ความคิดเห็นที่ 1 อยากให้  จขกท. อ่านกระทู้แนะนำสัปดาห์ที่แล้ว มีประโยชน์มากๆ ลองหาอ่านดูนะคะ เรื่องหูดหงอนไก่ รอผู้รู้แล้วกันค่ะ จากคุณ : พาไล เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 53 18:14:37

ความคิดเห็นที่ 2 ลองเข้าไปดูในนี้นะครับ แรกๆไม่เกี่ยว มีอธิบายเกี่ยวกับหูด อยู่บ้าง http://www.pantip.com/cafe/family/topic/N10053892/N10053892.html จากคุณ : จัดไป เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 53 18:25:15

ความคิดเห็นที่ 3 คุณมีแฟนคนเดียวมาปีกว่าแล้ว แล้วแฟนคุณล่ะ แฟนคุณอาจยังไม่แสดงอาการของโรค จึงยังไม่ปรากฎรอยโรคให้เห็น จากคุณ : jukntao เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 53 20:00:57

ความคิดเห็นที่ 4 ..หูดหงอนไก่ หูดดอกกะหล่ำปลี เกิดจากเชื้อ Human papilloma virus type ต่างๆ มีระยะฟักตัว 1-6 เดือนค่ะ ติดต่อทางเพศสัมพันธ์หรือสารคัดหลั่ง หรือตุ่มหงอนมันแตกแล้วน้ำที่มีเชื้อไปสัมผัสตรงส่วนไหน ส่วนนั้นก็ติด(ต้องเป็น mucous membrance ด้วยนะ) ผิวหนังหนาๆไม่เป็นไรคะ.. ..แฟนน่ะ ยังไม่ออกอาการหรือเปล่าคะ พาไปตรวจเลือดดีกว่า อาจยังอยู่ในระยะฟักตัวก็ได้คะ .... จากคุณ : usbankusa เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 53 20:07:16 A:183.89.116.166 X: TicketID:293046

ความคิดเห็นที่ 5 เปนจากสาเหตุอื่นได้อีกไม๊คะ แปลว่าแฟนมีเชื้อแต่ไม่แสดงใช่ไม๊คะ แฟนบอกว่าเคยไปเที่ยวครั้งนึงแต่ก้อใส่ถุงป้องกัน แล้วจะเปนได้ไง จากคุณ : sweet03 เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 53 20:56:23

ความคิดเห็นที่ 6 เค้าบอกว่าไปเที่ยวมาแค่ครั้งเดียวและครั้งนั้นก็ใส่ถุงยาง แต่ทำไมเชื้อถึงทะลุถุงยางมาได้คะ แก้ไขเมื่อ 28 ธ.ค. 53 00:43:43 จากคุณ : sweet03 เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 53 21:07:42

ความคิดเห็นที่ 7 ไปอ่านดูครับ  มีภาพทั้งชาย และหญิง http://www.muslimthai.com/main/1428/content.php?category=110&id=15516 . จากคุณ : samr เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 53 22:17:13

ความคิดเห็นที่ 8 หูดหงอนไก่ ( condyloma accuminata) เป็นหูดที่เรารู้จักกันดี โดยเฉพาะนักเที่ยวทั้งหลายทราบซึ้งกันเป็นอย่างดี มีลักษณะเป็นดอกกะหล่ำหรือแบบหงอนที่หัวไก่ชน เป็นติ่งเนื้ออ่อนๆ สีชมพูคล้ายหงอนไก่หูดชนิดนี้ชอบขึ้นตรงบริเวณที่อับชื้นและอุ่น หูดหงอนไก่ จะว่าไปมันก็ญาติกับมะเร็งปากมดลูกล่ะค่ะ เกิดจากเชื้อ HPV คนละสายกัน แต่ผลลัพธ์ก็เหมือนกันคือเกิดเนื้องอกนูนขยุกขยุยขึ้นมา ถ้าเป็นหูดหงอนไก่จริงก็เป็นเชื้อกามโรคแน่นอน ไม่มีทางที่อยู่ดีๆจะเป็นเองได้ อีกกรณีก็ใช้ของร่วมกับคนที่มีเชื้อนี้ แฟนคุณนี่ก็มักง่ายนะ ไปเที่ยวผู้หญิง เอาโรคมาติดคุณยังมีหน้าแก้ตัวน้ำขุ่นๆอีก ถ้าเป็นเราคงเลิกตั้งแต่เค้าไปเที่ยวแล้วค่ะ ผู้ชายสมัยนี้เห็นแก่ตัวเอาเปรียบผู้หญิงสารพัดค่ะ บอกแฟนคุณนะคะ อย่าได้ใจไปว่าไม่เป็น เชื่อได้เลยว่าอีกไม่นานค่ะ และระวังนะคะถ้าไม่รีบรักษามันก็อาจลามเป็นหมันหรือเป็นมะเร็งในอนาคตค่ะ ยังดีนะคะ เป็นหูดอย่างเดียวอาจหายได้ ดีนะไม่เป็นเอดส์พ่วงด้วย บอกแฟนคุณให้เลิกมั่วหากยังเห็นแก่คุณนะ คิดถึงตัวเองให้มาก แค่นี้เค้ายังไม่รับเลย คุณเป็นมากกว่านี้เค้ายังจะมาสนใจคุณเหรอ เป็นโอกาสที่เค้าจะตัดคุณออกจากชีวิตเค้าด้วยซ้ำ ขอให้หายไวๆ นะคะ เอาใจช่วย จากคุณ : austin3.16 เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 53 22:36:01

