ความคิดเห็นที่ 1 ยาพื้นๆขององค์การเภสัช  เราว่าโอเคนะ  อต่รอเภสัชกรตัวจริงมาตอบดีกว่าเนอะ จากคุณ : nuch_tre เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 20:56:59

ความคิดเห็นที่ 2 ในกระบวนการผลิตยา ย่อมมีการควบคุมคุณภาพครับ และมีมาตรฐานตามหลักสากล ทั้งความแข็งของเม็ดยา การแตกตัว การกระจายยา (หลังจากแตกตัวแล้ว) สิ่งต่างๆเหล่านี้ต้องผ่านการวิเคราะห์ครับ ดังนั้น อ้างอิงตามมาตรฐานแล้ว ทุกบริษัทที่ผลิต ต้องผ่านหมดครับ แต่ที่ราคาแตกต่างกัน ก็ขึ้นกับหลายๆปัจจัยครับ เช่น ต้นทุนของการผลิต ค่าอุปกรณ์การผลิต การโฆษณา ฯลฯ แต่ปัญหาของการวิเคราะห์แบบนี้คือ ทำได้แค่การทดลองภายนอกร่างกาย เมื่อนำไปใช้จริงกับคน อาจจะไม่ได้ผลตรงตามที่ทดลอง จึงทำให้หลายคนบอกว่า ใช้แล้วไม่หาย ทั้งนี้ ก็ขึ้นกับชนิดของโรค และการตอบสนองทางยาของผู้ป่วยแต่ละคนด้วยครับ โรคแบบเดียวกัน (สมมติว่า ปวดหัวธรรมดาๆ ไม่มีอะไรแทรกซ้อน) บางคนทานยาก็หาย บางคนก็ไม่หาย ดังนั้นจึงตอบได้ยากว่าเกิดจากสาเหตุใด อีกเหตุผลหนึ่ง ขึ้นกับประสบการณ์คนขายด้วย สมมติ จ่ายยาไป 10 เจอลูกค้ากลับมาบ่นสัก 3-4 คน ก็ทำให้เริ่มมีอคติว่า ยานี้ไม่ดี เป็นต้น สำหรับความคิดผม ยาที่วางขายตามร้านยา ผ่านการตรวจสอบคุณภาพแล้วครับ แต่ที่หายหรืออาการดีขึ้น หรือไม่นั้น ก็มีปัจจัยอย่างที่บอก ;) จากคุณ : zh_jk เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 21:08:14

ความคิดเห็นที่ 3 ถ้าไม่ดีจะทำขายได้เหรอครับ องค์การระดับประเทศเนี่ย? จากคุณ : Kawpod เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 21:08:19

ความคิดเห็นที่ 4 เดาล้วนๆนะครับว่า ยาขององค์การเภสัชฯ จะมีปริมาณตัวยา พอที่จะผ่านมาตรฐานเท่านั้น เพื่อที่ต้นทุนจะได้ไม่สูงจนเกินไป ส่วนยาของ บ.เอกชน คงจะใส่ตัวยาให้มากกว่า เพื่อออกฤทธิ์ได้แรงกว่า ทำให้ผู่ป่วยติดใจกว่า และเข้าใจว่ายามีคุณภาพดีกว่า ของบริษัทอื่น หรือยาขององค์การเภสัช จากคุณ : หมาทอง เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 21:53:16

ความคิดเห็นที่ 5 ขนาดยาเท่ากัน แต่ พวกแป้ง คุณสมบัติ อื่นๆอาจจะไม่เท่ากัน จากคุณ : Aszaultz เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 22:33:31

ความคิดเห็นที่ 6 แล้วสรุป ยาของ องค์การเภสัชฯ ดีหรือไม่ดีครับ เท่าที่เคยฟังเภสัชตามร้านขายยา พูดเหมือนมีอคติ และองค์การเภสัชฯ มีสิทธ์ควบคุมเรื่องการขายยาหรือเปล่า เช่นยาตัวนี้ไม่ได้มาตราฐาน ไม่ได้รับอนุญาตให้ขาย ต่อให้ยานี้ในต่างประเทศเป็นที่ยอมรับกัน จากคุณ : Ch_Chang เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 23:18:16

