 
ความคิดเห็นที่ 10 |
โทษทีที่ช้า พิมไปแล้วอยู่ดีดี ข้อความหายหมด..ซะงั้น เจ็บปวดจิงๆ
พอสองเดือนผ่านไปเราก็ไปเรียนต่อที่ปักกิ่ง ความรู้ภาษาจีนตอนนั้นเป็น 0 (ดิบมาก ไปปักกิ่งแบบไม่รู้อะไรเลย กะว่าไปเรียนที่นั่นเอา) ไปไหนต้องมีเพื่อนไปด้วยตลอด ไม่งั้นอดตาย เพราะคนจีนพูดแต่ภาษาตัวเอง ไม่เอาภาษาอื่นเลย
ช่วงระยะเวลา 2-3 เดือนที่กำลังเรียนภาษาอยู่ ดูเหมือนว่าจะไม่มีอาการเดิมกลับมาอีก พอเข้าช่วงเดือนที่ 4 หลังหมดประจำเดือน อาการกลับมาอีกละ เหมือนเดิมเด๊ะ แต่ทีนี้รู้หลัก ทุกครั้งที่มันปวดบวมขึ้นมา ก็เข้าไปในห้องน้ำ ไปนั่งยองๆ (ตรงที่อาบน้ำ) เอามือจับๆกดๆ แล้วหนองก็ออกมาก .... มันอาจจะเป็นภาพที่น่าสยดสยอง แต่ไม่น่าเชื่อว่ามันไม่ได้เจ็บมากขนาดนั้น ความเจ็บเทียบเท่า เหมือนเราบีบสิว
พอเรา drain หนองออก ก็กินยาแก้อักเสบ แล้วมันก็ดีขึ้น
ตอนนั้นเราคิดว่านี่เป็นวีธีรักษา (คิดเอาเอง) โทรหาคุณหมอ คุณหมอบอกว่าถ้าหนองไหลออกแล้วก็ไม่น่าเป็นห่วง ทำให้เรายิ่งสบายใจเข้าไปใหญ่
หลังจากนั้น ทุกเดือน หลังประจำเดือนหมด ประมาน 2-3 วัน อาการแบบนี้ก็กลับมากอีก เราก็กดให้หนอง drain ออกเองอีก ทำแบบนี้อยู่ 3 ครั้ง (ครั้งละเดือนเลย โหดจิงๆ)
จนกระทั้งเป็นครั้งที่ 4 หนองมันไม่ออกมาง่ายเหมือนครั้งก่อนๆ ยิ่งกดเท่าไหร่ยิ่งเจ็บ เจ็บมาก เจ็บจนไข้ขึ้น เหมือนว่ามันระบม...งานเข้า!!
โทรหาแม่...แม่เป็นห่วงมาก บอกว่ากลับบ้านมั้ยลูก? เราเลยบอกแม่ว่ากว่าจะกลับหนองคงแตกบนเครื่องแน่ๆเลย
เราเลยโทรหา เล่าชือ (อาจารย์ที่สอนภาษาเรา) เค้าพูดภาษาอังกฤษได้บ้าง.. อาจารย์บอกว่าให้ไปโรงพยาบาลเฉพาะทางของที่ปักกิ่งเลย (ประมาณว่า รพ นี้ ตรวจแต่ช่วงล่าง) แม่ก็โอเค บอกว่าให้ไปเลย ขอให้หาย ได้หมด
เราก็นั่งแท๊กซี่ไปกับเพื่อนอีกสองคน (เป็นแฟนกัน)....แล้วเดี๋ยวอาจารย์จะตามไป แล้วแท็กซี่ขับได้เหียกมากกกกกกก... เบรคแล้วเบรคอีก อยากจะด่าแต่พูดไม่เป็น... แล้ว รพ ไกลมาก ไม่ถึงซะที เราก็ปวดจะแย่ (ได้ความรู้สึกเหมือนจะคลอดลูกจิงๆ)
พอถึง รพ รพใหญ่มาก แลดู มีเครื่องไม้เครื่องมือพร้อม น่าไว้วางใจได้อยู่ ก็ลงทะเบียนตามระเบียบ ก็ให้เพื่อน ญ ลงทะเบียน เพราะว่ารู้จีนมากสุด ส่วนเพื่อน ช ก็พาเรานั่งรถเข็นไปที่ห้องตรวจ อยู่ชั้นสอง ก่อนจะถึงห้องรอตรวจต้องผ่านเคาเตอร์ หน้าลิฟท์ หน้าเคาเตอร์มีเส้นแดง ตีเส้นยาวตรงพื้น เพื่อนเข็นรถผ่านเส้นแดง ยามตรงเคาเตอร์เป่านกหวีด ปิ๊ดดดด... ห้ามผู้ชายผ่านเส้นนี้ ฮ่าๆๆๆ ตอนนั้นก็ขำนะ แต่ว่าความปวดมันมากกว่า... แล้วทุลักทุเลมาก เราต้องเอามือหมุนล้อ เข็นตัวเองไปห้องตรวจ
