ความคิดเห็นที่ 1 ยังทานเยอะอยู่ครับ ถ้ามีเวลาควรทำอาหารทานเองจะควบคุมได้ง่ายกว่า จากคุณ : bankpakim เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 54 20:44:34

ความคิดเห็นที่ 2 อร๊าย เหมือนเราเลย ลีออกมา 2 อาทิตย์ น้ำหนักขึ้นด้วยซ้ำ เเต่มาอ่านห้องนี้เลยทำให้เข้าใจว่าจะบวมน้ำ ลีไม่ควบคุมอาหารนะคะ. น้ำหนักไม่ลง เเต่กล้ามเนื้อกะส่วนเว้ามาเเล้ว อาการบวมน้ำลดลง ทำให้รู้สึกมั่นใจได้ว่า เราน่าจะมาถูกทาง เชื่อว่า (personally) ว่าน้ำหนักกะไขมันกำลังสลาย สู้ๆนะคะ เราพวกเดียวกันเลย (น้ำหนักไม่มากเมื่อเทียบส่วนสูง เเต่ก็ยังเยอะอยู่อะ เอิ๊ก) เพื่อสุขภาพกะความสวย จากคุณ : Elliptical-san เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 54 20:51:14 A:115.67.109.160 X: TicketID:321884

ความคิดเห็นที่ 3 โอ้โฮ..อย่างนี้เรียกว่า ทานเยอะเหรอคะ ? แล้วอย่างเราจะเรียกว่า ยังไงหนอ ? ต้องทานแค่ไหนถึงจะเรียกว่า ดีหนอ ? เพราะขนาดคุณสู้เพื่อแม่ โย่ววว มื้อเย็นทานแค่ผลไม้นิดหน่อยเอง คุณElliptical-san คะ ไม่ทราบว่า อาการบวมน้ำ คืออะไรเหรอคะ ? การดื่มน้ำเยอะหรือว่าอะไรคะ ? เพราะเห็นเค้าบอกว่าให้ทานน้ำเยอะ ๆ น่ะค่ะ เกี่ยวกับการทำให้บวมน้ำไม๊คะ ? จากคุณ : เพียงดิน เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 54 21:06:16

ความคิดเห็นที่ 4 @ คุณ Elliptical-san  อาการบวมน้ำคือยังไงเหรอคะ คือเราออกกำลังกายนี่ เหงื่อออกเยอะมากๆ เสื้อถ้าถอดออกมาบิดน้ำได้เลยอ่ะ ก็จะดื่มน้ำหลังออกกำลังกายประมาณ น้ำขวด 750 ซม.     2 ขวดเต็มๆอ่ะค่ะ คือพยายามลดแป้ง ลดน้ำตาลแล้วนะเนี่ย ไม่เข้าใจ @ คุณเพียงดิน นั่นสิคะ ทานยังไงถึงจะดี 555 จากคุณ : สู้เพื่อแม่ โย่ววว เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 54 21:14:04

ความคิดเห็นที่ 5 เอ่ออ เยอะแล้วรึเนี่ยยย พระเจ้า อย่างงั้น เราก็...มิน่า น้ำหนักไม่ลงเหมือนกันนน จขกท.สู้ๆนะ เข้ามาให้กำลังใจ แต่แนะนำอะไรไม่ค่อยได้เลยอ่ะ เพราะเราก็ลดน้ำหนักแบบมั่วๆ ตามสไตล์ ฮ่าา จากคุณ : อัจฉสวัสดิ์ เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 54 21:32:50

ความคิดเห็นที่ 6 ส่วนสูง กะ น้ำหนักพอๆกะเราเลยอ่ะ น่าจะตัวเท่าๆกัน .. ลองนับแคลอรี่ดูคะ กะเอาไม่ให้เกิน 1000-1200 kcal. แรกๆ บางคนลงไว บางคนลงช้า แต่สัดส่วนเปลี่ยนแน่ๆคะ ลองวัดไว้นะคะ ที่สำคัญ ต้องสู้ค่ะ อย่าท้อ เป็นกำลังใจให้นะคะ จากคุณ : lithop เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 54 21:35:42

