ความคิดเห็นที่ 1 จากคุณ : ยิบยอง เขียนเมื่อ : วันเอดส์โลก 53 18:49:25

ความคิดเห็นที่ 2 เนื้อเพลง  เค้าแปลมาพอกล้อมแกล้มเข้ากับบรรยากาศนะ  ว่า.. "Hey Jude, don't make it bad.  (Jude เป็นชื่อคน) จูด อย่าทำให้แย่ลง Take a sad song and make it better. เอาเพลงเศร้ามาปรับปรุงดีกว่า Remember to let her into your heart, จำไว้ด้วยว่า เปิดใจหน่อย Then you can start to make it better. นั่นแหละถึงจะเป็นจุดที่ทำให้ดีขึ้น Hey Jude, don't be afraid.                      จูด อย่าขี้ขลาดเลย You were made to go out and get her.   คนเราเกิดมามันต้องกล้าเสี่ยง The minute you let her under your skin, ถ้าได้มีโอกาสเข้าใกล้เธอแล้ว (หมายถึงเพลง) Then you begin to make it better.           นั่นแหละ เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี And anytime you feel the pain, hey Jude, refrain, แต่ถ้าเมือใดรู้สึกแย่ก็ถอยห่างออกมาซะหน่อยนะพ่อจูด Don't carry the world upon your shoulders.           อย่าทำตัวเหมือนกับแบกโลกทั้งโลกเอาไว้ For well you know that it's a fool who plays it cool รู้ ๆ กันอยู่ดีแล้วว่าจะเหมือนคนโง่ถ้าทำเป็นแอ๊คท่า... By making his world a little colder.                         ด้วยการทำให้โลกนี้มันหนาวเหน็บ Hey Jude, don't let me down.                        จูดเอ๊ย อย่าทำให้ฉันผิดหวัง You have found her, now go and get her.     คุณพบเธอแล้ว ตอนนี้ต้องตามไปซิ (อันนี้คือโลกดนตรี) Remember to let her into your heart,             เปิดใจให้เธอด้วย Then you can start to make it better.             แล้วทุกอย่างจะดีขึ้น So let it out and let it in, hey Jude, begin,       คนเรามีได้มีเสีย ยังไง ๆ มันก็ต้องมีจุดเริ่มต้น You're waiting for someone to perform with.   คุณเฝ้ารอใครสักคนที่จะมาร่วมทาง And don't you know that it's just you, hey Jude, you'll do, ไม่รู้หรือว่ามันต้องเริ่มที่ตัวเอง The movement you need is on your shoulder. ช่วงเวลาที่รอคอยนั้นมันอยู่ตรงนี้เอง Hey Jude, don't make it bad.                        ซ้ำ Take a sad song and make it better. Remember to let her under your skin, Then you'll begin to make it Better better better better better better, oh. Na na na, na na na na, na na na, hey Jude... " - อย่าขลาด รอคอยซะหน่อยนะ แล้วจะเจอแต่สิ่งดี๊ดี- แก้ไขเมื่อ 01 ธ.ค. 53 18:57:34 จากคุณ : ยิบยอง เขียนเมื่อ : วันเอดส์โลก 53 18:55:00

ความคิดเห็นที่ 3 ไม่มีจูดี้ ฟังเค้ามาอีกที บางคนก็ รูด ๆ ๆ ๆ จนเปิดเองได้ บางคนก็ไป ขลิบ เจ็บ 2-10 วันแล้วแต่คน แล้วแต่แพทย์ ฝีมือ แต่ส่วนใหญ่ ขลิบใหม่ๆ ฉี่ ลำบากทุกราย คิคิ ถ้ามีลูกชาย จะจับขลิบมันตั้งแต่ เกิด จากคุณ : Antbadtz เขียนเมื่อ : วันเอดส์โลก 53 19:01:12

ความคิดเห็นที่ 4 เข้ามาฮาคำว่า จูดี้ อ่ะ จากคุณ : ChocoJosie เขียนเมื่อ : วันเอดส์โลก 53 19:03:55

ความคิดเห็นที่ 5 ผมก็ทำตอนปี 1 ครับ เจ็บหลายวัน แล้วก็ซี๊ดไปอีกเป็นเดือน ทนได้ไหม แผลน่ากลัวอยู่ เดินเป๋ไปนาน แต่หลังจากนั้นคุ้มนะ สะอาด หอมมาก ใครดมก็ชอบ แต่รู้สึกมันอึดขึ้น เวลามีอะไรไม่แตกซะที อยากจะบ้าตาย แต่ไม่ต้องกังวล อาจเป็นเพราะผมติดมือเองก็ได้ จากคุณ : ship9960 เขียนเมื่อ : วันเอดส์โลก 53 19:04:45

