ความคิดเห็นที่ 1 แก้ไขเมื่อ 27 มิ.ย. 54 15:56:06 จากคุณ : ยายภูธร เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 54 09:08:09

ความคิดเห็นที่ 2 ทุกความเห็นตรงนี้ ไม่สูญเปล่าค่ะ แต่เราขอเหตุผลด้วยนะคะ จากคุณ : ผู้หญิงกลางคืน เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 54 09:11:10

ความคิดเห็นที่ 3 ขออนุญาต ลบค่ะ..ความเห็นส่วนตัว.. แก้ไขเมื่อ 27 มิ.ย. 54 15:55:48 จากคุณ : ยายภูธร เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 54 09:17:21

ความคิดเห็นที่ 4 อยากให้เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ดึงกระทู้นี้ไปแปะตามห้องอื่นๆ ที่แต่ละคนเข้าไปเล่นประจำ เพื่อที่ว่าจะได้ทั่วถึงกัน เราเองก็ไม่รู้จะทำวิธีไหนแล้ว ช่วยๆกันนะคะ ปัญหาสังคม ถ้าคนในสังคมไม่ช่วยกัน ก็ไม่รู้เหมือนกัน ว่าใครจะช่วยแก้ !!! จากคุณ : ผู้หญิงกลางคืน เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 54 09:31:19

ความคิดเห็นที่ 5 จริงๆแล้วการรักษาพยาบาลไม่ว่าสิทธิ์อะไรก็ตามเป็นเหมือนการขึ้นเครื่องบินโดยสารครับ ไม่ว่าใช้ชั้นประหยัด ชั้นหนึ่งหรือชั้นธุรกิจ ย่อมถึงปลายทางเหมือนกัน แต่ต่างกันที่พรีเมียม คราวนี้ รพ. (บางโรง เพราะ รพ.ที่ผมเคยเข้ารักษาไม่ว่าจ่ายเองหรือบัตรทองหรือประกันสังคม เสมอภาคค่อนข้างมากครับ (เว้นแต่ยาจะให้เฉพาะในบัญชียาหลัก)) หลายที่ มาแบ่งแยกเกรดลูกค้า (โดยเฉพาะ รพ. เอกชนที่รับสิทธิ์พวกนี้) ทำให้อุดมคติของเรื่องนี้มีปัญหาครับ จากคุณ : CuSO45H2O เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 54 09:36:13

ความคิดเห็นที่ 6 รีบมาเตือน เพื่อนๆ อ่านแล้ว แยกแยะให้ดี จขกท อย่ามั่ว   ลองตั้งสติ อ่านข้อความที่คุณโพส เล่าเรื่องลำดับความให้ดีๆ ปัญหาของคุณ อยู่ที่ 1) ประชาสัมพันธ์ เขาตอบตามปกติว่า จนท.รพ. : อืม...ตอนนี้เคาน์เตอร์รพ.ยังไม่เปิดนะคะ เปิดตอน 8 โมงเช้าค่ะ 2) จขกท ยังไม่ทันไร ก็เอาอารมณ์เป็นใหญ่ ใส่อารมณ์กับ ประชาสัมพันธ์ทันที จขกท ตะคอกว่า (ผมใช้คำว่า ตะคอก คงไม่ผิดแน่) ...เราโมโหมากกับคำตอบของเธอคนนั้น คิดในใจ ตอบมาแบบนี้ รพ.คุณมาตรฐานระดับไหน เปิดทำไม 24 ชม. เสร็จแล้ว ด้วยก็ไปจับความอึดอัดเรื่องเก่า เอามาเลาเสริม กระพือไฟให้ร้อนขึ้น คนอ่านไม่ทันคิด ...ก็ตามแห่ ไปลงเหว กับ จขกท (ต่อ) จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 54 09:45:31

ความคิดเห็นที่ 7 ผมจ่ายประกันสังคมไปก็ไม่เคยใช้ (10 ปี สำหรับการจ่าย ก่อนป่วยผมมีรายได้ 40,000 บาท) คิดว่าแบ่งให้คนอื่นใช้ เรายังพอมีอยู่ ช่วยได้ก็ช่วยกันไป จนวันนึงผมทุพพลภาพครึ่งซีกขวา เป็นมาตั้งแต่ พ.ค. 52 ประกันสังคมให้อะไรผมกลับคืนมาบ้าง 1) ตอนที่ผมป่วย รักษาโรงพยาบาลใน ปกส. ฟรี 2) ได้ค่าทุพพลภาพ 7,500 บาท ตลอดชีพ ขอย้ำว่า "ตลอดชีพ" 3) ได้ค่ารักษาพยาบาลไม่เกิน 2,000 บาท 4) ได้ค่าเดินทางเหมาจ่าย 500 บาท 4) ผมสามารถเข้ารักษาที่ รพ.รัฐ ฟรี ทุกที่ 5) ค่าทำศพ 6) ค่าชราภาพ แล้วอย่างนี้ ยังจะว่ามันไม่ดี ซักวันนึงคุณก็ต้องแก่ ต้องใช้บัตรทอง ลูกหรือหลานคุณก็คงต้องใช้บัตรทอง แล้วสักวันที่คุณไม่มีรายได้ จะรู้สึก จากคุณ : Torsuriya (torsuriya) เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 54 09:46:57

ความคิดเห็นที่ 8 (ต่อ) นี่เป็นคำพูดของ จขกท เรา : ขอโทษนะคะ คนไข้ฉุกเฉิน คุณตอบคำถามออกมาแบบนี้ได้ยังไง ถ้าเกิดคนจะตายก็หมายความว่าต้องรอ 8 โมงหรอคะ ??????? แผนกฉุกเฉินทางรพ.มีไว้ทำอะไรคะ หรือคนไข้ประกันสังคม ไม่สามารถฉุกเฉินได้ แล้วหลังจากนั้นเค้าก็โอนให้แผนกฉุกเฉิน ซึ่งคุยกับเราดีมาก ผมถามจริงๆ เถอะครับ คุณ จขกท รู้สึกถึงจิตใจของ ประชาสัมพันธ์บ้างไหม ? หัดคิดถึงใจเขาใจเราบ้าง  ถ้าคุณโดนคำถามแบบนี้ บ้างจะรู้สึกอย่างไร นี่เจ้าของกระทู้ เล่นเอาแต่ใจ ประชาสัมพันธ์ เขาไม่ด่า Mee ก็บุญแล้ว จบ แล้ว ผมขี้เกียจพูดกับ "ผู้หญิงกลางคืน"   ครับ จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 54 09:49:49

ความคิดเห็นที่ 9 ไม่แน่ใจว่าสายที่ต่อจากไตคือสายอะไร ถ้าเป็นสายที่ต่อให้ปัสสาวะออกแล้วสายหลุด ก็ต้องให้แพทย์เฉพาะทางใส่ให้ซึ่งก็ต้องรอตอนเช้า เพราะแพทย์ที่อยู่เวรอาจไม่มีแพทย์เฉพาะทาง ส่วนเรื่อง ปกส.+บัตรทอง ได้บริการไม่เท่าจ่ายเอง ผมคิดว่าเป็นเรื่องปกติ รพ.เอกชนต้องการกำไร คุณจ่ายเงินมากก็ได้บริการที่ดีกว่า แต่การบริการไม่เกี่ยวกับการรักษา การรักษามีมาตรฐาน ซึ่งแพทย์ก็ต้องทำตามมาตรฐาน แต่การบริการ เช่น การตรวจเร็ว-ช้า มีความแตกต่างแน่นอน จากคุณ : paramedian เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 54 09:54:46