ความคิดเห็นที่ 7 ส่วนตัวเรา สูง 163  ///  หนัก 73 โล เข้าฟิสเนส วันละ 2 ชั่วโมงมา 2 อาทิตย์ หยุด 3 วัน ลดเหลือ 70 โลแล้ว  รู้สึกเบาตัวนิดหน่อย ส่วนกรณีของ จขกท  เราว่า เพราะน้ำหนักไม่ได้เยอะมากค่ะ   ถ้าเทียบสัดส่วนแล้วยังดูแค่ ท้วมๆๆ  เลยอาจจะลดช้าหน่อย คือ ถ้าน้ำหนักเยอะจะลดเร็ว กว่าคนที่ค่อนข้างสมส่วนอ่ะค่ะ และอีกอย่างเราว่าอาการบวมน้ำ หรือ เพราะร่างกายการเผาผลาญแต่ละคนไม่เท่ากันค่ะ ยังไง จขกท ก็มาถูกทางแล้วนะค่ะ  ควบคุมอาหารออกกำลังกาย วันนี้ไม่ลด  พรุ่งนี้ มะรืนนี้ อาทิตย์หน้า เดี๋ยวก็ลดค่ะ รึ ถ้าน้ำหนักไม่ลด ลองใส่เสือ้ผ้าตัวเดิมๆที่เคยคับ หรือใส่ไม่ได้ดูสิค่ะ บางทีอาจจะหลวมลง หรือ สบายตัวขึ้น  อย่าไปมองที่ตัวเลขมากค่ะ  เครียดเปล่า และที่สำคัญ  "อย่าไปสนใจคำพูดของคนที่ไม่รู้จักคำว่า รักษาน้ำใจคนอื่นค่ะ" ปล่อยให้เค้าพูดไป ไม่ต้องใส่ใจค่ะ ขอให้สุขภาพดี อารมณ์ดี  แข็งแรง ผอมเพรียว เร็ววันค่ะ  สู้ สู้ๆๆ จากคุณ : Lady_แก้มชมพู เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 54 23:16:05

ความคิดเห็นที่ 8 ผมหมายถึงเช้ากับกลางวันนะครับ  ลองระบุมาว่าคุณทานอะไรไปบ้าง แค่ไหน ข้างราดแกงบางที จานละ 400-600 cals  เลยนะครับ จากคุณ : bankpakim เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 54 23:35:09

ความคิดเห็นที่ 9 อย่าเอาตัวเราไปเปรียบเทียบกันคนอื่นๆนะอาจท้อได้ ลองทำ cardio + ยกเวทแบบเบาๆดูครับ ทำคู่กันไปน่าจะดีขึ้น จากคุณ : aketty เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 54 23:58:20

ความคิดเห็นที่ 10 3 อาทิตย์ยังไม่ลงก็ไม่แปลกค่ะ ของเราเดือนนึงน้ำหนักขึ้นด้วยซ้ำ มาเริ่มลดตอนผ่านไปเดือนครึ่ง เดี๋ยวนี้สบาย อยากลดเมื่อไหร่ก็ลดได้ เพราะออกกำลังกายเยอะจนอยู่ตัวแล้ว ทำให้กินข้าวเย็นได้แบบจัดหนัก ถ้าอยากลดก็แค่กินข้าวเย็นให้น้อยลง ชิลล์สุดๆ อยากสบายแบบเรา ขยันวิ่งเยอะๆ นานๆ หนักๆ อย่ากลัวเหนื่อยนะคะ จากคุณ : แมวบอส เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 00:17:49

