|
จำได้ว่าสมัยเรียนแพทย์แผนไทยประยุกต์ในxxxx มีเพื่อนร่วมชั้นบางคนแตกแถวไปตั้งสำนักเป็นหมอแผนปัจจุบันเอง หมอคนหนึ่งพื้นเพอยู่ จ.น่าน อีกคนเห็นว่าอยู่ จ.ขอนแก่น
ผมเองทำเว็บบอร์ดคณะก็มีโอกาสคุยกับเด็ก ๆ ม.ปลายเยอะ ตอบคำถามเรื่องการสอบเข้า, รายวิชาในแต่ละปี, ลักษณะการทำงาน ฯลฯ อยู่มาวันหนึ่งมีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งบอกว่าเขาอยากมาเรียนที่xxxเพราะีคนบ้านเดียวกับเขาติดแพทย์xxx เราถามดูเห็นว่าชั้นปีเดียวกันก็ถามกลับว่าชื่ออะไรหรือ? . . . กลายเ้ป็นเพื่อนร่วมชั้นเราซะอย่างนั้น ไปกล่าวคำเท็จอ้างตัวเป็นนักเรียนแพทย์ศาสตร์...เราก็บอกเขาว่ามันไม่ใช่แล้วล่ะ น้องเขาก็เทิดทูนอยู่มาก บอกว่า "พี่อย่าไปว่าพี่เขาเลยนะ ถึงยังไงหนูก็อยากเรียนที่xxxเหมือนพี่เขา"
พูดแบบนี้ก็เป็นอันว่าจบไป...ป่วยการจะร้องทุกข์ให้ใครฟัง
ระหว่างเรียนก็เห็นว่า 2 คนนี้ทำธุรกิจขายยา จัดส่งยารักษามะเร็ง, ยารักษาเอดส์, ยารักษาเบาหวาน ฯลฯ เราว่ามันไปกันใหญ่เพราะแบบนี้มันไม่ใช่แค่ข้ามเขตแดนของความเป็นหมอ แต่มันเป็นการเอาชีวิตคนมาเดิมพันเพื่อสนองความต้องการตนเอง ชวนเพื่อนไปลงทุนขายอาหารเสริม บางทีัก็ทึกทักเอาเหมือนคนเล่นคุณไสยว่าต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้ อาศัยความเป็นนักเรียนแพทย์ของxxx ไปซื้อหัวเข็มขัดมาใส่เองบ้างล่ะ เราท้วงไป "เฮ้ย พี่ใส่ได้ไง นั่นของแพทย๋ศาสตร์เขานะ" เขาก็ว่ากลับ "เราเป็นเด็กสังกัดนี้เหมือนกันก็ต้องใส่ได้สิ" ใช้ตรรกะพิกลวิสัชนาเราให้อีกแน่ะ ไม่รู้ผิดชอบชั่วดีเลย :(
รองคณะบดีก็ว่ากล่าว เรียกตัวไปอบรมอยู่้หลายครั้ง แต่ละทีก็พยักหน้าแล้วตอบด้วยความเงียบ สุดท้ายก็กลายเป็นเฉกเดิม ใช้ความเป็นบุคลากรทางการแพทย์เป็นเครื่องมือในทางมิชอบ
ช่วงจบใหม่ ๆ ก็มีดราม่าชุดใหญ่เรื่องการประกอบโรคศิลป์ครับ ไปหลอกคนเป็นมะเร็งว่าจัดยาแบบนี้นะ ต้องมีงบ 60,000 บาท กินกี่ชุด ๆ ก็ว่ากันไป ปรากฏคนไข้ย้อนกลับมาถามทางคณะ แบบนี้ก็เป็นเรื่องสิครับ รองคณะบดีซึ่งเป็นหัวหน้าหลักสูตรและประธานอนุกรรมการวิชาชีพโทรไปเอง หมอกลายพันธุ์ก็ตอบกลับว่า "สวัสดีครับ ผมนายแพทย์ น. พูดสายอยู่ครับ" ว่าแล้วก็คุยกัน บลา บลา รองคณะบดีก็วางอุบายจนได้ความว่ามันเป็นหมอกำมะลอจริง พอรองคณะมั่นใจแล้วก็กล่าวว่า "นี่ อาจารย์เองนะ" ได้ยินแล้วก็วงแตกครับ วางสายไปไม่พอ ยังปิดเครื่องหนีคดีอีกด้วย
จากตอนนั้นถึงตอนนี้ไม่ทราบว่าทั้ง 2 คนไปไหนแล้ว แว่วข่าวว่าได้ดีพอตัว ประกอบสัมมาชีพอยู่ในกระทรวงสาธารณะสุข เห็นแล้วก็ประหวั่นใจครับ งานแพทย์ทางเลือกที่้หลายคนอุทิศชีวิตเพื่อให้สังคมยอมรับต้องพินาศเสียหายจากความมักง่าย มักได้ของคนไม่กี่คน หมอกำมะลอพวกนี้ยังมีอีกเยอะครับ หลายคนก็ใช้ช่องทางตามอินเตอร์เน็ต หากินบนความหมดหวัง
ผมเคยถามว่า "มึjไม่กลัวบาปกรรมหรือไง" มันก็ตอบว่า "แล้วกูเอาปืนจ่อหัวให้เขาซื้อยาหรือ?"
ถึงเวลากรรมสนองเมื่อไร คราวนี้ล่ะสนุกแน่ ๆ ครับ
จากคุณ |
:
rafaelo
|
เขียนเมื่อ |
:
12 ก.พ. 54 16:28:05
|
|
|
|
|