คุณคิดอย่างไร กับการกระทำ ที่ผู้หญิงรักผู้ชายคนหนึ่ง และอยากผูกมัดไว้ด้วยการปล่อยท้อง
|
 |
..คนรอบๆๆ ตัวดิฉัน..หลายคน ที่เป็นเพื่อนหญิง....มีแฟน และแฟน ก็มักจะคบ หญิง หลายคนในเวลาเดียวกันบ้าง หรือ คบมานาน ก็ไม่ยอมแต่งซักทีบ้าง...ผู้หญิงที่รักแฟนมาก ก็อยากจะผูกมัดแฟนไว้ กลัวแฟนทิ้ง หรือ กลัวแฟนไปเลือก หญิงอีกคนบ้าง...เลยยอมทุ่มสุดตัว ด้วยการปล่อยท้อง
- บางคนก็ประสบผลสำเร็จ ผู้ชายรับผิดชอบ ดูแลกันไป โชคดีอีกหน่อย เค้าก็รักแม่ด้วย
- บางคนก็ประสบผลสำเร็จ เค้ารับผิดชอบเป็นพ่อ แต่งงานให้ด้วย แต่ไม่รักหญิงคนนั้นจริงๆๆ ลึกๆๆ
- บางคนก็โชคร้าย เอาลูก แต่ไม่เอาแม่ ก็มี
**คิดอย่างไรกันบ้างคะ กับเรื่องนี้ การยอมแลก มันคุ้มจริงหรือคะ กับการได้คนรักมา
** ผู้หญิงอีกคน ที่คบอยู่กับผุ้ชายอีกคน ก็ต้องยอมถอย ยอมเสียใจ ก็มี เพราะเค้าทำผู้หญิงอีกคนท้อง เรื่องแบบนี้ คนรอบตัวดิฉันเป็นกันเยอะมาก มันหดหู่ไงไมรู้ เพื่อนๆๆ คิดยังไงกับเรื่องแบบนี้กันบ้างคะ...
ไปเจอกระทู้นี้ในmthaiเลยอยากแชร์ค่ะ
ถ้าถามเราซึ่งเป็นผู้หญิงวิธีนี้เราไม่เอาเด็ดขาด เกิดเค้าไม่รับขึ้นมา เราคงไม่ไหวค่ะ ทั้งลูก ทั้งตัวเอง วิธีนี้ไม่เอาเด็ดขาด
แต่ก้อยังมีคนใกล้ตัวบางคนบอกว่ามันคุ้มนะ ถ้าเทียบกับผู้หญิงอีกคนซึ่งไม่ท้องแล้ว ผู้ชายต้องเลือกคนที่ท้องอยู่แล้ว ประมาณว่ามาที่หลังแต่ท้องก่อนเค้าคงได้ผู้ชายแน่นอนอะไรประมาณนี้
แล้วแต่มุมมองนะคะ แต่ถ้าเป็นเราคงไม่เอาชีวิต ไม่เอาอนาคตของลูกเรามาล้อเล่น
แล้วเพื่อนๆล่ะคะ คิดยังไง ช่วงนี้ตั้งกระทู้แบบนี้บ่อยไปนิดเพราะเห็นคนรอบตัวแล้วเหนื่อยใจจริงๆ
เพิ่มอีกนิดค่ะ ไปอ่านเจอมาน่ากลัวมากคนเขียนคิดได้ยังไง
วิธีท้องจับผู้ชาย
(ต่อ )
1. ช่วงแรกๆ เวลามีอะไรด้วยแสดงอาการบ่ายเบี่ยงบ้าง แสดงให้เห็นว่ากลัวพลาดเหมือนกัน กินยาคุมให้เห็น ถามเรื่องโรคติดต่อเช็คความปลอดภัยและป้องกันให้รู้ว่ากลัว เพื่อให้ผู้ชายตายใจและรู้สึกว่าเป็นฝ่ายไล่ล่า
2. ต่อมากินยาเร่งและบำรุงการตกไข่ (เพิ่มโอกาสในการท้อง) ระยะที่จะมีโอกาสท้องได้มีแค่ 5-6 วันต่อเดือน ซึ่งสามารถใช้เครื่องมือวัดความพร้อมในการตั้งครรภ์และกำหนดวันที่ตั้งใจให้ พลาดไว้เพื่อเป็นวันที่นัดเจอกันเพื่อมีกิจกรรม (ใช้เวลาควงอยู่สักพักเพื่อให้ความต้องการไล่ล่าของผู้ชายถึงจุดที่ไม่ สามารถควบคุมสติได้ เพื่อให้แน่ใจว่าฝ่ายชายจะโทษตัวเองว่าเป็นฝ่ายรุก หลังจากมีอะไรกันด้วยครั้งแรก จะใช้เวลาในเดือนที่ 2-3 เป็นต้นไปเป็นเดือนแห่งเป้าหมายในการท้อง เนื่องจากฝ่ายชายเริ่มตายใจเรื่องความปลอดภัยและยังเห่อ โอกาสที่ผู้ชายจะเบื่อและทิ้งหลังจากมีอะไรด้วยแล้ว ไม่เกิน 5-8 เดือน ระยะที่ตั้งเป้าหมายในการท้องนี้จะเป็นช่วงที่ชวนไปต่างจังหวัดหรือเริ่มใจ อ่อนยอมไปค้างด้วย เนื่องจากมีโอกาสที่จะใกล้ชิดและเกิดอารมณ์และปฏิบัติกิจกรรมถี่ขึ้น ความถี่มากเท่าไหร่ก็มีโอกาสสูงมากเท่านั้นและเป็นเหตุให้ไม่พกถุงไปด้วย ไม่ได้เตรียมการ ความถี่ในกิจกรรมจนถุงที่เตรียมมาหมด ที่เอามาก็แอบเจาะรูแล้วเอาวางไว้ให้ผู้ชายเป็นฝ่ายหยิบใช้เอง
4. ช่วงระยะเป้าหมายเพิ่มตัวเร้าโดยชวนจิบเบียร์หรือเครื่องดื่มเอลกอฮอล์ล เพื่อช่วยให้ลืมตัว เบลอๆ ง่ายต่อการความคุมสติได้ไม่เต็มที่ จนนำไปสู่โอกาสในการลืมป้องกัน หรือควบคุมตัวเองได้ไม่เต็มร้อย
5. รอดูผลงานสองอาทิตย์หลังจากวันเป้าหมาย ผู้ที่มีประสบการณ์แล้ว (ทำมาหลายครั้ง) จะเริ่มรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนตัวเองได้ภายในระยะเวลาเพียง 2 สัปดาห์เป็นต้นไปว่าติดหรือไม่ โดยสามารถซื้อเครื่องตรวจการตั้งครรภ์มาตรวจ เมื่อให้รู้ผล ช่วงนี้พยายามเลี่ยงการมีกิจกรรมเพราะจะกระทบกระเทือนต่อไข่ที่กำลังติด ต้องพักฟื้นให้อยู่ดีที่สุด ช่วงนี้ออกไปเจอบ้างเป็นปรกติ ไม่ต้องพูดอะไรมาก เป็นช่วงที่อาจแสดงว่าไม่ค่อยสบายนัก หรืองานเยอะ เพื่อเลี่ยงที่จะมีอะไรด้วย และมีได้ไม่บ่อยหรือถี่เท่าช่วงที่กำหนดวันเป้าหมาย (ในการณีที่ไม่ติด ก็จะทำให้ผู้ชายต้องทนรอไปจนครบช่วงไข่ตกในรอบถัดไป ก็ทำซ้ำอีก)
6. เมื่อตรวจรู้ว่าท้องแล้ว รอให้ผ่านไปได้สัก 1 เดือนกับอีกสองอาทิตย์ ค่อยบอกผู้ชายว่า ประจำเดือนไม่มาสองอาทิตย์แล้ว ประโยคสุดฮิตคือ แย่แล้ว เมนส์ไม่มาสองอาทิตย์แล้ว ไม่รู้เป็นไรหรือเปล่า ทำยังไงดี(เวลาสองสัปดาห์เป็นช่วงระยะที่ทำให้ดูเนียนว่าเป็นคนไม่ได้ไส่ใจ ไม่รู้เรื่อง ไม่ได้สังเกต ทำให้ล่วงเลยมาประมาณสองอาทิตย์ซึ่งฮิตที่สุด) บางเคสจะรอจน 2-3 เดือนแล้วค่อยบอก เพราะกว่าผู้ชายจะใช้เวลาในการตัดสินใจเด็กก็โตเกินไปที่จะให้กินเบนโลแล้ว
