกียจเกินกว่าจะรบด้วย ได้แต่ดูว่าคุณหมอท่านนั้นเป็นคุณหมอมาจากที่ไหน ชื่ออะไร แล้วก็จบกันไป..... มานั่งค่อยๆอธิบายให้ยายฟังหน้าห้องตรวจก็ได้ ขนาดเจออาจารยที่ผ่าตัดให้ยายเราเค้าถาม เราก็อธิบายให้ฟังว่าตรวจอะไรบ้างรวมทั้งอธิบายว่าทำไมเราต้องมานั่งคุยกับยายอีกครั้ง  แกยังส่ายหัวในพฤติกรรมของคุณหมอที่เราเจอเลยค่ะ จากคุณ : Adenin เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 53 22:10:10

ความคิดเห็นที่ 11 หมอประเภทนี้มันก็น่าจะโดนอะไรซะบ้างนะ ทำเสียสถาบันหมอหมด จากคุณ : แอนด้า เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 53 22:21:27

ความคิดเห็นที่ 12 หมอก็มีอารม หมอก็โกรดเป็น เหนื่อยเป็น โลภเป็น เห็นแก่ตัวเป็น อยากสบาย ได้เงินเยอะๆ เสี่ยงน้อยๆเหมือนอาชีพอื่นแหละ ไม่งั้นหมอจะออกมาคัดค้านกฏหมายใหม่เหรอ คนเรามันลืมไปว่าอาชีพตัวเองมีเกียรตื เงินเยอะกว่าคนอื่น แต่กลับอยากสบาย เสี่ยงน้อยกว่าคนอื่น จากคุณ : NAN_KUNG เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 53 22:22:50

ความคิดเห็นที่ 13 ร้องเรียนตรงถึง ผอ. หรือไปตรวจอีกครั้ง แล้วแอบถ่ายคลิปไว้ จากคุณ : ต้นโพธิ์ต้นไทร เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 53 22:37:41

ความคิดเห็นที่ 14 ผมบอกตรงๆนะ ในห้องตรวจ หมอจะรับไหว้ไม่รับไหว้คนไข้เนี่ย หมอบางคนถือว่าคนไข้เจือกนะ เพราะบางทีหมอเค้าทำอะไรบางอย่างมากกว่าที่จะมาสนใจการรับไหว้ + เจอหน้าคนป่วยมาทั้งวัน อารมย์ไปยิ้มไม่มีหรอก ไอ้เรื่องขู่คนไข้ว่า จะตายไม่ตายก็เรื่องของคุณ คุณทำตัวเอง(บางครั้งก็พูดแรงกว่านี้) ผมพูดบ่อยมาก เพื่อให้คนไข้ได้คิดว่าการดูแลตัวเองด้วยการกินยามันสำคัญแค่ใหน แต่เอาเป็นว่าผมจะเลิกพูดอย่างนี้แล้วก็น่าจะดี จะได้ไม่ต้องมาปวดหัวกับการโดนร้องเรียน สบายไปอีกแบบ อยากมาวันใหนก็มา หมอมีหน้าที่แค่เขียนใบสั่งยา แล้วก็ไป แล้วก็ข้อสุดท้ายนะครับ ระเบียบจริงๆ คนไข้ไม่มา ไม่สามารถเขียนใบส่งตัว/ใบสั่งยาได้นะครับ ขอให้เข้าใจไว้ด้วย หมอบางคนไม่สนใจเรื่องนี้ เขียนๆส่งๆไปให้เสร็จๆ ก็สบายไป หมอบางคนตามระเบียบ หรือบางทีเค้าไม่รู้นี่นาว่าคนไข้ทำไมถึงต้องส่งตัวไป หรือความจำเป็นในการส่งตัวไปรักษาที่อื่นมีมากหรือน้อยแค่ใหน ก็ขี้เกียจจะมาตามเช็ดขี้เช็ดเยี่ยวให้กับพวก:-)แบบไม่คิดเหมือนกันแหละนะ แต่บางที ก็ช่วยคิดด้วยว่าคนไข้มีมุมมองของคนไข้ หมอมีมุมมองของหมอ งานของหมอไม่ใช่งานสนุก มีแต่อะไรที่ไม่น่าดู เจอหน้าคนก็มีแต่คนมีทุกข์ และเวลาที่หมอจะคุยกับคนไข้มันมีแค่ 2 นาที จะคุยให้เข้าใจกันว่าใครคิดยังไงมันคงเป็นไปไม่ได้ ก็ช่วยคิดหน่อยละกัน ไม่ใช่ไหลตามน้ำช่วยกันร้องเรียน พอยิ่งเจอเรื่องร้องเรียนก็ยิ่งเซ็ง สุดท้าย :-)กว่าเก่าเพราะหงุดหงิดที่ถูกร้องเรียน ปล.สำหรับผม ผมเป็นหมอ:-)ปานกลางครับ จากคุณ : Umiki เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 53 22:56:34

ความคิดเห็นที่ 15 เวลามีกระทู้ต่อว่าหมอนี่ เป็นห่วงมากค่ะ.. ว่าในอนาคตเราจะยิ่งขาดแคลนหมอเพิ่มขึ้นไปอีก.. เดี๋ยวนี้ใครๆก็ไม่อยากจะเป็นหมอกันแล้ว เสี่ยงโดนฟ้องร้อง ถ้าไม่รักอาชีพนี้จริง ไม่อดทนจริง ใครจะมาเป็นหมอ.. อย่างไรก็ตามแพทย์ควรจะควบคุมอารมณ์ให้ดีกว่านี้ค่ะ ทุกอาชีพมีทั้งคนดี และไม่ค่อยดีนะคะ ทนายความหรือผู้มีความรู้ทางกฏหมาย แต่ใช้มันเพื่อหาช่องทางช่วยเหลือผู้กระทำความผิด หรือคอยจ้องแต่จะฟ้องหาเงินค่าสินไหมทดแทน สมควรที่จะถูกประนาณมากกว่า หมอที่ใช้อารมณ์พูดไม่เพราะกับผู้ป่วยค่ะ.. จากคุณ : ก้อย เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 53 23:03:21 A:183.89.110.207 X: TicketID:281596

ความคิดเห็นที่ 16 ขอแก้คำผิดนิดนึงค่ะ ประณาม เขียนแบบนี้ค่ะ.. จากคุณ : ก้อยเองคะ เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 53 23:17:12 A:183.89.110.207 X: TicketID:281596

ความคิดเห็นที่ 17 หมอก็คน..มีดีและไม่ดีปนกันไป บ้างคนพวกนี้มักรับไม่ได้กับคำตำหนิ คิดว่าคนต้องมาพึ่งตนให้รักษา ลองถามพวกที่ทำงานโรงพยาบาลดูจะรู้ซึ้ง หมอถูกเอาใจจนเสีย เห็นแก่ได้ เอาเปรียบ หากเจอคนดีก็จะพอเพียง แต่บ้างคนไม่ดีจะเอาเปรียบสุดๆ พูดจากับคนไข้รุนแรง หมอที่ดี สุดประเสริฐ มีความคิดช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์เป็นพื้นฐาน พูดจาด้วยความนุ่มนวล เข้าใจในเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน เป็นอีกอาชีพหนึ่งเหมือนอาชีพอื่นมีทั้งดีและไม่ดีปะปนกัน..ต้องทำใจครับ... จากคุณ : photo Good เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 53 23:41:54

