Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
++KAEW ไดอารี่ ++ การนอนโรงพยาบาลครั้งแรกในชีวิต ติดต่อทีมงาน

หวัดดีค่ะ

หายหน้าหายตาไม่มาเขียนไดอารี่ เพราะป่วยค่ะ จริงๆถ้าอ่านมาเรื่อยๆจะรู้ว่า ระยะหลังๆนี่เราจะป่วยเล็กป่วยน้อยมาตลอด หลักๆก็ภูมิแพ้ แพ้อากาศอยากรุนแรง หายใจไม่เข้า น้ำมูกไหล คันตัว คันตา  ตามมาด้วย เป็นหวัด คออักเสบ แล้วต่อด้วยกระเพาะปัสสาวะอักเสบ(อันนี้คิดเอาเอง เพราะมันมีความผิดปกติ) แล้วต่อด้วยปวดหลังอย่างรุนแรง

แต่ตอนนี้ได้คำตอบแล้วว่า เจ้า 2 อาการหลังที่เราวินิจฉัยตัวเองอ่ะ "ผิด"  เพราะเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ตอนเช้าก็เตรียมตัวจะไปช๊อปปิ้งหนังสือในงานหนังสือแห่งช่าติ แต่อยู่ดีๆ ก็เกิดอาการหนาวสั่น หนาวแบบหนาวมากจริงๆ มือเท้าเย็น ปวดหัวสุดๆ และที่น่ากลัวมาก คือ ชัก อ่ะ ลงไปนอนกระตุกๆ แบบสั่นๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ฟันกระแทกกันแรงมากๆๆๆ จนต้องหาผ้ามากัดไว้

เป็นแบบนี้อยู่ 10 กว่านาที ตอนแรกตกใจมาก กลัว แล้วแว๊บนึงก็คิดว่า อืมมม วันนี้เราคงได้ตายแน่นนอนแล้ว  ก็พยายามกำหนดลมหายใจ พยายามท่องพุทโธ แต่ไม่ไหวอ่ะ มันสั่นๆๆๆ แล้วคุมตัวเองไม่ได้เลย ถ้าตายตอนนั้น คาดว่าจะได้เกิดเป็นหมา เพราะ นอนชักอยู่คนเดียว แล้วมีหมา 3 ตัว ยื่นหน้ามาดูว่าเล่นอะไรอยู่น่ะ

พอชักจนพอใจ มันก็หยุดเอง คราวนี้ตัวร้อนเป็นไฟ แล้วปวดหัวแทบระเบิด ลองเอาปรอทวันไข้ มาวัดได้ 40.1 อ่ะ  ก็หาเสื้อหนาว ถุงเท้ามาใส่ แล้วนอนคลุมโปง    จนบ่ายๆ คุณอากลับมาบ้าน เห็นนอนแอ้งแม้งอยู่ก็จะพาไปหาหมอ แต่เราบอกว่าให้รอก่อน เพราะคุณหมอเรามาตรวจตอน 1 ทุ่มกว่าๆ ถ้าไปก่อนแล้วไม่เจอหมอเจ้าของไข้ ก็ไม่เกิดอะไรขึ้นอ่ะ  ก็นอนอยู่บ้านกินยาแก้ไข้ไป แล้วเย็นๆคุณอาก็ขับรถพาไปโรงพยาบาล แต่มันเป็นศุกร์สิ้นเดือน รถติดมากๆๆๆ ใช้เวลา 3 ชั่วโมงกว่าจะไปถึง

ระหว่างทางเลยได้ชักกระตุก สั่นระริก กันอีก 1 รอบ ไปหาหมอด้วยสภาพยับเยิน หมอสั่งตรวจหาเชื้อไข้หวัดใหญ่ ตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะ  ผลที่ออกมาคือ  เป็นกรวยไตอักเสบ แล้วเริ่มมีการติดเชื้อในเลือด เม็ดเลือดขาวพุ่งสูงมาก สรุปคือเจ้าอาการปวดหลังของเราคือ อาการปวดของไตที่อักเสบ อ่ะ

หมอสั่งให้นอนโรงพยาบาลทันที เป็นการนอนโรงพยาบาลครั้งแรกในชีวิต ไม่นับตอนเกิดใหม่ๆนะ  กลัวเหมือนกัน คนไม่เคยนอนอ่ะ ด่านแรกก็ถูกเข็นไปห้องฉุกเฉิน ไปเสียบสายน้ำเกลือ  มันโคตรเจ็บเลยอ่ะ เจาะที่หลังมือ เจ็บสุดๆ จะร้องก็อายเขา ปวดหัวก็ปวด ปวดหลังมากๆด้วย ยังเจ็บมืออีก แล้วปรากฎว่าเลือดไหลไม่หยุด คุณพยาบาลต้องมาช่วยกันกดไว้ 2 คน  เลือดนองเต็มเตียงเลย  ต่อจากนั้นก็ถูกเข็นไปห้องพัก เราเลือกอยู่ห้องเดียว คือยอมจ่ายค่าห้องเอง เพราะประกันสังคมจะจ่ายเฉพาะห้องนอนรวม มีแค่พัดลม