ความคิดเห็นที่ 11 @ คุณ bankpakim ข้าวเช้าส่วนมากเดี๋ยวนี้จะทานพวก ข้าวราดผัดผักบุ้ง หรือ ข้าวราด       กระเพรา หมู ไก่ 1 กล่องน่ะค่ะ ยังเยอะไปหรือเปล่าคะ เพราะเราต้องทานข้าวตอนเช้าค่ะ ไม่งั้นสมองตื้อ ส่วนมื้อกลางวัน ข้าว 1 จาน ประมาณ 1 ทัพพี + นิดๆ ส่วนกับข้าวก็แล้วแต่หมุนไปเรื่อยค่ะ พยายามลดข้าวแล้ว เพราะเมื่อก่อน เติม 2 จานประจำ จากคุณ : สู้เพื่อแม่ โย่ววว เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 00:20:44

ความคิดเห็นที่ 12 เล่นเวทซะหน่อย แล้วอยู่ห่างๆ เครื่องชั่งน้ำหนักไว้ครับ อาหารทานเพิ่มอีกนิดก็ได้นะความเห็นผม มองระยะยาว ยังไงก็ต้องเล่นเวทบ้างครับ แล้ววัดเอวไว้ ถ้าทำได้จริงๆ มีคนทักแน่ๆครับ จากคุณ : xnone เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 02:03:17

ความคิดเห็นที่ 13 การลดที่ดีคือการใช้ชีวิตให้เป็นปกติที่สุดครับ ควรทานสามมื้อแต่เลือกที่จะกินของที่มีประโยชน์ที่สุด แล้วออกกำลังกายอย่างสมำ่เสมอทำให้เป็นนิสัยครับ จากคุณ : Pathikom เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 07:32:54

