ความคิดเห็นที่ 1 -.- จากคุณ : taecu เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 11:48:24

ความคิดเห็นที่ 2 เวรกรรมจริงๆ น่าสงสารทั้งคู่ รอความคิดเห็นอื่นๆค่ะ ดิฉันอ่านแล้วยังอึ้งคิดอะไรไม่ออกจริงๆ จากคุณ : fairport เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 11:49:22

ความคิดเห็นที่ 3 คำว่า "จบ" พูดเบาๆ ก็เจ็บ... จากคุณ : Grumsygirl เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 11:53:01

ความคิดเห็นที่ 4 แม้จะปรุงแต่งคำพูดให้ดูดีแค่ใหน  สุดท้าย.....ยังไงก็เจ็บอยู่ดีค่ะ  เศร้าจัง TT จากคุณ : จ่อย (นู๋เมล์จ้ะ) เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 11:54:07

ความคิดเห็นที่ 5 มาถึงป่านนี้คงทำไม่ได้แล้วค่ะ ที่จะให้เค้ากลับมาเป็นเพื่อน เราว่ามันสายเกินไปแล้ว ไม่แน่ใจว่าเค้าลักษณะนิสัยเป็นยังไง เลยบอกไม่ได้ว่าอกหักแล้วเค้าจะเป็นยังไงค่ะ จากคุณ : ชื่นชีวา เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 11:55:02

ความคิดเห็นที่ 6 เฮ้อ อ่านแล้วเหนื่อย  ความรักนี่มันบังคับกันไม่ได้จริงๆ แต่เท่าที่อ่าน  เขาเป็นตนดีคนหนึ่ง เข้าทางตรอก  ออกทางประตู อยากจะบอกว่า  รักคนที่เขารักเรา  ดีกว่ารักคนที่เรารักเขา จากคุณ : papa-chai เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 11:57:18

ความคิดเห็นที่ 7 คุณเคยอิสระมาก่อน พอมีคนเข้ามาอยู่ในชีวิตแบบใกล้ชิดมาก ๆ มากจนรู้สึกอึดอัด สับสน วุ่นวายใจ มันทำให้คุณปรับตัวไม่ทันมากกว่า จริง ๆ คุณคงไม่ได้รังเกียจเค้าหรอกค่ะ ทำไมไม่ slow down ความสัมพันธ์ซักหน่อย ค่อย ๆ ให้ความสัมพันธ์ค่อยเป็นค่อยไป น่าจะถูกกับนิสัยคุณมากกว่านะคะ ปล. ถ้าปฏิเสธการแต่งงานจริง ๆ ขอให้แน่ใจก่อนนะคะว่าจะไม่เสียใจทีหลัง เพราะโอกาสรีเทิร์นจะต่ำมาก จากคุณ : papa mama love u เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 11:57:42

ความคิดเห็นที่ 8 บอก "ความจริง" ค่ะ อาจเจ็บในระยะแรก แต่เค้าจะเข้าใจและไม่โกรธเราไปตลอดหรอกค่ะ เพราะไม่รัก ก็คือไม่รัก ไม่ว่าจะทำยังไงก็ไม่รักได้อยู่ดี เราเคยเป็นแบบนี้มาแล้ว เราเลือกบอกเค้าตามความจริงทุกอย่าง.. ตอนนี้เรายังเป็นเพื่อนกับแฟนเก่าคนนั้นได้อยู่ และรู้สึกดีที่ไม่ได้โกหกเค้าด้วย จากคุณ : Amieinlove เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 12:00:11

ความคิดเห็นที่ 9 มีหลายคนบอกว่า ....ความรัก เกิดจากสิ่งที่เราไม่เคยรักเลย เราไม่เคยชอบหน้าคนนี้เลย แต่สุดท้ายกลับเป็นคนที่เรารักที่สุด และรักเราที่สุด และเราก็จบลงที่เขา ผมว่าคุณยังสับสนตัวเองอยู่ ยังอยากอยู่แบบสบายตัว กลัวว่าจะมีภาระในสภาพที่จิตใจยังไม่พร้อม ลองให้เวลากับตัวเอง ทบทวนตัวเองก่อนนะครับ ลองให้โอกาสตัวเองอีกสักนิดหนึ่ง เผือจะเปลี่ยนใจเป็นรักเขาได้ เพราะว่าอย่างน้อยคุณก็มีใจให้เขาบ้างแล้วละ .......... จริงๆนะ จากคุณ : โทนี่ (ChadChad) เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 12:01:40

ความคิดเห็นที่ 10 มันเร็วเกินไปจริง ๆ ด้วยค่ะ ถ้าเป็นเรา คงหาทางออกด้วยการคุยตรง ๆ เปิดอก สำหรับเราแต่งงานไม่ใช่เรื่องลองผิดลองถูก หรือไหลตามน้ำ เออ ออ ตามความเห็นคนอื่น ถ้าเรายังไม่มั่นใจ เราขอถอย ถ้าเค้าพอจะเข้าข่าย แต่เรายังไม่พร้อม ก็เบรค ๆ บอกไปว่าอยากรู้จักให้มากกว่านี้ เค้าจะได้รู้จักเราด้วย แต่ถ้า ถามใจตัวเองแล้ว ยังไง ยังไง๊ ก็ไม่ใช่ ใครรอบข้างว่าใช่ แต่เราตอบตัวเองว่าไม่ ก็ถอยไปเลย หยุดความสัมพันธ์ของคนรัก เป็นแค่พี่น้อง เพื่อน ก็ว่าไป สำหรับเรา เราคิดว่า การรับมื่อความผิดหวังเสียใจ เป็นภาระหน้าที่ ของคน ๆ นั้นเอง คือ ไม่ว่าจะมีสิ่งแวดล้อมใด หรือใครมาทำให้เราเสียใจ มนุษย์ต้องเรียนรู้การก้าวข้ามผ่านนั้นได้ด้วยตัวเอง มันคือทักษะหนึ่งของการใช้ชีวิต คุณห่วงเค้าได้ แต่ไม่ใช่ให้ความหวัง เพียงเพราะกลัวเค้าทำร้ายตัวเอง เพราะถ้าเมื่อไม่รัก พฤติกรรมการปฏิบัติ ก็เป็นเช่นคนไม่รัก ต่อให้เค้าบอกว่า ไม่เป็นไรยินดีทำให้ ไม่หวังอะไร ยังไง มันก็ไม่เวิร์ค  ในระยะยาว... ไม่มีใครทำอะไร โดยไม่หวังเลย ถามใจตัวเองดี ๆ ก่อนตัดสินใจ ตัดสินใจอะไรแล้ว จะไม่เสียใจ เราว่าเค้าก็ไม่เลวนะ เค้ารู้จักเข้าหาผู้ใหญ่ กล้าดี แมน ๆ หายากนะ แต่ก็ไม่ชอบพฤติกรรม มัดมือชก (ออกแนวเผด็จการนิด ๆ) สำหรับเรา ชอบดูคนยาว ๆ เราไม่ค่อยเชื่ออารมณ์ความรู้สึกวูบไหว ของผู้ชายในช่วงแรก ๆ เท่าไหร่ มันทำให้หัวใจพองโต มีความสุข เก็บเกี่ยวความรู้สึกนั้นไว้ แต่ต้องไม่คาดหวังวิมานสามชั้น ชั่งใจ หารสาม หารสี่ กำลังดี จากคุณ : แพนดาร์ตาหวาน เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 12:09:30