ความคิดเห็นที่ 10 ตามมาจากเฉลิมไทย เห็นด้วยกับ #6,7,8 จากคุณ : POT BLACK เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 54 10:02:56

ความคิดเห็นที่ 11 ประกันสังคมควรได้รับสวัสดิการดีกว่าบัตรทองครับ . จากคุณ : อัมพัน เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 54 10:07:54

ความคิดเห็นที่ 12 มองอย่างกลางๆ นะคะ ก็เห็นใจ จขกท นะคะ คงร้อนใจ อาจด้วยคุณพ่อเคยได้รับผลจากปัสสาวะไม่ออกมาแล้ว และกลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยเดิมอีก เจ้าตัวก็อยู่ไกลถึงเชียงใหม่ด้วย มันจะเพิ่มดีกรีความร้อนใจไประดับหนึ่งล่ะค่ะ แต่ จขกท. ก็อาจจะถามเรื่องการส่งผู้ป่วยไปห้องฉุกเฉินเลย หรือจะนัดคิวเผื่อมีหมอเฉพาะทางช่วงเช้าออกพอดี โดยไม่ต้องโวยวายโมโหซะก่อน (อันที่จริง ก็ไม่ต้องโทร.ไปถามก็ได้ค่ะ เพราะตอนไปถึงประตูหน้า มักจะมีเวรเปลมารับผู้ป่วยจากรถอยู่แล้ว และจะแยกผู้ป่วยไปตามอาการ) อย่างไรก็ตาม น้ำปัสสาวะมันไม่ได้ท่วมไต หรือทำให้มีน้ำท่วมปอดทันทีในไม่กี่ชั่วโมงอยู่แล้ว สามารถรอได้ในระยะหลายชั่วโมงได้อยู่บ้าง ทางฝ่ายโรงพยาบาล (ประชาสัมพันธ์) ก็น่าจะตอบคำถามได้ดีกว่านี้ ดูแล้วไม่ค่อยมี service mind คนเค้าร้อนใจมา ก็น่าจะมีคำแนะนำดีๆ มากกว่าบอกแค่ว่า เคาน์เตอร์ยังไม่เปิด มันเหมือนกับว่า ยังไม่ใช่เวลาทำงานของฉันนะจ๊ะ เดือดร้อนอะไรก็เรื่องของคุณ ช่วยเหลือตัวเองไปก่อน ห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลมันเปิด 24 ชั่วโมงน่ะค่ะ ถ้ามีคนไข้มาเวลา OPD ไม่เปิด ก็ common sense ว่าเค้าส่ง ER อยู่แล้ว สรุปความบกพร่องอยู่ที่ประชาสัมพันธ์ รพ. นั้่นแหละค่ะ ไม่ใช่ระบบประกันสังคม อันที่จริง ระบบการจ่ายค่ารักษาพยาบาลทุกระบบมีมาจากแนวคิดที่ดี และ support ประชาชนทั้งนั้น มันอยู่ที่คนบริหารและใช้ระบบ รวมโรงพยาบาลและบุคลากรบางส่วนนั่นแหละที่ทำให้ระบบด่างพร้อย มักลืมไปว่าธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนควรทำอยู่บนพื้นฐานคุณธรรมที่เข้มข้นกว่าธุรกิจอื่นๆทั่วไป เพราะต้องชั่งระหว่างกำไรกับชีวิต แล้วอย่าบอกว่าใครทำธุรกิจไม่อยากได้กำไร เพราะโรงพยาบาลได้กำไรอยู่แล้ว เพียงแต่ได้เยอะหรือน้อยเท่านั้นเอง จากคุณ : HEAVENHEART เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 54 10:32:50

ความคิดเห็นที่ 13 เห็นด้วยกับความเห็นที่ 9 นะครับ การรักษานั้นมาตรฐานเดียวกัน แต่ว่าต่างกันที่การบริการ!! รพ.ก็มีค่าใช้จ่ายนะครับ จากคุณ : benzwinny เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 54 10:37:15

ความคิดเห็นที่ 14 ก่อนที่จะเหมาด่าทั้งระบบ เอาแค่ ด่า รพ ที่คุณไปติดต่อด้วย หรือให้ตรงจุด ก็คือ ปชส operator คนนั้น ร้องเรียนไปที่ ผอ.รพ. ดีไหม???? จากคุณ : *Cookies* เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 54 10:40:49

ความคิดเห็นที่ 15 อยากรู้แค่ว่าเงินที่มีเป็นแสนล้านเอาไปไหน ลูกน้องเราเสียเดือนละสี่ร้อยกว่าบาท มี4-5คน เวลาเค้าออกไม่เห็นได้เงินเลยนี่ เราถามเด็กว่าทำไมไม่ได้เงินคืน เขาบอกคนที่มีลูกถึงจะได้ค่าคลอดและให้ลูกอีกเดือนละ150 แล้วคนไม่มีสามีได้อะไรส่งไปเดือนละสี่ร้อยกว่าปีนึ่งตั้งเท่าไหร่แล้ว ได้แค่ค่ารักาษกับคนที่ทำงานอายุครบ 50 ปี เท่านั้นหรือ คนที่ออกก่อน50ไม่ได้หรือ หรือว่าเด็กเข้าใจผิดไปเองเลยไม่ได้อะไร แก้ไขเมื่อ 26 มิ.ย. 54 10:49:00 จากคุณ : นอนหนาวบนยอดดอย เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 54 10:45:36

ความคิดเห็นที่ 16 แล้วอีกอย่าง คุณหวังจะให้ทุกอย่างเท่าเทียมกันไม่ได้หรอก ยิ่งในระบบทุนนิยมแบบนี้ ทีนี้ ตอบคำถาม 1. ในเมื่่อออกบัตรประกันสังคม บัตรสุขภาพมา แล้วห่วยแตกแบบนี้ ออกมาเพื่ออะไร ? **แล้วคุณคิดว่า ก่อนมีระบบประกันสังคม ก่อนมีบัตรทอง บริการมันดีกว่านี้หรือ?? จะบอกให้ว่า มันก็เหมือนกัน รอตรวจเป็นวัน รอคิวผ่ายาวเป็นเดือน  แล้วก็ต้องจ่ายเงินเองด้วย 2. ควรมีกฏ กติกา อะไรที่ทำให้ประชาชนแบบเรารู้สึกว่าไม่ถูกแบ่งแยกได้มั้ย ? ** แบ่งแยกอย่างไรคะ ตอนนี้ ก็คือ แบ่งส่วนระหว่างผู้ใช้บัตรทอง ผู้ใช้ประกันสังคม และผู้ป่วยจ่ายเงิน คุณก็บอกแล้วว่า คุณไม่ได้ต้องการบริการที่เท่าเทียมกับผู้ป่วยจ่ายเงินหรอก แต่นั่นก็คือ การแบ่งแยก ซึ่งแปลว่า คุณก็เข้าใจว่า บริการมันไม่เหมือนกันอยู่แล้ว ไม่งั้นผู้ป่วยจะเลือกไปจ่ายเงินเองทำไม ไป รพ เอกชนทำไม ก็เพราะเขาต้องการบริการที่ดีกว่า ที่ผู้บริโภคมีสิทธิเลือก ถามว่า คนในระบบประกันสังคม เลือกที่จะจ่ายเงินเองได้ไหม คำตอบก็คือ ได้ 3. คุญเคยมั้ย ที่รอหาหมอประกันสังคมในรพ.เอกชน ตั้งแต่ 8 โมงเช้า จนบ่ายสามยังไม่ได้ตรวจ เพราะเค้าแยกแผนกประกันสังคมออกมาอยู่ไกลโพ้นจากผู้คนที่จ่ายเงินเอง **ตอบแล้วในข้อ 2 ว่า ยังไงมันก็ต้องแยกกันระหว่างผู้ป่วยที่จ่ายค่ารักษาเอง และผู้ป่วยประกันสังคม เพราะเราอยู่ในสังคมระบบทุน-กำไร และเขาเป็น รพ เอกชน ซึ่งรายได้หลักมาจากผู้ป่วยที่จ่ายเงินเอง และคุณก็บอกแล้วว่า บริการไม่ต้องเท่ากับกลุ่มที่จ่ายเงินเองก็ได้ แล้วถ้าไม่แยกเคาน์เตอร์ แยกห้องหมอ เขาจะรู้ไหมว่า คุณมารับบริการในส่วนไหน 4. ทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกันคือความเป็นมนุษย์ คุณคิดเหมือนเรามั้ย ถ้ากำเนิดนโยบายรักษาฟรี ควรทำให้ดี ไม่ต้องเทียบเท่ากับคนที่จ่ายเงินเองหรอก แต่อย่าทำให้เรารู้สึกว่าเราเป็นเหมือนสุนัข...ได้มั้ย ??? **อย่าลืมคำพูดของคุณนะ ที่ว่า ไม่ต้องเทียบเท่ากับคนที่จ่ายเงินเอง คำว่าเราเป็นเหมือนสุนัข แปลว่า อะไร แปลว่า เขาไม่ให้คุณเหยียบเข้าไปใน รพ หรืออย่างไร?? รู้อยู่ว่า โมโห แต่มันหนักไปหน่อยไหม ไปเอาเรื่องกับ รพ. ดีกว่าค่ะ หรือถ้าไม่พอใจ ประกันสังคม รพ นี้ ปีหน้า คุณก็เลือก รพ ใหม่เอาตามใจ จะไป รพ รัฐก็ได้ แล้วคุณก็จะรู้ว่า ...จะเป็นกลุ่มจ่ายเงินหรือไม่จ่ายเงิน บริการก็ช้าพอๆกัน(เป็นวันครึ่งวันกว่าจะได้พบหมอ) พยาบาลก็ดุหรือไม่เอาใจใส่พอๆกัน ประชาสัมพันธ์ก็ไม่ได้เรื่องพอๆกัน... จากคุณ : *Cookies* เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 54 10:58:46