ความคิดเห็นที่ 14 เป็นเรื่องปกติที่คนเริ่มออกกำลังกายใหม่ส่วนใหญ่ จะมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น หรือ น้ำหนักไม่เปลี่ยนแปลงเลยในช่วง 4-6 สัปดาห์แรกของการออกกำลังกาย ซึ่งโดยปกติแล้วน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นมานั้น คือ น้ำหนัก ”น้ำ” ซึ่งตรงนี้สามารถอธิบายได้ว่า ในช่วงแรกของการออกกำลังกายร่างกายเริ่มเรียนรู้ที่จะต้องเก็บสะสมพลังงานในเซลล์กล้ามเนื้อให้มากขึ้น ซึ่งเป็นพลังงานที่กล้ามเนื้อสามารถนำไปใช้ได้อย่างรวดเร็วเวลาที่ออกกำลังกาย โดยใช้ขบวนการเปลี่ยนแปลง กลูโคส (Glucose) หรือ คาร์โบไฮเดรทมาเป็นพลังงานให้กับกล้ามเนื้อ ซึ่งโดยปกติร่างกายจะเก็บสะสมในรูปแบบของไกลโคเจน (Glycogen) พลังงานการเคลื่อนไหวโดยใช้กล้ามเนื้อนี้ต้องใช้น้ำ 3 โมเลกุลต่อกลูโคส 1 โมเลกุล การออกกำลังกายร่างกายมีการปรับตัวเพื่อให้เก็บสะสมพลังงานในรูปแบบของไกลโคเจนมากขึ้นเพื่อที่จะนำพลังงานมาใช้ได้อย่างรวดเร็ว ร่างกายจึงต้องเก็ํบน้ำไว้มากกว่าปกติ และนั่นก็เป็นสาเหตุให้น้ำหนักในช่วงแรกของการออกกำลังกายเพิ่มขึ้นหรือคงที่ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดีไม่ต้องกังวล อย่างไรก็ตามหลังจากร่างกายปรับตัวได้สักระยะคุณจะสังเกตุเห็นว่าน้ำหนักตัวจะค่อยๆลดลง มีไขมันลดลงและมวลกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้น แก้ไขเมื่อ 23 มิ.ย. 54 14:44:40 จากคุณ : bankpakim เครดิตจากคุณ bankpakim ที่ไปตอบกระทู้ลี ขอยืมมาตอบนะคะ ลีเองสังเกตว่าตอนนี้มีเหงื่อมากขณะเล่นกีฬา เสื้อเปียกเลย ซึ่งปกติแล้วลีเป็นคนเหงื่อน้อย เผาผลาญไม่ค่อยดี เล่นมา 2 อาทิตย์กว่าๆ เนื้อยื่นด้านข้างตรงสะโพกลดลง ขาเฟิร์มมากถึงขนาดว่าขาแข็งกว่าเขาอีก ดีใจดีมั้ยเนี่ย (แต่อยากลดพุงกะแขนก่อนอะ แงๆ) ส่วนน้ำ ดื่มไปวันละ 2 ลิตร แถมตอนออกกำลังกายอีก 1 ลิตร ออกกำลังกายตอนเย็นนะคะ ออกเสร็จกลับบ้าน หมายความว่าเราดื่มน้ำก่อนนอนแค่ 2 ชม. ตอนเช้ายังไม่ค่อยมีปัสสาวะเลย หายหมด ตอนนี้น้ำหนักลีค่อยๆลดลงเป็นหลักขีดนะ 55++ ไม่ได้อยากชั่งทุกวัน แต่มันอดไม่ได้ อ้อ เรื่องทานข้าว ทานครบ ไม่คุม เช้า กลางวัน เย็น แต่ๆๆ ไม่ทานจุกจิก ไม่ทานน้ำอัดลม แต่น้ำผลไม้แบบกล่องหรือแบบสดก็ยังดื่ม ตั้งแต่ออกกำลังกายจัดหนักค่ะ ทานได้ทานเข้าไป น้ำหนักไม่ขึ้น ทั้งๆที่เมื่อก่อนกินข้าววันละมื้อ (แต่แบบอิ่มเต็มที่นะคะ) ยังน้ำหนักขึ้นได้ ยิ่งเจอวันไหนต้องไปกินเย็นเพิ่ม อีกวันแทบต้องลดอาหารที่ว่ากินวันละมื้อลงไปอีก ไขมันตามสะโพก ขา แขน ยังไงก็เยอะทั้งๆที่ไม่ทานไขมันหรือคาร์บเท่าไร ส่วนตัวคิดว่า สมัยก่อนที่ลดน้ำหนัก สารอาหารไม่พอ เพราะลดแป้ง ลดโปรตีน ลดทุกอย่าง รวมทั้งไม่ออกกำลังกายด้วย ทำให้ร่างกายต้องสะสมไขมันมากขึ้น (ร่างกายคงคิดว่าอยู่ในช่วงอดอยาก 55++) ตอนนี้กินเยอะขึ้น แต่สัดส่วนลดลง (แต่น้ำหนักไม่ลงนะคะ) ตัวลีเองไม่ได้วัดเอาไว้เป็นกิจจะลักษณะ แต่เพื่อนทัก ตัวลีเองก็รู้สึกได้ว่าส่วนเกินเริ่มหายไป อาจจะฟังแล้วเว่อร์หรือเปล่า แต่จะบอกว่าเพื่อนๆพี่ๆที่อยู่ในบอร์ดนี้ รวมถึงทุกคนที่ตอบกระทู้ลีเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ทำให้ลีมีความมั่นใจในการออกกำลังกายว่าเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในการลดน้ำหนัก (เลยไม่ค่อยกลัวเรื่องการทานเยอะ แต่ยอมรับแหละว่าตอนแรกนอยด์มากที่ออกกำลังกายไปๆมาๆน้ำหนักขึ้นซะงั้น) ตอนนี้ที่ตั้งใจคือ ออกกำลังกายให้เต็มที่ให้ทั้งมี Quality ออกให้ถูกต้อง HR ให้ถึง & Quantity จำนวนชั่วโมงให้ได้ (ลีสูง 152 หนัก 52 ค่ะ เป็นพวกน้ำหนักไม่เยอะ แต่ไม่น้อยสำหรับความสูงของตัวเอง BMI 22 กว่าๆ อยากได้สัก 20) ถ้าความเห็นลี ลีว่าคุณควรทานโปรตีนเพิ่มอีกหน่อย แต่ว่าลีก็ไม่เชี่ยวชาญ ถ้าไงลองดูผู้ตอบกระทู้ท่านอื่นด้วยละกันนะคะ สู้ๆนะคะ ^^ จากคุณ : Eliptical-san เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 09:19:48 A:206.73.234.4 X: TicketID:321884