ความคิดเห็นที่ 18 ผมเชื่อตามจขกท.ว่ามานะ ไม่มีเหตุผลที่แฟนจขกท.จะพูดเท็จ แต่มันก็เป็นเพียงส่วนหนึ่ง... บังเอิญแฟนคุณไปเจอ(ซวย) ผมก็ขอกล่าวคำว่า "ขอโทษ" แทน หมอส่วนใหญ่ที่ตั้งใจดูแลคนไข้นะครับ คนแย่ๆส่วนนั้นคงลืมไปแล้วละมังว่า ตอนที่สอบสัมภาษณ์เคยพูดอะไร ไว้กับคณะกรรมการที่สอบสัมภาษณ์บ้าง เป็นคำถามยอดนิยม.... "ทำไมถึงอยากเป็นหมอละ???" ผมยังจำคำตอบนั้นได้ดีครับ ทำได้บ้างไม่ได้บ้างแต่ก็ยังพยายาม ทำให้ใกล้เคียงที่สุดที่เคยรับปาก อาจารย์ทั้งหลายไว้....... คราวหน้าขอให้ได้พบแต่แพทย์ดีๆนะครับ (ไม่ได้แช่งให้ป่วยนะครับ ...เผื่อไว้) แล้วก็อย่าลืมมาโพสชื่นชมคุณหมอเหล่านั้นด้วย ไม่อยากให้ทำเหมือนหนังสือพิมพ์อะครับ ลงแต่สิ่งที่ ขายข่าวได้...แต่ พอสิ่งดีๆ กลับไม่ค่อยพูดถึง....ไปซ่อนอยู่มุมเล็กๆด้านหลังซะ... เป็นกำลังใจให้หมอที่ดีครับ และ ขอตำหนิ หมอที่ไม่ดี.... "คุณ..กำลังทำให้วิชาชีพของพวกเรา แย่ลงไปอีก" จากคุณ : "หมาขี้เรื้อน" เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 53 02:39:37 A:223.207.9.243 X: TicketID:286658

ความคิดเห็นที่ 19 #10 ช่วยอ่าน #14 ด้วยนะครับ 1. เรื่องต่อว่า คนไข้ ไม่ทานยา ไม่ทำตัวตามที่สั่ง ไม่มาตามนัด หมอคนไหนก็ทำ ผมก็ทำ.........แรงด้วย.......... ร้องเรียนได้ตามสบาย ผมไม่เลิก ยิ่งพวก ห้าม กินเหล้า+สูบ ด่าแรงสุดๆ 2. คนไข้ไม่มา ผมไม่เคยให้ญาติมารับ ยา หรือใบส่งตัว แม้แต่คนเดียว ตลอด 8 ปีที่ทำงานมา ร้องเรียนได้ ตามสบาย จากคุณ : dr.k เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 53 03:50:02 A:125.25.238.170 X: TicketID:280656

ความคิดเห็นที่ 20 อือ... เดี๋ยวนี้หมอด่าคนไข้ คงเป็นเรื่องปรกติ(ไปแล้ว) ยังไงก็ต้องทน(ละมัง) ถ้าด่าคนที่สมควรถูกด่า เช่น ป่วยซ้ำซาก โดยไม่ดูแลตัวเอง มันก็สมควรอยู่ แต่ไม่ใช่ด่าคนไข้กราดไปเสียทุกคน หน้าเก่าหน้าใหม่...โดนหมด เพราะอารมณ์เสียเรื่องอะไรมาสักอย่างหนึ่ง ปล. เราเชื่อ จขกท นะ ปล.2 หมออายุมากๆมักจะใจดี พูดดี เหมือนหมอๆสมัยเก่า ไม่เหมือนหมออายุน้อยๆ กิริยาต่อผู้ป่วยแย่มาก เหมือนว่า การมารักษาผู้ป่วยนี่ เป็นเรื่องน่ารำคาญ จากคุณ : *Cookies* เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 53 05:29:58

ความคิดเห็นที่ 21 แม่เราเป็นโรคเบาหวาน และต้องไปหาหมอที่ รพ. อำเภอ ทุกเดือน หมอประจำอำเภอ เป็นคนใต้ หน้าตาดุดัน แต่หมอท่านน่ารักมาก (อายุยังน้อย ขอเรียกท่านละกัน) พยายามปรับตัวให้เข้ากับวัฒนธรรมท้องถิ่นอีสาน เรียกคนไข้ว่าตา-ยาย แม้แม่เรานิสัยดื้อบ้าง แต่หมอใช้คำพูดได้น่ารักมากมายค่ะ ในการจูงใจ ให้คนไข้ดูแลตัวเอง เรานั่งรอข้างนอก แต่ได้ยินหมอพูดกับแม่แล้วเราปลื้มใจ แม่เราเล่าว่า หมอท่านนี้ได้รับของฝาก (ผักสดๆ ปลาตัวเป็นๆ อาหารพื้นบ้านจากคนไข้เป็นประจำ) หมอน่ารัก ใจดีก็มีเยอะค่ะ ขอชื่นชม จากคุณ : nuynananuy เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 53 09:37:54

ความคิดเห็นที่ 22 เราเคยไปรักษาที่ โรงบาลนั้นครั้งเดียว ครั้งเดียวจริงๆ จากคุณ : ลงต่อรถป้ายหน้าเลยน้อง เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 53 10:03:30

ความคิดเห็นที่ 23 ผมแนะนำให้ทำเป็นหนังสือร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องครับ .. เพื่อที่จะได้มีผลย้อนกลับไปให้หมอ เขาได้รับรู้ และ จะได้มีการเปลี่ยนแปลงตัวของคุณหมอเอง ในทางที่ดีขึ้น .. ก็เขียนเป็นบันทึก เล่าเหตุการณ์ วันเวลาสถานที่ ฯลฯ  ส่งไปยัง ผอ.รพ. ,  นพ.สาธารณสุขจังหวัด และ แพทยสภา  ( หรือจะส่งที่ กระทรวงสาธารณสุข ด้วยก็ได้ครับ ) http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=cmu2807&date=23-02-2009&group=7&gblog=18 http://www.tmc.or.th/ ฝ่ายจริยธรรม 02-590-1886-7 ต่อ 210-270 Email : contact@tmc.or.th http://www.tmc.or.th/service_check.php สำนักงานเลขาธิการแพทยสภา อาคาร 6 ชั้น 7 ตึกสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข ถ.ติวานนท์ จ.นนทบุรี โทร.: 02-5901880-1,3 ปล. ถ้าเป็นแบบนั้นจริง ก็ต้องยอมรับว่า " กริยา คำพูด ไม่เหมาะสม " ... แต่ผมมองว่า คงไม่ถึงกับคำว่า " เฮีย ๆ  จันทร์ไร ฯลฯ " หรอกมั๊ง ??? จากคุณ : หมอหมู เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 53 10:05:37

