คุณหมอที่รักษาแผนกประกันสังคมในโรงพยาบาลเอกชน มีความเชี่ยวชาญในการรักษาโรคมากแค่ไหนคะ
|
 |
เราไปหาหมอที่โรงพยาบาลเอกชนแหน่งหนึ่งในย่านเทพารักษ์ สมุทรปราการ ด้วยอาการมีไขต่ำ ๆ มีอาการไอแห้ง ๆ และเหนื่อยเพลีย ซึ่งเป็นมากว่า 2 สัปดาห์แล้ว โดยสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้เคยมาเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลแห่งแล้ว ได้รับยาแก้อักเสบ moxilin และยาพาราลดไข้ ยาอมแก้เจ็บคอ กลับไปทาน ซึ่งทานแล้วก็ไม่มีอาการดีขึ้น กอรปกับคุณพ่อได้ป่วยเป็นปอดติดเชื้อเข้ารับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอื่นอยู่ จึงทำให้เราสงสัยตัวเองว่า อาจจะได้รับเชื้อจากคุณพ่อ ซึ่งป่วยเป็นโรคปอด วันนี้จึงได้เดินทางกลับไปเพื่อรับการรักษาอีกครั้ง
เพราะวันนี้เป็นวันอาทิตย์ จึงมีคนไข้ค่อนข้างมาก ประมาณ 9 โมงครึ่ง เราได้คิวที่ 3 ร้อยกว่า ๆ ก็นั่งรอประมาณ 1 ชั่วโมงจึงได้เข้าตรวจ ซึ่งคุณหมอถามว่าเป็นอะไร เราก็ตอบว่าตัวรุม ๆ ไอแห้ง ๆ มากอาทิตย์กว่าแล้ว คุณหมอก็บอกว่าอาจจะเป็นไข้หวัดใหญ่ หรือไข้เลือดออก จะให้เจาะเลือด แต่เราปักใจว่าอาจจะเกี่ยวกับปอด จึงได้บอกว่า อาจจะเกี่ยวกับปอดด้วย หมอจึงให้ X-ray ด้วย เวลาทั้งหมดที่พูดคุยประมาณ 1 นาทีเห็นจะได้ เร็วมาก เรายังไม่ทันได้เล่าถึงประวัติที่มีการคลุกคลีกับคุณพ่อที่ป่วยเป็นโรคปอดเลย
ก็ไปเจาะเลือด แล้วก็ X-Ray ระหว่างรอฟิลม์ X-Ray นั้น เจ้าหน้าที่หยิบฟิลม์เราขึ้นเพื่อจะขาลชื่อ เราเห็นว่าฟิมล์ของเรา บริเวณปอดซ้ายด้านล่างมีฝ้าสีขาวอยู่ 1 หย่อม เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 นิ้วน่าจะได้ เราเริ่มกังวลใจ เพราะเท่าที่ทราบมาคุณพ่อที่ป่วยเป็นโรคปอด ก็มีฝ้าสีขาวขึ้นที่ปอดเช่นกัน แต่ท่านเป็นหนักกว่าขึ้นกินทั้ง 2 ข้างจึงต้องรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลเพื่อให้ยาฆ่าเชื้อ พอถึงเวลาเข้าพบคุณหมออีกครั้งหนึ่ง คุณหมอไม่ได้ให้เราดูฟิลม์หรืออธิบายฟิลม์ให้ฟังใด ๆ ทั้งสิ้น แค่แจ้งว่าคุณเป็ไข้หวัดธรรมดา แล้วก็ก้มหน้าเขียนใบสั่งยา เราถามย้ำว่า เป็นแค่ไข้หวัดธรรมดาจริงเหรอคะ ตัวร้อน แล้วก็ไอ มาร่วม 2 อาทิตย์แล้วนะคะ ที่ปอดไม่มีจุดอะไรเลยเหรอคะ (ถามเพราะเห็นฝ้าที่ฟิลม์) หมอบอกไม่มี คุณเป็นแค่ไข้หวัดธรรมดา แล้วก็มองหน้าหมอ หมอเลยให้อ้าปาก ฉายไฟฉาย แล้วก็เอาหูฟังที่แนบหลัง หมอเอามาแปะหลัง แปะ แปะ 2 ที เรายังไม่ทันหายใจเข้าลึก ๆ เลย หมอเดินกลับไปเขียนใบสั่งยาที่โต๊ะแล้ว ขึ้นตอนนี้ใช้เวลาไม่เกิน 1 นาที แน่นอน ทุกอย่างเร็วมาก ไม่มีการอธิบายหรือสักถามคนไข้อะไรเลย
