ความคิดเห็นที่ 1 Sweet'n Deadly Avoid sugar ขจัดไขมันส่วนเกินออกไปให้พ้น จำกัดของหวานมหันตภัย อย่างที่รู้ๆกัน ว่าเราจะต้องลดปริมาณการบริโภคคาร์โบไฮเดรต และเพิ่มปริมาณการบริโภค โปรตีน ในช่วงที่เราจะลดไขมันในร่างกาย แต่นอกจากเรื่องปริมาณแล้ว ที่ต้องคำนึงถึงอีก อย่างคือ "ชนิด" ชนิดของคาร์โบไฮเดรต ซึ่งแยกออกเป็น เชิงเดี่ยว และเชิงซ้อน เชิงเดี่ยวที่พบเห็นได้ทั่วไป ก็อยู่ในรูปของน้ำตาลทั้งหลาย กลูโคส ฟลุคโตส ซูโคส มอลโทส แลคโตส และ เดกโทส ส่วนใหญ่แล้วพวกนี้ เราจะพบได้ในอาหารบรรจุภัณฑ์ทั้ง หลาย น้ำตาลพวกนี้จะถูกเปลี่ยน เพื่อเก็บไว้ในรูปของไขมันได้ง่าย พวกคาร์โบไฮเดรต ที่ ผ่านการแปรรูป อย่างเช่น แป้ง ขนมปัง พาสต้า บะหมี่ พวกนี้ก็เปลี่ยนเป็นไขมันได้ง่ายเช่น เดียวกัน ส่วน เชิงซ้อน นั้นพบได้ในพวกพืช ธัญพืช โฮลวีต คาร์โบไฮเดรตเหล่านี้ จะใช้ระยะเวลาที่ นานกว่าในการเปลี่ยนรูป แถมยังให้วิตามิน และแร่ธาตุอื่นๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายด้วย รวมทั้งยังแปรเปลี่ยน เก็บในรูปของไขมันได้ยากกว่า คาร์โบไฮเดรตเชิงเดียวข้างต้นด้วยเช่น กัน ดังนั้นแล้ว คาร์โบไฮเดรต แบบไหนที่เราจำต้องจำกัด ในช่วงที่เราคุมอาหาร ? แม้เราจะรู้สึก ว่า พวกเชิงซ้อนเป็นสิ่งที่ดี และในขณะเดียวกัน พวกเชิงเดี่ยวเป็นสิ่งที่ไม่ดี แต่เราก็ยังกิน คาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยว ให้เกิดประโยชน์ได้ หากกินในช่วงที่เหมาะสม เช่นหลังจากออก กำลังกายแล้ว 2 ชม. ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัว จากการฝึกได้ดี ทั้งนี้เราก็ต้องกินใน ปริมาณที่เหมาะสม ส่วนพลังงานหลักๆ จากคาร์โบไฮเดรต ในมื้ออาหารอื่นๆ พยายามให้เป็น จาก คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน โดยที่เราจะกินอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรต มากหน่อยในวันที่ เราฝึก ส่วนวันที่เราพัก ให้จัดปริมาณอาหารพวกคาร์โบไฮเดรต ให้อยู่ในปริมาณน้อยกว่าวัน ฝึก และถ้าคุณไม่ชอบกินผัก งานนี้ต้องฝึกกินผักแล้ว เพราะมันจำเป็น และมีประโยชน์ต่อร่าง กาย อาหารสีเขียวเหล่านี้แหละดีต่อร่างกายของเรา! จากคุณ : ยายหนูAK เขียนเมื่อ : 5 มิ.ย. 54 23:39:21

ความคิดเห็นที่ 2 CALORIES/BMR ถ้าคุณคิดว่าการลดปริมาณพลังงาน ที่บริโภคเข้าไปให้ได้มากๆ จะให้ผลอย่างรวดเร็วละก็ คุณคิดผิดแล้ว (ยายหนูเตือนและแนะนำไปบ่อยมาก) การลดปริมาณพลังงานที่บริโภคมากเกินไป จะทำให้อัตราการเผาผลาญพลังงานของร่างกาย หรือที่เรียกว่า BMR(basalmetabolicrate) ลดต่ำลง แล้วทีนี้คุณจะหาจุดที่เหมาะสมในการกำหนดปริมาณพลังงาน ที่ควรจะกินได้อย่างไร ? ดังนั้นเราจึงต้องมาหาปริมาณ BMR คร่าวๆกันก่อน จากสูตรของ Harris-Benedict นะครับ    English BMR Formula    Women: BMR = 655 + ( 4.35 x weight in pounds ) + ( 4.7 x height in inches ) - ( 4.7 x age in years )    Men: BMR = 66 + ( 6.23 x weight in pounds ) + ( 12.7 x height in inches ) - ( 6.8 x age in year )    Metric BMR Formula    Women: BMR = 655 + ( 9.6 x weight in kilos ) + ( 1.8 x height in cm ) - ( 4.7 x age in years )    Men: BMR = 66 + ( 13.7 x weight in kilos ) + ( 5 x height in cm ) - ( 6.8 x age in years ) มีเว็บช่วยในการคำนวณมากมาย ให้ผลที่ต่างกันบ้างนิดหน่อย ตามเทคนิคการเขียนโปรแกรมนะครับ ยังไงลองใช้กันดู http://www.bmi-calculator.net/bmr-calculator/ http://www.fitwatch.com/qkcalc/bmr.html http://www.siamfitness.com/BMR.html ลองรับประทานให้ได้พลังงานใกล้เคียงกับค่า BMR ที่คำนวณได้สัก 1 สัปดาห์หรือนานกว่า นั้น แล้วดูผลที่เกิดขึ้น เพื่อนำมาปรับเปลี่ยนแผนการโภชนาการ และการออกกำลังกายของ เรา พึงระลึกไว้เสมอนะครับ ว่าค่า BMR ที่ได้นั้นเป็นค่าโดยประมาณ เรายังต้องมีการปรับ เปลี่ยนเพื่อให้สอดคล้องกลับน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นหรือลดลง หลังจากนั้นอีก ในขณะที่เราต้องบริโภคอาหารที่ให้พลังงานลดลง เพื่อลดไขมัน แต่ถ้าหากว่าลดมากเกินไป ก็จะทำให้สูญเสียมวลกล้ามเนื้อไปแทนที่จะเป็นการลดไขมันอย่างที่ตั้งใจ ดังนั้นเราจะต้อง ลดพลังงานที่กินเข้าไป เพียงแค่ระดับที่จะลดไขมันเพียงปรมาณ 1-2 ปอนด์ต่อสัปดาห์ หรือ ประมาณไม่ควรกิน 1 กิโลต่อสัปดาห์ ทางออกที่ดีก็คือจัดปริมาณการกินให้เหมาะสมกับค่า BMR ของเรา ดังที่คำนวณมาจากข้างต้น แล้วก็เพิ่มการ Cardioเข้าไปประมาณวันละ 500Cal จากคุณ : ยายหนูAK เขียนเมื่อ : 5 มิ.ย. 54 23:48:59