ความคิดเห็นที่ 11 ความรัก(ไม่ดี)เหมือนเชื้อร้าย แรกๆไม่รักษา ปล่อยให้ลามไปทั่วแล้วค่อยจัดการแบบนี้ ยาดีเคมีเข้ากันได้ ไม่มีปฏิกิริยาก็ดีไป แต่ถ้าไม่เข้ากัน อะไรก็เกิดขึ้นได้ คุณคิดเองดีกว่านะ.. ถ้าคุณไม่รักคุณคงไม่คุยโทรศัพท์กับเขาทุกวัน ถ้าคุณไม่รักคุณคงไม่คบกับเขาหลายเดือน ถ้าคุณไม่รักคุณคงไม่พาเขามาที่บ้าน จริงๆความคิดของคุณ ถ้าเป็นผู้ชายก็ประมาณว่า คบไปงั้นๆ แต่คุณเป็นผู้หญิง ปล่อยให้มาถึงขนาดนี้ คิดทบทวนว่าอยู่ด้วยแล้วมีความสุขไหม ถ้าไม่ใช่บอกเขาไปตรงๆดีที่สุด ดีกว่าคุณมาคิดได้หลังจากแต่งงาน เพราะผลที่ออกมาจะแย่กว่านี้ จากคุณ : ลุงเต่าน้อย เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 12:09:53

ความคิดเห็นที่ 12 ขอเลื่อนการแต่งงานออกไปก่อนดีไหมคะ แบบอยากขอเวลาให้มั่นใจมากกว่านี้ เพราะดูเหมือนว่าเร็วเกินไปจริงๆ จากคุณ : h2o nana เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 12:13:06

ความคิดเห็นที่ 13 ทำไมถึงปล่อยให้มันล่วงเลยมาจนถึงขนาดนี้หละค่ะ  สงสารฝ่ายนั้น จากคุณ : cheerful_love เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 12:15:20

ความคิดเห็นที่ 14 บอกตรง ๆ ค่ะ เพราะเขาจะเจ็บไม่เจ็บ คุณกำหนดไม่ได้ อยู่ที่เขาค่ะ แต่จบให้เร็วที่สุด ดีกว่า ถามตัวเองให้ดีนะคะ  เพราะถ้าจบแล้ว มารู้ใจตัวเองทีหลัง กลับมาคบกันใหม่  ยังไงก็ไม่เหมือนเดิม ^_______^ จากคุณ : อนัตตาเทวี เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 12:18:05

ความคิดเห็นที่ 15 เห็นด้วยกะคุณ h2o nana น่าจะดีทีุ่สุดสำหรับตอนนี้ แล้วหลังจากนี้คุณต้องทบทวนความรู้สึกตัวเองให้ดีๆ ว่าไม่ต้องการแต่งงานกับเค้าแน่นอนหรือเปล่า   ถ้าไม่ก็ต้องบอกเค้าไปตรงๆ อย่าอ้อมแอ้ม ให้ความหวังใดๆ แต่คุณต้องแน่ใจจริงๆนะ ไม่ใช่บอกเลิกเค้าแล้วจะมานั่งเสียใจเสียดายทีหลัง จากคุณ : LeeJungJi เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 12:22:55

ความคิดเห็นที่ 16 ก็บอกไปตามตรง บางคห.บอกว่าให้เลื่อนไปก่อน เราไม่เห็นด้วยเหมือนกั๊กฝ่ายชาย จับเข่าคุยกับเขาตรงๆว่าไม่ได้รัก ไม่ได้อยากแต่งงาน ไม่ว่าจะประดิษฐ์คำพูดยังไง ผลตอบรับก็เจ็บเท่ากัน จากคุณ : ปูน้อยขาโก่ง~* เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 12:25:14

ความคิดเห็นที่ 17 คุณผิด จากคุณ : ยึนยัน เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 12:26:09 A:110.171.56.169 X: TicketID:253582

ความคิดเห็นที่ 18 ผมว่าลองพูดกับเค้าให้คิดเรื่องแต่งช้าลงจะดีกว่า เท่าที่อ่านมา ผู้ชายคนนี้ดีมาก จริงใจสุดๆให้เกียรติผู้หญิงและครอบครัว เข้าตามตรอกออกตามประตู หน้าตาดี ฐานะดี โอ้ยย อ่านแล้วเครียด (ดูตัวเอง 555+) แต่ติดที่คุณยังไม่พร้อม อาจจะเร็วไปและยังไม่ทันได้ปรับตัวกับสถานะ บอกไปเลยว่ายังเร็วเกินไป แก้ไขเมื่อ 30 มิ.ย. 54 12:29:01 แก้ไขเมื่อ 30 มิ.ย. 54 12:28:47 จากคุณ : scozember เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 12:28:31

