 |
http://www.thaihealth.or.th/node/17523
'ยาคุมฉุกเฉิน' คู่แข่งยาทำแท้ง
อันตรายที่กำลังฮิต!
กรณี น่าสลดใจสาวรุ่นวัยเรียนใช้ยาอันตรายที่ซื้อผ่านทางเว็บไซต์เพื่อการ "ทำแท้ง" ได้สร้างกระแสล้อมคอกให้กับฝ่ายที่เกี่ยวข้อง แต่ที่สุดแล้วเรื่องนี้ก็จะเลือนๆ ไปเหมือนไฟไหม้ฟางอีกหรือเปล่า...ก็ต้องรอดู?? อย่างไรก็ตาม กับเรื่องของ "ยา" ที่เกี่ยวโยงกับเรื่องการ "ท้อง-ตั้งครรภ์" มิใช่มีเพียงยาทำแท้งเถื่อน!!
ในมุมกลับกัน...ยังมีเรื่องของ "ยาคุม" ไม่ให้ท้องและในมุมนี้ก็มีอันตราย...ถ้ามีการใช้แบบผิด ๆ!! "ยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉินในตลาดจะมีอยู่ 2 ยี่ห้อหลักๆ ซึ่งตอนนี้กำลังได้รับความนิยมมากในหมู่วัยรุ่น และในกลุ่มคนวัยทำงานด้วย ช่วงนี้ในแต่ละวันจะมีลูกค้าเข้ามาซื้อตลอด ที่น่าสังเกตคืออายุเฉลี่ยของคนที่ซื้อลดลงเรื่อยๆ ส่วนกลุ่มผู้ใหญ่พบว่าอายุมากที่สุดที่ใช้เฉลี่ยประมาณ 40 ปีขึ้นไป"...นี่เป็นเสียงสะท้อนจากร้านขายยาแห่งหนึ่งในจังหวัดทางภาคตะวัน ออกเฉียงเหนือ
ทั้งนี้ "ยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉิน" นับวันจะเป็นยาอีกชนิดหนึ่งที่ถูกซื้อใช้มาก และดูเหมือนว่าเรื่อง "ผลเสีย" ที่อาจเกิดขึ้นจาก "การใช้-การกินอย่างผิดๆ" ยังถูกมองข้าม?? ซึ่งกับเรื่องของยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉินนี้ ในเว็บไซต์ http://www.clinicrak.com
มีข้อมูลระบุไว้โดยสรุปคือ... ยาชนิดนี้เป็นการคุมกำเนิดแบบฉุกเฉินที่ใช้เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะกรณีที่เกิด ความผิดพลาดที่เสี่ยงต่อการตั้งครรภ์โดยไม่ต้องการ อาทิ มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ใช้วิธีคุมกำเนิดใดๆ เลย หรือใช้แล้วแต่ไม่ได้ผลหรือไม่แน่ใจ กรณีถูกบังคับล่อลวงให้มีเพศสัมพันธ์ หรือกรณีถูกข่มขืน นี่ไม่ใช่การคุมกำเนิดตามปกติ และไม่ใช่วิธีในการวางแผนครอบครัว
ยา เม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉินหลักๆ มีอยู่ 2 แบบคือ 1. ยาคุมฉุกเฉินฮอร์โมนผสม ประกอบด้วยฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสตินผสมกัน และ 2. ยาคุมฉุกเฉินฮอร์โมนเดี่ยว ซึ่งมีฮอร์โมนโปรเจสตินเพียงอย่างเดียว โดยยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉินที่ในไทยมีขายอยู่หลักๆ 2 ยี่ห้อ ต่างก็เป็นยาคุมฉุกเฉินแบบฮอร์โมนเดี่ยว
การออกฤทธิ์ของยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉินนั้น จะมีลักษณะเดียวกับยาคุมกำเนิดแบบธรรมดา แต่จากการศึกษาพบว่ายาคุมฉุกเฉินมีการทำงานหลายอย่างพร้อมกัน อาทิ ขัดขวางการตกไข่, ทำให้การตกไข่ช้าลงกว่าเดิม, ขัดขวางการปฏิสนธิโดยสร้างเมือกขึ้นในท่อนำไข่ทำให้อสุจิและไข่เคลื่อนที่ เข้าหากันลำบากขึ้น, ขัดขวางการฝังตัวของไข่ที่ได้รับการผสมแล้ว ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินช่วยลดอัตราเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์โดยไม่ตั้งใจ