ความคิดเห็นที่ 9 -แฟนน่าะจะมีเชื้อ HPV แต่ไม่มีอาการ(ไม่มีหูด) เพราะอวัยวะเพศหญิงจะมีส่วนที่ชื้นมากกว่า เหมาะสมกับการเติบโตของหูดค่ะ -การฉีดยาไม่ได้ช่วยป้องกันหูดค่ะ วัคซีนจะมีประโยชน์เมื่อไม่เคยรับเชื้อมาก่อน (ง่ายๆคือไม่เคยมีพสพ.ค่ะ) ตอนนี้เป็นหูดไปแล้ว วัคซีนก็ไม่ผลอะไรค่ะ -โอกาสเป็นมะเร็ง จะว่าไปก็ไม่ได้เกี่ยวกับหูดโดยตรง เพราะหูดเกิดจาก HPV คนละชนิดกับมะเร็ง แต่มันจะเกี่ยวกันได้ก็เพราะว่า คนที่เคยรับ HPV ที่ก่อหูดได้ ก็ย่อมมีโอกาสที่จะรับ HPV mี่ก่อมะเร็งได้เช่นกัน เนื่องจากแหล่งที่มามันแหล่งเดียวกัน คือจากพสพ.เพราะเราก็ไม่รู้ว่าใครมี HPV ชนิดไหนบ้าง -การตรวจเลือดไม่ได้บอกเรื่องการติดเชื้อ HPV ค่ะ ตรวจได้จากสารคัดหลั่งในช่องคลอด ของผู้หญิงตรวจได้แน่ๆ แต่ของผู้ชายไม่ทราบค่ะ ว่ามีการตรวจหรือเปล่า จากคุณ : ฟ้าหมาดฝน เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 53 23:31:11

ความคิดเห็นที่ 10 ขอให้หายไว ๆ เช่นกันค่ะ แต่ยาถ้าเป็น antibiotic คุณต้องทานให้ครบ dose อย่างเคร่งครัดนะคะ ไม่ใช่ว่ารู้สึกอาการดีขึ้น หรือหายแล้วก็หยุดทาน  เพราะมันจะทำให้ดื้อยา แล้วการรักษาจะไม่ได้ผลค่ะ จากคุณ : ดลฤทัย เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 53 23:38:51

