ความคิดเห็นที่ 1 ไม่เห็นโง่เลย การช่วยคนอื่นน่ะ แล้วแต่ความพอใจ อย่างคนที่รายได้แค่วันละ 20 บาทเนี่ย ก็คิดดูแล้วกัน เรากินข้าวมื้อละกี่บาท เราไม่ได้บอกนะว่าต้องให้ แล้วแต่ความพอใจของแต่ละคน แต่ก็เข้าใจถึงแม้ตัวเงินจะไม่ได้มากมายอะไรแต่ถ้าจะมีคนมาขอเงินตลอดก็คงจะรู้สึกอึดอัด ถ้าเขามีเงินเขาคงไม่มาขอหรอก แต่การที่คุณช่วยคนมันก็ไม่ใช่เรื่องโง่ แต่ถ้าช่วยแล้วเก็บมาคิดหนัก ก็อย่าเลยดีกว่า เราไม่ได้เป็นหมอเราก็คงบอกไม่ได้หรอกว่าจะปฏิเสธอย่างไร แต่ถ้าคุณช่วยพวกเขาแล้วคุณลำบาก (ทั้งใจและกาย) คุณก็อย่าให้เสียแต่ทีแรก อย่าเอ่ยถึงเรื่องจะให้เงิน เพราะถ้าเขาได้เงินจากคุณไปแล้ว ยามที่เขาลำบาก ไม่มีเงินกิน ไม่มีเงินให้หลาน หิวจนไส้จะขาดเขาก็จะคิดถึงหน้าคนที่มีโอกาสช่วยเขาได้ นั่นก็หมายถึงคุณ คุณหมอผู้ใจดี แต่ถ้าช่วยเขาแล้วตัวคุณไม่คิดว่าแบกภาระไว้ก็ช่วยไปเถอะ เพราะอย่างน้อยๆ ก็ช่วยใครได้ท้องอิ่ม ไปอีกมื้อหนึ่ง แต่ถ้าเป็นพวกไม่ยอมทำการทำงานแล้วมาขอเงิน แล้วคุณปฏิเสธไม่เป็น คุณก็ต้องคอยหลบเท่านั้นแหละ นอกเสียจากคุณจะไปคุยกับเขาว่าคุณไม่ใช่ตู้ atm ซะ แค่นั้นแหละครับ จากคุณ : แสนยานุภาพ เขียนเมื่อ : 28 พ.ย. 53 02:10:30 A:115.87.37.129 X: TicketID:142985

ความคิดเห็นที่ 2 โอ้ คห. 1 บรรยายสิ่งที่เรารู้สึกเลยค่ะ คือ เหมือนคนไข้เห็นเราเป็นตู้ ATM เลยค่ะ คนที่ลำบากเราก็อยากช่วยนะคะ ตอนนี้รู้สึกว่าถ้าให้ไปสักครั้งหนึ่งแล้วมันเหมือนกลายเป็นทำให้คนไข้เสียนิสัย แล้วต่อไปเขาจะคอยเทียวไปเทียวมา  ขอเงินเราแบบบ่อยขึ้นเรื่อยๆอะค่ะ ถ้าลำบากจริงๆเหมือนคุณยายคนที่ 2 ที่มีหลาน 5 คนนั่น   จริงๆจะขอซ้ำก็ได้ไม่รังเกียจ  แต่ต้องไม่ติดๆๆกันมากเกิน   แบบว่าอยากให้ได้เห็นว่าเกรงใจกันบ้าง   แต่นี่กลายเป็นมาแทบทุกวัน  พอเห็นหน้าเราปุ๊บแบมือแล้วพูดเลย "เงิน!" เหมือนไม่เห็นเราเป็นหมอแต่เป็นตู้ ATM น่ะค่ะ จากคุณ : millian เขียนเมื่อ : 28 พ.ย. 53 02:28:11

ความคิดเห็นที่ 3 **ไม่ใช่หมอนะคะ  แต่อยากออกความเห็น คิดว่าต้องเริ่มจากไม่ให้ คะ แล้วส่งตัวไปให้แผนกอื่นที่ช่วยเราเรื่องนี้ได้ อาจถามจากพี่พยาบาลก็ได้คะ เพราะถ้าเคยได้ ก็จะกลับมาอีก.....(ระวังเค้าพาเพื่อนมาด้วยนะคะ^^) จากคุณ : gunapide เขียนเมื่อ : 28 พ.ย. 53 02:50:09

