ตอนเด็กๆเราโดนพ่อแม่ตีแทบทุกวันเลยค่ะ
คนที่บ้านเราปากร้ายทุกคนค่ะ แต่เราอยู่มานานก็รู้จักท่านดี
พ่อเราก็จบช่างกลค่ะ เวลาพ่อคลั่งที.....ยังกะสนามรบ
แม่เราก็รับภาระทำงานหนักค่ะ เวลาเครียดกับงาน จะหงุดหงิดเห็นอะไรไม่ถูกใจก็ลงที่ลูกๆ
ถูบ้าน บิดไม้ถูโดนจับหัวโขกข้างฝา ถอนหายใจนิดหน่อยก็โดนกระชากหัวไปตบ
หรือเวลาแม่สอนการบ้าน ถ้าตอบเบาไปโดนกระชากผมมาตบ
ตอบดังไป ก็หาว่าขึ้นเสียง ก็โดนเหมือนเดิม
ตอบผิดก็โดน....แล้วทุกครั้งที่แม่นึกถึงเรื่องซนๆในอดีต ก็จะกระชากหัวเราขึ้นมาอย่างแรง
เพื่อคุยและเห็นหน้าใกล้ๆ
ถ้าตอบไม่โดนใจ โดนเหวี่ยงปลิวชัวร์ๆ
ถ้าตอบถูกใจ ก็โดนกระชากหัวไปถามคำถามใหม่ เป็นแบบนี้ทุกครั้งที่แม่สอนการบ้านค่ะ
พอโดนทุกวัน สมองมันเลยปกป้องตัวเอง ในเมื่อโดนตีแล้วเจ็บ ร้องไำห้เสียใจ ถ้างั้นก็ปรับให้มันรู้สึกดีซะ
จนปัจจุบันเรามีอาการทางจิต เป็นมาโซคิสค่ะ กลายเป็นรู้สึกดีที่โดนตีตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้
นานวันเข้า มันก็เริ่มปรับตัว รู้วิธีรับมือค่ะ อาจจะเป็นประโยชน์กับคจขกท.บ้าง
1 เวลาพ่อกับแม่ด่า วิธีที่ดีที่สุดคือเงียบไว้ค่ะ ทำหน้าสงบนิ่ง ฟังแค่ให้รู้ศัพท์ แต่ไม่ต้องสนใจความหมาย ไม่ว่าคุณจะพูดอะไร อารมณ์ท่านจะไม่สามารถตีความหมายได้แล้วล่ะ
ต่อให้มันเป็นเรื่องดี เค้าก็จะมองว่าคุณประชด ด่า เถียง หือบุพการี ยอกย้อน พูดไรก็ผิดไปหมดอ่ะ หรือจะสมมติให้ตัวเองเป็นพนักงาน ท่านเป็นลูกค้าVIPขาวีน คุณต้องบริการท่านดุจพระเจ้าเพื่อตัวคุณเองนั่นล่ะ อย่ายิ้มเพราะมันจะดูเหมือนเยาะเย้ยดูถูก อย่าทำหน้าบึ้งเพื่อแสดงีหน้าว่าคุณไม่พอใจและสร้างความโกรธให้บุพการี
คุณเปลี่ยนความคิดคนอื่นไม่ได้ แต่คุณเปลี่ยนความคิดตัวเองได้
ยิ่งคุณคิดอดทน มันยิ่งทำให้คุณเดือดเป็นไฟค่ะ อยากผ่านจุดนี้ไปไวๆทนอีกนิดๆๆๆแต่เมื่อเจอกดดันหนักๆ ไฟจะระเบิดออกมาเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ แล้วคุณก็ต้องวนอยู่วัฎจักรเดิมๆ
เพราะฉะนั้นลองเปลี่ยนวิธีคิดเพื่อรับมือกับสถานการณ์ดีกว่า เวลาคุณโกรธใคร อาจจะพูดทำร้ายความรู้สึกคนอื่นโดยไม่ได้ตั้งใจ ลองคิดว่าท่านกำลังโกรธ ที่พูดก็แค่โมโห ไม่ได้หมายความอย่างที่พูดจริงๆหรอก มันก็บ่งบอกว่าสิ่งที่พูดมันขาดสติตั้งแต่ท่านด่าคุณว่าเอี้ยแล้ว เพราะหากท่านมีสติ คงรู้ว่าลูกเอี้ยแปลว่าพ่อกับแม่......อ่ะนะ และคงไม่อยากด่าตัวเองหรอก
และถ้าบุพการีหมายความตามที่ด่าคุณจริงๆ คุณคงอายุไม่ถึง24 และเป็นเด็กดีได้จนทุกวันนีิ้
อีกอย่างพูดนั่นพูดนี่ด่าดูถูกมากมาย ด่าว่าเรียนไม่จบ แต่ปัจจุบันท่านยังส่งเสียให้คุณเรียนอยู่
ลองคิดกลับกันสิ......ถ้าพ่อคุณรู้ว่ายังไงก็เรียนไม่จบจริงๆ แล้วท่านจะเปลืองเงินส่งเสียให้เรียนทำไมเนี่ย?
