ความคิดเห็นที่ 1 ผมเคยโดนมากับตัวเอง แฟนมีเชื้อติดจากแฟนเก่ามา ผมทราบกลับรักเค้ามากกว่าเดิม แต่แฟนผมกลับเลือกเดินจากไปเแต่ทุกวันนี้เรากลายเป็นเพื่อนกัน จากคุณ : Takazawa Ichi Ray เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 12:13:53

ความคิดเห็นที่ 2 ก็ต้องขอเวลาทำใจระยะหนึ่งก่อน ต่อไปก็ศึกษาข้อมูลสำหรับคนที่เป็นว่าต้องทำตัวอย่างไร วางแผนอนาคต+เตรียมค่าใช้จ่ายสำหรับวันสุดท้ายเพื่อ ให้คนที่เป็นภาระทำธุระจัดการให้เรา ไม่เดือดร้อน ถ้าเผื่อเวลามีก็จะเขียนหนังสือชีวิตเราไว้ให้คนรุ่นหลังได้อ่าน เป็นอุทาหรณ์   จากคุณ : โตอิโต้ เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 12:29:18

ความคิดเห็นที่ 3 เราไม่ได้รังเกียจคนที่ติดเชิ้อนะคะ แต่เราก็ไม่สามารถคบเป็นแฟนต่อไปได้หรอกค่ะ เราก็กลัวติดอ่านะ จะนอนด้วยคงแปลกๆถึงจะใส่ถุงก็เถอะค่ะ จากคุณ : mnoppy12 เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 13:02:34

ความคิดเห็นที่ 4 ผมคบต่อได้ และจะรักเค้ามากขึ้น พร้อมจะดูแลไปตลอด จากคุณ : Takazawa Ichi Ray เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 13:11:29

ความคิดเห็นที่ 5 ก็...ใช้ชีวิตปกติ..ถ้าเค้ากล้าบอกเรา ทำไมเราจะต้องทิ้งเค้าไปไหนล่ะ ก็คอยดูแล ศึกษาหาความรู้เพื่อให้ได้อยู่ด้วยกันอย่างปลอดภัย..ไม่ใช่นางเอก..แต่ก็ไม่ใช่นางร้ายอ่ะค่ะ.. จากคุณ : may_spsc เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 13:21:07

ความคิดเห็นที่ 6 ผมไม่รังเกียจคนที่ติดเชื้อ HIV หรอกครับ ผมกลับเชื่อว่าผู้ที่ติดเชื้อส่วนใหญ่จะทำทุกวันของเขาให้มีค่ามากที่สุด และจะดูแลคนที่เขารักให้ดีที่สุด ไม่ว่าเพื่อน หรือ คนในครอบครัว และทำงานเพื่อสังคม        มีเคสหนึ่งที่เป็นเกย์ครับ ปรากฎว่าเค้ามาตรวจ HIV ด้วยกัน ปรากฏว่าคนหนึ่งติดเชื้อ แล้วพยาบาลบอกว่าจะบอกใครเป็นคนแรก เค้าบอกว่าจะบอกแฟนเค้าเป็นคนแรก และแฟนเค้าก็รับได้โดยไม่กลัวติดเชื้อ เพราะเค้าบอกว่า"ผมไม่จำเป็นต้องมีอะไรกับเค้า แต่ผมก็รักเค้า" และเค้าทั้งสองคนก็ยังคงเป็นแฟนกันต่อไป อย่างอบอุ่น เล่นเอาพยาบาลที่ให้คำปรึกษาร้องไห้ไปเลย       ยังไงพี่ก็อย่าลืมรักษาสุขภาพด้วยน่ะครับ มีอะไรก็มาบ่นหรือมาคุยในห้องนี้ได้ครับ เพื่อนๆในนี้อยู่เคียงข้างคุณเสมอครับผม แก้ไขเมื่อ 08 ธ.ค. 53 13:27:39 จากคุณ : รัตนสุวรรณ เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 13:26:10

ความคิดเห็นที่ 7 ตอบไม่ได้อ่ะ  มันเหมือนเรายืนอยู่ตรงทางแยก 2 ทางเลย ยังไงก็เป็นกำลังใจให้ จขกท  นะคะ จากคุณ : พรุ่งนี้สวย เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 13:43:28

ความคิดเห็นที่ 8 ถ้าเป็นเรานะ ในกรณีที่เป็นเริ่มแฟนกันและยังไม่ได้มีอะไรกัน เราก็คงจะไม่เลิกคบเค้าหรอก แต่อาจจะลดความสัมพันธ์มาเป็นเพื่อนสนิทมากกว่าแฟนนะ เพราะเราคิดว่าถึงคบกันเป็นแฟนต่อไป ก็คงไม่สามารถอยู่กินและมีลูกด้วยกันได้ และเราก็คงจะเก็บเรื่องที่เรารู้เป็นความลับด้วย อีกกรณีหนึ่งคือเป็นสามีภรรยากันแล้ว ก็คงจะต้องอยู่ด้วยกันต่อไปแล้วล่ะ เพราะว่าก็เป็นกันทั้งคู่ใช่ไหม คงจะช่วยดูแลซึ่งกันและกัน พากันไปรับยาต้านเชื้อ อย่างน้อยๆถ้าดูแลตัวเองดีๆก็อยู่ได้อีกเป็นสิบๆปีแล้วล่ะ ในทางกลับกันถ้าเราเป็นผู้ติดเชื้อและยังไม่มีแฟน เราก็ไม่กล้าที่จะคบใครเหมือนกัน เราคงไม่กล้าบอกความจริงเค้าในสิ่งทีเราเป็น เพราะเราไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายจะเข้าใจเราดีพอหรือเปล่า คงจะใช้ชีวิตที่มีค่าให้มากที่สุด อยู่กับพ่อแม่พี่น้องที่เค้ารักเราด้วยใจจริง แค่นี้ก็มีความสุขมากแล้ว ยังไงเป็นกำลังใจให้นะคะ จากคุณ : candy_pinkmie!! เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 13:43:51