ความคิดเห็นที่ 3 พลังงานในแต่ละวันของเรา ได้มาจากอะไรบ้าง ? ถ้าต้องการลดไขมันส่วนเกิน สารอาหารที่เราต้องวางแผนโภชนาการของเรา ต้องเป็นสัดส่วนดังนี้    Carbs: 30-50%    Protein : 40-50%    Fat : 10-20% แต่ต้องพึงระลึกไว้นะครับว่า.. ไขมัน 1 กรัม ให้พลังงาน 9 Calories ในขณะที่คาร์โบไฮเดรต และโปรตีน นั้นให้พลังงาน 4 Calories ต่อกรัม ถ้าเราต้องบริโภคในระดับ 2000 Calories ต่อวัน สัดส่วนของสารอาหาร ที่เราจะบริโภคก็จะออกมารูปร่างหน้าตาแบบนี้    40% protein = 200g = 800 cal    40% carbs = 200g = 800 cal    20% fat = 45g = 405 cal ดูดีๆนะครับ ไขมันเพียง 45g เท่านั้น ไม่ใช่ 100g นะครับ น้ำมันจากปลา (ไม่ใช่น้ำมันทอดปลานะครับ) เป็นแหล่งอาหารที่ดี จากคุณ : ยายหนูAK เขียนเมื่อ : 5 มิ.ย. 54 23:51:51

ความคิดเห็นที่ 4 โปรตีน ในช่วงนี้ที่เราต้องคุมอาหาร เราจะต้องเพิ่มปริมาณสารอาหารจำพวกโปรตีนให้มากขึ้น เพราะถ้า ระดับโปรตีนลดลงมากเกินไป กล้ามเนื้อของเราจะถูกสังเวยไปใช้แทนที่ ซึ่งไม่ใช่เรื่องดีแน่นอน โปรตีนเป็นสารอาหารพื้นฐานที่จำเป็น สำหรับเราอย่างมาก แบ่งการกินออกเป็นมื้อๆ หลายๆมื้อ 5 มื้อถึง 7 มื้อ เพื่อให้ได้รับโปรตีนอย่างสม่ำเสมอ ในปริมาณที่เพียงพอ แหล่งโปรตีนที่ดีที่สุด ก็คือจากอาหารหลักตามธรรมชาตินี่เอง เนื้อไก่ ไข่ขาว ปลา หมูเนื้อแดง เนื้อวัว กินให้หลากหลาย เพื่อให้ได้ประโยชน์ที่ครบถ้วน ถ้าจำเป็นต้องเสริมปริมาณโปรตีน ให้ได้รับในปริมาณที่เพียงพอ การกินอาหารเสริม Whey Protein เป็นทางออกที่ดี จากคุณ : ยายหนูAK เขียนเมื่อ : 5 มิ.ย. 54 23:54:15

ความคิดเห็นที่ 5 Cardio เพื่อชัยชนะ เป็นไปได้ยากอย่างยิ่ง ที่จะพูดถึงความสำเร็จในการลดไขมันส่วนเกิน โดยที่จะไม่ทำการ Cardio บางคนทำ Cardio และ Weight training พร้อมกัน ซึ่งไม่ใช่หนทางที่เหมาะสม เท่าไรนัก ทางที่ดีที่สุดคือแยก Cardio ออกจาก Weight training เราสามารถทำมันทั้ง สองอย่างในวันเดียวกันได้ แต่ให้แยกทำคนละช่วงเวลา ออกกำลังกายในระดับที่คุณสามารถจะ พูดคุยได้บ้างนิดหน่อย แต่ถ้าหากว่าหนักไปกว่านี้ จะไม่สามารถคุยกับใครได้แล้ว (มันเหนื่อย) อันนี้คือการตั้งเกณฑ์วัดระดับแบบง่ายๆ โดยไม่ต้องคำนวณ หรือใช้เครื่องมืออะไรมากเรียกว่าTalk test แต่สำหรับผู้ที่ชอบเรื่องตัวเลข ใช้สูตรคำนวณของ Karvonen ที่ว่า 220-อายุ = max heart rate (MHR) แล้วนำมาคูณด้วย .65 และ .8 จะได้ค่าของอัตราการเต้นหัวใจ ที่คุณควรจะออกกำลังกายอยู่ใน ระหว่างสองค่านั้น (ก็คือ 65%-80% ของ MHR นั่นเอง) วิธีหนึ่งที่ดีที่จะเพิ่มระดับความหนักหน่วง ให้กับการออกกำลังกายของคุณ ก็คือการเล่นแบบ Interval Training คือเมื่อออกกำลังกายในระดับนี้ เป็นระยะเวลาพอสมควร (เช่นวิ่งเหยาะๆ 5 นาที) ก็ให้เพิ่มความหนักหน่วง ขึ้นในระยะสั้นๆ (เช่นวิ่งเร็วสัก 1 นาที) ทำการ Cardio อย่างน้อย 30 นาที ต่อวัน และอย่างน้อย 3 วัน ต่อสัปดาห์ นอกจากจะช่วย เผาผลาญพลังงานแล้ว ยังช่วยบริหารระบบไหลเวียนโลหิต และบริหารกล้ามเนื้อหัวใจอีก ด้วย การทำ Cardio ไม่จำเป็นว่าจะต้องทำในช่วงที่ ต้องการจะลดสัดส่วนไขมันเท่านั้น แม้ แต่ในช่วง Off-season ก็สามารถทำได้ มันจะช่วยรักษาระดับสัดส่วนไขมันในร่างกาย ไม่ให้ เพิ่มขึ้นมาก อีกทั้งยังช่วยเรื่องการบริโภคอาหารที่มีพลังงานสูงได้อีกด้วย จากคุณ : ยายหนูAK เขียนเมื่อ : 5 มิ.ย. 54 23:59:43

