ความคิดเห็นที่ 1 ขอออก คห.นะครับ 1.ซื้อประกันสุขภาพที่เป็นการซื้อควบกับสัญญาหลัก โดยเลือกสัญญาหลักที่คุ้มครองระยะยาว เช่น 90ปี หรือ 70 ปี จะชำระเบี้ยแค่ 20 ปี หรือชำระเบี้ยจน 90 ปี หรือ 70 ปีก็ได้ เหตุผลที่ให้เลือกแบบประกันแบบนี้เพราะว่า สัญญาระยะยาว จะทำให้ความคุ้มครองสุขภาพยาวตามไปด้วย เพราะ ณ.ปีนี้เราสุขภาพแข็งแรง แต่ปีต่อ ๆ ไปเราไม่ทราบอนาคต ถ้าเราไปซื้อแบบสัญญาสุขภาพส่วนบุคคล ปีต่อปี  พอปีไหนที่เราเกิด มีโรคประจำตัวขึ้นมา  บริษัทอาจจะปฏิเสธการรับประกันเราได้ แต่สัญญายาว คุ้มครองแล้วคุ้มครองเลย คุ้มครองต่อนเนื่อง และการซื้อกับสัญญาระยะยาว จะทำให้เบี้ยประกันโดยรวมไม่สูงมาก 2. สำหรับงบประมาณค่าเบี้ยประกัน ถ้าเฉลี่ย เดือนละ 2,000 บาท ปีละ 24,000 บาท หรืออาจต่ำกว่านั้นเป็นปีละ หมื่นปลาย ๆ ก็ได้ค่าห้องที่สูงพอสมควร แนะนำให้ซื้อแบบแยกค่าใช้จ่าย กับแบบชดเชยรายวัน ก็น่าจะพอนะครับ และอาจบวก สัญญาโรคร้ายแรงไปด้วยก็ได้ ถ้าค่าห้องในสัญญา แยกค่าใช้จ่ายได้ไม่สูงมาก เพราะอาจติดเงื่อนไข ของทุนประกันสัญญาหลัก ก็ให้ซื้อค่าชดเชยรายวันครับ เพื่อจะเอาค่าชดเชยรายวันมาเป็นตัวช่วยในการจ่ายส่วนต่างค่าห้องครับ 3. OPD โดยส่วนตัวแล้ว ถ้า ณ ตอนนี้ ท่าน จขกท. แข็งแรงดี และมีสิทธิประกันสังคมอยู่ ผมมองว่าอาจไม่จำเป็นนะครับ เพราะ OPD จะทำให้เบี้ยประกันสูงขึ้น ยิ่งถ้าเราไม่ค่อยได้ใช้ จะเสียเปล่าครับ มุมมองส่วนตัวของผมคือ  การที่เราป่วยแล้วหาหมอแค่ OPD คือไม่ได้ป่วยถึงขั้นต้องนอนร.พ. ก็ไม่น่าจะมีอะไรที่ร้ายแรงมาก  ซึ่งการใช้สิทธิประกันสังคมน่าจะพอเพียงครับ   ส่วนเรื่องบริษัท ผมว่าทุกบริษัทดีหมดครับ เพียงแต่ที่เราได้ยินข่าวกันในมุมที่ไม่ดีเป็นเพราะเกิดจากตัวบุคคลครับ ซึ่งเป็นไปได้ทั้งจากฝ่ายตัวแทนหรือนายหน้า และฝ่ายของผู้เอาประกันเองครับ ปัญหาที่เคลมกันไม่ได้ส่วนใหญ่เกิดจาก มีการปกปิด (ทั้งเจตนาและไม่เจตนา) ในเรื่องของประวัติสุขภาพของผู้ขอเอาประกันครับ (อันนี้จากปสก. ที่อยู่ในวงการมานะครับ) และอีกส่วนหนึ่งจากฝ่ายขาย ที่ขายนอกเงื่อนไขกรมธรรม์ครับ คือว่าโม้เกินไปนั่นเอง สุดท้ายนะครับ อย่างที่ผมตอบในกระทู้อื่น ๆ เสมอ ๆ ว่า ขอให้เลือกซื้อกับตัวแทนหรือนายหน้ามืออาชีพนะครับ คือทำงานเต็มเวลาไม่ใช่พาร์ทไทม์ และมืออาชีพจริง ๆ คือสามารถให้ข้อมูลเราได้ครบถ้วน ถูกต้อง และขายแบบที่เราต้องการ ไม่ใช่ขายแบบที่คนขายต้องการครับ ขอให้ท่าน จขกท. ได้พอเจอกับตัวแทนหรือนายหน้ามืออาชีพที่มีจรรยาบรรณ นะครับ และได้กรมธรรม์ในแบบที่ถูกใจตรงตามวัตถุประสงค์ และที่สำคัญไม่เจ็บไม่เคลมครับ ปล. ต้องการข้อมูลด้านไหนเพิ่มเติมก็คุยกันได้นะครับ ด้วยความยินดีครับ จากคุณ : น้องเล็ก Soi 1 เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 16:40:58