ความคิดเห็นที่ 19 เราก็เคยเป็นค่ะ คบเพราะสงสาร และคิดว่าอาจจะรักได้ แต่คนไม่รัก ยังไงมันก็ไม่รัก โชคดีที่ยังไม่ถึงกับพาไปเจอพ่อแม่ เพราะเราบ่ายเบี่ยงตลอด สุดท้ายเราก็บอกเลิกเค้าเองค่ะ แต่ไม่ได้บอกไปตรงๆ ว่าที่ผ่านมาฉันไม่เคยรักเธอเลยนะคะ กลัวเค้าเสียใจมาก ได้แต่บอกว่าเราเข้ากันไม่ได้ (ซึ่งก็เป็นเรื่องจริง เพราะทัศนคติ lifestyle ต่างกันมาก) ปรากฏว่าผ่านไปไม่ถึง 2 ปี เค้าก็แต่งงานแล้ว คบกันไม่นานก็แต่งเลย เราคิดเอาเองนะ ว่าคนที่โดนทิ้งอ้ะ จะรู้สึกว่าตัวเองไร้ค่า ไม่เป็นที่ต้องการ พอเจอใครที่เห็นคุณค่าก็จะซาบซึ้งมาก และอยากแต่งงานเืพื่อประกาศให้โลกรู้ว่า ฉันก็มีคนมารักนะ ไม่แน่หรอก การที่คุณบอกเลิกในครั้งนี้ อาจเป็นจุดเริ่มต้นให้เค้าได้ไปเจอผู้หญิงที่เป็นเนื้อคู่จริงๆของเค้าก็ได้ ไม่ต้องห่วงเค้ามากหรอก ผู้ชายไม่เศร้านาน ห่วงตัวเองดีกว่า อย่างเราไง จนแฟนเก่ามีลูก 3 ขวบแล้ว เรายังโสดอยู่เลย 555 จากคุณ : แมวบอส เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 12:39:45

ความคิดเห็นที่ 20 ผมว่าเรื่องนี้เศร้านะ แต่ทางที่ดีที่สุดผมว่าคุณน่าจะคุยกับแฟนคุณ และขอเลื่อนการแต่งงานไปก่อนดีกว่า โดยให้เหตุผลกับเค้าว่า มันเร็วเกินไป ของแบบนี้มันต้องซึมซับ แล้วค่อยๆปรับตัวเข้าหากัน แต่นี่คบกันไม่ถึงปีนี่ ถึงกับจะแต่งกันเลยเหรอ .. ส่วนตัวผมซึ่งกำลังจะแต่งงานอีกไม่กี่วันนี้ คบกับแฟนมา 3 ปี ซึ่งผมว่ามันโอเคมากเลย ไม่ช้า ไม่เร็วจนเกินไป ได้รู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของกันและกันมาจนหมด ทั้งนิสัยใจคอ ชอบอะไร ไม่ชอบอะไร มันก็เลยมีความยินดีเป็นอย่างมากที่จะได้ใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน 7 เดือนในการคบกันผมว่ามันน้อยไปนิดนึง เวลาให้ตั้งตัวก็ไม่ค่อยมีอีกด้วย ยืดไปก่อนดีกว่าครับ เรียนรู้กันให้มากกว่านี้เถอะ และที่สำคัญ เล่าอะไรที่คุณยังไม่ได้เล่ามาให้หมด เพื่อคำตอบที่เป็นประโยชน์มากขึ้น จากคุณ : ซุปเปอร์เดปอร์ เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 12:41:12

ความคิดเห็นที่ 21 ไม่น่าปล่อยให้เรื่องมันมาถึงขนาดนี้ ฝ่ายชายดูเป็นคนดีมาก ๆ นะ ถ้าคุณไม่รักจริงๆ คงต้องบอกความจริงเขาไปแต่แรกเลย ดิฉันกลัวแต่ว่า เมื่อคุณทำร้ายความรู้สึกเขาแบบนี้ ทั้ง ๆ ที่เขาก็ทำตามประเพณีทุกประการ คราวต่อไปหากเขาจะมีรักใหม่ เขาคงไม่ศรัทธาในความรักอีกแล้ว และคนที่จะซวยคือ แฟนคนต่อไปของเขาอ่ะค่ะ เพราะดิฉันเคยเจอเคสแบบนี้แล้ว ทรมานมาก ๆ เลย จากคุณ : sornsri101 เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 12:50:13

ความคิดเห็นที่ 22 อืม น่าจะเจ็บหนัก นะเนี่ย   ความจริง ชีวิตนึง คนเราก็ต้องเจอ และยอมรับ จะเจ็บแค่ไหน ก็ต้องทนให้ได้  เราว่า บอกเถอะ  เราก็เคยเจ็บ เวลาจะช่วยเค้าเองจ๊ะ จากคุณ : จิตพลู เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 12:54:45

ความคิดเห็นที่ 23 เคยเหมือนกันที่ต้องปฏิเสธความรู้สึกดีๆที่มีคนให้มา มันพูดยาก ถึงจะบอกให้พูดตรงๆ แต่เวลาจะอ้าปากบอก อึดอัด สงสารคนฟัง แต่ก็ต้องกลั้นใจบอกค่ะ ดีกว่าต้องคบกันไปแบบทรมาน มากกว่านี้ เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว ถ้าแน่ใจว่าไม่แต่งก้บอกความจริงค่ะ ใช้คำพูดที่ฟังดูดีที่สุดค่ะ แต่ความหมายต้องตรงนะคะ อาจจะเหมือนสร้างภาพก็ใช่ แต่อยากให้คนฟังทรมานใจน้อยที่สุด ขอให้ผ่านไปด้วยดีค่ะ จากคุณ : Scindapsus เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 12:59:44

ความคิดเห็นที่ 24 ไม่มีวิธีไหนที่เจ็บน้อยที่สุดหรอก ส่วนแฟนคุณหลังจากโดนทิ้งจะกลายเป็นคนแบบไหนขึ้นอยู่กับนิสัยพื้นฐานของเขา เคยเจอคนที่จากคนดี รักแฟนมาก โดนทิ้งเพราะผู้หญิงโดนผู้ชายอื่นมาจีบแบบนี้เปี๊ยบเลย กลายเป็นคนที่ไม่เชื่อใจคนอื่นอีกต่อไป(เพราะสมัยรักกันฝ่ายหญิงก็พร่ำบอกว่ารักเขามากๆ) เลิกคาดหวังต่อสิ่งต่างๆเพราะจะได้ไม่ต้องเจ็บ จากคุณ : Dequardo เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 13:06:27

ความคิดเห็นที่ 25 แค่อ่านดู ก็เจ็บแทนผู้ชายคนนั้นแล้ว เขาคงรักคุณหมดหัวใจ ถ้าคุณไม่รักเขาก็บอกเขาไปตรงๆเถอะ เผื่ออนาคตจะยังเป็นเพื่อนกันได้ จากคุณ : Fill Time Auto เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 13:07:16

