ของเรา เรียนจบ มีหน้าที่ การงานดี ไม่เคยทำตัวเหลวไหล
เป็นพี่สาว ในบรรดา ลูกสาวทั้งหมด 3 คน
อ่านของแต่ละคนมา ตรงใจเรามากๆ เลยค่ะ แต่ของเราขอเพิ่มเรื่องการกำหนดเส้นทางชีวิตลูกนะคะ
เราต้องทนเรียน ในคณะที่ไม่อยากเรียน แต่แม่เราบังคับ (จากชื่อเรา คงเดาออกนะคะ เราเป็นเภสัชกรค่ะ )
ก็โอเค เราสอบได้ เรียนให้ จนจบออกมา เราเลือกทำงานที่อยากทำ รายได้ดี และเป็นงานที่เรารัก (ไม่ใช่ sale นะคะ เราทำงานร้านยา) เรามีความสุขมากกกกก
แต่แม่อยากให้เราทำงาน รพ. ซึ่งเป็นงานที่เราไม่ชอบ
แม่กลับด่าว่า "เราโง่ และเลวยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉาน" ... เราอึ้งกับคำคำนี้มากเลยค่ะ
เราเริ่มทำงานทันทีหลังเรียนจบ แต่หลังจากนั้นไม่กี่เดือน แม่ก็ไปคุยกับคนอื่นไว้ทั่ว ว่าจะให้เราทำงาน รพ. ให้ได้ พอเราไม่ไป แม่เลยด่าเราอย่างที่บอกค่ะ
เราเสียใจมาก T^T
ถามท่านว่า "ระหว่างที่เราเป็นลูก ความสุขของลูก กับหน้าตาของแม่ที่ไปคุยกับคนอื่นไว้ทั่ว แม่จะเลือกอะไร"
แม่ตอบเราอย่างไม่ต้องคิดเลยค่ะว่า
"แม่ไม่สนว่าเราจะมีความสุขในงาน รพ. มั้ย ต่อให้ไม่มีความสุข ก็ต้องทนๆ ทำไป จะทำให้แม่เสียหน้าไม่ได้"
เราไม่เข้าใจว่า เราทำผิดตรงไหน ที่เราเลือกทำงานในสิ่งที่เรารู้ว่าตัวเองเหมาะ และถนัด เราไม่ชอบงาน รพ. จริงๆ (ฝึกงานสมัยเรียน เราร้องไห้ทุกวัน คือมันไม่ชอบมากๆ )
เราเลยออกจากบ้านมาอยู่คนเดียว ...ปีนึงแล้วค่ะ T^T
แต่เรารักพ่อนะคะ พ่อดีกับเราเสมอ แต่พ่อเป็นคนกลาง จะทำอะไรได้คะ ? ... ทุกวันนี้เราสงสารพ่อมากๆ
........... นอกจากนี้ แม่ยังเป็นโรคบ้าช้อปปิ้ง เชื่อมั้ยคะ ว่าเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า ของแม่เยอะมากกกก เอาง่ายๆ ว่า ถ้าเอามากองรวมกันซ้อนๆ มันสูงกว่าบ้านสองชั้นอีกค่ะ
พอเราเตือนแม่ แม่ก็บอกว่า มันเป็นเงินเค้า เค้าหาเงินเองได้ -- ก็เดือนละสาม สี่หมื่น
แต่ขอโทษเถอะค่ะ เวลาไปช้อปปิ้งแต่ละครั้ง เท่าที่เราเห็น เงินพ่อเราทั้งนั้น พ่อเราต้องทำงานหนัก เปิดคลินิคด้วย ทำงาน รพ. ด้วย ตั้งแต่ 7:00-20:00 น. บางครั้งหมุนเงินไม่ทัน ต้องมาขอเงินที่เราเอาไปให้แม่ช้อปปิ้ง แต่ห้ามบอกแม่ ว่าพ่อมาขอเงินที่เรา
แล้วแม่ก็ชอบมาพูดจาแดกดัน ว่าพ่อฟุ่มเฟือย แค่พ่อเราซื้อมอไซค์มาไว้ขี่ไปทำงาน แทนที่จะขับรถยนต์ เพราะมันเปลืองน้ำมัน หรือการที่พ่อเรานานๆๆๆๆๆ มาก จะซื้อหาเทคโนโลยีต่างๆ มาตอบสนองความสุขให้ตัวเองบ้าง ซึ่งเราก็เห็นว่าพ่อใช้มันคุ้มจริงๆ
แตกต่างจากแม่ ที่ซื้อเสื้อผ้า กระเป๋ารองเท้ามา ทุกอาทิตย์ (ครั้งละเป็นหมื่นทุกอาทิตย์) แล้วไม่ได้ใส่ กองไว้จนบ้านไม่มีทางเดิน ย้ำ!!! ไม่มีแม้กระทั่งทางเดินค่ะ เข้าบ้านที ต้องแหวกๆ ของออก เพื่อที่จะให้เท้าสัมผัสพื้นบ้าง เกินกว่าครึ่ง... ป้ายยังไม่ได้แกะออกจากสินค้าเลยค่ะ -*-
ทั้งๆ ที่พ่อทำงานหนัก แทบไม่ได้พักผ่อน หาเงินมาให้แม่เราผลาญ โดยแม่ไม่เคยมองดูตัวเองเลยว่า ที่บ้านเราเป็นแบบนี้ ก็เพราะแม่คนเดียวทั้งนั้น T^T
แม่ไม่เคยฟังใครทั้งนั้น ใครเตือน ลูกเตือน พ่อเตือน ก็จะโดนด่า โดนว่าไปตามๆ กัน
หรือเพียงแค่การขับรถ แล้วหาที่จอดรถไม่ได้ ก็ไปว่าคนที่เค้าจอดรถอยู่ก่อนแล้วว่า "here บ้าง น่าจะตายๆ ไปให้หมด ไอ้พวกนี้ จะจอดซื้อของอะไรกันนักหนา"
หรือการที่ขับรถไป แล้วเจอคนขี่มอ'ไซค์ ตอนกลางคืน ย้อนศร (น่าจะเป็นชาวบ้านแถวๆ นั้นค่ะ) แต่ขอย้ำว่าถนนกว้างมากกกก แถวนั้นก็เป็นหมู่บ้านด้วย ไม่แปลกที่ชาวบ้านจะขี่รถย้อนศร แค่ไม่ถึง 20 เมตร เพราะที่กลับรถมันไกล
เราก็อธิบายแม่ไป
แต่แม่บอกว่า "พวกนี้น่าจะตายๆ ไปซะ มันน่าขับชนให้กระเด็นนัก"
โอ้ยยยยยยยยย .... เยอะแยะมากค่ะ ปรามก็แล้ว เตือนก็แล้ว ว่าหัดใจเขาใจเราบ้าง ทำไมจะต้องคอยว่าคนอื่นตลอด ทำยังกัยตัวเองดีสูงส่งยังงั้นแหล่ะ แม่ก็หาว่าเราย้อน เถียงพ่อเถียงแม่ เลวยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉานมั่งแหล่ะ
มันเลยเป็นเหตุผลที่ทำให้เราออกมาอยู่คนเดียว ก่อนที่จะประสาทเสียไปมากกว่านี้ (แต่เราก็สงสารพ่อค่ะ ที่ต้องทนอยู่กับแม่ ใจเราอยากให้พ่อเลิกกับแม่ไปด้วยซ้ำ!!! )
เฮ้อ... มีอีกหลายอย่างมากค่ะ แต่อย่าให้พูดไปมากกว่านี้เลย T^T 