ความคิดเห็นที่ 1 เย็นวันที่ 16 มีนาคม 2554 ดิฉันได้เข้าไปเยี่ยมคุณพ่ออีก พบว่าใบหน้าท่าน บริเวณรอบดวงตาด้านขวามีรอยบวมปูด เขียวช้ำ ตาแทบปิด รวมทั้งมีรอยเขียวช้ำที่บริเวณบริเวณใบหน้าช่วงขากรรไกรด้านซ้ายด้วยเช่นกัน สอบถามคุณพ่อถึงสาเหตุทราบว่า ได้มีเจ้าหน้าที่ผู้ชาย 2 คน เขามาเปลี่ยนถุงปัสสวะให้ แต่ด้วยความเจ็บปวดอย่างมาก ประกอบกับมีอาการมึนงง จึงดิ้นรน และได้ใช้เท้าถีบไปโดนตัวเจ้าหน้าที่คนหนึ่งเข้า ทันใดนั้น เจ้าหน้าที่ผู้นี้ก็เข้าชกต่อยที่ใบหน้าคุณพ่ออย่างรุนแรง แต่เนื่องจากคุณพ่อยังมีอาการมึนงงสับสนในบางเวลา (อาจจะเกิดจากยาที่ได้รับ) ให้ข้อมูลได้ไม่ชัดเจนครบถ้วน ดิฉันได้ข้อมูลจากคุณลุงผู้ป่วยเตียงข้างๆ(ท่านกวักมือให้ดิฉันเข้าไปหา) ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ได้เล่าให้ดิฉันฟัง โดยกำชับไม่ให้ดิฉันบอกคนอื่นว่า คุณลุงท่านนี้เป็นผู้เล่าให้ฟัง (เพราะเกรงว่าตนเองจะได้รับการดูแลที่ไม่ดีเช่นกัน) คุณลุงเล่าว่า เข้าช่วงประมาณตี 2 ของเช้าวันที่ 16 มีนาคม (คืนวันที่ 15) คุณลุงนอนตะแคงหันหน้ามาทางเตียงของคุณพ่อ โดยที่เอามือจับขอบเตียงไว้ (ห้องรวมเตียงจะเรียงกันเป็นแถว มีเตียงคุณพ่อ ถัดไปเป็นเตียงว่างขั้นหนึ่งเตียง แล้วเป็นเตียงคุณลุง) จึงเห็นเหตุการณ์โดยตลอด แต่เจ้าหน้าที่คงคิดว่าคุณลุงหลับอยู่ ได้มีเจ้าหน้าที่พยาบาลผู้ชาย 2 คน มาเปลี่ยนถุงปัสสวะให้ แล้วคุณพ่อดิ้น และถีบไปโดนตัวเจ้าหน้าที่พยาบาลคนหนึ่งเข้า เจ้าหน้าที่คนนี้รูปร่างท้วมใหญ่ ได้ใช้กำปั้นทุบใบหน้าคุณพ่ออย่างแรง ทั้งยังใช้กำปั้นทุบเข้าบริเวณทรวงอกด้วย ทั้งที่มือทั้ง 2 ข้างของคุณพ่อถูกมัดไว้กับเตียง จากคุณ : ลูกสาวผู้ป่วย เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 54 22:44:29 A:58.136.98.82 X: TicketID:162223

ความคิดเห็นที่ 2 และเจ้าหน้าที่พยาบาล 2 คนนี้ก็ได้สร้างเรื่องที่น่าละอายบอกหัวหน้าพยาบาลว่า คุณพ่อดิฉันล้มหน้าฟาดกับขอบเตียง ซึ่งเป็นข้อมูลเดียวกันกับที่ดิฉันเข้าไปถามคุณลุงเตียงฝั่งตรงข้ามกับคุณพ่อก่อนหน้านั้น (เตียงฝั่งตรงข้าม จะหันเท้าเข้าหากัน โดยมีช่องว่าเป็นทางเดินระหว่างกลาง) ทำให้ดิฉันสงสัยว่าคุณลุงเตียงฝั่งตรงข้ามคงได้รับข้อมูลจากเจ้าหน้าที่พยาบาลที่ทำร้ายคุณพ่อให้บอกว่าเกิดจากสาเหตุนี้ ----และคุณลุงคนนั้นคงกลัวว่าจะได้รับการดูแลที่ไม่ดีเช่นกัน จึงไม่กล้าบอกความจริง จนกระทัั่งมีคุณลุงผู้ป่วยอีกคน เตียงข้างๆกับคุณพ่อ กวักมือเรียกดิฉันเข้าไปพบ .. บอกว่าคุณพ่อโดนทุบด้วยกำปั้นอย่างแรงทั้งๆที่มือโดนมัดอยู่ และเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ฟัง ทั้งยังบอกว่าเจ้าหน้าที่พูดจาไม่ดีเลย ตอนเช้าเจ้าหน้าทีพยาบาล 1 ใน 2 คนที่ทำร้ายคุณพ่อเข้ามาถามคุณพ่อดิฉันว่า เช้านี้จะกินอะไร คุณพ่อดิฉันตอบว่าจะกินผัดเผ็ด ตอนนี้เขาเข้าครัวไปทำให้อยู่ (บางช่วงท่านจะสับสนบ้าง) เจ้าหน้าที่ก็พูดขึ้นมาว่า “ถ้างั้นก็กินผัดเผ็ดหมาก็แล้วกัน” ดิฉันรู้สึกเสียใจและผิดหวังเป็นอย่างมาก ที่เกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้นในโรงพยาบาล ที่ซึ่งเป็นสถานที่ที่ต้องดูแลรักษาผู้ป่วย ไม่ใช่สถานที่ที่ส่งผู้ป่วยมาให้ถูกทำร้าย จากคุณ : ลูกสาวผู้ป่วย เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 54 22:46:11 A:58.136.98.82 X: TicketID:162223

ความคิดเห็นที่ 3 ดิฉันเชื่่่อมาตลอดว่า เจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาล ที่คอยดูแลพยาบาลผู้ป่วยทุกระดับ จะต้องมีพื้นฐานจิตใจที่รักในอาชีพบริการช่วยเหลือคนอยู่ส่วนหนึ่ง ต้องใจเย็น และผ่านการฝึกอบรมในการรับมือกับผู้ป่วยทุกสภาวะการณ์ . โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีความเจ็บปวดจนควบคุมตัวเองไม่ค่ิอยได้ อาจจะมีการดิ้นรน หรือถีบเจ้าหน้าที่ เช่นกรณีคุณพ่อเป็นต้น เป็นการเข้าใจกันอยู่แล้วว่า คนแก่อายุ 81 ปี ที่ได้รับการผ่าตัด ผ่านการวางยาสลบ และการให้ยาระงับปวด เสียเลือดมาก และอ่อนเพลียอย่างเห็นได้ชัด ท่านมีอาการเบลอๆสับสนอยู่บ้างเป็น แต่โดยทั่วไปท่านจะพูดรู้เรื่อง มีสติสัมปชัญญะทีดี แต่ท่านจะหงุดหงิดบ้าง เพราะความเจ็บปวดและถูกมัดมือไว้ (ไม่ให้ท่านเผลอลุกจากเตียง) ซึ่งหลังจากโดนชกต่อยบริเวณดวงตาอย่างรุนแรง คุณพ่อบอกว่าตอนนี้ท่านมองเห็นทุกอย่างเป็นหลุมเป็นบ่อ (เมื่อปีที่แล้ว ท่านเคยเข้าผ่าตัดต้อกระจก แต่ก็ไม่มีอาการมองเห็นอะไรเว้าๆนูนๆ เป็นหลุมเป็นบ่ออย่างตอนนี้) ไม่ทราบว่าเป็นผลต่อการโดนชกที่บริเวณดวงตาอย่างรุนแรงหรือไม่ จากคุณ : ลูกสาวผู้ป่วย เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 54 22:47:12 A:58.136.98.82 X: TicketID:162223

ความคิดเห็นที่ 4 แต่เจ้าหน้าที่พยาบาลท่านนั้น ลุแก่โทสะทำร้ายคนแก่ เพียงเพราะโดนผู้ป่วยแก่ๆถีบเข้า มันสมควรแล้วหรือ ที่จะมีบุคคลากรอย่างนี้อยู่ในโรงพยาบาล หรือเพราะว่าเป็นการใช้สิทธิ์บัตรทองในการรักษา จึงได้รับการดูแลเช่นนี้ ก่อนที่จะเข้ารับการผ่าตัดที่โรงพยาบาลกลางนี้ ทางครอบครัวก็ได้ส่งคุณพ่อไปตรวจวินิจฉัย พร้อมเสียค่าบริการทำ MRI มาจากโรงพยาบาลเอกชนเรียบร้อยแล้ว การรักษาที่นี้ ก็ใช่ว่าจะรักษาฟรีเสียทั้งหมด ทางครอบครัวได้เสนอว่าเรายินดีจ่ายเพิ่มในส่วนต่างทุกอย่างเพื่อให้ได้รับการรักษาที่ดี ก่อนผ่าตัดคุณหมอสอบถามว่า ถ้าต้องจ่ายเพิ่มอีกประมาณ 10,000 บาทเป็นค่าอุปกรณ์ทางการแพทย์ (เข้าใจว่าเป็นค่าไทเทเนียม ที่ใช้ยึดกระดูก) ทางเราจะยินดีหรือไม่ ..ซึ่งทางเราก็ตอบว่ายินดี และหลังผ่าตัด ได้มีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายส่วนนี้ เป็นเงิน 8,000 บาท ซึ่งทางเราก็ได้ไปชำระเงินส่วนนี้เรียบร้อยแล้ว สำหรับค่ายาต่างๆ ก็ได้แจ้งไว้ด้วยเช่นกันว่า เรายินดีจ่ายถ้าบัตรทองไม่ครอบคลุม ซึ่งทางพยาบาลก็ได้แจ้งมาแล้วว่าได้ให้ยาบางตัวที่ทางเราจะต้องจ่ายเพิ่ม มีการเรียกเก็บมาเมื่อไรทางเราก็ยินดีจ่าย จากคุณ : ลูกสาวผู้ป่วย เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 54 22:48:50 A:58.136.98.82 X: TicketID:162223

ความคิดเห็นที่ 5 การเข้าพักรักษาตัว ตอนแรกทางเราต้องการให้คุณพ่อนอนห้องพิเศษด้วย แต่จากการพูดคุยกับพยาบาล ทางพยาบาลแจ้งว่า ถ้าท่านช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ หรืออาการค่อนข้างหนัก ให้นอนห้องรวมจะดูแลได้ทั่่วถึงกว่า เราจึงตัดสินใจให้นอนห้องรวม เพราะเห็นว่าอยู่ใกล้เคาร์เตอร์พยาบาล สามารถมองเห็นได้ง่าย ทั้งนี้คุณลุงข้างเตียงที่เห็นเหตุการณ์ ยังแนะนำว่าให้ไปแจ้งความเถอะ เขาจะได้ไม่ไปทำร้่ายผู้ป่วยเตียงอื่นอีกในวันข้างหน้า ทั้งๆที่คุณลุงท่านนี้ สั่่งห้ามไม่ให้ดิฉันบอกใครๆว่าท่านเป็นคนเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง เพราะเกรงว่าจะมีปัญหากับตนเองในขณะที่ยังต้องนอนรักษาตัวที่นี่ ดิฉันยังเชื่อมั่นว่าโรงพยาบาลกลาง ว่ายังเป็นโรงพยาบาลที่ดี และมีศักยภาพในการรักษาผู้ป่วยไม่ด้อยไปกว่าโรงพยาบาลของรัฐอื่นๆ อีกทั้งคุณหมอที่ทำการผ่าตัดให้ ก็พูดจาดี หน้าตายิ้มแย้ม แต่การที่ปล่อยให้มีบุคคลากรเช่นนี้อยู่ในโรงพยาบาล ปล่อยให้มีการทำร้ายคนป่วยที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เกิดขึ้นได้ลดความเชื่อมั่น ความศรัทธาที่มีต่อโรงพยาบาลลง จากคุณ : ลูกสาวผู้ป่วย เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 54 22:49:40 A:58.136.98.82 X: TicketID:162223

ความคิดเห็นที่ 6 คงไม่เฉพาะครอบครัวของดิฉันที่รู้สึกไม่ดีอย่างนี้ ผู้ป่วยในห้องรวมที่เห็นเหตุการณ์และคนอื่นๆที่ได้รับรู้เรื่องนี้ คงรู้สึกเช่นเดียวกับดิฉันเหมือนกัน . ตอนนี้ดิฉันคิดถึงเรื่องการย้ายคุณพ่อไปโรงพยาบาลอื่น เพราะตอนนี้หวาดระแวงว่าท่านจะโดนกลั่นแกล้ง ดิฉันหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การออกมาบอกเล่าเรื่องราวครั้งนี้ จะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในการให้บริการที่ดีขึ้นในโรงพยาบาล และทางโรงพยาบาลคงจะมีการดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง เพื่อแสดงให้เห็นว่าไม่ได้ละเลย และเห็นความสำคัญของผู้ป่วยที่พึงจะได้รับสิทธิ์ในการดูแลรักษาในมาตรฐานที่พึงจะได้ ..อีกอย่างเหตุการณ์เช่นนี้ ไม่ควรจะเกิดกับผู้ป่วยคนอื่นๆอีกในอนาคต . จากคุณ : ลูกสาวผู้ป่วย เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 54 22:51:45 A:58.136.98.82 X: TicketID:162223

ความคิดเห็นที่ 7 คุณควรจะไปร้องเรียนต่อผู้อำนวนการ รพ ก่อนนะครับ จากคุณ : หมี่สดล้วน เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 54 23:02:18

ความคิดเห็นที่ 8 ดิฉันกำลังทำจดหมายร้องเรียนถึงผู้อำนวยการ...............แต่ไม่ทราบว่าผลจะออกมาอย่างไร ตอนนี้กำลังชวนน้องสาว จะนั่งแท็กซี่ไปโรงพยาบาล ไปดูคุณพ่ออีก...............สงสารท่านมาก กลัวว่าจะโดนกลั่นแกล้ง เพราะเจ้าหน้าที่ 2 คนนั้น เข้าเวรกะกลางคืน คืนนี้ด้วย จากคุณ : ลูกสาวผู้ป่วย เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 54 23:06:48 A:58.136.98.82 X: TicketID:162223

ความคิดเห็นที่ 9 จิตใจคนเราสมัยนี้ทำไมใจดำจังคนแก่ยังทำได้อย่างนี้ต้องไล่มันออกอย่าให้เสียชื่อโรงพยาบาลกลาง จากคุณ : สวยจนคนเมิน (สวยจนคนเมิน) เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 54 23:12:39

ความคิดเห็นที่ 10 เสียใจด้วยนะคะที่คุณพ่อต้องมาเจอบุรุษพยาบาลแย่ๆแบบนี้ ทำกับคนแก่โหดร้ายขนาดนี้.. เศร้าใจจังค่ะ จากคุณ : ขาหมูแก้มป่อง (ขาหมูแก้มป่อง) เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 54 23:27:49

ความคิดเห็นที่ 11 สงสารคุณพ่อ จากคุณ : หน้าแง๊ว~* เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 54 23:41:57

ความคิดเห็นที่ 12 ทำไม ใจร้ายทำกับคนป่วยได้ขนาดนี้ ขอให้คุณพ่อหายป่วยไวๆนะคะ จากคุณ : nokira เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 54 23:45:33

ความคิดเห็นที่ 13 น่าสงสารคุณพ่อมากๆเลยค่ะ จัดการให้ถึงที่สุดเลยนะคะ คนที่มีนิสัยโหดร้าย ป่าเถื่อนไม่มีความอดทน อย่างนี้ ไม่เหมาะสมที่จะ มาทำงานด้านนี้หรอก จากคุณ : aunny_naka เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 00:04:17

ความคิดเห็นที่ 14 ย้ายโรงพยาบาลค่ะ ถ้าย้ายไม่ได้จริงๆก็ทำเรื่องแจ้งผู้อำนวยการขอย้ายตัวชายชั่ว  เสร็จแล้วจดชื่อนามสกุลไว้รอสักสามเดือนขึ้นไปให้เรื่องมันซาๆค่อยพาจิ๊กโก๋ไปซ้อมพวกมัน สมัยนี้รอให้กรรมตามทันไม่ได้แล้วเอาคืนเลยครับ จากคุณ : narugirl (narugirl) เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 00:19:04

ความคิดเห็นที่ 15 เรื่องแบบนี้ ควรจะมีพยานและหลักฐาน นะ เดี๋ยวจะเหมือนที่ไส้ติ่งแตกนั่นอีก จากคุณ : ... เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 00:21:34 A:58.64.65.126 X: TicketID:266868

ความคิดเห็นที่ 16 ผู้ป่วยสูงอายุ หลังได้รับยาสลบ  หรือยานอนหลับจะมีภาวะก่งก๊งได้ ยิ่งไม่สามารถขยับตัวได้ถนัด หรือมีความเจ็บปวด  ยิ่งหงุดหงิดเป็นทวีคูณ เรื่องเจ้าหน้าที่โดนถีบ  เป็นเรื่องที่พบเห็นได้เรื่อยๆ  เป็นปกติ ดิฉันเองก็โดนถีบมาแล้วหลายครั้ง ให้ทำใจ  ว่านั่นเป็นสภาวะเจ็บป่วยของเขา มาตบะแตกเอาแบบนี้  สงสัยจะปิ๋ว ถ้ายังย้าย รพ ไม่ได้ก็ ย้ายไปห้องพิเศษสิคะ ให้มีคนเฝ้า ๑ คน จะได้ไม่ต้องมัดมือ  คนไข้จะได้ไม่หงุดหงิดด้วย  ได้อยู่ใกล้ชิดญาติด้วย คิดว่าอาการน่าจะพออยู่ห้องพิเศษได้นะคะ จากคุณ : ฝ้ายผู้น่ารัก เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 00:34:51