เราว่าการนอนโรงพยาบาลครั้งแรกในชีวิต แล้วต้องนอนคนเดียวด้วย ก็นอนให้มันดีหน่อยอ่ะนะ  ห้องที่เลือกเป็นห้องแอร์ ใหญ่ดี มีเตียงคนเฝ้าไข้ด้วย แต่เราไม่มีใครเฝ้า เพราะที่บ้านเรามีแค่ 3 คน เรากะคุณอาอีก 2 ตอนนี้คุณอาคนนึงไม่อยู่อีกคนอายุมากแล้ว เราเลยเลือกเองว่าขอนอนคนเดียว นอนได้ ไม่ต้องห่วง

คืนแรกในโรงพยาบาลก็ทรมานมาก ไข้ขึ้นตลอด เจ็บแขนที่เสียบน้ำเกลือ ปวดหัว ปวดหลังมากๆ แล้วไม่ชินกับการต้องนอนเปิดไฟ แล้วพอกำลังจะหลับ จะต้องมีคุณพยาบาลเปิดเข้ามาวัดไข้ วัดความดัน หรือดูน้ำเกลือทุกทีสิน่า  โดนเจาะเลือดไปอีก 1 หลอดยักษ์  แล้วเก็บปัสสาวะอีกรอบไปเพราะเชื้อว่าติดเชื้ออะไร   แต่คุณหมอก็เสียบยาฆ่าเชื้อขนาดน้องๆกระปุกน้ำเกลือไว้ด้วย ได้ 2 กระปุกคู่เลย

วันที่สองในโรงพยาบาล ก็ยังไข้ขึ้นสูงตลอด นอนนิ่ง ปวดไปทั้งตัว  คุณหมอสั่งกระหน่ำน้ำเกลือแบบไม่ยั้ง แล้วสั่งให้ทานน้ำมากๆๆๆ จะมีพยาบาลเดินมาดูให้ทานน้ำในเหยือกที่เอามาให้ แล้วคอยเติมน้ำอยู่เรื่อยๆ แล้วพอเจอทั้งน้ำเกลือ และ น้ำกิน มันก็ต้องลุกไปห้องน้ำบ่อยๆ แล้วอยู่คนเดียว ไข้ขึ้น ปวดหลัง ปวดหัว แล้วต้องปีนเตียงลงมา เพราะเขาดึงที่ขั้นขึ้นเอาไว้ ทุลักทุเลสุดๆ ลงมาได้ก็หัวหมุนวิ้งๆๆๆ ต้องตั้งสติสักพัก แล้วเข็นเสาน้ำเกลือเดินเข้าห้องน้ำไป   วันๆๆนึงต้องปีนขึ้นปีนลงเป็น 10ๆรอบอ่ะ

นอนโรงพยาบาล 2 วันแรกก็ไม่ได้บอกเพื่อนเลย เกรงใจ กลัวเพื่อนต้องมาเยี่ยม  แต่คืนวันที่ 2 ก็ส่งข้อความบอกเพื่อน 2-3 คน ว่าหายไปไหน เพื่อนจะได้ดูแลเว็บแทน แล้วไม่ต้องสงสัยว่าเราหายไปไหน  พอเพื่อนรู้ 2-3 คน ก็เลยเริ่มรู้เยอะๆขึ้น หลายคนโทรมาแต่เราไม่ได้รับเพราะปิดเสียงโทรศัพท์ไว้ แล้วปวดหัวเกินกว่าจะอยากคุยอะไร  วันที่ 3-4 ก็มีเพื่อนๆมาเยี่ยมบ้าง ก็โชคดีที่ไข้ไม่สูงแล้ว เลยดูเป็นผู้เป็นคนขึ้นมาบ้าง

เรานอนโรงพยาบาล 5 วันค่ะ เพิ่งออกมาเมื่อบ่ายๆวันนี้  ประสบการณ์ครั้งแรกในโรงพยาบาลก็ดีนะคะ ถ้าไม่นับการเสียบน้ำเกลือที่เลือดท่วม อย่างอื่นก็โอเค  พยาบาลน่ารัก ดูแลดี แม้จะรู้ว่าเรามี HIV ก็ไม่รังเกียจอะไร มาเช็ดตัว ดูแลอย่างดี (อันนี้ก็อ๊าย อาย ไม่เคยต้องโป๊แบบนี้เลย) คุณหมอก็น่ารัก ก็คุณหมอประจำตัวเราที่ดูแลเรื่อง HIV มาตั้งแต่เรารู้ว่าติดเชื้อใหม่ๆ เมื่อเกือบๆ 10 ปีก่อนโน่นอ่ะ  