ความคิดเห็นที่ 6 ต้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้องวางยาสลบมั้ยอ่ะกลัวเจ็บ *-* จากคุณ : MaMa,PaPi เขียนเมื่อ : วันเอดส์โลก 53 19:04:49

ความคิดเห็นที่ 7 ไม่อยากใช้คำว่าจู๋อะพี่ - -ใช้จูดี้ละกัน ฮ่าๆ จะได้ไม่ตึงมาก จากคุณ : kamejiko เขียนเมื่อ : วันเอดส์โลก 53 19:05:03

ความคิดเห็นที่ 8 เจบไม่กลัว กลัว effect แบบ ไปเรียนไม่ได้จะสอบเอนทรานแล้ว อยากทำชอบ อะครับ เหมือนผมบ้านิดๆนะ ชอบๆๆๆๆ จากคุณ : kamejiko เขียนเมื่อ : วันเอดส์โลก 53 19:06:39

ความคิดเห็นที่ 9 สบายมาก ระวังแผลถูกน้ำไม่กี่วัน ไม่เจ็บมากหรอก หัวเปิดแล้วสะอาดจริงๆ ขอบอก ยากที่สุด ตอนพยาบาลฟอกน้ำยาก่อนจะขลิบนี่แหละ มันสุดจะทนจริงๆ จากคุณ : เงินจางนางจร เขียนเมื่อ : วันเอดส์โลก 53 19:20:20 A:110.171.38.114 X: TicketID:253582

ความคิดเห็นที่ 10 โอยย คุณหมอเค้าไม่ใช้ยาสลบให้เปลืองหรอก ลูกผู้ชาย เจ็บไม่ตาย ก็ผ่าสด มีที่กั้นครับ คุณหมอกับพวกจะยืนกันอีกด้าน ส่วนตัวเราจะอีกฝั่ง มีที่กั้นไว้ ต้องหน้าด้านหน่อยนะ 5555 เขินแย่ ตอนผ่าตัดจะสัมผัสได้ว่ามีดกีดไปทางไหนบ้าง เสียวดี ตอนจบจะมีพยาบาลมา ทำความสะอาด หลายคนเลย เกือบแข็ง 555 ปล คุณหมอชอบดึงขนด้วยนะ 5555 โคดทะลึ่งเลย จากประสบการณ์ส่วนตัวที่เคยทำมาครับ มีไรถามได้ จากคุณ : ship9960 เขียนเมื่อ : วันเอดส์โลก 53 19:20:55

ความคิดเห็นที่ 11 พี่ๆเล่าให้ฟังแบบละเอียดยิบๆทีครับ พยาบาลฟอกยังๆงอะ TT"ของผม ปลายมันเป็นแผลอยู่อะตอนนี้กลัวแสบบ จากคุณ : kamejiko เขียนเมื่อ : วันเอดส์โลก 53 19:26:33

ความคิดเห็นที่ 12 ที่ผมไปทำมาานะ สดๆร้อนๆเลย เมื่อสองอาทิตย์ที่แล้วนี่เอง ตอนนี้แผลใกล้หายละ รอวันใช้งานจริงอย่างเีดียว หมอจะไม่ลงยาสลบนะ แต่จะฉีดยาชาแทน แต่เวลากรีด มันก็รู้สึกอยู่ดีแหละ แต่ไม่เจ็บมากเท่านั้นเอง หุหุ เว้นแต่ว่า ถ้าเวลาทำใช้เวลานาน แล้วยาชามันเริ่มหมดฤทธิ์ ล่ะก็ เจ็บอยู่เหมือนกัน อันนี้ส่วนตัวนะ โดนมา หลังจากขริบเสร็จ แผลอย่างน่ากลัวเลย ทำแผลวันแรกๆ เลือดกระฉูด แต่ไม่ต้องห่วง ทำๆไป เด๋วมันก็หยุดไหลเอง พยาบาลบอกมาว่า ถ้าเลือกไหล ให้กดตรงแผลแรงๆ แล้วเลือดมันจะหยุดไปเอง (คิดในใจ ใครมันจะกล้ากด เจ็บตาย แต่ตอนผมไปทำแผล พยาบาลกดครับ อย่างแสบ ไหมละลายทิ่มเืนื้อ ฮ่าๆๆ ) พอผ่านไปได้ซักหนึ่งอาทิตย์ แผลจะเริ่มสมานละ ไหมละลายเริ่มหลุดออก จะเหลือแต่แผลตกสะเก็ด ก็ทนๆ อีกหน่อย คิดว่าใกล้จะหายแล้วแหละ สุดท้าย สิ่งที่กังวลคือ ตอนที่ผมไปทำมา ผมเลือกที่จะเอาเส้นสองสลึงออกด้วย เพราะว่าอยากเอาออกให้มันโล่งๆ แต่ทีนี้ ผมกลัวว่าเวลาเอาไปใช้งานจริง มันจะไม่เสร็จเอาน่ะครับ ตอนนี้แอบหวั่นๆ อยู่ รอนับเวลาใช้งานจริง ได้ผลเป็นอย่างไรแล้วจะมาแถลงข่าว ฮาาาๆๆๆ จากคุณ : OngManZ เขียนเมื่อ : วันเอดส์โลก 53 20:31:32