ความคิดเห็นที่ 11 หุดหงอนไก่ ติดต่อมาจากการมีเพศสัมพันธ์ไม่ว่าทางสอดใส่หรือการทำรักด้วยปากทำรักทางทวารหนัก พบมากบริเวณ ปากช่องคลอด ในช่องคลอด รอบๆ ทวารหนัก และแม้แต่ในทวารหนัก หากทำรักด้วยปาก...หูดหงอนไก่สามารถติดในปากคอหลอดลมและกล่องเสียงได้ด้วย ดังนั้นถ้าไม่แน่ใจ ควรสวมถุงยางอนามัย แม้ถุงยางอนามัยไม่อาจป้องกันโรคนี้ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ก็สามารถป้องกันได้เป็นส่วนใหญ่ ส่วนน้อยหูดหงอนไก่ เกิดจากการใช้ของร่วมกัน การสัมผัสถูกหูดหงอนไก่ หูดหงอนไก่ส่วนใหญ่จึงถือว่าเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ หากไม่มีเพศสัมพันธ์โอกาสเป็นหูดหงอนไก่แม้มี แต่ก็เกิดได้น้อยมากค่ะ เคยมีเพื่อนเป็นแต่ตอนนี้หายแล้ว มันบอกว่าทรมานมาก ทั้งแสบทั้งคัน จะถ่ายเบาก้อเจ็บ ยิ่งตอนไปจี้นะคะ แสบสุดๆ เพราะโรคนี้ระยะฟักตัวนานอยู่เหมือนกัน เพื่อนเราเลิกกะแฟนแล้ว 2 เดือน เพิ่งมารู้ตัวว่าเป็น ร้อนถึงเราที่เป็นเพื่อนต้องไปหาหมอด้วย เห็นว่าตอนไปจี้ออกมานั่งไม่ได้เลย เหมือนเป็นริดสีดวงยังไงอย่างงั้นเลย เราว่าแฟนคุณแค่ยังไม่แสดงออกเท่านั้นแหละค่ะ แนะนำว่าให้พาแฟนคุณไปตรวจซะด้วย ไม่งั้นไม่มีทางหายแน่ เรื่องแฟนคุณจะสำส่อนหรือไม่มีแต่แฟนคุณเท่านั้นที่รู้ เราอย่าไปพูดเรื่องนั้นกันเลยเพราะมันผ่านมาแล้ว เรามาหาทางแก้ไขและป้องกันกันน่าจะดีกว่า ขอให้โชคดีไม่พบโรคอื่นอีก ถ้าหายแล้วค่อยว่ากันว่าจะเอายังไงต่อไป ทางที่ดีควรตรวจมะเร็งไปด้วยเลยนะคะ จากคุณ : เจ้าหญิงรองเท้าสตัดท์ เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 53 23:48:01

ความคิดเห็นที่ 12 "เปนจากสาเหตุอื่นได้อีกไม๊คะ แปลว่าแฟนมีเชื้อแต่ไม่แสดงใช่ไม๊คะ แฟนบอกว่าเคยไปเที่ยวครั้งนึงแต่ก้อใส่ถุงป้องกัน แล้วจะเปนได้ไง" เอ่อ..เค้าไปเที่ยวมาแบบนี้ แต่คุณก็ดูไว้ใจเค้าดีจังนะคะ จากคุณ : blanclapine เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 53 00:31:51

ความคิดเห็นที่ 13 #ดลฤทัย  หมอไม่ได้ให้ยามาทานค่ะ แค่จี้เลเซอร์อย่างเดียวค่ะ เด๋วคราวหน้าจะลองถามหมอดูว่าต้องทานยาด้วยไม๊ จากคุณ : sweet03 เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 53 00:50:15

ความคิดเห็นที่ 14 ได้รับของขวัญตั้งแต่ยังไม่ปีใหม่เลยนะคะ ขออธิบายนะคะสำหรับเรื่องที่แฟนไปเที่ยว แต่ใส่ถุง ใช่ค่ะเป็นการป้องกันที่ดี แต่แฟนคุณไปถึงแล้วสวมถุงแล้วจิ้มเลยรึเปล่า ไม่มีการกอดจูบลูบคลำหรือทำอย่างอื่น มั่นใจเหรอว่าเชื้อจะไม่อยู่ที่ตามซอกเล็บหรือที่อื่น ลองคิดเอานะคะ แฟนคุณจะพูดยังไงตอนนี้ก็ได้นะคะ แต่คนที่เป็นโรคแบบนี้ได้ ไม่ใช่คนดีแน่ ทั้งที่บอกว่าคุณเป็นแต่เค้าไม่เป็นจะเป็นไปได้งัย แต่แฟนคุณไปเที่ยวอ่างมาแต่ใส่ถุงคงไม่ติด แต่คุณมีแฟนคนเดียวไปเอาโรคมาได้ไง คิดได้ยังงัย สมัยนี้คนสำส่อนกันเยอะมีโรคแปลกๆมากมาย ไม่เหมือนสมัยก่อน ขอให้หายไวๆ เอาไจช่วยนะคะ จากคุณ : austin3.16 เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 53 06:44:24