ความคิดเห็นที่ 17 จาก คหที่ 12 "ระบบการจ่ายค่ารักษาพยาบาลทุกระบบมีมาจากแนวคิดที่ดี และ support ประชาชนทั้งนั้น มันอยู่ที่คนบริหารและใช้ระบบ รวมโรงพยาบาลและบุคลากรบางส่วนนั่นแหละที่ทำให้ระบบด่างพร้อย " "ระบบมาจากแนวคิดที่ดี" <<< ถูกครับ แต่คนคิดคือผู้บริหาร+นักการเมือง ไม่ใช่คนที่ทำงาน เขาคิดอย่างเดียวครับ แล้วก็สั่งลงมาว่า รพ. ตั้งทำแบบนี้แบบนี้ รพ.ก็ต้องไปปรับตัวกันเองแล้วกัน พยายามให้ รพ. อยู่รอดกันเอาเอง ดังนั้น "โรงพยาบาลและบุคลากรบางส่วนนั่นแหละที่ทำให้ระบบด่างพร้อย" <<ผิดครับ รพ.จำเป็นต้องปรับสภาพเพื่อให้อยู่รอด รพ.ไม่อยากต้องให้เกิดเหตุการณ์ที่คนไข้มาว่า มาฟ้องร้อง รพ. หรอก เขาอยากทำให้เต็มที่อยู่แล้ว แต่จากสภาพที่ถูกผู้บริหาร+นักการเมืองสั่งมาแบบไม่ค่อยคิด จึงต้องยอมทำ "โรงพยาบาลได้กำไรอยู่แล้ว เพียงแต่ได้เยอะหรือน้อยเท่านั้นเอง" << ผิดครับ รพ.รัฐ งบประมาณติดตัวแดงมากมาย ขาดทุนกันหลายที่ เหมือนติดหนี้บัตรเครดิต ต้องเอาเงินส่วนอื่นมาโปะกันไปเรื่อยๆ เพื่อให้ รพ.อยู่รอด "บัตรทอง" รัฐให้เงินเป็นรายหัวแก่ รพ. หัวละไม่กี่พัน แล้วคุณ(รพ)ไปบริหารกันเอง ให้เอาตัวรอดกันเอง ถ้ารพ. ส่งคนไข้บัตรทองไปรักษาที่รพ.อื่น รพ.นั้นก็ต้องไปตามจ่ายเงินกันเอง จ่ายไม่ไหว รพ.ที่ส่งไปชักดาบ ไม่จ่ายเลยก็มี แต่ถ้าเป็นแบบ จขกท. อันนี้ผมไม่นับนะ เพราะผมถือว่าเป็นจากพฤติกรรมส่วนบุคคล ที่ทุกองค์กรต้องมีคนนิสัยดี พูดจาดี และไม่ดีอยู่แล้ว ถือเป็นเรื่องที่ต้องแก้กันส่วนบุคคล ไม่ใช่ปัญหาจากระะบบ จากคุณ : ... เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 54 11:02:51 A:125.27.205.37 X: TicketID:316347

ความคิดเห็นที่ 18 อ่านตาม จขกท เหมือนจะไม่ได้เกี่ยวกับระบบเท่าไหร่ แต่ที่รู้ ๆ จ่ายเงินเอง กับ ผ่านระบบ มันต่างกันอยู่แล้ว ตอบ คห15  เท่าที่รู้นะคะ  จะได้เงินคืน  ที่เรียกกันว่าเงินชราภาพ ตอนอายุครบ 55 ปี และสิ้นสุดการเป็นผู้ประกันตน (ลาออกจากงานแล้ว) แต่ถ้ายังไม่ลาออกถึงครบ 55 ก็ยังต้องส่งต่อก็ทบไปได้เรื่อย ๆ ถ้ายังไม่ครบ 55 ปีแล้วลาออก ถ้าอยากได้เงินคืนก็ต้องสมัครเข้าเป็นผู้ประกันตน ใหม่ (เข้าที่ทำงานที่ใหม่ก็ต้องสมัครใหม่)  หรือไม่ก็ทำมาตรา 39 ส่งเงินด้วยตัวเอง (ปัจจุบัน 432 บาทต่อเดือน)  จนครบอายุ 55 ปี ก็จะได้เงินคืน (เกษียณก่อนปี 57 ได้เป็นเงินก้อนที่เรียกว่าบำเหน็จ แต่หลังปี 57 จะได้เป็นเงินบำนาญทุกเดือน) คนที่ไม่ได้มีลูกก็จะเสียสิทธิ์ตรงนี้ไปโดยอัตโนมัติค่ะ  (ทาง ปกส ถึงได้ใช้คำว่า เฉลี่ยทุกข์เฉลี่ยสุขไงคะ)  เพราะปกติส่วนมากคนที่ทำ ปกส (ส่งเงินสมทบ ไม่ได้ใช้ บริการกันทุกคนหรอก บางคนทำเพราะกฎหมายบังคับ แต่ก็มีช่องทางอื่น ๆ ที่สะดวก สบายกว่าเขาก็ไปใช้บริการทางช่องทางนั้น ส่วนเงินที่เขาจ่ายไปก็คือ การช่วยเหลือ คนอื่น ๆ ตามที่ ปกส บอกไว้ค่ะ อ้อ...ขอถามคห7 นะคะ เคสของคุณเป็นความรู้ใหม่ทีเดียว  คุณส่งเดือนละ 750 บาทรึเปล่าคะ แล้วเป็นของ ปกส เขตพื้นที่  หรือจังหวัดไหน  //ขอบคุณค่ะ ขอให้รักษาสุขภาพกันทุกคนค่ะ  ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ จากคุณ : แอบดูอยู่ขี้เกียจพิมพ์ เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 54 11:07:00