ความคิดเห็นที่ 7 ขายยาองค์การเภสัช ไม่ดี หรอกครับ  ราคามัน  "ถูก"  ได้กำไรน้อย  สู้ยาพวกนำเข้าไม่ได้ ได้กำไรเป็นกอบเป็นกำ แถมองค์การเภสัช ยังไปตั้งร้าน GPO ตามที่ต่างๆ เองขายแข่งเสียอีก ตัวยาใส่มากกว่าก็ไม่ได้นะครับ  อันตราย ไม่ใช่ว่าดี เช่น ยาพาราเซตตามอล ขนาด 500 มิลลิกรัม 1 เม็ด  จะไปใส่ตัวยาเทียบเป็นขนาด 700 มิลลิกรัม แล้วระบุแค่ 500 มก. ก็ไม่ได้ ยาสามัญ  แก้ไข้ แก้ปวดท้อง ยาใช้ภายนอก ยาใส่แผลสด ซื้อขององค์การดีแล้ว ถูก ดี อุดหนุนไทย  ไม่ต้องไปช่วยฝรั่งรวย (มันขายยาที่ได้สิทธิบัตรแพงๆ รวยอยู่แล้ว) จากคุณ : birdeyeview เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 00:46:29

ความคิดเห็นที่ 8 ตอบความเห็นที่ 6 องค์การเภสัชกรรม ไม่มีสิทธิในการควบคุมเรื่องการขายนะครับ จากคุณ : tontonmu เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 00:54:28

ความคิดเห็นที่ 9 ตอบความเห็นที่ 4 เรื่องปริมาณยา มีกำหนดใน เภสัชตำรับตามกฏหมายครับผม ไม่สามารถเพิ่มมากว่า หรือน้อยกว่าที่กำหลดตามกฏหมายได้ครับ จากคุณ : tontonmu เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 00:56:15

ความคิดเห็นที่ 10 เพื่อยืนยันเรื่องคุณภาพนะครับผม กล่าวได้ว่า ยาที่ได้รับการขึ้นทะเบียนยาจาก องค์การอาหารและยา ถือได้ว่าเป็นยาที่คุณภาพถูกต้องตามกฏหมายครับ เนื่องจาก โรงงานผลิตก็ต้องได้มาตรฐานการผลิตตามกฏหมาย การเลือกสรรวัตถุดิบก็เป็นไปตามที่กำหนด จึงอยากใ้ห้ประชาชนโดยทั่วไปวางใจได้ครับว่า อย่างน้อยเรื่องของยา ยัง อย. เป็นส่วนรับประกันได้อย่างหนึ่งครับ ซึ่งแตกต่างจากเครื่องสำอาง จะเห็นได้ว่า ขณะนี้ เครื่องสำอาง ไม่มีเครื่องสำอางควบคุมพิเศษแล้วนะครัีบ แต่การผลิตเครื่องสำอางก็มีแต่การจดแจ้งเท่านั้น เพราะฉะนั้นหากใช้เครื่องสำอางแล้วมีปัญหา แจ้ง อย.ทันทีครับผม เพื่อที่ว่า อย.จะได้ทำการตรวจสอบแหล่ง และคุณภาพของผลิตภัณฑ์ครับ ปล. องค์การเภสัชกรรม เป็นรัฐวิสาหกิจ ที่ถือหุ้นโดยรัฐ 100% นะครับ ทั้งนี้ การใช้ยาขององค์การเภสัชกรรม ถือเป็นการช่วยชาติทั้งทางตรงและทางอ้อมครับผม ปล.2 หากข้อมูลใดผิดพลาด กราบขออภัย และช่วยแก้ไขด้วยนะครับ จากคุณ : tontonmu เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 01:02:46

ความคิดเห็นที่ 11 กำไรน้อยกว่า เซลล์ขายก็ให้ผลตอบแทนน้อยกว่า ร้านขายก็เลยเชียร์น้อยกว่า แต่ความรู้สึกของผม ยาขององค์การออกฤทธิ์ช้ากว่าจริงจริง อาจจะสูตรใครสูตรมันก็ได้ จากคุณ : คนบ้าบิต เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 09:41:36

ความคิดเห็นที่ 12 วิตามินซีของ GPO ผมก็กินนะ แต่ไม่รู้ความแตกต่างจากยี่ห้ออื่นหรอก ก็เห็นว่า เอสคอบิท แอซิด เหมือนกันนิ จากคุณ : Adore เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 10:08:06