ความคิดเห็นที่ 15 ติดมาจากผู้ชายนี่แหละ ของแท้เลย ยิ่งหน้าตาดีๆ แม่ม โคยเน่าของแท้ จากคุณ : เงินจางนางจร เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 53 10:48:38 A:110.171.38.122 X: TicketID:253582

ความคิดเห็นที่ 16 อย่ากังวล รักษาหายได้ อย่าเครียด ความเครียดจะยิ่งบั่นทอนสุขภาพ จากคุณ : จ่าหมาน เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 53 13:45:19

ความคิดเห็นที่ 17 #blanclapine คะ เราก้อไม่ได้ไวใจไรนะ ตอนเรารู้ว่าเค้าไปเที่ยวมานี่ก้ออึ้งมากมายเลย ยิ่งตอนเราไปหาหมอแล้วเรารู้ว่าเราเป็นโรคเกี่ยวกะเรื่องแบบนี้อีก หน้าชามือสั่นไปหมดเลยค่ะ ไม่คิดว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นกับเราได้ ขอบคุณทุกๆคำแนะนำนะคะ จากคุณ : sweet03 เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 53 15:03:54

ความคิดเห็นที่ 18 เราว่าแฟนคุณแค่ยังไม่แสดงออกเท่านั้นแหละค่ะ แนะนำว่าให้พาแฟนคุณไปตรวจซะด้วย ไม่งั้นไม่มีทางหายแน่ ^ ^ สงสัยว่า..แล้วถ้ายังไม่แสดงอาการ จะรักษายังไงเหรอคะ จากคุณ : เป็นนางฟ้าได้แค่ตอนเกิด เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 53 21:06:44

ความคิดเห็นที่ 19 สงสัยด้วยคนค่ะ แล้วหมอจะตรวจเจอไม๊คะ แล้วต้องไปหาหมออะไรคะผู้หญิงก้อหาหมอสูติ แต่ผู้ชายล่ะคะ จากคุณ : sweet03 เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 53 21:38:44

ความคิดเห็นที่ 20 ถ้าเราเป็นเจ้าของกระทู้ เราจะถือโอกาสนี้ เลิกกะแฟน เลยอ่ะ .. ผู้ชายไม่รับผิดชอบ ไม่ take care แบบนี้คบไปก็เสียเวลาปล่าว เสียใจด้วย .. T____T~ จากคุณ : ที่คาดผม เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 53 22:05:27

ความคิดเห็นที่ 21 คุนหมอคะของแฟนที่บอกว่าไม่แสดงอาการนี่แล้วจะตรวจได้ไงคะ เอาอะไรไปตรวจ แล้วถ้าตรวจแล้วจะเจอหรอคะในเมื่อมันไม่แสดงอาการ แล้วจะรักษายังไงอ่ะคะ ถ้าเราหายแล้วแฟนก้อยังไม่แสดงอาการแบบนี้เราจะรู้ได้ยังไงคะ แล้วของผู้ชายต้องหาหมออะไรคะ ถ้าไม่ใช่หมอสูติ จากคุณ : sweet03 เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 53 23:26:46

ความคิดเห็นที่ 22 ถ้าไม่มีหูดขึ้นก็ตรวจยากค่ะ อาจจะไม่เจออะไรเลย จากคุณ : ฟ้าหมาดฝน เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 53 22:28:50

ความคิดเห็นที่ 23 ขอบคุนนะคะที่ช่วยตอบ ขอถามอีกหน่อยนะคะ ถ้าอีกหน่อยเราหายแล้ว แต่แฟนเราก้อยังมีแบบหลบในแบบนี้ต่อไปเราควรทำยังไงดีคะ มีทางทีทำให้เราสองคนหายขาดไม๊คะ เพราะของแฟนไม่ขึ้นหูด ถ้าตรวจไม่เจอจะทำยังไง ถ้าต่อไปมีอะไรกันเราก็จะเป็นอีกไม๊คะ จากคุณ : sweet03 เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 53 00:09:58

ความคิดเห็นที่ 24 ถ้ามันตรวจไม่เจออะไรแปลว่าก็ต้องรอให้แสดงอาการสินะ T_T  ถ้ามีอะไรกันก็ใส่ถุงยางไปก่อนดีกว่าค่ะ ปล.เราขอโทษนะคะ ที่พูดแรงไปหน่อย เรารู้สึกแย่น่ะค่ะที่แฟนของคุณไปเที่ยวมา เจ็บแทนจริงๆ เป็นกำลังใจให้นะคะ สู้ๆค่ะ เดี๋ยวก็หายค่ะ จากคุณ : blanclapine เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 53 16:50:12