ความคิดเห็นที่ 17 เข้ามารับฟัง.. หูไว้หู จากคุณ : หมอก้อนหิน เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 01:01:13

ความคิดเห็นที่ 18 เอาใจช่วยให้คุณ จขกท. นะครับ ถ้าคนนั้นทำจริง ก็ขอให้ได้รับกรรมโดยเร็ว สงสารคุณพ่อเจ้าของกระทู้จับใจเลยครับ คุณรู้มั้ย...ผมอ่านไปแล้วน้ำตาก็ไหลนองหน้า อายุของคุณพ่อคุณไม่ได้ต่างจากคุณย่าผมเท่าไหร่ ท่านอายุ 83 (ตอนนี้ท่านไปดีแล้วครับ) ทราบครับว่ามีความชราภาพมากน้อยแค่ไหน ทำไมเค้าคนนั้นถึงได้ทำกับคนแก่ขนาดนี้ได้ลงคอ หัวใจทำด้วยอะไร ไม่นึกถึงหัวอกของคนที่เป็นลูกหลานเค้าบ้างเลยหรืออย่างไร ถ้าเป็นญาติเค้าเองจะทำอย่างนี้มั้ย?...เป็นกำลังให้ จขกท. นะครับ ได้เรื่องยังไง มาอัพเดทด้วยนะครับ! แก้ไขเมื่อ 17 มี.ค. 54 01:24:42 จากคุณ : Krang1983 เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 01:23:06

ความคิดเห็นที่ 19 ดิฉันเพิ่งกลับจากโรงพยาบาลค่ะ ไปถึงโรงพยาบาลประมาณเที่ยงคืนแล้วค่ะ ตอนเดินเข้าไปก็มีพยาบาลผู้หญิง นั่งอยู่ในห้องกระจกหน้าหอผู้ป่วย เท่าที่เห็นน่าจะประมาณ 3 คน และบุรุษพยาบาลที่มีรูปร่างใหญ่ ท้วม ลักษณะเดียวกับที่คุณลุงผู้เห็นเหตุการณ์เล่าให้ฟัง นั่งอยู่ด้วย ส่วนด้านนอกมีผู้ชายตัวเล็กๆ เดินไปเดินมาอีกคน จากคำบอกเล่าของหัวหน้าพยาบาลที่ดิฉันได้พูดคุยด้วยเมื่อตอนไปเยี่ยมคุณพ่อตอนเย็น............เจ้าหน้าที่พยาบาลผู้ชายกะกลางคืนเมื่อคืนก่อน กับคืนนี้ มี 2 คน คนแรกตำแหน่งผู้ช่วยพยาบาล อีกคนตำแหน่งผู้ช่วยดูแลคนไข้ ตอนที่ไปเยี่ยมคุณพ่อตอนเย็น คุณพ่อข้อร้องให้แกะมัดที่มืออกจากขอบเตียงให้ ท่านบอกว่าอึดอัดมาก...........ดิฉันถามพยาบาลก่อน พอพยาบาลอนุญาตให้แกะออกได้ ก็เลยแกะมัดออกให้ท่าน ตอนเที่ยงคืนที่แวะเข้าไป ท่านนอนตะแคงด้านซ้าย โดยมีหมอนแบบหมอนขวานหนุนด้านหลังท่านไว้.....โดยไม่มีการมัดมือ.......ตาด้านซ้ายยังบวมเขียวช้ำ ตรงคอด้านขวาด้านล่างขากรรไก ก็ยังบวมช้ำอยู่เช่นกัน ซึ่งถ้าคุณพ่อหกล้ม หน้าฝาดกับขอบราวกันตกข้างเตียงจริงๆ ตามที่ผู้ช่วยพยาบาลชายบอกกับหัวหน้าพยาบาล ทำไมร่องรอยการบวมเขียวช้ำ จึ่งเกิดกันคนละด้าน ในตำแหน่งที่ไม่ต่อเนื่องกันเลย จากสิ่งที่คุณพ่อบอกว่าโดนต่อย และคุณลุงเตียงข้างๆบอกว่าโดนทุบด้วยกำปั้น อะไรจะน่าเชื่อถือกว่ากัน ------------------------------------------ ความคิดเห็นที่ 15 เรื่องแบบนี้ ควรจะมีพยานและหลักฐาน นะ เดี๋ยวจะเหมือนที่ไส้ติ่งแตกนั่นอีก ^ ^ คุณ #คคห.15 ......ดิฉันคงไปหาพยานหลักฐานอื่นๆไม่ได้หรอกค่ะ นอกจากร่องรอยปูดบวมเขียวช้ำบนใบหน้าคุณพ่อ กับคำบอกเล่าของคุณลุงข้างเตียงที่เห็นเหตุการณ์ แต่กำชับไม่ให้ดิฉันบอกว่าแกเป็นคนเล่าให้ฟัง เพราะกลัวว่าจะได้รับการดูแลไม่ดี หรือโดนกลั่นแกล้ง...........หรือถ้าโรงพยาบาลติดกล้องวงจรปิดไว้ ก็คงจะได้หลักฐาน ------------------ ความคิดเห็นที่ 17 เข้ามารับฟัง.. หูไว้หู จากคุณ : หมอก้อนหิน เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 01:01:13 ^ ^ คุณหมอก้อนหินคะ ..................ดิฉันก็ไม่ได้จะให้ทุกคนต้องเชื่อดิฉัน เพราะดิฉันไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์เอง เพราะดูจากร่องรอยปูดบวมเขียวช้ำและคำบอกเล่าของคุณลุงเตียงข้างๆ ช่วงตอนเย็นที่เข้าไปเห็นครั้งแรกก็ได้ใช้กล้องโทรศัพท์มือถือ ถ่ายรูปไว้ ขนาดเวลาผ่านพ้นไปแล้วตั้งร่วม 20 ชั่วโมง และผ่านการประคบแล้ว (ตอนเข้าไปเจอ มีแผ่นประคบโป๊ะหน้าท่านอยู่) ก็ยังเห็นการบวมเขียวช้ำอย่างชัดเจน จากคุณ : ลูกสาวผู้ป่วย เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 01:25:13 A:58.136.98.82 X: TicketID:162223

ความคิดเห็นที่ 20 เอาเรื่องให้ถึงที่สุดและย้ายโรงพยาบาลด่วนค่ะ ถ้าไม่ได้จนปัญญาจะจ่ายค่าโรงบาลช่วงพักฟื้นมากเกินไป จากคุณ : OhBoW เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 01:33:39

ความคิดเห็นที่ 21 อ่านแล้วนึกถึง Law & Order SVU เลยอะ มีตอนนึงที่คนสูงอายุโดนพวกคนดูแลทำร้าย เสร็จแล้วก็ไม่มีคนเชื่อผู้สูงอายุ (แบบว่าหาว่าคนสูงอายุเพ้อ) ส่วนไอ้คนที่ถูกจ้างมาดูแลคนนึงก็นิสัยไม่ดี แต่ผู้อำนวยการไม่ยอมไล่ออก เพราะบอกว่าเป็นงานที่คนส่วนใหญ่ไม่ยอมมาทำ (เปลียนผ้าอ้อมผู้ใหญ่) แต่ค่าตอบแทนไม่สูงนัก หาคนมาทำงานนี้ยาก สุดท้ายตำรวจก็รวบตัวได้ทั้งผู้อำนวยการและก็ไอ้คนดูแลนิสัยไม่ดี ไม่รู้ว่างานนี้ตำรวจไทยจะพึงได้ไหมนะ มีหน่วยงานแบบ SVU หรือเปล่า? จากคุณ : ZT1260 เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 01:42:12

ความคิดเห็นที่ 22 ความคิดเห็นที่ 16 ^ ^ ดิฉันก็อยากย้ายท่านไปอยู่ห้องพิเศษ แล้วจ้างคนดูแลท่าน............แต่ได้คุยกับพยาบาลเมื่อตอนเที่ยงคืนที่ไปเยี่ยมคุณพอ พยาบาลบอกว่าปกติผู้ผู้อาการแบบนี้และเพิ่งออกจากห้อง ICU จะให้อยู่ห้องสามัญก่อน พรุ่งนี้เช้า จะไปดักเจอคุณหมอแต่เช้า เพราะคุณหมอออกตรวจแต่เช้า อยากคุยกับคุณหมอก่อนที่จะย้ายโรงพยาบาล คุณหมอที่ผ่าตัดคุณพ่อท่านดูใจดีมาก พูจาดี หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส ....ท่านชื่อคุณหมออดิศรค่ะ ขอขอบคุณท่านไว้ ณ.ที่นี้ด้วย ขอบคุณทุกท่านที่ให้กำลังใจ สำหรับคนที่ไม่เชื่อในสิ่งที่ดิฉันพูด ดิฉันก็สุดวิสัยที่จะไปหาพยานหลักฐานอะไรมายืนยัน ที่สำคัญดิฉันก็ไม่ได้มีเจตนาจะฟ้องร้องโรงพยาบาลใดๆ เข้าใจว่าเป็นปัญหาที่ตัวบุคคลากรบางคน ................แต่จะให้ดิฉันเงียบๆไว้ แล้วจะปล่อยให้เหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นกับผู้ป่วยคนอื่นในอนาคตอีกอย่างนั้นหรือ อย่างน้อยถ้าการร้องเรียนครั้งนี้ ทำให้โรงพยาบาลมีมาตรการดูแลผู้ป่วยที่ดีขึ้น ฝึกอบรมบุคคลากรให้มีใจรักงานบริการ ดูแลผู้ป่วยต้องอดทน ต้องเข้าใจความรู้สึกและปฏิกริยาของผู้ป่วย และพร้อมจะรับมืออย่างถูกวิธี...................คงไม่มีเฉพาะคุณพ่อดิฉันคนเดียวหรอกมั๊ง ที่โวยวาย ดิ้นและถีบ เพราะเจ็บและสับสน หลังจากนี้ก็คงไม่มีอะไรมากหรอกค่ะ เพื่อความสบายใจก็คงจะย้ายโรงพยาบาล จากคุณ : ลูกสาวผู้ป่วย เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 01:43:34 A:58.136.98.82 X: TicketID:162223

ความคิดเห็นที่ 23 อ้อ.............คุณลุงที่มีจิตใจดี ที่อุตส่าห์กวักมือเรียกดิฉันไปเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง...........ท่านยังอยู่นะคะ ตอนเที่ยงคืน ตอนที่ดิฉันไปเยี่ยมคุณพ่อ ท่านนอนหันหน้ามาทางเตียงคุณพ่อดิฉันด้วย..............แต่มีการดึงม่านมาปิดไว้ครึ่งตัวท่าน จากส่วนหัวมาถึงช่วงกลางลำตัว ในฝั่งด้านที่หันมาทางคุณพ่อดิฉันด้วยซิ..............ถ้าเกิดอะไรขึ้นอีก ท่านคงไม่เห็นเหตุการณ์แล้วล่ะคะ..............แต่หวังว่่าเขาคนนั้นคงไม่กล้าทำอะไรแล้วล่ะ ในส่วนที่คุณพ่อดิฉันนอน คืนนี้ มีแค่เตียงคุณลุงด้านข้าง (ผู้เห็นเหตุการณ์) กับคุณลุงเตียงฝั่งตรงข้าม ที่หันเท้ามาทางเท้าคุณพ่อของดิฉัน (ตรงกลางของปลายเตียง เป็นทางเดิน) ทั้งหมดในล็อกนี้ มีผู้ป่วยอยู่ 3 เตียง (รวมเตียงคุณพ่อดิฉันด้วย) ก่อนกลับดิฉันได้ฝากฝังน้องพยาบาลผู้หญิงให้ช่วยดูแลคุณพ่อให้ด้วย ซึ่งน้องพยาบาลคนนี้ ดูเป็นคนจิตใจดี ...ก่อนกลับเช่นกัน คุณพ่อพยายามจะลุกขึ้นจากเตียง บอกว่าจะไปฉี่ น้องพยาบาลเลยบอกว่าให้ฉี่ได้เลย เพราะต่อท่อไว้ คุณพ่อบอกว่าจะฉี่ได้ยังไง เดียวก็เหม็นไปหมดซิ แล้วท่านก็หลับตานอนต่อ.............สงสารท่านจังเลย จากคุณ : ลูกสาวผู้ป่วย เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 01:56:47 A:58.136.98.82 X: TicketID:162223

ความคิดเห็นที่ 24 ถ้าเข้าใจไม่ผิดนะ - ผู้ช่วยพยาบาล น่าจะหมายถึงคนที่อบรมหลักสูตรพยาบาลมาแบบระยะสั้น ทำงานพยาบาลได้ไม่กี่อย่างเท่านั้น - ผู้ช่วยดูแลคนไข้ อันนี้คือพวกจบประมาณ ม.6 เท่านั้น เป็นลูกจ้างชั่วคราว มีหน้าที่เข็ญรถ อะไรทำนองนี้ โดยปกติแล้ว ทั้งสองตำแหน่งนี้ถ้าโดนไล่ออกไป ไม่กี่เดือนก็กลับเข้ามาใหม่ได้ เห็นอยู่บ่อย ๆ ปกติน่าจะมีกล้องวงจรปิดนะ ลองดูให้แน่ใจจะได้มีหลักฐานและไม่เป็นบาปติดตัวเราด้วยถ้าเขาไม่ได้ทำจริง แต่ถ้าเป็นผม เรื่องไปถึงโรงพักก่อนถึง ผอ. อยู่แล้ว หลังจากนั้นค่อยมาโพสต์ตามเน็ตเป็นรายการหลังสุด ปล. ผมไม่ได้เหน็บอะไรคุณนะ แค่จะบอกว่าถ้ามีหลักฐาน อะไร ๆ มันจะง่ายกว่านี้ จากคุณ : ... เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 01:57:51 A:58.64.65.126 X: TicketID:266868

ความคิดเห็นที่ 25 ความคิดเห็นที่ 24 ^ ^ ก่อนที่ดิฉันเข้ามาพิมพ์กระทู้นี้...... ดิฉันได้คุยเรื่องนี้กับหัวหน้าพยาบาลเรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่ตอนเย็นที่เข้าไปเยี่ยม และหลังจากนั้นก็ไปลงบันทึกประจำวันที่ สน.ใกล้ๆ โรงพยาบาล............แต่สิ่งที่ดิฉันได้ยินจากปากหัวหน้าพยาบาล ก็คือได้รับแจ้งว่าจากผู้ช่วยพยาบาลชายคนนั้นว่าผู้ป่วยล้มหน้าฝาดกับราวกันตกขอบเตียง เพียงแค่นี้็ก็พอจะเดาได้แล้วว่า ถึงดิฉันจะรายงานไปที่ผู้อำนวยการ เรื่องมันจะลงเอยแบบใหน ซึ่งขัดแย้งจากที่คุณพ่อบอก และคุณลุงผู้ป่วยข้างเตียงบอกว่า พ่อดิฉันดิ้นและถีบผู้ชายคนนั้น.........เขาก็เลยเอากำปั้นทุบเข้าที่หน้าและหน้าอกคุณพ่อ ร่องรอยปูดปวมเขียวช้ำที่ตาข้างซ้าย และรอยบวมช้ำที่ลำคอด้านขวา ไม่ค่อยจะเกี่ยวเนื่องกันเท่าไรนัก ดิฉันไม่มีเจตนาที่จะฟ้องร้องโรงพยาบาล และก็ไม่ได้เหมารวมว่าเจ้าหน้าที่ทุกคนเป็นแบบนี้..........ที่ไปแจ้งความก็ไว้เป็นหลักฐานแนบหนังสือร้องเรียนที่จะส่งไปให้ท่านผู้อำนวยการเท่านั้น..........คุณหมอที่ทำการผ่าตัดคุณพ่อ ท่านก็ดีมาก.............น้องพยาบาลผู้หญิงที่อาสาจะดูแลคุณพ่อเองในคืนนี้ ก็พูดจาดีและมีน้้ำใจ ดิฉันคงไม่มีปัญหาไปหาพยานหลักฐานมายืนยันได้หรอกค่ะ และเข้าใจว่าถ้าไม่มีพยานหลักฐาน (เพราะคณลุงใจดีข้างเตียงที่เห็นเหตุการณ์ ท่านก็ออกตัวไว้แล้วว่าอย่าบอกใครนะ วาท่านเล่าให้ฟัง เพราะท่านก็คงจะยังต้องเข้าๆออกโรงพยาบาลนี้อีกหลายครั้งท่านก็กลัวเป็นธรรมดา) ก็คงไม่มีใครโดนไล่ออกหรอก.............ก็อยากให้โรงพยาบาลมีกล้องวงจรปิดเหมือนกัน..............อย่างน้อยเจ้าหน้าที่ที่ความอดกลั้นต่ำ ตบะแตกง่ายๆ จะได้ระมัดระวังในการดูแลผู้ป่วยให้มากขึ้น จากคุณ : ลูกสาวผู้ป่วย เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 02:32:04 A:58.136.98.82 X: TicketID:162223

ความคิดเห็นที่ 26 คนอ่านพันทิปมีเยอะนะคะ อาจรวมทั้งเจ้าตัวและญาติของผู้ช่วยพยาบาล 2 คนนั้นด้วย ถ้าเค้ารู้เข้า กลัวลุงที่เป็นพยานจะเดือดร้อนอะค่ะ เห็นใจนะคะ แต่เราว่าตอนนี้ลบกระทู้ก่อน เอาไว้ให้ลุงพยานกลับบ้านได้ หรือแน่ใจว่าผู้ร้ายโดนพักงานแล้ว ค่อยเอามาโพสต์ดีมั้ยคะ จากคุณ : แมวบอส เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 02:32:26