ความคิดเห็นที่ 6 Your cardio level for maximum results อย่างไรก็ตาม การทำ Cardio ก็ควรทำให้พอดีๆด้วย จึงจะเข้า กับความต้องการของเรา นั่นคือเผาผลาญไขมัน ในขณะเดียว กันก็รักษาความแข็งแรง ของกล้ามเนื้อเอาไว้ สุดๆแล้วควรเล่น Cardio ไม่เกิน 1 ชม. ต่อครั้ง(ไม่ไช่ต่อวัน) และสัปดาห์นึงไม่ควรเกิน 5-6 วัน เพื่อไม่ให้เกิดการ Cardio มากเกินไป จนร่างกายต้องนำเอากล้ามเนื้อ มาเผาผลาญเป็นพลังงาน ส่งท้ายในครั้งนี้ ผมไม่ได้มาให้โปรแกรมใดๆกับคุณ เพราะผมไม่รู้ว่า คุณผู้อ่าน แต่ละท่านมีร่างกายชนิดไหน มีอัตราการเผาผลาญเร็ว หรือช้า จากข้อมูลข้างต้น ก็ใช้กันไปเป็นแนวทางในการค้นหา และจัดโปรแกรม ที่มันเหมาะสมกับตัวคุณเองเอานะครับ...เผาผลาญไขมันออกไป!!! ที่มา... http://www.theryo.com/2007/01/burn_away_you_fat/ จากคุณ : ยายหนูAK เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 00:06:56

ความคิดเห็นที่ 7 ยายหนูเคยแนะนำ และเตือนเพื่อนๆที่ทานต่ำกว่าค่าของBMR ไปบ่อยครั้งมาก มากเสียจนทำให้ คนเกลียดเราไปเลย สังเกตุได้จากคอมเม้นท์ ถ้าบทความแบบนี้ จะหาคนเข้ามาคอมเม้นท์น้อย มาก แต่ถ้าเป็นประเภทที่ทานน้อยๆ แล้วสามารถลดน้ำหนักได้เยอะๆ คอมเม้นท์และกิ๊ฟจะเยอะ มาก สุดท้าย เหมือนอย่างที่เคยบอกไปว่า ถ้าคุณทานเท่าค่าของBMR แล้วไปเผาผลาญไขมันด้วย การออกกำลังกาย คุณก็ไม่ต้องมานั่งเสียใจ เสียเวลา กลับมาเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ เพราะถ้าคุณยังดันทุรัง เลือกลดแบบผิดๆ หลังจากที่น้ำหนักลดลงเป็นที่น่าพอใจแล้ว กล้ามเนื้อหาย ไขมันยังอยู่ รูปร่างก็ยังไม่เป็นที่พอใจของคุณอยู่ดี ต้องมานั่งแก้ไขกันอีก และไม่รู้ว่า จะต้องใช้เวลานานสักแค่ไหน(กว่าจะได้มวลกล้ามเนื้อเก่ากลับคืน) แล้วถ้าอยากเพิ่มอีกล่ะ อย่างก็เคยมีให้เห็น ลดจนผอมได้ตัวเลขตามต้องการ แต่รูปร่างไม่กระชับ ไขมันห้อยย้วย คราวนี้ต้องหันมาเพิ่มมวลกล้ามเนื้ออีก เสียมวลกล้ามเนื้อ เสียใจ เสียเวลา แล้วก็เสียเงิน... ดังนั้น ใครที่กำลังลดด้วยวิธีผิดๆ ลองอ่านแล้วคิดตรึกตรองดูให้ดีว่า ผลที่ได้มันค้มค่ากับเวลาที่เสียไปหรือไม่ ทุกคนมีกล้ามเนื้อที่สมส่วนกับรูปร่างอยู่แล้ว เพียงแต่บริหารบ้าง สัปดาห์ละ3ครั้งก็พอ เพื่อปั๊มให้มันพองขยายขึ้นก็พอแล้ว ไม่จำเป็นต้องไปใช้โปรแกรมเพาะกายหรอก ทานอาหารให้เพียงพอ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ตามธรรมชาติของร่างกาย ไขมันจะลดลงได้เพียงเดือนละ1-2กิโลเท่านั้น ด้วยความปรารถนาดีจาก ยายแก่คนหนึ่ง ที่รักเพื่อนๆเหมือนลูกหลาน... แก้ไขเมื่อ 06 มิ.ย. 54 00:35:49 จากคุณ : ยายหนูAK เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 00:33:53

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบใจหลาย ๆ เด้อ ป้าหนู จากคุณ : นายหลาน เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 01:45:04

ความคิดเห็นที่ 9 เมื่อก่อนก็กินน้อยนะคะ แต่มาพบว่ามันไม่มีแรง ไม่แรงแล้วจะออกกำลังกายยังไงดีล่ะ หลังๆมาค้นพบสัจธรรมว่ากินให้มันอิ่ม แต่เลือกกินจะดีกว่า จากคุณ : uka04 เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 03:36:23

ความคิดเห็นที่ 10 สวัสดีค่ะนายหลาน ไช่คนที่แนะนำการกระโดดเชือกหรือเปล่า หลังจากยายหนูเข้าไปดูในคลิป ก็ไปซื้อเชือกมากระโดดบ้าง แต่มันยาวไปก็เอาไปเปลี่ยน มีส่วนสูงของผู้ใช้บอกข้างกล่อง และก็ตรงตามวิธีที่คุณแนะนำ แต่ พอมาฝึกกระโดดดู 555 มันไม่ง่ายอย่างที่คิดเลยอ่ะ สะดุด ตลอด แต่ก็เหนื่อยดี... เลยเปลี่ยนมากระโดดลม ไม่มีสะดุดเลย ไม่เชื่อลองดู..คริคริ จากคุณ : ยายหนูAK เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 04:52:31

