ความคิดเห็นที่ 1 มีน้องที่รู้จักกันคนนึง จะมีตุ่มเริมขึ้นที่ปากทุกครั้งที่ไปกินไอศกรีมที่มีส่วนผสมของนมวัว ลองเช็คดูนะคะว่าก่อนหน้านั้นกินอะไรเข้าไป เพราะเริมจะกำเริบเมื่อร่างกายอ่อนแอค่ะ จากคุณ : ทำไมเด็กชอบเรียกตัวเองว่าหนู เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 53 13:05:53

ความคิดเห็นที่ 2 คือเริมนี้มันเป็นเชื้อไวรัสอย่างหนึ่ง ซึ่งติดต่อทางเยื่อบุอ่อนต่างๆในร่างกาย ถ้าเราได้รับเชื้อแล้ว เชื้อมันจะฝังตัวอยู่ที่เส้นประสาทตลอดไป และเมื่อไรที่ร่างกายอ่อนแอ มันจะแสดงอาการนะคะ  ฉะนั้นถ้าเราแข็งแรงเราก็จะไม่เป็นไร ลองดูนะคะ จากคุณ : ซักวันฉันจะสวยให้เธอดู เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 53 13:15:34

ความคิดเห็นที่ 3 เคยใช้ผงมังคุดพอกมั๊ยคะ....เราใช้แต้มสิวแต่มันมีสัพคุณรักเริมได้อ่ะค่ะ จากคุณ : คุ๊กกี้สีชมพู เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 53 13:34:17

ความคิดเห็นที่ 4 อดนอน เครียด มันจะออกครับ พอจะอดนอน ทานยา อะไซโคลเวียป้องกันได้ กันไวรัสขยายตัว แต่ยาแพง ไม่คุ้ม ร้านยา ที่ถูกสุด 400mg 10 เม็ด 50บาท   ทาน 2เม็ด 3เวลา น่าจะไม่ขึ้นครับ บางคนเชื่อว่าทานยามากทำให้ยุบไว จากคุณ : Retire Young เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 53 13:37:36

ความคิดเห็นที่ 5 ร่างกายอ่อนแอ เครียด/คิดมาก นอนดึก/อดนอน ฝุ่น/น้ำมูกไหลเยิ้ม มีดโกนหนวดสกปรก ทานพืชตระกูลถั่วมากเกินไป (หมอท่านนึงแจ้งมา) ส่วนผม ถ้าเป็นเริม ส่วนใหญ่มาจากสาเหตุข้างต้น ประกอบกับการ "นอนคว่ำหน้า" ครับ ผม เวลานอน ห้ามเอาหน้าถูหมอนเลยครับ ถ้าเอาหน้าถูหมอนเมื่อไหร่ เริมมักจะขึ้นบริเวณรอบปากทุกที ลองสังเกตพฤติกรรมดูครับ มันมักจะขึ้นหลังจากเราทำอะไรลงไปแหละครับ จากคุณ : Archarn Chan เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 53 13:52:34

ความคิดเห็นที่ 6 เป็นทุกครั้งที่พักผ่อนน้อยค่ะ ขึ้นอยู่กับว่าจะเป็นตรงไหน สาเหตุก็ตามที่ความเห็นบนบอกมา เชื้อมันจะอยู่กับเราตลอด อยู่ที่ว่าเราจะทำยังไงไม่ให้มันแสดงอาการค่ะ จากคุณ : ฟุมิ เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 53 14:13:32

ความคิดเห็นที่ 7 จิตใจ > ร่างกาย อ่อนแอค่ะ ผลคือ อาการกำเริบขึ้นมา ทางแก้ตาม คห.ข้างบนเลยนะคะ พักผ่อนเพียงพอ ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ทำจิตใจให้สดชื่น และ อื่นๆค๊า จากคุณ : กล้วยไส้ข้าวเหนียว เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 53 16:18:21

ความคิดเห็นที่ 8 เมื่อก่อนดิฉันจะเป็นก่อนมีประจำเดือน ดื่มนมเปรี้ยวแบบยาคูลท์ก่อนประจำเดือนมาค่ะ ไม่ทราบว่ารู้สึกไปเองรึเปล่า แต่ไม่เคยเป็นอีกเลย จากคุณ : richly @ money เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 53 18:30:20

ความคิดเห็นที่ 9 ใช้ทั้งยาทาและยากินค่ะ แต่ส่วนมากพอเริ่มๆจะเป็น ก็ทายาไว้ก่อนเลย ไม่ต้องรอให้เป็นตุ่มใสๆ แค่รู้สึกว่าจะเป็นก็ทาเลยค่ะ จะได้ไม่เป็นเยอะ จากคุณ : โซ้ยซิ่ม เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 53 20:52:29

ความคิดเห็นที่ 10 Confirm ถ้าพักผ่อนน้อย ร่างกายอ่อนแอ มันก็จะออกมา พอนานหลายๆปีมันก็จะไม่รุนแรงเหมือนเป็นครั้งแรกๆ พักผ่อนให้เพียงพอครับ ง่ายที่สุด... จากคุณ : คนอุดมเดชครับ เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 53 21:34:20

