สรุป คำถาม จขกท
.....ผมว่าถ้าเปรียบเทียบกัน 2 แบบนี้ Weight Loss น่าจะใช้ Calories ได้มากว่านะ
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
ถูกต้อง Weight Loss จะได้ Cals output มากกว่า ...เพราะคุณออกแรงหนักขึ้น
แต่ Cals ที่มากขึ้น ไม่ใช่ Fat ที่เราต้องการจะลด
-------------------------------
1. การที่เราใช้Calories ที่มากกว่า จะเป็นการเผาผลาญไขมันได้มากกว่า ถูกต้องมั๊ยครับ
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
ไม่ถูก เพราะ Cals ที่มากกว่า main source ไม่ใช่ FAT แต่ร่างกายจะเปลี่ยนไปใช้ CARB เป็น main souce เพราะ CARB needs NoAir
**** ข้อนี้ ขอให้สังเกตหลายคนที่เล่นฟิตเนส และเสียเวลาอยู่นาน เพราะเลือก mode ผิด คิดว่า Weight Loss จะได้ Cals สูงกว่า แต่ผิดหวัง การลดน้ำหนัก ล้มเหลว *****
------------------------------------
2. ทำไม่การออกกำลัง แบบเบาหนักสลับกัน ถึงเผาผลาญไขมันได้มากกว่า แบบคงที่เป็นเวลานาน(ถึง Aerobic Zoneด้วย)
เเบบ FAT-Burn เบา...หนัก...เบา...หนักสลับกัน มันเบามาเพื่ออะไรอ่ะครับ เบามาแล้วได้ประโยชน์อะไรครับ
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
ถ้าคุณย้อนไปดูภาพ คห. 4 สังเกตที่จุด Peak ยังปรับขึ้นได้อีก
หมายเหตุ ตามรูปปรับไว้ที่ Level 6 ........ สังเกตจุดนี้
หลังจากคุณฝึกสักระยะ (สักเดือน) ร่างกายคุณจะเพิ่มความแข็งแรง คุณรู้สึกว่าที่ Level 6 เริ่มจะเบามาก ตรวจเช็คอาการเหนื่อย ยืนยันได้จาก Heart Rate ของคุณ มันเริ่มจะต่ำลงในระดับล่างๆ ของ Fatmax Zone .... เหมือน คุณเจริญ Porn เล่นเวท พอยกสักพักก็ต้องเพิ่มเหล็ก ....
1) ----ณ. เวลานี้ peak Load ของ Level 6 ที่เคยเป็น "จุดหนัก" ก็คือ "จุดเบา" เสียแล้ว
2) ---คุณก็ต้องปรับ Level เพิ่มขึ้น เป็น Level 7 หรือ 8 ตอนนี้ peak Load จุดหนักจะเพิ่มขึ้น
ข้อ 1) และ ข้อ 2) คือ การปรับ เบา และ หนัก แล ะเป็นคำตอบทำไมถึงต้องเบา
"จุดเบา" เพื่อให้มีระยะพัก(หายใจ) ไม่ให้ออกแรงที่ "จุดหนัก" มากเกินไปจนหอบและการหายใจแรงเกินไป
และ "จุดเบา" จะต้องอยู่ใน Fatmax Zone เสมอ