ความคิดเห็นที่ 1 รอหมอท่านอื่นในนี้มาบอกวิธีการเปลี่ยนแพทย์ละกัน มันเป็นสิทธิ์ของคนไข้ไม่ใช่หรอที่จะขอเปลี่ยนหมอด้วยตัวเองน่ะ จากคุณ : Zhion เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 54 01:55:28

ความคิดเห็นที่ 2 จริงๆมันก็ไม่ได้หนักหนาอะไรหรอกนะครับ แต่อยากให้เข้าใจนิดนึงว่า ระบบสาธารณะสุขเมืองไทย หากแพทย์ที่โรงพยาบาลต้นสังกัดอนุญาตให้ผู้ป่วยไปทำการรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลอื่นได้ แปลว่าโรงพยาบาลต้นสังกัดต้องตามไปจ่ายเงินในส่วนของประกันสังคม/บัตรทอง ให้กับโรงพยาบาลที่รับไว้รักษาต่อ ดังนั้นมันจึงเป็นปัญหาครับ เพราะที่โรงพยาบาลต้นสังกัด จะส่งตัวคนไข้ในโรคที่ตัวเองสามารถรักษาและดูแลได้ไปให้โรงพยาบาลอื่นนั้น จะโดนทางผู้บริหารของโรงพยาบาลเรียกไปคุยว่าส่งไปทำไม ทำไมต้องส่ง คุณก็ดูแลเองได้ไม่ใช่เหรอ ซึ่งผมคาดว่ามันน่าจะเป็นเหตุผลนี้ครับ.... เป็นเหตุผลที่อธิบายได้ง่ายที่สุด แต่สำหรับผม ถ้าจะย้ายไปโรงพยาบาลที่ดีกว่า เช่น รามา ศิริราช พระมงกุฏ จุฬา อะไรพวกนี้ ผมให้ไปโดยไม่คิดมาก ยอมโดน ผอ. ด่าดีกว่า อ้างกับผอ.ไปว่าให้คนไข้ได้รับการดูแลที่ดีขึ้น แต่ความจริงคือ คนไข้เราลดลง เราก็ทำงานน้อยลง ซึ่งตรงจุดนี้ก็คงแล้วแต่ตัวหมอล่ะครับ เพราะโรคสะเก็ดเงินนั้นหมอโรคผิวหนังทุกคนสามารถดูแลรักษาได้ แต่ก็อยากให้เข้าใจนิดนึงครับว่าการดูแลสำหรับโรงพยาบาลจังหวัด ถ้าให้เทียบกับโรงเรียนแพทย์มันไม่มีวันที่จะได้มาตรฐานที่เท่ากันหรอกครับ เพราะจำนวนคนไข้,จำนวนแพทย์ มันต่างกันอย่างเห็นได้ชัดครับ ปล.กลับมาอ่านดูก็คิดได้ว่าคำตอบของผมไม่เป็นประโยชน์ซักเท่าไรกับ จขกท.เลยแม้แต่น้อย กลับกลายเป็นเหมือนปกป้องแพทย์ด้วยกันอีก แก้ไขเมื่อ 14 ก.พ. 54 03:04:42 แก้ไขเมื่อ 14 ก.พ. 54 03:04:28 จากคุณ : Umiki เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 54 02:24:22

ความคิดเห็นที่ 3 แต่ความจริงคือ คนไข้เราลดลง เราก็ทำงานน้อยลง //ฮ่าฮ่าฮ๋า เอ่อะ (- -) พี่หมอ นิดนึง บ้างอะไรบ้าง อิอิ แก้ไขเมื่อ 14 ก.พ. 54 10:36:24 จากคุณ : Radomski เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 54 02:43:11

ความคิดเห็นที่ 4 อืม คุณซิ่นลองทำเรื่องแจ้งกับผอ โรงพยาบาลดูไหมคะ เผื่อช่วยได้ อันนี้ความเห็นเราล้วนๆ ถึงคุณหมอ คห ที่สอง ไม่หรอกคะเราอ่านดูแล้วเป็นความถูกต้องที่ควรชี้แจงคะ ถ้าไม่มีคุณหมอชี้แจงอาจทำให้หลายๆท่านมองวงการแพทย์ในทางที่ไม่ดี มากขึ้น ขอบคุณคะทำให้เรามีความรู้ตรงนี้ไปด้วย จากคุณ : ManeKi^NeKo เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 54 08:24:45

