ความคิดเห็นที่ 1 การรักษาโรคนี้ต้องใช้เวลา ไม่มียาหรืออาหารใดที่ยืนยันได้ชัดเจนว่าช่วยให้หายเร็วหรือหายขาดครับ ต้องรอให้ร่างกายฟื้นตัวขึ้นมาเป็นหลักครับ จากคุณ : Kawpod เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 53 23:14:57

ความคิดเห็นที่ 2 พ่อผมก็เป็นมาครบ 1 ปี ท่านอายุ 80 ปี นอกจากจะเดินไม่ได้ สมองส่วนภาษาถูกทำลายด้วย ทำให้ไม่สามารถสื่สารได้ ต่อมาได้ไปเข้ารับกายภาพบำบัดที่สถาบันสิรินธร กระทรวงสาธารณสุข แต่ก็ไม่ดีขึ้น ทั้งนี้เพราะท่านไม่มีแรงจูงใจ บวกกับอายุมากขึ้น ต่อมามีเพื่อนมาแนะนำให้ใช้ PROARGI-9 ที่มีสาร L-ARGININE ที่ช่วยละลายการอุดตันของเส้นเลือด ซึ่งต่อมาประมาณ 3 เดือน พ่อผมดีขึ้นเรื่องการสื่อสาร การกลืนอาหาร การลุกขึ้นนั่งเอง การตักกินเอง เข้าใจสิ่งที่เราสื่อสาร แต่ท่านพูดไม่ได้ คุณหมดบอกว่า สมองส่วนภาษาท่านถูกทำลายหมด รื้อไม่ได้แล้ว ส่วนร่างกายท่านแข็งแรงดีมาก แต่ท่านไม่ยอมบริหารร่างกาย ก็เลยพอใจกับการนั่งรถเข็น โรคนี้เกิดจาการอุดตันของหลอดเลือด ดังนั้นต้องแก้ไขเรื่องนี้ก่อนครับ เพื่อให้สมองท่านมีเลือดไปหล่อเลี้ยง และสมองจะสั่งร่างกายได้ แต่สุดท้ายด้วยวัยของท่าน ก็อยู่ที่แรงจูงใจท่านจะยอมบริหารร่างกายหรือไม่ เพราะท่านจะเจ็บ เหมือนกับเราออกกำลังกายเพื่อให้แข็งแรง เรายังขี้เกียจเลย  อย่างพ่อผม ผมก็พอใจแค่นี้แล้วที่ท่านตักอาหารกินเองได้ ฟังเรารู้เรื่อง ลุกขึ้นลงจากเตียงมารถเข็นเองได้ แค่ไม่ยอมเดินเท่านั้น และร่างกายท่านแข็งแรงมาก ท่านไม่เคยเจ็บป่วยเล็กน้อยเลย ทั้งนี้เพราะอาหารเสริมที่ท่านได้ทานเข้าไปจริง ๆ อาหารเสริมนี้ได้รางวัลโนเบล เรื่องการแก้ไขการอุดตันของหลอดเลือด http://proargi9team.com/larginine-no-proargi9.htm จากคุณ : พล รังสิต เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 53 23:20:57

ความคิดเห็นที่ 3 เข้าใจความรู้สึกดีครับ เพราะพ่อผมก็เป็นครับ อยากจะบอกว่า โรคนี้ต้องใช้เวลา ความใส่ใจ และ ความสม่ำเสมอครับ คือต้องดูแลอย่างสม่ำเสมอ ถึงจะ ดีขึ้นครับ 1 พาไปหาหมอตามที่หมอนัดครับ 2 ทำกายภาพให้เยอะที่สุดเท่าที่จะทำได้ 3 ให้ความรักและการดูแลอย่างใกล้ชิดที่สุดเท่าที่จะทำได้ 4 ให้กำลังใจเยอะๆครับ ทั้งกับตัวคุณพ่อและคนที่ดูแลคุณพ่อ เพราะว่าจะเครียดมากทั้งคนป่วยและคนดูแล 5 อย่าท้อครับ สู้ ปล ยาจีน คือจะบอกว่า ถ้าอาการเป็นที่สมอง เช่น สมองฝ่อหรือเสื่อม(อันนี้พ่อผมเป็น ) ถ้าเป็นอาการแบบนี้ไม่แนะให้กินยาจีน เพราะว่า สมองที่เสียไปจะไม่ดีขึ้น(หมอบอกมา)แต่ถ้าเป็นที่เส้นตามร่างกาย จะมีพวกหมอนวดจับเส้น เก่งๆจะช่วยได้ครับ พ่อผม 6 เดือน พอจะขยับได้บ้าง 1 ปีถึงพอจะลุก เดินได้บ้างครับ ขอให้คุณสู้นะครับ อย่ายอมแพ้  มีกำลังใจมากๆนะ ขอให้พ่อคุณหายไวไวครับ จากคุณ : จัดไป เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 53 23:41:11

