Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
++ KAEW ไดอารี่ ++ อยู่ทน and ทนอยู่ กับเพื่อนตัวเล็กๆ HIV ติดต่อทีมงาน

สวัสดีค่ะ

หายเงียบไปนานมากมาย อีกเช่นเคยค่ะ  เหตุผลก็คือ งานเยอะมากๆๆๆ  เพราะเดี๋ยวนี้ เนื่องด้วยไม่ตายสักที ก็เลยต้องคิดเรื่องการหาเลี้ยงชีพ เลยรับทำงานช่วยบ้านแกร์ด้า ที่ดูแลเด็กกำพร้าติดเชื้อ HIV แบบเต็มๆเวลา หลังจากที่แต่ก่อน เริ่มงานแบบเป็นอาสาสมัคร ไม่เอาเงิน เพราะคิดว่าเดี๋ยวก็ตายแล้ว ผ่านไปหลายปี เงินเริ่มหมด และยังไม่ตายสักที  ก็รับช่วยงานเขาจริงจังมากขึ้น รับเบี้ยเลี้ยงนิดหน่อย แต่ไม่ทำงานเต็มเวลา

แต่พออยู่มา 10 ปีเต็มๆแล้ว แถม แข็งแรงแบบสุดๆ  วี่แววการอยู่อีกนาน เริ่มมาให้เห็น ก็เลยเริ่มกังวลว่า ตูจะเอาอะไรกินตอนแก่ฟ่ะ  ก็เลยตกลงปลงใจ ทำงานเต็มเวลา เหมือนคนอื่นเขา เพียงแต่ องค์กรไม่เหมือนใคร ดันเป็นมูลนิธิ ที่ดูแลเด็กติดเชื้อHIV  มันก็มีอิสสระมากกว่างานแบบปกติ คือ ลาหาหมอ ลาป่วยได้ไม่จำกัด จำนวนวัน  แต่เงินเดือนก็เทียบไม่ได้กับงานบริษัทนะจ๊ะ  แต่เรื่องนั้นไม่เป็นไร ขอเลือกความสบายใจเป็นหลัก กับมีเงินพอกินพอใช้ ไม่เป็นภาระที่บ้านมากนักอ่ะคะ

ช่วงที่ผ่านมา ก็เลย หายเงียบไป เพราะ งานเยอะมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เลิกงานกลับมา ก็เหนื่อยสุดๆ อยากนอนอย่างเดียวแล้วอ่ะคะ  แถมเสาร์อาทิตย์ก็ต้องไปบ้านแกร์ด้าที่ลพบุรี เกือบทุกอาทิตย์  เหนื่อยกับการเดินทางมากเหมือนกัน แต่มันก็สุขใจ ที่ทำงานกับเด็กๆ ทำงานที่มีแต่คนที่เป็นเหมือนเรารายล้อม  มันรู้สึกอบอุ่น ดีนะคะ

2-3 อาทิตย์ก่อน ครบกำหนดไปรับยาต้านไวรัส HIV ที่ต้องไปเป็นประจำทุกเดือน  ก็ไปโรงพยาบาลรอบแรก ตอนเที่ยงคืน เพื่อยื่นบัตร เอาแฟ้มประวัติออกมารอคิว  เพื่อที่วันรุ่งขึ้นจะได้มานั่งรอหาหมอได้

คราวนี้โชคดีหน่อย เจอเพื่อนรุ่นพี่  ก็เลยมีเพื่อนคุย ทั้งตอนเที่ยงคืนระหว่างรอแฟ้มประวัติ กับวันหาหมอที่ต้องใช้เวลา 3-4 ชั่วโมง  พี่คนนี้ ก็คือ พี่หนึ่ง อิทธิรักษ์ อ่ะคะ   พี่คนที่เขาเป็นพรีเซนเตอร์ โรคเอดส์คนแรก ที่ยอมเปิดเผยตัวงัยค่ะ   เรากับพี่หนึ่ง รู้จักกัน  10 ปีแล้ว รู้จักกันตั้งแต่เราเพิ่งรู้ว่าติดเชื้ออ่ะคะ หาคุณหมอคนเดียวกันมาตลอด  สนิทกันดี แต่ก็ไม่ได้เจอกันบ่อยนัก เพราะแต่ละคนก็มีภาระกิจที่แสนจะวุ่นวายของตัวเอง