ความคิดเห็นที่ 24 ถ้าคุณยังเป็นคนหาเช้ากินค่ำ เรื่องนี้ก็คือเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในสังคมไทย และจะเป็นเช่นนี้ตลอดไป จากคุณ : mork 71 เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 53 13:10:12

ความคิดเห็นที่ 25 ขอยืนยันโดยเฉพาะหมอตามโรงพยาบาล ต่างจังหวัด หาดียากมาก เคยเจอกับตัวเองพาแม่ยายไปหาหมอกระดูก เพราะมีอาการเข่าเสื่อม หมอจับมองๆ เขียนใบสั่งยา ไม่บอกว่าต้องดูแลตัวเองยังไง ให้ยาแก้ปวด กับแก้อักเสบมา ปัดโธ่หมอตี๋ก็ทำได้ ผมต้องพาไปโรงพยาบาลเอกชน และระบุว่าต้องการคุยกับหมอถึงได้หมอที่มีจรรยาบรรณ มานั่งคุยและให้คำปรึกษาด้วย ครั้งที่สองพ่อตาเป็นนิ่วโรงพยาบาลเดียวกันอีกด้วยเป็นข้าราชการ ต้องโรงพยาบาลรัฐฯ จึงตกเบิกได้ แต่คราวนี้เป็นพยาบาล ไม่สนใจที่จะให้ข้อมูลอะไรคนไข้เลยว่าต้องทำอะไรบ้าง ผมต้องโทรจากกรุงเทพฯ ไปคุยเพื่อขอข้อมูลและติดตามอาการ เป็นเรื่องครับตอนเย็นมาบอกแม่ยายผมว่า บอกญาติที่กรุงเทพฯไม่ต้องโทรมาบ่อย รำคาญไม่มีเวลาทำงาน พวกนี้พอไปเจอตัวเป็นๆไม่เห็นกล้า แต่พอกับชาวบ้านละเก่ง อยากรู้นักถ้าเป็นพ่อแม่พวกมัน จะทำตัวยังไง เห็นใจตาสีตาสากันบ้าง พวกเขาเห็นพวกหมอกับพยาบาลดุจดั่งพระเจ้าผู่ช่วยชีวิต ให้เกียรติ์และเห็นใจพวกเขาบ้าง ผมเคยบอกกับแฟนผมว่า หมอรุ่นใหม่นี่ส่วนใหญ่คิดว่าพวกเขาเป็นของขวัญจากพระเจ้าให้มาช่วยโลก เลยมองไม่เห็นหัวคนซักเท่าไร จะคุยอะไร ต้องนอบน้อมถ่อมตนเจียมเนื้อเจียมตัวเวลาเข้าหา แถมต้องรับอารมณ์พวกเขาให้ได้อีกต่างหาก  แต่ไม่ใช่ผมแน่นอน เพราะผมถือว่าหมอดีๆที่น่านับถือมีอีกเยอะ ทำไมต้องมาเกรงใจพวกหลงตัวเองพวกนี้ด้วย จากคุณ : wilson_sam เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 53 13:55:23

ความคิดเห็นที่ 26 เค้าคงจบวุฒิ Dog  ไม่ใช่  Doc จากคุณ : ฟ้าบัญชา เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 53 16:22:07

ความคิดเห็นที่ 28 วันหลังต้องเข้ามาตั้งกระทู้ บ้างว่า วันนี้ตรวจแต่คนไข้ เฮียๆ อยากได้โน่นได้นี่ แต่ขี้เกียจ ว่ะ จากคุณ : therumo (therumo) เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 53 16:37:38

ความคิดเห็นที่ 29 เคยดูรายการสุขภาพของญี่ปุ่น มีโรงพยาบาลนึง ผอ.รพ ดีมากๆ มีเข้าแถวตอนเช้าเหมือนประชุมแล้วตอนท้ายก็พูดกันว่า "คนไข้ที่มาหาไม่มีการปฏิเสธการรักษา" และ "คนใข้ที่จำเป็นต้องผ่าตัดเร่งด่วนก็ไม่ต้องนัดเลย" อย่างเช่นมาตรวจเสร็จเห็นว่าต้องผ่าก็ผ่ากันวันนั้นเลย บางวันก็หลายรายกว่าจะเสร็จก็เกือบตี 3 เห็นแล้วนับถือจริงๆ อยากให้มี รพ. ที่ใส่ใจคนใช้เยอะๆ ครับ จากคุณ : -=Factory_Z=- เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 53 16:38:05

ความคิดเห็นที่ 30 หมอเค้าอยากบริการผู้ป่วยทุกท่านอย่างดีอย่างที่ท่านๆต้องการทั้งนั้นเเหล่ะ   ขอเเต่ว่า  วันๆหนี่ง  อย่าต้องทำงานอะไรที่มันมากเกินไป  เช่น  วันหนึ่งหมอต้อง                round คนไข้ใน 30 คน ในตึกสามัญ  เดินไปตามตึกตามชั้นต่างๆเพื่อดูคนไข้พิเศษ                ในขณะเดียวกันก็ต้องออกโอพีดี  คนไข้เฉพาะที่นัด ไม่ตํ่ากว่า 120  ยังมีคนไข้ขาจร  และคนไข้referอีกมากมาย (รพ.เราเริ่มตรวจตั้งเเต่ 8โมงเช้า ถึง2ทุ่ม เที่ยงก็ไม่หยุดนะ)                รับ consult ไปดูคนไข้แผนกอื่นที่มีปัญหา                ต้องสอนหนังสือน้องหมอ                ทำหัตการคนไข้ใน เเละอีกมากมาย                ตอนเย็นเเละดึก  อยู่เวร                ยังมีอีกมากมายที่ต้องทำ                ทำพร้อมๆกันนะทั้งหมดนั่น                บางทีคนไข้คนสุดท้ายที่ไปดูที่ตึกพิเศษสี่โมงกว่าโดนต่อว่าๆหมอมาดูเค้าเย็นมาก  ก็แก้ตัวไปว่า คุณอาการน้อยสุดหมอจึงมาหลังสุด                 ไม่ได้มาแก้ตัวว่าหมอพูดไม่ดีกับคนไข้ แล้วถูกประชดว่า เลือกมาเป็นเเล้วต้องอดทน                    เเต้ถ้างานน้อยกว่านี้เเล้วไม่ต้องทำงานให้เร่งรัดขนาดนี้  ปัญหาที่เห็นหลายๆคนมาบ่นคงจะลดลงไปมากๆเลยล่ะ                   ปัญหามันอยู่ที่คนไข้ลนหมอ  ล้นพยาบาล ล้นเตียง จากคุณ : pchanng เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 53 17:12:26