ความคิดเห็นที่ 26 คงไม่มีทางเลือกอื่นใด  นอกจากบอกตรง ๆไปเลยว่า ไม่ได้ชอบแบบคนรัก  ขอคบกันแบบเพื่อนดีกว่า แล้วผลสุดท้ายของการตัดสินใจ  ก็คงจบเหมือนเดิม คือเสียใจทีหลัง  ไม่น่าปฏิเสธเลย  หมูวิ่งชนปังตอหาได้ที่ไหน ประวัติศาสตร์มักซ้ำรอยเดิม  ไม่ว่ายังไงก็แก้ไม่ได้ case นี้เจอบ่อย  เอาไปเล่าเตือนสติให้ลูกหลานตัวเองต่อไป แหะ..แหะ.. จากคุณ : --^ไชโย^-- เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 13:09:56

ความคิดเห็นที่ 27 งง เบลอๆ  ทำร้ายคนดีๆไปคนนึง แย่นะคุณ จากคุณ : KHIMM เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 13:11:37

ความคิดเห็นที่ 28 แล้วเค้าขอมาร่วมอวยพรวันเกิดอาเจ็กด้วย  โดยไม่ได้คิดอะไรดิฉันเลยไปปรึกษาอาเจ๊ก ... ไม่รัก ไม่คิดอะไร ปล่อยไปขนาดนี้ได้ไง คุณไม่รู้สึกอะไรด้วย แต่ก็ไม่ปฏิเสธเลย แล้วผู้ชายเขาจะรู้ได้ไง บอกยังไงดีเหรอ... บอกตรงๆ แล้วกันครับ บอกความจริงแบบไม่ต้องปรุงแต่ง เจ็บหน่อย ไม่เจ็บน้อย แต่เขาจะไม่โกรธเกลียดคุณไปจนวันตายหรอก แต่ถ้าคุณพยายามปรุงแต่งคำพูดให้มันดูดี ให้เขาเจ็บน้อยสุด แล้วเขามารู้ทีหลังว่ามันไม่จริง  เขาก็จะเจ็บและเกลียดคุณมากๆ ไปเลยก็ได้ วันหลังถ้าไม่รู้สึกอะไรกะใคร อย่าไปล้อเล่นกับหัวใจเขานะครับ มันบาป จากคุณ : ลูกหมีเขี้ยวยาวเขาโง้ง เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 13:17:44

ความคิดเห็นที่ 29 ไม่มีใครผิดแต่โชคชะตาเล่นตลก ??? อยากเจอผู้ชายดีดีแบบนี้บ้างจัง จขกท. คิดดีแล้วยังคะ แค่หวงชีวิตโสดหรือเปล่า ความรักเป็นสิ่งที่ดีแต่มันไม่เหมือนในนิยาย รักกันแล้วก็แต่งงาน บางครั้งแต่งทั้งที่ไม่ได้รัก ก็อยู่ยืดยาวมีความสุขดี เหมือนปู่ย่าตายาย คลุมถุงชนก็อยู่กันได้ ด้วยความรักผูกพันและเข้าใจ ถ้าไม่มองด้วยหัวใจ ลองมองด้วยเหตุผลดู แต่ถ้ามันฝืนมาก ไปทำร้ายเค้าก็คงไม่ใช่เรื่องดี ลองบอกให้เค้าค่อยๆ ศึกษากันไปก่อนไหมคะ ประมาณว่า คุณยังไม่มั่นใจความรู้สึกตัวเอง มันเร็วไป ยังหวงชีวิตโสด ยังกลัว บลาๆๆ สรุปที่ว่าให้คบให้ดูกันไปก่อน อย่าเพิ่งรีบหมั้นรีบแต่งกันเลย ยังไม่พร้อม ... อะไรประมาณนี้ น่าจะกลางๆ ที่สุดค่ะ เดี๋ยวจะว่าเห็นแก่ตัว แต่ว่าวิธีนี้จะทำให้ผู้ชายลดความมุ่งหวังลงไป เวลาผิดหวังก็จะช้ำน้อยลง น่ะค่ะ อย่าบอกเลิกทันที สงสารอ่ะ อย่าให้ความหวังมาก สงสารเหอะ ค่อยๆ บอก ทุกวันช้าๆ ในฐานะที่เคยอยู่ทั้งสองแบบ โชคดีทั้งสองคนนะคะ จากคุณ : แอนด้า เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 13:21:47

ความคิดเห็นที่ 30 ผ่านมาตั้งนานแล้ว จขกท. ยังไม่เข้ามาให้ความเห็นต่อเลย ผมชักสงสัยว่านี่เป็นเรื่องแต่งซะแล้วหละครับ จากคุณ : ซุปเปอร์เดปอร์ เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 13:34:15

ความคิดเห็นที่ 31 อ่านแล้วเพลียเลยอะ แนะนำ จขกท ว่าให้ใช้เวลาคิดมาากกว่านี้ ถ้าจะปล่อยเขาไป ต้องไม่เสียใจ ความรักมักมีค่าสูงสุดตอนหลุดมือ จากคุณ : เขียนบน (กระดาษเกาเหลา) เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 13:40:34

ความคิดเห็นที่ 32 ผมว่า จขกท. ใจดำ คนที่เรารัก กับ คนที่รักเรา คิดมั้ยว่าแบบไหนดีกว่า คุยก่อนมั้ยว่าชอบอะไรไม่ชอบอะไร เเล้วก็ปรับตัวกันก่อน ก่อนจะแต่ง ไม่ใช่นี่จะเลิกเลย แรงไปสงสารคนที่เขารักเราบ้าง รู้สึกว่าคุณห่วงแต่ตัวเองว่าเขาจะมาทำร้ายอะไรเรามั้ย สงสารผู้ชาย จากคุณ : Mario A เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 13:42:32