ความคิดเห็นที่ 4 ทำหน้าที่แพทย์ให้ดีที่สุด ถ้าเขาขอเงินบอก หมอผลิตแบงค์เองไม่ได้ค่ะ หมอก็ต้องทำงานหาเงินเหมือนกัน ถ้ามีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษา ปรึกษาสังคมสงเคราห์ นะคะ แบบ คคห สามบอก ต้องไม่ให้ จากคุณ : เอื้องฟ้าเวียงดอย เขียนเมื่อ : 28 พ.ย. 53 07:05:44 A:124.122.232.234 X: TicketID:295471

ความคิดเห็นที่ 5 ทำบุญไปเถอะสำหรับคนที่ไม่มีจริงๆ ไม่เยอะมากมาย แต่คนที่ชอบขอเป็นนิสัย และจะไม่ยอมช่วยเลือตัวเอง หรือขอเงินไปกินเหล้า หมอก็ต้องรู้จักใจแข็งกับเขาบ้าง เพราะเงินที่ให้ไปไม่ได้ช่วยให้เขาดีขึ้น มีแต่เพิ่มความขี้เกียจและการติดเหล้ามากขึ้น พวกนี้หมอไม่ได้ช่วยให้เขาสุขภาพดีขึ้น มีแต่จะช่วยให้สุขภาพเลวลงเพราะขี้เกียจและติดเหล้า หมอต้องคิดแยกแยะแบบนี้ ขอให้คนหมอมีจิตใจดีแบบนี้ตลอดไป และขอได้รับแต่สิ่งดีๆในชิวิต จากคุณ : Namkati (namkati) เขียนเมื่อ : 28 พ.ย. 53 07:07:45

ความคิดเห็นที่ 6 คิดว่าคุณหมอคงต้องลองคิดคำนวณดูว่าปีหนึ่งๆ มีรายได้ทั้งหมดเท่าไหร่ และจะบริจาคให้คนไข้สักเท่าไหร่ หักเป็นกองทุนแล้วช่วยเหลือจุนเจือไป เท่าที่กำลังทรัพย์จะทำให้ได้ เท่าที่อ่านดูรวมแล้วคุณหมอจ่ายไป 350 บาท เท่ากับค่าดูหนัง 2-3 เรื่อง จากคุณ : FireFox_GTC เขียนเมื่อ : 28 พ.ย. 53 07:09:55

ความคิดเห็นที่ 7 ถ้าให้ไปทำประโยชน์ก็ให้นะ แต่ให้ไปแล้ว ลงขวดเหล้าหมด ก็คงไม่ให้ เรื่องทำแผล อาจจะประสาน PCU ออกเยี่ยมแล้ว ทำแผลที่บ้านก็ได้ แก้ไขเมื่อ 28 พ.ย. 53 07:23:37 จากคุณ : หมอก้อนหิน เขียนเมื่อ : 28 พ.ย. 53 07:22:22

ความคิดเห็นที่ 8 พี่ว่าน่าจะเจอกันมาทุกคนนะ ที่โดนคนไข้มาขอเงิน ยิ่งตอนจบใหม่ๆหน้าอ่อนๆดูใจดีนี่แหละ แต่พอเราอยู่ที่เดิมไปนานๆจะรู้เองว่าคนไข้คนไหนเดือดร้อนจริงๆ คนไหนชอบมาหลอกขอตังค์ ที่เจอๆมากลับเป็นพวกที่เดือดร้อนเค้าไม่ค่อยขอนะ แต่ถ้าเค้าขอ หรือบางที่ดูเหมือนอึกๆอักๆอยากจะพูดอะไรกับหมอแสดงว่าเค้าเดือดร้อนจริงๆ ก็ลองชวนคุยต่อว่าเดือดร้อนอะไรบางทีก็ไม่มีค่ารถกลับบ้าน เราช่วยได้ก็ช่วยๆกันไป คนไหนที่เราดูแล้วไม่น่าช่วย ส่วนใหญ่เจ้าหน้าที่ ที่เค้าอยู่มานานๆจะรู้ว่าพวกนี้เป็นยังไง เช่นชอบเอาเงินไปกินเหล้า  เราก็ปฏิเสธไปเลย พูดสั้นๆว่า หมอไม่ให้เงินนะแล้วก็ขอตัวไปที่อื่นซะ อย่าคุยนานเป็นคนใจอ่่อนอยู่แล้วยิ่งคุยนานๆเดี๋ยวอดสงสารให้เงินไปจนได้ สรุปว่าทำในสิ่งที่เราทำแล้วมีความสุข ถ้าเราช่วยแล้วเราสบายใจเราก็ทำต่อ ถ้าทำแล้วไม่มีความสุขก็ปฏิเสธไป จากคุณ : babeheart เขียนเมื่อ : 28 พ.ย. 53 07:34:25