พี่หนึ่งเขาอยู่กับ HIV มา 20 กว่าปีแล้วนะคะ  เอาง่ายๆ เราเห็นโปสเตอร์รูปพี่เขาที่รณรงค์ให้ระวังเอดส์ ตั้งแต่เรายังเป็นเด็กนักเรียนอ่ะ  ใครจะคิดว่าอีก 10 กว่าปีต่อมา ดันต้องมาเป็นพี่สนิทน้องสนิทกัน

เราบอกพี่หนึ่งหลายครั้งว่า  ขออย่าให้เราต้องอยู่นานเหมือนพี่เขาเลย  มันนานมากเกิน เรากลัวแก่ กลัวเหงา กลัวลำบากอ่ะ  แต่พี่เขาบอกว่า จะรีบตายไปไหน อยู่เป็นเพื่อนกันก่อนซิ  เพราะจริงๆแล้ว ผู้ติดเชื้อ แบบพี่หนึ่ง แบบเรา เหลืออยู่น้อยค่ะ เป็นกลุ่มพิเศษ ที่ใกล้จะสูญพันธ์  พวกเราอยู่ทน อยู่นาน แข็งแรงมาก  อารมณ์ดี  และที่สำคัญ มีวิถีชีวิตที่ไม่ปกติ เหมือนคนอื่นเขา

คือ ผู้ติดเชื้อ ในรุ่นพี่หนึ่ง หรือ รุ่นเรา(แบบ 10 กว่าปี Up)  ส่วนหนึ่งก็ตายไปแล้ว เพราะช่วงนั้น ไม่มียาต้าน HIV ให้กินฟรี  พวกที่เหลือรอดมา ส่วนหนึ่งก็คือ ฐานะดี มีเงินซื้อยากินเอง มาตั้งแต่แรก และอยู่จนถึงรุ่นยาฟรี ยาถูก  หรืออีกส่วนหนึ่ง ก็คือ ผู้ติดเชื้อ ที่ยังมีหน้าที่การงานเหมือนคนปกติ มีงานดีๆ  งานที่มั่นคงทำ มีเงินเดือนเยอะๆ

แต่เรา กับ พี่หนึ่ง อ่ะ  เลือกทำงานเพื่อสังคม  หุหุ  พูดเหมือนเป็นคนดี  แต่สำหรับเรานะ  จริงๆ ก็ไม่ตั้งใจเลือกทางนี้หรอก บังเอิญฟ้าลิขิตให้สมัครงานที่ไร เขาเรียกตรวจ HIV ทุกที ก็เลยเลิกหางาน

งานแบบที่พี่หนึ่ง และ เราทำ คือ งานอาสาช่วยให้คำปรึกษาผู้ติดเชื้อ หรือ งานพวกองค์กร มูลนิธิ อะไรทำนองนี้ ซึ่งที่ที่รู้กันว่า มีประโยชน์ต่อคนอื่น แต่สำหรับตัวเองแล้ว ลำบาก   เจอกันครั้งล่าสุดก็คุยกันเรื่องงานเพื่อหาเลี้ยงชีพ  เราก็เล่าเรื่องงานของเราให้ฟัง กับนโยบายประหยัดสุดชีวิตของเรา  พี่หนึ่งก็เล่าเรื่องงานเขา ตอนนี้พี่เขาขับมอเตอร์ไซด์วิน อยู่