ความคิดเห็นที่ 13 ขั้นแรกบวชชีพราห์ม   ทำความสะอาด   พ่นยาให้ชา พยาบาลสาวๆจะดึงหนังที่หุ้มปลายให้ยื่นออกมา    แล้วกรรไกรตัด  ฉับ.... เลือดพุ่ง ปรี๊ดดด........ห้ามเลือด     เย็บแผล    หลักๆแค่นี้แหละ อย่าลืมบอกหมอ  ขอหัวแฉก  ขอบกระด้งนะ ในห้องที่ผ่าตัดเล็ก ก็มีคุณหมอ พยาบาล  ผู้ข่วย  นักศึกษาแพทย์  ราว  10- 12  คน ระหว่างทำ  หากไม่สงบอาจโดนกระตุกหนวดเสือได้ ฮ่า  ฮ่า ผมจินตนาการเอานะ จากคุณ : samr เขียนเมื่อ : วันเอดส์โลก 53 20:36:56

ความคิดเห็นที่ 14 แต่ละท่าน เล่าได้ถึงพริกถึงขิงมาก - - จากคุณ : Punky เขียนเมื่อ : วันเอดส์โลก 53 21:07:53

ความคิดเห็นที่ 15 จูดี้ ^__^ น่ารักมากครับ จากคุณ : กะหล่ำปลีลวกกินกับขนมจีนน้ำยา เขียนเมื่อ : วันเอดส์โลก 53 21:18:58

ความคิดเห็นที่ 16 ทำมาตั้งแต่ ป.2  (เกิน 20 ปีละ  555+(- -") ) แต่จำได้ดี ไปทำเพราะแม่บอกว่าตอนนั้นกลับมาจาก รร กาจู๋บวมบ่อยๆ พอไปหาหมอ หมอบอกว่าเกิดจากความสะอาด แนะนำให้ขริบ แม่เลยพาไปพร้อมกับน้องชาย ตอนนั้นไม่รู้สึกเจ็บเท่าไหร่ แต่ที่ตลกก็คือผมไม่กล้าดูแผลตัวเองครับ จำได้แค่ตอนล้างก็ล้างแล้วหันหน้าไปทางอื่น เจ็บอยู่ไม่กี่วันก็หายดี จากนั้นไม่เคยมีปัญหาเรื่่องความสะอาดอีกเลย ส่วนการใช้งานก็คิดว่าดีนะ ฟีดแบ็คดี 5555+ จากคุณ : scozember เขียนเมื่อ : วันเอดส์โลก 53 21:19:20

ความคิดเห็นที่ 17 >< ฮ่า พี่น่ารักทุกคนเลย ผมอยากทำๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ อยากจูดี้สวยๆน่ารักๆ ยิ้มแฉ่งตลอดเวลา จากคุณ : kamejiko เขียนเมื่อ : วันเอดส์โลก 53 21:45:46

ความคิดเห็นที่ 18 การขริบ ยากสุดคือตอนจะตัดสินใจไปทำ เครียดสุดคือตอนทำใหม่ ๆ สองอาทิตย์ ตื่นเต้นสุดก็คือตอนจะเอาไปใช้ครั้งแรกครับ เจ็บอยู่แล้วมีดทั้งอัน แต่ทนได้ครับมียาชาด้วย  ขนาดเด็ก ๆ ก็เห็นไม่มีใครเป็นลมระหว่างทำซักคน แผลนี่ก็งดใช้หกอาทิตย์ ทำตอนนี้ก็รอใช้หลังปีใหม่ครับ เรื่องอายุนี่ก็ทำได้ทุกวัยครับ ตั้งแต่เด็กยันแก่ ที่รพ.ก็มีมาเรื่อยครับ ยอมเจ็บซักนิดเพื่อสุขอนามัยที่ดีของเราและคนที่เรารัก จากคุณ : สาลิกาโบยบิน เขียนเมื่อ : วันเอดส์โลก 53 21:46:00