ความคิดเห็นที่ 9 รักษาสุขภาพนะครับ ทุกวันนี้ทางเลือกในการรักษาโรคนี้เยอะกว่าแต่ก่อนมาก ยาต้านเชื้อก็ดีขึ้นเยอะเลย อีกหน่อยคงมียารักษาครับ ทานพวก น้ำมันมะพร้าว มะระขี้นก มะรุม หรือไปปฏิบัติธรรมที่พระชัยบารมีก็ได้ครับ คนรู้จักไปมาแล้วอาการดีขึ้นเลย จากคุณ : kekei เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 13:44:34

ความคิดเห็นที่ 10 จะบวกจะลบก็คบกันได้ www.kaewdiary.com จากคุณ : ไอศครีมรสช็อกโกแลตชิป เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 13:58:42

ความคิดเห็นที่ 11 มันพูดยากค่ะ ยากมาก ๆ ละเอียดอ่อน คนเข้าใจได้ ก้อเข้าใจ คนไม่เข้าใจก้อคือไม่เข้าใจ เห้อ เห้อ จากคุณ : Kally_narak เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 14:02:04

ความคิดเห็นที่ 12 ถึงคบหรือจะไม่คบต่อ คุณก็ไปตรวจด้วยละกัน เพื่อตัวคุณเอง รักคนอื่นได้ก็รักตัวเองด้วย จากคุณ : panithapan เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 14:08:06

ความคิดเห็นที่ 13 ผมว่า...ธรรมดา ในเมื่อทุกคนก็ต้องตายจากกันอยู่แล้ว ทำไมล่ะ ที่จะต้องทิ้งกันตอนที่ป่วยด้วย HIV ถ้าวันหนึ่งเราเดินไม่ได้ หรือคู่เราเดินไม่ได้ หรือป่วยรอวันตายจากอะไรก็ได้ ต้องถึงกับแยกทางเลยหรอ แล้วจะรักกันเพื่ออะไร ในเมื่อรักให้มากแค่ไหน วันหนึ่งก็ต้องแยกกันอยู่ดี(ตาย) รักกันเพื่ออะไร เซ็กส์... ความใคร่... ก็แค่มีใครซักคนที่ดูแลเรา ยามที่เราทุกข์ หรือเจ็บป่วย.. ไม่ใช่หรอ ลองคิดว่าถ้าโจทย์เป็นตัวเราติด HIV เราอยากได้ยินจากปากคนรักของเรา ว่ายังงัยดีกว่ามั้ย..... จากคุณ : thaitarzan เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 14:18:29

ความคิดเห็นที่ 14 คงจะคบต่อแต่ไม่ใช่ในฐานะแฟน เพราะถ้าฐานะนี้ลำดับต่อไปจากแฟนคือต้องแต่งงานอยู่กินด้วยกัน ไม่ได้รังเกียจคนที่เป็น อยู่ด้วยกันได้ วิธีป้องกันมีมากมาย แต่อนาคตต่อไปมันยังอีกยาวไกล คงจะคบกันไปในฐานะเพื่อน ดูแล และให้กำลังใจ กันต่อไปค่ะ จากคุณ : ไข่เจียวทะเล เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 14:54:02

ความคิดเห็นที่ 15 ผมกำลังตกอยู่ในอาการนี้เลยครับ...คือยังไม่รู้ว่าเป็นรึเปล่า แต่ก็ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะพูดยังไงกับแฟนดี...ถ้าเผอิญเป็น คือเพิ่งพลาดมาตอนนี้รอเวลาจะไปตรวจ มันช่างแสนทรมาน...นั่งคอยนับวันให้ถึงเวลาที่มันตรวจได้...ไม่น่าเลย... จากคุณ : เจ็บใจตัวเอง เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 15:09:29 A:115.87.56.240 X: TicketID:217542