ความคิดเห็นที่ 11 ขออธิบายเพิ่มเติมนะคะ... ที่ว่า 220-อายุ = max heart rate (MHR) แล้วนำมาคูณด้วย.65 และ .8 จะได้ค่าของอัตราการเต้นหัวใจ ที่คุณควรจะออกกำลังกายอยู่ใน ระหว่างสองค่านั้น (ก็คือ 65%-80% ของ MHR นั่นเอง) ค่าที่หาได้จากการคำนวณแบบนี้ จะไม่ค่อยเที่ยงตรงเท่าไรนัก เนื่องจากความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหัวใจ และปอด ของแต่ ละคนไม่เท่ากัน ซึ่งถ้าจะให้แม่นยำมากยิ่งขึ้น ต้องวัด Rest Heart Rate ก่อน แล้วค่อยมาหาค่า Max Heart Rate อีกที ตัวอย่างของยายหนู ถ้าเอา220ลบด้วยอายุ ค่าของMax HR ที่ได้คือ 220-50=170 แต่ถ้าวัด Rest HR ซึ่งอยู่ที่ 52ครั้ง/นาที แล้วมาหาค่า Max HR ค่าที่ได้คือ158 ปล. RHR ของยายหนูจะต่ำกว่า ผู้หญิงซึ่งมีอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน ที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย RHR ของพวกเขาจะสูงกว่าและเหนื่อยง่ายกว่า) อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่บล็อก http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=trymythai&date=09-05-2011&group=38&gblog=8 จากคุณ : ยายหนูAK เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 07:47:04

ความคิดเห็นที่ 12 ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ ค่ะ ^^ จากคุณ : เหมียวสีส้ม เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 09:04:24

ความคิดเห็นที่ 13 ขอบคุณค่ะ ชอบอ่านที่คุณน้ายายหนูAKเขียนนะคะ มีประโยชน์มากและหนูก็กำลังปฏิบัติตามอยู่ค่ะ เรื่องออกกำลังเนี่ย คุณน้าเป็นไอดอลของราเลยค่ะ จากคุณ : The Starry Night เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 09:11:27

ความคิดเห็นที่ 14 คิดถึงกระทู้มีประโยชน์แบบนี้จริง โดยเฉพาะของพี่ยายหนู   ขอบคุณค่ะ จากคุณ : ouantuan เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 10:03:47

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณ(แม่)พี่ยายหนูสำหรับข้อมูลดีๆและมีประโยชน์มากๆนะค่ะ Eat Right, Exercise more ยังใช้ได้ผลดีกับการลดไขมันค่ะ :) จากคุณ : คุณหนูเอ๊าะอ๋อ เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 10:49:36

ความคิดเห็นที่ 16 เดี่ยวนี้ ผมออกกำลังกาย คาร์ดิโอ ครั้งละ สิบ นาที เองครับ วันละสองครั้ง เช้าเย็น ให้อยู่ในระดับ heart rate สูงพอสมควร  รู้สึกได้เลยว่า หายแต่ไขมันจริงๆ กล้ามเนื้อแข็งแรง  แต่ไม่แนะนำสำหรับ คนที่ยังมี fat ในตัวสูงนะครับ จากคุณ : white love เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 11:00:48

ความคิดเห็นที่ 17 ขอบคุณคุณยายหนูมากๆ  ค่ะ มายืนยันว่ากระทู้คุณยายหนู ก้อมีคนสนใจเยอะน๊า ^^ เมื่อก่อนเป็นคนนึงที่ลดน้ำหนักด้วยการ กินน้อยไม่ออกกำลังกาย>>น้ำหนักลด แต่เพราะอ่านกระทู้นึงของยายหนู (ที่เคยลงเมื่อนานมาแล้ว) เรื่องแนะนำให้กินไม่ต่ำกว่า BMR แล้วเพิ่มการออกกำลังกาย + ยกเวท เพื่อให้กล้ามเนื้ออยู่ ได้ไม่ต้องมาเสียใจ กับ โยโย่... ตอนแรกก้อทำใจยากอยู่ค่ะ เรื่องออกกำลังกาย แต่พอตัดสินใจลองวิธีนี้ดูแล้ว สิ่งที่ได้กลับมาคุ้มค่ามากมาย...ตัวเลขลงไม่มาก แต่ขนาดตัวกลับเฟิม และเล็กลงกว่าตัวเลขเยอะเลย.....เมื่อเทียบกับลดด้วยอดอาหารอย่างเดียว ที่ตัวย้วย ๆ ไม่เฟิม แต่ได้ตัวเลขน้อย ๆ เค้าชอบแบบตัวเฟิม ๆ มากกว่า - แถมภูมิแพ้เค้ายังดีขึ้นมาก ๆ เลยด้วย ^^V ขอบคุณอีกครั้ง ที่ทู้นั้นทำให้หนูได้สติ....คุณยายหนูเป็นไอดอลของเค้าในเรื่องการออกกำลังกายมาก ๆ เลยค่า ^^V จากคุณ : Molajung เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 11:13:52

ความคิดเห็นที่ 18 แวะมาแจกกีบก่อน.....น่าสนใจมากค่ะอ่านผ่านๆ 1 รอบถ้วน... เด๋วว่างจะกลับมาอ่านแบบวิเคราะห์เจาะลึกอีกทีนะคะ ขอบคุณ คุณยายหนูมากๆค่ะ... กระทู้สร้างสรรค์..... จากคุณ : babbbirdbird เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 11:23:50

ความคิดเห็นที่ 19 ข้อมูลแน่นมากเลยครับ จากคุณ : องค์ชายกำมะลอ เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 11:30:31

ความคิดเห็นที่ 20 ขออนุญาตเอาลิ้งไปฝากเพื่อนๆเฟสด้วยนะคะ มีประโยชน์มาก ขอบคุณค่า ^^ จากคุณ : GetCha เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 11:45:01

ความคิดเห็นที่ 21 แรก ๆ ก็ออกกำลังกายด้วยการเต้น cardio หลัง ๆ เล่นแต่ฮูลาฮูป อย่างเดียว   เซ็งตัวเองเหมือนกัน ทำไมขี้เกียจอย่างนี้ จากคุณ : golove2 เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 12:21:10

ความคิดเห็นที่ 22 ปัจจุบัน Cardio ไม่เกิน 40 นาที เอาเวลาที่เหลือไปเวทดีกว่า จากคุณ : =U_U= PoRpLe เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 13:41:00

ความคิดเห็นที่ 23 ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีดีค่ะ จากคุณ : หนูภี ณ นางพิมพ์ เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 15:14:16