ความคิดเห็นที่ 5 เปลี่ยนหมอเปลี่ยนได้ครับ แต่เปลี่ยน รพ. บางทีก็เปลี่ยนไม่ได้ เพราะบัตรไม่ได้ให้สิทธิตรงนี้ไว้ เช่น ไปตรวจประจำที่รพ.อำเภอหนึ่ง ในขอนแก่น แล้วไปบอกหมอว่าอยากเปลี่ยนไปตรวจที่ รพ.ศิริราชอย่างนี้ ส่งตัวไปไม่ได้ เพราะถึงเขียนใบส่งตัวไป ทาง รพ.ศิริราชก็เก็บเงินอยู่ดี เพราะถือว่าเป็นการลัดขั้นตอน ส่วนเรื่องเปลี่ยนจากพุทธชินราช ไป รพ.รามา ผมไม่แน่ใจว่าทำได้หรือเปล่า ถ้าหากไม่ได้จริงๆ ... ลองไป รพ.รามาอีก ให้หมอที่ รามาบอกใบนัดให้ แล้วเอาใบนัดนั้นไปขอใบส่งตัวที่ รพ.ใกล้บ้าน หรือต้นสังกัดดูครับ แก้ไขเมื่อ 14 ก.พ. 54 08:49:17 จากคุณ : หมอก้อนหิน เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 54 08:45:44

ความคิดเห็นที่ 6 ขอตอบคำถามจขกท.ในฐานะแพทย์ผิวหนังคนหนึ่ง ปัญหามีสองอย่างคือ "1.ยาที่ทางโรงพยาบาลพุทธชินราชมี เป็นตัวยา 25 มิลลิกรัม ซึ่งแรงมากส่งผลกระทบหลายอย่างต่อร่างกายของน้า จนหัวใจ ตับ ตอนนี้ทำงานได้ไม่ดีนัก แต่ทางรพ.รามาฯ มียาขนาด 10 มิลลิกรัม ที่รักษาได้และเบากว่ามาก กินสลับกับยาตัว 25 มิลลิกรัม ร่างกายไม่รับภาระมากเท่า น้าต้องทานยาทุกวันวันละหนึ่งเม็ด เพื่อบรรเทาอาการปวดแผลที่เกิดขึ้น" -ยาตัวนี้น่าจะเป็น Neotigason  ซึ่งยาตัวนี้อาจจะมีผลต่อตับก็จริง  แต่ก็ไม่ได้ร้ายแรงจนทำให้ผป.เป็นอันตรายถึงชีวิต  ปกติแพทย์ที่จ่ายยานี้ให้คนไข้  จะต้องระมัดระมังอยู่แล้ว  อย่างน้อยต้องตรวจการทำงานของตับเป็นระยะๆ  และรีบหยุดยาทันทีที่เอ็นไซม์ตับเริ่มขึ้นสูง -ยาตัวนี้ไม่มีผลต่อหัวใจ -ยาขนาด 10 หรือ 25 มก. ก็มีผลข้างเคียงพอๆกัน  การจะพิจารณาว่าจะให้ยาตัวใด  ก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์  ถ้าอาการทางผิวหนังดีขึ้น  จขกท.อาจจะไปต่อลองว่า  ขอกินยาขนาด 25 มก.เป็นวันเว้นวัน  อาการผิวแห้ง  มือลอกก็จะเกิดน้อยลง -ยาตัวนี้ เป็นยามาตรฐานตัวหนึ่งที่ใช้รักษาโรคสะเก็ดเงิน  เป็นยาที่ปลอดภัยพอสมควรเมื่อเทียบกับยากินตัวอื่นๆ  และเป็นยาที่ราคาแพงมาก  ผมว่า น้าของ จขกท.โชคดีที่แพทย์เจ้าของไข้พิจารณาให้ยาตัวนี้ครับ 2."หมอใช้เวลาตรวจเพียงไม่ถึงห้านาที" -เมื่อเทียบกับหมอทางสาขาอื่น  หมอผิวหนังเราใช้เวลาตรวจคนไข้สั้นกว่า  เพราะเพียงแต่ดูผิวหนังด้วยตา  แล้วถามคนไข้อีกไม่กี่ประโยค  กว่า 90 % เราก็สามารถวินิจฉัยโรคได้แล้ว   ยิ่งคนไข้เก่า  ก็ยิ่งใช้เวลาสั้นลงไปอีก  ฉะนั้น  ใช้เวลาตรวจไม่ถึง 5 นาที  จึงเป็นเรื่องปกติครับ "ผิวหนังตกเป็นสะเก็ดขาวๆเหมือนผิวแตก(แต่ไม่ใช่) ลามขึ้นที่นิ้วมือจนไม่มีลายนิ้วมือ"   -อันนี้เป็นผลข้างเคียงของยากินครับ  จะดีขึ้นเองเมื่อหยุดกินยา "บางเดือนน้ายอมเก็บเงินขึ้นกรุงเทพเพื่อไปขอยาตัว 10 มิลลิกรัม " -แทนที่จะไปกรุงเทพฯ   ทำไมไม่ลองกินยาขนาด 25 มก.เป็นวันเว้นวัน  ผลการรักษาและผลข้างเคียงจะใกล้เคียงกับการกินยาขนาด 10 มก.วันละครั้ง "ไม่รู้ว่าน้าจะอยู่ได้นานอีกเท่าไหร่ (หมอบอกเอง)" -โรคสะเก็ดเงิน  ไม่ใช่โรคอันตราย  และไม่มีผลต่อชีวิตคนไข้  หมายความว่า  ถ้าคนไข้จะตาย  ก็จะตายจากโรคอื่น  ไม่ใช่โรคสะเก็ดเงินโดยตรงครับ ฉะนั้น หนูซิ่นเลิกเครียดได้แล้ว.. สำหรับคำแนะนำ   อยากจะให้หนูทำใจเย็นๆ  และให้เชื่อมั่นในหมอที่รักษาคนปัจจุบันที่ รพ.พุทธชินราช  ตามเดิม  เพราะเชื่อว่าหมอท่านนั้นคงเป็นหมอผิวหนัง  และหมอผิวหนังทุกคน  สามารถรักษาโรคสะเก็ดเงินได้อย่างไม่แตกต่างกัน  ไม่ว่าจะอยู่ที่โรงพยาบาลไหน สำหรับผลข้างเคียงที่หนูไม่สบายใจ  แนะนำให้หนูเข้าไปในห้องตรวจพร้อมกับน้า  แล้วค่อยๆพูดให้คุณหมอรู้ถึงความไม่สบายใจอย่างสุภาพ  เขื่อว่าผลลัพย์ที่ตามมา  คงทำให้หนูหายเครียดได้ครับ จากคุณ : ส.มโนมัย เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 54 09:19:35