แต่...ไม่สามารถที่จะป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และถ้าใช้พร่ำเพรื่อ- ไม่ถูกวิธี...ก็มี "มีอันตราย" ได้!! "การใช้ยาชนิดนี้ ตามวิธีคือครั้งแรกกิจภายใน 72 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ และอีก 12 ชั่วโมงถัดมากินครั้งที่สอง จึงจะมีประสิทธิภาพในการลดโอกาสตั้งครรภ์ แต่ก็ประมาณ 75% ไม่ใช่เต็มร้อย
และที่มีปัญหาก็คือ มีความเชื่อที่ผิดๆ ว่านี่เป็นยาคุมแบบใหม่ ไม่ต้องกินทุกวันเหมือนแบบเก่า หนักกว่านั้นคือเชื่อผิดๆ ว่ากินยาแบบนี้แล้วไม่ติดโรค ไม่ติดเอดส์ ซึ่งความเชื่อแบบนี้ไม่ใช่มีแค่ในกลุ่มวัยรุ่น แต่ยังได้ยินจากปากกลุ่มลูกค้าวัยผู้ใหญ่ หรือแม้แต่คนที่เข้าใจในยาชนิดนี้ดี ก็ยังใช้เป็นประจำอยู่เพราะเห็นว่าสะดวก ใช้ง่าย"
แหล่ง ข่าวร้านขายยารายเดิมระบุต่อไปอีกว่า... ปัจจุบันคนกล้าที่จะมาซื้อยาคุมมากขึ้น ไม่ค่อยเขินอาย หรือกระมิดกระเมี้ยนหลบๆ ซ่อนๆ เหมือนในอดีต อย่างที่ร้านเองยอดขายเฉลี่ยของยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉินนี้ก็อยู่ในระดับที่ เรียกได้ว่า ขายดีมากบางวันเคยขายได้สูงสุด 25 แผง โดยยาคุมแบบนี้มีราคาขายอยู่ที่แผงละ 50-60 บาท และยังพบว่ามีลูกค้าหลายรายมาเหมาซื้อยกกล่องไป เข้าใจว่าอาจจะนำไปขายต่อ
"เท่า ที่ได้ยินมา เดี๋ยวนี้ตามสถานบันเทิงก็มีคนนำยาชนิดนี้ไปขาย และร้านขายของชำ ร้านโชว์ห่วย บางร้านก็มีขาย ไม่มีการจำกัดอายุผู้ซื้อ ยาชนิดนี้เลยมีสภาพซื้อง่าย - ขายคล่องยิ่งกว่ายาแก้ไข้แก้หวัดเสียอีก ทั้งๆ ที่หากใช้ระยะเวลานานๆ ต่อเนื่อง ใช้ผิดประเภท อาจเกิดอันตรายต่อร่างกายได้ ตั้งแต่อาการแพ้ยา เกิดความผิดปกติในระบบสืบพันธุ์ เกิดการตกเลือด หรือร้ายแรงกว่านี้"
ทั้งนี้ แหล่งข่าวรายเดิมยังบอกด้วยว่า... สำหรับผู้ใช้ยา ด้วยจำนวนยาที่กินน้อยกว่ายาคุมกำเนิดแบบปกติ หลายคนก็เลยคิดแบบง่ายๆ ว่าสะดวกดี โดยไม่คิดถึงผลกระทบ ซึ่งยาชนิดนี้หากใช้ผิดประเภทหรือใช้นานๆ ต่อเนื่อง อาจมีผลเสียต่อร่างกาย และสำหรับผู้ขายยา ถ้าไม่คิดอะไร ก็คงดีใจที่สินค้าขายได้มากขึ้น แต่สำหรับตนเองแล้วพอยอดขายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ก็เริ่มสงสัย จึงพยายามสอบถามหาข้อมูล ก็พบเรื่องน่าตกใจว่าหลายคนมีความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับการใช้ยาชนิดนี้ "นี่อาจสะท้อนว่านโยบายให้ความรู้เรื่องการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โรคเอดส์ และความรู้ในเรื่องเพศศึกษา รัฐทำมานาน แต่ก็ยังล้มเหลว"...
แหล่งข่าวระบุทิ้งท้าย "ยาคุมฉุกเฉิน" ขายดีมากขึ้น...เรื่องนี้ก็น่าคิดหลายมุมทั้งในมุมอันตรายจากการใช้ยา...ค่า นิยมในการมีเซ็กส์เรื่องนี้ก็น่าห่วง...ไม่แพ้กรณียาทำแท้งเถื่อน?!?!?
ที่มา: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
จากคุณ |
:
หมอหมู
|
เขียนเมื่อ |
:
12 พ.ย. 53 11:46:14
|
|
|
|
 |