ความคิดเห็นที่ 24 ขอบคุณกระทู้พี่ยายหนูนะคะ วิเคยอ่านกระทู้ของพี่เมื่อนานมาแล้ว ตอนเข้าคลับนี้ใหม่ ๆ เมื่อปีที่แล้วค่ะ  เปิดความคิดวิเรื่องลดน้ำหนักเลยทีเดียว เพราะเค้าก็คิดว่าการกินน้อย ออกกำลังกายเยอะ ทำให้น้ำหนักลงดี แต่มันก็ไม่เคยสำเร็จซักที ทุกข์ตลอด กินน้อยตะบะแตก ออกกำลังกายเยอะเกินก็เบื่อ  (ส่วนตอนนี้กินเยอะยังกะไม่ใช่คนลดน้ำหนัก แต่ก็พยายามกลับมาโหมดเดิมค่ะ) วิอ่านไม่เข้าใจทั้งหมดนะคะ อย่างพวกคำนวน บอกกันตรงๆ ติด 0 ^^ และชอบมาก ๆ เรื่อง การออกกำลังกายคาดิโอแยกกันกับการเวท เพราะวิก็แยกอยู่ ก็ยังคิดว่ามันจะดีหรือเปล่า แต่การออกกำลังกายของวิไม่ค่อยได้เรื่อง เพราะ คาดิโอ 90%เวท 10%(ถึงเปล่าหรือ 5 ) แต่แยกกันดีค่ะ เพราะเวลาเวทดูซีรี่เกาหลีอยู่ ^^(แล้วมันจะได้อะไรมั้ยนี่) ขอบคุณนะคะที่เอามาฝาก ที่ผ่านมาพี่ยายหนูหายไป ขอบอกว่าคิดถึงกระทู้แบบนี้มาก ๆ เลยค่ะ จากคุณ : meawki8 เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 16:09:52

ความคิดเห็นที่ 25 เข้ามาให้กำลังใจพี่สาวคนเก่งค่ะ ^^. จากคุณ : สาวสยาม เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 21:51:58

ความคิดเห็นที่ 26 บทความทั้งหมด จะเหมาะสมกับผู้ใด ต้องแยกแยะกันอีกที เสนอเพื่อเป็นแนวทางเฉยๆ แต่ตามหลักการ ตารางการออก กำลังกายเพื่อกระชับกล้ามเนื้อ จะมีลักษณะดังนี้ จันทร์...บริหารกล้ามเนื้อทั่วร่าง อังคาร...คาร์ดิโอ พุธ...บริหารกล้ามเนื้อทั่วร่าง พฤหัส...คาร์ดิโอ ศุกร์...บริหารกล้ามเนื้อทั่วร่าง เสาร์...คาร์ดิโอ อาทิตย์...พัก ถ้าฝึกแบบเพาะกาย จะออกมาอีกแบบหนึ่ง วันจันทร์ อก, หลัง, ท้อง Barbell Bench Press // Bent-Over Row 4 x 12-15 Incline Dumbbell Press // Lat Pull-down 4 x 12-15 Cable Crossover // One-Arm Dumbbell Row 4 x 12-15 Crunch // Hyper-extension 4 x 15-20 วันอังคาร Cardio 60 นาทีก่อนอาหารเช้า วันพุธ ต้นขาด้านหน้า-หลัง, น่อง, ท้อง Squat // Leg Curl 4 x 12-15 Leg Press // Leg Extension 4 x 12-15 Lunge // Stiff-Leg Dead-lift 4 x 12-15 Standing Calf Raise // Leg Raise 4 x 15-20 วันพฤหัสบดี Cardio 60 นาทีก่อนอาหารเช้า วันศุกร์ ไหล่, ต้นแขนด้านหน้า-หลัง, ท้อง Seated Dumbbell Press // Lateral Raise 4 x 12-15 Bent-Over Lateral Raise // Shrug 4 x 12-15 Standing Barbell Curl // Dip 4 x 12-15 Concentration Curl // Triceps Push-down 4 x 12-15 Sit-Up 4 x 15-20 เคยสับสน เรื่องการคาร์ดิโอ้ก่อนอาหารเช้าเหมือนกัน เพราะ บางบทความ ซึ่งผู้เขียนคนเดียวกัน แนะนำว่า ให้ทานอาหาร ทันทีหลังตื่นนอน เราก็งงอยู่พักใหญ่ ต่อมาก็ถึงบางอ้อ คือ อาหารหลังตื่นนอน ตัวอย่าง นม1แก้ว โยเกิร์ต1ถ้วย หรือกล้วย หอมครึ่งผลนั้น ไม่นับเป็นอาหารเช้า แต่เป็นมื้อหลังตื่นนอนที่ ร่างกายควรได้รับทันที ท้ายสุด ก็พอจะสรุปได้ว่า กล้ามเนื้อต้องการโปรตีน หรือสาร อาหารทุกๆ 3ชั่วโมง ถ้าคาร์ดิโอในขณะท้องว่าง จะกลายเป็น สลายกล้ามเนื้อ เฮ้อ มันเกินไปหรือเปล่านั่น แต่เคยถามคนที่ไปวิ่งตอนเช้าๆ กลับบอกว่า ไม่ควรทานอะไร เลย ร่างกายจะได้นำเอาไขมันออกมาใช้ แต่แนวเพาะกายบอก ว่า เป็นการป้องกันกล้ามเนื้อสลาย มันเป็นการทานเพื่อเพิ่ม ระบบการเผาผลาญไขมัน ให้ทำงานได้ดียิ่งขึ้น it take calories to burn calories!! นักวิ่งหุ่นเพียวลม นักเพาะกายหุ่นล่ำบึก ทั้งสองประเภท แข็งแรงเหมือนกัน แต่ปฏิบัติคนละแนวทาง ทีนี้ก็อยู่ที่พวกเราล่ะ ว่าจะชอบและเลือกแบบไหน... จากคุณ : ยายหนูAK เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 22:05:18

ความคิดเห็นที่ 27 ความคิดเห็นที่ 21 แรก ๆ ก็ออกกำลังกายด้วยการเต้น cardio หลัง ๆ เล่นแต่ฮูลาฮูป อย่างเดียว   เซ็งตัวเองเหมือนกัน ทำไมขี้เกียจอย่างนี้ จากคุณ  golove2 ---------------------------------------- อาจเป็นเพราะ คลาสเต้นแอโรบิกมันหนักเกินกว่าความแข็ง แรงของร่างกายคุณ แต่ฮูลาฮูป ก็เป็นคาร์ดิโอ้อีกแบบหนึ่ง ซึ่งจัดอยู่ในประเภท Low Intensity Exercise ค่อยๆฝึก และเพิ่มความหนักหน่วงขึ้นแบบเปฌนขั้นตอน เหมือนการขับเคลื่อยรถยนต์ ไม่นานก็จะเต้นแบบไม่เหนื่อย จากคุณ : ยายหนูAK เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 22:11:29