ความคิดเห็นที่ 27 สู้ๆๆนะค่ะพี่ เป็นกำลังใจให้ค่ะ แก้ไขเมื่อ 17 มี.ค. 54 03:15:10 จากคุณ : กาเมลจัง เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 03:14:53

ความคิดเห็นที่ 28 ขอแนะนำให้แจ้งความแล้วเอาตำรวจเข้าไปเลย ผู้ป่วยควรได้รับการตรวจวินิจฉัย ว่าลักษณะดังกล่าว เกิดจากการถูกทำร้ายหรือไม่ เป็นผม ผมจะเรียกตำรวจแล้วเช็คเอ้าท์ทันทีที่รู้เรื่อง จากคุณ : nohaha เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 03:22:01

ความคิดเห็นที่ 29 แล้วจะไปล้มได้อย่างไรในเมื่อโดนมัดมือไม่ให้ขยับไปไหน ขอให้คุณพ่อสุขภาพดีวันดีคืนนะค่ะ จากคุณ : มนชิจัง เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 04:01:12

ความคิดเห็นที่ 30 สงสารจัง จากคุณ : *Cookies* เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 07:15:34

ความคิดเห็นที่ 31 ผมไม่เชื่อครับ จากคุณ : ta_sri เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 08:24:18

ความคิดเห็นที่ 32 ถ้าเรื่องนี้เป็น เรื่องจริง อ้ายเจ้าบุรุษพยายาลพวกนั้น ถือว่า เลวมาก ๆ ทำร้ายได้แม้กระทั่ง คนแก่คราวปู่ย่าตายาย ขอให้พวกมันตกนรกด้วยเหอะ จากคุณ : sa_bkk เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 08:43:37

ความคิดเห็นที่ 33 เรื่องใหญ่ร้ายแรงแบบนี้ ต้องเอาเรื่องให้ถึงที่สุด แจ้งความแล้วให้มีการตรวจสอบโดยเร็วที่สุด มันมีวิธีพิสูจน์และสอบสวนได้ ถ้าตำรวจและหมอร่วมกันอย่างบริสุทธิ์ใจ ไม่ควรพยายามปิดบังหรือช่วยกันบิดเบือน ถ้าไม่มีความปลอดภัยในโรงพยาบาลซึ่งเป็นสถาบันที่ได้รับการยกย่องแล้ว จะหาความปลอดภัยได้จากที่ไหนอีกในโลก ร้องเรียนกองปราบเพิ่ม ขอความช่วยเหลือจากท่านปวีณาด่วนเลย ก่อนพยานจะถูกกันออกไป ถ้าอาศัยแจ้งความกับตำรวจท้องที่ ย่อมเข้าข้างโรงพยาบาลอยู่แล้ว จากคุณ : ท่านปวีณาช่วยได้ค่ะ เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 08:52:23 A:183.89.102.163 X: TicketID:286693

ความคิดเห็นที่ 34 แจ้งความครับ แล้วขอพบผู้อำนวยการโดยด่วน อย่ากลัว และควรเฝ้าคุณพ่อเองครับ จากคุณ : โดนัทเนย เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 09:44:28

ความคิดเห็นที่ 35 ควรร้องเรียนนะครับ ถ้าเป็นเรื่องจริง จากคุณ : cheychai เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 09:51:34

ความคิดเห็นที่ 36 เคยเจอเหมือนกันครับ ตอนไปเฝ้าลุงที่รพ. มีคุณลุงคนนึงแก่มากแล้วลุกไม่ไหว ไม่มีลูกหลานมาเฝ้าก็น่าสงสารแล้วนะครับ ยังมาเจอบรุษพยาบาลมาต่อว่าอีก ว่าอึแล้วทำไมไม่บอกแถม ลากตัวเดินพาเข้าห้องน้ำแบกระชากๆ ลุงก็เดินไม่ค่อยไหวเห็นแล้วน่าสงสารครับ ลุงก็ไม่ได้มีปากเสียงอะไร คนดีๆก็มีเยอะนะครับ แต่ที่เจอนี้สุดๆครับ ถ้าเป็นญาติพี่น้องเราคงรับไม่ได้อ่ะคับ ....เป็นกำลังใจให้นะครับ ขอให้ดำเนินเรื่องให้ถึงที่สุดครับ เพราะถือว่าคูรมาทำงานตรงนี้มีหน้าที่บริการและดูแลผู้ป่วยถ้ายังทำไม่ได้ก็ไม่น่าจะมาทำนะครับ จากคุณ : stamza (purenakub) เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 09:52:24

ความคิดเห็นที่ 37 ดิฉันกำลังจะไปเยี่ยมคุณพ่อที่โรงพยาบาลค่ะ เพิ่งรวบรวมภาพถ่ายที่ถ่ายไว้ช่วงตอนเย็น และตอนประมาณเที่ยงคืน ของวันที่ 16 มีนาคม จะแนบภาพถ่ายกับหนังสือร้องเรียน ให้ท่านผู้อำนวยการโรงพยาบาลค่ะ ขอบคุณทุกท่านที่เป็นกำลังใจ และให้คำแนะนำ .ดิฉันยืนยันว่าไม่มีเจตนาที่จะฟ้องร้อง โรงพยาบาล หรือต้องการให้โรงพยาบาลเสียชื่อเสียง ..เพราะถือว่าเป็นปัญหาบุคลากรบางคนเท่านั้น .ที่ดิฉันมาโพสที่นี่ ก็ต้องการให้หลายคนรับรู้และระมัดระวังไม่ให้เหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นกับคนใกล้ตัว และอีกเหตุผลหนึ่งก็คือ ผลการร้องเรียนไปยังโรงพยาบาลอาจจะไม่มีผลอะไรมากมายนัก เพราะไม่มีพยานหลักฐานที่ชัดเจน แค่เพียงสภาพบวมช้ำบนใบหน้า กับคำบอกเล่าของคุณลุงข้างเตียง ที่คุณลุงเองก็กลัวจะมีปัญหาต่อตัวท่านเองในวันข้างหน้า และเจ้าหน้าที่คนนั้นก็สามารถใช้ข้ออ้างเดียวกันกับที่บอกหัวหน้าพยาบาลได้ว่า คุณพ่อล้มฟาดกับราวกันตก ถึงแม้ผลการร้องเรียน อาจจะไม่มีผลอะไรมากนัก แต่ถ้าสามารถก่อให้เกิด การหามาตรการควบคุมดูแล หรือฝึกอบรมบุคคลากร ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลผู้ป่วยโดยตรง ให้มีใจและจรรญาบรรณในการทำงาน มีความอดกลั้น อดทน ต่อการดูแลผู้ป่วยที่มีปัญหาได้บ้าง ก็น่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ป่วยคนอื่นๆบ้างนะคะ ถ้ากลับจากโรงพยาบาลแล้ว จะมา Up date ข้อมูลเพิ่มนะคะ จากคุณ : ลูกสาวผู้ป่วย เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 10:11:40 A:58.136.98.82 X: TicketID:162223

ความคิดเห็นที่ 38 ความเห็นส่วนตัว เราเชื่อว่านี้เรื่องจริงนะสิ ^_^ จากคุณ : poope12 เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 10:26:12

ความคิดเห็นที่ 39 ถ้าเป็นเรื่องจริง ที่เกิดกับพ่อเรา เราจะแจ้งความทันที และจะไป ช่อง 3 ขอออกรายการสรยุทธ์ เอาเรื่องให้ถึงที่สุด นับว่าคุณใจเย็นมากที่ยังอยู่ในขั้นตอนของการร้องเรียนกับ ผอ. รพ. จากคุณ : khunpumpim เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 10:32:54

ความคิดเห็นที่ 40 ถ้าเป็นเรื่องจริง ที่เกิดกับพ่อเรา เราจะแจ้งความทันที และจะไป ช่อง 3 ขอออกรายการสรยุทธ์ เอาเรื่องให้ถึงที่สุด นับว่าคุณใจเย็นมากที่ยังอยู่ในขั้นตอนของการร้องเรียนกับ ผอ. รพ. จากคุณ : khunpumpim เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 10:36:34

ความคิดเห็นที่ 41 อาชีพพยาบาลต้องใจเย็นๆ อย่างที่คุณจขกท.ว่าจริงๆค่ะ ต้องคุมอารมณ์ตัวเองให้นิ่งที่สุด คนไข้บางคนที่มีพฤติกรรมอาละวาด บางทีเค้าไม่รู้ตัวจริงๆว่าเค้าทำอะไรอยู่ ถ้าเราไปถือโทษโกรธเค้าก็เท่ากับว่ายังไม่มีคุณสมบัติพอที่จะทำอาชีพนี้ คุณยายของเราก็มีอาการคล้ายกับคุณพ่อของคุณจขกท. ท่านอายุ84 เป็นอัลไซเมอร์และโรคไตวาย ทุกครั้งที่พยาบาลมาเช็ดตัวก็จะโดนคุณยายเราด่า/ทำร้ายทุกครั้ง ครั้งนึงเราไปเยี่ยมท่าน พอเข้าไปในห้องคนป่วยก็สวนกับพยาบาลท่านหนึ่ง น้ำตาคลอรีบร้อนเดินออกไป พอเราถามเด็กลูกจ้างที่เฝ้าอยู่ในห้องก็ได้ความว่า พยาบาลคนนั้นเข้ามาเช็ดตัว แล้วโดนคุณยายเราตบหน้า เด็กบอกว่าพยาบาลคนนั้นยังทนเช็ดตัวคุณยายเราต่อไป แล้วก็ร้องไห้ไป ไม่มีปากมีเสียงอะไร ในขณะที่คุณยายเราด่าเค้าฉอดๆ นับว่าโชคดีที่ได้เจอพยาบาลที่เข้าใจสภาวะของคุณยายเราตอนนั้น จากคุณ : สวยจนพ่อเป็นกังวล เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 10:45:05

ความคิดเห็นที่ 42 ปั๊ดโธ่ คุณหมอก้อนหิน เนี่ย เพราะปกป้องกันขนาดนี้แหละ เขาถึงได้อยากจะแทรกแซงองค์กรแพทย์กันนักหนา แผลหกล้มชนขอบเตียง กะแผลโดนทุบ โดนต่อยน่ะ มันพิสูจน์กันได้ไม่ยากเลย ลักษณะบาดแผลไปคนละทางเลย ถ้าตาบวมช้ำทั้งสองข้าง เฉพาะบริเวณเบ้าตา หน้าอกช้ำ อันนี้ คงตรวจพิสูจน์กันได้ไม่ยากหรอก ถ้าบ้านคุณหมอโดนโจรขึ้นบ้าน ไปแจ้งตำรวจแล้วเขาบอกว่า ขอฟังหูไว้หู ไม่รู้บ้านรกอยู่แล้ว หรือโดนโจรปล้นจริงหรือเปล่า  จะรู้สึกยังไงครับ แนะนำ จขกท. ให้ร้องเรียน และ แจ้งตำรวจครับ ทำไปพร้อมๆ กันเลย  และหาคนไปเฝ้าไข้เวลากลางคืนด้วยก็ดีครับ จากคุณ : ลูกหมีเขี้ยวยาวเขาโง้ง เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 10:47:40

ความคิดเห็นที่ 43 อันความกรุณาปราณี  จะมีใครบังคับก็หาไม่  หลั่งมาเองเหมือนฝนอันชื่นใจ จากฝากฟ้าสุราลัย...สู่แดนดิน จากคุณ : เช้านี้ยังมีเธอ เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 11:06:28

ความคิดเห็นที่ 44 ถ่ายภาพแผลที่โดนทำร้ายไว้เป็นหลักฐานด้วยนะคะ ล้มหน้ากระแทกพื้น ตาอยู่ต่ำปลายจมูก กับหน้าผากนะ คนแบบนี้ออกจากหน้าที่นี้ไปไม่น่าสงสารสักนิด ! ขอให้คุณพ่อจขกท. หายป่วยไวๆนะคะ จากคุณ : prikwhan83 เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 11:24:10

ความคิดเห็นที่ 45 ถ้าเป็นเรื่องจริง เราขอแนะนำให้เจ้าของกระทู้ร้องเรียนค่ะ การร้องเรียนที่ได้ผล ไม่ใช่การมาโพสต์กระทู้ในเน็ตนะคะ เพราะวิธีนี้ไม่ได้ก่อให้เกิดการแก้ปัญหาใดๆ ทางที่ดี คุณควรจะร้องเรียนไปกับทางรพ.ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน แล้วจะลงโทษคนผิดยังไงก็ว่าไป เพราะเรื่องนี้ เอาผิดได้ทั้งวินัยราชการ (โทษน่าจะถึงให้ออก) และยังเอาผิดทางกฏหมายได้อีก แต่ถ้าร้องเรียนแล้ว ไม่ได้ผล เรื่องไม่เดิน หรือยังไง ก็ค่อยดูอีกทีว่าจะทำยังไงต่อ จากคุณ : tachycardia เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 11:29:39

ความคิดเห็นที่ 46 อ่านแล้วโกรธแทน..ถ้าเป็นผมจะเอามันออกจากงานให้ได้..ให้มันลำบากในชีวิตถึงที่สุด.. จากคุณ : FinarE เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 11:29:46

ความคิดเห็นที่ 47 ยื่นเรื่องไปยัง ผอ โรงพยาบาล ให้จัดการเรื่องนี้ อย่าให้คนไม่ดี ควบคุมภาวะอารมร์ของตัวเองไม่ได้มาทำงานบริการเลยคะ จากคุณ : ที่คาดผม เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 11:36:36

ความคิดเห็นที่ 48  ต้องแจ้งความดำรวจ ดำเนินดดี ให้ถึงที่สุด ครับ   จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 12:01:34

ความคิดเห็นที่ 49  หมอก้อนหิน สงสัยอะไรหรือครับ ? สงสัย ก็ต้องซักถาม จขกท ให้ได้ความชัดเจน ไม่ใช่เข้ามา พึมพัม แค่ ฟังหู ไว้หู ผมว่า ไม่เหมาะ ไม่เหมาะเพราะอุตสาห์เรียนหมอ เรียนทำไม ถึงไม่สนใจเรื่องนี้ครับ   จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 12:03:37

ความคิดเห็นที่ 50 อย่างแรกอยากให้ จขกท. จดชื่อที่ติดอยู่ที่เตียงของลุงพยานเอาไว้ วัน เวลา (เพราะจะได้ทราบว่าใครเข้าเวร) แล้วให้เล่าให้แพทย์เจ้าของไข้ฟังเป็นลำดับแรกและขอคำแนะนำแนวทางจัดการเรื่องนี้ นอกจากส่งหนังสือถึงผู้อำนวยการแล้ว ก็ขอให้ส่งไปทาง mail ด้วยนะคะ เพราะอาจจะรวดเร็วกว่าด้วย ดิฉันเคยนอนเตียงรวมใน รพ.รัฐ ชื่อดัง พอตกกลางคืนไม่มีแพทย์เลย มีแต่พยาบาลเข้าเวร เลยพอเข้าใจได้ว่าโอกาสที่จะเกิดเหตุการณ์นี้มันก็เป็นไปได้ เพราะเท่าที่เคยอยู่พยาบาลก็เบื่อหน่ายคนไข้ เพราะเนื่องจากไม่อนุญาตให้ญาติมาเฝ้าจนถึงเช้า เรื่องจุกจิกของคนไข้จึงต้องดูแลทั้งหมด บางคนนอนร้องทั้งคืน บางคนอุจจาระเรียราด และบางคนญาติก็ทิ้งไว้เลย ซึ่งการบริการของคุณพยาบาลห้องรวมก็จะต่างจากห้องพิเศษราวฟ้ากับเหว (เข้าใจว่าพยาบาลห้องพิเศษอาจจะไม่ค่อยเครียดมากเนื่องจากมีญาติมาคอยเฝ้าช่วยเหลือคนป่วย ไม่แน่ใจว่าได้ค่าบริการพิเศษด้วยหรือไม่) แต่อย่าไปคิดมากว่าเป็นเพราะเป็นบัตรทอง จ่ายน้อย จ่ายมาก ไม่ใช่หรอกค่ะ เราว่าเป็นเพราะอยู่ห้องรวม ไม่ว่าจะบัตรทอง ประกันสังคม หรือข้าราชการก็เหมือนกันหมดน่ะแหละ แต่ดิฉันไม่เคยเหมารวมพยาบาลทั้งหมดนะคะ เพียงแต่เล่าเฉยๆ และเข้าใจว่าบางทีในคืนหนึ่งๆ มันก็วุ่นวายพอสมควร บางคืนก็มีคนตาย หรืออาการหนัก และพยาบาลบางคนก็ดีมากๆ บางคนก็อู้งาน ซึ่งก็มีเหมือนกันหมดในทุกวงการ ซึ่งถ้าจะร้องเรียนดิฉันก็ร้องเรียนเป็นเคสๆ ไป เพราะบางทีเป็นคนส่วนน้อย เจ้าหน้าที่ในวงการแพทย์ที่ทุ่มเทก็มีอีกมากมาย แต่ยังไงก็ต้องเผื่อใจไว้ว่าอาจจะไม่ใช่ก็ได้ ลองปรึกษาและเล่ารายละเอียดทั้งหมดให้คุณหมอเจ้าของไข้ดูดีกว่านะคะ ว่าลักษณะรอยฟกช้ำมันเป็นไปได้ไหม ดิฉันคิดว่าคุณหมออาจจะมีทางออกที่ดีให้ หรือเบื้องต้นช่วยในการโยกย้ายผู้ป่วยไปห้องพิเศษ แล้วค่อยตามเรื่องเพื่อให้สอบสวนเจ้าหน้าที่ดังกล่าวต่อไปค่ะ แก้ไขเมื่อ 17 มี.ค. 54 12:09:28 จากคุณ : เพนกวินสีเงิน เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 12:07:03

ความคิดเห็นที่ 51 แจ้ง สรยุทธ เรื่องจะไวที่สุด ส่งเรื่องไปสำนักข่าวก็ได้ค่ะ ประเด็นน่าสนใจสุดๆ จากคุณ : เหม่งศรี (lieben_35) เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 12:50:35