เจอแบบนี้ทำให้เรารู้สึก ไ่ม่ค่อยเชื่อถือ พูดง่าย ๆ คือไม่เชื่อใจในการวินิจฉัยของคุณหมอท่านนี้ และมีความรู้สึกว่าทำไมหมอรักษาแผนกประกันสังคมถึงที่ทำงานแบบ sales คือเน้นเร็ว เอายอด ยังกะจะได้ค่าคอมมิชชั่น คืออาชีพหมอน่าจะเป็นงานแบบศิลปะ มากกว่าจะทำงานแบบ sales หรือป่าวคะ เราเข้าใจนะว่าคนมันเยอะ แต่มันเกียวกับชีวิตคน ก็น่าจะละเอียด รอบคอบ ไว้ก่อนดีกว่า ที่เรารู้สึกไม่เชื่อถือในแผนกประกันสังคม เพราะก่อนหน้าที่เราจะมีอาการไข้ต่ำ ๆ แล้วก็ไอแห้ง ๆเ นี่ยเราเป็นอิสุกอิใสมาก่อน มีไ้ข้ แล้วก็มีจุดแดง ๆ ขึ้นตามตัว เราก็ไปหาหมอประกันสังคมที่โรงพยาบาลนี้ หมอที่รักษายังดูเด็ก ๆ อยู่เลย มอง ๆ เราก็บอกว่าเหมือนอิสุกอิใส แต่ไม่แน่ใจ แล้วก็จ่ายยาให้ คาลามายด์ มา (=_=") ยาแก้แพ้ ยาแก้คัน ยาพาราลดไข้ คืนนั้นเรากลับบ้านไปกินยาที่หมอจ่ายมาให้ ไม่รู้สึกดีขึ้นเลย ตื่นมาตอนเช้ามีตุ่มมากขึ้นกว่าเดิม เราจึงตัดสินใจไปหาหมอที่สถาบันโรคผิวหนัง นั่งรอคิวอยู่ 2 ชั่วโมงเต็ม ๆ หมอสักถามเราละเอียดมาก ให้เจาะเลือด เจาะตุ่มใสตรวจหาเชื้อ จนเจอว่าเป็นอิสุกอิใส หมอจ่ายยาต้านไวรัส ยาแก้คัน 2 ชนิด ยาแก้แพ้ ยาทาป้องกันการติดเชื้อ และอธิบายถึงการดูแลตัวเองในระหว่างที่ป่วย เราหายเร็วมากและไม่ค่อยมีแผลเป็นด้วย
พอป่วยคราวนี้ แล้วมาเจอสถานการณ์แบบนี้ ทำให้เราสงสัยในมาตราฐานของการรักษาในส่วนของประกันสังคมจริง ๆ ว่าคุ้มค่ากับการที่รัฐบังคับให้ต้องจ่าย ๆ ทุกเดือน ๆ หรือป่าว แล้วเวลาเจ็บป่วยหนัก ๆ เนี่ย คุ้มค่าที่จะไปรับการรักษาไหม เพราะวันนี้เราเจอผู้ชายคนนึงหนักรถเข็น สภาพดูเค้าป่วย และทรมาณมาก ตัวงี้เหลืองซีดเชียว ได้ยินคุยกันว่าคนไข้อยากจะขอนอนโรงพยาบาล แต่คุณหมอเจ้าของไข้ยังไม่ตัดสินใจว่าจะให้นอนหรือป่าว เรามองสภาพเค้าแล้วคิดในใจ หมอคะสภาพขนาดนี้ ให้นอนไปเถอะ หรือไ่ม่ก็เอาไปนอนฉุกเฉินให้น้ำเกลือก่อนดีไหม คือหน้าเค้าเจ็บและทรมานมากอ่ะ เห้อ...ประกันสังคม ดีจริงไหมหนอ
แก้ไขเมื่อ 22 พ.ค. 54 20:54:03
| จากคุณ |
:
เจ้าหญิงอารมณ์ร้าย 
|
| เขียนเมื่อ |
:
22 พ.ค. 54 20:47:12
|
|
|
| 