ความคิดเห็นที่ 15 คุณสู้เพื่อแม่ โย่วววคะ เราก็เป็นค่ะ น้ำหนักลดไปนิดเดียวค่ะ ออกได้จะ 2 เดือนแล้วค่ะ แต่ที่เห็นคือพุงเริ่มยุบ ต้นขาเล็กลงค่ะ พอลองคิดย้อนกลับไป เป้าหมายของการออกกำลังกายของเราคือ มีสุขภาพที่ดี และรูปร่างที่ดีขึ้น น้ำหนักเป็นผลพลอยได้ ... งั้นพยายามต่อไป ! สู้ๆอดทนไปด้วยกันนะคะ แก้ไขเมื่อ 30 มิ.ย. 54 09:29:40 แก้ไขเมื่อ 30 มิ.ย. 54 09:25:04 จากคุณ : dorapanda เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 09:22:11

ความคิดเห็นที่ 16 *ขาเฟิร์มมากถึงขนาดว่าขาแข็งกว่าเขาอีก ขอแก้ไขค่ะ ขาเฟิร์มมากถึงขนาดว่าขาแข็งกว่าเพื่อนลีที่ไปเล่นด้วยกันอีก จากคุณ : Eliptical-san เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 09:22:21 A:206.73.234.4 X: TicketID:321884

ความคิดเห็นที่ 17 เมื่อไม่กี่วันมานี้ ตอนออกกำลังกายอยู่ เราลองจับขาจับแขนตัวเองดู แล้วมันนิ่มๆ เลยบอก Trainer ว่า ... ตัวนิ่มกว่าเดิมอีก แต่เหมือนมีกล้ามเนื้อแข็งๆอยู่ด้านในแล้วนะ น้องเขาก็ยิ้มๆแล้วบอกว่า ... แปลว่าไขมันที่แน่นๆของพี่กำลังแตกตัวแล้วหล่ะสิ สู้ๆค่ะ นาทีนั้น อึ้งไป 3 วิ - - - - * นี่ตรูเข้าใจผิดมาตลอดว่าที่ตัวแข็งๆอ้วนๆ เพราะเป็นคนมีกล้ามเนื้อเยอะหรอเนี่ย เลยคิดว่าเอาว่ะ น้ำหนักไม่ลดไม่เป็นไร เดี๋ยวมันก็ลดเอง ดูซิใครจะอดทนกว่ากัน !!!! แก้ไขเมื่อ 30 มิ.ย. 54 09:28:21 จากคุณ : dorapanda เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 09:27:42

ความคิดเห็นที่ 18 ต้องใช้เวลาค่ะ  อย่าใจร้อน พอถึงเวลาลด จะลดลงเรื่อยๆ ค่ะ เหมือนลดา ตอนเริ่มออกใหม่  1-2  เดือนนี่ ไม่มีผลไร กับน้ำหนักเลยค่ะ กว่าจะลงแต่ละกิโลยากมาก เพราะไม่ได้น้ำหนักมาก ตอนนี้ออกมา ประมาณ 6 เดือนแบบจริงจัง น้ำหนักลดลง 2 โล เฟริมมากขึ้น สามารถกินไรได้ปกติ ขอให้ผ่านช่วงนี้ไปให้ได้ค่ะ อย่าเพิ่งท้อแท้นะ   ผลของความสำเร็จ ย่อมหอมหวล...อิอิ จากคุณ : เพียงลดา เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 10:21:24