ความคิดเห็นที่ 52 เห็นด้วยกับคห.42 ส่วนตัวเราเชื่อจขกท.นะ แต่ทำไมวิธีการจัดการของจขกท. มันดูใจเย็นจัง ร่องรอยบาดแผลจากการถูกทำร้ายมันสามารถพิสูจน์กันได้อยู่แล้ว ยิ่งเร็วยิ่งดี เป็นเราจะเอาตำรวจไปเก็บหลักฐานที่รพ.เลย รับรองเละกันไปข้าง ไม่มาเสียเวลาโพสในเน็ตหรอก พ่อทั้งคน ปล.ขอให้คุณพ่อคุณหายไวๆนะ จากคุณ : z-news เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 13:16:30 A:125.24.143.94 X: TicketID:278372

ความคิดเห็นที่ 53 v v แก้ไขเมื่อ 17 มี.ค. 54 15:12:51 จากคุณ : เชิญถล่ม (Radomski) เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 13:22:24

ความคิดเห็นที่ 54 ลบดีกว่าครับ มันเป็นกระทู้ขอความช่วยเหลือ มัวแต่ทะเลาะกัน เดียว จขกท จะแย่เอา  พี่ส่งหลังไมค์มาแล้วกันนะครับผม แก้ไขเมื่อ 17 มี.ค. 54 13:34:19 แก้ไขเมื่อ 17 มี.ค. 54 15:12:24 จากคุณ : Radomski เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 13:24:23

ความคิดเห็นที่ 55 ดราม่าซะงั้น !!!! จากคุณ : เจ้อ้วนเองจ้า เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 13:42:13

ความคิดเห็นที่ 56 ้here   ม้ากอ่ะ ถ้าเป็นเรื่องจริง สุดๆๆอ่ะ เอาเรื่องให้ถึงที่สุดนะ อย่ายอมให้ลอยนวล จากคุณ : RJ1 เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 14:08:39

ความคิดเห็นที่ 57 อ่านดูแล้ว ไม่เข้าใจเหรอครับ ว่า จขกท. เขาหาทางไปไม่เป็น ว่าเขาไม่คิดว่าจะแจ้งความหรือเอาเรื่อง เพราะพ่อยังนอนเป็นตัวประกันอยู่ทั้งคน เวลาคนเขาเดือดร้อนมา มาเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง มาขอคำแนะนำว่าควรทำยังไง ก็ควรรับฟังและให้ความช่วยเหลือไปก่อนในเบื้องต้น   ***********แก้ไขนะครับ************* พอดีคุณ Random โพสไปหาผมหลังไมค์แล้ว ส่วนตัว ผมยังติดใจเรื่องที่เข้าข้างกันเองอยู่ เพราะโดยสามัญสำนึกของคนทั่วไป ซึ่งรวมถึงผมเองด้วย เมื่อได้รับทราบอย่างนี้ ก็เป็นธรรมดาที่จะคาดหวังว่า ผู้ประกอบอาชีพด้านนี้ หรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับวิชาชีพในการดูแลรักษาคน จะใจกว้าง จะเอาความทุกข์ของคนป่วยในความรับผิดชอบของตน หรือที่อาจจะมาอยู่ในความรับผิดชอบของตนในวันใดวันหนึ่ง มาเป็นประเด็นหลักในการพิจารณาเรื่องที่เกิดขึ้น โดยไม่ปกป้อง หรือเข้าข้าง กันเอง โดยไม่คิดจะสืบเสาะแสวงหาข้อเท็จจริง วิชาชีพทางด้านการแพทย์ เป็นวิชาชีพที่สังคมให้การยอมรับ ให้ความเคารพ และศรัทธามากกว่าวิชาชีพอื่นๆ นะครับ แต่...ในมุมมองกลับกัน มันก็จะนำมาซึ่งความรู้รับผิดชอบอย่างมีจิตสำนึก และความคาดหวังในมาตรฐานการประกอบวิชาชีพอย่างมหาศาลด้วย ไม่มีใครได้อะไรมาฟรีๆ โดยไม่มีภาระรับผิดชอบติดมาหรอกนะครับ ดังนั้น เมื่อได้รับฟังความเห็นของคุณหมอก้อนหิน หรือคุณ Random ผมคิดว่า เป็นธรรมดาที่คนที่อ่านจะรู้สึกผิดหวัง และข้องใจ ซึ่งรวมถึงตัวผมด้วย ที่มีความคาดหวังกับวิชาชีพนี้สูงทีเดียว อนึ่ง ผมเป็นข้าราชการ ผมพยายามทำงานของผมอย่างรับผิดชอบที่สุดเท่าที่จะทำได้ เวลามีคนมาร้องเรียน หรือมีใครเดือนร้อนมา โดยอาจจะเกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ของผมที่จะเข้าไปจัดการได้ ผมไม่เคยไล่ไปที่อื่น ไม่เคยรังเกียจรังงอนให้ไปหาหลักฐานมา ไปหาใบเสร็จมา อย่างที่ตำรวจบางคนทำกะเจ้าทุกข์ที่มาแจ้งความ ซึ่งเราก็ได้ยินกันมาบ่อยๆ เพราะผมถือว่า มันไม่ใช่หน้าที่ของเขาที่เดือดร้อนมาอยู่แล้วจะต้องไปหาหลักฐานมาให้ครบถ้วน   แต่มันเป็นหน้าที่ของผม หรือคนที่อยู่ในวิชาชีพเดียวกะผม ที่อาจจดีลกะเขาอยู่ ที่ต้องช่วยเหลือเขาอย่างเต็มกำลัง  ช่วยอะไรไม่ได้ ก็ช่วยให้กำลังใจ ช่วยแนะนำก็ยังดี แต่ถ้าช่วยได้ หรืออยู่ในวิสัยที่จะ sanction เคสนั้นได้ ผมไม่เคยรอเลยล่ะครับ  แม้ว่าจะไม่ใช่เรื่องที่ผมต้องรับผิดชอบโดยตรงเลยก็ตาม คนเขาดูถูกระบบราชการ เพราะเขาผิดหวัง เพราะความคาดหวังของเขา มันไม่ตรงกับมาตรฐานการบริการที่เขาได้รับเนี่ยละครับ เพราะงั้น ถ้าช่วยกันได้  ก็ช่วยกันทำให้เขาได้รับในสิ่งที่เขาคาดหวัง ก็จะดีไม่น้อยครับ อนึ่ง ผมดีใจนะครับ ที่ ผอ.โรงพยาบาลคนนี้ ไม่ถาม จขกท. ว่าจริงไหม  โกหกหรือเปล่า   แต่ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายด้วยการรับฟังความจากคู่กรณีด้วย พร้อมๆ ไปกับการเยียวยาความเสียหายให้คนไข้เลย โดยไม่ต้องรอผลสอบออกมาก่อน แบบนี้ล่ะครับ คือ ตัวอย่างที่ดีที่ควรจะเป็น พอเข้าใจนะครับ อนึ่ง เพื่อไม่ให้เรื่องนี้กลายเป็นดราม่า จนกระทั่งบดบังประเด็นที่ จขกท. ต้องการนำเสนอ อันเป็นประเด็นหลักของกระทู้นี้ ดังนั้น ผมจะลบข้อความข้างบนไปก่อนแล้วกันครับ ตามที่คุณ Random ได้โพสมาหาผมหลังไมค์ ก็ขอชี้แจงให้เกิดความเข้าใจไว้เพียงเท่านี้ก่อนครับ แก้ไขเมื่อ 18 มี.ค. 54 11:36:31 จากคุณ : ลูกหมีเขี้ยวยาวเขาโง้ง เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 14:21:44

ความคิดเห็นที่ 58 อยากให้เจ้าของกระทู้ร้องเรียนเรื่องนี้อย่างจริงจังนะคะ เพราะไม่อยากให้ผู้ที่มีอาชีพดูแลคนเจ็บป่วยมีพฤติกรรมแบบนี้ นึกถึงถ้าเป็นคนที่เรารักก็คงจะรู้สึกไม่ดีเหมือนกันค่ะ แนะนำเพิ่มเติมเล็กน้อยนะคะ หากร้องเรียนไปทางผู้อำนวยการโรงพยาบาลแล้วไม่เกิดผลอะไร ลองร้องเรียนไปที่ กทม. ซึ่งเป็นต้นสังกัดของโรงพยาบาลกลางดูนะคะ โดยเฉพาะรองผู้ว่า กทม. ที่ดูแลด้านการแพทย์ คือ พญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ ท่านน่าจะให้ความเป็นธรรมได้ค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ จากคุณ : rinsura เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 14:36:47

ความคิดเห็นที่ 59 ถ้าเหตุการณ์นี้มีมูลจริงและสามารถหาหลักฐานได้ผมว่าส่งเรื่องถึงครอบครัวข่าวเลยครับ ถึงสุดท้ายจะไม่มีอะไรคืบหน้าแต่สังคมก็จะไดรับรู้การกระทำของ จนท.รพ.นี้ครับ ยังไง รพ.ต้องได้รับผลกระทบอยู่แล้วไม่มากก็น้อย จากคุณ : เคนก็เคนเหอะ เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 14:46:31

ความคิดเห็นที่ 60 ลบนะครับ ผมไปคุยกับพี่เขาหลังไมค์ กลัวว่ามันจะรก เพราะเป็นกระทู้ขอความช่วยเหลือ เข้าใจผมหน่อยนะ แก้ไขเมื่อ 17 มี.ค. 54 15:15:33 จากคุณ : Radomski เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 15:01:03

ความคิดเห็นที่ 61 คห.42 โจรขึ้นบ้าน ผมก็แจ้งตำรวจ ตำรวจก็ทำหน้าที่สืบสวน สอบสวน ตามหน้าที่ เน้นว่า "ตามหน้าที่" ถ้าหากผมไปแกล้งแจ้งความ ก็คงโดนข้อหาแจ้งความเท็จ รับโทษไป เข้ามางงเหมือนกันว่า .. ผมปกป้องอะไร ปกป้องใคร.. ??? ถ้าเป็นเรื่องจริง ถึงผมอยากจะปกป้อง ผมก็ปกป้องไม่ได้อยู่แล้ว เพราะมันเป็นคดีอาญา ไม่น่าจะยอมความได้.. ส่วนฟังหูไว้หูที่ผมโพสต์ไว้ ไม่ใช่หมายถึงให้ฟังหูไว้หูคำพูดจากพ่อ จขกท.ในเรื่อง แต่เป็น ฟังหูไว้หู เรื่องที่ จขกท.เอามาพูด.. ขอโทษนะครับ.. ที่ยังไม่ค่อยเชื่อเท่าไร เพราะส่วนตัวผมเจอมาเยอะแล้วครับ เรื่องที่แต่งเป็นเรื่องเป็นราว สุดท้ายกลายเป็นเรื่อง "โอละพ่อ" ไปเลย บางคน อ้างว่าไปวิ่งจ๊อกกิ้งแล้วหลงป่าที่ญี่ปุ่น ไปๆ มาๆ เพื่ออะไรก็ไม่ทราบ สมาชิกจับได้ ก็กลายเป็นเรื่อง "โอละพ่อ" ไป ขอโทษอีกครั้ง... ถ้าหากว่าเป็นเรื่องจริง จากคุณ : หมอก้อนหิน เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 15:14:18

ความคิดเห็นที่ 62 สงสารลุงเตียงข้าง ๆ ที่แอบเล่าให้ฟัง และไม่ให้พูดไปว่าลุงแกเล่าน่ะ คุณลูกสาวเล่นบอกหมดแบบนี้ รู้หมดเลย ลุงคนไหนเอามาเล่า ลุงเตียงข้าง งานเข้าแล้วสิ จากคุณ : หนึ่งหยดน้ำหลับไหลในสายน้ำ เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 15:16:39

ความคิดเห็นที่ 63 อ้อ.. มาต่อ.. แนะนำให้แจ้งความตำรวจครับ ส่วนหลักฐาน ลองติดต่อทาง รพ.เพื่อเอาภาพจากกล้องวงจรปิดครับ.. จากคุณ : หมอก้อนหิน เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 15:26:13

ความคิดเห็นที่ 64 เพิ่งกลับมาจากโรงพยาบาลค่ะ..............ขอขอบคุณทุกความคิดเห็น ทุกข้อแนะนำค่ะ ...........อย่าให้ประเด็นนี้สร้างความขัดแย้งกันในกระทู้นี้เลยนะคะ...........ดิฉันเคารพในความคิดเห็นของทุกคน แม้บางคนอาจจะคิดว่าดิฉันนั่งปั้นเรื่องใส่ร้ายป้ายสี มาเล่าให้ฟัง...........เชื่อว่าทุกคนมีวิจารณญาณที่จะเชื่อหรือไม่เชื่อ ก่อนอื่น ขอตอบข้อสงสัยของบาง #คคห.ก่อนนะคะ -------------------------------------------------------------------- ความคิดเห็นที่ 52 เห็นด้วยกับคห.42 ส่วนตัวเราเชื่อจขกท.นะ แต่ทำไมวิธีการจัดการของจขกท. มันดูใจเย็นจัง ร่องรอยบาดแผลจากการถูกทำร้ายมันสามารถพิสูจน์กันได้อยู่แล้ว ยิ่งเร็วยิ่งดี เป็นเราจะเอาตำรวจไปเก็บหลักฐานที่รพ.เลย รับรองเละกันไปข้าง ไม่มาเสียเวลาโพสในเน็ตหรอก พ่อทั้งคน ปล.ขอให้คุณพ่อคุณหายไวๆนะ จากคุณ : z-news ----------------------------------------------- ดิฉันคิดว่าการมาโพสกระทู้ในเน็ต ไม่เวลาเปล่าหรอกค่ะ ตอนแรกที่เห็นหน้าคุณพ่อปูดบวมช้ำขนาดนี้ ............ดิฉันสอบถามคุณพ่อว่าเกิดอะไรขึ้น พ่อแกบอกว่าโดนต่อย...............ดิฉันก็ยอมรับว่าร้อนรนจิตใจ............เสียใจและรู้สึกผิดที่ส่งท่านมาให้เป็นอย่างนี้.....เดินไปถามคุณลุงที่นอนอยู่ฝั่งตรงข้าม (คนที่นอนหันปลายเท้ามาทางเท้าคุณพ่อ แล้วมีทางเดินขั้นกลาง) พอคุณลุงคนนี้บอกว่าคุณพ่อล้มหน้าฟาดขอบเตียง..............ดิฉันเริ่มไม่มั่นใจ เพราะสภาพดวงตาซ้ายที่บวมปูดเขียวคล้ำ มันไม่เกี่ยวเนื่องกับรอยบวมปูดเขียวคล้ำปื้นให้ที่ลำคอบริเวณใต้คางด้านขวาเลย สักครู่..........คุณลุงที่นอนเตียงฝั่งเดียวกับด้านคุณพ่อ โดยมีเตียงเปล่าขั้นไว้ 1 เตียง กวักมือเรียกดิฉันเข้าไปหา แล้วเล่าเหตุการณ์ที่ทันเห็นให้ฟัง ตามที่เขียนเล่าไปแล้วใน#คคห.บนๆ--- หลังจากนั้น ก็ไปคุยกับหัวหน้าพยาบาล ซึ่งได้ข้อมูลเหมือนกับที่คุณลุงคนแรกบอก.....คือผู้ช่วยพยาบาลชายคนนั้นแจ้งว่า คุณพ่อล้มหน้าฟาดขอบเตียง............ทำให้ดิฉันสงสัยว่า คุณลุงคนนั้นโดนป้อนข้อมูลมาให้พูดอย่างนั้นหรือเปล่า.............ข้อมูลไม่เหมือนกับคุณลุงข้างเตียงคุณพ่อบอกเลย ประกอบกับคุณลุงข้างเตียงคุณพ่อแนะนำให้ไปแจ้งความ.............ดิฉันจึงไป สน.พลับพลาไชย ใกล้ๆโรงพยาบาล...........ได้ใบบันทึกประจำวันจากตำรวจมา 1 ใบ หลังเสร็จเรื่องแจ้งความก็ค่ำแล้ว คงทำอะไรได้ไม่มากแล้ว............ได้แต่ฝากฝังหัวหน้าพยาบาลให้จัดหา พยาบาลคนอื่นมาช่วยดูแลคุณพ่อด้วย ดิฉันกลับบ้านมาด้วยความสับสน กลุ้มใจ เสียใจ...........แล้วก็เริ่มร่างจดหมายร้องเรียนเพื่อจะส่งให้ผู้อำนวยการโรงพยาบาลในตอนเช้า................พร้อมๆกับเริ่มพิมพ์ลงในกระทู้ Pantip ห้องสวนลุมพินี และศาลาประชาคม เกือบเที่ยงคืนดิฉันร้อนใจว่าคุณพ่อจะเป็นอย่างไร จึงชวนพี่สาวขับรถไปโรงพยาบาลเพื่อแวะไปหาดูคุณพ่ออีกที ดิฉันคิดว่าการมาโพสกระทู้ที่นี่ ไม่เป็นการเสียเวลาเปล่าๆแน่ๆ เพราะดิฉันเชื่อว่า ถ้าผลการร้องเรียนจะไม่เกิดอะไรขึ้น..............อย่างน้อยๆหลายๆคนที่อ่านกระทู้นี้ ก็คงจะเพิ่มความระมัดระวังในการดูแลผู้ป่วยสูงอายุ หรืออย่างน้อยถ้าโรงพยาบาลมีการเรียกฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ที่ดูแลผู้ป่วย เพิ่มความรอบคอบในการตรวจสอบการทำงานของบุคคลากร ก็เป็นสิ่งเล็กๆที่จะก่อให้เกิดการพัฒนาขึ้นได้ในอนาคต มีต่อนะคะ.................... จากคุณ : ลูกสาวผู้ป่วย เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 15:36:20 A:58.136.98.82 X: TicketID:162223

