|
ผู้หญิงกับบิกินี่เป็นของคู่กัน ไม่ว่าสาวๆชาติไหนก็ชอบกันทั้งนั้น
เรื่องของชุดชั้นใน ,เรื่องของบีกินี่นั้น ไม่ใช่เรื่องเล้กๆเลยนะครับ แต่เป็นเรื่องใหญ่ของสาวๆเลย
"นีน่า กราเซียส์" เป็นดีไซเนอร์ของ มาร์ค เจค็อบส์ และยังเป็น ผอ.ฝ่ายแฟชั่นของ มารี แคลร์ ประมาณว่าเหมือนนิตยสาร "แพรว" บ้านเรานี่แหละพูดไว้ได้น่าสนใจมาก
ในฐานะคนที่ทำมาหารับประทานอยู่ในแวดวงแฟชั่น นีน่าให้ความสำคัญกับเรื่องของชุดชั้นในมากๆ
นีน่าบอกว่าชุดชั้นในคือโลกแห่งความมหัศจรรย์ของผู้หญิงเลยก็ว่าได้
เจ๊นีน่าแกเขียนหนังสือมา 1 เล่ม ชื่อว่า The one hundred ประมาณว่าเป็นของ 100 อย่างที่สาวๆควรจะต้องมีไว้กันทุกคน
เจ๊นีน่าแกยกย่องว่า สิ่งประดิษฐ์ที่สุดยอดที่สุดในศตวรรษที่ 20 ก็คือ พุช อัพ บรา หรือ "บราดันทรง" ครับ
เพราะมันช่วยให้สาวๆได้มี "ร่องอก" ที่ตื่นตาตื่นใจ
เป็นนวัตกรรมที่เปลี่ยนโลกของผู้หญิงอย่างแท้จริง อันนี้นีน่าไม่ได้พูดหรอก แต่ผมพูดของผมเอง
แม้แต่ซุปเปอร์โมเดลหลายต่อหลายคน ก็ยังใช้ พุช อัพ บรา มาเสริมร่องอกให้ดูเย้ายวน มีแน่ๆคนนึงก็คือ เคท มอสส์ นี่แหละครับที่ยอมรับว่าเธอใช้พุช อัพ บรา
เคทบอกว่าแทบจะขาดมันไม่ได้เลย และมีร่องอกสวยได้ก็เพราะมันนี่แหละ
พุช อัพ บรา เป็นนวัตกรรมจากอังกฤษ ที่ผลิตขึ้นในปี 1994 ครับ...และแน่นอนว่ามันข้ามฝั่งไปอเมริกาอย่างเร็วไว
ที่สำคัญมันได้รับการต้อนรับ และได้รับความนิยมประมาณว่าเป็น "พ๊อพ คัลเจอร์" ได้เลย
อันนี้นีน่าก็ไม่ได้พูดนะครับ...ผมก็พูดของผมเองอีกเช่นกัน
เพราะอะไรที่เป็นวัฒนธรรมร่วมสมัย และเป็นที่นิยม มันก็น่าจะเป็น "ป๊อบ คัลเจอร์" อยู่หรอก
ตอนที่ พุช อัพ บรา มาถึงอเมริกานั้น สาวๆตื่นเต้นกันมาก ..และทำยอดขายได้มโหฬาร มโหฬารขนาดไหน..ก็ขนาด 15 วินาทีขายได้ 1 ตัวเลยแหละ
นอกจาก พุช อัพ บรา ที่ทรงอิทธิพลแล้ว นีน่ายังยกย่อง "บิกินี่" ว่าเป็นอีก 1 ในสิ่งที่สาวๆต้องมี
ผมมองว่าบิกินี่มันทำให้ชีวิตมี "ไฟ" ครับ
อาจไม่มีใครรู้ว่าเราใส่บิกินี่ แต่หากเรารู้ตัวเองว่าเราใส่อยู่ มันทำให้ "ไฟ" ในตัวของเราคุโชน....ผมเชื่อแบบนั้น
ที่สำคัญมันเย้ายวนและอีโรติค จนทำให้ทั้ง "คนใส่" และ "คนข้างกายของคนใส่" กระชุ่มกระชวยได้อย่างไม่น่าเชื่อ....
จริงๆแล้วตอนที่ หลุยส์ เรอาร์ด และ ชาร์ก แอมม์ ได้ช่วยกันคิดออกแบบไอ้สิ่งที่เราเรียกว่าบิกกินี่ออกมานั้น ทั้งคู่ยังงงๆ และไม่รู้เลยว่าจะตั้งชื่อสิ่งประดิษฐ์นี้ว่าอะไรดี
แต่พอดีมีการทดลองระเบิดนิวเคลียร์ ที่เกาะเล็กๆแห่งหนึ่งชื่อว่า "บิกินี่ อาดอลล์" ทั้งคู่ก็เลยปิ๊งไอเดีย และตัดสินใจใช้ชื่อมันว่า "บิกินี่"
โดยหารู้ไม่ว่าผ้าผืนเล็กๆจิ๋วๆ 2 ชิ้นที่เขาสร้างมันขึ้นมา มันจะมีพลานุภาพไม่ต่างไปจากระเบิดนิวเคลียร์ต่อความรู้สึกของผู้ชายซะจริงๆ
ขอชื่นชม "ผู้หญิงของโลกนี้" ทุกๆคน ที่ใส่บิกินี่และได้ทำบุญให้กับผู้ชายทั้งโลกได้กระชุ่มกระชวยครับ
จากคุณ |
:
ตุ้ม แม็คคาร์ทนี่ย์ (Toom McCartney)
|
เขียนเมื่อ |
:
23 มิ.ย. 54 13:27:37
|
|
|
|
|