7. น้ำตาทำให้ผู้ชายแพ้ทาง ทำให้รู้สึกว่าเครียด ร้องให้ ไม่รู้จะทำยังไง ไม่ได้อยากมี ไม่ได้พร้อมมากที่จะต้องเป็นแม่คนหรือแต่งงานอะไรทำนองนั้นเลย สร้างความน่าสงสาร ไม่ใช่ความผิดของตน (ตั้งแต่ขั้นตอนแรกที่บอกไว้ ผู้ชายตกหลุมพราง คิดว่าตนเองเป็นฝ่ายรุก เป็นฝ่ายผิดมาตลอด) กรณีที่ผู้ชายมีปัญหาก็ให้ยืนยันว่าจะเลี้ยงไว้เองแต่จะขอแค่ให้ผู้ชายไปให้ พ่อแม่เห็นหน้าว่าเป็นพ่อของเด็กในท้อง มีพ่อเป็นตัวเป็น (ที่เหลือปล่อยเป็นหน้าที่ของพ่อแม่ในการพูด ทำงานเป็นทีม ให้รู้สึกเกรงใจผู้ใหญ่) ซึ่งพ่อแม่จะแสดงออกว่าขอให้รับผิดชอบก็พอ ง่ายๆ ไม่เรื่องมากลูกรักใครก็ตามใจ ไม่ต้องการเงินทองไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงินทอง แถมให้เงินกลับไปเป็นตัวล่อเป็นเงินก้นถุงในการสร้างครอบครัวเพื่อนความ เนียน ถึงตรงนี้ผู้ชายส่วนใหญ่จะเกรงใจและเพิ่มความรับผิดชอบให้ทีละนิดๆ ขอร้องให้พาไปฝากท้องอ้างแค่ไม่ให้อายหมอ มีพ่อเด็กเป็นตัวเป็นตนแค่นั้นพอ ผู้ชายจะก้าวเข้ามามีส่วนร่วมทีละนิด จะเริ่มรู้สึกอินและอยากปกป้อง จนในที่สุดก็ใจอ่อน
8. ช่วงแรกทำตัวดีๆ ให้รู้สึกว่าอยู่ด้วยกันได้ราบรื่น ใช้ความอดทนมากๆ จนท้องเริ่มโต พยายามให้เป็นความเปลี่ยนแปลง ให้สัมผัสท้อง อ้อนเรื่องเล็กๆน้อยๆ ให้ผู้ชายรู้สึกลุกขึ้นมาปกป้องโดยไม่รู้ตัว จนกระทั้งเดือนที่ 7-9 ตอนท้องโตสุดๆ แสดงความอ่อนแอและต้องการคนปกป้องดูแลมากเป็นพิเศษ ให้สัมผัสท้อง ฟังเสียงหัวใจเด็ก สัมผัสลูกดิ้น ผู้ชายจะผูกพัน เพื่อเริ่มแผนต่อไปคือทะเบียนสมรส เมื่อเด็กคลอดมาใหม่ๆ เป็นช่วงเห่อ เริ่มใช้คำว่าเรา ให้เห็นเป็นครอบครัว เป็นทีมเดียวกัน ร่วมคิดและร่วมวางแผนด้วยกัน เกี่ยวกับเอกสารต่างๆของลูก อดทนในเรื่องเงิน ให้ตายใจก่อน
เริ่มแสดงอำนาจ ควบคุมเรื่องเล็กๆน้อยๆ จนสามารถจูงใจให้ทำในสิ่งที่ต้องการได้ทีละนิดๆ จนนำไปสู่การสมัครบัตรเครดิตเสริม อ้างเพื่อใช้จ่ายในการเลี้ยงลูก ทุกอ่างเกี่ยวกับลูก เมื่อผู้ชายรู็สึกอินและรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างเนียนๆ ก็เริ่มเข้าสู่ขั้นตอนการจูงใจให้จดทะเบียนสมรส อ้างเพื่อใช้ในการสมัครเรียน พาไปเที่ยวต่างประเทศ ยุ่งยากในการทำเอกสารรับรองบุตร โยงทุกเหตุผลโดยเล่ากรณีตัวอย่างของเพื่อนที่มีปัญหาเพราะไม่จดทะเบียน ถ้ายังไม่ยอมก็หาเรื่องทะเลาะเล็กๆน้อยๆ แล้วอุ้มลูกกลับบ้านพ่อแม่ตัวเอง ขู่นิดๆให้รู้ เพื่อให้ผู้ชายรู้สึกคิดถึงลูกและโหยหาและกังวลถ้าต้องแยกจากล฿ก กรณีได้ผลเสมอ จนผู้ชายต้องหาวิธีผูกมัดแสดงความเป็นเจ้าของลูกอย่างสมบูรณ์