ความคิดเห็นที่ 2 ผมทำกับเอไอเอไม่แพงค่าเบี้ยไม่ถึงหมื่นนะ แต่ผมนน เกินโดนไป12000เลย เฉพาะ ipd. นะครับ จากคุณ : mumonza041 เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 23:20:12

ความคิดเห็นที่ 3 ถ้าสนใจผมจะให้เบอรพี่เวาไว้นะฮะ ไท่ต้องซื้อก็ถามได้พี่เขาใจดี แล้วเอไอเอมีชื่่อเสียงดี. ไม่ใช่นายหน้าแต่ค้นหากระทู้ชื่อผมได้ ดูแล้วเอไอเอคุ้มสุดละครับกับราคา จากคุณ : mumonza041 เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 23:22:38

ความคิดเห็นที่ 4  ทีคนส่วนมาก (รวมผมด้วย) ซื้อประกันสุขภาพเพิ่ม เพราะเชื่อว่าจะได้ประโยชน์ เช่น ของผมจะเข้า รพ.ใดๆ ได้ เบิกค่าห้องได้เต็ม แถมเงินชดเชยรายได้ระหว่างนอน รพ. ฯลฯ เหล่านี้ฟังดูดี แต่มีกระทู้ไม่นานนี้เอง ..ลองค้นดู เขาเล่าว่า บริษัทประกันยกเลิกประกันสุขภาพ เพราะเขาเบิกมากเกินไป ด้วยเหตุผลที่ฟังดูไม่น่าเชื่อ ผมลองโทรเช็คกับตัวแทนประกันที่ผมเอาประกันไว้ เธอบอกให้ดูสัญญาประกันหลัก มีหมายเหตุระบุไว้ ความประมาณว่า  "บริษัทสงวนสิทธิ์ที่จะ .....  ยกเลิกได้"  แปลว่า ความหวังตั้งใจที่ คุณ จขกท คิดจะอุ่นใจว่า ประกันจะจ่ายให้เมื่อเจ็บป่วยนั้น ....ในทางปฏิบัติ หากวงเงินมากๆ ประกันฯก็จะใช้สิทธิที่จะยกเลิกได้  ดังนั้น ก่อนจะเซนต์ชื่อ ประกันสุขภาพ กับใคร อ่านเงื่อนไขให้ชัดเจนเสียก่อน   จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 54 09:00:27

ความคิดเห็นที่ 5  ยกมาให้ดู ประกันชีวิต MsgStatus(Msv[0], 0); ขอสอบถามผู้รู้ครับ ว่าบริษัทประกันชีวิต สามารถยกเลิกอนุสัญญาต่างใน กรรธรรม์ได้ไหมครับ ในกรณีที่เราไม่ได้ทำผิดอะไร หรือไม่ได้ปกปิดโรคอะไรมาก่อน โดยบริษัทประกันแจ้งว่า เราเคลมมากเกินไป (เกี่ยวกันด้วยหรอ) แล้วเค้าก็ยกเลิก ทำให้ตอนนี้ กรมธรรม์ของเรา เป็นแค่เงินออม คือ ส่งแค่เบี้ยชีวิตเท่านั้น เลยอยากทราบว่า บริษัทมีสิทธิ์ด้วยหรอครับ แบบนี้ไม่เอาเปรียบกันไปหน่อยหรอครับ จากคุณ : worawat_kbu http://www.pantip.com/cafe/isolate/topic/M10496199/M10496199.html     จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 54 12:14:33