ความคิดเห็นที่ 31 หมออายุน้อย ๆ สมัยนี้บางคนอีโก้สูงมากค่ะ บางคนก็ดูถูกคนไข้ เห็นมาโรงพยาบาลของรัฐก็เห็นเป็นตาสีตาสาไปหมด คุณแม่เราเป็นเส้นเลือดตีบ นอนโรงพยาบาล ความที่คุณแม่เราก็สนใจพวกเรื่องสุขภาพอยู่บ้าง แล้วก็เป็นคนชอบซักถาม ก็ถามคุณหมอโน่นนี่เกี่ยวกับโรคที่ตัวเองเป็นอยู่ เจอคุณหมอตอบกลับมาว่า ป้าจะรู้ไปทำไม แม่อึ้งไปเลย ญาติเรานอนโรงพยาบาลเดียวกับเจ้าของกระทู้น่ะค่ะ ขนาดตระกูลเค้าเป็นคนบริจาคที่ดินสร้างโรงพยาบาลนะคะ ยังถูกหมอกับพยาบาลไล่กลับบ้านเลย รักษาแบบจ่ายตังนะคะ ไม่ได้นอนฟรี จนญาติ ๆ เค้าไปร้องเรียนถึง ผอ. เลยทำดีขึ้นมาหน่อยนึง ทำใจเถอะค่ะ จากคุณ : PyRin เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 53 17:13:04

ความคิดเห็นที่ 32 ออ เราก็เจอนะ ที่ รพ นี้แหละ ใช่หมอคนเดียวกันหรือเปล่าเนี้ย ตอนนั้นเราไปตรวจสุขภาพประจำปีอ่ะ รอนานมาก เดินเข้าไปในห้อง หมอคุยโทรศัพท์กับเพื่อน คุยนานด้วย เนื้อหาที่คุยก็ว่าจะไปกินเหล้ากัน พอคุยเสร็จก็หันมาคุยกับเรา ก็เอาผลเลือดเราไปดู  แล้วก็บอกว่าปกติ เรายังไม่แก่ ไม่มีโรค เราอย่างง พูดแค่ไม่กี่วินาทีก็เสร็จ แล้วก็ถามเรานอกเรื่องว่าเราเรียนที่ไหน ทำงานอะไร มีพี่น้องกี่คน เรางงว่ามันเกี่ยวกับผลเลือดเราด้วยหรอ ไม่ทราบว่าหมอนี่คนที่เป็นผู้ชาย อายุ 40-50 หรือเปล่าค่ะ ตัวอวบๆ ผิวดำแดง อ่ะค่ะ จากคุณ : pinkie (G pinkie) เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 53 17:24:26

ความคิดเห็นที่ 33 เข้าใจว่าหมอก็คนมีอารมณ์เป็น ตรวจคนไข้เยอะ เหนื่อย บลาๆ ต่างกรรมต่างวาระ ด้วยเหตุนี้ รพเอกชนจึงแพงขึ้นๆด้วยอ่ะปะเนี่ย เพื่อให้ได้มาซึ่งบริการที่ดีจึงต้องแลกมากะราคา จากคุณ : ไม่หมูนะครับ เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 53 17:36:39

ความคิดเห็นที่ 34 ผมว่าตรรกกะของ คห28 therumo แย่มากๆ ต่ำ ต่ำกว่าไม่อยากจะเอ่ยในนี้ อย่างนี้แหละ ที่จะทำให้สถาบันแพทย์ต้องมาด่างพร้อย ต้องมีคนมาด่าลับหลัง คนไข้ที่มารับการรักษา มาหาหมอ เค้าถามโน่นถามนี่เพราะอะไร เพราะอยากรู้ว่าตนเองเป็นอะไร แล้วต้องทำอย่างไรถึงจะหาย ถามหน่อย อย่างที่คุณ คห18 บอกไว้ จรรยาบรรณของแพทย์ สำคัญมากนะ เวลาสอบสัมภาษณ์มา ตอบมาว่าอย่างไร แล้วปัจจุบันพอได้เป็นหมอแล้ว คุณได้ทำตามที่ปฏิญาณตนไว้ก่อนหรือไม่ ผมว่าระดับหมอคงไม่ลืมคำพูดตัวเองง่ายๆหรอก แต่หมอที่มันมักง่าย มันจะตั้งใจเองที่จะไม่ทำตามที่ตนเองพูดไว้โดยสันดานไง การศึกษาระดับปัญญามันคนละเรื่องกันไง หมอสั่วๆแบบนี้จึงมีมาให้เห็นบ่อยๆ สงสารหมอดีๆหลายๆคนซึ่งมีมากกว่าหมอเวลอย่างนี้หลายเท่า ท่านเหล่านั้นอย่าท้อแท้อย่าใส่ใจเลยนะครับ พวกท่านมีหลลายๆคนคอยให้กำลังใจและชื่นชมท่านอยู่นะครับ ส่วนพวกเวลอย่าง คห28 คนงานก่อสร้างยังดูมีค่ามากกว่าเลย โธ่ เสียดายพื้นที่ดีๆ น่าจะให้คนที่มีจิตวิญญานของหมอที่แท้จริงมาอยู่ตรงนั้นมากกว่า จากคุณ : ฝากถึงความคนที่คิดแบบเวลๆ เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 53 19:26:35 A:124.120.167.240 X: TicketID:289760

ความคิดเห็นที่ 35 ทุกอาชีพนั่นแหละ ที่เลือกมาเป็น แล้วต้องอดทน ไม่ใช่เฉพาะหมอ ลองคิดถึงคนอาชีพอื่นๆ ไม่ว่าตำรวจ ครู ทหาร พนักงาน ฯลฯ เขาก็ต้องอดทนต่อการทำงานไม่หยุด การถูกกระทบกระแทกด้วยวาจา หรือบางทีด้วยการกระทำ มันก็เหมือนๆกัน มันอยู่ที่ว่า ใครบ้าง..ที่ถูกฝึกมาให้มีความอดทน มีความเข้าใจต่ออีกฝ่ายหนึ่งที่ต้องเกี่ยวข้องด้วย รู้จักการให้อภัย รู้จักหน้าที่ของตน และรู้จักทำใจในสิ่งที่เป็นเหตุไม่ชอบใจทั้งหลาย จากคุณ : *Cookies* เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 53 20:28:06

ความคิดเห็นที่ 36 รพ.นี้ ถ้าเป็นคนในพื้นที่ เค้ารู้กันดีค่ะ ว่าเป็นอย่างไร จากคุณ : Ms.Kyo เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 53 21:23:38