ความคิดเห็นที่ 33 ไม่รู้จะเป็นการแก้ตัวรึเปล่า  เราเป็นผู้หญิงที่ระวังตัวมากในการใกล้ชิดกับผู้ชายจนดูเหมือนเป็นโรคจิต  เพราะเราเชื่อว่าไม่มีผู้ชายคนไหนไว้ใจได้ถ้าอยู่ด้วยกันสองต่อสองโดยเฉพาะกับผู้หญิงที่เค้ามีใจให้  ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันเป็นเหตุสุดวิสัย  ที่น่าหนักใจไม่แพ้กันก็พ่อแม่เราเองนั่นแหละ  ส่งเสริมแทบจะถีบส่งให้เราแต่งงาน  เราอยู่ตรงกลางก็น้ำท่วมปากมาตลอด   เราว่าแฟนเราเป็นคนเผด็จการเหมือนคุณแพนด้าร์ตาหวานบอก เค้าอาจจะไม่ตั้งใจ ไม่รู้ตัว  แต่เค้าน่าจะรู้ว่าเราไม่คิดอะไรตั้งแต่เราหลบหน้าเค้า  ความตั้งใจตอนนั้นคือจะถอยแล้ว ไปไงมาไงไม่รู้มันกลับถูกรัดมากเข้าไปทุกทีอย่างรวดเร็ว  ถ้าเราบอกเลิกตอนนี้นะ สถานการณ์เราแย่มากๆ ในสายตาพ่อแม่เรา  เพราะเราเคยเกริ่นเรื่องเลื่อนงานแต่งกับพ่อไป  โดนด่าเละ   ความรู้สึกของเราตอนนี้เหมือนกับว่ากำลังโดนมัดมือมัดเท้าแล้วจับส่งให้ผู้ชายเลย  ทุกข์มาก เครียดมาก คิดว่ามันเป็นปีซวยอะไรอย่างนี้   จริงๆเราไม่น่าให้เค้ามางานที่บ้านเราเลย  แต่ตอนนั้นคิดไม่ออกจริงๆว่าจะใช้เป็นเหตุผลอะไรในการปฏิเสธ  ก็เลยปรึกษาอาเจ๊กอย่างที่บอก เรื่องมันไปกันใหญ่ตั้งแต่ความผิดพลาดครั้งนั้นอย่างคุณลูกหมีเขี้ยวยาวเขาโง้งบอก   เราอยากจะบอกว่าถึงแม้เราจะอายุ 30 แต่เราทำงานกับครอบครัว ความคิดเห็นของญาติมีอิทธิพลต่อเราในระดับนึง  แต่มันก็ไม่มากไปกว่าเสียงในใจเราที่บอกว่า...ไม่  ขอบคุณทุกความคิดเห็นคะ  อ่านแล้วสามารถบอกได้เลยว่า  เป็นความคิดเห็นของผู้ชายหรือผู้หญิง  ผู้หญิงที่เคยผ่านเหตุการณ์อย่างนี้มาจะเข้าใจ  และก็เป็นธรรมดาที่ผู้ชายจะต่อว่า  เราก็เข้าใจ  ต่อไปคงไม่กล้าคุยกับผู้ชายไปอีกนาน  ปวดหัวจริงๆ จากคุณ : ชอบปลูก เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 13:42:40

ความคิดเห็นที่ 34 ส่งเบอร์เค้ามาให้เราค่า (อันนี้ขำๆ) เอาหล่ะ จริงจังหล่ะนะ อันดับแรก อย่าเพิ่งบอกตัดรอนค่า ใช้วิธียืดระยะเวลาให้คุณและเค้าลองค้นพบความรู้สึกที่แท้จริงของทั้งคู่ก่อน อาจจะแค่หมั้นกันไปก่อน อย่าเพิ่งแต่ง บอกเค้าว่าขอเวลาเรียนรู้กันก่อน ใครจะไปรู้คุณอาจจะรักเค้าแต่กลัวการเปลี่ยนแปลงก็ได้ ใจเย็นๆก่อนค่ะ สู้ๆค่ะ จากคุณ : เกณหลง เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 13:43:56

ความคิดเห็นที่ 35 ขอให้จบแบบบัวไม่ให้ช้ำ น้ำไม่ให้ขุ่นนะคะ จากคุณ : Jinni@May เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 13:51:51

ความคิดเห็นที่ 36 แนะนำให้ลองหาที่เงียบสงบซักที่นึง ไปพักเงียบๆคนเดียวสักระยะนึง จะเป็นที่ไหนก็ได้ไม่ต้องบอกสถานที่ใครและปิดมือถือซะด้วย แล้วค่อยลองถามใจตัวเองอีกครั้งนึงว่าจะตัดสินใจยังไง จากคุณ : สายลมปุยเมฆกับฟ้าสีคราม เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 14:01:39

ความคิดเห็นที่ 37 ระยะเวลา 7 เดือนจะว่า น้อย ก็ น้อย จะว่า มาก ก็ มาก ---------------------------------------------- คนเรา ถ้าคิดจะรักนะ แค่วันเดียวก็รักได้ แต่ถ้าไม่รัก ต่อให้นานแค่ไหน มันก็ไม่รักอยู่ดี -------------------------------------------- อันดับแรก ลองถามใจคุณก่อนว่าจริง ๆ แล้วคุณ รักเขาไหม หรือว่า รักความโสด มากกว่ากัน คนบ้างคน มีความรัก แต่ไม่อยากมีครอบครัว ไม่อยากต้องไปนั่งรับ ผิดชอบชีวิตใคร อยากอิสระ จะไปไหนมาไหน ก็ได้ ไม่ต้องห่วงใคร ไม่ต้องคอย ดูแลใคร ผมว่าคุณเอง อาจจะรักเขาบ้างก็ได้ แต่ยังรักตัวเองมากกว่า ----------------------------------------- ถ้าเรายังไม่พร้อม ก็บอกเขาไปตรง ๆ ดีกว่า ไม่พร้อมแล้วต้องแต่ง คนที่ทุกข์คือ คุณต่างหาก ครอบครัวเขาไม่ได้มาทุกข์ด้วย ลองเลื่อนเวลาออกไปอีกสักพักผม คิดว่าถ้าเขารักคุณจริง เขาต้องรับได้แน่นอน จากคุณ : ระพีร์ เด็กแสบ เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 14:14:29

ความคิดเห็นที่ 38 สงสัย ว่า จะชอบเพศเดียวกันมั๊ง จากคุณ : Oh-deh เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 14:21:38

ความคิดเห็นที่ 39 คบเพราะเหงา แต่คนเศร้าคือคนที่มีให้แต่ความรัก .............. คำว่าเหงา ไม่ได้หมายถึง อยู่คนเดียว ไม่มีใคร ถึงได้เหงา แต่ความเหงา คือการที่หัวใจต้องการหาหัวใจอีกดวง มาร่วมแบ่งปัน พอหาไม่ได้ มันเลยเหงา พอได้หัวใจดวงนึงมาร่วมแบ่งปัน .......... เรากลับรู้สึกว่า ไม่ได้มีค่าสำหรับเรา .......... เราเลยคิดจะทอดทิ้งหัวใจนั้นไป .......... แต่หัวใจนั้น กลับคิดว่า หัวใจเรา มีค่ากับเขา ................. แค่คำว่า .... แค่เพื่อนกัน ........ เจ้าของหัวใจที่รู้สึกว่าหัวใจเรามีค่าต่อหัวใจเขา ....... แค่คำว่า เป็นเพื่อนกัน ............ เขาก็คงทรมาน จากคุณ : reni เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 14:22:08

