Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
จดหมายจากพี่หมอแก่ๆถึงน้องหมอหนุ่มๆสาว..อย่าใจร้อนกันนักเลยครับ.. ติดต่อทีมงาน

วันนี้ใจหายใจคว่ำกับแพทย์รุ่นน้อง คนไข้จะฟ้องร้อง...จึงอยากยกมาให้เป็นกรณีศึกษา เพราะเชื่อว่าในนี้ก็มีน้องแพทย์พอสมควร

    คนไข้ผู้ชายอายุ 50กว่าปี เป็นคนกรุงเทพ เกิดเจ็บหน้าอกระหว่างไปเที่ยว รู้สึกเจ็บมากไปเข้าแผนกฉุกเฉิน รพ.ชุมชนต่างจังหวัด คนไข้เล่าว่าเจอหมอหนุ่มๆ ตรวจ ECG(คลื่นไฟฟ้าหัวใจ) และเจาะ Labตรวจเลือดแล้วปกติ แต่คนไข้ยืนยันว่ามีประวัติครอบครัวเรื่องโรคหัวใจชัดเจน
    หมอไปเถึยงกับคนไข้ด้วยความมั่นอกมั่นใจ ว่าเป็นโรคกระเพาะ  ไปถามคนไข้แบบเอาเรื่องว่าผล Lab ปกติจะเอายังไงอีก  ไปท้าทายกัน (อันนี้คนไข้เล่ามา)

    สุดท้ายคนไข้ก็โมโหขับรถจากเชียงใหม่มาตรวจซ้ำที่กรุงเทพทันที พบว่าเป็นเส้นเลือดหัวใจอุดตัน กล้ามเนื้อหัวใจตายจริง ผลพึ่งเปลี่ยนแปลงภายหลัง ตรวจครั้งแรกเป็นผลลบลวง ซึ่งเป็นข้อจำกัดของการตรวจ Lab ที่ยังไม่เปลี่ยนแปลง ถ้าการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อหัวใจยังมีน้อย หรือได้รับการตรวจที่เป็นระยะต้นๆ (Too early too detect) ผมก็ได้ทำการขยายหลอดเลือดหัวใจไปให้เรียบร้อยดี

   ผมฟังแล้วก็ได้อธิบายคนไข้ให้ใจเย็นลง เพราะการตรวจก็เป็นไปตามมาตรฐานทุกอย่าง มีอยู่ข้อเดียวคือน้องแพทย์มีความมั่นใจเกินไปกับผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการมากไป อาจจะลืมไปว่ามันมีผลลบลวงซึ่งเป็นธรรมชาติของการตรวจทุกชนิดได้

    การตรวจทุกอย่างทางการแพทย์ เป็นการคาดเดาทั้งสิ้นเพียงแต่การคาดเดาแบบมีหลักการทางวิชาการ เราไม่ได้เป็นผู้สร้างร่างกายของคนไข้ขึ้นมา เราไม่มีทางรู้ทุกซอกทุกมุม เราไม่สามารถถอดร่างกายคนไข้ออกมาดูได้เป็นชิ้นๆ อย่าไปมั่นใจว่าจะต้องถูก 100% จนยึดมั่นถือมั่น ช่างซ่อมรถยนต์ขนาดมีแบบแปลนพร้อมถอดออกมาดูได้เป็นชิ้นๆบางครั้งยังซ่อมไม่ได้เลย

    การรักษาก็เช่นกันเราเพียงแต่รักษาตามหลักสถิติบอกว่า "คนส่วนใหญ่รักษาแบบนี้แล้วดี" ซึ่งแปลได้ในขณะเดียวกันว่า "มีคนส่วนหนึ่งรักษาแบบนี้แล้วอาจจะแย่" อย่าไปยึดมั่นถือมั่น เขาไม่ยอมรักษาแบบที่เราบอกเขาอาจจะถูกก็ได้ แต่ถ้าเขาผิดเขาก็ต้องรับผลของการกระทำเอง

    ร่างกายเป็นสมบัติของคนไข้ ชีวิตเป็นของคนไข้และญาติพี่น้อง แพทย์เป็นเพียงผู้ให้คำแนะนำและช่วยเหลือเต็มที่เมื่อเขาต้องการให้ช่วย อะไรที่เขาไม่เชื่อถือ ไม่เชื่อไม่อยากทำก็ปล่อยวางเสีย ให้ไปหาความเห็นเพิ่มเติมที่อื่น หรือให้เขาทำตามแบบของเขาเพราะเป็นสมบัติของเขา อย่าไปหงุดหงิดท้าทายกัน แพทย์ชนะก็แค่เสมอตัว แพ้แล้วจะเดือดร้อน

    สุดท้ายคนไข้รายนี้ก็เข้าใจถึงข้อจำกัดของการใช้ Lab Investigation และเข้าใจได้ว่าแพทย์ตรวจไปตามมาตรฐานแล้ว ซึ่งต้องขอบคุณคนไข้ที่ไม่ฟ้องร้องในที่สุด แต่แค่จะทำจดหมายถึงผู้อำนวยการเพื่อให้เป็นความรู้ เป็นประสบการณ์สำหรับแพทย์ท่านนั้นต่อไป

    ใจเย็นๆกันนะครับ สมัยผมจบใหม่ๆก็เป็น  วิชาการยังแรงความเชื่อมั่นตัวเองสูง ขอย้ำว่าแพทย์เป็นเพียงผู้ช่วยถ้าเขาอยากให้ช่วย...วิชาการแพทย์ไม่มีอะไร 100%ครับ...เคารพการตัดสินใจของคนไข้เพราะร่างกายเป็นของเขาครับ...เพื่อลดความเดือดร้อนของตัวเแพทย์เองด้วย เล่ามาเพื่อเป็นประสบการณ์ครับ

จากคุณ : Intervention
เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 54 12:27:02




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com