ความคิดเห็นที่ 1 ทำไมหน่วยงานความเห็นไม่ตรงกัน เป็นเพราะ อย. = องค์การอาหารและยา ซึ่งน่าจะมีเภสัชกร หรือผู้เชี่ยวชาญด้านยาทำงานอยู่ ส่วน กรมบัญชีกลาง = จะมีเภสัชกร หรือผู้เชี่ยวชาญด้านยาทำงานอยู่หรือเปล่า ไม่ทราบได้ แต่คิดว่าคงไม่มี มันก็เหมือน คุณไปถามเรื่องการรักษาโรคกับหมอ แล้วเอาไปเทียบกับที่คุณไปถามกับเพื่อนบ้านที่ไม่ใช่หมอ มันก็ไม่เหมือนกัน.. จากคุณ : หมอก้อนหิน เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 54 19:17:13

ความคิดเห็นที่ 2 ทำไมถึงไม่ปรึกษากันให้ดีก่อนจะประกาศอะไรออกมาครับ  แสดงถึงความไม่ได้เรื่องในการทำงานครับทั้งที่เป็นหน่วยงานระดับชาติ จากคุณ : พี่ไก่ (kai golf) เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 54 19:41:12

ความคิดเห็นที่ 3 มันก็น่าจะได้ผลนะไม่งั้นยามันจะ Approve ได้ไง จากคุณ : Pimano เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 54 19:43:39

ความคิดเห็นที่ 4 เพราะมันคนละกรมกองไง เหมือนไฟฟ้าปะปา กทม แยกกันทำงาน จากคุณ : คุณม้าน้ำ เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 54 19:52:52

ความคิดเห็นที่ 5 มาเพิ่มเติม คห.4 เหมือนการประปา มาบอกว่า ให้ยกเลิกมิเตอร์ไฟฟ้าแบบเดิม เพราะว่ามันไม่เที่ยงตรง แต่การไฟฟ้า แย้งว่า มิเตอร์ตัวเดิมมันเที่ยงตรงดี ไม่มีเหตุผลที่จะเปลี่ยนมิเตอร์ ถ้าเป็นคุณ คุณจะเชื่อคำพูดใคร จากคุณ : หมอก้อนหิน เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 54 20:51:12

ความคิดเห็นที่ 6 คุณหมอก้อนหินครับ ก็คงจะจริงอย่างที่คุณหมอว่านะครับ แต่ผมว่ามันสร้างความไม่มั่นใจให้คนทำมะดาเดินดินอย่างเราเลย จากคุณ : bestpits (bestpits) เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 54 23:21:11

ความคิดเห็นที่ 7 ตามที่เข้าใจ ทางสององค์กรนี้ใช้หลักพิจารณาคนละตัวกันครับผม คือทาง อย.บอกว่ายาได้ผลก็จริง เพราะมีงานวิจัยรองรับ ถึงแม้ว่าการทำวิจัยนั้นบริษัทยาจะเป็นผู้สนับสนุนหลัก(มากๆ)ก็ตาม แต่ทางกรมบัญชีกลางพบว่า ยาตัวนี้มีการเบิกใช้เกินความจำเป็น ผู้ป่วยที่ไม่ควรได้รับก็ได้รับ แล้วทางกรมบัญชีก็มีตัวเลขการสูญเสียที่พอจะพูดได้เต็มปากว่า มันไม่คุ้มน่ะครับ เพราะว่าใช้ดัชนีชี้วัดต่างกันน่ะครับผม ปล.อันนี้ตามที่สรุปได้นะครับ รบกวนผู้รู้อีกทีด้วย จากคุณ : tontonmu เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 54 23:30:10

ความคิดเห็นที่ 8 งานวิจัยพบว่า สารกลูโคซามีน ไม่ได้มีประสิทธิภาพในการรักษาโรคข้อเสื่อม เป็นเพียงตัวยาหลอก เพื่อบรรเทาปวดเท่านั้น นักวิจัยในหลายประเทศเห็นว่าไม่ควรเบิกจ่ายในระบบรัฐ สวัสดิการ เพราะจะ... โดย ดร.นพ.ยศ ตีระวัฒนานนท์ หัวหน้าโครงการประเมินเทคโนโลยีและนโยบายด้านสุข กรมบัญชีกลาง ยกเลิก ตามคำแนะนำของหมอท่านนี้ครับ เพราะฟังจากวิทยุจุฬา เมื่อเดือนที่แล้ว จากคุณ : ขุนนนท์ เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 01:19:53

