|
ผู้ใหญ่ 30 ขึ้นไปควรได้รับ 1,000 มิลลิกรัมต่อวัน เนื่องจากมีไม่สามารถสะสมแคลเซียมได้อีกแล้ว ครับ
อ่านดู
เด็ก (1 – 10 ปี ) ควรได้รับ 800 – 1,000 มิลลิกรัมต่อวัน
ถ้าปริมาณแคลเซียมในร่างกายเด็กต่ำ จะทำให้ขบวนการสะสมเกลือแร่ในกระดูกและความหนาแน่นของกระดูกต่ำ เป็นผลให้เกิดโรคกระดูกอ่อนหรือโรคกระดูกค่อมงอได้ โดยเด็กจะมีอาการเหงื่อออกบริเวณมากเกินไป การนั่ง คลาน เดิน ทำให้ช้า นอนไม่หลับ กระดูกของเด็กที่ได้รับแคลเซียมไม่เพียงพอเมื่อรับน้ำหนักตัวที่เพิ่มมาก ขึ้นตามอายุ เป็นผลให้ขาโก่ง กระดูกซี่โครงโค้งงอ กระดูกเชิงกรานมีรูปร่างผิดปกติ และเสี่ยงการเป็นโรคเกี่ยวกับกระดูกในช่วงต่อไปของชีวิตได้
วัยรุ่น (11 – 25 ปี ) ควรได้รับ 1,000 มิลลิกรัมต่อวัน
ถ้าเราได้รับแคลเซียมตั้งแต่อยู่ในวัยหนุ่มสาวหรือกลางคนอย่างสม่ำเสมอและพอ เพียง อายุการสึกหรือผุกร่อนตามธรรมชาติก็จะยืดออกไปได้อีกนานกว่าคนอื่นที่อยู่ใน วัยเดียวกันที่บริโภคแคลเซียมไม่เพียงพอในวัยเด็กและวัยหนุ่มสาว
ผู้ใหญ่ ควรได้รับ 1,000 มิลลิกรัมต่อวัน
ถ้าไม่ได้รับแคลเซียมอย่างเพียงพอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งวัยหมดประจำเดือนซึ่งการศึกษาพบว่าร่างกายจะสูญเสียกระดูก ในช่วงประมาณ 5-6 ปีแรกหลังหมดประจำเดือน เนื่องจากการลดลงของฮอร์โมนเอสโตรเจน และประสิทธิภาพในการสร้างวิตามิน D ก็ลดลงตามวัยที่เพิ่มมากขึ้นจึงมีแนวโน้มจะเป็นโรคกระดูกพรุน อาจทำให้กระดุกหักได้เนื่องจากแบกรับน้ำหนักตัวไม่ไหว และในกรณีที่ร้ายแรงจะก่อผลเสียต่อกระดูกสันหลังกระดูกต้นขาและกระดูกแขน ท่อนนอกได้อีกด้วย โดยโรคดังกล่าวจะไม่แสดงอาการใดๆ ให้ทราบเลยจนกว่าจะมีอาการกระดูกหัก ดังนั้นคนในวัยสูงอายุที่มีการเสริมแคลเซียมให้กับกระดูกอย่างเพียงพอ จะช่วยยับยั้งการสูญเสียกระดูกในช่วงนี้
จากคุณ |
:
โคโดโมะจัง
|
เขียนเมื่อ |
:
19 ต.ค. 53 23:59:08
|
|
|
|
|