ความคิดเห็นที่ 19 องค์การอนามัยโลกแถลง การขลิบช่วยลดการติดเชื้อเอดส์ลงได้ องค์การอนามัยโลกเห็นด้วยกับการใช้การขลิบปลายในการป้องกันโรคเอดส์ ผู้เชี่ยวชาญจากนานาชาติร่วมหนุนให้ใช้การขลิบปลายอวัยวะเพศชายเป็นส่วนหนึ่ งในการรณรงค์ป้องกันการติดเชื้อเอดส์ องค์การอนามัยโลก WHO และองค์การป้องกันโรคเอดส์แห่งสหประชาชาติ UNAIDS ร่วมกันแถลงเมื่อ 28 มีนาคม 2550 ว่า การขลิบควรได้รับการส่งเสริมให้เป็นหนึ่งในทางเลือกของการพยายามลดการแพร่กร ะจายการติดเชื้อเอดส์ จาก 3 งานวิจัยทางการแพทย์ที่มีการศึกษากันในทวีปอาฟริกาได้แสดงให้เห็นชัดว่า การขลิบปลายอวัยวะเพศช่วยลดอัตราการติดเชื้อเอดส์ลงได้ถึงครึ่งหนึ่งในผู้ชายที่มีเพศสัมพันธ์ ดังนั้นคำแนะนำนี้จึงควรที่จะนำไปสู่การรณรงค์ให้มีการขลิบในประเทศที่การติดเชื้อเอดส์ยังอยู่ในระดับสูง เนื่องจากช่วยลดการติดเชื้อได้อย่างชัดเจน ในขณะเดียวกันผู้เชี่ยวชาญยังแนะนำเพิ่มเติมว่าการขลิบ ควรทำไปควบคู่กับการรณรงค์ในการป้องกันโรคเอดส์อื่นๆ เช่นการส่งเสริมให้มีการใช้ถุงยางอนามัยด้วย จากประโยชน์ที่ได้จากงานวิจัยทางการแพทย์นี้แสดงให้เห็นว่า หากการขลิบได้รับการส่งเสริมให้มีการทำในวงกว้าง เราจะสามารถช่วยลดตัวเลขของผู้ติดเชื้อเอดส์ลงได้นับล้าน โดยนักวิจัยพบว่าสาเหตุที่การขลิบลดอัตราการติดเชื้อเอดส์ลงได้ 48 – 60 % จากงานวิจัยนั้น มาจากการที่เซลล์ผิวหนังบริเวณหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศชายนั้น จะมี target cell ที่จะจับกับเชื้อ HIV ได้เป็นอย่างดี ซึ่งเมื่อขลิบผิวหนังตรงนี้ออกไปก็จะทำให้ช่องทางที่เชื้อเอดส์จะเข้าสู่ร่า งกายทำได้ยากขึ้น ซึ่งงานวิจัยชุดนี้ได้รับการทดลองซ้ำในอีกหลายกลุ่ม หลายประเทศ ปัจจุบันการคิดค้นยารักษาโรคเอดส์และวัคซีนป้องกัน ก็ได้มีการลงทุนอย่างต่อเนื่องโดยใช้เงินไปหลายพันล้านเหรียญในขณะที่ผู้เสี ยชีวิตจากโรคเอดส์ปีละนับล้านคนก็ยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งถือว่าเป็นปัญหาใหญ่ในทุกประเทศซึ่งก่อให้เกิดความสูญเสียอย่างมหาศาล ดังนั้นหลังจากมีการถกเถียงกันในที่ประชุมที่เจนีวาเมื่อปลายเดือนมีนาแล้ว องค์การอนามัยโลกและ UNAIDS จึงมีมติออกมายืนยันว่า การขลิบ ควรได้รับการเพิ่มว่าเป็นหนทางหนึ่งในหนทางที่จะยับยั้งการแพร่กระจายการติด เชื้อเอชไอวี เช่นเดียวกับการส่งเสริมการใช้ถุงยางอนามัย การสำส่อนทางเพศ หรือการใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน ข้อมูลฉบับเต็ม http://www.who.int/hiv/mediacentre/news68/en/index.html จากคุณ : สาลิกาโบยบิน เขียนเมื่อ : วันเอดส์โลก 53 21:48:37

