มันเป็นระบบที่ถูกกำหนดขึ้นมาโดยสปสช. ครับ มีรายละเอียดคร่าวๆคือ
1.น่าจะมีหลักการมาจากให้คนไข้พยายามรักษาใกล้บ้าน เพราะรัฐเชื่อว่ากระจายผู้เชี่ยวชาญไปไว้ที่โรงพยาบาลใกล้บ้านแล้ว จะได้ไม่ไปแน่นกันอยู่แต่ในโรงพยาบาลใหญ่ตามความเชื่อของคนไข้ ถ้าต้องการรักษาฟรี
2.เหตุที่เขียนใบส่งตัวยาก เพราะการเขียนใบส่งตัวไม่ใช่แปลว่าโรงพยาบาลเสียแค่ค่ากระดาษ 1 ใบ แต่มันคือหนังสือสัญญา หมายถึงว่าเมื่อคนไข้ไม่ต้องจ่าย โรงพยาบาลที่เขียนใบส่งตัวจะจ่ายเงินทดแทนให้ทั้งหมด ดังนั้นใบส่งตัว 1 ใบ อาจมีราคาหลายล้านบาท ไม่ใช่กระดาษ 1 แผ่นเท่านั้น
3.เงินที่โรงพยาบาลจะตามจ่ายแทนคุณมาจากไหน มาจากค่าใช้จ่ายรายหัวของประชากรที่รัฐจัดสรรให้ในแต่ละปี ซึ่งลงไปถึงแต่ละโรงพยาบาลไม่มากนักตามจำนวนประชากรในเขต ประมาณพันบาทต่อหัว ดังนั้นถ้าค่ารักษาคุณล้านกว่าบาท ส่วนที่เกินจากหนึ่งพัน คืออีก 9 แสนกว่าบาทก็ต้องเอาค่ารายหัวการรักษาของเพื่อนบ้านรอบๆคุณมาใช้ ดังนั้นถ้าโรงพยาบาลไม่ดูแลตามความจำเป็นให้ดี ปล่อยให้ไปรักษาที่ไหนตามใจ เขียนใบส่งตัวพร่ำเพรื่อจะทำให้ประชากรที่เหลือที่เป็นเพื่อนบ้านคุณลำบาก หรือถ้าเพื่อนบ้านคุณทำแล้วหมอไม่ดูแล เงินของครอบครัวคุณก็จะถูกเพื่อนบ้านเอาไปใช้
4.ระบบนี้ถูกต้องไหม ไม่มีใครรู้ เพราะทำให้หมอต้องเผชิญหน้ากับคนไข้ หมอเองก็เบื่อ โดยที่ตัวหมอเองก็ไม่ได้ผลประโยชน์อะไร เงินเดือนก็เท่าเดิม ยังต้องมายุ่งกับระบบบริหารการเงิน ไม่เข้มงวดคนส่วนใหญ่ในเขตก็จะเดือดร้อน เข้มงวดก็ถูกด่าว่าแค่เขียนกระดาษใบเดียว จะอะไรกันนักกันหนา คนที่ออกกฏนั่งกระดิกนิ้วเท้าจิบกาแฟอยู่ในห้องแอร์สบายๆ ดังนั้นโรงพยาบาลหลายแห่งจึงอยู่ในสถานะใกล้จะล้มละลาย ติดหนี้บริษัทยากันเป็นร้อยล้าน..