คุยกันสนุกมาก เนื่องด้วยเป็นพวกสายพันธ์เดียวกัน คือ อารมณ์ดี ไม่เครียด จริงๆเรื่องที่คุยกันมันน่าเครียดเนอะ  งานของเรา 2 คน หามาแทบไม่พอใช้ แต่เราก็มีความสุข  อยู่ได้ สู้ได้ แถมยังต้องมีงานอาสา รับโทรศัพท์ให้คำปรึกษาปัญหา HIV กันอีก

คุยกันขำๆว่า  คนที่เขาโทรมาปรึกษา เขาจะรู้ไม่นะ ว่าคนที่นั่งฟังเขาอยู่ พยายามปลอบใจ ให้กำลังเขาอยู่นี่จริงๆ ชีวิตลำบากกว่าเขามากนะ  เคยมีคนโทรมาปรึกษาเรื่องอยากตายเพราะติด HIV แต่เขารวยมาก เงินเก็บก็หลายล้าน มีบ้าน มีรถ เงินเดือนเป็นแสน  ฟังไปก็แอบงงๆ ว่า เขาทุกข์อะไรเนอะ ชีวิตไม่เป็นลำบากเลยนี่หว่า เราลำบากกว่าตั้งเยอะ ยังไม่ได้ทุกข์อะไรมากเลย

คุยกับพี่หนึ่งว่า ถ้าเกิดเรา 2 คน มีเงินเดือนเป็นแสนบ้าง เราคงงงๆเหมือนกัน ไม่รู้จะเอาเงินไปทำอะไร เพราะมันมีน้อยจนเคยตัวอ่ะ  หรือ เกิดอยู่ดีๆ เขาบอกว่า มียารักษาเอดส์หายขาด เรา 2 คน คิดตรงกันว่า ก็ไม่ได้อยากหายนะ เพราะอยู่กับ HIV มาจนชิน อยู่ด้วยกันจนเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตแล้วอ่ะ เกิดหายเป็นปกติขึ้นมา ก็ไม่รู้จะใช้ชีวิตแบบคนปกติเขาอย่างไร มันอยู่แบบนี้มานาน จนแทบจำชีวิตก่อนติดเชื้อไม่ได้แล้ว

แต่ชีวิตของคนอยู่นานอย่างเรา 2 คน และแถมต้องนั่งรับฟังปัญหาสารพันของคนมากมาย อยู่เรื่อยๆ ก็มีจุดจบเหมือนกันอีกอย่างด้วยคือ "โรคซึมเศร้า " แซวๆกันว่า เราหดหู่ ซึมเศร้า เพราะอยู่นานเกินไป และ ฟังเรื่องคนอื่น มากเกินไป รึเปล่านะ  พี่หนึ่งกินยาคลายเครียด+ซึมเศร้า มานานแล้ว ส่วนเราเพิ่มเริ่มกินเมื่อปีก่อน แล้วอาการดีขึ้นก็ได้หยุดยาพักนึง ตอนนี้อาการกำเริบ ต้องกลับไปศรีธัญญา ได้ 2 เดือนแล้วอ่ะคะ

การกินยา ก็เป็นอีกกิจวัตร ที่เป็นความเคยชิน กินจนไม่รู้สึกเบื่อ หรือ ลำบาก เป็นภาระอะไรแล้วอ่ะนะ  เราอ่ะกินทั้งยาต้านไวรัส HIV  ยาโรคซึมเศร้า ยาโรคภูมิแพ้  แถมยาบำรุงเลือด เพราะโลหิตจางอีกด้วย

เวลาได้คุย ได้เจอเพื่อนๆ พี่ๆ ที่ชีวิตคล้ายๆกัน ก็มีความสุขดีค่ะ รู้สึกอบอุ่น มีกำลังใจ ไม่โดดเดี่ยว  ก่อนกลับบ้าน เราก็กอดลากัน หน้าโรงพยาบาล  ก็สู้กันต่อไปเนอะ พวกรุ่นเดนตาย อยู่ทน และ อยู่นาน