ความคิดเห็นที่ 9 เพิ่งรู้ว่า หมอก็มีเรื่องลำบากใจเหมือนกัน ไม่คิดว่าจะมีปัญหาแบบนี้กะหมอแฮะ คนเราช่วยคนได้ไม่หมดทั้งโลกหรอก  ถ้าเค้ามาขอเงินทุกวันจริง ๆ ลองเสนองานอะไรให้เค้าทำ ถ้าเค้าต้องการเงินจริง ๆ ก็คงทำ ถ้ากิน ๆ นอน ๆ ก็คงไปเองแหละ จากคุณ : this is jenni เขียนเมื่อ : 28 พ.ย. 53 08:29:50

ความคิดเห็นที่ 10 เราก็เคยโง่เหมือนกัน จำนวนเงินมากกว่าหมออีก แต่นี้ไม่เอาแล้ว ถ้าจะช่วยคนจะสืบให้แน่ก่อนว่าเดือดร้อนจริงไหม ช่วยตัวเองไม่ได้จริงๆ และช่วยแค่พอให้เขายังชีพได้ จากคุณ : หมาป่าดำ เขียนเมื่อ : 28 พ.ย. 53 09:20:04

ความคิดเห็นที่ 11  ขอชมเชยความเมตตาของคุณหมอ แนะนำว่า เรื่องแบบนี้ เป็นเรื่องของเรา ถ้าผมเป็นหมอ ผมจะให้ ให้เพราะผมอยากให้ ไม่ใช่เพราะพยาบาลบอก การที่ผมให้เงินแค่นี้ ผมไม่เดือดร้อย และคุณหมอก็ไม่เดือดร้อน ไม่ใช่เหรอ เงินแค่ 100 บาท ทำไมจะต้องคิดมาก พยาบาลเป็นบุคคลในระดับล่าง บางคนและหลายคน ไม่รู้อะไร ได้แต่ฟังเขาเล่ามา และผมเชื่อว่า ถ้าหมอซักเข้าจริงๆ หลอกซักสักสองสามคำ พยาบาลจะบอกว่า ไม่เคยเห็นกับตาตัวเอง ส่วนมากคนพวกนี้ขี้ประจบหมอ ผมเห็นมาเยอะ ให้เงินคนไข้ ที่กล้าขอ ให้ได้เลย อย่าคิดมาก ปวดหัวเปล่าๆ ที่สำคัญ เวลาผมได้ยินคนบอกว่า "ไม่ทำงาน มือตีนดีๆ มาขอเงิน"  ผมอยากถามกลับว่า ตอนที่คนว่างงาน คุณไปช่วยเขาหางานไหม คนว่างงานมีเยอะ และเวลาท้องหิว หิวข้าว หิวน้ำ ปากแห้ง หน้าแห้ง มันรองานได้เหรอ คุณหมอลองคิดเถอะครับ ควักเงินให้คนสบายใจ เราก็สบายใจ เงินไม่ใช่มากมาย  เวลากินสเต็ก กินข้าวกับแฟน เห็นไหมครับ แฟนคุณหมอควักเงินเลี้ยงคุณคนเดียว มากกว่านี้หลายเท่า ทำไมถึงยิ้มกันได้ แต่ให้เงิน 100 บาท ให้คนไข้ยิ้มบ้าง เขาจะกินเหล้า กินน้ำ กินปลา กินกุ้ง นั่นมันเรื่องของเขา จะไปติดตามให้มากเรื่องทำไม เป้าหมายให้เขามาทำแผล เขาก็มาแล้ว หมอก็บรรลุเป้าหมายแล้ว เลิกคบกับพยาบาลพวกนั้นเถอะครับ ไร้สาระ จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 28 พ.ย. 53 09:54:08

