|
ขอแย้งคุณ Adrenaline บางอัน แล้วก็เห็นด้วยบางอันครับ
1.10,000 vs 2,000 บาท : 10,000 บาทต่อปีสำหรับข้าราชการผมว่าไม่ได้มากเกินไปหรอกนะครับ คิดดูว่าถ้าไปอยู่เอกชน หลายๆอาชีพแค่เดือนเดียวก็ทำเงินมากกว่าหมื่นอยู่แล้ว (ผมว่าแม้แต่คนเก็บขยะ ภารโรง คนงาน คนกวาดถนน คนเฝ้ารถส้วม คุณครูอายุมากๆ งานเค้าก็หนักนะครับ) ให้เขาไม่ได้เชียวหรือ คิดว่าส่วนใหญ่หมอคงสั่งยาแบบค่อนข้างแพงและเกินความจำเป็นแล้วด้วย ส่วน 2,000 บาทของบัตรทองคือการรักษาแบบประหยัดงบเพราะกลัวเจ๊งแล้วนะครับ ถ้ารักษาแบบเต็มที่จริงๆและหมอไม่กลัวรพ.เจ๊งน่าจะสูงกว่านั้นมากพอควร ดังนั้นถ้าสั่งจ่ายอย่างเหมาะสมทั้ง 2 กรณีก็ดีครับ ยาบางอย่างบััตรทองก็ควรจะได้ด้วย (สำหรับผมจะทำ LC ก็ทำไปเลย โดยเฉพาะยากลุ่มต้านการแข็งตัวของเลือดที่กำลังจะมา dabigatran คงทำให้ผมสะดวกขึ้นเยอะเลย)
2.simvastatin กับ atorvastatin : คิดว่าโดยทั่วไปใช้ simva ได้ แต่ถ้าไม่ถึง target ที่ต้องการเช่นคนที่เคยเป็นโรคเส้นเลือดหัวใจ/สมองตีบ ยาอาจไม่แรงพอ ก็น่าจะพิจารณาให้ใช้ยาที่แรงได้ อย่างผมเองกิน simva ก็คุมได้ดี แต่พอกินไปสักพักดันมีปัญหาคือปวดเมื่อยมากๆๆๆ ปวดหลังแล้วก็ปวดขา ตอนแรกก็งงว่าจากอะไร นั่งผิดท่่าหรือเปล่า ปรึกษาหมอกระดูกให้ออกกำลังกายกล้ามเนื้อหลังดู ก็ไม่หาย ก็เลยหยุด simva ดูดันหาย ตอนนี้ก็เลยต้องเปลี่ยนมากินยาที่ปวดน้อยแทน (คิดว่าไม่ควรยกเลิกแบบเหมาๆ ควรให้เบิกจ่ายตามความจำเป็น ถ้าพบว่าจ่ายโดยไม่จำเป็นก็ควรมีระบบตรวจสอบ และสั่งให้หยุด) ส่วน NSAIDs กับ Coxib พอดีเป็น med เลยใช้น้อยมากๆอยุ่แล้ว ถ้าจะใช้ก็ให้ naproxen ระยะสั้นๆ หรือพวก PPI ที่จ่ายกันเกินความจำเป็น ก็ควรมีมาตรการกำกับครับ ส่วนตัวใช้แต่ miracid เกือบทุกคนไม่ว่าเบิกได้หรือไม่ได้ น้อยรายนักที่จะใช้ตัวอื่น
3.โรงพยาบาลใหญ่ ใครว่าไม่ขาดทุน เอาเป็นว่าอย่างน้อยรพ.ผมกำลังจะเจ๊งจากบัตรทอง เพราะตอนนี้มีแต่ case หนักๆ ขอใบส่งตัวไปรักษารร.แพทย์ บางทีโดนใส่เครื่องมือบางอย่างที่แม้แต่ข้าราชการก็ยังเบิกไม่ได้ด้วยซ้ำ ราคาเกือบล้าน ต้อง FU MRI ทุก 6 เดือน บางทีก็ให้ยานอกบัญชี รวมถึงยามะเร็งสูตรใหม่ๆ เข้าโครงการวิจัยอะไรไม่รู้ แล้วโทรมาบังคับให้ส่งตัวและเบิกได้ทั้งหมด และรายได้รพ.ผมก็ไม่เห็นได้จากทางอื่นมากมายอะไร ไม่ใช่รามานะ ออกทีวีรับบริจาคให้ตึกใหม่เพื่อผู้ป่วยยากไร้ แต่ไอ้ตึกใหม่ที่ว่าดันให้เฉพาะคนมีตังใช้ (เคยส่งคนไข้บัตรทองไปรักษา บอกถ้าจะใช้ตึกนี้ต้องสละสิทธิ์บัตรทองแล้วจ่ายเองทั้งหมด แต่อันนี้ฟังคนไข้มาอีกทีนะครับ อาจใส่ไข่หน่อย)
4.ยารพ.รัฐแพงกว่าเอกชน/ร้ายยาครับ เพราะคนไข้หลายคนที่รับยาเอกชนแล้วจะมาขอใช้สิทธิ์บัตรทองแต่ต้องการยานอกบัญชี ผมบอกราคาไป (ที่คิดตามอัตราบวกนั่นแหละ) ปรากฎว่ามันแพงกว่าที่เค้าเคยซื้อ ก็เลยให้ใบสั่งยาไปซื้อข้างนอกเอา ส่วนคนเบิกได้ก็คงเอากำไรไปโปะที่ขาดทุนจากบัตรทอง
5.ยอมรับว่าการตลาดทำให้แพทย์จ่ายยาเกินความจำเป็น แต่ถ้ามีระบบตรวจสอบที่ดี ก็น่าจะดีขึ้น อย่างปีที่แล้วโดนเรียกเงินคืนไปหลายล้าน ที่หมอจ่ายไม่ตรง indication ก็ช่วยกันตักเตือนคนที่จ่ายเว่อร์ๆไป ก็ดีขึ้นครับ
ไม่อยากให้มองอะไรแบบสุดโต่ง เหมารวม มันดูว่าคนเบื้องบนมันโง่ซะเหลือเกิน (จริงๆน่ะฉลาด ขึ้นเงินเดือนพวกเดียวกัน กันฐานเสียงเป็นหลัก แล้วมาลงกับคนไม่มีทางสู้) นโยบายไม่คิดค่าไฟ ไปลงกับผู้ประกอบการ ยังไงก็กลับมาสู่คนทั่วไปอยู่ดีเพราะสินค้าก็แพงขึ้น ก็หลอกได้แต่คนโง่ๆที่ยอมให้หลอกนั่นแหละ
จากคุณ |
:
xanyz
|
เขียนเมื่อ |
:
21 ม.ค. 54 22:45:11
|
|
|
|
|