10. ระยะเวลาที่จะหลอกล่อผู้ชายดีๆได้ก็ประมาณ 2 ปีจนลูกเริ่มเข้าโรงเรียนต่างๆได้ ผู้ชายจะเริ่มมีเวลาว่างมองหาสิ่งที่ขาดหายไปจากชีวิตเนืองจากไม่ได้เกิดจากความรักที่แท้จริง จะเริ่มรู้สึกตัวว่าไม่ได้เป็นฝ่ายเลือก เร่ิมสงสัยว่าตัวเองตกกระไดพลอยโจน แค่ถูงดึงสัญชาติญาณความเป็นผู้ชายออกมา (เซ็กนั่นเอง) ถึงตอนนี้ ทางที่ดีที่สุดควรลุกขึ้นมาปรับปรุงกิจกรรมรักและโมลตัวเองใหม่ แต่งตัวให้เซ้กซี่ ชวนกันไปเที่ยวใกลๆ สร้างเวลาที่คบหากันเหมือนคู่รักทั่วไป (เพราะไม่มีโอกาสได้ทำกิจกรรมนี้) ต้องสร้างช่วงเวลาดีๆ ก่อนที่ผู้ชายจะใหวตัวไปมีกิ๊กหรือไปเจอคนที่ถูกใจ ตอนไปเที่ยวก็วางแผนมีลูกอีกคนโดยไม่ให้รู้ตัว แบบเดิม ให้เซอร์ไพร้ซ์อีกครั้งเพื่อดึงเวลาออกไปได้อีก 2-3 ปี และเพิ่มความสมจริงแนบแน่นจนไปใหนไม่รอดในที่สุด
กรณีที่ผู้ชายมารู้ตัวทีหลังว่าหลงกลและหาเรื่องเลิกต้องพยายามเอาลูกมาเป็นข้อต่อรองให้ได้
ปล. วิธีนี้ใช้ได้ผลมาแล้ว ตั้งแต่ทหาร ตำรวจ หมอ ทายาทเศรษฐี ดารา นักร้อง แต่มีบางเคสไม่สำเร็จ ต้องเลี้ยงลูกไปคนเดียวแต่ก็สามารถเอาเด็กมาต่อรองได้อีกในอนาคตเนื่องจากสายเลือดตัดกันไม่ขาด ยังไงตอนโตก็ต้องยอมส่งเสียเลี้ยงดู แต่ก็มีอีกหลายๆคนที่ต้องจบลงด้วยการทำแท้ง ซึ่งเป็นสิ่งไม่ดี ทางที่ดีใช้วิธีโกหกก็ได้ผลเหมือนกัน แต่ต้องแน่ใจว่าไม่ได้เป็นหมัน บอกว่าเมนส์ไม่มาแล้วพาผู้ชายไปซื้อที่ตรวจครรภ์โดยเตรียมไว้ก่อนแล้วสองอัน (จ้างให้คนท้องฉี่ใส่) หลังจากซื้อแล้วเดินเข้าห้องน้ำทันทีให้ผู้ชายยืนรออยู่หน้าห้อง โชว์อันที่เตรียมไว้ให้เห็นกับตาว่าท้อง (ทำอีกทีที่บ้านตอนอยู่ด้วยกัน) พอเค้ารับ พาไปหาพ่อแม่ตามขั้นตอนที่ 7 เมื่อผ่านพิธีการแต่งเรียบร้อยแล้วก็ ใช้มุขแท้ง โดยบ่นๆว่าปวดท้องแปลบๆ นอนเยอะๆ บ่นว่าเพลียๆ แล้วเอาเลือดป้ายที่ชุดและเตียงให้เห็นเลอะๆนิดๆ (ให้ผู้ชายเห็นกับตาตอนตื่นนอน จะได้มีความรู้สึกร่วม คือให้ตกใจนิดๆก็พอ เพื่อความเนียนในการโกหก จากนั้นขอไปหาหมอ (ไม่ต้องให้ผู้ชายไป) แล้วกลับมาบอกว่าแท้ง บีบน้ำตาเยอะๆ ซึมให้ได้เป็นเดือนยิ่งดี เล่นละครให้เนียนเข้าไว้
เดี๋ยวนี้มีถึงขนาดนี้แล้วเหรอ เฮ้อ คิดไปได้
แก้ไขเมื่อ 20 เม.ย. 54 03:15:03
| จากคุณ |
:
มารร้ายลูกกวาด  
|
| เขียนเมื่อ |
:
20 เม.ย. 54 02:37:45
|
|
|
| 