ความคิดเห็นที่ 12 ทำบุญกับคนที่เค้าเดือดร้อนจริงๆ กุศลแรงกว่า ที่ทำบุญเอาหน้านะคะ ขอชื่นชมคุณหมอที่มีน้ำใจ แบ่งปันให้กับคนที่ "ไม่มี" ค่ะ จากคุณ : ตากลมแก้มป่อง เขียนเมื่อ : 28 พ.ย. 53 10:02:22

ความคิดเห็นที่ 13 ชื่นชมคุณหมดด้วยอีกคนค่ะ ถ้าเป็นดิฉันให้ค่ะ ถือว่าทำบุญ เเต่ต้องเลือกให้ ให้เงินเขาไปเเล้วต้องตัดใจค่ะ เขาเอาไปทำอะไรก็ช่างเขา จากคุณ : Quel เขียนเมื่อ : 28 พ.ย. 53 10:27:40

ความคิดเห็นที่ 14 เราเคยไป รพ.แล้วเจอคุณยายรอรับยาแต่ไม่มีเงินจ่ายค่ายา 30 บาท (ใช้บัตรทอง 30บาท )เจ้าหน้าที่เขาก็ไม่ให้ยาบอกว่าต้องจ่ายเงิน 30 บาทก่อน คุณยายก็บอกว่าไม่มีเงินเราได้ยินเลยถามว่าคุณยายมีเงิน มาเท่าไหร่คุณยายบอกมี 15 บาทจะเอาไว้เป็นค่ารถเมล์กลับบ้านเรา เลยจ่ายค่ายาให้แล้วให้เงินอีก100บาทบอกให้นั่งแท๊กซี่กลับบ้านเลย แต่ก็คิดว่าคุณยายคงจะนั่งรถเมล์กลับบ้านแล้วเก็บเงิน100บาทไปใช้ อย่างอื่นมากกว่า เราก็คิดว่าอะไรที่เราช่วยแล้วสบายใจก็ทำไปเถอะ ค่ะแต่ถ้าทำแล้วรู้สึกไม่สบายใจคราวหลังก็เลี่ยงซะเหตุผลมีมากมาย เลือกทำแต่สิ่งที่เราสบายใจดีที่สุด ที่สำคัญอะไรที่เราทำไปแล้วก็อย่า เก็บเอามาคิดให้ไม่สบายใจเลยค่ะ... จากคุณ : ฉันไม่ใช่นางเอก (ร้ายเสมอ) เขียนเมื่อ : 28 พ.ย. 53 10:51:38

ความคิดเห็นที่ 15 เดือนหนึ่ง รวมๆแล้วสักกี่บาทครับ  แล้วเงินส่วนนี้ ที่หายไปทำให้คุณลำบากไหม  ถ้าให้แล้วสบายใจก็ทำแถอะครับ แต่ก็ต้องอย่าให้ บ่อยเดียวจะเคยชิน จากคุณ : boy_cm เขียนเมื่อ : 28 พ.ย. 53 11:23:14

ความคิดเห็นที่ 16     ให้ ค.ห.14 แทนกิ๊ฟค่ะ ต้องงี้สิ จากคุณ : Jack&Jerry เขียนเมื่อ : 28 พ.ย. 53 11:23:39

ความคิดเห็นที่ 17 อยากช่วยยืนยาว ลองตั้งกองทุนสงเคราะห์ผู้ป่วยอนาถาค่ะ คาดว่าทุกโรงพยาบาลมีกันอยู่แล้ว แต่ยังจัดการได้ไม่เต็มที่ไม่เต็มประสิทธิภาพ เรื่องทำแผลก็มีหน่วยออกเยี่ยม ลองประสานงานภายในองค์กร เผื่อว่า องค์กรเข้มแข็ง มันจะดีมากๆ จากคุณ : ยิ้มเดียว เขียนเมื่อ : 28 พ.ย. 53 11:28:54