ความคิดเห็นที่ 19 มาซุ่มอ่าน... อ่านแต่ละคน เครียดเลยคะ กำลังเริ่มลด สูง 154 หนัก 53  เรียกว่าอวบก็ได้ แต่เป็นคนตัวแน่นมากๆ ไม่รู้ว่าแน่นอะไร ไม่ย้วยเลยก็ว่าได้ พยายามลดปริมาณอาหาร ปรับท้องให้เล็กลงก่อน จริงๆเป็นคนไม่ได้กินเยอะอะไร แต่ตอนนี้งดมื้อเย็นเป็นแบบเบาๆแทน ผลไม้ กับเนื้อนิดๆหน่อย ไม่ก็โปรตีนแอมเวย์ 1 แก้ว ลดปริมาณอาหารที่กินมา 2 อาทิตย์แล้วแต่น้ำหนักลงประมาณ 0.5-1 kg. ขึ้นๆลงๆ กะว่าอาทิตย์หน้าจะเริ่มออกกำลังกายแล้ว แต่ปัญหาที่ว่าคือเป็นคนเผาพลาญช้า มากๆหรือไม่ดีเลย เหงื่อไม่ออกคะ... เหนื่อย หอบ แต่เหงือน้อยมากๆ เดินเร็ว หรือปั่นจักรยาน 45 นาทีเรียกว่าซึมเท่านั้น ควรทำยังไงดีคะ  ไม่แน่ใจแนวทางลดน้ำหนักของตัวเองเลย แอบมาขอคำแนะนำด้วยคะ เราว่าเรากินน้อยนะ เช้า กาแฟ+ขนมปัง 2 แผ่น ไม่กินไม่ได้ ต้องทำงาน กลางวัน  ข้าวธรรมดา แต่ปริมาณ 1 จานนี่ปกติ แต่ตอนนี้ลด คือน้อยลง แต่กินอยู่ บ่าย3-4 โยเกิรต์ หรือแอปเปิ้ล 1ผล เย็น มะละกอ กับข้าวนิดหน่อยเน้นโปรตีน  แบบแย่งแฟนกิน เราไม่กินเอง สัก 2-3 คำ กับผลไม้อื่นๆสลับกันไป เราว่าเรากินน้อย ตอนนี้กินนิดเดียวก็อิ่มแล้วคะ แต่น้ำหนักไม่ลด อาทิตย์หน้าจะเริ่มฟิตเนสแล้ว ควรเล่นอะไรก่อนหลัง ยังไงบ้างคะ ปกติทำงานบ้านเองหมด เป็นคนนิ่งไม่เป็น ทำหลายอย่างมากคะ ตัวเลยแน่นไปหมด ไม่มีเนื้อย้วยๆเลยอ่ะ... จากคุณ : curinrin เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 10:52:42

ความคิดเห็นที่ 20 เมื่อปีก่อนโน้นนนนนน   เราไปยิมอยู่เกือบ 3 เดือนแน่ะค่ะ  น้ำหนักถึงจะเริ่มลดลง ช่วงเดือนแรกๆก็ท้อใจมากมายแบบคุณนี่แหละ พอมาหาอ่านข้อมูลในห้องนี้ถึงได้ทราบว่า ร่ายกายของเรา ก็มีกลไกในการแปรรูปพลังงานออกมาใช้ อ่ะนะ คิดซะว่าช่วงแรกนี้ เป็นช่วงเวลาของการสร้างโรงงานเผาไขมัน  ซึ่งก็คือกล้ามเนื้อน่ะเองนะ พอโรงงานของคุณมีขนาดใหญ่มากพอแล้ว  ไขมันส่วนเกินก็จะค่อยๆถูกเผาออกไป น้ำหนักถึงจะเริ่มลงค่ะ ใจเย็นๆ  ตั้งใจทำทุกวันให้ดีที่สุด  เราเชื่อว่า เมื่อเดือนที่ 4-5 มาถึง  น้ำหนักคุณจะลงจนปลื้มเลยทีเดียว สู้ๆนะค๊า   ตอนนี้เราก็กำลังพยายามลด  เพื่อวิ่งหนีคำว่า "อ้วนระดับ 1 "  อยู่เหมือนกัน จากคุณ : KHIMM เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 10:59:19