ความคิดเห็นที่ 16 สวัสดีทุกๆคนครับ ขอบคุณที่เข้ามาตอบ มาแสดงความคิดเห็น รวมถึงให้กำลังใจด้วยนะครับ อยาดให้สังคมที่ไม่ใช่สังคมในโลกไซเบอร์ให้โอกาสคนติดเชื้อเหมือนในนี้จังเลย (แต่บางทีก็แอบคิดว่า เค้าก็พูดได้นี่เนอะ ในเวบไซต์ ในบอร์ด เพราะยังงัยก็คงไม่ได้เจอคนที่มาปรึกษา คนที่ติดเชื้อนี้อยู่แล้ว) อ่านหลายๆความเห็นก็ชื่นใจนะครับที่คนรักของคนคนนั้นเค้ายอมรับได้ แถมยังมอบความรักเพิ่มขึ้นอีกด้วย ทำให้ผมกลับมาคิดหนักอีกแล้ว ว่าควรจะทำอย่างที่คิดไว้ดีรึป่าว คือผมกำลังสับสนว่าเราควรจะบอกเค้าตั้งแต่ที่เราทั้งสองคนเริ่มที่จะมีความสัมพันธ์หรือคบหากันมากกว่าเพื่อน (ก็แฟนนั่นแหละ จะพูดให้ยืดยาวเพื่อ -*-) หรือจะคบกันให้มันเกิดความผูกพัน เกิดความรักกันขึ้นมาก่อนดี เหมือนกับหลายๆคู่ที่ความเห็นข้างบนๆได้บอกว่ายอมรับได้และรักมากขึ้น แต่ angel ของตัวผมเองก็บอกว่ามันเหมือนกับการหลอกลวงกันนะ ไม่ดีนะ ฝ่าย devil ก็ไม่ยอม บอกว่าถ้าบอกไปก่อนใครเค้าจะยอมคบกับเรา ห๊า.... ก็คบกันไปให้รักให้ผูกพักกันไปก่อน เราไมได้จะไปมีอะไรกับเค้าไปแพร่เชื้อให้เค้านี่ ถ้าจะถึงขั้นนั้นค่อยบอกก่อนก็ได้ (อันนี้คิดเผื่อๆไว้ก่อน แต่ตอนนี้ก็ยังไม่มีใคร) ก็เลยไม่รู้จะทำยังงัยดี?????? จากคุณ : bhom เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 15:19:34 A:203.146.3.113 X: TicketID:298295

ความคิดเห็นที่ 17 . จากคุณ : yangtaiping เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 15:43:47

ความคิดเห็นที่ 18 เป็นเรา เราเลือกที่จะบอก... ถ้าเรารักใคร เราควรให้เขาได้ในสิ่งที่ดีที่สุด ความรักอย่างเดียวไม่พอค่ะ  เราต้องคำนึงถึงครอบครัวเขา พ่อแม่เขา คนรอบตัวเขาด้วย อนาคตของเขาที่เราต้องรับผิดชอบ คุณจะอยู่ถึงวันนั้นไหม  คุณมีความมั่นใจไหมที่จะอยู่ดูแลเขาจนลมหายใจสุดท้ายของคุณ รักแล้วต้องดูแล  ไม่ใช่หยิบยื่นความทุกข์ที่เหลือทั้งชีวิตให้เขา ถ้าคุณติดเชื้อไม่ว่าทางใดก็แล้วแต่ คุณจำความรู้สึกของครั้งแรกที่คุณรับรู้ว่าคุณติดเชื้อได้ไหม คุณอยากให้คนที่คุณรักที่สุด อยู่ในภาวะนั้นหรือ live and lern ค่ะ ความรักคือการเสียสละ ความรักคือการให้ คำๆนี้ไม่ตายค่ะ จากคุณ : meboon เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 15:46:49

ความคิดเห็นที่ 19 อ่านแล้วนั่งถอนหายใจอยู่หลายเหือก.. ไม่รุ้จะตอบยังไงเนอะ... แต่ถ้าเรารักเค้าไปแล้ว เราก็คงรับได้ แม้ไม่ได้มีลูก แต่รักกันมีความสุขมันก็ โชคดีเท่าไหร่แล้ว ดีกว่าคนธรรมดา ที่คบกันแต่ไม่มีความสุขเปนใหนๆ เปนกำลังใจให้นะคะ  จากคุณ : คุณเดือนฯ เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 15:55:42

ความคิดเห็นที่ 20 อ้าว ติดอารมณ์มาจากกระทู้เก่า  ตอบกลับด้านเสียนี่ ถ้าเจอว่าแฟนติดเชื้อ แล้วเราทราบทีหลัง แล้วเราจะทิ้งเขาไหม แต่ถ้าสาเหตุของการติดเชื้อ เป็นเรื่องที่รับไม่ได้เลย เช่นไปติดจากการมีเพศสัมพันธ์สำส่อน  ไปนอกใจ ไปมีชู้ ความรู้สึกมันจะต่างไปจากการที่เขาติดเชื้อมากจากเรื่องอื่น แต่ถ้าติดมาโดยอุบัติเหตุ เช่น การได้รับเลือดที่ติดเชื้อมา  หรือทำงานแล้วติดเชื้อจากคนไข้ เช่น บุคลากรทางการแพทย์ ตอบได้เลยว่าไม่ทิ้ง  แต่เลือกที่จะเก็บวันเวลาที่เหลือให้ดีที่สุด ดูแลให้ความช่วยเหลือ เต็มที่เท่าที่จะทำได้  แต่จะป้องกันตัวเองให้มากที่สุด ไม่ใช้ชีวิตเสี่ยง  ตรวจเลือดตัวเองก่อนว่าติดเชื้อหรือไม่ ถ้าไม่ติดเชื้อ ก็งดทุกสิ่งที่จะเสี่ยงให้ตัวเองติดเชื้อ  แต่จะอยู่ดูแลรักษาพยาบาลเป็นเพื่อน ให้กำลังใจ ไม่ทอดทิ้ง เพื่อวันหนึ่ง คนที่เรารักจากไปแล้ว เราจะได้ไม่เสียใจว่า เราได้ทำเต็มที่แล้ว ชีวิต ต้องดำเนินต่อไปค่ะ แต่ขึ้นอยู่กับเราเลือกจะเดินทางไหน จากคุณ : meboon เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 15:58:43