ขณะทีคุณหงุดหงิด หมอเองก็หงุดหงิด ไม่ชอบระบบเช่นนี้เช่นกัน เพราะการไปรักษาคนที่ไม่อยากให้รักษามันยาก หมอเองก็อยากส่งตัว แต่กฏมันไม่ให้
คิดเสียว่า เหมือนมีงานบุญที่บ้านเพื่อน เขาจัดอาหารเลี้ยงฟรี คุณเดินเข้าไปเห็นว่าอาหารไม่อร่อย ไม่ถูกปากคุณ อยากจะไปสั่งกินเองที่ร้านอาหาร ก็อย่าถึงขนาดไปบังคับเจ้าของบ้านที่จัดเลี้ยงอาหารไปตามจ่ายค่าอาหารให้คุณที่ร้านที่คุณชอบเลยครับ เอาเป็นว่าถ้าคุณจะกินฟรีก็กินตามที่เขาจัดไว้ แต่ถ้าคุณจะไปร้านที่ชอบก็จ่ายเงินเองเถอะครับ เพราะการไปบังคบจะเอาใบส่งตัวให้ได้ ก็เหมือนไปยืนชี้หน้าด่าคนที่จัดอาหารฟรีไว้ให้ว่าอาหารห่วยกินไม่ลง แล้วยังบังคับให้เขาตามไปจ่ายตังค์ให้อีก เห็นใจคนจัดเลี้ยงบ้าง...
ส่วนที่คุณหมอหมูว่า ส่งตามขั้นตอนค่าใช้จ่ายจะไปอยู่กับสปสช.น่ะ ไม่จริงทั้งหมดนะครับ ถ้าส่งตัว..โรงพยาบาลเอาเงินรายหัวมาจ่ายให้โรงเรียนแพทย์...ถ้ารักษาเองเป็นคนไข้ในของโรงพยาบาลจะเรียกเก็บเพิ่มได้ตามค่าใช้จ่ายในแต่ละโรค (DRG)...ที่ส่งตัวจะเรียกเก็บจากสปสช.โดยตรงมี่ไม่กี่โรค ที่เรียกว่ากลุ่ม High Cost Care ครับ
ถ้าส่งไปโรงพยาบาลของกระทรวงสาธารณสุข โรงพยาบาลปลายทางจะเรียกเก็บมาทางสปสช.เขตของโรงพยาบาลนั้นตามค่า DRG แล้วก็พอ ไม่ใช่ไม่ต้องตามจ่าย แต่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยมักจะเรียกค่ารักษาแพงและไม่เรียกเก็บมาทางสปสช.เพราะไม่อยู่ในระบบ แต่จะเรียกเก็บจากโรงพยาบาลโดยตรง
พอใจหรือไม่พอใจอะไรในระบบอย่าลืมแผ่ส่วนกุศล หรือสาบแช่งก็ตามใจคุณไปที่ผู้คิดระบบที่ตายไปแล้วก็มี กระดิกเท้าอยู่ในห้องแอร์ก็มีกินเงินเดือนหลายแสน เบี้ยประชุมงาม อย่าไปทะเลาะกับหมอที่เขาต้องทำตามคำสั่งเลยครับ หมอก็เบื่อเหมือนกัน ใจจริงถ้าระบบไม่บังคับ หมอเขาไม่เห็นกับการต้องพยายามบริหารเงินให้ชุมชนอยู่รอด เขาคงรีบเขียนให้โดยเร็วครับ ทุกวันนี้คนไข้ก็ล้นมือหมออยู่แล้ว ไม่มีใครอยากได้คนไข้เพิ่ม ถ้าระบบไม่บังคับผมว่าคงมีบางโรงพยาบาลตั้งโต๊ะให้เจ้าหน้าที่มารอเขียน ใครต้องการไปรักษาโรงพยาบาลอื่นมาเอาใบส่งตัวเลยครับ ไม่ต้องรอพบแพทย์ คนไข้ยิ่งน้อยเท่าไหร่ยิ่งสบายครับ เงินเดือนก็เท่าเดิม
แก้ไขเมื่อ 22 มี.ค. 54 07:51:43
แก้ไขเมื่อ 22 มี.ค. 54 07:16:10
แก้ไขเมื่อ 22 มี.ค. 54 07:06:15
แก้ไขเมื่อ 22 มี.ค. 54 06:58:51