ความคิดเห็นที่ 18 คนที่ไม่รู้ไม่โง่หรอกครับ ถึงแม้เขาจะเอาเิงนที่คุณให้ไปทำอย่างอื่น เช่นเอาไปกินเหล้า ก็อย่าไปคิดว่าเขาเอาเงินเราไปกินเหล้า เพราะยังไงเขาก็ต้องกินข้าวหรือเอาไปทำอย่างอื่นที่ จำเป็นให้เราถือว่าค่าใช้จ่ายในส่วนนั้นคือเงินที่เราให้ไป ก็น่าจะสบายใจขึ้น แต่ถ้ามาขออีกก็ไม่ต้องให้เพราะเรารู้แล้ว ว่าเขาไม่รู้จักใช้เงินก็บอกไปตรงๆเลยครับ เราคงช่วยเหลือเขาไปตลอดไม่ได้ แต่ถ้าคนเขาเดือดร้อนจริงๆ แล้วเราพอช่วยเหลือได้ก็ ทำเถอะครับ ทำไปแล้วอย่าคิดมากเจตนาเราดี เขาจะเอาไปทำในสิ่งที่ดีหรือไม่ดีมันเรื่องของเขา ทำเท่าที่เราทำได้ ดีใจครับที่มี แพทย์อย่างนี้ จากคุณ : ศักดิ์ (Audigy37) เขียนเมื่อ : 28 พ.ย. 53 14:34:46

ความคิดเห็นที่ 19 ถูกใจ คห.11 ครับ กล่าวไว้ได้ดีมากครับ หมอทำงานอยู่ในที่ เกิด แก่ เจ็บ ตาย  ...เป็นถึงหมอพูดแค่นี้พอ   วันนี้ให้ พรุ่งนี้ไม่ให้ พรุ่งนี้ให้ อีกวันไม่ให้ เป็นเรื่องของหมอโดยแท้ ครับ จากคุณ : ... (โทเรคอง) เขียนเมื่อ : 28 พ.ย. 53 15:15:41

ความคิดเห็นที่ 20 ทำบุญให้ดูที่  ปราณีให้ดูคน คำสอนเชิงพุทธก็มีสอน ทำบุญอย่าสักแต่ว่าทำใช้ปัญญาคิดด้วย ถ้าทำแล้วเปนการส่งเสริมให้มนุษย์ประพฤติแย่ มันไร้บุญไร้สาระ พวกที่คิดว่าให้ๆไปเห่อะให้แล้วให้ขาด.  สมมติให้แล้วไปกินเหล้า ไปทำแท้ง ไปเสพยา หรือไรก็ได้ที่ไม่ควร ก็ไม่เปนไรรึ หึๆ เงินแค่ร้อยบาท มันก็คือเงิน หมอก็ต้องทำงานถึงได้เงิน ไม่ได้มาฟรี ต่ออีกนิด  วิธีทำบุญมีเยอะแยะ เอาแบบทำแล้วมีประโยชน์จิงๆดีกว่า อย่าส่งเสริมนิสัยเสียๆของคน คนทุกคนมีเวรกรรมของตัวเอง ใครอยากให้ก็ให้ไป พวกไม่เจอกับตัวก็พูดได้  เหอๆ เงินหลักสิบหักร้อยบาท มันก็เงิน เอาไปซื้อผักปลอดสาร ผลไม้ให้พ่อแม่กินได้บุญกว่า แก้ไขเมื่อ 28 พ.ย. 53 18:48:24 จากคุณ : VVIP Member เขียนเมื่อ : 28 พ.ย. 53 18:10:12

ความคิดเห็นที่ 21 เคยเห็นในทีวี  เขาจดหมายหรือโทรฯไปบอก สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน แล้วจะมีคนมาช่วยคนตกทุกข์ได้ยาก ครับ จากคุณ : กินลม ชมทะเล เขียนเมื่อ : 28 พ.ย. 53 22:17:52

ความคิดเห็นที่ 22 สอนวิธีจับปลาให้เขาค่ะ หางานที่เหมาะสมให้เขาทำ จะได้มีเงินเลี้ยงชีพต่อไป เงินให้เท่าไหร่ก็ไม่พอ ๑๐๐ วันนึงก็หมดแล้ว ถ้าไม่ได้ทำมาหากินก็ต้องมาขอใหม่ ให้ข้าวก็กินได้ไม่กี่มื้อ ถ้าให้วิชา ให้อาชีพแล้ว ยังจะมาขออีก เราจะได้ย้อนถามเขาได้ว่าทำไมไม่ทำงานที่ให้ไป จะได้มีเงิน ส่วนมากคนไม่คิดทำมาหากินมักจะไม่กลับมา ถ้าคิดจะให้แต่เงิน ให้เท่าไหร่ก็ไม่พอ ถ้าเขาไม่ทำมาหากิน คนอื่นเห็นขอได้คนนี้ใจดี ก็จะตามมาขอกันอีก คนมากมาย ถึงทำมาหากินด้วยวิธีขอ จากคุณ : โดดเดี่ยวผู้น่ารัก เขียนเมื่อ : 28 พ.ย. 53 23:57:06