หมอเราเป็นแวมไพร์ คุณหมอจะทำงานตอนพระอาทิตย์ตกดินแล้ว เช่นเริ่มออกตรวจคนไข้ตอน 19.30  แล้วกว่าจะตรวจเสร็จ แล้วเดินมาดูคนไข้ที่นอนอยู่ คุณหมอก็เลยมาตรวจเราตอนประมาณ ตี 2 -ตี 2 ครึ่ง  แต่แอบงงๆ  เพราะหลายวันที่คุณหมอมา ตี 2 ครึ่ง แล้วมาอีกที 8 โมงเช้า  ตกลงคุณหมอนอนบ้างรึเปล่าหว่า

5 วันในโรงพยาบาลก็สอนอะไรเราเยอะ อย่างแรกคือ ยอมรับในความจริงที่มันเกิดขึ้น ไม่มีใครอยากป่วย แต่ถ้ามันป่วยขึ้นมาก็ต้องยอมรับ และสู้กันไป  อย่างที่สอง  ต้องอดทนมากๆ ยิ่งถ้าไม่อยากให้คนในครอบครัวเป็นทุกข์ เป็นกังวล ยิ่งต้องอดทน แม้จะเจ็บ จะปวดมาก ก็ต้องสู้ ต้องบอกว่า เป็นเป็นไร ยังไหว

อีกอย่างที่เราภูมิใจคือ มันพิสูจน์ว่า เราอยู่คนเดียวได้จริงๆ  แม้ป่วยหนัก ถ้าสู้ซะอย่าง มันก็อยู่ได้นะ อยู่คนเดียว ทำอะไรด้วยตัวเอง  เพราะคุณอาจะมาดูช่วงกลางวันถึงเย็นเท่านั้น นอกนั้นก็อยู่เองคนเดียวตลอด

แล้วเรายังคิดค้นการสระผมด้วยมือเดียวได้ด้วย  คืออยากสระผมมากๆ แต่คุณพยาบาลไม่สระให้ เขากลัวไข้ขึ้น ก็เลยลากเสาน้ำเกลือไปที่ห้องน้ำ แล้วเอาหัวมุดไปในอ่างล้างมือ สระผมเอง   พอทำได้ครั้งนึงก็ได้ใจ วันก็มาก็แอบอาบน้ำสระผมเอง อันนี้ยากหน่อยเสื้อมันถอดยากมันต้องเอาขวดน้ำเกลือลอดแขนเสื้อออกไป แต่พอถอดได้ก้ อาบน้ำสะผมด้วยมือเดียว อีกมือก็ที่เสียบน้ำเกลือไว้ก็ต้องระวังไม่ให้เปียก ไม่ให้เลือดออก

มีครั้งนึง  คุณพยาบาลคงตั้งความเร็วของน้ำเกลือผิด ปกติขวดใหญ่ๆของเราจะใช้เวลาประมาณ 8-9 ชั่วโมงหมด แต่อันนี้ 2 ชั่วโมงหมด เพราะมาเปลี่ยนตอนเราไข้ขึ้น เลยจำเวลาได้ พอเสียบขวดใหม่เสร็จเราก็หลับไป ตื่นมาอีกทีน้ำเกลือกำลังจะหมด พอดูนาฬิกา มันผ่านไป 2 ชั่วโมงเองนะ แต่ก็นึกว่าเขาคงอยากรีบๆให้มั้ง ก็เลยกดออดเรียกคุณพยาบาลมาเปลี่ยนขวด คราวนี้เป็นที่แตกตื่นว่ามันหมดได้อย่างไร  คุณพยาบาลขอโทษใหญ่เลย  ตอนแรกเราก็งง ว่าขอโทษทำไมหว่า มารู้ทีหลังตอนเพื่อนมาเยี่ยมว่าน้ำเกลือเร็วๆมากๆๆแบบนี้เกิดอันตรายได้นะเนี่ย   แบบว่าถึกควายทุยมาก น้ำเกลือไฮสปีดยังทำอันตรายไม่ได้  

อยู่โรงพยาบาล 5 วัน ตอนแรกนึกว่าต้องผอมเพรียวเพราะกินอะไรไม่ลงเลย ปากมันขม เป็นไข้ ไม่อยากอาหาร แต่ตอนจะออกจากโรงพยาบาลลองชั่งน้ำหนักดู โห ลดลงไม่กี่ขีด สงสัยจะหนักน้ำเกลือ เพราะได้ไป 10 กว่าขวดอ่ะ

พรุ่งนี้ก็คงนอนพักอยู่บ้านอีก 1 วัน แล้วค่อยเริ่มชีวิตปกติ เสาร์ทิตนี้ก็คงขับรถไปสอนภาษาอังกฤษน้องๆที่บ้านแกร์ด้าลพบุรีได้ สักวันพฤหัสก็คงเปิดโทรศัพท์เบอร์ที่รับปรึกษาปัญหา HIV ได้เหมือนเดิน ช่วงนี้ปิดก่อน เพราะร่างกายอ่อนแอ ไม่พร้อมรับฟังปัญหาคนอื่น กะไม่พร้อมรับมือคนโทรมาป่วนนะคะ

รายงานแค่นี้หล่ะคะ ไปนอนก่อนนะคะ

จากคุณ : ++MooKaew++
เขียนเมื่อ : 2 พ.ย. 53 23:23:56




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com