ความคิดเห็นที่ 7 คหที่ 2 คะ ส่วนตัวดิฉันคิดว่า หมอเค้าไม่ได้ทำงานน้อยลงหรอกค่ะ เพราะ ระบบแพทย์ของเรา จำนวนหมอกับคนไข้มาก มายกว่าใคร ๆ ในโลกเหมือนกันนะ เราเคยทำประกันสังคมรพ. หนึ่ง แต่ขอเรื่องย้ายไปรับบริการอีกที่ ไม่เห็นมีอะไรนี่คะ แต่เราอยู่ กทม. นะไม่รู้เหมือนกันว่า ต่างจังหวัดย้าย กทม. จะเป็นอะไรไหม ไปถามหน่วยงานประกันสังคมอีกทีดีกว่าค่ะ  ไม่ต้องถามหมอหรอก เมื่อได้แล้วก็ ไปขอประวัติจาก รพ เดิม ไปให้ รพใหม่   เราเคยทำนะ เอ๊ ไม่รู้ทำไมของเราไม่มีปัญหา อืมอ่านของคุณซิ่นเลย งง กับ การโวยวายของหมอ ค่ะ หรือต้องใช้เส้นสาย พูดเล่นค่ะ  ลองไปติดต่อประก้นสังคมดูก่อน ไม่งั้นหลังไมค์มา เราจะปรึกษา เพื่อนเราดูให้ แก้ไขเมื่อ 14 ก.พ. 54 09:51:56 แก้ไขเมื่อ 14 ก.พ. 54 09:50:54 จากคุณ : น้องฉ่าย เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 54 09:49:05

ความคิดเห็นที่ 8 เจอคนไข้ที่มีความคิดเป็นของตัวเอง ก็น่าเห็นใจคุณหมอเหมือนกันนะครับ ขนาดผมอยู่สถานีอนามัยยังเจอบ่อยๆ ผู้ป่วยที่คิดเองเออเองว่าตนเป็นนั่นเป็นนี่ยานี่ไม่ดี ยานี้ดีกว่า ......................................... ผมถือคติครับ ถ้าไปหาหมอ ให้เรามั่นใจในตัวหมอ แล้วเราจะหายครับ คุณหมอเรียนมา 6 ปี เรียนเฉพาะทางอีกอย่างต่ำๆ 2 ปี เค้าคงต้องคิดว่าดีแล้วละครับ ส่วนคิดถูกมาก หรือถูกน้อย ก็อีกเรื่องหนึ่ง จากคุณ : ซุปเปอร์เดปอร์ เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 54 11:24:17