ความคิดเห็นที่ 37 ขอบคุณทุกความเห็นอีกครั้งนะครับ ผมแค่อยากจะมาบอกว่า ผู้ป่วยไม่ใช่ผักปลา พูดกันดีๆก็ได้ บางคนเจอหมอยังยกมือไหว้ด้วยซ้ำไป(ผมก็คนนึงเวลาไปหาหมอ) คุณอาจจะอารมณ์เสีย อารมณ์ไม่ดีมาจากไหน ผู้ป่วยเค้าไม่รู้หรอกครับ ต้องแยกแยะด้วย อย่ามาใส่อารมณ์กับคนที่ไม่รู้เรื่องเลยครับ ให้เกียรติกันบ้าง วันนี้แฟนผมก็บ่นว่าวูบๆไปเป็นบางเวลา ผมเลยต้องพาไปโรงพยาบาลเอกชน ก็เจอคุณหมอที่มีจรรยาบรรณ(สะกดผิดขออภัย) คุณหมอก็ให้คำแนะนำมาดี อธิบายจนเข้าใจ ขอบคุณคุณหมอกระดูกโรงพยาบาลเปาโลเมโมเรียลสมุทรปราการครับ ยอมเสียเงินมากกว่าเพื่อที่จะไม่เจอหมอแย่ๆอีก ปล.คุณ คห34 ทำไมไม่ใช้สมาชิกโพสครับ แรงนะครับ แต่ผมชอบ จะให้กิ๊ฟ จากคุณ : กล่องข้าวน้อยรักแม่ เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 53 21:28:59

ความคิดเห็นที่ 38 ผมเห็นใจ จขกท. นะ แต่ดูความเห็นที่มา post แล้ว ผมอยากจะบอกว่า ถ้าคุณมีเพื่อน มีญาติพี่น้องเป็นหมอ ลองไปถามดูว่าชีวิตแพทย์ ตารางเวลาการทำงานเป็นเช่นไร ทำงานหนักเหนื่อยแค่ไหน(โดยเฉพาะ รพ. รัฐ) และรายได้เทียบเป็นต่อชม. การทำงานสูงจริงหรือไม่ ผมว่าเราจะมีความเข้าใจ ความรู้สึกเห็นใจกันมากขึ้น จากคุณ : หมอจบใหม่ เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 53 21:45:03 A:124.120.45.132 X: TicketID:291316

ความคิดเห็นที่ 39 ลืมบอกไป ผมเป็นแพทย์จบใหม่ อยู่ที่ รพ. สมุทรปราการ พอจะให้ข้อมูลผมได้บ้างหรือไม่ว่าเหตุเกิดที่ไหน แผนกศัลยกรรมผู้ป่วยนอกใช่หรือไม่ ไปวันใด ถ้าผมรู้จักว่าเป็นใครจะได้ฝากพยาบาลไปเตือนแพทย์ท่านนั้นได้ อีกอย่างโรงพยาบาลสมุทรปราการมีห้องสบายใจอยู่ตึก OPD ผู้ป่วยนอก ชั้น 1 ได้รับบริการอะไรมีปัญหาไป comment ที่ห้องนั้นได้ มีพยาบาลเจ้าหน้าที่ คอยรับฟังความคิดเห็นอยู่ ขอบคุณครับ จากคุณ : หมอจบใหม่ เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 53 21:51:18 A:124.120.45.132 X: TicketID:291316

ความคิดเห็นที่ 40 ตอบคุณ หมอจบใหม่ ครับ พี่ชายผม เป็นหมอ อยู่ที่ รพ แม่สอดครับ เป็น รพรัฐ เช่นกัน ผมเข้าใจครับ ว่าเขาเรียนหนักแค่ไหน วันๆต้องทำอะไรบ้าง แม้จะรู้ไม่ละเอียดเท่าไหร่นัก เรื่องรายได้ ผมเข้าใจครับ ที่ผมมาโพส แค่ว่าอยากให้เข้าใจผู้ป่วยด้วย ไม่ใช่ให้ผู้ป่วยเข้าใจหมอฝ่ายเดียว แฟนผมอยู่ในรถที่เกิดอุบัติเหตุ แล้วมีอาการแปลกๆ ไปหาหมอ แฟนผมผิดด้วยหรอถึงได้แสดงกริยาเหมือนแฟนผมเป็นผักปลา ขนาดเพื่อนผม แฟนผมยังยกมือไหว้เลยด้วยซ้ำไปครับ ไม่มีทางที่แฟนผมจะเข้าไปแล้วโวยวายว่าหมอก่อนแน่นอน ผมมั่นใจมาก แล้วมันเรื่องอะไรถึงมาบ่นๆว่าๆกันด้วย เหตุเกิดเมื่อวานนี้ครับ (จันทร์ที่11-10-53) แพทย์ศัลยกรรมกระดูก ช่วงเวลา 10.00-12.00 ไม่ขอเอ่ยชื่อ แต่ขอชื่นชม อาจารย์(ขอเรียกว่าอาจารย์)หมออนุรักษ์ครับ ที่แผนกเดียวกันนี้เอง เมื่อก่อนผมเคยได้รับการรักษากับท่าน ขอบอกว่าต่างกันกับที่แฟนผมเจอฟ้ากับเหวครับ แม่ผมก็เคยได้รับการรักษากับท่าน แต่เสียดายที่วันนั้นไม่ได้เจอกับท่าน เลยมาเจอกับหมอ......คนนี้ ถ้าฝากไปบอกได้ช่วยบอกด้วยนะครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ จากคุณ : กล่องข้าวน้อยรักแม่ เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 53 22:17:00