ความคิดเห็นที่ 19 ถามว่า...ตามอารมณ์ จะตอบว่า ก็ตามนั้น พ่อใคร ใครก้รัก ย่อมโมโห... แต่แยกแยะเป็นค่ะ แยกว่าอะไรเป็นเรื่องส่วนตัวหรือเรื่อส่วนรวม และคราวนี้ที่เจอ ไม่ใช่ครั้งแรกค่ะ... เราเปิดกระทู้นี้มา ไม่ใช่จะมาด่าใคร หรือให้ใครมาด่ากลับ และเราไม่ใช่ใช้ความยิ่งใหญ่มาจากไหน เพราะไม่งั้น คงไม่ติดต่อหรือโทรไปตามระเบียบ แต่จุดประสงค์ก็คือ ถามว่าใครมีปัญหามั้ย มีปัญหาอะไรตรงไหนบ้าง ขอเหตุผลว่าปัญหาคุณคืออะไร ? ลองช่วยกันดูมั้ย และขอโทษนะคะ เราไม่ได้ตะคอกค่ะ ...... บรรทัดต่อไปนี้เป็นอารมณ์ล้วนๆ สำหรับคุณความเห็นที่ 6และ8 ซึ่งเป็นคนๆเดียวกัน เพราะตอนแรกจากการอ่านที่คุณโพส ก็เฉยๆ เรายอมรับฟังความเห็นของคนอื่นอยู่แล้ว เพียงแต่พออ่านบรรทัดสุดท้ายคือจบค่ะ... ทำไมคะ "ผู้หญิงกลางคืน" คุณตีความหมายไปถึงไหนคะ ??? กับแค่ชื่อล๊อกอินแล้วใส่เครื่องหมาย ??? อย่าให้ความหมายคนแค่ชื่อล๊อกอิน เราไม่เคยรู้จักกัน มองกันผ่านตัวหนังสือ ไม่มีใครรู้บ้างหรอกค่ะ ว่าใครเป็นใคร เราควรให้เกียรติกันในฐานะ มนุษย์ ซึ่งมีเกียรติและศักดิ์ศรีเท่ากัน ซึ่งคุณเองก็มี เราเองก็มีเช่นกัน เราคงไม่มานั่งอธิบาย ว่า "ผู้หญิงกลางคืน" ของเราแปลว่าอะไร หรือเราทำอาชีพอะไร.... เพียงแต่อยากให้คุณรู้เอาไว้ว่า "มนุษย์" ทุกคนอยู่บนพื้นฐานเดียวกันคือความเป็นคน หรือคุณไม่มีเกียรติ ไม่มีศักดิ์ศรี ไม่มีความเป็นมนุษย์ หรือถ้าใครอยากรู้ว่า ผู้หญิงคนนี้ที่ใช้ชื่อว่า "ผู้หญิงกลางคืน" ทำงานอะไร ถามได้นะคะ ยินดีตอบ ^_^ ................................................. ทุกคนมีปัญหาต่างกันค่ะ และได้รับสิทธิ์ต่างกัน เพราะต่างสถานที่ เราเป็นคนหนึ่งที่ให้ความสำคัญกับประกันสังคมมาก เพราะนอน รพ.บ่อย และเพราะสิทธิ์ประกันสังคมนี้แหละ ที่ทำให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายขึ้นมาก เราจึงไม่เคยมองมันลบ เพราะถ้ามันไม่ดีจริง ทุกวันนี้เราคงไม่จ่ายเงินประกันตนเองตามมาตรา 39 ให้ทั้งพ่อและให้ทั้งตัวเองหรอกค่ะ ฉะนั้น ช่วยอ่านจุดประสงค์ของการตั้งกระทู้ ด้วยนะคะ คุณ TinyNu ลองเจอแบบเราซักครั้งมั้ยคะ เจอการกระทำแบบนี้ เหตุการณ์แบบนี้ แล้วเอาประสบการณ์นั้นมาเล่าให้เราฟังหน่อยว่า คุณรู้สึกยังไง อะไร ประมาณไหน เราจะรอฟังคร่าาา ^_^ คห.ที่ 7 เราเห็นด้วยค่ะ เรื่องช่วยคน เราไม่มีข้อแม้อยู่แล้ว เราถึงบอกว่า ถ้าใครรู้ว่า ล๊อกอินที่ใช้ชื่อว่า "ผู้หญิงกลางคืน" ทำงานอะไร หลังไมค์มาถามได้ ถ้าตอบหน้าไมค์ไป คุณ TinyNu อาจจะตกใจ เราขอบคุณทุกความเห็นนะคะ ปัญหามันไม่ได้บกพร่องที่ประกันสังคมอันนี้เรารู้ แต่ประกันสังคม เป็นจุดเริ่มต้นในการสั่งการ ออกกติกาให้รพ.ต่างๆ เราเขียนไปแล้วว่า ไม่ใช่ทุกคน ไม่ใช่ทุกรพ. ส่วนเรื่องประกันสังคม...เราเองมีปัญหากับทาง Call Center 1506 จนถึงขั้นมีการร้องเรียน ซึ่งตรวจสอบจากเทปการอัดเสียงของพนักงานกับเรา เค้าเป็นฝ่ายผิดพลาด เนื่องด้วยจากการให้ข้อมูลผิดของทางนั้น จึงทำให้พ่อเราพลาดการจ่ายเงินตาม ม.39 แต่เพราะมีการคืนสิทธิ์ให้กับผู้ประกันตน เราจึงไม่ได้อะไร แต่เค้าจะปรับปรุงการให้ข้อมูลที่ถูกต้อง ซึ่งเราก็หวังว่าจะเป็นอย่างนั้น... เราเห็นเวบพันทิบ เป็นกระบอกเสียงที่ดี แต่หลายๆคนกลับชอบเข้ามาด่า เข้ามาป่วน... ไม่ออกความเห็น แถมยังจับผิด ซึ่งไม่น่ารักเลยนะคะ อยากฝากไว้แค่นี้แหละค่ะ จากคุณ : ผู้หญิงกลางคืน เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 54 11:43:58

ความคิดเห็นที่ 20 อย่าลืมนะคะ คุณ TinyNu ถ้ามีโอกาสได้เจอเหตุการณ์แบบเรา ช่วยมาเล่าให้ฟังด้วย ว่าคุณจะอารมณ์แบบไหน ? ไม่ใช่แค่มาโพสแล้วหายไป เด๋วจะโดนด่า Mee ได้ !!!! จากคุณ : ผู้หญิงกลางคืน เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 54 12:03:13

ความคิดเห็นที่ 21 จขกท.เจ้าอารมณ์ คิดไปเองและมั่วมาก จากคุณ : ........... เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 54 12:58:37 A:124.120.196.11 X: TicketID:322236