พอพยาบาลเรียกเข้าห้องตรวจ ถามเราเป็นภาษาจีน ช๊งเช๊งใหญ่ ถามหาใบไรซักอย่าง ไอ้เราก็ฟังไม่ออก พอดี เพื่อน ญ มาพอดี เค้าถามหาใบเสร็จ... คือรพ จีนทุกที่ต้องจ่ายเงินก่อนถึงตรวจได้ เราก็งง ว่ายังไม่รู้ว่าเป็นโรคอะไร จะรู้ได้ไงว่าต้องจ่ายเท่าไหร่ เค้าบอกว่ามีค่าตรวจเบื้องต้นก่อน.. ก็ให้เพื่อนลงไปจ่ายเงิน เอาใบเสร็จมา เข้าห้องตรวจได้
ก็ขึ้นขาหยั่งอีกครั้ง (ครั้งที่ 3 ในชีวิต) ทีนี้การตรวจไม่เหมือนครั้งก่อน เอาครีมปากเป็ดมาง้างด้วย เจ็บมากกกกกกกกกกก ถึงมากที่สุด เพราะว่าเราระบมมาก่อนแล้ว แล้วก้เอาเหมือนหลอดแก้วยาวๆ เหมือนหลอดทดลองยัดเข้าไปอีก เราก้อร้องลั่นเลย มันเจ็บจิงๆ จากนั้นเอากล้องส่องเข้าไป ภาพขึ้นจอมอนิเตอร์ ภาพสีอีกต่างหาก เราก็ไม่ได้มองเลย เพราะว่าเจ็บมาก อยากให้รีบตรวจให้จบๆ จากนั้นเค้าก็ปริ้นภาพออกมา ให้เรารอคุยกะหมอ เค้าก้อเข็นเราออกมา รอหมอเรียก ตอนนี้ อาจารย์มาแล้ว เลยได้เข้าไปคุยกะหมอด้วยกันเพื่ออธิบายเราเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งอาจารย์เราก็ไม่ได้เก่งอังกฤษมากมายอะไร เรารู้คล่าวๆว่าต้องผ่าตัด...ตายละสิ ไม่เคยผ่าตัดเลยในชีวิต แล้วมาอยู่ต่างแดนอีก เป็นอะไรที่แย่มาก ตอนนั้นคิดถึงแม่มาก.. เซงมากที่ต้องมาเจออะไรแบบนี้ มีแต่เพื่อน กับอาจารย์
ด้วยความที่เรากลัวเรื่องผ่าตัดมาก เพราะว่ามันเป็นอะไรที่ใหญ่สำหรับเรา เราเลยให้หมอที่นี่โทรคุยกับหมอที่ไทย เผื่อจะได้อธิบายให้เราฟังชัดเจนกว่านี้ว่าผ่าตัดอะไรยังไง.... ดันพูดกันไม่รู้เรื่องอีก หมอที่ไทยบอกเราว่า เค้าไม่พูดอังกฤษเลย ศัพท์ทางการแพทย์ที่ควรรู้กันเป็นอังกฤษ หมอที่จีนก็ยังเรียนกันเป็นภาษาจีน... เลยทำให้เรากังวลไปใหญ่
เราเลยคุยกันแบบมีอาจารย์เป็นล่าม หมอที่จีนเลยพูดประมานว่าไม่ต้องกังวล นี่เป็นผ่าตัดเล็ก เดี๋ยวฉีดยาชาได้.. เราเลยบอกว่าโหหหห... ไม่ไหวมั้งคะ ฉีดยาชา เราตายก่อนแน่ ฉีดน้องจิมิ๊เราทั้งๆที่เจ็บๆ ระบมๆอย่างนี้ ไม่ดีแน่
เราเลยบอกเค้าว่าขายาสลบด่วนนนนนนน...
จากนั้นคุณหมออธิบายด้วยภาพว่า เค้าจะผ่าเอาหนองออกก่อน เพราะว่าจากที่ดูจากกล้อง ลูกมันใหญ่มาก ที่เรารู้สึกว่ามันนูนๆ นั่นมันแค่ด้านข้าง แต่จิงๆ มันเท่าลูก "เทนนิส" พระเจ้า....ใหญ่อะไรได้ขนาดนั้น
เนื่องจากเราบีบเองหลายครั้ง แต่ว่าไม่เคยรู้เรื่องรู้ราวเลยว่า หัวฝีมันยังอยู่ ยิ่งบีบมันจะยิ่งสร้างผนังขึ้นมา ทำให้ครั้งต่อไปมันบีบเองไม่ออกแล้ว เพราะว่าผนังมันหนาขึ้นเรื่อยๆ
หมอบอกว่าพอกรีดเอาหนองออกแล้วจะเอายาจีนใส่เข้าไปแล้วเย็บปิด 24 ชม. แล้วเปิดเอายาออก แล้วก็เย็บแผล ... สรุปคือต้องผ่าตัด 2 ครั้ง
แอบกังวล แต่ไม่มีทางเลือก บอกหมอแล้วว่าขอยาสลบ หมอก็โอเค หมอบอกว่าแพงนะ แพงกว่ายาชา เราบอก เต็มที่เลย กลัวเจ็บจิงๆ...
อันนี้เป็นภาพประกอบนะคะ ว่าผ่ายังไง
แก้ไขเมื่อ 24 ธ.ค. 53 14:11:13
แก้ไขเมื่อ 23 ธ.ค. 53 22:38:42
จากคุณ |
:
บาคาร่าคุง
|
เขียนเมื่อ |
:
23 ธ.ค. 53 17:01:04
|
|
|
|