ความคิดเห็นที่ 25 ให้คุณกับแฟนไปฉีดวัคซีน HPV ครับ เพราะเชื้อหูดกับเชื้อมะเร็งปากมดลูก คือ HPV เหมือนกัน ต่างกันที่สายพันธ์ุนิดเดียว ไม่ได้กันได้หมด แต่ก็ลดได้บางส่วน เพืี่อความสบายใจครับ ต่อมาคือไล่ไปขริบซะ เพราะเรื่องอับชื้นกับพวกสารพัดคราบต่าง ๆ ที่อยู่ใต้หนังหุ้มปลาย เพิ่มโอกาสการติดเชื้อได้เป็นอย่างดี  แต่ก็เพราะเรื่องผู้ชายแมน ๆ กลัวเจ็บกันนี่แหละ เลยกลายเป็นไปพยายามคิดวัคซีนแล้วไล่ให้ผู้หญิงเป็นคนไปฉีด ทั้งที่ผู้หญิงเค้าอยู่ดี ๆ เค้าจะรับเชื้อนี้จากไหนครับ นอกจากนั้น บางคนไม่รักตัวเองไม่เป็นไร ดันเอาเชื้อเอชพีวีไปหย่อนใส่ผู้หญิงเค้าอีก ทำให้ผู้หญิงเกิดเป็นมะเร็งปากมดลูกอีก งานเข้าทั้งนั้นครับ ซึ่ง งานวิจัยมากมายพบว่าเชื้อเอชพีวีนี่มันอยู่ตรงบริเวณปลายของอวัยวะเพศชายนะ ครับ แต่ดีหน่อยที่ของผู้ชายดันอยู่ข้างนอก เลยทำให้ล้างออกง่าย ไม่ก่อปัญหามากนัก นอกจากซกมกจริง ๆ ถึงเกิดมะเร็งจู๋ แต่เมื่อไหร่ที่ เอาไปไว้ข้างในตัวผู้หญิงที่มันทำความสะอาดลำบากเพราะเหตุผลทางกายภาพ พอเกิดระคายเคืองมาก ๆ ก็เลยเกิดการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ จนทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูกครับ สถานเบาก็หูด ดังนั้น หากไม่อยากให้แฟน หรือคนที่เรารัก มีความผิดปกติหรือโรคร้ายเกิดขึ้นนี่ ต้องดูแลสุขอนามัยของผู้ชายเราให้ดีก่อนครับ ธรรมชาติผู้หญิงเค้าก็สร้างกลไกไม่ให้มีอะไรมันเข้าไปได้อยู่แล้วครับ จะเกิดเรื่องก็เพราะผู้ชายอย่างเรา ๆ ท่าน ๆ นี่แหละ เอาอะไรใส่เข้าไปในนั้น และหากสิ่งที่ใส่เข้าไปไม่รักษาความสะอาด หรือดูแลสุขอนามัยให้ดีพอ สุดท้ายก็จะเป็นปัญหาที่ผู้ชายมาทำงง แอ๊บแบ๊ว ว่าทำไมมีกลิ่นและก็มาแซว มาล้อสาวๆนั่นแหละ อย่างที่หลาย ๆ คนรู้กัน คือผู้ชายทุกคนจะมีหนังหุ้มบริเวณปลายของอวัยวะเพศ ซึ่งบางคนที่โชคดีหน่อย หนังไม่ยาวมาก ดังนั้นเวลาโตขึ้นหนังก็จะร่นไปด้านล่างได้ แต่ก็มีผู้ชายอีกจำนวนมากเช่นกัน ที่หนังหุ้มปลายยังยาวอยู่ ทำให้มันคลุมบริเวณหัวของตัวอวัยวะ ตรงนี้แหละครับที่ทำให้เกิดปัญหาได้ เพราะเวลาเราเข้าห้องน้ำแต่ละครั้ง หลังทำธุระเสร็จก็จะมีคราบหรือหยดของฉี่มาค้างไว้ และยิ่งประกอบกับเมืองไทยเป็นเมืองร้อน ทั้งเหงื่อ ทั้งขี้ไคลมาหมัก