ความคิดเห็นที่ 9 แล้วที่มีหมอกระดูกออกมายืนยันว่ายารักษาได้นี่ ตกลงมันเป็นยังไงกันแน่เหรอคะ...พวกเธอ? เดี๊ยนตามเรื่องนี้มาได้สักพักแล้วน่ะค่ะ ก็เห็นรายการนึงเหมือนกัน ที่มีคุณหมอมาออกรายการ เห็นคุณหมอบอกว่ากลูโคซามีนที่ใช้กันอยู่ไม่ได้ผล แถมยังว่าในบางประเภทให้เป็นอาหารเสริม ถ้าต้องกินอาหารเสริมแพงๆ ให้หาย แบบนี้ข้าราชการทั้งหลายมิจนกรอบแย่เลยหรือคะ? แถมอาหมอแกยังบอกว่าไม่มียารักษาให้หายอรกต่างหาก ฤาโรคข้อเสื่อมมันจะเทียบขั้น "โรคเอดส์" กันแล้วหรือไรคะ....พวกเธอ? จากคุณ : Pranapee Network เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 01:33:46

ความคิดเห็นที่ 10 ไม่ยากครับ  เอาแพทย์ทั้งสองฝ่ายมา ให้เหตุผลกับ สมาคมข้อและกระดูก ใครผิดก็พักใบอนุญาต  ซักฝ่าย ก็แค่นั้นเอง จากคุณ : กินลม ชมทะเล เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 10:59:45

ความคิดเห็นที่ 11 เพราะข้อมูลทางการแพทย์เปลี่ยนแปลงบ่อย เมื่อก่อนหลักฐานว่าใช้แล้วดี แต่ล่าสุดมันไม่ต่างจากยาหลอกขอรับ  ก็เลยชวดไป เทียบเหมือนเมื่อก่อนจะถูกสอนว่าหัวใจล้มเหลวห้ามให้ยากลุ่ม beta blocker แต่ยุคนี้ถือว่าต้องให้ สำคัญมาก อะไรแบบนั้น ไม่แน่รออีก 3 ปีอาจมีหลักฐานว่าได้ประโยชน์ก็ได้ ตอนนั้นอาจเปลี่ยนอีกที (คิดว่าตอนนั้นคงเละเทะแล้วมั๊ง) จากคุณ : xanyz เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 11:34:56

ความคิดเห็นที่ 12 นพ.ยศ แกพิจารณาจากหลักเศรษฐศาสตร์สาธารณสุขครับ การตัดสินใจใช้ครั้งนี้ถ้าถามผมว่าผิดไหม... ไม่ผิดหรอกครับ แต่หาทางอื่นให้คนเดินออกได้ไหม เช่นการฉีดยากลุ่มน้ำเลี้ยงข้อแทน หรือแบบอื่น กลูโคซามีนแม้จะมีผลด้านการรักษาแต่ไม่มีผลคุ้มค่าในการรักษาครับ นี่คือความแตกต่าง คำว่าให้ผลในการรักษาเราพิจารณาจากงานวิจัยครับ ว่ามีผลในการรักษาหรือไม่ โดยการใช้สิ่งที่เรียกว่าการทดลองทางคลินิก (Clinical Trial) แต่หมอแกเป็นผู้เชียวชาญด้านเศรษฐศาสตร์สาธารณสุข ดังนั้นแกมองในประเด็นต้นทุน - ประสิทธิผล (Cost-Effectiveness Analysis) ครับ ลองคิดนะครับ หมอเค้าทำในฐานะคนที่ต้องสนับสนุนข้อมูลให้ผู้จ่ายเงิน หรือกรมบัญชีกลาง จึงต้องใช้มุมมองของคนจ่ายเงิน ในขณะที่หมอทั่วๆ ไปที่สั่งใช้ยาให้ราชการ ไม่ได้ต้องจ่ายเอง ดังนั้นสามารถใช้มุมมองของคนใช้ยาได้ จึงได้คำตอบคนละด้าน เพราะมองในคนละมุมมอง ส่วนงานวิจัยที่บอกว่าไม่มีผล ผมไม่ค่อยเชื่อถือเท่าไหร่ จากคุณ : Epinephrine เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 11:52:59

ความคิดเห็นที่ 13 ถ้าไม่เชื่อ meta-analysis ของ BMJ แต่เชื่อการศึกษาของบริษัทยาหรือเชื่อ expert opinion ก็ลำบากหน่อยล่ะขอรับ  เพราะประเทศไทยคงไม่มีใครทำ study แน่ๆ ใช้เงินมหาศาลสุดๆ จากคุณ : xanyz เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 12:06:32