ความคิดเห็นที่ 22 เราใช้สิทธิประกันสังคม ประกันสุขภาพของบริษัท และแบบจ่ายตังค์เอง ส่วนพ่อกับแม่ใช้สิทธิบัตรทอง กับบางครั้งรักษาแบบจ่ายตังค์ เพราะอายุเยอะไม่มีประกันที่ไหนรับแล้ว สำหรับเราบัตรประกันสังคมและบัตรทองช่วยแบ่งเบาภาระค่ารักษาพยาบาลของครอบครัวเราไปได้เยอะมาก เฉพาะบัตรทองหมดไปกับคุณพ่อเราเป็นแสนนะ รอดชีวิตมาได้ก็เพราะบัตรทองล้วนๆ อยู่ไอซียูเป็นอาทิตย์ก็บัตรทอง ลองถ้าไม่มีบัตรทองสิต้องจ่ายเองกี่แสนถึงจะเอาอยู่ ส่วนตัวเราเจ็บไข้ได้ป่วยอะไรรักษาประกันสังคม ก็ได้หมอได้ยาที่รักษาโรคได้ ไม่ได้ต่างจากการรักษาแบบเสียตังค์ ปกติเราไป รพ. วัตถุประสงค์ก็คือเพื่อรักษาพยาบาลเพราะงั้นการบริการจึงเป็นประเด็นรองๆ ที่เราไม่คาดหวังอยู่แล้ว แต่เราว่าหลังๆ มานี้ผู้ใช้สิทธิก็ได้รับการบริการที่ไม่เกี่ยวกับการรักษาพยาบาลที่ดีขึ้นมากกว่าเดิมเยอะแล้ว เคสคุณพ่อ จขกท. เราว่าจขกท รู้อยู่แล้วว่าต้องติดต่อที่ฉุกเฉิน เวลาโทรไปก็แจ้ง จนท. ให้โอนไปห้องฉุกเฉินเลย แล้วก็จ้งข้อมูลผู้ป่วย อาการเจ็บป่วย ภาวะที่เป็นอยู่ กับพยาบาลไปเลย จะได้ไม่ต้องมาเสียอารมณ์กับคนที่ไม่เกี่ยวข้องค่ะ เราว่าเคส จขกท ไม่เกี่ยวกับเรื่องใช้สิทธิ์หรือจ่ายตังค์เองหรอกค่ะ มันเกี่ยวกับการสื่อสารอย่างเดียว ยิ่งสื่อสารด้วยอารมณ์ยิ่งไปกันใหญ่ เอาใหม่นะคะ โฟกัสที่การรักษาคุณพ่อเป็นหลักดีกว่า ถ้าเค้ารักษาไม่ดีไม่ได้มาตรฐานแบบนี้ช่วยด่ากันดังๆ เลย จากคุณ : นิจจังสังขารนั้นไม่เที่ยง เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 54 13:27:29

ความคิดเห็นที่ 23 เงินประกันสังคมแค่ 25% เท่านั้นที่ถูกเทเข้ากองค่ารักษาพยาบาล ส่วนที่เหลือเป็นเงินสะสมตอนเกษียณ เงินฌาปนกิจ และเงินอื่นๆ ที่คห.บนๆ บอกไว้ค่ะ เพราะงั้นอย่างไปคิดว่าเราจ่ายประกันสังคมเยอะแล้วต้องได้บริการเต็มแมกซ์ไปซะทุกอย่างค่ะ จากคุณ : นิจจังสังขารนั้นไม่เที่ยง เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 54 13:30:26

ความคิดเห็นที่ 24 เราโอเคนะ กับการจ่ายเงินประกันสังคม ไม่งั้นคงไม่ทำเรื่อง ม. 39 เอง เราผิดที่ขึ้นหัวกระทู้ผิดความหมาย ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ เราถือว่าเราคุ้มมากกับสิทธิ์ประกันสังคมที่ได้รับ เพราะทุกครั้งที่พ่อนอน รพ. เราจะจ่ายเพิ่มจากประกันสังคมเพราะให้พ่อนอนห้องเดี่ยว ท่านถ่ายและฉี่เป็นเลือด ถ้าใช้สิทธิ์โดยนอนห้องรวม จะไม่สะดวกท่านและคนป่วยคนอื่นด้วย มันคุ้มมากค่ะ เราเลยไม่รู้สึกว่า การจ่ายเงินประกันสังคมเป็นเรื่องใหญ่ แต่เป็นการให้บริการของ รพ. มากกว่า เพราะไม่ทุก รพ. ที่เข้าร่วมโครงการ แต่ในเมื่อเข้าร่วมแล้ว ควรทำให้ดี ไม่ต้องเหมือนกับคนที่จ่ายหรอก ส่วนเรื่องที่เราโทรไปก่อน เพราะเราก็กลัวไปว่า พ่อจะไปติดต่อผิดที่ ตามประสาคนแก่อะนะ เราเลยโทรไป แต่กลับได้รับคำตอบว่า เคาน์เตอร์ปกส.เปิดรับผู้ป่วยตอน 8 โมงเช้า เรื่องบางเรื่องมันก็ละเอียดอ่อนตรงคำพูดอะนะ ส่วนพวกบัตรผ่านไปมา เที่ยวป่วนคนนั้นคนนี้ ป้ายหน้านะคะ ถ้าว่างก็ไปเลือกตั้งล่วงหน้าซะ อย่าเกะกะแถวนี้เลยคร่าาา ที่ตรงนี้เป็นการแชร์ประสบการณ์ รวมถึงบางคนยังเอาความรู้มาชี้แนะให้กับคนที่ไม่รู้ได้เรียนรู้ อย่าทำตัวระเกะ ระกะ ป่วนไปมาเลย ไม่น่ารักเลยนะคะ จากคุณ : ผู้หญิงกลางคืน เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 54 14:23:53

ความคิดเห็นที่ 25 ปัญหาจริงๆ มันมาจาก เงินที่ให้รพ มันไม่พอค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง รพ ส่วนใหญ่จึงต้องทำอย่างที่ว่า เพื่อลดการขาดทุน กำไรไม่มีอยู่แล้ว ส่วนที่บัตรทองมันทำได้มากกว่า เพราะมันใช้หาเสียง และ ถึงขาดทุนก็ไม่มีใครทำอะไร คิดดีๆ รพ ทุกที่ สุดท้ายก็ทิ้งปกส ทั้งนั้นแหละ .  .  .  .  . มองให้กว้าง ค่อยวิจารณ์ รู้ให้จริง ค่อยโวยวาย อย่าคิดแต่ว่าปัญหาของตัวเองสำคัญสุด ลองต้องจ่ายค่ารักษาเอง จะดีใจที่มี ปกส จากคุณ : no preservation เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 54 14:27:03

ความคิดเห็นที่ 26 ใช่ เราก็ดีใจที่มีปกส. จากคุณ : ผู้หญิงกลางคืน เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 54 14:40:03

ความคิดเห็นที่ 27 อย่าเก็บเป็นอารมณ์เลยค่ะ บางครั้งเราก็เจอแบบนี้เหมือนกัน คิดเสียว่าเขาคงเหนื่อย เลยตอบไม่ค่อยเคลียร์บ้างอะไรบ้าง ช่างเขาเหอะ ฟาดงวงฟาดงาไปก็อารมณ์เสียเปล่า เมื่อก่อนเราก็ใช้ ปกส.นะ ใช้คุ้มซะด้วย ปวดหัว ปวดท้องหน่อยก็ไปคลีนิค(ที่รองรับ)แล้ว ค่อยรู้สึกเต็มใจที่โดนหักรายเดือนทุกเดือนหน่อย ปล.เจ้าของกระทู้ทำงานอะไรหรอคะ แอบอยากรู้อ่ะค่ะ จากคุณ : p@ninlove เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 54 15:25:11