ความคิดเห็นที่ 40 สงสัยว่าบ้านของ จขกท เป็นคนจีนด้วยรึปล่าวคะ อายุก็สามสิบแล้วน๊า คนจีนส่วนมากก็ควรจะแต่งงานเป็นฝั่งเป็นฝา เราเดาว่าตัว จขกท เองหากไม่ได้สนใจใครเลย แสดงว่าชอบใช้ชีวิตโสดอยู่ ไม่ได้เหงา หรืออยากมีคู่ พูดง่ายๆว่ายังไม่พร้อมจะมีครอบครัวนั่นแหละคะ แต่ลองคิดดูดีๆนะคะ ว่าหากจะปล่อยผู้ชายดีๆแบบนี้ไปจากชีวิต เราก็ไม่รู้หรอกว่ามีผู้ชายดีๆแบบนี้เข้ามาในชีวิตเราอีกรึปล่าว โอกาสดีๆใช่ว่าจะอยู่กับเราตลอดไป เจ็ดเดือน อาจจะเร็วไปที่จะตกลง(จะ)ใช้ชีวิตกับใคร แต่เราก็ว่าเจ็ดเดือนมันนานพอที่จะทำให้เราชัดเจนว่ารู้สึกชอบหรือไม่ชอบอีกฝ่าย คุณเคยเห็นมั้ยคะ คนสมัยก่อนโดนคลุมถุงชนกันเยอะ แต่พออยู่ด้วยกันไปก็รักกัน บางทีกับคนนี้ วันนึงคุณอาจจะรักเค้าก็ได้คะ หากวันนึงคุณพร้อมจะมีครอบครัว คนเราเกิดไม่ได้คะ คุณเกิดในบ้านคนจีน เค้าก็ถือเรื่องนี้ ใครมาแต่งงานอายุสี่สิบก็คงจะแปลกๆอะเนาะ แต่ถ้าหากคุณคิดว่าชีวิตนี้คุณคงไม่ต้องการแต่งงาน ไม่ต้องการมีสามีแน่ๆ คุณก้อบอกเค้าไปตรงๆเถอะคะ จะฝืนไปทำไมในเมื่อคุณไม่ได้แม้แต่รอคอยวันที่่จะรักสามีตัวเอง หากแต่งงานกันไปทั้งที่ยังไม่รักน่ะนะ นาทีนี้ เราว่าคุณขอเลื่อนแต่งไปก่อนเถอะคะ ขอเวลาอีกสักปีนึงเต็มๆก็ได้ อ่านแล้วดูคุณ จขกท เป็นคนรักอิสระพอตัว ทำเถอะคะ พ่อด่ายังไงก็ต้องยอมคะ เพราะคุณคือคนที่กำลังจะต้องแต่งงาน ไม่ใช่พ่อของคุณนะ หุหุ จากคุณ : ยืมน้องมาโพส (Beth-B) เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 14:22:53

ความคิดเห็นที่ 41 คุณไม่แน่ใจตัวเองมากกว่า ....กลัวเลือกคนผิด กลัวคนที่ดีที่สุด สำหรับคุณยังมาไม่ถึง เลยอยากรออีกซักหน่อย ขนาดป้าแต่งงานอยู่กินกันมา สิบกว่าปีแล้ว ป้ายังอดคิดไม่ได้เลย ว่าคู่แท้ที่เป๊ะๆ  จะมาเมื่อไหร่  จะได้ทิ้งไปซะที ... ..........บอกเค้าตรงๆ ถามเค้าตรงๆ ว่ารักเราแค่ใหน และบอกต่อไป ว่าเรายังไม่รู้สึกรักเค้ามากพอที่จะร่วมสร้างครอบครัวกัน....ขอให้เค้าและเรา แน่ใจแน่ๆ ค่อยคิดเรื่องแต่ง ขอเวลาทำความรู้จักกันให้มากกว่านี้ ปีนี้ชง ปีหน้าผั่ว ปีต่อไป คั่ก  โอย 108 เหตุผล แล้วเรื่องที่อกหัก จนเข็ดและแค้น ฟันหญิงทิ้งไปทั่วนี่ ไม่จริงหรอก อยู่ที่สัน ดา น ผู้ชายแต่ละคน มากกว่า ยังไงก็ต้องเจ็บเป็นบ้าง ช่างมันเถอะ ไม่ใช่เราจะไม่เจ็บ ซะเมื่อไหร่ เอาใจช่วยนะจ๊ะหนู จากคุณ : ปุณอีม เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 14:22:57

ความคิดเห็นที่ 42 คุณรู้ตัวคุณดี เสมอ ที่ผ่านมา คุณ ปล่อยให้เป็นแบบนี้ได้ยังไง ได้เมื่อตัวคุณก็รู้อยู่แล้ว นี่คือผลของความไม่เด็ดขาดในการตัดสินใจ หรือ ที่ผ่านมาคุณให้ความหวังเขาตลอด ผมเห็นใจคุณนะ แต่คนที่น่าเห็นใจมากกว่าคือ ผู้ชาย คุณไม่รู็สึกอะไรกะเค้าเลย ตั้งแต่แรก แต่ก็ไม่เคยบอกเค้าเลย ทั้งๆที่ตัวคุณรู้ดี ว่าเค้าคิดยังไง กะคุณ จากคุณ : BB เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 14:25:30 A:118.172.100.22 X: TicketID:318713