ความคิดเห็นที่ 65 แจ้งความค่ะ เป้นไปได้ มีรูปประกอบก็ดีนะค่ะ แหะ ๆๆ จากคุณ : Pecthchakkaphat เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 15:38:57

ความคิดเห็นที่ 66 """ คนที่ทำเป็น... ผู้ดูแลช่วยเหลือคนไข้ ..  ไม่ใช่เหรอ? จากคุณ : คุณปุ้มปริ้ม เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 15:45:16

ความคิดเห็นที่ 67 เคยชื่นชมโรงพยาบาลแห่งนี้มาตลอดว่าเป็น รพ.รัฐ ที่มีพยาบาลและหมอมีจิตใจดีมีเมตตา เราเคยมีเคสฉุกเฉินเลยทำให้ต้องเข้าโรงพยาบาลนี้บอกตรง ๆ ว่าประทับใจจนร้องไห้เลย ไม่คิดว่าสิ่งที่เคยได้รับจาก รพช. แถวบ้านตั้งแต่เด็กจนโตมันจะถูกล้างออกไปได้ แต่มาวันนี้เสียใจ เสียความรู้สึกอ่ะ ส่วนตัวเราเชื่อ จขกท. ค่ะ เราก็มีคุณพ่อคนเดียว แต่อายุไม่เยอะเท่าคุณ จขกท. เป็นกำลังใจให้เอาเรื่องคนที่ทำร้ายคุณพ่อให้สำเร็จนะคะ และยังเป็นกำลังใจให้บุคลากรทางการแพทย์ที่มีจรรยาบรรณด้วยค่ะ เราเชื่อว่าคนดี ๆ ยังคงมีอยูู่ในประเทศไทย หมอก็เหมือนกัน ยังคงมีหมอดี ๆ อยู่ในประเทศไทย จากคุณ : Assasin Lady เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 15:57:30

ความคิดเห็นที่ 68 ต่อค่ะ ดิฉันไปถึงโรงพยาบาล ได้พบคุณหมออดิศร คุณหมอที่ทำการผ่าตัดคุณพ่อ เล่าเรื่องให้คุณหมอฟัง คุณหมอบอกว่าพยาบาลบอกท่านว่าคุณพ่อของดิฉันดิ้น แล้วหน้าไปโขกขอบเตียง และคุณหมอก็แนะนำให้ร้องเรียนไปที่ท่านผู้อำนวยการ เพราะตัวคุณหมอเอง ไม่มีอำนาจในการสอบสวน ดิฉันปรึกษาคุณหมอเรื่องการย้ายโรงพยาบาล คุณหมอตอบว่า ถ้าเป็นความต้องการของญาติหรือตัวผู้ป่วย คุณหมอก็ต้องตามใจญาติและผู้ป่วย ..แต่ถ้าถามความรู้สึกคุณหมอเอง .ในฐานะที่เป็นคุณหมอที่ทำการผ่าตัดให้คุณพ่อ คุณหมอก็อยากจะดูแลคนไข้ให้ถึงที่สุด ไม่อยากให้ย้ายไปใหน ตามที่เขียนเล่าไปใน #คคห.บนๆ ดิฉันรู้สึกประทับใจคุณหมอคนนี้ตั้งแต่พาคุณพ่อไปพบท่านครั้งแรก ดูคุณหมอเป็นคนใจดี พูดจาดีมาก ให้ข้อมูลรายละเอียดต่างๆอย่างใจเย็น ทั้งหน้าตายังยิ้มแย้มอยู่ตลอด ดิฉันเชื่อมั่นในตัวคุณหมอว่าท่านจะดูแลคุณพ่อดิฉันได้ดี ดิฉันถามถึงการย้ายไปห้องพิเศษ คุณหมอก็แนะนำว่าต้องหาคนดูแลท่านตลอดเวลา ท่านแนะนำให้หาเจ้าหน้าที่จากศูนย์เข้ามาดูแล และจ้างเหมาเป็นเดือนจะประหยัดกว่า เพราะบางกรณีผู้ป่วยอาจจะต้องอยู่โรงพยาบาลนาน ..ในกรณีคุณพ่อของดิฉันก็อาจจะต้องอยู่นาน (เพราะคุณพ่ออายุมากแล้ว การฟื้นตัวจะยากกว่าคนหนุ่มสาว คุณพ่อต้องทำกายภาพบำบัดด้วย) ไว้มาเล่าต่อนะคะ . จากคุณ : ลูกสาวผู้ป่วย เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 16:11:03 A:58.136.98.82 X: TicketID:162223

ความคิดเห็นที่ 69 ขอแนะนำให้แจ้งความแล้วเอาตำรวจเข้าไปเลย  ถ้า จขกท ปล่อยไว้แบบนี้มัวแต่ดำเนินเรื่องเนิบๆ ไปหา ผอ.รพ. ละก็  เดี๋ยวเค้าก็ช่วยกันกลบหลักฐานให้เรื่องเงียบไปซะ คุณพ่อคุณก็เจ็บฟรีปล่าวๆ  คุณไม่รัก ไม่หวง รู้สึกเจ็บช้ำน้ำใจแทนพ่อคุณบ้างหรือ ... จากคุณ : naytee เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 16:13:00

ความคิดเห็นที่ 70 ต่อค่ะ..................... ความคิดเห็นที่ 65 แจ้งความค่ะ เป้นไปได้ มีรูปประกอบก็ดีนะค่ะ แหะ ๆๆ จากคุณ : Pecthchakkaphat เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 15:38:57 ^ ^ แจ้งความแล้วค่ะ............ดิฉันมีภาพประกอบค่ะ แต่ไม่ได้เป็นสมาชิก Pantip ไม่สามารถโพสภาพได้ นี่ก็ยืมบัตรผ่านพี่สาวมาใช้ ถ้าใครใจดีจะโพสภาพให้ ดิฉันจะส่ง email ไปให้ค่ะ (คงต้องรบกวนขอ email address ด้วย) ส่วนภาพที่จะโพส คงต้อง Crop เฉพาะส่วน ไม่ให้เห็นหน้าเต็มๆ เพราะไม่อยากเปิดเผยตัวตนคุณพ่อมากเกินไป มันอาจจะไม่ส่งผลดีต่อตัวท่านในอนาคต เพราะคนเรามีความคิดเห็นและความเชื่อที่ไม่เหมือนกัน เดี๋ยวจะมาเล่าเรื่อง ไปพบท่านผู้อำนวยการให้ทราบนะคะ................ จากคุณ : ลูกสาวผู้ป่วย เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 16:41:13 A:58.136.98.82 X: TicketID:162223

ความคิดเห็นที่ 71 เฮ้อออ เห็นใจนะครับ แต่การที่คุณเล่าเรื่องเกี่ยวกับคุณลุงข้างเตียงทั้งหมดในนี้ โดยที่คุณลุงบอกว่า "...โดยกำชับไม่ให้ดิฉันบอกคนอื่น..." ผมกลัวว่า คุณลุงแกจะไม่ปลอดภัยซะแล้วละครับ คุณไม่จำเป็นต้องอ้างเค้าก็ได้ แค่บอกว่า รู้มาจากคุณพ่อ ก็จบ คุณไม่บอกคนอื่น แต่คุณบอกในนี้ มันผ่านสายตาไปกี่คู่แล้วครับ จากคุณ : LAPD21 เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 16:44:38

ความคิดเห็นที่ 72 ไม่รู้ว่าช้าไปหรือเปล่า  ให้ถ่ายรูปคุณพ่อไว้เป็นหลักฐานด้วย  เผื่อแผลหายแล้วผู้อำนวยการมาตามเรื่อง  เจ้าหน้าที่ที่ทำบอกไม่ได้ทำ  จะได้มีหลักฐานคะ น่าเห็นใจเจ้าของกระทู้จัง  เหมือนฝากเด็กไว้กับเนอสเซอรี่แล้วโดนพี่เลี้ยงทำร้าย  ซึ่งเป็นคนหรือรพ.ที่เราเลือกแล้ว บุคลากรแบบนี้  ถ้าเราเป็นผอ.รพ. เราจะให้ออกสถานเดียวคะ  ถือว่าผิดจรรยาบรรณในหน้าที่  ไม่มีความเหมาะสมในการให้บริการ จากคุณ : ทาโร่คุง เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 16:58:28

ความคิดเห็นที่ 73 ความคิดเห็นที่ 71 เฮ้อออ เห็นใจนะครับ แต่การที่คุณเล่าเรื่องเกี่ยวกับคุณลุงข้างเตียงทั้งหมดในนี้ โดยที่คุณลุงบอกว่า "...โดยกำชับไม่ให้ดิฉันบอกคนอื่น..." ผมกลัวว่า คุณลุงแกจะไม่ปลอดภัยซะแล้วละครับ คุณไม่จำเป็นต้องอ้างเค้าก็ได้ แค่บอกว่า รู้มาจากคุณพ่อ ก็จบ คุณไม่บอกคนอื่น แต่คุณบอกในนี้ มันผ่านสายตาไปกี่คู่แล้วครับ จากคุณ : LAPD21 เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 16:44:38 ^ ^ ต้องขออภัยจริงๆค่ะที่อ้างอิงคุณลุงเตียงข้างๆ ขนาดมีคุณลุงเป็นผู้เห็นเหตุการณ์เล่าให้ฟัง ยังมีหลายๆคนคิดว่าเป็นเรื่องแต่งเลยค่ะ.............ลำพังสิ่งที่คุณพ่อบอกคงไม่มีน้ำหนักอะไรเลยแน่ๆ ลึกๆดิฉันมั่นใจว่า น่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรเล็กๆน้อยๆเกิดขึ้นบ้าง เช่นอย่างน้อยก็ย้ายเจ้าหน้าที่พยาบาลคนนี้ไปประจำชั้นอื่น...............หรือมีการจับตาดูพฤติกรรมการทำงานของเจ้าหน้าที่รายนี้ให้มากขึ้น .........เป็นต้น เดี๋ยวจะมา Up date เรื่องการเข้าพบท่านผู้อำนวยการให้ทราบต่อนะคะ................ขอบคุณอีกครั้งสำหรับทุกคำแนะนำและข้อคิดเห็น จากคุณ : ลูกสาวผู้ป่วย เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 16:58:52 A:58.136.98.82 X: TicketID:162223

ความคิดเห็นที่ 74 ห่วงแต่เรื่องตัวเอง จนลืมสวัสดิภาพของคนอื่นทั้งที่เขาให้ข้อมูล อยากให้รู้ว่าทั้งเห็นใจและต้องตำหนิ ไม่เห็นต้องอ้างจนแจ่มแจ้งซะขนาดนี้ก็ได้ นี่ใครไปหาลุงคนนี้รับรองไม่ผิดตัว จากคุณ : โอเคนะ เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 17:08:48 A:58.9.127.245 X: TicketID:183315

ความคิดเห็นที่ 75 ^ ^ ต้องขออภัยอีกครั้งจริงๆค่ะ..............ตัวดิฉันเองไม่ลืมห่วงเรื่องคุณลุงหรอกค่ะ...........ดิฉันตั้งใจที่จะดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อให้คุณลุงปลอดภัยจากเจ้าหน้าที่คนนี้แน่ๆ จากคุณ : ลูกสาวผู้ป่วย เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 17:15:09 A:58.136.98.82 X: TicketID:162223

ความคิดเห็นที่ 76 ควรจะขอให้แพทย์เจ้าของไข้ บันทึกอาการบาดแผลตั้งแต่เมื่อมีการบาดเจ็บ การพิสูจน์บาดแผล คงทำได้แค่ว่า ถูกของแข็งไม่มีคม กระแทกใส่ แต่้ไม่สามารถบอกได้ว่า เป็นหมัด หรือเป็นขอบเตียง การที่บาดแผลสองแห่ง อยู่ฝั่งตรงข้ามกัน ก็ไม่ได้เป็นข้อพิสูจน์ที่ชัดเจนว่า เกิดจากการถูกทำร้ายเช่นกัน เพราะไม่มีการพิสูจน์ timing ว่า บาดแผลสองแห่งนี้ เกิดในเวลาเดียวกัน สรุปว่า ถ้าไม่มีวงจรปิด คงพิสูจน์เหตุการณ์ไม่ได้นะ จากคุณ : *Cookies* เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 17:16:41

ความคิดเห็นที่ 77 เรื่องนี้เป็นคดีอาญา ควรแจ้งความดำเนินคดีจนถึงที่สุดครับเพื่อให้ความจริงกระจ่าง แต่บางความเห็นก็นะ... คนเขาแค่จะเข้ามา"ฟังหูไว้หู" จะไปว่าเขาทำไมล่ะครับ เรื่องนี้คนเล่าเขาก็ไม่ใช่คนเห็นเหตุการณ์ซักหน่อย ดังนั้นการ "ฟังหูไว้หู" จึงถูกต้องเหมาะสมแล้วนี่ครับ จากคุณ : Ethanol เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 17:18:50

ความคิดเห็นที่ 78 ตำรวจเลยคะ  รับรองพิสูจน์ผลได้ ฟ้องให้หนัก รังแกคนแก่ได้ จากคุณ : mother-platinum เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 17:20:59

ความคิดเห็นที่ 79 เราเข้าใจ จขกท นะคะ เธอก็เล่าไปตามความจริงที่มีพยานเห็นเหตุการณ์ก็คือคุณลุงคนนั้น เธอไม่ได้มีเจตนาไม่ดีเลย ลองถ้าเธอบอกว่าคุณพ่อบอกอย่างเดียวก็จะมีคนแย้งอีกว่า คุณพ่ออาจจะเบลอ ๆ ที่เธอเล่าว่ามีคุณลุงบอกด้วยก็เพราะว่าจะชี้ให้เห็นด้วยว่าคุณพ่อเธอไม่ได้เบลอ ไม่ได้คิดไปเอง แต่มีพยานเห็นจริง ๆ นะ ก็เท่านั้นเอง... อีกอย่างพวกที่ไม่เชื่อทั้งหลายแหล่เนี่ย ไม่เชื่อก็ไม่ต้องเชื่อ แต่ไม่เห็นจะต้องมาพิมพ์อะไร ให้ จขกท รู้สึกแย่เลย...ถึงจะเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องแต่ง มันก็น่าสะเทือนใจมากพออยู่แล้ว เป็นเราเองโดนทำยังโกรธยังแค้นแทบตาย แต่นี่พ่อเราโดนกระทำ ความเจ็บแค้น ความโกรธ มันมากกว่าเป็นร้อยเท่าพันทวียิ่งกว่าโดนกับตัวเองเสียอีก... แก้ไขเมื่อ 17 มี.ค. 54 18:15:00 จากคุณ : Blue Syrup เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 17:30:32

ความคิดเห็นที่ 80 ก่อนที่ดิฉันจะเข้าไปเยี่ยมคุณพ่ออีกครั้ง..............ดิฉันจะโพสจดหมายร้องเรียนที่นำไปมอบให้กับท่านผู้อำนวยการ ให้พิจารณาอีกครั้ง ดิฉันอยากจะยืนยันเจตนาเดิมว่า..........ดิฉันไม่ต้องการฟ้องร้องโรวพยาบาล..................และไม่ได้สร้างเรื่องเพื่อสร้างความเสียหายใดๆ ให้กับโรงพยาบาล มันเป็นปัญหาของบุคคลากรบางคนเท่านั้น..............ดิฉันยังชื่นชม และศรัทธาในตัวคุณหมอที่ผ่าตัดคุณพ่อดิฉัน...............ดิฉันยังรู้สึกถึงความมีน้ำใจ และจิตใจที่ดีของพยาบาลบางคนที่ช่วยดูแลคุณพ่อดิฉัน เนื้อหาในจดหมาร้องเรียน ตาม #คคห.ข้างล่างค่ะ จากคุณ : ลูกสาวผู้ป่วย เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 17:44:30 A:58.136.98.82 X: TicketID:162223