ความคิดเห็นที่ 14 จริงๆแล้วมันได้ผล แต่พอดียาแพง กรมบัญชีกลาง ซึ่งเป็นคนจ่ายเงิน ก็เลยบอกว่าไม่ "คุ้มค่า" แล้วเค้าเอาอะไรมาวัดความ "คุ้มค่า" ล่ะคะ ดูเหมือนกรมบัญชีกลางจะพิจารณาแค่เรื่อง "เงิน" แต่ลืม เอาเรื่อง "คุณภาพชีวิต" มาคิดด้วย จากคุณ : tachycardia เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 12:09:39

ความคิดเห็นที่ 15 คือถ้าพูดถึง Efficacy ของการรักษาก็คงตอบว่า "มันทำให้ดีขึ้นได้จริงๆ" แต่ถ้าพูดถึง Cost - Benefit แล้ว ผมก็ว่า "ไม่คุ้ม" ครับ เอาเงินไปลงกับยากลุ่มอื่นที่เป็นยาราคาแพงในการรักษาภาวะที่เป็นอันตรายถึงชีวิต ดีกว่าครับ เพราะโรคข้อเสื่อมนั้นมีวิธีการรักษาอีกหลายแบบ ไม่ใช่การใช้ยากลูโคซามีนเพียงอย่างเดียว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเรื่องของ Life - Style modification ครับ ซึ่งปัญหาคือคนไข้ไม่ค่อยยอมทำกันเท่าไร จากคุณ : Umiki เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 13:47:10

ความคิดเห็นที่ 16 ตอบคุณ tachycardia ครับ การศึกษาความคุ้มค่านั้นมีโมเดลหลายตัวครับ ผมเองไม่ค่อยถนัดมากนัก แต่วิธีการที่ใช้ประเมินที่นิยมคือ Cost-Utility Analysis ที่ดูทั้งต้นทุน, outcome ทางคลินิก, QALY ของผู้ป่วยไปด้วยกัน เคยได้ร่ำเรียนกับนพ. ยศ แกอยู่บ้าง แต่ไม่ถนัดจริงๆ --" จากคุณ : Epinephrine เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 14:22:39

ความคิดเห็นที่ 17 คห.11 ระวังให้ดีหน่อยละกัน ถ้าหากโรคยัง active อยู่ อย่าเพิ่งใ้ห้ Beta-blocker เอาไว้โรคสงบก่อน ค่อยให้ครับ จากคุณ : หมอก้อนหิน เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 17:02:28

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณคุณหมอก้อนหินช่วยเตือนขอรับ พอดีข้าน้อยเป็น cardioloจ๋อย ก็เลยพอมีความรู้อยู่บ้าง จากคุณ : xanyz เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 22:41:15

ความคิดเห็นที่ 19 ^ ^ โอ้วว ... ผมบังอาจสอนหนังสือสังฆราชไปแล้วสิ... เพิ่งทราบเหมือนกันครับว่าหมอๆ ในนี้ เป็น specialist สาขาต่างๆ  หลากหลายดีครับ จากคุณ : หมอก้อนหิน เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 00:20:48

ความคิดเห็นที่ 20 คุณหมอก็แกล้งสั่งยาพาราให้คนไข้ที่มาจากกรมบัญชีกลางบ้างก็น่าจะดีนะคะ   เค้าจะได้รู้ว่ายาที่เค้าตัดออกจำเป็นหรือป่าวว อิอิ  (ล้อเล่นค่ะ ;)) จากคุณ : แอบเข้ามาแซวหมอ (ข้าวปุ้นน้ำยาป่า) เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 00:36:39

ความคิดเห็นที่ 21 เราให้หม่าม๊าทาน Collagen ค่ะ เป็นแบบอนุมูลเล็กๆ ลองดู เผื่อจะใช้แทนกันได้ จากคุณ : เด็กเกาะสมุย เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 13:33:36

ความคิดเห็นที่ 22 ถ้าบอกว่าในหลายประเทศให้เป็น "อาหารเสริม" ก็น่าจะแปลว่ายังพอมีประสิทธิภาพพอใช้รักษาให้อาการทุเลาและดีขึ้นได้ไม่ใช่หรือคะ? แล้วถ้าอาหารเสริมราคาแพงๆ ครูแก่ๆ ปลดเกษียณที่ไหนจะเอาปัญญาไปซื้อกินล่ะคะ? จริงไหม? จากคุณ : Pranapee Network เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 54 11:49:01

ความคิดเห็นที่ 23 แถม.. ในเมื่อรู้แล้วว่ากลูโคซามีนซัลเฟตรักษาโรคข้อเสื่อมได้ แล้วเมื่อไหร่ยาเหล่านี้จะกลับมาเบิกได้คะ http://www.pantip.com/cafe/lumpini/topic/L10289328/L10289328.html จากคุณ : หมอหมู เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 54 16:19:47