ความคิดเห็นที่ 20 ภาพประกอบติดเรตนิดหน่อย จากรูปนะครับ เป็นรูปอวัยวะที่ยังไม่ได้ขริบตอนอ่อนตัว จะเห็นว่าในรูป A ส่วนที่เป็น inner foreskin จะอยู่ด้านใน ซึ่งปกติส่วน inner นี้จะมีเซลล์ที่เรียกว่า langerhann cell ทำหน้าที่จับกับไวรัสครับ จากรูปแรกจะเห็นว่าในรูป A นั้น ตรง inner ซึ่งปกติมันจะบางอยู่แล้ว ยังมีซอกหลืบให้เกิดการสะสมของปริมาณเชื้อ สิ่งสกปรกต่างๆ ก็ยิ่งทำให้เกิดการติดเชื้อได้ง่ายครับ เชื้อ HPV ที่ก่อมะเร็งปากมดลูกในผู้หญิงก็เจอเยอะที่สุดตรงนี้แหละ รูป B  จะแสดงให้เห็นว่าเมื่อเรารูดหนังหุ้มปลายออกหรือเมื่อมันตื่นตัว ส่วน inner ซึ่งบางอยู่แล้ว ไวต่อการจับไวรัสอยู่แล้ว จะถูกร่นออกมาอยู่ด้านนอก เมื่อมีการใช้งาน ส่วนที่มันบางๆก็จะทำให้เกิดบาดแผลได้ง่าย ทำให้เพิ่มช่องทางเข้าของเชื้อโรคเข้าไปอีก บาดแผลที่บอกนี่ไม่จำเป็นต้องขนาดเลือดสาดนะครับ บางทีแค่รอยถลอกเล็ก ๆ ก็เป็นช่องทางเข้าของเชื้อได้แล้ว สังเกตุตรงที่เค้าใช้สีแดงนะครับ ตรงนั้นแหละคือช่องทางที่เข้าของพวกเอชไอวีไวรัส ดังนั้นในคนที่ขริบ หนังส่วน inner บางส่วนจะถูกตัดออกไป ส่วนที่ยังเหลือก็จะถูกมาเย็บไว้ข้างนอกก็จะหนาตัวขึ้น ง่าย ๆ ก็คือเหมือนหนังตรงนั้นจะด้านขึ้น ข้อดีก็คือทำให้ช่องทางเข้าของเชื้อโรคลดลง เกิดแผลถลอกได้ยากขึ้น รับเชื้อก็ได้ยากขึ้น เลยอธิบายว่าทำไมคนที่ขริบแล้วจึงมีโอกาสติดเชื้อเอชไอวีน้อยกว่าคนที่ไม่ได้ขริบถึง 60 เปอร์เซนต์ครับ ที่บอกมานี่ระดับองค์การอนามัยโลก WHO ยืนยันนะครับ มีงานวิจัยระดับ RCT หลายฉบับ กลุ่มตัวอย่างหลายพัน หลายประเทศได้ประกาศให้การขริบเป็นหนึ่งในมาตรการลดการแพร่กระจายของเชื้อเอชไอวีครับ พวกแอฟริกาใต้ ซูดาน อูกันดา ไนจีเรีย ซึงประเทศในแถบแอฟริกาตั้งเป้าให้มีคนขริบอีกสองล้านคน เพื่อลดจำนวนผู้ติดเชื้อในอีกห้าปีข้างหน้า บิลเกตต์เองก็บริจาคเงินเพื่อโครงการนี้หลายพันล้านเหรียญครับ รวมถึงประเทศจีนที่กำลังถกกันอยู่ถึงเรื่องจะส่งเสริมการขริบ ส่วนเมืองไทยที่มีผู้ติดเชื้อเอดส์ประมาณเกือบล้านคนแล้ว ก็กำลัง ... ... ... ปักต้นปาลม์ ย้ายต้นไทร แก้ฮวงจุ้ยล้างซวยกันต่อไปครับ หรือไม่ก็รอผีเด็กที่ทำแท้งมาเข้าฝันหาวิธีรักษาโรคเอดส์อยู่ครับ ลองเข้าไปชมดูนะครับ ที่ http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=thaicirc20&date=12-01-2006&group=4&gblog=2 ส่วนใครมีข้อแนะนำไงก็ฝากไว้ได้นะครับ ปล.อาจมีภาพไม่เหมาะสมกับเยาวชนบ้าง แต่เจตนาเพื่อการศึกษานะครับ เรื่องเพศศึกษาหรือสุขอนามัยของอวัยวะส่วนสำคัญเมืองไทยเราไม่ค่อยมีคนพูดหรือสอน ปล่อยให้ไปหาความรู้กันเองแบบผิด ๆ แอบถามกันแบบหลบ ๆ ซ่อน ๆ คนตอบก็ถูกบ้าง ผิดบ้าง ตอนสอนครูก็สอนไปอายไป พยายามข้าม ๆ ให้จบ ๆ ผมเลยอยากจะทำเวบเกี่ยวกับเรื่องการดูแลอวัยวะส่วนสำคัญของผู้ชายครับ ไปดูแล้วช่วยกันเผยแพร่หน่อยนะครับ เพราะทุกวันนี้ผมอยู่รพ. มีคนไข้มากมายที่มาปรึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้ ในพันทิพเองก็มีคำถามแบบนี้มาทุกวัน ทั้งที่จริง ๆ เป็นเรื่องที่ควรจะมีการสอนและปลูกฝังให้กับเยาวชนของพวกเราครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : สาลิกาโบยบิน เขียนเมื่อ : วันเอดส์โลก 53 21:49:37