ความคิดเห็นที่ 28 1. ในเมื่อออกบัตรประกันสังคม บัตรสุขภาพมา แล้วห่วยแตกแบบนี้ ออกมาเพื่ออะไร ? - เพื่อให้ท่านไม่ต้องแบกภาระค่ารักษา? ขอเล่าในฐานะบุคลากร รพ.เอกชนที่รับผู้ป่วยสิทธิประกันสังคมละกันนะคะ ส่วนตัวก็รู้สึกว่ามันสองมาตรฐานอยู่เหมือนกัน ระหว่างคนไข้จ่ายเงินเอง กับคนไข้ประกันสังคม .. จะพบแพทย์เฉพาะทางก็ต้องขอส่งตัวก่อน จะรับยายังมีกำหนดว่ายาไหนให้ได้ ยาไหนให้ไม่ได้ แต่ถ้าจะดูกันถึงผลลัพธ์ เราว่าก็ดูไม่ได้น่าเกลียดอะไร   ถ้าอาการไม่ดีก็ส่งพบแพทย์เฉพาะทาง ยาที่จ่ายถึงจะเป็น local แต่ใช้รักษาโรคหาย ให้ครบถ้วนตามอาการ การดูแลเวลาเป็นคนไข้ในก็ไม่ได้ต่างอะไรกันมาก เพราะฉะนั้นจะว่าห่วยก็คงไม่ใช่เสียทีเดียว? 2. ควรมีกฏ กติกา อะไรที่ทำให้ประชาชนแบบเรารู้สึกว่าไม่ถูกแบ่งแยกได้มั้ย ? - คือ มันต้องแบ่งแยกกันบ้าง อันนี้ยอมรับ   รพ.เราก็แยกจุดบริการสำหรับประกันสังคมต่างหาก คนไข้ก็จะเยอะกว่าผู้ป่วยจ่ายเงิน ก็รอนานกว่า   แต่อันนี้มันก็เป็นเหตุผลเชิงนโยบาย เพราะถ้าไม่แยกกัน ผู้ป่วยที่ชำระเงินเองก็จะรอนานไปด้วย (คิดแบบถัวเฉลี่ย) ถ้ารอนานเขาก็ไม่เลือกมา รพ. เรา ... ยอมรับเหอะ ผู้บริโภคมีทางเลือกเยอะออก   และองค์กรณ์ก็ยังต้องการรายได้จากผู้ป่วยจ่ายเงินเองอยู่ .. องค์กรณ์เอกชนนี่นะ  จะการกุศลไปก็ดูจะไม่เป็นธุรกิจเท่าไหร่ - - คนไข้ประกันสังคมก็ยังเป็นคนไข้กลุ่มใหญ่   อย่างรพ.เราเองก็มีผู้ป่วยแจ้งใช้สิทธิ์เกือบเจ็ดหมื่นคน หลายเท่าตัวของคนไข้จ่ายเงิน   พอแยกส่วนกันก็เหมือนคนไข้ส่วนนี้เยอะมาก เลยรอตรวจนานกว่าคนไข้จ่ายเงินเองหลายเท่า   แต่หมายความว่าบุคลากรณ์ที่ตรวจรักษาก็เหนื่อยขึ้นหลายเท่าเหมือนกัน   เราทำงานในส่วนที่ผลัดเวรกันดูแลผู้ป่วยประกันสังคมกับผู้ป่วยจ่ายเงินเอง ... รู้สึกว่าวันไหนขึ้นเวรส่วนประกันสังคมกะสองกะนี่ออกเวรมาแทบไม่อยากขยับตัวเหมือนกัน ... 3. คุญเคยมั้ย ที่รอหาหมอประกันสังคมในรพ.เอกชน ตั้งแต่ 8 โมงเช้า จนบ่ายสามยังไม่ได้ตรวจ เพราะเค้าแยกแผนกประกันสังคมออกมาอยู่ไกลโพ้นจากผู้คนที่จ่ายเงินเอง - เคยมั๊ย? ตรวจตั้งแต่แปดโมงเช้าถึงสี่ทุ่มยังไม่ได้พัก?   ส่วนเหตุผลที่แยกก็ตามที่แจ้งน่ะค่ะ 4. ทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกันคือความเป็นมนุษย์ คุณคิดเหมือนเรามั้ย ถ้ากำเนิดนโยบายรักษาฟรี ควรทำให้ดี ไม่ต้องเทียบเท่ากับคนที่จ่ายเงินเองหรอก แต่อย่าทำให้เรารู้สึกว่าเราเป็นเหมือนสุนัข...ได้มั้ย ??? - คือ เราก็เข้าใจนะ ว่าถ้าคนที่เรารักกำลังจะเป็นอะไรไป เราก็อดใช้อารมณ์ไม่ได้เหมือนกันล่ะ   พูดถึง จนท.ที่รับโทรศัพท์ท่านนั้นก็คงตอบคำถามตามระบบ   อันนี้เห็นใจทั้งสองฝ่าย ทางผู้ใช้บริการก็ร้อนใจ จนท.ก็ไม่ถามไถ่ให้ดี   จนท.ให้คำตอบแบบนั้น เพราะส่วนประกันสังคมเปิดเวลานั้น แต่ถ้าฉุกเฉิน แน่นอน ท่านมาได้ทุกเวลา .. ลองเข้ามาที่ ER ก็ไม่มีใครไล่ออกไปหรอก - - ... ถ้าโดนไล่ค่อยว่าเราดูแลท่านเหมือนสุนัขละกัน แล้วเราๆก็ทำงานในระบบ ตามนโยบายองค์กรณ์น่ะเนอะ  บางทีการมาใส่อารมณ์ว่าทำไมอย่างงู้นอย่างงี้กับระดับล่างๆอย่างเรามันก็ไปไม่ถึงผู้บริหารหรอก - - เราออกนอกระบบก็จะกลายเป็นพาตัวเองออกจากงานเปล่าๆ  คนไข้บางท่านไม่พอใจในระบบก็โวยวาย บอกจะขอย้ายสิทธิไป รพ.อื่นได้ไหม ... มาถามระดับล่างๆอย่างเราก็คงตอบว่าเชิญท่านเถิด  ยิ่งคนไข้เราน้อย เรายิ่งเหนื่อยน้อยลง ... ปล. ถือว่าเราตอบด้วยอคติ ตามประสาคนทำงานวงการนี้ที่ออกมาปกป้องพรรคพวกละกันค่ะ - - จากคุณ : alz เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 54 19:00:45

ความคิดเห็นที่ 29 อันนี้ขอออกความเห็นส่วนตัวของเรานะคะ  ไม่เกี่ยวกับว่าใครจะได้รับบริการที่ดีหรือไม่ดีแต่อย่างใด เราอยากให้ "เลือกได้" ว่าจะใช้สิทธิประกันสังคมหรือไม่   บางคนไม่อยากโดนหักประกันสังคมทุกเดือน  บางทีเค้าอยากจะเอาเงินนั้นเก็บไว้เพื่อไปรักษาแบบจ่ายเองอะไรอย่างเงี้ย  แบบว่ายังไงประกันสังคมก็จ่ายให้ไม่หมดอยู่แล้วอ่ะนะ คือคน(ส่วนใหญ่) ที่โดนหักเงินประกันสังคมไปทุกเดือน  แล้วไม่ค่อยได้ป่วยและได้ใช้สิทธิการรักษา  คงจะคิดเสียดายเงินที่หักไปทุกเดือนมั้งคะ จากคุณ : อาราตะ (อาราตะ) เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 54 19:18:11