ถ้ารู้ว่าคุณเอาแต่โดด หรือนอนตอนเช้า ทำให้เรียนแย่ ท่านคงตราหน้าและไม่ส่งเสียหรอก
ที่อยากจะบอกคือ.....คนมีอายุเขาก็บ่น ด่า ไปงั้นแหละค่ะ ไม่ได้คิดอะไรจริงจังหรอก ขอแค่ให้ได้พูดด่าใครก็พอ พออารมณ์เย็นเขาก็ลืม หรือไม่ก็บ่นๆๆๆไปเรื่อย คนที่ยังคิดมากอยู่ก็มีแต่เรานี่แหละ
ปสก.ตอนเรามีปัญหาอุปสรรคมากมาย พ่อเราด่าโง่ เรียนไม่จบ แต่ก็ยังส่งเสียให้เรียน
เวลาเดินไปตลาด พ่อเคยด่าถึงขั้นไปเดินอ่อยจับผู้ชายด้วยซ้ำ แต่เราก็รู้นะว่าพ่อไม่ได้หมายความตามที่พูดจริงๆ เพราะตกดึกพ่อก็ขี่มอไซค์ไปปากซอยรับส่งเราหรือบ่นเวลาเรากลับดึก
แม่เราเคยด่าว่าเราทำตัวต่ำยิ่งกว่าโสเพณี......แต่ทุกครั้งที่เรามีปัญหาทะเลาะกับแฟน แม่เราจะโทรมาให้กำลังใจคนแรก บอกผู้ชายคนเดียวอย่าไปเสียเวลากับมันเลยลูกกลับมานั่งเล่นคอมเล่นกับหมาอยู่เป็นเพื่อนย่าที่บ้านซักพักเดี๋ยวก็ลืม
คจขกท. ลองคิดในแง่ดีเข้าไว้ว่าบุพการีท่านเป็นห่วงคุณมาก ถ้าคุณกลับบ้าน2-4ทุ่ม คุณอาจจะโดนฉุดข้างทาง กลับ1ทุ่มฟ้าไม่มืดมาก เดินทางปลอดภัยดี โดน4ทีนของบุพการีดีกว่าโดนมีดโดนปืนจากมิจฉาชีพ ท่านอยากซ้อมคุณลงโทษคุณไม่ให้คุณกลับบ้านดึก แล้วโดนใครดักข้างทาง
พยายามคิดบวกเข้าไว้ เอาน่าท่านเป็นห่วง เอาน่าพ่อคุณไม่รู้ว่าเรียนทุกวัน แต่เกรดที่ออกมาจะบอกความพยายามคุณเอง
และถ้าคุณพิสูจน์ออกมาว่าคุณทำได้ แล้วท่านพูดไรนิดหน่อย หรือหยุดด่าซักนิด อย่าเพิ่งน้อยใจไป คิดซะว่าผู้ใหญ่บางคนมีทิฐิค้ำคอ เค้าไม่ยอมรับออกมาตรงๆหรอกว่าเค้าทำผิดไว้(ยิ่งถ้าทำงานตำแหน่งสูงด้วยนะ)
ท่องไว้เสมอ อย่าดูคนที่คำพูด แต่ให้ดูที่การกระทำ อย่าเก็บคำด่าเล็กๆน้อยๆมาใส่ใจ เพราะคนพูดตามอารมณ์เดือดเขาไม่ได้คิดแบบนั้น พูดไปงั้นเอง คนที่จำได้และคิดมากคือคนฟัง หรือต่อให้เค้าด่าคุณรุนแรงและตั้งใจด่ามาก ฟังหูซ้ายทะลุหูขวาพอ ถึงยังไงคุณก็ยังต้องพึ่งพาท่านอยู่ คุณอายุ24 คุณมีโอกาสได้เรียนมหาลัยแม้จะพลาดในขณะที่บางคนไม่ได้เรียนมหาลัย คุณมีโอกาสได้เดินลอฟท์หรือสยามแทนตลาดนัดปากซอย
