ความคิดเห็นที่ 1 ประสบการณ์ตรงของตนเอง ได้ผลจริงครับ ผมเป็นภูมิแพ้ตั้งแต่เด็กๆครับ พอเข้าช่วงวัยรุ่นอายุประมาณ 17 ปี ก็ยังเป็นอยู่ เริ่มฝึกไท้เก็กตอนนั้น ประมาณเดือนสองเดือนต่อเนื่อง อาการก็ดีขึ้น และหายขาด ขอบใต้ตาดำ เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงค่าเลือดของเรา และสัมพันธ์กับคุณภาพของไต การบริหารกายแบบไท้เก็ก ชี่กง จะปรับสมดุลของอวัยวะภายใน รวมทั้งไต ช่วยให้ไตแข็งแรงขึ้น ก็จะช่วยให้ขอบตาที่ดำดีขึ้นได้ครับ แต่ทั้งนี้ ทั้งนั้น ต้องดูเหตุปัจจัยต่างๆรอบตัวด้วย ทั้งเรื่องอาหาร การพักผ่อน อารมณ์ ฯลฯ ต่อให้ฝึกไท้เก็กอย่างไร แต่ไม่ปรับเรื่องอาหาร อากาศ อารมณ์ ฯลฯ ก็ยากจะช่วยได้ครับ ครูผู้สอนก็สำคัญครับ มันต่อยอดไปถึงวิธีการ กระบวนการปฏิบัติด้วย ไท้เก็กไม่ใช่สักแต่รำๆๆๆๆ ช้าๆ ให้ถูกท่า แต่มันมีรายละเอียด การหายใจ การผ่อนคลาย การใช้แรง ส่งแรง ถ่ายเทน้ำหนัก ซึ่งจะว่าไปแล้ว มันคือการจัดระเบียบระบบประสาท และระบบการทำงานของร่างกายอย่างหนึ่งครับ การฝึกโยคะก็ช่วยได้เหมือนกัน โยคะ กับ ไท้เก็ก หลักการเหมือนกัน ต่างแค่รูปลักษณ์การแสดงออกภายนอกเท่านั้น แต่หากถามประสบการณ์ความรู้สึกของผม โยคะอาจจะจับต้องเข้าใจได้ง่ายกว่าไท้เก็กนิดนึง แต่การจะประสบความสำเร็จในทั้งสองศาสตร์ถือว่าใช้เวลาพอกัน แต่ก็ไม่เกินความพยายามของเราหรอกนะครับ สนใจ แนะนำลองติดต่อทางคณะมนุษยศาสตร์ มศว. จะมีกิจกรรมเรียนกับ อ.มงคล ศริวัฒน์ ทุกวันอังคารช่วงเย็นนะ ถ้าผมจำไม่ผิด อาจารย์ท่านนี้ ถือว่าเชี่ยวชาญไท้เก็กและอธิบายให้เข้าใจได้ง่ายและดีคนหนึ่งของเมืองไทยครับ ลองตรวจสอบและพิจารณาดูครับ ส่วนตัวผมแล้ว ผมชอบปฏิบัติทั้งโยคะและไท้เก็ก แต่ถนัดสอนโยคะมากกว่าครับ ^O^ จากคุณ : CHM เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 22:16:57

ความคิดเห็นที่ 2 เห็นด้วยอย่างแรงงง ครับ โยคะผมชอบมาก ๆๆๆ มันเกี่ยวกับระบบประสาท ปรับสมดุลร่างกายให้เข้าหาค่าปกติ เพราะชีวิตประจำเรามัก จะใช้ร่างกายแบบไม่สมดุล แล้วปรับสมดุลร่างกายให้เข้่ค่ากลาง ไทเก็กก็ดี แต่ต้องหาก๊วนถึงจะสนุกด้วย จากคุณ : WhereYouStay เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 54 06:44:11

ความคิดเห็นที่ 3 เห็นด้วยกับการหาก๊วนครับ ทั้งก๊วนฝึกโยคะ และไท้เก็ก คนส่วนมาก เลิกฝึกในไม่ช้า เพราะฝึกคนเดียวแล้วเหงา เบื่อ ไม่มีคนมาคอยตรวจท่าให้ บางทีเจอครูคนจีน พูดไทยไม่ค่อยได้ ยิ่งแล้วใหญ่ คนไทยหลายๆคนเห่อของนอก เห็นครูคนจีน ครูต่างชาติ จะวิ่งเข้าใส่ แห่ไปเรียน เรียนไปสักพัก "บางคน" กับ "หลายคน" ก็จะเริ่มทะยอยเลิกเรียน ขาดเรียน และไม่ไปเรียน เพราะสื่อสารกันไม่เข้าใจ จากคุณ : CHM เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 54 08:44:43