ความคิดเห็นที่ 43 คุณมีแฟนอยู่หรือคนที่คุณแอบชอบอยู่หรือเปล่าค่ะ ถ้ามีแล้วก็รีบบอกเขาให้เขารู้เถอะค่ะ ว่าคุณมีแฟนแล้ว แต่อย่าบอกว่าเขาดีเกินไปนะคะ (ไม่ชอบเหตุผลนี้โดยส่วนตัว) แต่ถ้ายังไม่มีใคร และยังอยากคบต่อ แต่ยังไม่อยากแต่งงาน ก็บอกเขาตรง ๆ ขอให้เลื่อนเวลาออกไปก่อน ขอเวลาเรียนรู้ กันและกันอีกสักปีสองปีให้รู้จักกันและกันเพิ่มขึ้น เท่าที่คุณเล่ามาเขาดูจะเป็นคนดีนะคะ หรือเพราะเขามีนิสัยไม่ดีอะไรที่แสดงให้คุณเห็น แล้วคุณรับไม่ได้หรือเปล่า ถ้าไม่มี อยากให้คุณลองคบดูค่ะ คนดีแบบที่คุณเล่าแทบไม่มี หรือมีก็หายากขึ้นทุกวันนะ ถ้าคุณเคยรักใครมาก ๆ แล้วเขาบอกเลิก ไม่ว่าจะทำยังไง เขาก็ไม่สามารถรักคุณได้อีก คุณจะรู้ว่าความเจ็บปวดมันเป็นยังไง และสุดท้ายอยากจะบอกคุณว่า รักคนที่เขารักเราดีกว่า อันนี้เป็นประสบการณ์ส่วนตัวเลยค่ะ เพราะเคยรักผู้ชายคนหนึ่งมาก และกำหนดจะแต่งงานแล้ว แต่เขามาบอกว่าเราดีเกินไป โอ๊ย++++ เจ็บมากกกกก...มายยยย....... แต่ปัจจุบันก็แต่งงานแล้วกับผู้ชายที่เขารักเรา โดยที่เราก็คิดว่าไม่ได้รักเขา หลังจากแต่งแล้วเขาก็ดูแลเราดีมาก จนปัจจุบันมีลูกสาวน่ารักแล้ว 1 คน ความรักที่มีต่อเขามันเริ่มจาก 0 ตอนนี้มันเต็ม 10 แล้ว จากคุณ : Mommiew เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 14:30:17

ความคิดเห็นที่ 44 ขอโทษนะคะถ้าจะบอกว่า คุณใจร้ายอะ ตอนนี้ตั้งสตินะ แล้วบอกเขาว่ายังไม่พร้อมดีกว่ามั้ย จากคุณ : i'll be your girl เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 14:34:27

ความคิดเห็นที่ 45 บอกแบบที่คุณเล่าให้พวกเราฟังนี่แหล่ะค่ะ มันอาจไม่ได้สวยหรู แต่เป็น "ความจริง" คำว่า เจ็บ หรือ เสียใจ ไม่มีน้อยกว่า หรือมากกว่าหรอค่ะ เจ็บก็คือเจ็บ ทบทวนตัวเองอูดีๆด้วยนะค่ะ เคารพการตัดสินใจของตัวเอง โชคดีค่ะ จากคุณ : PostaHolic เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 14:35:51

ความคิดเห็นที่ 46 อ่านแล้วเศร้าแทนผู้ชายคนนั้นเลย จากคุณ : Future is on my hand เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 14:39:12

ความคิดเห็นที่ 47 ผมขออนุญาตออกความเห็นหน่อยนะครับ ประเด็นแรก  เรื่องของความรู้สึกกับผู้ชายคนนี้  ผมคิดว่าถ้าตอนนี้ยังไม่ใช่  แล้วถามว่าอนาคตพอเป็นไปได้ไหม   ลองค่อยๆให้โอกาสตัวเองและเขาดีไหมครับ  บางทีการเข้ามาของเขาแบบจู่โจมและรวดเร็วมันอาจทำให้คุณกังวล    และยังหาคำตอบให้กับตัวเองไม่ได้ว่าใช่ไม่ใช่กับผู้ชายคนนี้     ผมเห็นหลายคู่นะครับที่ตอนแรกไม่ใช่แต่ตอนหลังก็ลงเอยกันได้     เพราะตอนนี้ถ้าคุณจะเลือกวิธีที่บอกเลิกเลยผมว่ามันทำร้ายจิตใจกันเกินไป   รอให้เวลามันช่วย fade เขาออกจากความรู้สึกทั้งหลงทั้งรักเราก่อนดีกว่าไหมครับ   ใช้สไตล์ค่อยๆๆถอยห่างถ้ามันไปด้วยกันไม่ได้จริงๆๆ   จะได้ไม่เจ็บมาก   คือปัญหาข้อนี้มันเป็นเรื่องของระยะเวลาที่คุณอาจจะต้องการดูใจกันให้มากกว่านี้ก่อน   ประเด็นที่สอง  เรื่องของผู้ใหญ่ของทั้ง 2 ฝ่าย รับรู้และคาดหวังว่าจะเห็นพิธีมงคลในปีหน้าจะทำยังไงกับความรู้สึกตรงนี้ถ้าคุณไม่สามารถทำให้มันเกิดขึ้นได้  การที่ผู้ใหญ่ต้องเสียหน้าในเรื่องนี้มันไม่ค่อยดีนะครับ   ผมว่าหาวิธีค่อยๆๆพูดกับผู้ใหญ่ให้เลื่อนเวลาการแต่งงานออกไป  อาจจะบอกกับผู้ใหญ่ตรงๆๆว่าอยากคบหากันให้มากกว่านี้ก่อนเพราะมันเป็นเรื่องที่สำคัญในชีวติของเรา ผมว่าผู้ใหญ่คงรับได้ครับถ้าเราบอกว่ายังไม่พร้อมนะครับ       ดีกว่าบอกว่าเราไม่ได้รักเขาและต้องการเลิกกับเขา   ซึ่งก็ไม่รู้ว่าพิธีการของคุณเดินหน้าไปมากขนาดไหนแล้ว   ต้องรีบหน่อยครับ ประเด็นสุดท้ายที่อยากเสนอแนะ  ผมดูคุณเหมือนจะยังมีปมเรื่องการคบหากับผู้ชายอาจจะระวังตัวมากเกินไป  จนลืมเปิดโอกาสให้กับผู้ชายที่ดีเข้ามาในชีวิตคุณ  ผมไม่อาจจะไปตอบความรู้สึกคุณได้เท่ากับตัวคุณหรอกครับ  ขอให้คุณมองโอกาสที่เข้ามาและเปิดใจยอมรับดู   ถ้าเราสามารถทำให้คนไกล้ชิดเรามีความสุข(หมายถึงพ่อแม่ญาติคุณ)   โดยที่ไม่ฝืนความรู้สึกของคุณ ผมว่าในอนาคตคุณอาจจะมีความสุขที่สุดก็ได้ครับ จากคุณ : k-mol เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 14:45:02

ความคิดเห็นที่ 48 เอ่อม...ถ้าเจ้ไม่เอา หนูขอละกันค่ะ ฮ่าๆๆๆ จากคุณ : Gravy เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 15:11:36