ความคิดเห็นที่ 28 ยอมรับว่า เมื่อก่อน ท้อและยอมแพ้กลุ่มที่ทานน้อยๆ จนต้องถอยและหายหน้าไป ได้แต่ปลง อุเบกขา "ผลของการกระทำ ย่อมเกิดแก่ผู้กระทำ" หลังจากทิ้งไปนานเกือบปี มีเรื่องธุรกิจ กับปัญหาครอบครัว ทำให้กิน ดื่มจนน้ำหนักเพิ่ม เลยกลับมาลดต่อ และเห็นเพื่อนๆหลายคน สนใจการฝีกเวท เนื่องด้วยเราชอบอยู่แล้ว จึงไม่รีรอที่จะกลับเข้ามาให้คำแนะนำอีกครั้ง และจะทำเท่าที่พอจะหาเวลาได้... ขอบคุณ เพื่อนๆ ลูกๆ หลานๆ ทุกๆคน... Love Your Body จากคุณ : ยายหนูAK เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 22:19:01

ความคิดเห็นที่ 29 ขอบคุณจริงๆ มีความรู้มากๆค่ะ แต่สงสัยว่าถ้าเรารูปร่างใหญ่อยู่แล้ว อาจเพราะกระดูกและกล้ามเนื้อ เวลาออกกำลังกายเยอะๆ แล้วจะล่ำมั้ยคะ หรือว่าจะดึง นน ลงก่อน ค่อยลุยออกกำลังไปเลย จากคุณ : Tannlege เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 22:48:19

ความคิดเห็นที่ 30 ลองเข้าไปอ่านดูนะคะว่า รูปร่างของคุณ จัดอยู่ในประเภทใด 1หรือ2 http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=trymythai&date=09-04-2011&group=36&gblog=1 http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=trymythai&date=10-04-2011&group=36&gblog=2 จากคุณ : ยายหนูAK เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 02:15:50

ความคิดเห็นที่ 31 ------------------------------------------------------------------ ความคิดเห็นที่ 10 สวัสดีค่ะนายหลาน ไช่คนที่แนะนำการกระโดดเชือกหรือเปล่า หลัง จากยายหนูเข้าไปดูในคลิป ก็ไปซื้อเชือกมากระโดดบ้าง แต่มันยาวไปก็เอาไป เปลี่ยน มีส่วนสูงของผู้ใช้บอกข้างกล่อง และก็ตรงตามวิธีที่คุณแนะนำ แต่ พอมาฝึกกระโดดดู 555 มันไม่ง่ายอย่างที่คิดเลยอ่ะ สะดุด ตลอด แต่ก็เหนื่อยดี... เลยเปลี่ยนมากระโดดลม ไม่มีสะดุดเลย ไม่เชื่อลองดู..คริคริ -------------------------------------------------------------------- ใช่แล้วครับป้าหนู  ผมคือคนที่โพสต์แนะนำ การทำคาร์ดิโอด้วยการกระโดดเชือกที่ถูกวิธีบ่อย ๆ  ตามลิงค์นี้ เองแหละ http://topicstock.pantip.com/supachalasai/topicstock/2010/08/S9536602/S9536602.html ทั้งหมด ก็เพื่อลดความเข้าใจผิด ๆ ของคนไทย   ที่ชอบคิดว่ากระโดดเชือกแล้วข้อเข่าจะพังไวเพราะมีแรงกระแทกเยอะ อ่ะครับ ซึ่งจริง ๆ แล้ว การกระโดดเชือกเป็นการทำคาร์ดิโอที่มีประสิทธิภาพมาก   เหนื่อยจริงและเร่งอัตราการเต้นของหัวใจได้เร็ว ที่สำคัญทำเองที่บ้านได้  ไม่ต้องไปฟิตเนส หรือออกไปวิ่งรอบสวนสาธารณะหรือหมู่ บ้าน คือมันทั้งสะดวกและประหยัดอ่ะ เป็นเรื่องจริงเลย ที่กระโดดตอนแรก ๆ แล้วเชือกจะสะดุด ติดแขนติดขาบ่อย ทำต่อเนื่องไม่ได้นาน ๆ พวกโปรฯ หรือเทรนเน่อร์ฝรั่ง มักอธิบายว่า เพราะมันเป็นการออกกำลังที่ต้องอาศัยทักษะที่ต้องการ การฝึกฝนมาก ๆ ไม่ต่างจากการว่ายน้ำหรือการขี่จักรยาน  ซึ่งการฝึกช่วงแรก ๆ ก็อาจมีล้มบ้าง  จมน้ำบ้าง แต่ถ้าฝึกบ่อย ๆ เข้า มันก็จะคล่อง  และทำได้อย่างชำนาญในที่สุดครับ กระโดดเชือกลม โดยไม่ใช้เชือก ผมก็กระโดดอยู่นะครับ ในตอนวอร์มอัพ แต่ใช้เชือกจริงกระโดด มันท้าทายกว่า  และได้เช็คสติเราด้วย ว่าอยู่กับเนื้อกับตัวแค่ไหน คือถ้าจิตหลุดไปนิดเดียว  เชือกก็จะสะดุดเท้าทันที ทุกวันนี้ก็ยังกระโดดเชือกอยู่ และยังมีสะดุดเชือกอยู่บ้าง แต่ส่วนใหญ่แล้ว จะทำต่อเนื่องได้ยาว ๆ เกิน 10-15 นาทีขึ้นไป โดยไม่สะดุดเลยอ่ะครับ (คือโดดเชือกแทบทุกวันมาไม่ต่ำกว่า 3-4 ปีอ่ะ  ... คริคริ) จากคุณ : นายหลาน เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 02:29:20

ความคิดเห็นที่ 32 มือ เท้า จังหวะ สมาธิ....จะลองฝึกดูค่ะ จากคุณ : ยายหนูAK เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 05:51:39

ความคิดเห็นที่ 33 ขอบคุณมากค่ะ ... เพิ่มเติมความรู้ดี ๆ มีประโยชน์อีกแล้ว ชอบค่ะ จากคุณ : หนุงหนิง (หะนุง-หะนิง) เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 16:09:32