ความคิดเห็นที่ 81 จดหมายร้องเรียน---ส่วนที่ 1 วันที่ 16 มีนาคม 2554 เรียน นพ.ชูวิทย์ ประดิษฐบาทุกา – ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกลาง นพ.อดิศร - แพทย์ผู้ทำการรักษา จาก น.ส.xxxx xxxx - บุตรผู้ป่วยที่ถูกทำร้าย เรื่อง ผู้ป่วยถูกเจ้าหน้าที่พยาบาลทำร้ายร่างกาย สิ่งที่แนบมาด้วย สำเนาใบแจ้งความ เนื่องจากนายxxxxx xxxxxx อายุ 81 ปี เข้าผ่าตัดกระดูกสันหลัง เมื่อวันจันทร์ที่ 14 มีนาคม 2554 หลังจากออกจากห้อง ICU แล้ว ในวันที่ 15 มีนาคม 2554 ได้เข้าพักที่ห้องผู้ป่วยรวมชาย ชั้น 10 เตียงหมายเลข 16 เย็นวันที่ 15 มีนาคม 2554 ดิฉันเข้าไปเยี่ยมคุณพ่อ พบว่าท่านถูกมัดมือทั้ง 2 ข้างไว้กับเตียง พยาบาลแจ้งว่า ต้องมัดไว้เพราะท่านพยายามจะลุกจากเตียง ซึ่งสภาพใบหน้าคุณพ่อยังอยู่ในสภาพปกติ เพียงแต่มีอาการมึนงง ไม่แน่ใจว่าตัวเองอยู่ที่ใหน และบ่นกว่าเจ็บมาก เย็นวันที่ 16 มีนาคม 2554 ดิฉันได้เข้าไปเยี่ยมคุณพ่อ พบว่าใบหน้าท่าน บริเวณรอบดวงตาด้านขวามีรอยบวมปูด เขียวช้ำ รวมทั้งมีรอยเขียวช้ำที่บริเวณบริเวณใบหน้าช่วงลำคอด้านล่างขากรรไกรด้านซ้ายด้วยเช่นกัน สอบถามคุณพ่อถึงสาเหตุทราบว่า โดนต่อยเพราะผู้ชายคนนั้นเข้ามายุ่งกับท่าน ท่านเจ็บ แต่เนื่องจากคุณพ่อยังมีอาการมึนงงสับสนในบางเวลา (อาจจะเกิดจากยาที่ได้รับ) ให้ข้อมูลได้ไม่ชัดเจนครบถ้วน ดิฉันจึงสอบถามจากคุณลุงผู้ป่วยเตียงข้างๆ ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ได้เล่าให้ดิฉันฟัง โดยกำชับไม่ให้ดิฉันบอกคนอื่นว่า คุณลุงท่านนี้เป็นผู้เล่าให้ฟัง (เพราะเกรงว่าตนเองจะได้รับการดูแลที่ไม่ดีเช่นกัน) คุณลุงเล่าว่า เข้าช่วงประมาณตี 2 ของเช้าวันที่ 16 มีนาคม (คืนวันที่ 15) คุณลุงนอนตะแคงหันหน้ามาทางเตียงของคุณพ่อ โดยที่เอามือจับขอบเตียงไว้ จึงเห็นเหตุการณ์โดยตลอด ได้มีเจ้าหน้าที่พยาบาลผู้ชาย น่าจะมาเปลี่ยนถุงปัสสวะให้ แล้วคุณพ่อดิ้น และถีบไปโดนตัวเจ้าหน้าที่พยาบาลเข้า เจ้าหน้าที่คนนี้รูปร่างท้วมใหญ่ ได้ใช้กำปั้นทุบใบหน้าคุณพ่ออย่างแรง ทั้งยังใช้กำปั้นทุบเข้าบริเวณทรวงอกด้วย ทั้งที่มือทั้ง 2 ข้างของคุณพ่อถูกมัดไว้กับเตียง (ในช่วงเย็นวันที่ 15 มีนาคม ดิฉันเข้าไปเยี่ยมคุณพ่อ ตอนนั้นมือทั้ง 2 ข้างก็ถูกมัดไว้กับเตียงเช่นกัน ซึ่งพยาบาลแจ้งว่า ท่านพยายามจะลุกจากเตียง จึงต้องมัดติดกับเตียงไว้) ...............มีต่อ.............. จากคุณ : ลูกสาวผู้ป่วย เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 17:45:53 A:58.136.98.82 X: TicketID:162223

ความคิดเห็นที่ 82 จดหมายร้องเรียน---ส่วนที่ 2 (ต่อจากข้างบน) ............................... ดิฉันสอบถามกับพยาบาลเวรวันนี้ ทราบว่าเจ้าหน้าที่พยาบาลผู้ชาย 2 คนที่เข้ามาดูคุณพ่อ และ 1 ใน 2 คน ที่ทำร้ายคุณพ่อชื่อ 1. นายxxxx xxxx - ตำแหน่งผู้ช่วยพยาบาล 2. นายxxxx xxxx - ตำแหน่งผู้ช่วยเหลือคนไข้ และเจ้าหน้าที่พยาบาลคนนี้ ก็ได้สร้างเรื่องที่น่าละอายบอกหัวหน้าพยาบาลว่า คุณพ่อดิฉันล้มหน้าฟาดกับขอบเตียง ซึ่งเป็นข้อมูลเดียวกันกับที่ดิฉันเข้าไปถามคุณลุงคนแรก ซึ่งนอนเตียงฝั่งตรงข้ามกับคุณพ่อก่อนหน้านั้น ทำให้ดิฉันสงสัยว่าคุณลุงเตียงฝั่งตรงข้ามคงได้รับข้อมูลจากเจ้าหน้าที่พยาบาลที่ทำร้ายคุณพ่อให้บอกว่าเกิดจากสาเหตุนี้ จนกระทัั่งหลังจากนั้น มีผู้ป่วยเตียงข้างๆเรียกดิฉันเข้าไปพบ บอกว่าคุณพ่อโดนชกต่อยทั้งๆที่มือโดนมัดอยู่ และเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ฟัง ทั้งยังบอกว่าเจ้าหน้าที่พูดจาไม่ดีเลย ตอนเช้าเจ้าหน้าทีพยาบาล คนที่ทำร้ายคุณพ่อเข้ามาถามคุณพ่อดิฉันว่า เช้านี้จะกินอะไร คุณพ่อดิฉันตอบว่าจะกินผัดเผ็ด ตอนนี้เขาเข้าครัวไปทำให้อยู่ (บางช่วงท่านจะสับสนบ้าง) เจ้าหน้าที่ก็พูดขึ้นมาว่า “ถ้างั้นก็กินผัดเผ็ดหมาก็แล้วกัน” ดิฉันรู้สึกเสียใจและผิดหวังเป็นอย่างมาก ที่เกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้นในโรงพยาบาล ที่ซึ่งเป็นสถานที่ที่ต้องดูแลรักษาผู้ป่วย ไม่ใช่สถานที่ที่ส่งผู้ป่วยมาให้ถูกทำร้าย ดิฉันเชื่่่่อมาตลอดว่า เจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาล ที่คอยดูแลพยาบาลผู้ป่วยทุกระดับ จะต้องมีพื้นฐานจิตใจที่รักในอาชีพบริการช่วยเหลือคนอยู่ส่วนหนึ่ง ต้องใจเย็น และผ่านการฝึกอบรมในการรับมือกับผู้ป่วยทุกสภาวะการณ์ โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีความเจ็บปวดจนควบคุมตัวเองไม่ค่อยได้ อาจจะมีการดิ้นรน หรือถีบเจ้าหน้าที่ เช่นกรณีคุณพ่อเป็นต้น เป็นการเข้าใจกันอยู่แล้วว่า คนแก่อายุ 81 ปี ที่ได้รับการผ่าตัด ผ่านการวางยาสลบ และการให้ยาระงับปวด เสียเลือดมาก และอ่อนเพลียอย่างเห็นได้ชัด ตลอดระยะเวลาที่ไปเยี่ยมท่าน รับรู้ได้ว่าท่านยังสบสนอยู่บ้าง แต่ก็พูดคุยรู้เรื่องดี อีกทั้งยังหงุดหงิด เพราะความเจ็บปวดและถูกมัดมือไว้ (ไม่ให้ท่านเผลอลุกจากเตียง) ซึ่งหลังจากโดนชกต่อยบริเวณดวงตาอย่างรุนแรง คุณพ่อบอกว่าตอนนี้ท่านมองเห็นทุกอย่างเป็นหลุมเป็นบ่อ (เมื่อปีที่แล้ว ท่านเคยเข้าผ่าตัดต้อกระจก แต่ก็ไม่มีอาการมองเห็นอะไรเว้าๆนูนๆ เป็นหลุมเป็นบ่ออย่างตอนนี้) ไม่ทราบว่าเป็นผลต่อการโดนชกที่บริเวณดวงตาอย่างรุนแรงหรือไม่ แต่เจ้าหน้าที่พยาบาลคนนั้น ลุแก่โทสะทำร้ายคนแก่ เพียงเพราะโดนผู้ป่วยแก่ๆถีบเข้า มันสมควรแล้วหรือ ที่จะมีบุคคลากรอย่างนี้อยู่ในโรงพยาบาล ......................มีต่อ..................... จากคุณ : ลูกสาวผู้ป่วย เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 17:46:50 A:58.136.98.82 X: TicketID:162223

ความคิดเห็นที่ 83 จดหมายร้องเรียน---ส่วนที่ -3 (ต่อจากข้างบน) ........................................................ หรือเพราะว่าเป็นการใช้สิทธิ์บัตรทองในการรักษา จึงได้รับการดูแลเช่นนี้ ก่อนที่จะเข้ารับการผ่าตัดที่โรงพยาบาลกลางนี้ ทางครอบครัวก็ได้ส่งคุณพ่อไปตรวจวินิจฉัย พร้อมเสียค่าบริการทำ MRI มาจากโรงพยาบาลเอกชนเรียบร้อยแล้ว การรักษาที่นี้ ก็ใช่ว่าจะรักษาฟรีเสียทั้งหมด ทางครอบครัวได้เสนอว่าเรายินดีจ่ายเพิ่มในส่วนต่างทุกอย่างเพื่อให้ได้รับการรักษาที่ดี ก่อนผ่าตัดคุณหมอสอบถามว่า ถ้าต้องจ่ายเพิ่มอีกประมาณ 10,000 บาทเป็นค่าอุปกรณ์ทางการแพทย์ (เข้าใจว่าเป็นค่าไทเทเนียม ที่ใช้ยึดกระดูก) ทางเราจะยินดีหรือไม่ ซึ่งทางเราก็ตอบว่ายินดี และหลังผ่าตัด ได้มีการแจ้งให้ไปชำระค่าใช้จ่ายส่วนนี้ เป็นเงิน 8,000 บาท ซึ่งทางเราก็ได้ไปชำระเงินส่วนนี้เรียบร้อยแล้ว สำหรับค่ายาต่างๆ ก็ได้แจ้งไว้ด้วยเช่นกันว่า เรายินดีจ่ายถ้าบัตรทองไม่ครอบคลุม ซึ่งทางพยาบาลก็ได้แจ้งมาแล้วว่าได้ให้ยาบางตัวที่ทางเราจะต้องจ่ายเพิ่ม และถ้ามีการเรียกเก็บมาเมื่อไรทางเราก็ยินดีจ่าย การเข้าพักรักษาตัว ตอนแรกทางเราต้องการให้คุณพ่อนอนห้องพิเศษด้วย แต่จากการพูดคุยกับพยาบาล ทางพยาบาลแจ้งว่า ถ้าท่านช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ หรืออาการค่อนข้างหนัก ให้นอนห้องรวมจะดูแลได้ทั่่วถึงกว่า เราจึงตัดสินใจให้นอนห้องรวม เพราะเห็นว่าอยู่ใกล้เคาร์เตอร์พยาบาล สามารถมองเห็นได้ง่าย ทั้งนี้คุณลุงข้างเตียงที่เห็นเหตุการณ์ ยังแนะนำว่าให้ไปแจ้งความเถอะ เขาจะได้ไม่ไปทำร้่ายผู้ป่วยเตียงอื่นอีกในวันข้างหน้า ทั้งๆที่คุณลุงท่านนี้ สั่่งห้ามไม่ให้ดิฉันบอกใครๆว่าท่านเป็นคนเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง เพราะเกรงว่าจะมีปัญหากับตนเองในขณะที่ยังต้องนอนรักษาตัวที่นี่ ดิฉันยังเชื่อมั่นว่าโรงพยาบาลกลาง ว่ายังเป็นโรงพยาบาลที่ดี และมีศักยภาพในการรักษาผู้ป่วยไม่ด้อยไปกว่าโรงพยาบาลของรัฐอื่นๆ และคุณหมอที่ทำการผ่าตัดให้คุณพ่อ ท่านก็พูดจา ให้ข้อมูลดีมาก อีกทั้งหน้าตาท่านก็ยิ้มแย้มอยู่ตลอดเวลา แต่การที่ปล่อยให้มีบุคคลากรบางคนที่ไม่มีความอดทน อดกลั้น และจรรญาบรรณในการประกอบอาชีพ เช่นนี้อยู่ในโรงพยาบาล ปล่อยให้มีการทำร้ายคนป่วยที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เกิดขึ้น ได้ลดความเชื่อมั่น ความศรัทธาที่มีต่อโรงพยาบาลลง คงไม่เฉพาะครอบครัวของดิฉันที่รู้สึกอย่างนี้ เช่นเดียวกับผู้ป่วยในห้องรวมที่เห็นเหตุการณ์และคนอื่นๆที่ได้รับรู้เรื่องนี้เช่นกั้น ซึ่งขณะนี้ดิฉันและครอบครัวก็รู้สึกไม่สบายใจ และหวาดระแวงว่า คุณพ่อจะถูกกลั่นแกล้งจากเจ้าหน้าที่คนนั้นอีกหรือเปล่า จนคิดจะย้ายโรงพยาบาลเพื่อความสบายใจ ดิฉันไม่ได้มีเจตนาที่จะฟ้องร้องโรงพยาบาล แค่หวังเป็นอย่างยิ่งว่า การร้องเรียนครั้งนี้ จะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในการให้บริการที่ดีขึ้น และทางโรงพยาบาลคงจะมีการดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง เพื่อแสดงให้เห็นว่าไม่ได้ละเลย และเห็นความสำคัญของผู้ป่วยที่พึงจะได้รับสิทธิ์ในการดูแลรักษาตามมาตรฐานที่พึงจะได้ ขอแสดงความนับถือ น.ส.xxxx xxxx จากคุณ : ลูกสาวผู้ป่วย เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 17:47:42 A:58.136.98.82 X: TicketID:162223

ความคิดเห็นที่ 84 น่าจะไปหานายสอ. ช่อง3 นะคะ ไม่รู้จะว่างไหม ช่วงนี้แกรับแต่ข่าวญี่ปุ่น พิเศษ จากคุณ : bitter sugar เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 18:44:24

ความคิดเห็นที่ 85 ถ้าเป็นเรื่องจริง เอามาโพสในนี้ผมก็เห็นด้วยนะ ไม่เข้าใจเหมือนกัน ว่าการเอาความจริงมาบอกให้คนทั่วไปรับรู้ ทำไมต้องกลัวกันนักหนา คนทำผิดมันยังไม่เห็นจะกลัวอะไร กลายเป็นคนร้องเรียนต้องมากลัวเอง ... แต่เพื่อความเป็นธรรมต่อทั้งสองฝ่าย เรื่องต้องได้รับการพิสูจน์นะครับ ผมเห็นใจเจ้าของกระทู้ แต่จะให้ฟังความข้างเดียวก็.. จะว่าไปเรื่องแบบนี้ อีกข้างก็มักจะยังไม่ให้ข้อมูลอีก ... ขอให้คนทำไม่ดีรับผลกรรมครับ ใครทำอะไรไม่ดีไว้ ตอนนี้คงนอนไม่หลับหล่ะ จากคุณ : IronYoJin เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 19:08:32

ความคิดเห็นที่ 86 ตกลงเป็นผู้ช่วยพยาบาลใช่มั้ยคะ ไม่ใช่พยาบาลตามหัวกระทู้ใช่มั้ยคะ ... จากคุณ : Pimya_P เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 20:31:28

ความคิดเห็นที่ 87 ถ้าเป็นพ่อเรานะ  จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุดเลย   เเล้วจะมีดำเนินการรอบนอกด้วย   พ่อทั้งคนนนนนนนนนนน จากคุณ : ไม่ใช่อิจฉา_แต่ว่ามันรักเทอ เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 21:00:30

ความคิดเห็นที่ 88 ความคิดเห็นที่ 86 ตกลงเป็นผู้ช่วยพยาบาลใช่มั้ยคะ ไม่ใช่พยาบาลตามหัวกระทู้ใช่มั้ยคะ ... จากคุณ : Pimya_P เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 20:31:28 ^ ^ จากที่ทางหัวหน้าพยาบาลตรววจสอบให้ เจ้าหน้าที่ผู้ชายที่อยู่เวรในคืนเกิดเหตุ มี 2 คน 1. นายxxxx xxxx - ตำแหน่งผู้ช่วยพยาบาล 2. นายxxxx xxxx - ตำแหน่งผู้ช่วยเหลือคนไข้ หัวข้อกระทู้ ดิฉันบอกว่าเป็นบุรุษพยาบาล เพราะข้อมูลที่ได้มาคือเป็นเจ้าหน้าที่ผู้ชาย........ไม่ทราบว่าผู้ช่วยพยาบาลชาย ....สามารถเรียกว่าบุรุษพยาบาลได้หรือไม่ เห็นใส่เสื้อฟอร์มสีขาวเหมือนบุรุษพยาบาลที่เคยเห็นทั่วไปน่ะคะ..............ถ้าผู้ช่วยพยาบาลชาย ที่ใส่เสื้อฟอร์มสีขาว ไม่สามารถเรียกว่าบุรุษพยาบาลได้............ขอต้องขออภัยด้วยนะคะ จากคุณ : ลูกสาวผู้ป่วย เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 21:20:45 A:58.136.98.82 X: TicketID:162223

ความคิดเห็นที่ 89 อ่านแล้วโกรธแทนแต่ก็แอบรู้สึกว่าเจ้าของกระทู้ทนได้ไง เป็นเราย้าย รพ เสร็จแล้ว กลับมาต่อยไอ้ผู้ชายพยาบาล ให้:-)ตาแตกเลย ขอโทษทีความคิดเห็นดูโง่ๆ แต่พ่อทั้งคน คงแค้นจนทนนิ่งดูไม่ไหวละ จากคุณ : ยัยตัวน่ารัก เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 21:40:10

ความคิดเห็นที่ 90 คนไข้หลังผ่าตัด  นอนติดเตียงนานๆเป็นdeliriumหรือเปล่าที่ต้องมัดไว้   คนไข้พวกนี้จะสับสน  มึนงง วุ่นวาย เดินไปมา  ไม่รู้ตัวว่าทำอะไร  กระโดดลงจากเตียง ดิ้นจนตกเตียงบ้าง จนต้องถูกrestainไว้  แขนขาขัยไม่ได้  มีแต่หัวที่ดิ้นไปมาได้  กับหัวเข่าที่อาจพลิกซ้ายขวาได้  ราวกั้นเตียงโคตรสูง   กระแทกประจำ   ปู่ผมเป็นโรคไตนอนติดเตียงนานเป็นdelirium สับสนมึนงง นอนICU  หลายคืน ออกมาตึกรวม   เข่า   ขอบตา   บวมช้ำ  ไปกระแทกกะราวกั้นเตียง ถูกมัดเหมือนกันเลย อีกอย่างเวลาใส่สายปัสสาวะ  ม่านจะถูกดึงจากด้านในออกนอกคือจากหัวถึงปลายเท้า  ถ้าดึงออกมาครึ่งหนึ่งก้เห็นครึ่งล่างไม่เห็นหัว  หรือไม่ก้ดึงทั้งหมด   ปกติจะทำอะไรไม่ดีเขาก้คงปิดหมดไม่โผล่ให้เห็นหรอก  เชื่อลุงเตียงข้างๆไม่เชื่อลุงปลายเตียง   อะไรทำให้น่าเชื่อมากกว่า  เหตุผลคืออะไร  ถ้าลุงปลายเตียงบอกว่าม่านปลายเท้าดึงไม่สุดก้เห็นเหมือนกันละ เชื่อใครดี     ไม่เห็นเองอย่าไปสรุปอะไรง่าย  สรุปคือจะบอกว่าเชื่ออย่างมีเหตุมีผล จากคุณ : vapium เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 21:53:42