ความคิดเห็นที่ 21 ก็คบต่อสิค่ะ ไม่ได้คิดยากมากมายเลย เพียงแต่ป้องกันตัวเองให้มากขึ้น เราไม่ได้ตอบเอาใจคุณด้วย เพราะเคยพาแฟนไปตรวจเลือด เพราะเค้ากลัวอดีตของเค้า เรายังคิดเลยว่า ถึงเค้าเป็นเราก็จะคบเค้า เพราะเราอยู่กับเค้าแล้วเรามีความสุข เราแค่อยากอยู่กับเค้ามากกว่าที่จะต้องการอะไรจากเค้า จากคุณ : Pntmob เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 16:16:18

ความคิดเห็นที่ 22 เราก็เห็นใจ จขกท นะ ถ้าเป็นเราเราก็คงคิดไม่ตกเหมือนกัน มันมีความกลัวในหลายๆ อย่างที่จะตามมาหลังจากที่บอกความจริงออกไปแล้ว แต่เราก็คิดว่าควรจะบอกเรื่องนี้กับคนที่เราคิดว่าเค้าควรจะรู้ แต่หลังจากที่รู้แล้วเค้าจะคบหรือไม่คบต่อ ก็ปล่อยให้เค้าเป็นคนตัดสินใจก็แล้วกันเนอะ มีละครเรื่องนึ่งที่เราเคยดูตอนเด็กๆ แล้วก็ประทับใจมากๆ ละครที่คุณบัวชมพูแสดงคู่กับคุณแอนดริว จำได้ลางๆ ว่าเป็นละครที่เกี่ยวกับผู้ติดเชื้อ จำชื่อเรื่องไม่ได้ต้องขออภัย จำได้ว่าเพลงประกอบละครคุณบัวชมพูเป็นคนร้อง ร้องว่า "จะอยู่เป็นดอกไม้ในใจเธอ" ลองหาดูนะคะ เผื่อจะได้แง่คิดหรือมุมมองหรือมีกำลังใจขึ้นบ้าง เพราะพระเอกของเรื่องนี้เป็นผู้ติดเชื้อค่ะ สู้ๆ นะคะ จากคุณ : โดเรม่อนทมิฬ เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 16:48:19

ความคิดเห็นที่ 23 เป็นเรา คงเลือกที่จะ ปรับสภาพกลายเป็นเพื่อนคู่คิดแทนมากกว่า จะให้ไปมีอะไรด้วยคนไม่ไหว อ่ะ แต่จะเป็นเพื่อนคู่คิด ช่วยกันปรึษากันให้กำลังใจกันและกันมากกว่า จะไม่เลิกคบเพื่อนคนนี้ตลอดไป จากคุณ : Get only me เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 16:53:39

ความคิดเห็นที่ 24 มีครับ เชื่อผมสิ เคยอ่านกรณีหลายๆ เหมือนกัน คนที่มีความจริงใจ แล้วเข้าใจว่า โรคนี้คืออะไร ติดยังไง มักจะมองข้ามไป ให้กำลังใจนะครับ  สิ่งสำคัญคือ มีกำลังใจให้ตนเอง จากคุณ : Adore เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 18:15:19

ความคิดเห็นที่ 25 ถ้าเรายังไม่ได้รักเราเลือกถอยค่ะ แต่ถ้ารักไปแล้ว ถึงอยากจะถอยเราก็ทำไม่ได้ จากคุณ : เมมิจัง เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 20:21:20

ความคิดเห็นที่ 26 อดีตแฟนเราก็เคยบอกเราแบบนี้ เราไม่เคยรังเกียจเลย เรากับเค้าเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ยังเป็นนักเรียนผูกคอซอง ขาสั้น  ไม่ว่าเค้าจะเป็นอะไร เราก็ไม่สามารถทิ้งเค้าได้ ยิ่งคำว่ารังเกียจยิ่งไม่เคยมีในความคิด คิดว่าจะดูแลเค้าจนกว่าจะจากกันไป ..วันที่เค้าบอกกับเรา ..เราตอบกลับไปว่า เรามาแต่งงานกันเถอะ...... เค้าร้องไห้ ..และเลือกเดินไปจากเรา ไม่ว่าจะยังไงก็ยื้อไว้ไม่ได้ ทุกวันนี้เราเสียใจมาก แต่อะไรที่เค้าทำแล้วเค้ามีความสุขเราก็ยินดีให้เค้าทำไป จากคุณ : Jakaey เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 20:29:23

ความคิดเห็นที่ 27 ตอบสั้นๆ ไม่เคยทิ้งกันค่ะ เป็นนาทีทองที่ทำให้เราได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น ตอบยาวอีกหน่อย ไม่ใช่แฟน แต่เป็นคนที่เรารัก ยังขอบใจเค้าที่ไว้ใจ ยอมฝากผีฝากไข้ในยามยาก ให้เราได้มีโอกาสดูแล แอบแต๊ะอั๋งกอดเค้าด้วยหล่ะตอนที่เค้าสติแตก เพราะปกติทำมะด้ายยยยยย จากคุณ : บ้านน้อยคอยทานตะวัน เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 21:16:24