ความคิดเห็นที่ 30 ถ้าเลือกได้เราไม่ขอเข้าประกันสังคมนะ ถ้าหากระบบดีจริงก็ต้องให้คนไทยได้มีสิทธิเลือก ถ้าใ่ครชอบก็เลือกไป แต่ถ้าใครไม่่ชอบแบบเราก็ขอยกเลิกและคืนเงินเรามา อย่ามาเอาเปรียบเราเพราะเราเคยใช้บริการมาแล้วและรู้ดีว่าม้นแ่ย่แค่ไหน ถ้าทำฟันก็ต้องจองคิวแต่ต้นปีปลายปีจะได้ทำ และมีกรณีเพื่อนเราเล่นฟุตบอลเอ็นข้อเข่าหลุด เดินแทบไม่ได้ไปรักษากับโรงพยาบาลประกันสังคมหมอเข้าเผือกอ่อนเอาผ้าพันให้เหมือนไม่่ค่อยหนักอะไรแต่เพื่อนเดินเองแทบไม่ได้ถ้าใครเคยเป็นคงรู้ จะขอไม้ค้ำโรงพยาบาลบอกว่าสิทธิประกันสังคมไม่มีไม้ให้ แต่ถ้าใช้บัตรทองมีไม้ คิดดูเหอะ อย่างนี้จะบอกว่าเท่าเทียมกันไหม ถ้ามีพรรคการเมืองไหนมีนโยบายให้คนไทยเลือกได้ว่าจะเข้าประกันสังคมหรือไม่ ก็จะไม่คิดอะไรเลยเลือกแน่นอน เบื่อเต็มทน ถ้าแน่จริงมาเลือกกันไหม แล้วก็มายืดอกบอกได้เลยว่าของคุณดี เพราะคนที่เลือกเต็มใจร้อยเปอร์เซนต์ไม่ถูกบังคับ อย่างที่ทำกับเค้าแบบทุกวันนี้ เป็นอีกหนึ่งองค์กรของรัฐที่เราไม่มีความรู้สึกประทับใจอะไรเลย มีใครรู้ไหมว่าผู้บริโภคแบบเราสามารถร้องเรียนองค์กรณี้ได้ไหมถ้าได้ขอร้องเรียนเลยละกัน :( จากคุณ : yokulele เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 54 19:52:02

ความคิดเห็นที่ 31 เราไม่ขอเข้าประกันสังคมเหมือนกัน จากคุณ : takai1987 เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 54 20:08:48

ความคิดเห็นที่ 32 คนเข้ารับบริการ ก็อยากได้บริการรวดเร็ว อยากให้เห็นเราในสายตา คนให้บริการ ก็เฉยๆ เจอทุกวัน เหนื่อย คนเป็นร้อยเป็นพัน ตอนนี้เข้าประกันสังคมอยู่ค่ะ แต่เก็บเงินกันไว้เถิด ถึงเวลาฉุกเฉิน เงินช่วยได้ จากคุณ : cranberrysoda เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 54 21:35:16

ความคิดเห็นที่ 33 งั้นยกเลิกบัตรทอง ยกเลิกประกันสังคม จ่ายเงินเองหมด มาตรฐานเดียวกันไปเลย.. ok ป่ะ จากคุณ : หมอก้อนหิน เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 54 23:36:34

ความคิดเห็นที่ 34 มายกมือสนับสนุนข้อความนี้ ของ จขกท 4. ทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกันคือความเป็นมนุษย์ คุณคิดเหมือนเรามั้ย ถ้ากำเนิดนโยบายรักษาฟรี ควรทำให้ดี ไม่ต้องเทียบเท่ากับคนที่จ่ายเงินเองหรอก แต่อย่าทำให้เรารู้สึกว่าเราเป็นเหมือนสุนัข...ได้มั้ย ??? จากคุณ : cardiogenic เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 54 23:49:22

ความคิดเห็นที่ 35 เราก็คิดเหมือนกัน ว่า 2 มาตรฐาน ประกันสังคม ทำมัยต้องบังคับลูกจ้างให้เข้าประกันสังคมด้วย ทำไมไม่ให้เลือก เข้าหรือไม่ อะ บังคับ กันทำมัย นี่ ลูกจ้างจงเจริญ..... จ่ายอย่างเดียว  เงินเดือน 6000 จ่าย 300 เหลือ 5700 เงิน 300 บาท กับคนจน หาเช้ากินค่ำ มีค่า มาก ๆ นะคะ ... จากคุณ : แพร (yingnicegal2517) เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 54 09:17:53

ความคิดเห็นที่ 36 ประกันสังคม อยากให้แก้ไขเรื่อง ชดเชยตกงาน เขากำหนัดว่า คนที่ตกงานถ้าเกิน 55 จะไม่ได้รับการคุ้มครอง เวลาไปดำเนิน การเบิกค่าชดเชยตกงาน พวกเขาให้เบิก ค่าชราภาพ เพราะอายุผมเกิน 55 แล้วครับ เบิกค่าชราภาพ เสร็จแล้วจบ ไม่ต้องมาเกี่ยวพันธ กันอีกต่อไป จ่ายให้ก้อนสุดท้าย ผมไปติดต่อเรื่องตกงานเพราะโดนปลดขณะอายุ 58 ปี ขั้นตอนของ ปกส. ดังนี้ 1. ผมยื่นเรื่องขอค่าชดเชยตกงาน 2. เขาส่งไปกรมแรงงาน ให้หางานใหม่ให้ (ใครจะจ้างคนอายุ58!) พร้อมกัน กรมฯ ให้รายซื่อบริษัทที่ต้องการพนักงานตรงตามความรู้ของผม 3 แห่งให้ผมไปติดต่อแล้วกลับมาใหม่ใน 30 วัน ช่วยกันหางานทั้งสองฝ่าย 3. อีก 1 เดือนกล้ับไปฟังผลว่ามีใครจะจ้างผมบ้าง (ใครจะจ้าผม) 4. จบขั้นตอนนี้ ใช้เวลา 30 วันแล้วผมจึงกลับไป ปกส อีกทีเพื่อแจ้งว่าไม่สามารถหางานใหม่ได้ เขาจะได้จ่ายชดเชยตกงาน(เสียที) 5. พอถึงขั้นนี้แล้ว ปกส จึงพบว่า ผมอายุเกิน 55 หมดสิทธิ์ที่จะใช้ระเบียบชดเชยตกงาน จึงบอกผมว่ามีเงินเก็บ ชราภาพ ให้เบิกไปให้หมดเลย "เพื่อจะได้ตัดผมออกจากระบบเพราะแก่แล้วไม่มีตังส์ส่งรายเดือนอีกต่อไปแล้วครับ" วรรคสุดท้ายผมคิดเอาเองครับ 6. บังคับเก็บเงินให้ ปกส ถึงอายุ 60 แตทำไมค่าชดเชยตกงานม้นแค่ 55 ปี ให้มีความยุติธรรมม้นต้อง 60 เหมือนกันสิ แก้ไขเมื่อ 27 มิ.ย. 54 11:14:34 แก้ไขเมื่อ 27 มิ.ย. 54 11:07:51 จากคุณ : RageMachine เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 54 11:05:09

ความคิดเห็นที่ 37 ประกันสังคมหลังอายุ 55 รับเป็นบำนาญได้แล้วนะครับ จากคุณ : Epinephrine เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 54 11:22:17

ความคิดเห็นที่ 38 เราเคยเป็นหวัด  มีน้ำมูก  แล้วก็เป็นน้ำมูกแบบเขียวๆอ่ะนะ   ตามความเข้าใจของคนเรียนศิลป์ภา  ก็คิดว่ามันมีการอักเสบอะไรสักกะอย่างแน่ๆ ก็เลยไปหาหมอโดยการใช้ประกันสังคม  ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในสมุทรปราการ แค่สถานที่นั่งรอคุณหมอก็ต่างกันละ  พวกประกันสังคมต้องเดินขึ้นบันได ไปอีกชั้น ทางเล็กๆซอกๆ รอหมอนานหน่อย  อ่ะก็ไม่ว่าอะไร พอเจอหมอปั๊บ ก็เล่าอาการ...  เป็นหวัด เจ็บคอ มีน้ำมูก  แล้วน้ำมูกก็เขียวๆด้วยอ่ะค่ะ หมอจ่ายพาราเซตามอล มา 1 แผงถ้วนๆ เค้าคิดว่าเราไปเอาของเค้าฟรีๆหรือเปล่านะ   เกือบดีใจแน่ะ  ฮุ้ว ให้ยามาเหมือนกับทำทานให้ขอทานเลย แล้วน้ำมูกเขียวๆของชั้นล่ะ  แล้วที่ชั้นบอกเจ็บคอล่ะ  หมอไม่ได้ยินหรือคะ  หรือว่าไม่จำเป็นต้องสนใจ?? จากคุณ : KHIMM เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 54 16:47:16