ความคิดเห็นที่ 34 ขอคำแนะนำหน่อยค่ะ พอดีตอนนี้กำลังลดน้ำหนัก...แต่ก็ไม่อยากให้กล้ามเนื้อหาย... ก่อนหน้านี้ออกกำลังกายโดยการเต้นแอโรบิค ~1 ชม. สามวันต่อสัปดาห์ ไม่ได้ควบคุมอาหารอย่างเคร่งครัด...ลดน้ำหวานและของว่างจุกจิก ปรากฏว่า 4 สัปดาห์ น้ำหนักไม่ลดลงซักขีดเลยค่ะ... หลังจากนั้นก็เริ่มควบคุมมากขึ้น โดยพยายามลดคาร์โบ+ไขมัน แต่ไม่ได้เคร่งครัดมาก และยังทาน 3 มื้อเหมือนเดิม.. ออกกำลังกายโดยการเต้นแอโรบิค ~1 ชม.+วิ่งอีก ~ 15-20 นาที (หลังๆแออย่างเดียวเริ่มชินไม่ค่อยเหนื่อยเลยเพิ่มวิ่งเข้าไป) บางวันเข้าฟิตเนส วอร์มอัพด้วยวิ่งลู่ ~ 15 นาที เล่นเวทเกือบทุกส่วน ประมาณ 1 ชม. ปิดท้ายด้วย วิ่งลู่ปั่นจักรยานหรือไม่อิคลิบปิตอลเบาๆอีกประมาณ 30 นาที ~4-5วัน/สัปดาห์ 2 สัปดาห์ผ่านไปลดไป 2 kg. แล้วสัปดาห์นี้ก็ลดไปอีก 1 kg. รู้สึกว่าน้ำหนักมันลดเร็วไปรึเปล่า..เพราะที่ผ่านมาเดือนแรกไม่ลดเลย... อยากทราบว่าต้องทำอย่างไรต่อไป...แบบนี้เรียกว่าหักโหมเกินไปมั้ยคะ ต้องปรับอะไรยังไงคะ?? อยากลดแบบสุขภาพดีอ่ะค่ะ ปล.เดี๋ยวนี้เริ่มรู้สึกติดการออกกำลังกาย...ถ้าไม่เหนื่อยก็จะไม่เลิก... วันไหนทำงานมาเหนื่อยๆสังขารบอกว่าไม่ไหวแล้ว...แต่ใจก็จะนึกเสียดายว่าวันนี้อดออกกำลังกาย.. จะมีวิธีแก้ยังไงดีคะ?? จากคุณ : i-tawan เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 20:45:19

ความคิดเห็นที่ 35 เพิ่มเติม ก่อนหน้านี้ BMI 24 กว่าๆ แต่มีไขมันส่วนเกินเพียบ อยากได้ BMI ซัก 21 แต่มีกล้ามเนื้อ <----มันจะน้อยไปมั้ยคะ?? ยังเหลือที่ต้องเอาออกไปอีก ~4 kg. ควรวางแผนให้อัตราการลด มันประมาณไหนดีคะ?? สัปดาห์ละกิโล...นี่รู้สึกว่าเร็วไปหน่อย...กลัวกล้ามเนื้อหาย จากคุณ : i-tawan เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 21:25:28

ความคิดเห็นที่ 36 ขอบคุณพี่ยายหนูมากๆเลยคะ มายกมือหนับหนุนอีกเสียงเล็กๆเพื่อเป็นกำลังใจแด่ผู้สอนว่า ใช้หลักควบคุมอาหารและออกกำลังกาย ไม่มีทานน้อยเด็ดขาด  มันต๊อแต๊ไม่มีแรงงงง แต้วชอบอ่านกระทู้ที่พี่ยายหนูโพสนะคะและพยายามนำมาปรับให้เหมาะกับตัวเองตลอด เมื่อก่อนหน้านี้พี่ยายหนูอึด บ้าพลังและฟิตม๊ากมาก จนตัวเองอาย ฮึดลงมือเล่นเวทบ้าง ตอนนี้แต้วใช้โปรแกรมใน #26 อยู่คะ สนุกสุดๆ อิอิ จากคุณ : ts_ukjaii เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 21:41:45

ความคิดเห็นที่ 37 ร่างกายของคนเราจะเผาผลาญแคลอรี่ด้วยอุณภูมิภายในร่างกาย ซึ่งต้องร้อนในระดับหนึ่ง ดังนั้น ช่วงแรกของการออกกำลังกาย อุณหภูมิภายในร่างกายยังไม่สูงพอ เหมือนเราตั้งหม้อน้ำบนเตาไฟ เปิดไฟแรงสูงปุ๊บ น้ำจึงยังไม่เดือด ต้องรอสักพัก จะเริ่มจากอุ่น ก่อน แล้วค่อยร้อน หลังจากเดือด น้ำก็จะค่อยๆลดลง ร่างกายของคนเราก็ประมาณนั้นนะคะ และด้วยสาเหตุนี้ จึงทำให้สัปดาห์ต่อๆมาน้ำหนักลดลงดี ดูจากการออกกำลังกาย ก็ดีนะคะ ไม่มากจนเกินไป แล้วคุณก็ยังรู้สึกดีอีกด้วย คราวนี้ต้องดูที่อาหารล่ะคะ ว่าคุณทานน้อยเกินไปหรือเปล่า ฝึกเวทด้วย น่าจะทานมากกว่า3มื้อนะคะ เพื่อรักษามวลกล้ามเนื้อ โดยเพิ่มหลังตื่นนอน และก่อนเข้านอนด้วยโปรตีนเช็ก หรือนมสักแก้วก็พอ... น้องแต้ว...ตอนนี้พี่ยายหนูอายแต้วแล้วล่ะ...อิอิ คุณหนิง...สบายดีนะคะ หลังไมค์ไปแล้วนะ... จากคุณ : ยายหนูAK เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 23:31:11

ความคิดเห็นที่ 38 คุณตะวัน ได้เข้าไปอ่านบทความนี้หรือยัง http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=trymythai&date=10-04-2011&group=36&gblog=2 จากคุณ : ยายหนูAK เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 23:33:12