ความคิดเห็นที่ 28 ตอบตรงๆรับไม่ได้ค่ะ เเต่สามารถเป็นเพื่อนกันได้ เราเป็นห่วงตัวเองเเละยังเเค่สายตาคนรอบๆๆข้างอยู่ จากคุณ : Chanakan1991 เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 21:22:35

ความคิดเห็นที่ 29 ถ้าเราเป็น จขกท.  เราเลือกที่จะบอกอีกฝ่ายก่อนจะจะตกลงเป็นแฟนกันนะคะ  วัดใจกันไปเลย ถ้าเค้ารับไม่ได้  ก็จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจกันมาก  ยังไม่ผูกพันกันมากด้วย  เป็นการให้เกียรติอีกฝ่ายด้วย แต่ถ้าเค้ารับได้  ก็ดีเลยค่ะ   เป็นกำลังใจให้ จขกท. นะคะ  ^______________^ จากคุณ : make-up addicted เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 21:40:21

ความคิดเห็นที่ 30 ถ้าเรารักเค้ามากพอ....เราว่าเรารับได้นะ แต่คงจะไม่แต่งงานกับเค้า เพราะอนาคตตรงนั้นมันไม่มี มากที่สุดก็ได้แค่เป็นกำลังใจให้เค้าแล้วก็ดูแลเค้าให้ดี ถ้าเราเป็น จขกท. เราอาจจะไม่บอกนะ เพราะอย่างที่ว่ามาแหละ กลัวเค้าจะไปบอกคนอื่นด้วย แต่ถ้ารู้จักกันจนถึงขั้นไว้ใจได้ ก็คงต้องบอก... เพราะมันคือความจริง ยังไงก็...โชคดีนะคะ :] จากคุณ : fern-eva เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 23:24:53

ความคิดเห็นที่ 31 เหมือนกันกับ คห.8 ทุกกรณี ถ้ารู้ว่าคนที่ติดเชื้อ คงไม่สามารถแต่งงานและอยู่กินกับเค้าได้ แต่ยังคงรักและจะคอยดูแลเป็นเพื่อนจะไม่ทิ้งเค้าไปแน่นอน และมั่นใจว่าตัวเองจะเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดอย่างแน่นอน จากคุณ : nuchnanuch เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 53 00:00:40

ความคิดเห็นที่ 32 มันขึ้นอยู่กับ จขกท. ค่ะ ว่าจะเลือกแบบไหนระหว่าง 1) จูงมือเดินไปพร้อมกับเขาจนวาระสุดท้าย 2) มองดูเขาจนถึงวาระสุดท้าย จะเลือกข้อไหน คุณก็ไม่ผิด นะคะ เพราะคุณมีสิทธิที่จะเลือกกำหนดอนาคตตนเอง แต่ถ้าเป็นหนู จะเลือก ข้อ 1) ค่ะ "ร่วมทุกข์ ร่วมสุข" "ไปด้วยกัน" จากคุณ : 234 เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 53 00:20:15 A:1.46.69.20 X: TicketID:288777

ความคิดเห็นที่ 33 1. กรณีถ้าเพิ่งคบกันเป็นแฟน อยู่แค่ในขั้น "ชอบ" ไม่ได้รักมากมาย ก็จะไม่คาดหวังจะมีครอบครัวด้วย เพราะผู้หญิงหนิคะ ก็อยากมีลูก อยากมีครอบครัว แต่ไม่อยากทำร้ายลูก ก็จะลดระดับเป็นแค่เพื่อน (อาจใจร้ายหน่อยนะคะ) 2. กรณีที่คบเป็นเพื่อนอยู่นาน แล้วรู้สึกว่าเป็นเพื่อนที่ดี จริงใจต่อกัน ต่อให้รู้ว่าเป็นเอดส์ ก็จะเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แถมจะช่วยเหลือด้วย 3. กรณีที่คบกัน รักกัน รู้สึกอยากแต่งงานด้วย แต่มารู้ว่าเป็นเอดส์ซะก่อน ก็จะดูว่าเขาติดเอดส์มาจากไหน ถ้าจากการสำส่อน เคยมีอะไรกับคนอื่น ก็บ๊ายบายค่ะ แต่ ถ้ามาจากการไม่ได้ตั้งใจ เช่น ติดจากมารดา ก็สามารถอยู่ด้วยกัน แต่งงานกันได้ค่ะ ถึงจะไม่มีลูกก็รับได้ ถ้ารักมากก็จะไปทำหมันก่อนแล้วค่อยแต่งค่ะ สรุปนะคะ ถ้าเป็นคนดี รักเดียวใจเดียว ซื่อสัตย์กับคนรัก ยังไงก็อยุ่ด้วยค่ะ จากคุณ : SomJaa (BigSom) เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 53 01:47:15