ความคิดเห็นที่ 41 อ่านแล้ว เห็นใจเจ้าของกระทู้และแฟนเป็นอย่างมาก ที่ต้องมาเจอกับอะไรที่ไม่คุ้นเคย ในอารมณ์ที่ไม่คิดว่าจะเจอ ด้วยความเจ็บช้ำและไม่พอใจ - ทุกคนต้องการให้ผู้อื่นปฏิบัติต่อตนอย่างที่ตนพอใจ ไม่ว่าคนไข้หรือหมอก็ตาม เพียงแต่ในกรณีนี้ ภาพลักษณ์ของหมอคือผู้ที่ต้อง "จำยอม" ต่อความลำบากโดยไม่บ่น เมื่อเห็นหมอบ่น และบ่นด้วยถ้อยคำอย่าง "คนปกติ" จึงเป็นเรื่องยากที่จะยอมรับ ผมมักจะพูดกับคนรู้จักอยู่เสมอว่า หมอกับคนไข้เหมือนนับถือกันคนละศาสนา มีพื้นฐานความคิดที่แตกต่างกันตั้งแต่ต้น บ่อยครั้งที่เพียงแค่เห็นหน้ากันก็ผิดใจกันได้ ยังไม่ต้องเอ่ยปากพูดคุยด้วยซ้ำ ในสังคมไทยเราแต่เดิม หมอกับคนไข้เคยผูกพันกันด้วยความรู้สึกทางใจ ไม่ใช่แค่หมอเป็นผู้ให้แล้วคนไข้เป็นผู้รับ แต่ต่างคนต่างให้และรับซึ่งกันและกันมากก่อน แต่เมื่อเวลาผ่านไป หมอเรียนวิชาแบบลดทอนความเป็นมนุษย์ มองความเจ็บป่วยเป็นเพียงความผิดปกติทางกลไกชีวเคมีในร่างกาย ก็เป็นธรรมดาที่จะมองข้ามความรู้สึกไป ในขณะที่คนไข้เองก็ป่วนปั่นไปตามกระแสนิยมอย่างชนชั้นกลางที่มุ่งปลดแอก สลัดอำนาจแฝงที่ครอบงำ ต้องการความเท่าเทียม ต้องการต่อสู้เพื่อ "สิทธิ" ของตน วิกฤตนี้ส่งผลสะท้อนกลับมาสู่ความสัมพันธ์ระหว่างหมอกับคนไข้ คนไข้เริ่มรู้สึกว่าหมอไม่ใช่ผู้ที่รักษาคนไข้ด้วยเมตตาอีกต่อไป แต่มีหน้าที่เป็นเพียง "ผู้ให้บริการ" ที่ทำไปตามหน้าที่ และคนไข้ก็เป็น "ผู้รับบริการ" ซึ่งมีสิทธิเรียกร้องตามสิทธิที่ตนพึงมีพึงได้อย่างถึงที่สุด - ทุกคนมีสิทธิที่พึงไขว่คว้า แม้จะมองข้ามหน้าที่ของตนไปอย่างจงใจ แต่การเปลี่ยนฐานะของหมอให้เป็น "ผู้ให้บริการ" และคนไข้เป็น "ผู้รับบริการ" นั้น กลับยิ่งทำให้หมอและคนไข้ห่างเหินกันมากขึ้น หวาดระแวงกันมากขึ้น แล้วก็เกิดปัญหาตามมาอย่างที่เจ้าของกระทู้เจอ นั่นคือ ต่างไม่พอใจซึ่งกันและกัน ปราศจากความรักความเห็นใจ ไม่ว่าจากฝ่ายใดสู่ฝ่ายใดก็ตาม บ่อยครั้งที่หมอถือว่าตนเป็นผู้รักษา ไม่ฟังความเห็นของคนไข้ อย่างนี้ก็น่าตำหนิ ในทางตรงกันข้าม คนไข้ไม่ฟังหมอ เพราะรู้สึกว่าหมอวินิจฉัยไม่ตรงตามที่ใจต้องการ อย่างนี้ก็ไม่ถูกเหมือนกัน เมื่อต่าง "ถือดี" เข้าใส่กัน - หมอไม่ฟังคนไข้ และคนไข้ก็ไม่ฟังหมอ - มันจะไปเข้าใจกันได้อย่างไร ว่ามายาว - อาจเกี่ยวข้องกับเจ้าของกระทู้เพียงส่วนน้อย เพราะมัวแต่พูดถึงปัญหาในภาพรวม แต่ก็เพราะต้องการชี้ให้เห็นต้นตอของปัญหาที่เกิดขึ้น เรื่องนี้ไม่ใช่เฉพาะแค่ความขัดแย้งระหว่างเจ้าของกระทู้กับคุณหมอท่านนั้น แต่นี่คือความขัดแย้งในระดับโครงสร้างความรู้สึกของคนไข้และหมอ ที่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่านับวันยิ่งขยายใหญ่โต และรุนแรงมากขึ้นทุกที ถึงอย่างนั้น, ผมยังคงเฝ้าฝันถึงวันที่คนไข้กับหมออยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขอีกครั้ง จากคุณ : รัตนาดิศร เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 53 23:06:25

ความคิดเห็นที่ 42 #29 คงไม่รู้มั้งว่าโรงพยาบาลจังหวัดในประเทศไทยสมัยนี้เปิดห้องผ่าตัดยันเช้าทุกวัน - -" ผมบอกแค่นี้แหละ จากคุณ : Umiki เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 53 00:30:03

ความคิดเห็นที่ 43 ่โรงพยาบาลนี้คนในพื้นที่่ทราบกันดีค่ะว่าเป็นอย่างไร เขาเรียกที่นี่กันว่า โรงฆ่าสัตว์ อะค่ะ จากคุณ : K o a L a M a r c h ` เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 53 00:33:37

ความคิดเห็นที่ 44 หลายครั้งที่ตัวเองเผลอพูดไม่ดีกับคนไข้เหมือนกันครับ มีครั้งหนึ่ง พูดไปแล้ว ผมก็บอกเลยว่า หมอขอโทษนะ จริงๆ คำว่าขอโทษ มันพูดง่ายนะครับ แต่พูดแล้ว บรรยากาศมันดีขึ้นเยอะเลย แต่เรื่องดุคนไข้ ถ้าไม่มีวินัย ผมก็ดุนะครับ พอดีสาขาผม เป็นแบบนัดอย่างเดียว มาสาย ผมไม่ดูจริงๆ นะครับ เพราะว่ามีต่อรอกันอีกเยอะ เรื่อง จขกท ผมเห็นใจนะครับ รู้ว่าคงไม่ช่วยอะไร ก็พูดขอโทษแทนหมอคนนั้นในฐานะหมอคนหนึ่งแล้วกันครับ แต่เห็นด้วยว่า ร้องเรียนก็ดีนะครับ เขาควรต้องทราบในสิ่งที่ทำ ถ้าเขาเป็นคนดีอยู่ เขาจะสำนึกครับ จากคุณ : angel of music เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 53 00:36:26

ความคิดเห็นที่ 45 ลืมบอกไป ผมเป็นแพทย์จบใหม่ อยู่ที่ รพ. สมุทรปราการ พอจะให้ข้อมูลผมได้บ้างหรือไม่ว่าเหตุเกิดที่ไหน แผนกศัลยกรรมผู้ป่วยนอกใช่หรือไม่ ไปวันใด ถ้าผมรู้จักว่าเป็นใครจะได้ฝากพยาบาลไปเตือนแพทย์ท่านนั้นได้ อีกอย่างโรงพยาบาลสมุทรปราการมีห้องสบายใจอยู่ตึก OPD ผู้ป่วยนอก ชั้น 1 ได้รับบริการอะไรมีปัญหาไป comment ที่ห้องนั้นได้ มีพยาบาลเจ้าหน้าที่ คอยรับฟังความคิดเห็นอยู่ ขอบคุณครับ จากคุณ : หมอจบใหม่ เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 53 21:51:18 A:124.120.45.132 ตลกล่ะค่ะ  คิดได้ไงจะฝากพยาบาลไปเตือนหมอคนนั้น แล้วพยาบาลจะกล้าเหรอคะ  คิดได้ไง หมอจริงหรือป่าวคะเนี่ย รู้กันทั้งนั้นแหละค่ะ  แม้กระทั่งพยาบาลอาวุโสยังเกรงใจหมอจบใหม่เลย จากคุณ : LiLLa_JoY เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 53 04:32:37

ความคิดเห็นที่ 46 ^ ^ เห็นด้วยว่า พยาบาลไม่กล้าเตือนหมอเรื่องแบบนี้หรอก ต้องให้หมอด้วยกันเตือน แต่ไม่เห็นด้วยที่ว่า พยาบาลอาวุโสเกรงหมอจบใหม่ เท่าที่เคยเห็น หมอจบใหม่จะค่อนข้างเกรงพยาบาลอาวุโสมากกว่า เพราะรู้ว่า พวกเธอๆรู้เห็นอะไรๆในการรักษาพยาบาลมามาก มีประสบการณ์กับคนไข้เยอะหว่า จากคุณ : *Cookies* เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 53 09:04:00