**  วกมาเรื่องงาน หน่อยนึงนะคะ  **   ขอขอบพระคุณ ทุกๆท่านที่ส่ง หนังสือ เครื่องเขียน สมุด ดินสอ และ เสื้อผ้า มาบริจาคให้น้องๆบ้านแกร์ด้า นะคะ    เราได้รับทุกชิ้นค่ะ เพราะส่งเข้าตู้ ป.ณ 147 ไม่มีหายแน่นอน เราไปไขตู้ทุกวันพฤหัสค่ะ    แต่บางทีต้องขอโทษที่ส่งไปรษณีย์บัตรขอบคุณกลับไปช้า เพราะงานเยอะมาก และช่วงหลังไปรษณีย์บัตรที่เป็นฝีมือวาดรูปของน้องๆบ้านแกร์ด้าหมดค่ะ  เพิ่งเอาไปให้วาดกันมาใหม่ เสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมา

และของบางกล่อง ไม่มีชื่อที่อยู่ผู้ส่ง เราก็ไม่สามารถส่งขอบคุณได้ หรือ บางกล่องเขียนไม่ชัดอ่ะคะ เราต้องเดา เลยไม่มั่นใจว่า ไปรษณีย์บัตรไปถึงมั้ย

เอาเป็นว่าขอขอบพระคุณแทนเด็กๆด้วยนะคะ  ของได้รับทุกกล่องค่ะ และตอนนี้เด็กๆติดการการหนังสือมากขึ้นเรื่อยๆค่ะ น่าชื่นใจมาก ส่วนห้องเรียนภาษาอังกฤษที่มีเราเป็นคุณครู ก็ค่อยๆเป็นค่อยๆไปค่ะ  ขอบคุณสำหรับหนังสือภาษาอังกฤษที่ส่งมาช่วยด้วยนะคะ

*** หนังสือ + ของอื่นๆ ก็รับบริจาคเรื่อยๆค่ะ ไม่มีปิดรับบริจาค  ***  หนังสือเอาเป็นแบบอ่านจบแล้ว ส่งมาบริจาคก็ได้นะคะ เกรงใจถ้าต้องซื้อให้ใหม่ๆ  สำหรับคนที่เพิ่งมาอ่านครั้งแรก หนังสือที่รับบริจาค ก็เป็นพวก

- หนังสือการ์ตูนความรู้ การ์ตูนสอนเรื่องต่างๆ
- วรรณกรรมเยาวชน / เรื่องสั้น หนังสือทั่วไป โดยเฉพาะแนววัยรุ่นๆ แนวแฟนตาซี ลึกลับ ตื่นเต้น สืบสวนสอบสวน อ่ะคะ เด็กกลุ่มวัยรุ่นจะชอบ
- หนังสือสำหรับเรียน- สอนภาษาอังกฤษ / ภาษาไทย

นอกนั้นก็พวกเครื่องเขียน ดินสอ ปากกา ยางลบ กบเหลา สมุด สี อะไรพวกนี้อ่ะคะ จริงๆเสื้อผ้าก็รับ แต่เกรงใจว่ามันจะหนักอ่ะคะ  ของอื่นๆที่บ้านเด็กกำพร้าต้องการ มันก็มีแต่มันส่งใส่กล่องมาบริจากลำบากค่ะ เช่นพวกของใช้ในชีวิตประจำวัน นมกล่อง หรือ เครื่องปรุงอาหาร  คือน้ำหนักมันเยอะ ส่งมาคงหลายตังค์อ่ะคะ ก็เลยไม่ได้ประกาศรับบริจาค และเราก็ไม่ว่างไปตระเวณรับของตามบ้านอ่ะจ้า

ส่งของบริจาคได้ที่   เว็บแก้วไดอารี่ /บ้านแกร์ด้า    ตู้ ปณ. 147   ปณจ.หลักสี่    กรุงเทพ 10210

**** ขอขอบคุณทุกคนนะคะ  ไว้จะมารายงานตัว เล่าเรื่องโน้นนี้ให้ฟังเป็นระยะๆค่ะ ****

จากคุณ : ++MooKaew++
เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 23:25:48




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com