ความคิดเห็นที่ 34 รู้เลยค่ะว่าเจ้าของกระทู้รู้สึกแย่มากๆ เหมือนตัวเองถูกสาปให้ตายทั้งเป็น เราเองเคยเจอครั้งนึงในรอบชีวิตคู่ที่แต่งงานกันมาสิบปี ตอนนั้นเราอยู่กันมาได้ประมาณ 3 ปีละ ตื่นเช้ามาเค้าตัวร้อน เป็นเม็ดๆสีม่วงเท่านิ้วโป้ง นิ้วนาง ขึ้นตามตัว ริมฝีปากเป็นฝ้า ไข้ขึ้นสูง ไปทำงานไม่ได้ เราก็คอยหาข้าวแล้วแวะไปดูช่วงเที่ยง อดไม่ได้ที่จะเข้าไปกอดเค้าแล้วปลอบว่า "ไม่เป็นไรนะ หนูไม่ทิ้งพี่หรอก เราจะสู้ไปด้วยกัน ไม่ต้องคิดมากนะ" เค้าปล่อยให้เรากอด นิ่ง ไม่พูดจาอะไร เย็นนั้นเราสุดทน เพราะริมฝีปากเค้าเริ่มแตกและเป็นแผลแล้ว เราเดินไปหาร้านยาร้านเดิมที่ไปมาเมื่อวันก่อนเพื่อซื้อยาให้เค้าอย่างหดหู่ "พี่คะ แฟนหนูไม่รู้เป็นอะไร ไข้ขึ้นสูง มีตุ่มม่วงๆขึ้นตามตัว ปากเป็นฝ้า" พี่ที่ขายยาคนเดิมจำเราได้ "น้องที่เคยมาซื้อยาเมื่อวันก่อนใช่ไหม? ตอนนี้เค้าเป็นยังไงบ้าง หยุดกินยาหรือยัง?!" พี่เค้าถามอย่างร้อนใจ "ทำไมคะ?" เรางง "ก็ไอ้อาการที่ว่าน่ะ มันแพ้ยาเพนนิสซลินน่ะซิ หยุดกินทันทีนะ ถ้ากินต่อจะชักแล้วโคม่าได้" .........ความรู้สึกตอนนั้นทั้งอยากบีบคอเภสัชและอยากขอบคุณในขณะเดียวกัน -*- สรุปว่าโล่งไป..ไม่ใช่เอดส์ แต่ความรู้สึกตอนนั้นมันสิ้นหวังจริงๆค่ะ มันเหมือนโลกทั้งโลกมืดลงทันที มองไม่เห็นหนทางอะไร อนาคตสดใสอะไรในทางข้างหน้า ชีวิตคู่ พอรักกันมากก็เริ่มอยากมีลูก มีโซ่ทองคล้องใจ แต่ตอนนั้นมันตื้อ และสิ้นหวังไปหมด ร้องไห้ไม่ออก จุกอกบอกไม่ถูก สงสารแฟนก็สงสาร โกรธก็โกรธเพราะคิดว่าแอบไปนอกใจ แต่มันมาถึงตอนนี้แล้วทำไงได้ ก็เลยคิดไปว่ายังไงก็จะกอดคอตายไปด้วยกัน ยังไง ก็เป็นกำลังใจให้ จขกท.นะคะ เชื่อว่าคุณเป็นคนดี ที่ไม่เห็นแก่ตัวก็เลยต้องคิดหนักอย่างนี้ และเราก็เชื่อว่าคุณจะได้เจอคนดีๆที่เค้าเข้าใจคุณค่ะ จากคุณ : Lovely Creature เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 53 08:08:05

ความคิดเห็นที่ 35 เอาตามความรู้สึกเรานะ ถ้าเราเป็นเราจะบอกก่อน ถ้าเค้ารับได้เค้าจะคบกับเราเอง แต่ถ้าเราไม่เป็นแล้วคนที่จะมาคบเป็นแต่ไม่บอก มันคือการโดนหลอกสำหรับเรา จากคุณ : หัวใจใส่ชุดนักเรียน เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 53 08:42:49

ความคิดเห็นที่ 36 ตอนนี้ยังไม่มีแฟน แต่ถ้าคนที่เรารู้สึกดีคนนั้นมาบอกเราว่าเขามีเชื้อ HIV เราคิดว่าเราจะคบกับเขาต่อ และจะดูแลเขาจนถึงวินาทีสุดท้าย จะคอยอยู่เคียงข้างและให้กำลังใจเขายามที่เขาท้อแท้และสิ้นหวัง ถ้าเขาต้องการสิ่งเหล่านั้นจากเรา เราก็ยินดีที่จะให้เขาอย่างแน่นอน จากคุณ : ขอให้มีความสุขตลอดไปนะ เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 53 11:33:25

ความคิดเห็นที่ 37 คบต่อครับ ปกติ ไม่มีอะไรต้องกังวล เรื่องเพศสัมพันธ์ มันมีตั้งหลายวิธีครับที่ปลอดภัย หุหุ ป.ล. ใครที่แฟนเป็นเอดส์แล้วเลิกคบ   คิดหรือครับว่าไปคบคนใหม่แล้วเค้าจะไม่เป็น แล้วถ้าเค้าเป็นแล้วเค้าไม่บอกล่ะ อ้อ ไม่ต้องกลัวว่า เค้าจะตายก่อนเรา บางที คนไม่เป็น อาจตายก่อนคนเป็นเอดส์ก็ได้นะครับ เพราะคนเป็นเอดส์ ต้องไปตรวจสุขภาพสม่ำเสมอ ในขณะที่คนไม่เป็นบางคนไม่เคยไปตรวจสุขภาพเลย จากคุณ : mie-mien เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 53 12:48:00

ความคิดเห็นที่ 38 มาให้กำลังใจค่ะ สู้ๆ จากคุณ : amaompom เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 53 12:54:10