ความคิดเห็นที่ 47 หลายความเห็นในที่นี้คิดว่ายอมเสียเงินไปโรงพยาบาลเอกชนเเล้วได้พบหมอที่มีจรรยาบรรณ  ทำไมนะ...........หมอรพ.รัฐจึงไม่มีจรรยาบรรณเเละไม่สาม่รถให้บริการผู้ป่วยและญาติไดตาม need ใครคิดว่าไง จากคุณ : pchanng เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 53 15:28:32

ความคิดเห็นที่ 48 หลายความเห็นในที่นี้คิดว่ายอมเสียเงินไปโรงพยาบาลเอกชนเเล้วได้พบหมอที่มีจรรยาบรรณ  ทำไมนะ...........หมอรพ.รัฐจึงไม่มีจรรยาบรรณเเละไม่สาม่รถให้บริการผู้ป่วยและญาติไดตาม need ใครคิดว่าไง จากคุณ : pchanng เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 53 15:28:43

ความคิดเห็นที่ 49 ความเห็น 34 ทำเป็นรับไม่ได้  คนไข้แย่ๆก็มีถมไป มันก็คือความจริง หมอจะดีหรือจะเลวไม่ได้อยู่แค่เข้ามาตอบกระทู้หรอก แล้วก็ไม่ใช่ว่าต้อง พูดให้เข้าหูคนทุกคนถึงจะดี  จะด่าคนอื่นว่า เลว login มาดีกว่า คนมันดีมันก็ดีอยู่แล้วไม่ได้แคร์ จากคุณ : therumo (therumo) เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 53 19:50:17

ความคิดเห็นที่ 50 ใจเย็นๆครับพี่น้อง จากคุณ : กล่องข้าวน้อยรักแม่ เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 53 21:00:41

ความคิดเห็นที่ 51 ใจเย็นๆก่อนพี่ชาย มันเป็นเรื่องธรรมดาแหละ หมอคนอื่ๆนก็เป็นแต่ อาจจะเก็บอารมได้เยอะกว่า หมอคนนี้เค้าเป็นคนจีน เลยต้องเรียกเค้า่อาเฮีย จากคุณ : บ๋วย (ab-sixtynine) เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 53 23:21:27

ความคิดเห็นที่ 52 หมอน่ารัก หมอดีๆ มีเยอะค่ะ ในประเทศไทย เเต่ ทำไมเมื่อหมอมีมารยาทเเย่ ไร้จรรยาบรรณ ทำไมหมอ (บางท่าน) ต้องออกตัวปกป้อง เเก้ต่างเเทนขนาดนั้นด้วยล่ะคะ อาชีพทุกอาชีพย่อมมีคนไม่ดีใช่มั้ยคะ เเล้วทำไมถึงไม่ค่อยจะยอมรับความเป็นจริงในจุดนี้ เราเข้าใจค่ะ ทุกท่านก็เข้าใจ ว่าหมอก็เป็นคน หมอก็เหนื่อยเป็น เเต่เราคิดว่า "เป็นข้ออ้างที่ไม่ควรมาอ้างเป็นอย่างยิ่งค่ะ" เพราะเมื่อคุณเลือกจะเป็นหมอเเล้ว คุณก็ต้องยอมรับในจุดนี้ เเละอีกอย่าง อาชีพอื่นที่ต้องเจอคนเป็นร้อยเขาก็เหนื่อยเป็นเหมือนกันค่ะ ปล. หมอจะเหนื่อยบ้าง วีนคนไข้บ้าง ก็ไม่ได้ถือโทษไปซะหมดทุกกรณีนะคะ ย้ำอีกครั้งว่าเข้าใจค่ะ ว่ากันตามรายบุคคลตามสถานการณ์ เป็นกรณีไปเเต่ขออย่างเดียวค่ะ คุณหมอคะ อย่าละทิ้งจรรยาบรรณเเละจิตวิญญาณวิชาชีพต่อคนไข้ของคุณเถอะนะคะ พฤติกรรมของคุณหมอบางท่าน บางครั้งก็ไม่ไหวจริงๆค่ะ จากคุณ : จัน - กลม เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 53 08:28:38

ความคิดเห็นที่ 53 อืมมม เป็นหมอเหมือนกันนะคะ ไม่ใช่หมอจบใหม่แล้ว เป็นเกือบ 10 ปีแล้ว ผู้ป่วยออกจากห้องตรวจแล้ว ก็ดูยิ้มแย้มแจ่มใสทุกคน ตอนนี้อยู๋ร .พ. ของรัฐค่ะ แต่คนไข้ไม่ค่อยเยอะ เหมือนกับอยู่เอกชนเลย ทำให้มีเวลาตรวจคนไข้มากขึ้น แต่สมัยก่อนตอนอยู๋ ร.พ.รัฐ ตรวจคนไข้วันละเป็น ร้อยๆ ก็ยอมรับว่าพูดน้อย คนไข้ดูไม่ค่อยโอเคเท่าไร จริงๆ คิดว่าปัญหาไม่ใช่ว่า ทำงานมาหนัก มาเหนื่อยแล้วมาลงกับคนไข้หรอกนะคะ แต่ว่าบางที พอคนไข้มาก ยิ่งในร.พ. ของรัฐ เวลาในการตรวจคนไข้มีน้อย เช่น คนละ 1-2 นาที ไม่อย่างนั้นคนไข้ก็ล้นโรงพยาบาล มันก็เครียดมากเหมือนกัน เพราะหมอกับคนไข้เราก็พูดคนละภาษากันอยู่แล้ว ยังต้องอธิบายสิ่งต่างๆมากมายให้จำกัดอยู่แค่เวลาสั้นๆ ให้อธิบายให้เข้าใจ โหยยย ยากมากมายค่ะ แถมเวลาที่บอก ต้องรวมเวลาเขียนบันทึก กับ ใบสั่งยาด้วยนะคะ โอยยย ปวดหัวค่ะ พูดตามตรงว่าทุกอาชีพ ก็มีที่หงุดหงิดอารมณ์เสียใช่มั๊ยคะ หมอก็มีได้นะคะ ยิ่งหมอจบใหม่ จะมีความเครียดมากอยู๋แล้ว เนื่องจากยังไม่ค่อยชำนาญ เลยยิ่งไปกันใหญ่ อีโก้ สูง เพราะกลัวจะโดนว่าว่าเพิ่งจบยังไม่ค่อยเก่ง เลยกลายเป็น compensate ไป พอแก่วัด จบมานานๆ ก็ช่าง ชั้นจะตรวจช้า เพราะอยากอธิบายละเอียด ก็ทำไป ไม่มีใครกล้าว่าอะไร แต่หมอเพิ่งจบเค้าจะเกร็งอ่ะค่ะ เข้าใจนิดนึงเนอะ เราต้องให้อภัยกันเนอะ เหมือนหมอหงุดหงิดคนไข้ เพราะพูดไม่ดีก็มีนะคะ แต่เราก็พยายามให้อภัยเหมือนกัน ตัวเองเข้าใจทั้งคนไข้ทั้งหมอค่ะ เพราะเคยพาคุณปู่ ไปตรวจร.พ. รัฐบาล แห่งหนึ่งในกทม. ก็เซ็งเหมือนกันค่ะ รอนาน แล้วก็การพูดจาไม่ค่อยดี ก็พยายามเข้าใจอ่ะค่ะ ว่าคนไข้เยอะ น้องก็พยายามเต็มที่แล้ว พูดไปก็เข้าตัวป่าวเนี่ย เอาเป็นว่า ขอโทษ แทนหมอที่ทำให้รู้สึกไม่ดีแล้วกันนะคะ จากคุณ : engsung (engsung) เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 53 14:49:48