ความคิดเห็นที่ 13 ไม่ต่างหรอกครับ ตามคห.ที่ 2, 8, 9, 10 ครับ จากคุณ : Epinephrine เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 11:23:08

ความคิดเห็นที่ 14 ที่เค้าแนะนำเพราะ 1. พนักงานขายของบริษัทยานั้นๆ ให้ส่วนลดมาก ก็เลยเชียร์ยี่ห้อนั้นก็เป็นไปได้ (เพื่อนเราอยู่บริษัทขายยา) ยิ่งขายก็ยิ่งได้กำไร(มากกว่า) มันคือการค้าขายที่กำไรต้องมาก่อน แม้แต่จะกำหนดให้วางที่ชั้นวางระดับสายตา(เพื่อให้สะดุดตาผู้บริโภค) ยังต้องจ่ายค่าวางกัน 2. ยา GPO หรือยาราคาถูกกว่า ไม่ใช่ไม่ดี ดูข้างขวดจะเป็นว่าส่วนประกอบก็จะคล้ายๆกันนั่นแหละ แต่ต่างที่ต้นทุนราคาขาย (มีค่าโฆษณาก็บวกไป) ต้นทุนการผลิต (ถ้านำเข้าก็บวกภาษีนำเข้าไป) 2. ส่วนผสม ระยะเวลาในการออกฤทธิ์ เรามักกินยาแก้ปวดยี่ห้อ ไท.... เพราะอยู่ได้นานกว่า ( 6-8 ชั่วโมง) ไม่ต้องมา 4 ชั่วโมงกินที ซึ่งแน่นอน มันแพงกว่าพาราทั่วไปแต่ก็ให้ผลเหมือนกัน คือ แก้ปวด จากคุณ : Lovely Creature เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 11:29:24

ความคิดเห็นที่ 15 ราคายา GPO ไม่ได้ถูกกว่ายาบริษัทอื่นนะครับ  จขกทก็บอกว่าเภสัชแนะนำยาอื่นที่ถูกกว่าแถมหีบห่อดีกว่าให้ ทำไมก็ไม่รู้เหมือนกันนะครับ   คิดว่า GPO ก็เป็นบริษัทๆหนึ่งเหมือนกัน ก็ต้องทำกำไรมากๆเหมือนกัน อยู่รพ.เก่า จะมีบังคับว่าต้องใช้ยา GPO เป็นเท่าไหร่ของค่ายา (ทั้งๆที่ราคายาแพงกว่าเจ้าอื่นด้วยซ้้า)   ส่วนเรื่องผลตอนแทนด้านอื่น GPO เค้าก็มี promotion เหมือนกันนะครับ เพื่อนที่เป็นหมอกระดูกบอกว่า glucosamine GPO พาไปต่างประเทศด้วยนะเออ  แปลกแต่จริง จากคุณ : xanyz เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 22:09:56

ความคิดเห็นที่ 16 เท่าที่พอจะทราบ ปลายทางหลักของการส่งยาที่ผลิตจากGPOคือโรงพยาบาล มีแค่ส่วนน้อยที่ส่งถึงผู้ป่วยโดยตรง เช่นร้านยาGPO ร้านยาอื่นๆ คลินิก ก็เป็นไปได้ว่าอาจจะมีโปรโมชั่นทางด้านนี้น้อย ดีเทลก็ไม่ค่อยมี การผลิตยาจะต้องควบคุมหลายๆอย่างให้เป็นไปตามข้อกำหนดอยู่แล้ว แต่GPOจะมีบรรจุภัณฑ์ที่ด้อยกว่า (ตามความเห็นส่วนตัว)คือรูปลักษณ์ไม่ดึงดูด ปัจจัยส่วนหนึ่งคงจะเป็นทางด้านจิตใจที่คิดไปว่าGPOไม่ดี ส่วนตัวก็ใช้ยาโรคเรื้อรังของGPOบ้าง ของยี่ห้ออื่นบ้างก็ไม่ค่อยเห็นความแตกต่าง ซึ่งโดยทั่วไปถ้ายามีความแตกต่างกันมากอาการจะกำเริบหรือรู้ตัวทันที แต่ก็ไม่เคยรู้สึกถึงความต่าง จากคุณ : กลีเซอรีน เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 53 00:24:11