ความคิดเห็นที่ 39 อ้อ จะบอกว่า "อย่าบอกใครเด็ดขาด ถ้าไม่ได้รักกันจริงๆ" คุณถามว่า ควรบอกตั้งแต่คิดจะเริ่มคบกันเลยหรือเปล่า คำตอบคือ "ไม่" ครับ เพราะเค้าอาจจะเอาไปโพนทะนาก็ได้ เราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าใครคิดกับเรายังไงครับ และอย่าพยายามหาคนรัก แต่ถ้ามันมีเองก็ปล่อยไปตามธรรมชาติครับ และจะบอกกันต้องแน่ใจว่าเค้ารักเราจริงๆ ต้องการ "ร่วมทุกข์ร่วมสุข" กับเราจริงๆ จากคุณ : mie-mien เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 53 12:56:27

ความคิดเห็นที่ 40 แรกๆที่ยังไม่รัก ก็ไม่คบต่อแต่ไม่รังเกียจ จะอยากเป็นเพื่อนมากกว่า แต่ถ้ารักไปแล้ว ก็จะดูแลต่อไปค่ะ แฟนเพื่อนเรา แข็งแรงดีแต่ตายก่อนคนเป็นเอดส์ เพราะรถคว่ำ ชีวิตไม่แน่นอนค่ะ คิดมาก->แก่ง่าย->ตายยาก ลอกเค๊ามา ดูขำๆแต่ชอบมากเลย เป็นกำลังใจได้ดี อย่าแพร่เชื้อต่อนะคะ จากคุณ : hot pink hana เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 53 13:46:04

ความคิดเห็นที่ 41 เอาจริงๆ เลยนะ ถ้าพึ่งป็นแฟน- คงเลิกคบ  เพราะเราต้องการอนาคต  ครอบครัวอบอุ่นมีลูก  อยู่ด้วยกันจนแก่  แต่คงเป็นเพื่อนได้  จะช่วยเหลือ ไม่รังเกียจ ถ้าคบนานแล้วยังไม่ได้แต่งงาน - อาจคบหรือไม่คบ  ดูว่าเรารักเค้ามากแค่ไหน  เค้าติดจากอะไร  ถ้าติดจากการไปเที่ยว ผญ. คงเลิก  แต่คงเสียใจสุดๆ แต่งงานไปแล้ว - คงอยากฆ่ามันให้ตายไปก่อนโรคเลยค่ะ   คงประคับประคองตัวเอง  ทานยา แต่เราไม่ให้อภัยนะ  คงเลิกกันไปเลย  คนรักแบบไหน ทำร้ายกันได้ขนาดนี้  เห็นแก่ตัวชัดๆ จากคุณ : mawantha เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 53 15:27:44

ความคิดเห็นที่ 42 ผมเป็นคนนึงที่ได้รับเชื้อครับ แล้วก็ตัดสินใจที่จะบอกกับคนที่ผมรัก เหตุที่บอกเพราะคิดอยู่นานว่าจะขอเลิกกับเค้า ด้วยเหตุผลอื่นๆที่โกหกขึ้นเอง(เพราะผมรักเค้า แค่คิดว่าเค้าต้องคบกับเราต่อ ไม่ว่าเค้าจะรู้หรือไม่ ก็รู้สึกผิดแล้วครับ) แต่คิดอีกทีถ้าจะเลิกอยู่แล้วก็ขอบอกเถอะ เพราะรักจริงๆครับ ไม่อยากปิดบังอะไรเค้าแม้ว่ามันจะต้องเสียเค้าไปก็ตาม แล้วผลที่เกิดขึ้นก็คือ เค้าค่อยๆหายไปจากชีวิตผมครับ เสียใจมั๊ย? เสียใจครับที่เสียเค้าไป แต่ไม่โกรธครับ สิทธิ์ของเค้า เราเลือกที่จะบอก และเค้าเลือกที่จะไป เป็นกำลังใจให้ผู้ติดเชื้อนะครับ จากคุณ : 25August เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 53 20:38:03 A:172.16.2.124 X:118.175.78.191 TicketID:298516

ความคิดเห็นที่ 43 ผมคงเลือกที่จะไปครับ แต่ยังยินดีคบเป็นเพื่อน สนับสนุนช่วยเหลือเท่าที่ทำได้ไม่เดือดร้อน แต่ยอมรับว่าผมรักตัวเองมากกว่า ผมไม่ยอมมามีความเสี่ยงด้วยการเป็นแฟนด้วยแน่ๆ (ว่าไปนั่น ชาตินี้ยังหาแฟนไม่ได้แล้วก็ไม่ได้แน่ๆด้วย เพราะงั้นจริงๆแล้วปัญหานี้มาไม่ถึงผมหรอก) จากคุณ : Chineseman เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 53 22:15:56

ความคิดเห็นที่ 44 ในความเห็นของผม ผมบอกนะ ถ้ารักกันจริง เพราะคนแต่ละคน ต่างก็อยากมีคู่ชีวิต และไม่เพียงเท่านั้น อยากสืบพันธุ์(ไม่ได้หมายถึงมีเพศสัมพันธุ์นะครับ) ถ้ารู้อยู่แล้วว่า คนที่คบอยู่ สืบพันธุ์ไม่ได้ จะคบต่อดีหรือเปล่า เช่น เป็นกระเทยแปลง เป็นหมัน จากคุณ : โลหการ4 เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 53 23:55:21