------------------------------------
2 เรื่องโดนซ้อมหรือรุมกระทืบ
จากข้อ1การเงียบ นิ่งก็ดูจะเมินจนบุพการีปรี๊ดแตกได้
ลองตอบ ค่ะ ค่ะ พยักหน้าเออออห่อหมกไปด้วย ไม่ว่าสิ่งที่ท่านพูดจะถูกหรือผิดก็เนียนตามไป ขอโทษค่ะ จะไม่ทำแล้วค่ะ จะปรับปรุงค่ะ หนูขอโทษค่ะ กำลังปรับอยู่ค่ะ
ลองตื๊อ+ใช้ลูกอ้อนได้ผลไหมคะ สิ่งนี้จะเป็นเกราะเสริมนิดนึง ไม่ให้ปลาหมอตายเพราะปาก
หากต้องเจอสถานการณ์โดนซ้อม ขอโทษนะคะ คุณร้องไห้ไหม? หรืออยู่่ในท่าใด? เปล่งเสียงหรือแสดงสีหน้าเช่นไร? สิ่งเหล่านี้กระตุ้นอารมณ์พ่อแม่คุณได้ทั้งนั้น
ลองพูดขอโทษท่านซ้ำไปซ้ำมาเผื่อช่วยเรียกสติท่านว่าคุณสำนึกผิดแล้วและเราแอบรู้สึกว่าคำว่า"ขอโทษ"ทั้งน้ำตา เหมือนกระตุ้นว่าเราสำนึกผิดแล้ว แล้วพวกท่านที่รุมอยู่นี่ฉุกคิดกันบ้างหรือยังว่ากำลังทำอะไรอยู่
ขอบคุณ ขอโทษ พูดได้นับครั้งไม่ถ้วน พูดไปเถอะ
ใช้เรียกสติตัวเองว่ายังไงเราก็ต้องขอเขากินขอเขาใช้ ใช้พูดเพื่อไม่ให้หลุดปากเถียงหรือขึ้นเสียงจนกระตุ้นท่านโมโห และยังช่วยตอบรับว่าคุณสำนึกในสิ่งที่ท่านพูดนะ ไม่ได้อยากแนะให้ขอโทษบุพการีแบบขอไปทีรึไม่จริงใจนะคะ แต่พูดเพื่อปกป้องตัวเองจากการโดนทุบตีตะหาก
หรือถ้าเห็นท่าไม่ดีตอนกลับบ้าน ในเมื่อหนีชะตากรรมไม่ได้ ลองชวนเพื่อนมาเที่ยวบ้านดูค่ะ น่าจะช่วยให้ท่านสงบใจต่อหน้าเพื่อนคุณได้บ้างนะ
ปล. ที่ว่ามาคือเคล็ดที่จับทางได้จากพ่อแม่ตัวเองนะคะ คจขกท.จะลองเอาไปประยุกต์ใช้ก็ได้ ที่แนะนำนี้ไม่ได้แปลว่าเป็นลูกห้ามหือบุพการีแม้จะโดนใช้กำลังแต่อย่างใด แค่ต้องการแนะนำการปรับเปลี่ยนความคิดเพื่อเอาตัวรอดน่ะค่ะ แต่ถ้าอยากได้คำแนะนำชัวร์สุด ลองไปถามห้องชานเรือนดูดีไหมคะ? ห้องนั้นแม่ๆเยอะ อาจจะให้คำปรึกษาตรงประเด็นกว่านี้