ความคิดเห็นที่ 54 ความคิดเห็นที่ 28   วันหลังต้องเข้ามาตั้งกระทู้ บ้างว่า วันนี้ตรวจแต่คนไข้ เฮียๆ อยากได้โน่นได้นี่ แต่ขี้เกียจ ว่ะ จากคุณ : therumo (therumo)     เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 53 16:37:38     ปล่อยผ่าน เพื่อเก็บมาประจานพวกเกรียนๆๆ ถ้าเป็นหมอจริง...สุดบรรยาย พวกเกรียนๆ จากคุณ : ส้มฉุน (DLC) เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 53 17:19:09

ความคิดเห็นที่ 55 คนนิสัยเลวไม่เกี่ยวกับอาชีพหรอก จากคุณ : weirdbird เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 53 22:30:10

ความคิดเห็นที่ 56 ต้องทำใจค่ะ ร้องเรียนเท่าที่ทำได้ แต่คงไม่มีประโยชน์ซักเท่าไหร่ เพราะนี่คืออาชีพแห่งอภิสิทธิ์ชน เห็นด้วยว่าหมอก็คน มาจากร้อยแปดพันท้องพ่อท้องแม่ด้วย มีอารมณ์ไม่ดี อารมณ์โกรธเกลียดเป็นธรรมดาโลก มีคุณหมอแสดงความคิดเห็นไว้ข้างบนทำนองว่าหมอก็เหนื่อยก็ยุ่งก็มีเวลาให้กับคนไข้แค่คนละ 2 นาที มองกลับกันมั๊ยว่าคนที่ทำงานด้านอื่นก็มีช่วงยุ่งๆเหมือนกัน แต่พวกเขามิอาจใช้ข้ออ้างนี้ ในการที่จะไปด่าใครก็ได้ที่เข้ามารับบริการหรือการดูแลจากเขา นั่นสินะ?? ทำไมล่ะ อย่างไรก็ตาม อยากจะนำเสนออีกมุมมองหนึ่ง ที่ผ่านมา การคัดเลือกคนเข้าเรียนหมอของประเทศไทย มันมาจากการสอบ Entrance นี่พูดถึงหมอที่จบออกมาแล้วทำงานกันจริงๆจังๆแล้วนะ เลือกไว้ 6 อันดับ เราเก่งหน่อยติดแพทย์ศาสตร์ ด้วยความเคารพนะ บางคนเลือกเพราะเห็นว่ามันเจ๋งดี มีหน้ามีตา เงินดี แต่ไม่ได้คิด หรือ ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเรา ไ ม่ ไ ด้ มี ใ จ รั ก ใ น ก า ร ช่ ว ย เ ห ลื อ ผู้ ค น แล้วก็เรียนเรียนเรียน จนจบออกมาทำงานทำการในแวดวงแพทย์ ก็เรียนมาอย่างนี้หนิ option อื่นก็มีไม่มากนัก นั่นก็เท่ากับมาผิดแนวโดยต้องบอกว่าเป็นความผิดของระบบการศึกษาไทย คนที่ไม่ได้มีใจรักในการช่วยเหลือคน ไม่น่าจะทำงานเป็นคุณหมอในลักษณะวันๆต้องมานั่งตรวจโรคให้คำปรึกษาได้ดีนะเราว่า หมอหลายท่านอาจจะเก่ง อาจจะดัง คุณแม่ผ่าตัดที่ รพ ชื่อดังในซอยสุขุมวิท 39 ค่าใช้จ่ายไม่ได้ถูกเลย อาจารย์หมอฝีมือเก่งมาก ชื่อเสียงโด่งดังมาก แต่คุยกับคนไข้ + ญาติคนไข้แบบบัวช้ำน้ำขุ่นทุกครั้งไป ทุกคำถามที่ถามไป ถูกตอกกลับแบบแย่ๆ มีการเหนียบแนม อีโก้สูงมากมาย ไม่เข้าใจว่าจะทำแบบนั้นไปทำไม ให้คนเค้าสรรเสริญว่าเก่งว่าเจ๋ง แล้วพ่วง แต่........ทุกครั้งที่ถูกพูดถึง ทั้งที่จริง ท่านเลือกที่จะทำให้คนพูดถึงท่านแต่ในแง่ดีก็ได้ แต่ไม่เลือก ตอนนั้นเราก็รู้สึกแย่ที่เรารู้สึกเกลียดหมอที่ช่วยแม่ของเรา คิดไปคิดมาก็เลยทำใจว่าคุณหมอท่านไม่ได้ชอบเป็นหมอไม่ได้ชอบช่วยคนมั้ง ถึงได้แสดงวาจาแบบนั้น กลับกัน คุณหมออายุรกรรมทัยรอยด์ชื่อดังอีกท่าน ประจำที่ รพ เอกชนบนถนนพระราม 4 คุณหมอท่านไปพบทุกครั้งเห็นยุ่งมากมาย คนไข้ทั้งนัดทั้งไม่นัดรอเป็บตับ แต่ท่านไม่เคยอย่าว่าแต่ด่า ตำหนิคนไข้เลย พูดจาดีมากๆ สุภาพ พูดเหมือนผู้ดีคุยกันหน่ะค่ะ มีการพูดจาหว่านล้อมให้กำลังใจคนไข้ โดยสามารถใช้เวลาช่วงสั้นๆเท่าที่มี คุณหมอท่านนี้จะถูกพูดถึงและบอกต่อในแง่ดีๆตลอด เกิด แก่ เจ็บ ตาย ถ้าเจ็บ ก็คงต้องเพิ่งหมอ ถ้าหมอทุกคนคิดได้ว่า การรักษาผู้ป่วยเป็นหน้าที่ เหมือน ชาวนามีหน้าที่ปลูกข้าว พนักงานธนาคารมีหน้าที่เก็บเงินให้เรา ให้เรายืมเงิน ช่างตัดเสื้อมีหน้าผลิตหนึ่งในปัจจัยสี่ให้เราสวมใส่ คุณหมอที่คิดได้แบบนี้ น่าจะไม่เพิ่มความทุกข์ให้กับผู้ป่วยด้วยการกล่าววาจาที่ไม่เหมาะสม จากคุณ : My Pucca Girl เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 53 17:20:10