ความคิดเห็นที่ 9 ขอบคุณคุณหมอแทน จขกท.และมาเก็บเอาความรู้จากคุณหมอทั้งหลาย ชื่นชมหนูซิ่น  แค่อยู่ม.5 เอง   รู้จักวิเคราะห์ปัญหาแล้ว โตมาหนูต้องเป็นผู้ใหญ่ที่เก่งไม่แพ้ใครเชียว ผิดกับเด็กอีกหลายๆคน  ยังมัวแต่กดเกมส์   เรื่องอื่นไม่รู้อย่างเดียว . จากคุณ : samr เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 54 11:37:33

ความคิดเห็นที่ 10 มาให้ give คห.6 เพิ่งทราบว่าเป็นหมอผิวหนัง จากคุณ : หมอก้อนหิน เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 54 13:40:57

ความคิดเห็นที่ 11 ช่วงนี้กระทู้บ่นหมอเยอะจังนะคะ เอาเป็นว่าเป็นกำลังใจให้ค่ะ จากคุณ : minnymin เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 54 16:32:53

ความคิดเห็นที่ 12 ผมฟังหมอ คห6..แล้วก็ชื่นใจ...แต่เรื่องจริงก็คือว่า...หมอทั้งหมด จะคิดอย่างเดียวว่า..พวกเดียวกัน..ego สูงมาก..จึงเป็นเรื่องลำบากที่จะไปทำอะไรให้คุณหมอไม่ชอบใจ...คุณจะคิดไม่ถึงเลยครับว่าจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าไปทำอะไรผิดใจกับหมอที่รักษาเราอยู่.....ด้วยเหตุฉะนี้ วิธีที่ดีที่สุดคือ คุณต้องย้ายโรงพยาบาลใหม่ โดยไม่แจ้งหมอเก่า และไปเริ่มนับ 1 ใหม่..นั่นแหละคุณจึงจะสบายใจ..อย่าให้ผมอธิบายเลยว่า ทำไมต้องเป็นอย่างนั้น????? มีตัวอย่างเยอะครับ แต่ไม่สามารถอธิบายให้ได้ จากคุณ : chongcob เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 54 16:57:00

ความคิดเห็นที่ 13 ทริกง่ายๆให้ย้ายรพ. ไปขอหมอรามาฯ ให้ออกใบนัด + จม.ขอใบส่งตัวจากพุทธชิน แล้วก็แอบมาพุทธชิน ให้หมอด้านอื่นเห็นจดหมายเขียนใบให้หนึ่งปี (ไม่ต้องพาคนไข้มายิ่งดี ทำเนียนว่าทางโน้นขอนัดต่อเนื่อง) ทริกเล็กๆ (รู้แล้วเหยียบไว้) บางทีต้องเข้าใจ โรคบางอย่างมันอยู่ในมาตรฐานที่แพทย์เฉพาะทางด้านนั้นควรรักษาเป็น (โรคไม่ยากว่างั้น)แต่ก็นะ คงไม่ดีเลิศเท่าโรงเรียนแพทย์ ถ้าเขียนไปรพ.ใหญ่กว่าก็จะโดนทั้งปลายทาง ทั้งผู้บังคับบัญชาตำหนิ จากคุณ : natefang เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 54 18:04:03

ความคิดเห็นที่ 14 เปลี่ยนปีก็ย้าย ปกส -> จบ ให้ refer คงยาก จากคุณ : no preservation เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 54 00:01:12

ความคิดเห็นที่ 15 ขออภัยด้วยค่ะที่ตั้งกระทู้ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์และคิดเองเออเองค่ะ ขอขอบคุณคำตอบของทุกท่านมากๆเลยนะคะ ช่วยทำให้ซิ่นหายกังวัลไปได้มากเลยล่ะค่ะ ^ ^ จากคุณ : resin_part_14 เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 54 00:23:32

ความคิดเห็นที่ 16 เป็นประกันสังคม ก็ขึ้นกับว่าเราจะไปทำที่ไหนไม่ใช่หรือคะ ปีหน้าก็เปลี่ยนที่ แค่นั้นแหละค่ะ ว่าแต่ว่า ไอ้ยาขนาด 25 มก น่ะ เราแบ่งครึ่งกิน(เหลือ12.5 มล) ไม่ได้หรือคะ อย่างน้อยก็ยังใกล้เคียง 10 มก. มาหน่อย จากคุณ : Anonym เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 54 14:52:25