ความคิดเห็นที่ 11 เชื้อนี้มันอยู่ในร่างกายเรานี่แหละ ถ้าร่างกายอ่อนแอให้มันรู้เมื่อไร มันจะเริ่มก่อม็อบทันที จากคุณ : eyepiece เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 53 21:35:02

ความคิดเห็นที่ 12 เป็นเริมให้กินวิตามินซีแบบชีวภาพครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหาร + ก่อนนอน หาครีมเสลดพังพอน มาทา รับรองว่าหายอย่างรวดเร็ว หายแล้วหมั่นออกกำลังกายมั่งแล้วกินวิตามินซีทุกวันอย่างน้อยวันละ 1 เม็ด เริมไม่มากวนใจแน่นอน จากคุณ : รักษาอย่างนี้ประจำ เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 53 23:15:37 A:125.25.215.55 X: TicketID:148362

ความคิดเห็นที่ 13 เริม เป็นโรคที่เกิดขึ้นจากเชื้อไวรัสครับ ชื่อ Herpe simplex คราวนี้ ไอ้เชื้อตัวนี้ คร่าวๆ มันจะมี สองสายพันธุ์ ตัวนึงชอบอยู่ด้านบน จึงมักพบบริเวณริมฝีปาก บางคนอาจมีตามหน้าได้ด้วย อีกตัว ซุกซนหน่อย ชอบอยู่ด้านล่าง จะขึ้นตามอวัวะเพศครับ เป็นเชื้อโรคที่ไม่รุนแรง แต่ทำให้เกิดความรำคาญใจและปวดแสบนิดหน่อย เมื่อมีอาการแตกออกมา โดยปกติแล้ว การรักษาจะให้ยากิน acyclovir ทานไปค่อนข้างนาน และต้องทานวันนึงหลายๆรอบ เนื่องจากเป็นไวรัส การรักษาจะค่อนข้างยาก บางรายอาจใช้ยาทา คู่ด้วย เพื่อลดอาการแสบจากการที่แผลแตกครับ สาเหตุการเกิด เกิดจากการที่เราไปรับเชื้อตัวนี้มาจากคนที่เป็นเริม ที่แสดงอาการ ไม่ว่าจากการทานอาหาร หรือจากการสัมผัสโดยตรงครับ เมื่อไวรัสตัวนี้เข้าร่างกาย มันจะไปแอบที่ปลายประสาท ในร่างกายและ และหากร่างกายเราอ่อนแออยู่ ไวรัสเริมก็จะฉวยโอกาสแสดงอาหารได้ครับ ดังนั้น ในการป้องกันคือ   ควรพักผ่อนเยอะๆ ดื่มน้ำสะอาดและอาหารที่มีประโยชน์ อย่าทำให้ร่างกายอ่อนแอ การรักษาคือ การใช้ยา คู่กับการดูแลร่างกายครับ หมายเหตุ มันจะมีเชื้อตระกูล herpe เหมือนกัน เป็นพวก งูสวัด ซึ่งอาการจะรุนแรงและปวดมากกว่าครับ จากคุณ : holyghost เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 53 23:23:49

ความคิดเห็นที่ 14 ^ ^ ชื่อ Herpes simplex ครับ แบ่งเป็น 2 type type 1 มักติดบริเวณเหนือสะดือขึ้นมา type 2 มักติดบริเวณใต้สะดือลงไป แต่จากพฤติกรรมทางเพศ ปัจจุบัน พบว่า type 2 ก็สามารถพบที่ปากได้ จากคุณ : เบลอๆกับชีวิต (เบลอๆกับชีวิต) เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 53 10:28:34

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณทุก คห. มากนะค่ะ เราไม่มีอะไรตอบแทนนอกจากกิ๊ฟฟฟเท่านั้น คหท.13, 14  ดีนะค่ะที่เราไม่เป็นประเภทใต่สะดือลงมาไม่งั้นแย่เลย ส่วนคำแนะนำดี ๆ เราจะนำไปลองทำดูค่ะ จากคุณ : Mushroom forest เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 53 16:09:55

ความคิดเห็นที่ 16 ผมเริ่มเป็นตอนอายุ 13-14 ปี อยู่ๆก็เป็น ไม่รู้ว่าติดเชื้อไวรัส ตัวนี้มาได้ยังไง แล้วที่นี้ ก็เป็นมาตลอด ปีละ 1-2 ครั้ง ถ้าร่างกาย นอนผักผ่อนไม่พอ นอนดึก เครียด ก็จะเริ่มมีอาการคันที่ริมฝีปาก ก่อนก็จะซื้อยามาทา พอเป็นบ่อย ก็จะเริ่มรู้แล้วว่า ถ้าเกิดอาการคันแบบนี้นะ ให้รีบหายามาทา กันไว้ก่อนเลย ทำให้แผลจะไม่ลุกลามไปมาก ว่างๆก็หาเวลาออกกำลังกาย ให้ร่างกายแข็งแรง จะช่วยได้มากเลยครับ จากคุณ : ฟอแฟน เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 53 21:08:35

ความคิดเห็นที่ 17 ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ถ้าเป็นบ่อยจริงๆ เป็นหนัก และมีพฤติกรรมเสี่ยง ก็น่าจะไปลองพบคุณหมอและตรวจเลือดดูนะคะ จากคุณ : ใหญ่ล่ำดำถึกแต่_สวย เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 53 11:35:37