ความคิดเห็นที่ 21 ขลิปตอนโตดีกว่าตอนเด็กๆ เพราะขลิปเสร็จไม่กี่วันก็เดินสบาย แต่ถ้าขลิปตอนแรกเกิด เดินไม่ได้เป็นปีๆๆ  จากคุณ : พระจันทร์สีฟ้า เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 53 09:13:57

ความคิดเห็นที่ 22 คุณ OngManZ ครับ หรือใครที่เคยคลิปมาบอกหน่อยนะ ว่าถ้าคลิปเอาเส้นสองสลึงออกด้วย มันจะทำให้ทึกในการสู้รบมากขึ้นจริงๆเหรอครับ (ปีใหม่นี้เพื่อนผมจะไปทำบ้างน่ะ) จากคุณ : Bill เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 53 11:56:31 A:61.90.124.221 X: TicketID:251215

ความคิดเห็นที่ 23 ถ้าคิดว่าดูแลรักษาความสะอาดเองได้ ก้อไม่ต้องไปทำ แค่ตอนเช้าเปิดมันใช้สระบู่ ทำความสะอาดก้อพอแล้ว แต่ถ้าคิดว่าทำที่เดี่ยวก้อทนเจ็บเอา จากคุณ : anwser9 เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 53 13:27:37

ความคิดเห็นที่ 24 ถ้าสามารถเปิดหัวทำความสะอาดได้ ก็ไม่ต้องไปทำให้มันเสียงตังส์ แถมเจ็บตัวอีกต่างหาก    ส่วนตัวเคยเห็นลึงค์ที่ไป ขลิบมาแล้ว ผมว่าดูแล้ว ตลกมากๆ โล้นๆ ชอบกล แถมมีแผลเป็นอีกต่างหาก หัวลึงคืที่เคยสีสด ก้จะคล้ำเพราะเสียดสีกับกางเกงตลอด ผมว่าธรรมชาติดีที่สุดน่ะ จากคุณ : สันปันน้ำ เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 53 16:28:52

ความคิดเห็นที่ 25 เอ่อ.... ทู้นี้ผู้หญิงอ่านแล้วแบบว่า แอร๊ยยยยย จากคุณ : ช๊อคโกแลตเย็น เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 53 17:02:35

ความคิดเห็นที่ 26 เพิ่งไปทำมาเมื่อเย็น ตอนนี้ปวดเหมือนโดนบีบ - -''  555+ จากคุณ : ....... (กระโหลกบาง) เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 53 20:22:45

ความคิดเห็นที่ 27 ยูซข้างบน รบกวนหลังไมค์หน่อย คับ จากคุณ : kamejiko เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 53 21:23:21

ความคิดเห็นที่ 28 คงปวดไปสัก 6-7 วันอะครับ จากคุณ : Zeta_Baby เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 53 15:32:22

ความคิดเห็นที่ 29 ขอถามต่อได้ไหมครับ  เวลาจะอาบน้ำทำไงผมหละเสี้ยวเสียว จากคุณ : PLMyTime เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 53 21:52:23