ความคิดเห็นที่ 4 แบบจริงๆเลยน่ะครับ สมองส่วนที่ขาดเลือดถึงจุดที่ cell ตายแล้วจะไม่พื้นอีก แน่นอน แต่ส่วนอื่นๆบริเวณใกล้เคียงที่ยังไม่ตาย อาจทำงานชดเชยกันได้บ้าง ขึ้นกับหลายปัจจัย ปกติใช้เวลาเป็นเดือนกว่าจะเห็นผล ทำให้บางคนไปกินยาบ้าอะไรไม่รู้แล้วคิดไปเองว่าดีขึ้นเพราะยาตัวนั้น ตอนนี้การรักษา stroke ที่ได้ผลชัดเจนว่าลดอาการได้ คือ การให้ thrombolytic เพื่อ safe ischemic penumbra ใน acute ischemic stroke ใช้ technical term เผื่อคุณจะไป search เพิ่ม จากคุณ : no preservation เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 53 00:26:33

ความคิดเห็นที่ 5 เห็นมีหลายคนไปอาบน้ำแร่แช่น้ำร้อนที่วัดวังขนายแล้วค่อยยังชั่ว ทางวัดจัดพักและอาหารให้ ได้จากกองทุนที่รับบริจาคครับ http://www.watwangkhanai.com/ จากคุณ : ท.ทหารอดทน เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 53 08:59:13

ความคิดเห็นที่ 6 ไม่ชอบเรื่องโฆษณาขายสินค้าหรือหาประโยชน์ดังเช่น จขกท.ว่ามา ขออนุญาตเล่าประสบการณ์จริงที่ผ่านมาหมาดๆ ขอย้ำว่าไม่ได้โฆษณาใดๆ เพราะเป็นข้าราชการ ไม่ได้มีอาชีพนักธุรกิจเครือข่ายใดๆ 1.ด้วยสภาพการทำงานเอกสาร พิมพ์ๆ เขียนๆ จึงมีอาการนิ้วล็อค มือขวา นิ้วกลาง และนาง เป็นมานานมาก กินวิตะมินบีรวม นวดจับเส้น กับหมอที่ใครๆ ก็ว่าเก่ง ได้ผล เจ็บมากๆ ทนทำไปหวังว่าจะดีขึ้น หมดเงินไปมากอยู่ ก็ไม่ดีขึ้น ยอมผ่าอาการก็หายเป็นปลิดทิ้ง แต่อีกข้างล็อคเฉพาะนิ้วกลาง ตอนตื่นนอนใหม่ๆ พอขยับก็จะหาย ยังไม่อยากผ่าเพราะเพิ่งลางานมาร่วม 15 วัน เกรงใจเจ้านาย พอมีคนแนะนำอาหารเสริม ชงกินวันละ 2 เวลา เช้า เย็น ได้ประมาณ 1 เดือนอาการล็อคหายไป เหลือแค่ตึงๆ 2. อาหารเสริมลดน้ำหนัก (เป็นอาหารจริงๆ มีหลากหลายให้เลือก (กินเต็มคอรส และออกกำลังกายด้วย)ก็ได้ผลภายใน 5 สัปดาห์ ก็ลดได้จริง จาก 73 เหลือ 60 โล ขอเป็นกำลังใจให้สู้ๆ ต่อไปค่ะ ท่านทำเพื่อลูก ถึงเวลาที่เราต้องดูแลท่านตอบนะคะ จากคุณ : ข้าราชการจนๆ เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 53 09:25:01 A:202.28.245.121 X: TicketID:214610