ความคิดเห็นที่ 39 ยังเข้ามาตามอ่านอยู่นะคะ ใครมีเรื่องราวก้ยังมาโพสได้ตลอด จากคุณ : ผู้หญิงกลางคืน เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 54 17:03:57

ความคิดเห็นที่ 40 เราเห็นด้วยนะ ที่บังคับให้ลูกจ้างทุก ๆ คนทำปกส.เพราะหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นมา ครอบครัวก็จะได้ไม่เดือดร้อนในภายหลัง เงิน 300 บาท*12 เดือน เท่ากับแค่ 3,600 บาท ถ้าเราทำไว้ 10 ปี เท่ากับ เราเสียเงิน 36,000 บาท แต่ถ้าเราได้ใช้แค่เพียง 1-2  ครั้ง เช่นเจ็บป่วยไม่สบาย/เกิดอุบัติเหตุ ค่ารักษา 100,000 - 200,000 บาท เราคิดว่าคุ้มมาก ๆ เมื่อเทียบกับความคุ้มครองที่ได้รับ นี่เรายังไม่รวมกรณี คลอดบุตร/ทำฟัน/เจ็บป่วยเล็กน้อย/เงินบำนาญ/เงินชดเชยกรณีว่างงาน ฯลฯ แก้ไขเมื่อ 27 มิ.ย. 54 23:19:58 จากคุณ : ดีใจที่ใจดี เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 54 23:19:42

ความคิดเห็นที่ 41 ส่วนตัวไม่เคยเจอ 2 มาตรฐานค่ะ โรงพยาบาลรัฐที่ไปใช้สิทธิบัตรทอง / สิทธิเบิกจ่ายตรงข้าราชการ กับโรงพยาบาลเอกชนที่จ่ายเงินเอง ความแตกต่างมีแค่จำนวนคนที่มาใช้บริการมากในโรงพยาบาลรัฐทำให้เสียเวลารอนาน พาพ่อไปหาหมอตั้งแต่หกโมงเช้า(ตรวจเลือด x-ray) กว่าจะได้กลับบ้านก็บ่ายสองครึ่ง (ไปหาสองหมอ) นี่ปกติเลยล่ะ กรณีเจ้าของกระทู้เฉพาะที่เล่ามา เราว่าก็ไม่ถึงกับว่าโรงพยาบาลทำให้รู้สึกเหมือนสุนัขตรงไหนนะคะ(หรือจะเป็นกรณีอื่นที่ไม่ได้เล่าก็ไม่รู้นะคะ) แต่เพื่อนเราก็เคยบอกว่าถ้าจะใช้สิทธิประกันสังคม สิทธิบัตรทอง ให้เลือกโรงพยาบาลรัฐจะดีกว่า จากคุณ : . เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 00:03:50 A:61.90.27.77 X: TicketID:282073

ความคิดเห็นที่ 42 #38 คออักเสบ วิธีรักษาคือรอมันหาย ระหว่างรอมันหาย รักษาตามอาการ เช่น มีไข้->กินยาลดไข้ เจ็บคอ->กินน้ำอุ่นๆ มีน้ำมูก->สั่งน้ำมูกให้ถูกวิธี จากคุณ : ปรายภพ เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 16:41:50

ความคิดเห็นที่ 43 #38 คออักเสบ ถ้าคุณไปหาหมอในอังกฤษ บางทีจะยิ่งกว่านี้ คือ แค่พาราแผงนึงยังไม่ได้เลย ได้แต่คำแนะนำ -------------------------------- ส่วนการบังคับให้ทำปกส. ผมเห็นด้วยครับ ก่อนหน้านี้ มีมากมายเหลือเกินที่ทุกคนคิดบวก (ไม่คิดว่าตัวเองจะป่วยหรือซวย) และไม่มีระบบประกันสุขภาพ พอป่วยที ก็ต้องวิ่งหาเงิน ยืมญาติ ขายนา กู้ มารักษาตัวเอง หลังจากนั้นก็ใช้หนี้กันบานกระเบื้อง ------------------------------- จขกท. -- โปรดแยกแยะว่า หลักประกันสุขภาพ คือประกันการรักษาสุขภาพ ไม่ได้ประกันว่าคุณจะได้รับความสะดวกสบาย 5 ดาวครับ การบริการที่ผู้ป่วยจะได้รับ จะขึ้นกับ 1. แนวทางของรพ.นั้นๆ 2. บุคคลากร (ที่มีทั้งดี และห่วยนรก) ที่คุณไปเจอเข้า ผมยังไม่เห็นว่าคุณควรจะโทษระบบ แต่ถ้าคุณจะโทษ ผมก็ไม่ว่าอะไร  :) จากคุณ : หมอเถื่อน เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 54 07:55:43

ความคิดเห็นที่ 44 ผู้คนทั่วไปยังเข้าใจผิดว่าเมื่อเป็นหวัดต้องได้ยาแก้อักเสบ ความจริงการเป็นหวัดมักเกิดจาเชื้อไวรัส ทำให้เจ็บคอ ไอ น้ำมูกไหล เชื้อไวรัสไม่มียาแก้อักเสบที่ทำลายมันได้  แต่ร่างกายจะกำจัดไวรัสเอง การรักษาจึงเพียงแต่รักษาอาการ เช่นให้ยาแก้ไข้ ลดน้ำมูก หรือปล่อย ให้ร่างกายรักษาตัวเอง   ดังนั้นหมอให้ PARA อย่างเดียวก็ถูกต้องแล้ว   คห ที่ 38 ควรศึกษา ให้ดีก่อนมากล่าวหาคนอื่น จากคุณ : Sono เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 54 09:46:39

ความคิดเห็นที่ 45 ของฟรีไม่มีในโลก เราอยากได้ของฟรี ก็ยกเหตุผลร้อยแปดพันเก้ามาอ้าง เขาค้าขาย หรือให้บริการโดยมีต้นทุน เขาก็ต้องยืนบนเหตุผลของเขา บอกตรงๆ นะครับ ไม่เห็นด้วยกะนโยบายบัตรทองมาตั้งนานแล้ว ทำให้คนเข้าใจว่าตัวเองควรได้รับสิทธิรักษาฟรี ทั้งๆ ที่ของอย่างนี้มันมีต้นทุน แทนที่คนจะรู้จักเก็บออม หรือทำประกันสุขภาพ แทนที่จะรู้จักระวังป้องกันตัวเองไม่ให้ป่วยไข้ เลยกลายเป็นว่า ป่วยได้ไม่มีต้นทุนการรักษา ส่วนรักษาแล้ว มาตรฐานมันไม่ได้ดี ก็ไปตำหนิที่ปลายเหตุ ตำหนิบุคลากรที่เขาอยู่ปลายทางของปัญหาไปซะ เลิกเหอะ นโยบายที่อยู่บนพื้นฐานของประชานิยมโดยไม่มีเหตุผลแบบนี้เนี่ย จากคุณ : ลูกหมีเขี้ยวยาวเขาโง้ง เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 54 12:41:26