ความคิดเห็นที่ 39 สงสัยว่าจำเป็นไหมคะที่ต้องคุมเเคลอรี่ให้ไม่เกิบ1200เเคลอรี่ต่อวัน ตอนนี้ยกเวทด้วยดัมเบลล์สลับกับเต้นเเอโรบิคที่บ้านค่ะ ตัวเล็กลงเเต่น้ำหนักกลับเพิ่มขึ้น พยายามควบคุมพวกขนม ของหวาน ลดเเป้งลง เเต่น้ำหนักก็ไม่ลงเลยค่ะ จากคุณ : Mollis เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 23:41:53

ความคิดเห็นที่ 40 ขึ้นอยู่ที่ว่าตอนนี้น้ำหนักของคุณเท่าไร และก่อนหน้านี้คุณเคยทานแบบอด หรือน้อยๆ จนระบบการเผาผลาญลดต่ำลงหรือไม่ ยกเวทที่บ้าน ไม่อยากบอกว่า ที่น้ำหนักเพิ่มขึ้นเพราะได้มวลกล้ามเนื้อเพิ่ม เพราะความเป็นไปได้ มันน้อยมาก แต่ที่พอจะเป็นไได้ก็คือ กล้ามเนื้อขยายแล้วอมของเหลวไว้ การแอโรบิกของคุณ อาจจะอยู่ในโซน Interval ซึ่งเพิ่มควางแข็งแรง ให้กับร่างกาย+เผาผลาญไขมัน น้ำหนักจึงลดช้า และ.... คุณหลุดทานมื้อดึกหรือเปล่า? จากประสบการณ์ซึ่งเป็นคนที่ทานมื้อดึกบ่อย เพราะทำร้านอาหาร กว่าจะเสร็จงานก็3-4ทุ่ม ถึงแม้ว่าจะควบคุมแคลอรี่ตามกำหนด น้ำหนักก็ไม่ลดเหมือนกัน ดังนั้น นอกจากจะออกกำลังกายเก่งแล้ว ถ้าหลุดมื้อดึกนี่ หมดเลย เพราะเราจะได้แค่ความ แข็งแรง รูปร่างและสัดส่วนกระชับ แต่น้ำหนักไม่ลด... จากคุณ : ยายหนูAK เขียนเมื่อ : 8 มิ.ย. 54 02:48:03

ความคิดเห็นที่ 41 ขอบคุณ คุณยายหนูAK มากๆค่ะ...พอดีช่วงนี้กำลังสนใจเล่นเวท ก็ตามอ่านศึกษาข้อมูลจากหลายๆที่รวมถึงที่บลอคคุณยายหนูฯ อยู่บ่อยๆด้วยค่ะ หลังจากน้ำหนักลดฮวบ...คิดว่าคงหักโหมมากไป...อาทิตย์นี้เลยชะลอแล้วก็พักซะส่วนใหญ่ คุณยายหนูฯคอนเฟิร์มแบบนี้ก็จะได้กลับไปลุยต่อค่ะ :D ส่วนเรื่องอาหารตอนนี้ไม่ได้นับแคลค่ะ...เพราะเคยนับแล้วรู้สึกประสาทจะหลอน เครียดกว่าออกกำลังกายซะอีก..ฮาาาาาาา ก็เลยกะๆเอา พยามยามลดแป้ง น้ำตาล ไขมัน  เน้นโปรตีน+ไฟเบอร์ ขอบคุณอีกครั้งค่ะ ู^_________________________^ จากคุณ : i-tawan เขียนเมื่อ : 8 มิ.ย. 54 10:57:08

ความคิดเห็นที่ 42 สงสัยจะหลุดมื้อดึกบ่อยจริงๆอิอิ ขอบคุณ คุณยายหนูAK มากนะคะ ที่สนใจเล่นเวทเพราะคุณยายหนูAKเลยเเหละค่ะ จากคุณ : Mollis เขียนเมื่อ : 8 มิ.ย. 54 22:19:08

ความคิดเห็นที่ 43 คุณ Mollis คุณไม่ต้องกลัวนะ เพราะถึงแม้ว่าน้ำหนักจะไม่ลด แต่สัดส่วนลดลงแน่นอน มื้อเย็นประมาณ5-6โมง เน้นเนื้อสัตว์และผักจะอิ่มนาน ดึกๆจะได้ไม่หิว และเข้านอนไม่เกิน4ทุ่มมิเช่นนั้นจะต้องหลุดทาน มื้อดึกอีกรอบ ทำให้ระบบขับถ่ายเคลื่อนอีก... อย่าออกกำลังกายแบบหักโหม หรือหนักเกินไป ทำแบบสบายๆ จะทำได้นาน สม่ำเสมอและตลอดไป จากคุณ : ยายหนูAK เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 09:29:07

ความคิดเห็นที่ 44 ตอนนี้ปรับเวลามื้อเย็นเร็วขึ้น เเต่ก็ต้องนอนดึกเพราะงานหนักค่ะ ถ้าหิวมื้อดึก ดื่มนมเเละทานผลไม้พอได้ไหมคะ บางทีชั่งน้ำหนักเเล้วก็ท้อเพราะน้ำหนักไม่ลดเลย   แต่ได้รับคำเเนะนำเเบบนี้ จะพยายามต่อไปค่ะ จากคุณ : Mollis เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 12:57:28

ความคิดเห็นที่ 45 ถ้าอยากให้น้ำหนักลดลง ไม่แนะนำให้ดื่มหรือทานอะไรตอนดึกค่ะเพราะคุณต้องการเห็นน้ำหนักลด แต่ของคุณตะวัน เธอต้องการรักษามวลกล้ามเนื้อ ไม่อยากให้น้ำหนักลดเร็วเกินไป.. ขอดูตารางอาหารและเวลาออกกำลังกายได้ไหมคะ จะได้แนะนำได้ถูก จากคุณ : ยายหนูAK เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 14:24:32

ความคิดเห็นที่ 46 ยยังไม่ได้อ่านนะค่ะ  แต่อย่าลีมโยคะด้วยค่ะ จากคุณ : รักน้อยนิด เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 23:05:31

ความคิดเห็นที่ 47 ตามมาเก็บข้อมูลค่ะ กำลังตั้งใจจะลดให้ได้สัก 6-7 kg มีปัญหาคือ ไม่ได้ออกกำลังกายแต่กินน้อย อ้วนเป็นส่วนๆ ตอนนี้งดปริมาณอาหารอยู่คะ จากคุณ : curinrin เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 54 18:18:25