ความคิดเห็นที่ 21 ออกไปเรื่อย ๆ ครับ ถ้าเกินหกเดือน แล้วไม่ลง ค่อยเครียด เพราะตอนน้ำหนักเยอะ มันก็เยอะมานาน แล้วเราทำแค่แป๊บเดียวมันจะฮวบฮาบเลย มันไม่ได้หรอกครับ เป็นกำลังใจนะคับ สู้ไปด้วยกันครับ ของผม ออกมา 1 เดือนกับ อีก อาทิตย์นึง ลดไป หกโล แต่รูปร่างประมาณเดิม แต่พุง หน้า ขา เล็กลงนิดหน่อย สัญญาว่าจะวิ่งไปเรื่อยๆ และจะไม่ชั่งน้ำหนักบ่อย หุๆ กลัวจิตตก จากคุณ : เด็กเทพที่มาอยู่ใต้ เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 12:49:58

ความคิดเห็นที่ 22 คำว่าทานเยอะ น่าจะหมายถึง แคลในอาหารเยอะน่ะครับ คือ...ข้าวราดแกง ตามร้านอาหารข้างนอก ไขมันจสูงๆทั้งนั้น คุณก็ต้องระบุด้วยครับว่า ไอ้ข้าวราดแกงนี่มีไรบ้าง เพราะบางจานโปะไข่ดาวไปด้วยนี่  เกือบ พันก็มีนะต่อจาน เพราะเมนูของทอด เมนูของมันๆก็มีเยอะ ของบางอย่าง ปริมาณน้อย แต่อ้วน ของบางอย่างปริมาณเยอะ  แต่ไม่อ้วน ต้องจำแนกของพวกนี้ให้ได้ครับ  ทรวดทรงมันคู่ไปกับเรา ตลอดชีวิต เราต้องคุม ต้องรู้จักร่างกายคนเราครับ จากคุณ : red-racket เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 14:27:28

ความคิดเห็นที่ 23 ผมว่าน่าจะกินเยอะไปหรือเปล่าครับ ? ผมสัดส่วนเหมือนกับคุณเลยก็ว่าได้ครับ แต่ผมเป็นชายแค่นั้น ไม่อ้วนไม่อวบ สมส่วน แต่อยากลดสัก 4 โล ผมไม่กินข้าวเช้า เที่ยง กินแต่ เย็น ข้าวครึ่งทัพพี ออกกำลังกายด้วยการปั่น จยย 30 นาที และ ท่าบริหารโยคะ กิน L ทุกวันก่อนออกกำลังกาย ผ่านมา 2-3 เดือน ลดได้แค่ 2 โล เองครับ มันยากจริง ๆ ถ้าเราไม่ได้อ้วนมากครับ เป็นกำลังใจให้ครับผม จากคุณ : AYAGO เขียนเมื่อ : 2 ก.ค. 54 23:50:22

ความคิดเห็นที่ 24 ช่วงที่คนถอดใจมากที่สุดของการลดความอ้วนนี่ก็ช่วงแรกนี้ละครับ ทำต่อไปเรื่อยๆ เหมือนไม่หวังอะไรกะมันมาก ทำให้การออกกำลังกายอยู่ในชีวิตประจำวันเราให้ได้ เดี๋ยวมาเองครับ ^ ^ ช่วงนี้ผมแนะนำว่ายังไม่ต้องทำอะไรกับการกินมากก็ได้(ถ้าเราพยายามที่จะบีบบังคับหรือว่า คุมมันมากเดี๋ยวพาลจะหมดกำลังใจ) พยามออกกำลังกายให้สม่ำเสมอเป็นนิสัย แล้วก็ศึกษาเรื่องอาหารการกินควบคู่ไป ในเนตมีเยอะครับ ค่อยๆลองปรับเปลี่ยนอาหารการกินที่ ละน้อยให้เหมาะกับชีวิตประจำวันเรา หวังผลยาวๆ นะครับ เป็นกำลังใจให้ ^ ^ จากคุณ : Ostrich เขียนเมื่อ : 6 ก.ค. 54 23:13:42