ความคิดเห็นที่ 91 คุณ vapium ได้อ่านข้อมูลครบหรือไม่ ว่า จขกท บอกว่า บริเวณรอบดวงตาด้านขวามีรอยบวมปูด เขียวช้ำ ตาแทบปิด ถ้ากระแทกขอบเตียงมันเข้าไปโดนตรงนั้นเลยหรือ แล้วอีกอย่างนึงการเปลี่ยนถุงปัสสาวะ ไม่ได้รูดม่านค่ะ ขอย้ำ เปลี่ยนถุงไม่ได้เปลี่ยนสายสวน อ่านและคิดให้ดีก่อนดีกว่านะค่ะ ไม่ได้ดราม่า แต่คุณก็ไม่ได้เห็นเองแล้วยังสัญนิษฐานผิืดๆๆอีก จากคุณ : BEE1991 เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 22:05:23

ความคิดเห็นที่ 92 แค่เปลี่ยนถุงแล้วจะปิดม่านทำไม   เข้าใจป่าว จากคุณ : vapium เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 22:50:43

ความคิดเห็นที่ 93 ผมแค่จะบอกว่าเกิดจากอะไรก้ได้  คุนลุงสองคนพูดไม่เหมือนกัน  ทำไมเลือกเชื่ออีกคนแต่ไม่เชื่ออีกคน   เราก้ฟังเรื่องจาก  จขกท คนเดียว   ผมไม่เห็น   จขกทไม่เห็น  คุณก้ไม่เห็น อย่าไปสรุปอะไรเอง   ผมไท่ได้ว่าใครผิด  แต่ที่บอกเนี่ยมันเกิดจากอะไรก้ได้   และสิ่งที่ไม่ได้เห็นเอง ก้อย่าไปเชื่อ จากคุณ : vapium เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 22:54:17

ความคิดเห็นที่ 94 เห้อๆๆ จากคุณ : pectoralis9 เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 23:00:23

ความคิดเห็นที่ 95 แอบย่องเข้ามาดูความคืบหน้า อีกรอบนึง.. รู้สึกว่าทำไมเราต้องมาเปลืองตัวกับเรื่องนี้ด้วยนะ.. ย่องออกไป อย่างเงียบ ๆ ดีกว่า.. จากคุณ : ... เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 23:16:23 A:58.64.101.92 X: TicketID:266868

ความคิดเห็นที่ 96 Up Date เรื่องการเข้าพบท่านผู้อำนวยการ ค่ะ . หลังจากดิฉันได้พูดคุยกับคุณหมออดิศร คุณหมอที่ผ่าตัดคุณพ่อแล้ว ช่วงเที่ยงดิฉันได้ไปหน้ารอหน้าห้องท่านผู้อำนวยการ เพื่อขอเข้าพบท่าน แต่ทางหน้าห้องแจ้งว่าท่านกำลังจะเข้าประชุมตอนบ่ายโมง ดิฉันจึงขอรอพบแค่ช่วงระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้น ในที่สุดก็มีการอนุญาตให้เข้าพบค่ะ ดิฉันได้เล่าเรื่องราวให้ท่านฟัง และยืนจดหมายร้องเรียนที่เตรียมไป แนบภาพถ่ายร่องรอยบาดเจ็บบนใบหน้าให้ท่านดู แล้วท่านก็เปิดซองดูคร่าวๆ พร้อมสอบถามรายละเอียด จากการพูดคุยกับท่าน รู้สึกได้ว่าท่านแสดงออกถึงความกังวลในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก ซึ่งก็ทำให้ดิฉันรู้สึกดีขึ้นด้วยว่า อย่างน้อยผู้ใหญ่ของโรงพยาบาลก็รับฟังข้อมูลจากดิฉัน ท่านบอกว่าท่านเพิ่งมาเป็นผู้อำนวยการที่โรงพยาบาลแห่งนี้ ได้เพียง 6-7 เดือนเท่านั้น และถ้าเกิดเหตุการณ์เช่นนี้จริง ท่านไม่เพิกเฉยแน่ จะต้องมีการสอบสวนหาข้อเท็จจริง แต่ท่านก็ต้องรับฟังเรื่องราวจากฝั่งเจ้าหน้าที่ด้วย เพื่อที่จะได้ไม่เป็นการฟังความข้างเดียว ซึ่่งก็ดิฉันเองก็เห็นว่า เป็นแนวทางการสอบสวนที่ถูกต้องในการรับฟังข้อมูลของทั้ง 2 ฝ่าย ไม่ได้คาดหวังว่าท่านผู้อำนวยการ หรือใครๆจะต้องเชื่อข้อมูลของดิฉันทั้งหมด .................แล้วท่านได้มีการต่อสายไปยังเคาร์เตอร์พยาบาลในส่วนที่คุณพ่อพักอยู่ จากการพูดคุยทางโทรศัพท์ ท่านสั่่งให้ทุกคนที่อยู่เวรในช่วงที่เกิดเหตุทำรายงานส่งท่านภายใน 3 วัน หรือถ้าเสร็จได้ภายในพรุ่งนี้ได้ก็ดี ท่านบอกว่าให้สอบถามผู้ป่วยเตียงใกล้เคียงว่ามีใครเห็นเหตุการณ์บ้าง แล้วท่านก็พูดต่อว่า ถ้าคนของเราทำจริงๆ ท่านก็ยอมไม่ได้ แล้วก็ก็พูดว่าเป็นไปได้ที่ผู้ป่วยคนอื่นๆอาจจะไม่กล้าพูด ให้จดชื่อ นามสกุลผู้ป่วยเตียงข้างเคียงไว้ทุกเตียง จากนั้นท่านก็สั่่งให้ย้ายเตียงคุณพ่อดิฉันจากชั้น 10 ลงมาชั้น 9 ได้เลย ไม่ต้องรอ ท่านพูดกับพยาบาลทางโทรศัพท์ว่า ผู้ป่วยก็อาจจะไม่สบายใจ ผู้ช่วยพยาบาลก็อาจจะไม่พอใจ เดี๋ยวจะเกิดการเอาคืนกันขึ้นมา ท่านขอหมายเลขโทรศัพท์มือถือของดิฉันไว้ด้วย จากคุณ : ลูกสาวผู้ป่วย เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 23:25:20 A:58.136.98.82 X: TicketID:162223

ความคิดเห็นที่ 97 คุณทำดีมากแล้วละค่ะ ที่เข้าไปพบแพทย์เจ้าของไข้และผอ. สิ่งที่ทางรพ.จะไม่สบายใจเลยคือผป.มีปัญหากับทางรพ.แล้วไปออกสื่อต่างๆโดยที่ยังไม่ได้มีการสอบสวนข้อเท็จจริง ให้กำลังใจนะคะ จากคุณ : ฟ้าหมาดฝน เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 23:33:52

ความคิดเห็นที่ 98 ต่อค่ะ........................ ตอนเย็นนี้ ดิฉันเข้าไปเยี่ยมคุณพ่อที่ชั้น 9 ท่านพูดจาได้มากขึ้น ตาข้างขวาที่ถูกชกบริเวณนัยตาขาว เป็นสีแดงช้ำเลือด ดูน่ากลัวมาก.............ส่วนลำคอช่วงใต้คางด้านซ้ายเปลี่ยนเป็นสีดำคล้ำปื้นใหญ่ ดิฉันได้ขึ้นมาเยี่ยมคุณลุงที่เห็นเหตุการณ์ที่ชั้น 10 ได้รับข้อมูลเพิ่มเติมจากคุณลุงว่า..............คุณลุงล้ม แล้วมีปัญหาตรงคอต้องผ่าตัด .มาอยู่ที่นี่ก่อนหน้าคุณพ่อหลายวันแล้ว . คุณลุงเล่าว่า ตอนบ่าย มีคุณหมอตัวเล็กๆ มีอายุเข้ามา แล้วเรียกให้เข้าประชุม (ดิฉันคิดว่าเป็นท่านผู้อำนวยการ) หลังจากประชุมกันแล้ว หัวหน้าพยาบาลได้เข้ามาสอบถามข้อมูลจากคุณลุง บอกว่าให้คุณลุงเล่าให้ฟัง ว่าเกิดอะไรขึ้น จะได้ดำเนินการได้ถูกต้อง คุณลุงบอกว่าแกก็ได้เล่าไปตามที่เห็น ..แต่พอดิฉันถามว่าเล่าอะไรไปบ้าง คุณลุงแกก็ไม่ยอมบอกรายละเอียด บอกเพียงแต่ว่า ก็บอกไปตามที่บอกดิฉันนั่นแหละ หลังจากนั้น คุณลุงได้เล่าเพิ่มเติมว่า ..ในคืนนั้น เจ้าหน้าที่คนเติมได้ย้อนกลับมาหาคุณพ่อรอบสอง .เพราะตาคุณพ่อปูดบวมมาก เจ้าหน้าที่คนนี้ถือแผ่นประคบติดมือเข้ามาด้วย แต่คุณพ่อไม่ยอมให้เอาแผ่นมาประคบหน้าท่าน .. ไม่ให้เข้ามายุ่งกับท่าน คุณลุงคิดว่าคุณพ่อน่าจะทั้งเจ็บทั้งโกรธ . แล้วเจ้าหน้าที่คนนี้ก็เอามือกดลงไปตรงลำคอคุณพ่อ ลักษณะเหมือนการบีบลงไปแน่นๆ แล้วกดลงหน้าผาก กระแทกๆด้วย ขณะเดียวกัน....ได้มีผู้ชายอีกคนวิ่งเข้ามา .และบอกเจ้าหน้าที่คนนี้ว่าอย่าแรงนักนะ ..(ดิฉันคิดว่า น่าจะเป็นผู้ช่วยเหลือคนไข้ ที่เข้าเวรด้วยอีกคนหนึ่ง) คุณลุงยืนยันว่า มือคุณพ่อโดนมัดอยู่ หัวจะไปกระแทกขอบเตียงได้อย่างไร และคุณลุงยังยกตัวอย่างอีกว่าคนป่วยที่โรงพยาบาลบ้า มีฤทธิ์ มีแรงมากกว่านี้ ยังจัดการกันได้ แต่นี้กับแค่คนแก่ ทำไมต้องรุนแรงกันถึงขนาดนี้ นอกจากนี้คุณลุงยังบอกอีกว่า ผู้ชายคนนี้พูดจาหยาบคาย พูดเมิงพูดกรู .ตะคอกคุณพ่อว่า “เมิงแรงเยอะนักนะ” และก็พูดเมิงๆกรูๆ อีกหลายคำ .แกบอกว่าคนอื่นก็พูดจาดี มีอ้ายนี่แหละมันพูดจาไม่ดี ดิฉันถามว่า แล้วคุณลุงได้เล่าเรื่องนี้ให้หัวหน้าพยาบาลฟังด้วยหรือเปล่า คุณลุงก็บอกว่าไม่ได้เล่า (ลองเลี่ยงคำไม่สุภาพบางคำ เพราะโพสไม่ได้) จากคุณ : ลูกสาวผู้ป่วย เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 23:40:53 A:58.136.98.82 X: TicketID:162223

ความคิดเห็นที่ 99 เข้ามาติดตามค่ะ เอาใจช่วยนะคะ  ขอให้คุณพ่อหายไวๆ จากคุณ : iampkd-bee เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 23:57:24

ความคิดเห็นที่ 100 ยิ่งได้รับฟังเรื่องราวเพิ่มเติมที่คุณลุงเล่าให้ฟัง .ถึงการที่เจ้าหน้าที่คนนี้ได้เข้ามาทำร้ายคุณพ่อรอบสองด้วยแล้ว ดิฉันได้แต่ภาวนาว่าขอให้คุณลุงเตียงข้างๆ กล้าที่จะเล่าเรื่องราวทั้งหมดตามที่คุณลุงได้เล่าให้ดิฉันฟังให้หัวหน้าพยาบาลฟังด้วยเถิด ดิฉันสงสารคุณพ่อมากๆ และไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้กับผู้ป่วยรายอื่นอีก ..ดิฉันคิดว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับคุณพ่อ ต้องไม่ใช่เหตุการณ์แรกแน่ๆ ..เพียงแต่ผู้ป่วยคนอื่นๆ อาจจะไม่กล้าร้องเรียน ..หรือมีการร้องเรียน แต่อาจจะไม่ถึงผู้บริหารระดับสูง ในขณะเดียวกัน ดิฉันอยากให้คุณลุงเล่าเรื่องทั้งหมดให้ท่านผู้อำนวยการฟังด้วยตัวเอง เพราะข้อมูลที่ถ่ายทอดผ่านหัวหน้าพยาบาล ไม่แน่ใจว่าจะถ่ายทอดไปถึงท่านผู้อำนวยการได้ครบถ้วนมากน้อยแค่ใหน ดิฉันไม่แน่ใจว่า คุณลุงได้เล่าเรื่องราวให้หัวหน้าพยาบาลฟัง ได้ครบถ้วนตามที่เล่าให้ดิฉันฟังได้ซักเท่าไร เพราะบางส่วนที่ดิฉันถามกลับไป ท่านก็บอกว่าไม่ได้เล่าตรงนี้ อย่างไรก็ตาม ..ในส่วนรายละเอียดการสอบสวนที่จะเกิดขึ้นต่อไป ดิฉันถือว่าท่านผู้อำนวยการจะเป็นผู้หาแนวทางในการสอบสวนเอง ดิฉันคงต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการของทางโรงพยาบาล จากคุณ : ลูกสาวผู้ป่วย เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 00:02:20 A:58.136.98.82 X: TicketID:162223

ความคิดเห็นที่ 101 คิดว่าคนไข้คงสับสน แล้วก็เป็นไปได้สูงว่าอาจเอะอะโวยวาย (เจอบ่อยที่ด่าชนิดรพ.จะเป็นสวนสัตว์เขาดินเลย ที่มีคุณวรนุสเต็มสระน้ำ) แล้วก็ไปถีบเจ้าหน้าที่จริง จนท.บางคนก็อาจมือไวใจร้อน เพราะแต่ละคนก็ต่างกัน บางคนอาจไม่ถือสา แต่บางคน reflex ไวมาก มาปุ๊บสวนปั๊บ (อันนี้เข้าใจว่าคนที่ทำงานด้านนี้ไม่ควรอารมณ์ร้อน แต่ก็ดันมาทำงานนี้แล้วนี่นะ ก็คงต้องหาเลี้ยงปากท้อง) เอาเป็นว่าถ้าคนปกติอยู่ดีๆเจอเตะก็คงไม่พอใจละกัน บางคนก็เตะคนแก่ได้ เรื่องมัดกับเตียงโดยมาก ก่อนมัดควรบอกญาติก่อนเพื่อจะได้เข้าใจตรงกัน  บ่อยๆที่ข้าน้อยบอกให้พยาบาลแก้มัด แต่ญาติบอกมัดเถอะหมอ เล่นเอางงไปเลยเหมือนกัน รู้ไหมว่าวิธีป้องกันคนไข้สับสนได้ดีที่สุดคือ การที่มีญาติคอยดูแลใกล้ชิด คอยบอกวันเวลา คอยคุยด้วย ไม่อยากให้ตั้งความหวังไว้พยาบาลกับจนทไม่กี่คนมาดูแลญาติเราอย่างดี ก็ยาก (มากๆ) อยู่  โดยมากเห็นมีพยาบาล 1 ผู้ช่วย 1-2 คนงานอีก 1 อยู่เวร งานก็หนัก ต้องรับคนไข้ใหม่ เจาะเลือด เดินไปเอายา ส่งเลือด เช็ดตัว เช็ดขี้เช็ดเยี่ยว พลิกตัว ทำแผล ดูดเสมหะ ดูน้ำเข้าน้ำออก คนไข้ทั้งหวอด (ประมาณ 30-40 คน หนักๆก็คง 10 คน) ก็น่าสงสารเหมือนกันนะขอรับ  ถ้าเป็นเรา เราทำได้ไหม ข้าน้อยทำไม่ไหวแน่ๆขอรับ ส่วนการที่มีคนว่าฟังหูไว้หู ก็ไม่คิดว่าจะต้องไปว่าเขาขอรับ เหมือนอยากก่อ drama ซะเหลือเกิน จากคุณ : xanyz เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 00:04:16