ๆ คลุกเคล้า ๆรวมกันจนเข้าที่ ตรงนี้แหละครับที่ทำให้เกิดคราบและกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ได้ครับ ซึ่งคนที่ขลิบจะช่วยเรื่องนี้ได้เยอะครับ เมือง ไทยเมืองร้อน ใส่เสื้อแขนยาวทำอะไรก็ลำบาก จะล้างมือ จะหยิบของก็ไม่สะดวก จะถกแขนเสื้อไปข้อศอก ซักพักแขนเสื้อก็ตกลงมาอีก และพอแขนเสื้อเปียกน้ำ มันก็ชื้น เหนอะหนะครับ ดังนั้นหาเสื้อแขนสั้นมาใส่ดีกว่า จะทำอะไรก็ง่ายขึ้นครับ ที่บางคนบอกว่าตอนหลับรูดขึ้นได้ลงได้ นั่นแหละแสดงว่ายังมีหนังมาคลุมอยู่ตลอด ช่วงระหว่างวันเราไม่ได้คอยถกไว้ตลอด ดังนั้นต้องระวังเรื่องการหมักหมม สังเกตุง่าย ๆ ว่าช่วงระหว่างวันตรงส่วนหัวนี่จะชื้น ๆ หน่อย เป็นทั้งเหงื่อและปัสสาวะที่ค้าง ตรงนี้แหละเป็นแหล่งอาหารที่อุดมสมบูรณ์ของเชื้อโรคครับ ดูแลให้ดีครับ เพื่อสุขอนามัยที่ดีของเราและคนที่เรารักครับ หลายคนยังไม่ทราบด้วยซ้ำว่าขลิบแล้วเป็นยังไง ผมเลยรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ เอาไว้เผื่อว่าจะเป็นประโยชน์ในการหาข้อมูลนะครับ คิดว่าน่าจะมีประโยชน์กับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่บ้างแหละ ลองเข้าไปอ่านข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องขี้เปียกก่อนครับ http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=thaicirc20&date=01-05-2007&group=4&gblog=5 ส่วนใครมีข้อแนะนำไงก็ฝากไว้ได้นะครับ ปล.อาจ มีภาพไม่เหมาะสมกับเยาวชนบ้าง แต่เจตนาเพื่อการศึกษานะครับ เรื่องเพศศึกษาหรือสุขอนามัยของอวัยวะส่วนสำคัญเมืองไทยเราไม่ค่อยมีคนพูด หรือสอน ปล่อยให้ไปหาความรู้กันเองแบบผิด ๆ แอบถามกันแบบหลบ ๆ ซ่อน ๆ คนตอบก็ถูกบ้าง ผิดบ้าง ตอนสอนครูก็สอนไปอายไป พยายามข้าม ๆ ให้จบ ๆ ผมเลยอยากจะทำเวบเกี่ยวกับเรื่องการดูแลอวัยวะส่วนสำคัญของผู้ชายครับ ไปดูแล้วช่วยกันเผยแพร่หน่อยนะครับ เพราะทุกวันนี้ผมอยู่รพ. มีคนไข้มากมายที่มาปรึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้ ในพันทิพเองก็มีคำถามแบบนี้มาทุกวัน ทั้งที่จริง ๆ เป็นเรื่องที่ควรจะมีการสอนและปลูกฝังให้กับเยาวชนของพวกเราครับ จากคุณ : สาลิกาโบยบิน เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 53 19:20:29