ความคิดเห็นที่ 7 แนะนำฝังเข็มค่ะ พี่ของเพื่อน เส้นประสาทกดทับจนแขนลีบ หมอบอกว่า รักษาไม่ได้ เค้าไปฝังเข็มจนหาย ตอนนี้ล่ำเหมือนเดิมแล้ว ตอนไปฝังเข็มเห็นคนเป็นอัมพฤกษ์มาฝังกันเยอะ รักษากันมาจนหายแล้วหลายราย แนะนำ รพ.หัวเฉียว นะคะ ถ้าไม่ได้อยู่ กท. ลองหาดู ตามรพ.ใหญ่ หลายที่มีแผนกฝังเข็มแล้ว ด้วยความปรารถนาดีจากใจจริง ขอให้อาการดีวันดีคืนนะคะ อ้อ จะบอกว่า การฝังเข็มเป็นการไปกระตุ้นที่เส้นประสาทโดยตรง โดยไม่ต้องกินยา จึงมีผลดีกับโรคประเภทนี้มาก เป็นกำลังใจให้นะคะ จากคุณ : ส้มสีส้ม เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 53 09:35:04

ความคิดเห็นที่ 8 ยายเราเคยเป็นอัมพาต   เดินไม่ได้เลย ทำกายภาพบ่อยๆ  มีนวดประคบสมุนไพรประจำ   จนเดินได้ แบบมีไม้เท้าช่วยค่ะ ยังไง ต้องเอาใจใส่คนไข้ที่เป็นโรคนี้ มากๆ นะคะ   เพราะจะเกิดแผลกดทับได้ง่าย จากคุณ : ตากลมแก้มป่อง เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 53 11:04:53

ความคิดเห็นที่ 9 ปล. กายภาพ ทำเสริม ที่บ้าน ด้วยนะคะ  ไม่ใช่แค่ไปทำที่ รพ. กำลังใจผู้ป่วยก็สำคัญค่ะ จากคุณ : ตากลมแก้มป่อง เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 53 11:06:00

ความคิดเห็นที่ 10 พาไปที่รวมบุญคลีนิคค่ะ รักษาฟรี แนะนำค่ะ จากคุณ : นกพญาไฟตัวอ้วน (นกพญาไฟตัวอ้วน) เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 53 14:57:30

ความคิดเห็นที่ 11 ลองอ่านดูนะครับ .. โรคเส้นเลือดสมองตีบ http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=cmu2807&month=04-03-2008&group=4&gblog=21 อัมพาตเป็นแล้วรักษาหายหรือไม่ http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=cmu2807&date=24-05-2008&group=4&gblog=39 จากคุณ : หมอหมู เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 53 19:40:22