ความคิดเห็นที่ 23 เอางี้ คุณหมอ ให้ครั้งแรก พอ..  ส่วนใหญ่คนที่ลำบากจริงๆ มักจะไม่ขอ ส่วนคนที่ขอ มักจะไม่ลำบากจริง.. แล้วพอให้ปุ๊บ ก็อย่าคิดมากต่อนะคะ ปวดหัว.. จากคุณ : Antbadtz เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 00:29:13

ความคิดเห็นที่ 24 เห็นด้วยกับ คห 20 ค่ะ ถ้ามาขออีก และไม่สบายใจที่จะให้ ก็ บอก เขาไปว่า ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย และต้องอย่าใจอ่อนค่ะ และเสนอให้ความช่วยเหลืออย่างอื่น เช่น แนะนำอาชีพ หรือข้อมูลที่เป็นประโยชน์ จากคุณ : กนกณัฐ เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 01:30:12

ความคิดเห็นที่ 25 หมอขอวิธีปฏิเสธ ก็บอกไปเลยว่า ต่อไปนี้ไม่ให้แล้วนะ ไม่ต้องบอกเหตุผล เพราะยิ่งพูดยาวยิ่งยืดเยื้อ จากคุณ : *Cookies* เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 02:44:19

ความคิดเห็นที่ 26 ถ้าเขาลำบากจริง ถ้าเราทำแล้วสบายใจ ถ้าเราทำแล้วเราไม่เดือดร้อน ให้ไปเถอะครับ ขออนุโมทนาบุญด้วยครับ จากคุณ : nutcivil เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 16:06:00

ความคิดเห็นที่ 27 เห็นใจคุณหมอจังเลย งานหนัก แล้วยังมาเจอเรื่องแบบนี้อีก ที่ทำไปแล้ว ก็นึกว่าทำบุญทำทานเถอะค่ะ ถึงจะเป็นคนทุศีล ก็ได้บุญเป็นร้อยหรือเป็นพัน (จำไม่ได้แน่ จำได้แต่ว่าถ้าทำบุญกับคนมีศีล ได้บุญเป็นแสน ฟังจากแผ่นธรรมะน่ะค่ะ) ส่วนเรื่องปฏิเสธ ก็คงต้องบอกไปตรงค่ะ ของเราเจอแบบโทรมาชวนบริจาคเงินอยู่เลย เคยบริจาคไปสองสามครั้ง จากนั้นโทรมาตลอด เพื่อนฝรั่งยังบอกเลยว่า ถ้ายูบริจาคเงินให้หน่วยงานไหน เขาจะโทรมาตื๊อเรื่อยๆ แหละ ของเขาใช้วิธีปฏิเสธไปเลย ก็ไม่มีใครโทรมาตื๊ออีก อนุโมทนาบุญกับคุณหมอค่ะ ใจบุญจังเลย จากคุณ : ข้าวปั้น เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 16:40:14 A:58.111.231.214 X: TicketID:188044

ความคิดเห็นที่ 28 ที่จริงคนไทยมีน้ำใจ ผมเคยไป รพ.  ระหว่างรอเจาะเลือด มีหญิงคนหนึ่งถูกขโมยกระเป๋าไป ไม่มีเงินเหลือดติดตัวเลย พยาบาลห้องยามาถาม แล้วควักเงินให้ เพื่อนพยาบาลอื่นๆ ก็หยิบยื่นให้คนละเล็กละน้อย ผมเห็นน้ำใจน้ำตาซึมไม่รู้ตัว จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 53 07:14:41

ความคิดเห็นที่ 29 จขกท. น้ำใจงามครับสมกับทำงานอาชีพนี้ ถ้า จขกท.ให้เขาแล้วสบายใจก็ให้ไปเถอะครับถ้าไม่ทำให้ตัวเองเดือดร้อน จากคุณ : darasamuth_hiso เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 53 15:22:30

ความคิดเห็นที่ 30 ตอนนี้ทำงานอยู่ที่ไหนเหรอครับ จะไปขอเป็นเจ้าของหัวใจวันเว้นวัน จากคุณ : patthara เขียนเมื่อ : 4 ธ.ค. 53 21:41:54