ความคิดเห็นที่ 26 ขอบคุณคุณหมอมากนะคะ ที่ช่วยตอบ ขอถามเพิ่มอีกนิดนะคะ วัคซีน HPV นี่เค้ามีฉีดที่ไหนคะ แล้วเราต้องไปหาหมอที่ไหนคะ ถ้ากรณีของแฟนเปนผู้ชายต้องไปหาหมอแผนกอะไรหรอคะ หรือมีคลีนิคพิเศษ แล้ววัคซีนตัวนี้คือช่วยป้องกันไม่ให้เปนโรคนี้อีกใช่ไม๊คะ โรคแบบนี้รักษาให้หายได้ใช่ไม๊คะ เพราะตามอ่านจาก กรูเกิ้ล เค้าบอกว่าเปนแล้วไม่หายขาดจะเป็นอีกบ่อยๆ แล้วถ้าไม่ขลิบต้องทำไงได้บ้างคะ มีวิธีอื่นอีกไม๊ เพราะแฟนคงไม่ขลิบแน่เลยค่ะ จากคุณ : sweet03 เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 53 22:36:38

ความคิดเห็นที่ 27 #blanclapine ไม่เปนไรค่ะ ตอนนี้เริ่มเครียดน้อยลงหน่อยแล้วค่ะ การรักษาวีคแรค จี้ด้วยเลเซอร์ทำให้แผลดูน่ากัวจนทำให้เราเครียด แต่ตอนนี้หูด จำนวนลดลงไปเยอะเลยค่ะ ตอนนี้เหลือแค่รอผลมะเร็ง สาธุ อย่าได้มีเล๊ยยยยย จากคุณ : sweet03 เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 53 00:12:48

ความคิดเห็นที่ 28 ผู้หญิงไปหาหมอสูตินรีเวชครับ วัคซีนไม่ได้กันได้ 100 เปอร์เซนต์ เพียงแค่ช่วยลดโอกาสการเกิดเท่านั้น ยิ่งในกรณีที่คุณได้รับเชื้อ HPV ไปแล้ว วัคซีนก็ทำไงนได้เพียงบางส่วน แต่ก็ดีกว่าไม่ทำอะไรเลยครับ ส่วนผู้ชายนี่ก็ไม่มีหรอกครับ นอกจากไปขริบและไปฉีดวัคซีนครับ อีกอย่างน้อยมากที่ผู้ชายจะยอมรับว่าตัวเองเป็นคนไปแพร่เชื้อ เพราะเค้าถือว่าเค้าไม่มีอาการ ก็คงได้แต่ทำใจครับ ก็อยู่ที่คุณแล้วหละว่าจะเลือกอยู่กับตัวต้นเหตุต่อไป หรือหยุดการมีกิจกรรม  ถ้าเค้าไม่อยากขริบ คุณก็กระชับพื้นที่ด้วยการมีอะไรทุกครั้งต้องใส่ถุงยาง ห้ามสด ถ้าเค้าทนไม่ได้ก็เลิกครับ เพราะคนที่ต้องทุกข์กับโรคร้ายคือเรา มะเร็งปากมดลูกนี่ไม่สนุกครับ ยิ่งถ้าเค้าไม่รับผิดชอบด้วย ทรมานนะ จากคุณ : สาลิกาโบยบิน เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 53 20:07:06

ความคิดเห็นที่ 29 ตอนนี้ก็เป็นอยู่ค่ะ ที่แรกก็เครียด แต่ตอนนี้ปลงแล้วค่ะ ตอนนี้รักษาที่ศิริราชอยู่ ไปตรวจมาปีที่แล้ว หมอไม่ได้พูดอะไรเลย แค่นัดมาตรวจอีกครั้งก็คือปีนี้ วันที่ 14 กพ. ที่จะถึง หมอบอกว่าส่วนมากจะหายเองได้ แต่หมอก็ตัดเนื้อเยื่อไปตรวจมะเร็งปากมดลูก ก็ไม่เป็น แต่ดันไปเจอเชื้อ Hpv ก็คือเชื้อหูดงอนไก่ คิดว่าโรคนี้ไม่จำเป็นต้องติดจากโรคเพศสัมพันธ์ อย่างตัวเรานี้ กินยากดภูมิคุ้มกันอยู่ คือเป็นโรค พุ่มพวง ก็เลยทำให้เป็นโรคนี้ได้ ไม่ต้องวิตกกังวลไปหรอกค่ะ โรคนี้หายได้ เราอายุน้อยมาก แต่สารพัดโรครุ่มเร้าเลย เรายังผ่านมันมาได้ คนเป็นเยอะกว่าเราเยอะแยะ เราไม่ได้ครึ่งหนึ่งของคนที่เค้าเป็นเลย ยังไงก็ดูแลสุขภาพ ไปหาหมอตามที่นัด ถ้าไม่ไปตรวจและรักษาต่อเนื่องมันจะกลายเป็นเซล์มะเร็งค่ะ ยังไงขอให้ คุณ จขกท หายไวๆนะค่ะ ^ ^ จากคุณ : Panda girl เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 54 16:30:15 A:113.53.114.137 X: TicketID:302071