ความคิดเห็นที่ 45 เห็นถึงความจริงใจ และ ความไม่เห็นแก่ตัวของคนรักที่ยอมบอกความจริง เราไม่กล้าทำร้ายจิตใจเค้าเพิ่มเติมให้ทุกข์ไปกว่าเก่าหรอก ยังคงคบและ ให้กำลังใจต่อไป พาไปวัดไปปฎิบัติธรรม คบให้เหนือคนรักขึ้นไป คือ ให้เป็นเหมือนเพื่อน เหมือนพี่ เหมือนน้อง จนเลยเรื่องราคะไป เป็นคู่ธรรมก็นับว่าช่วยให้เค้า มีชีวิตที่ดีกว่าตอนไม่เป็นซะอีก คนแบบเนี่ยกล้ารับความจริงไม่ทำร้ายเราหรอก คบได้ เค้ารู้อยู่แล้วว่าชีวิต ที่เหลือมีโอกาสน้อย เราก็ชวนเค้าทำแต่เรื่องที่ดี ที่เป็นบุญซะเลย ชีวิตที่ เหลือหาความสุขได้ วิบากทางกายก็รับไปแต่ใจมีความสุข เพราะเรายังคบ กันอยู่ ไม่ได้ทิ้งเคาไปยามนี้ จากคุณ : จันทรามาเต็มดวง เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 53 14:05:18

ความคิดเห็นที่ 46 ถ้าเป็นเรา เราจะขอบคุณเค้ามากๆที่บอก เพราะแสดงว่าเค้ารักเราจริง ไม่เห็นแก่ตัวเอาความสุขของตัวเองเป็นที่ตั้ง หลังจากนั้น ก็คงอยู่ข้างๆเค้าต่อไป หากเพิ่งคบกันไม่นาน ก็คงอยู่ในฐานะเพื่อน ช่วยกันดูแลกันต่อไป ให้รู้ว่าอย่างน้อยเค้าก็มีเราอยู่ด้วย แต่ถ้าคบมานาน คาดหวังจะใช้ชีวิตร่วมกับเค้า ก็คงรักเค้าต่อไปนั่นแหละค่ะ ถ้าเค้าไม่ได้นอกใจเราแล้วติดโรคมานะ 55 สุดท้ายนี้ เป็นกำลังใจให้จขกท นะคะ ชีวิตต้องสู้ต่อไปค่ะ :) จากคุณ : TaCHiMiMi* เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 53 17:21:49

ความคิดเห็นที่ 47 ขอใช้พี้นที่สื่อกลางตรงนี้บอกว่า จขกท.น่ายกย่อง  การที่เราคิดจะทำอะไรใ้ห้คนที่เรารัก ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี  ผมว่าควรบอกเค้านะครับ  แต่ว่าจะคบกันต่อหรือไม่นั้นก็คงต้องเคารพการตัด สินใจของเค้าด้วยเพราะเรื่องแบบนี้มันประกอบด้วยหลายอย่างจะเอาแค่เราสองคนรักกันคงไม่ ได้ต้องมีองค์ประกอบอื่นร่วมด้วย แต่ไงก็ขอเป็นกำลังใจให้  จขกท. ด้วยละกัน จากคุณ : ทำเพราะรัก (ผู้ชายรักกัน) เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 53 11:00:06

ความคิดเห็นที่ 48 มาให้กำลัง จขกท ครับ สู้ ๆครับ ชีวิตไม่สิ้นก็ต้องดิ้นกันไป อนาคตเรากำหนด ปัจจุับันต้องอยู่กับมันให้ได้ ทำให้ดีที่สุด เส้นทางที่มีคนเคียงข้าง กับเส้นทางที่โดดเดียว เืลือกเอาคับ จากคุณ : rambleszaa เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 53 04:37:42

ความคิดเห็นที่ 49 สู้ๆนะ ถ้าเป็นเรา รักไปแล้วคงทิ้งไม่ลงอะ ดีถึงขนาดสารภาพแล้ว จากคุณ : yongiee เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 53 04:30:25

ความคิดเห็นที่ 50 ขอแบ่งเป็น 2 ประเด็น ถ้าแค่แฟน  เราคงเลิกอะ แบบว่า...บอกตรงๆว่ากลัว แต่ถ้าแต่งงานกันแล้วมาเป็นทีหลัง(แต่ไม่ใช่จากที่ไปนอกใจเรานะ)  อันนี้อยู่ต่อค่ะ  เพราะร่วมทุกข์ร่ามสุขกันมาแล้ว  เลือกมาแล้ว  ไงก็ต้องอยู่เป็นกำลังใจให้กันและกัน จากคุณ : Anonym เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 53 22:22:54

ความคิดเห็นที่ 51 ผมว่าอาจจะเหมือนคนหน้าตาไม่ดี หาแฟน หรือคนรู้ใจยากสักหน่อย แต่คงหาได้ครับ หรืออาจเป็นคนดีที่ประสพชะตาเดียวกับคุณ ได้ดูแลซึ่งกันและกัน เข้าอกเข้าใจกัน ผมว่าก็เป็นทางเลือกได้นะครับ แต่สิ่งที่คุณควรทำที่สุดคืออย่าไปทำร้ายคนอื่นครับ ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ โดยเฉพาะคนที่คุณรัก จากคุณ : Thanasan (sthanasan) เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 54 08:38:14