ความคิดเห็นที่ 102 ขอบอกว่าคุณพ่อดิฉันเป็นคนที่มีความจำดีมาก ไม่หลงลืมอะไรใดๆทั้งสิ้น .เพียงแต่ตอนที่ท่านออกจากห้อง ICU วันแรก ท่านบอกว่าท่านมึนๆงงๆ ไม่รู้ว่าท่านอยู่ที่ใหน .ตอนไปเยี่ยมท่าน ถ้าปลุกท่านให้ตื่นขึ้นมาสอบถามอาการ ช่วงแรกท่านจะมึนๆงงนิดหน่อย เข้าใจว่าเป็นเพราะฤทธิ์ยาที่ท่านได้รับ ทำให้เกิดอาการมึนงง แต่ก็จะเป็นแค่ช่วงที่ตื่นขึ้นมาใหม่ๆ .. ดังนั้นข้อที่บอกว่าคุณพ่อเบลอ หรือเผ้อ จนไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เป็นไปไม่ได้แน่ๆ ถ้าผลที่ออกมาไม่ได้เป็นไปตามคาด ดิฉันก็จะไม่ดำเนินการอะไรต่อไปอีกแล้ว แค่พยายามอย่าให้เกิดเหตุการณ์อย่างนี้กับคุณพ่ออีก ลึกๆแล้ว ดิฉันมั่นใจว่า ทั้งหัวหน้าพยาบาลและเพื่อนร่วมงานของเจ้าหน้าที่ชายคนนี้ จะต้องรู้อยู่แก่ใจว่าอะไรเป็นอะไร .ถ้าจะปกป้องกันเอง .ก็คงต้องรู้สึกละอายใจกันบ้าง อย่างน้อยเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับคุณพ่อของดิฉัน ก็อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นเล็กๆให้กับทางโรงพยาบาลแห่งนี้ หรือแม้แต่โรงพยาบาลอื่นๆ หามาตรการตรวจสอบคุณภาพและควบคุมการให้บริการของบุคคลากรในโรงพยาบาลให้มากขึ้น .ในทางกลับกัน คนที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้ อาจจะได้ประโยชน์บ้างเช่นกัน ในแง่ของความระมัดระวังไม่ให้เกิดเหตุการณ์อย่างนี้กับคนใกล้ตัว ส่วนใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อ .อันนี้อยู่ที่วิจารณญาณของแต่ละคน ...................แล้วดิฉันจะมา Up date ความคืบหน้าอีกนะคะ.................. จากคุณ : ลูกสาวผู้ป่วย เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 00:07:40 A:58.136.98.82 X: TicketID:162223

ความคิดเห็นที่ 103  เป็นกำลังใจให้นะคะ จากคุณ : หน้าแง๊ว~* เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 00:20:26

ความคิดเห็นที่ 104 เท่าที่อ่านมาคร่าวๆ เพราะยาวมาก ผมไม่เห็นชื่อโรงพยาบาลนะ เห็นแค่ชื่อหมอ.. บางท่าน ถ้าเป็นเรื่องจริง การที่ปกปิดชื่อ โรงพยาบาล ต้นเรื่อง มันไม่ช่วยให้เกิดประโยชน์กับคนที่เข้ามาอ่านเลยครับ และอยากจะเพิ่มเติมเล็กน้อยว่า... เจอแบบนี้ผมคงย้ายโรงพยาบาลไปตั้งแต่วันนั้น แล้วค่อยกลับมาเอาเลือดหัวบุรุษพยาบาลทีหลัง แต่นี่ยังทนอยู่ รอให้ค่อยๆสอบสวน พิลึกมาก จากคุณ : แมงแกลบ เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 00:31:44

ความคิดเห็นที่ 105 ความคิดเห็นที่ 104 เท่าที่อ่านมาคร่าวๆ เพราะยาวมาก ผมไม่เห็นชื่อโรงพยาบาลนะ เห็นแค่ชื่อหมอ.. บางท่าน ถ้าเป็นเรื่องจริง การที่ปกปิดชื่อ โรงพยาบาล ต้นเรื่อง มันไม่ช่วยให้เกิดประโยชน์กับคนที่เข้ามาอ่านเลยครับ และอยากจะเพิ่มเติมเล็กน้อยว่า... เจอแบบนี้ผมคงย้ายโรงพยาบาลไปตั้งแต่วันนั้น แล้วค่อยกลับมาเอาเลือดหัวบุรุษพยาบาลทีหลัง แต่นี่ยังทนอยู่ รอให้ค่อยๆสอบสวน พิลึกมาก จากคุณ : แมงแกลบ เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 00:31:44 ^ ^ ^ ^ เพราะคุณอ่านคร่าวๆ นั่นคือสาเหตุว่าทำไมคุณถึงได้มีความคิดเช่นนี้..............ถ้าคุณย้อนกลับไปอ่านให้ละเอียด คุณจะเข้าใจอะไรมากขึ้น................และคงไม่คิดว่าดิฉันพิลึก อย่างที่คุณคิดหรอกนะคะ..............การตัดสินใจของดิฉันอาจจะไม่ตรงใจคุณ หรือใครบางคน..............แต่ดิฉันก็มีเหตุและผลในการตัดสินใจของดิฉัน.................เพียงแต่ว่าการอ่านคร่าวๆของคุณ มันคงผ่านเลยเหตุและผลเหล่านั้นจนหมด ดิฉันเอ่ยชื่อโรงพยาบาล หลายครั้งมาก..................ทั้งยัง Gopy จดหมายที่ส่งถึงท่านผู้อำนวยการ มีชื่อท่าน ชื่อโรงพยาบาล และชื่อคุณหมอเจ้าของไข้เสร็จสรรพ...........มาลงไว้ด้วย...........แสดงให้เห็นว่าคุณตัดสินคน ............จากข้อมูลคร่าวๆ ของคุณได้จริงๆ ดิฉันเคารพความคิดเห็นของทุกคน ทั้งคนที่เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย.............แม้แต่คนที่คิดว่าดิฉันแต่งเรื่องมาโพสเป็นคุ้งเป็นแคว เพราะถือว่าแต่ละคนใช้วิจารณญาณของตนเองในการเลือกที่จะเชื่อหรือไม่เชื่อ..............บังคับกันไม่ได้ แต่การที่คุณมาตัดสินดิฉัน เพียงเพราะคุณอ่านคร่าวๆ แม้กระทั่งชื่อโรงพยาบาล ที่มีการกล่าวถึงหลายครั้ง..............อีกทั้งคนที่เข้ามาโพสหลายๆ #คคห. ก็เอ่ยชื่อโรงพยาบาลเช่นกัน..............ดิฉันขอไม่เคารพความคิดเห็นของคุณนะคะ จากคุณ : ลูกสาวผู้ป่วย เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 00:47:10 A:58.136.98.82 X: TicketID:162223

ความคิดเห็นที่ 106 อ่านจบแล้วเศร้าใจจัง เดี๋ยวนี้จิตใจคนทำด้วยอะไร ถ้าผู้ช่วยพยาบาลคนนั้นไม่พร้อมจะทำงานแบบนี้ก็ไปทำอาชีพอื่นสิ หรือทำงานนี้เพราะไม่มีที่ไป ของเราเคยไปเฝ้าไข้ย่าต้องนอน รพ เพราะท้องร่วงรุนแรง ถ่ายเหลววันละหลายสิบรอบ เราเห็นน้องเนอสเอส ที่ดูแลผู้ป่วยเช็ดแล้วไม่สะอาดเลย เราขอทำเองตลอดสัปดาห์ ขอเช็ดตัวให้ย่าเองคนเดียว เพราะเข็ดค่ะ ครั้งที่แล้วย่าไปนอน รพ หนึ่งสัปดาห์ก็ได้ ผื่นปื้นใหญ่ใต้ราวนม ที่เกิดจากการเช็ดตัวไม่แห้ง  แล้วก็ได้เชื้อราอับชื้นที่อวัยวะสืบพันธุ์ ต้องกลับมาทายาแก้กันเอง ครั้งนี้ทำเองหมด เหนื่อยหน่อยแต่สบายใจ หายห่วง รพ ที่ว่าเอกชนค่ะ สัปดาห์นึง รวมเบ็ดเสร็จ จากการป่วยด้วยท้องร่วง ติดเชื้อซัลโมเนลล่า หมดไปนับหนึ่งของหกหลักพอดี ปล ย่าเป็นอัมพาตครึ่งซีกค่ะ พูดก็ไม่ได้อีกด้วย ย้ายวอร์ดแล้ว และดูว่า ท่าน ผอ ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจพยายามจะช่วยสืบหาข้อเท็จจริงให้  ผอ คงมีภาระงานไม่น้อย ก็อย่าให้ปลาเน่าตัวเดียว ทำให้ปลาดีพลอยเน่าไปด้วยเลยค่ะ   ดูๆแล้ว รพ นี้มีคนดีมากกว่าคนไม่ดีนะคะ แก้ไขเมื่อ 18 มี.ค. 54 00:54:19 จากคุณ : watree เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 00:53:01

ความคิดเห็นที่ 107 .........ต่อนะคะ..............นอนไม่หลับค่ะ สาเหตุที่ดิฉันยังไม่ย้ายโรงพยาบาล...........ทั้งๆที่ตอนแรกร้อนรนมาก จะย้ายท่านไปโรงพยาบาลเอกชน...............ยอมเสียค่าใช้จ่ายที่แพงกว่าเพื่อแลกกับการบริการที่ดีกว่า แต่หลังจากที่ได้คุยกับคุณหมอเจ้าของไข้และได้คุยกับท่านผู้อำนวยการแล้ว (รายละเอียดการพูดคุยกับคุณหมอเจ้าของใคร และกับท่านผู้อำนวยการ ใน#คคห.บนๆ มีมากพอ.........ถ้าบางท่านไม่อ่านแบบคร่าวๆมากเกินไป ก็คงจะพอเข้าใจว่าทำไมดิฉันตัดสินใจอย่างนี้ ) ดิฉันก็เลยเปลี่ยนใจยังไม่ย้ายโรงพยาบาล.............ประกอบกันการที่คุณพ่อได้ย้ายไปอยู่ชั้นอื่น...........ก็ทำให้หายหวาดระแวงได้บ้าง................และการที่ทางผู้อำนวยการท่านแสดงความจริงจังในการดำเนินการสอบสวน............. ดิฉันจึงพอจะมั่นใจได้ว่า อย่างน้อยทั้งคุณหมอเจ้าของไข้ และท่านผู้อำนวยการ คงจะกำชับให้เจ้าหน้าที่พยาบาลที่วอร์ดใหม่ดูแลคุณพ่อให้ดีขึ้น ดิฉันยังเชื่อว่า............โรงพยาบาลนี้ หรือแม้แต่โรงพยาบาลอื่นๆ ยังมีบุคคลากรที่ดี ที่ทำงานด้วยใจ มีความอดทน อดกลั้น และเข้าใจธรรมชาติของผู้ป่วย ..รับมือกับผู้ป่วยได้อย่างถูกวิธี..........มากกว่าคนที่ไร้คุณธรรม จิตใจหยาบกระด้าง............... เป็นความโชคร้ายที่คุณพ่อได้เจอกับเจ้าหน้าที่คนนี้...............แต่ในความโชคร้าย ก็อาจจะเจอความโชคดีก็ได้................ถ้าคนใจร้ายคนนี้ จะไม่สามารถกลับมาทำร้ายคุณพ่อหรือคนป่วยคนอื่นๆได้ต่อไปในอนาคต แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น.........ก็ขึ้นอยูกับผลการสอบสวน ถ้าน้ำหนักความน่าเชื่อถือจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับคุณพ่อต่อทีมสอบสวน มีไม่เพียงพอ..............เขาคนนี้ก็คงจะอยู่ที่นี่อีกต่อไป จากคุณ : ลูกสาวผู้ป่วย เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 01:29:51 A:58.136.98.82 X: TicketID:162223

ความคิดเห็นที่ 108 มาต่ออีกครั้ง..................พยายามข่มตานอน แต่นอนไม่หลับจริงๆ นึกถึงภาพดวงตาคุณพ่อที่ปูดบวม นัยตาขาวเป็นสีแดงก่ำช้ำเลือดไปหมด.....ส่วนคออีกด้านก็บวมช้ำ เปลี่ยนจากสีม่วงเป็นสีดำคล้ำปื้นใหญ่มาก ตามแขนท่านก็มีรอยเขียวช้ำ แถมมีหนังถลอกปอกเปิดเป็นดวงใหญ่ด้วย..........ที่เสื้อและผ้าห่ม ก็มีหยดเลือดดวงใหญ่ๆ อยู่หลายดวง...........ยิ่งคิดก็ยิ่งสงสารท่าน............ประกอบกับคำบอกเล่าเพิ่มเติมจากคุณลุงข้างเตียง ยิ่งทำให้คิดว่าคุณพ่อจะเจ็บปวดทรมานแค่ใหน ....ทั้งจากแผลผ่าตัด ทั้งจากการถูกทำร้ายหนักขนาดนี้............. จากสภาพความบอบช้ำ.............ไม่สามารถเชื่อได้เลยว่า ท่านล้มฟาดขอบเตียงตามที่ชายคนนั้นกล่าวอ้าง ตอนนี้ดิฉันอยากโพสภาพ แชร์ให้ดูกันบ้าง.................ถ้าสมาชิกท่านใหน อาสาจะโพสภาพให้ ............พรุ่งนี้จะส่ง email ไปให้ค่ะ แต่คงเลือกภาพที่ไม่เห็นใบหน้าท่านเต็มๆ .....อยากกันความเป็นส่วนตัวไว้ให้ท่านบ้าง ขอกลับไปพยายามข่มตานอนต่อนะคะ.........................ขอบคุณสำหรับกำลังใจจากหลายๆท่าน จากคุณ : ลูกสาวผู้ป่วย เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 02:04:19 A:58.136.98.82 X: TicketID:162223

ความคิดเห็นที่ 109 เป็นกำลังใจให้ จขกท ครับ  อยากให้โพสภาพ ส่งมาอีเมล์ naytoi@hotmail.com ครับเด๋วโพสให้ จากคุณ : naytee เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 02:17:18

ความคิดเห็นที่ 110 สู้นะคะอย่ายอม จากคุณ : W.D.K เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 02:19:33

ความคิดเห็นที่ 111 สู้ ๆ ครับ ถ้าเป็นผม จะลองปรึกษาเพื่อน ๆ ดู ว่าบ้านมีเส้นสาย และให้เค้าช่วยเดินเรื่องให้หน่อย เพราะถ้าเป็นผม คงไม่อยู่เฉยเหมือนกัน (ถ้าย้ายรพ.แล้ว คงตามเก็บย้อนหลังแน่) ถ้าโพสถ์รูปไม่ได้ยังไง ส่งเข้าเมลล์ผมได้นะครับ ait.chivas156@hotmail.com จากคุณ : Aitty.156 เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 06:48:29

ความคิดเห็นที่ 112 ...............มาต่อค่ะ..............ก่อนที่จะไปเยี่ยมคุณพ่ออีก ทั้งง่วง ทั้งเพลีย...........เพราะนอนไม่ค่อยหลับ...........ยังหวาดระแวงว่า เจ้าหน้าที่คนนั้น........จะโกรธแค้นที่เรื่องถึงผู้อำนวยการ ...........แล้วหาโอกาสไปทำร้ายคุณพ่ออีกหรือเปล่า............(ถึงแม้จะย้ายวอร์ดแล้ว)................จนเกิดความสับสน ว่าจะย้ายโรงพยาบาลเลยดีหรือไม่...............ใจหนึงก็เชื่อมั่นในตัวคุณหมอที่ผ่าตัดคุณพ่อ ว่าจะรักษาคุณพ่อให้หายดีได้..............และเชื่อว่าทางผู้อำนวยการคงกำชับให้มีการดูแลคุณพ่อให้ดีขึ้น ขอบคุณ คุณ naytee และคุณ Aitty.156 ที่อาสาจะช่วยโพสภาพให้นะคะ..............ดิฉันขอเวลารวบรวมภาพ แล้วจะ email ไปให้นะคะ อยากที่แจ้งไว้ก่อนหน้านะว่าไม่อยากให้เห็นใบหน้าเต็มๆเลยทีเดียว เพราะอยากกันความเป็นส่วนตัวไว้ให้ท่านบ้าง...............อีกอย่างคนเราก็คิดเห็นไม่เหมือนกัน เปิดเผยหน้าท่านมากไป อาจจะไม่ดีต่อตัวท่านเองด้วย..............แต่มีภาพในมุมที่เห็นร่องรอยบวมช้ำได้ชัดเจน หลายภาพ ส่วนนัยตาขาวที่เปลี่ยนเป็นสีช้ำเลือดแดงก่ำ ถ่ายภาพจะไม่เห็นเข้าไปในตาท่าน เพราะเปลือกตาบวมปิดไว้.....นอกจะต้องดึงเปลือกตาดู ดิฉันจะส่งภาพเข้า email คุณ naytee ก็แล้วกันนะคะ เพราะโพสเข้ามาก่อน............ขอเวลาอีกซักพักนะคะ จากคุณ : ลูกสาวผู้ป่วย เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 08:27:04 A:58.136.98.82 X: TicketID:162223

ความคิดเห็นที่ 113 ขอให้กำลังใจสู้เพื่อความถูกต้องนะคะ เอ้อ อ ขอสักนิดเถอะค่ะ อดไม่ไหว คุณหมอก้อน....ข..า คุณลุงเป็นคนปั้น้รื่อง แล้วคุณลุงเตียงข้างๆ ก็ช่วยกันปั้นเรื่องผสมกันเข้าไปหรือคะ เค้ายังจะมีช่วงเวลาปรึกษาปั้นเรื่องกันเนาะ จากคุณ : สีเบจ เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 10:58:34

ความคิดเห็นที่ 114 ขอให้ทุกอย่างกระจ่างโดยเร็ว ถ้าเขาผิดจริงขอให้ได้รับการลงโทษที่สมควร แต่จากคห.75 จขกท. ว่าไว้อย่างไร ลุงปากโป้งคนนั้นก็ยังนอนลุ้นชะตากรรม อยู่ที่เดิม ในขณะที่พ่อของจขกท.ย้ายชั้นแล้ว ขอโทษที่ยังจิกกัดเรื่องนี้ แต่รู้สัก ไม่ดี ถ้าเราจะช่วยใครสักคนแต่ได้รับผลร้าย ก็ไม่อยากมีใครช่วยใครอีก จากคุณ : โอเคนะ เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 11:13:45 A:110.168.129.154 X: TicketID:183315