ความคิดเห็นที่ 12 คนไข้จะดีขึ้นหรือไม่ ขึ้นอยู่กับทางบ้านด้วยน่ะ ในรายผู้ป่วยกลับบ้านได้ เวลาทำกายภาพ นักกายภาพจะสอนการดูแลผู้ป่วยที่บ้านให้ รวมถึงท่าออกกำลังกาย การยืดกล้ามเนื้อ หรือ ท่าทางที่ญาติต้องช่วยผู้ป่วยในการทำกิจกรรมต่างๆ ถ้าญาติไม่ให้ความร่วมมือ ขี้เกียจทำ ทำบ้างไม่ทำบ้าง เกี่ยงกัน หรือ ตัวผู้ป่วยเองไม่ให้ความร่วมมือ ก็ไม่มีทางดีขึ้นอย่างไวนะคะ ยิ่งปล่อยกล้ามเนื้อไว้เฉยๆไม่ขยับไม่ยืด มันก็จะยิ่งแข็ง ข้อก็จะยิ่งติด แถมไม่มีทางจะฟื้นให้มีแรงได้ไว ถ้ากล้ามเืนื้อหดรั้ง ข้อติด ไม่มีแรง ก็ไม่สามารถจะเดินจะหยิบจับอะไรได้ ปัจจัยต่างๆเหล่านี้ ต้องพึ่งญาติอย่างเดียวเลยในการออกกำลังกายยืดกล้ามเนื้อ เพราะผู้ป่วยทำเองไม่ได้ ถ้าญาติไม่ทำ ผู้ป่วยก็ไม่ดีขึ้น เพราะไปทำกายภาพที่โรงพยาบาล ถ้าไปทุกวัน อย่างมากก็ไม่เกิน 4 ชั่วโมง นอกนั้นอีก 20 ชั่วโมงคือผู้ป่วยอยู่ที่บ้านกับญาติ ถ้าอยู่บ้านแล้วไม่ทำอะไรเลย ก็จะมีแต่ถอยหลังย่ำอยู่ที่เดิมไม่ดีขึ้น  เพราะทางบ้านต้องร่วมมือ ผู้ป่วยต้องร่วมมือ ถึงจะพัฒนาขึ้น แต่ถ้าไม่ได้ไปทำกายภาพทุกวัน แล้วอยู่บ้านก็ไม่ทำอีก อันนี้ยิ่งแย่ใหญ่ จะไม่มีทางพัฒนาได้ อันนี้ต้องพยายามทำความเข้าใจด้วย ถ้าผู้ป่วยยังคงอยู่ที่โรงพยาบาล เวลาไปทำกายภาพ ญาติก็ควรไปด้วยเพื่อไปดูวิธีว่าเราต้องทำอะไรบ้างถ้าผู้ป่วยกลับบ้านไป  ถือว่าเพิ่งเริ่มต้น อย่าเพิ่งใจร้อน โรคที่เกี่ยวกับสมองทุกอย่าง ต้องใช้เวลา หายเร็วหรือไม่นั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับว่า สมองถูกทำลายไปเท่าไหร่ด้วย ประกอบกับความร่วมมือของญาติและผู้ป่วย จากคุณ : Yoja&Jiji เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 53 21:08:36

ความคิดเห็นที่ 13 ขอให้อดทนครับ... โรคนี้ สามารถทำให้ ผู้ป่วยอย่างดีที่สุดแค่อาจจะเหมือนเดิมได้แต่ไม่ 100% นะครับ ต้องทำใจ และใช้เวลา การกายภาพเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างที่สุด และพยายามให้กำลังใจ เป็นดีที่สุดครับ ส่วนในการกายภาพนั้น ควรจะศึกษาเองบ้าง ก็จะดีครับ จะได้ไม่ต้องพา ไปหาที่กายภาพบ่อยๆ จากการที่จะพาไป รพ. เพื่อกายภาพ ก็เปลี่ยนสถานที่ เพื่อจะรับ อากาศบริสุทธิ์ จะดีที่สุดกว่าครับ ขอย้ำว่าต้องอดทนนะครับ ทั้งคนดูแล และ ผู้ป่วย พยายามให้กำลังใจซึ่งกันและกัน เป็นดีที่สุดครับ ขอให้หายเร็วๆ บุญรักษาพระคุ้มครอง นะครับ จากคุณ : มือมีด เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 53 23:47:28

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณในความกรุณาของทุกคำแนะนำค่ะ  .. ล่าสุด เมื่อวานทราบว่า  ไปต่อแถวเข้าคิวที่จังหวัดสุพรรณ  ขับไปรอตั้งแต่ ตี3 เขาว่ารับวันละแค่ 60 คน ได้ตรวจตอนเกือบ 8 โมงเช้า คิวที่ 26  หมอเป็นผู้หญิงบอกว่า อาการปล่อยมาถึง ปี แล้ว ไม่รับรักษา ToT จากคุณ : กีตาร์หมาน้อย เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 53 02:07:59