ความคิดเห็นที่ 49 ถ้าผู้ชายคนนี้มีความรักและจริงใจให้คุณอย่างเปี่ยมล้น วันที่คุณห่างเขา และ บอกความจริงกับเขาไปหมด เขาจะเศร้ามากถึงมากที่สุดเลยหละครับ หัวใจมันเหมือนกับหล่นมาอยู่ที่ตาตุ่ม ทำอะไรมักไม่ค่อยมีสติ เศร้าจนขนาดกินข้าวไม่ได้ ร่างการซูบผอม แอบนอนร้องไห้คนเดียว บางครั้ง ก็นั่งเหม่อลอย เหมือนคนอยากตาย สิ่งที่ผ่านเข้ามาช่วงเวลานั้น ถ้าเป็นเรื่องดี ก็ไม่ยินดี แต่ถ้าเป็นเรื่องร้าย มันจะยิ่งร้าย ยิ่งเศร้ามากขึ้น และมักจะโทษตัวเองอยู่ตลอด อยู่ดีๆก็น้ำตาไหล และไหลไปเรื่อยๆ อย่างสะอึกสะอื้น ซ้ำร้ายกว่านั้น บางทีอาจจะมีอาการโรคซึมเศร้า (Bio Polar Disorder) แถมพ่วงมาด้วย อาการที่ว่า อาจมี นอนไม่หลับ 3-2 วัน และ หลับเป็นตายอีก 2 วัน ที่เล่ามาแบบนี้ เพราะผมเองรู้สึกว่า จขกท เอาเรื่องจริงจากชีวิตผม มาเล่าผ่านให้คนในห้องนี้ฟัง มันแทบจะคล้ายๆ กันเลยก็ว่าได้ ช่วงเวลานั้น แทบจะไม่มีอะไรซักอย่าง ที่ฉุดผมขึ้นมาจากเหวนรกนั้นได้เลย เพราะผมก็วาดฝันไว้ไม่ต่างจาก ผู้ชาย ในเหตุการณ์ที่คุณเล่ามา ผมรอดมาได้ และ หายขาดจากอาการซึมเศร้าบ้าๆนั้น เพราะ อาการป่วยของคุณแม่ผมครับ ทันทีที่ได้ทราบข่าวว่าคุณแม่ป่วยหนัก ทุกอย่างมันก็หยุดลง ผมพยายามบอกตัวเองว่า "แม่สำคัญที่สุด" และตอบตัวเองว่าต้อง ลืมเรื่องบ้าๆนี้ซะ และ ดูแลแม่ในช่วงเวลาสุดท้ายนี้ให้ดีที่สุด "เวลา" และ "ความมุ่งมั่น"  ก็ช่วยได้จริงๆ อาการซึมเศร้าเหล่านั้น ค่อยๆทุเลา เพราะผมต้องดูแลคุณแม่ และ ออกกำลังกายอย่างหนัก ถ้าคุณ จขกท ไม่ได้รักผู้ชายคนนี้  และ ต้องการครองตัวเป็นโสดไปตลอดชีวิต ควรรีบบอกเขาไปครับ อย่าให้เวลา 7 เดือนที่ผ่านมา และ ต่อจากนี้ เกิดเป็นความหวังให้กับชีวิตผู้ชายคนนี้อีกเลยครับ สุดท้ายผมเชื่อว่า ถ้าเขายังมีสติอยู่ "เวลา" จะรักษาเขาได้เองครับ จากคุณ : Archarn Chan เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 15:13:23

ความคิดเห็นที่ 50 คุณ จขกท. เลิกกับเขาก่อนแต่ง  ดีกว่าต้องแต่งแล้ว..เลิก นะค่ะ อย่าเอาชีวิตไปซื้อเวลาเลยค่ะ บอกความรู้สึกของคุณ ให้เขาทราบไปตรง ๆ เลยดีกว่า จะบอกวันนี้ หรือว่า รอไปบอกวันหน้า...ถ้าคำพูดเดิม ไม่เปลี่ยนแปลงยังไง สุดท้าย...ก็  จบ และ เจ็บ  พอ ๆ กัน ค่ะ จากคุณ : alway เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 15:25:22

ความคิดเห็นที่ 51 พูดกับเขา เหมือนกับที่พูดบนบอร์ดนี่แหละค่ะ หาที่เงียบๆ บรรยากาศสบายๆ คุยกันให้จริงจังว่า คุณยังไม่พร้อมที่จะแต่งงาน และอาจจะไม่แน่ใจว่า รักเขามากเพียงพอที่จะทิ้งชีวิตคุณทั้งหมดให้เขา เขาจะเศร้า แต่เขาจะเข้าใจ จากคุณ : *Cookies* เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 15:47:19

ความคิดเห็นที่ 52 เพรียบพร้อมขนาดนี้ ยังไม่อยากมีคนแต่งงานด้วย เอ่อ ทำไมไม่เป็นเราว๊าา อิอิ ล้อเล่นนะคะ เพราะความรักไม่เข้าใครออกใครหรอกค่ะ ว่าแต่ทำไมคุณปล่อยเวลาให้ล่วงเลยมานานขนาดนี้คะเนี่ย   สงสารเค้าจัง สงสารคุณด้วย แต่งงานทั้งๆ ที่ไม่รัก จบตอนนี้แหละ  ก่อนที่จะเริ่มชีวิตครอบครัวค่ะ จากคุณ : ข้าวเหนียวเขาวง เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 15:48:08

ความคิดเห็นที่ 53 บอกเลื่อนการแต่งงาน ไป ครับ แล้ว ค่อย ๆ ทำทุกอย่าง ให้เขาเข้าใจ โดย ต้องใช้เวลามากหน่อยครับ รักมาก ก็แค้นมากครับ ความจริง ตบมือข้างเดียวไม่ดังหรอกนะ จากคุณ : ton_21 เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 15:53:04

ความคิดเห็นที่ 54 อย่ารับรักใครด้วยความสงสาร ให้เข้าตัดใจตอนยังไม่สมรักกับคุณยังเจ็บน้อยกว่าการตกจากสวรรค์เพราะคิดว่าคุณรักเขาแล้ว ทั้งที่จริงคุณไม่ได้รัก บอกเขาไปตรงๆ จากคุณ : tormay เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 15:56:14

ความคิดเห็นที่ 55 อย่ารับรักใครด้วยความสงสาร ให้เข้าตัดใจตอนยังไม่สมรักกับคุณยังเจ็บน้อยกว่าการตกจากสวรรค์เพราะคิดว่าคุณรักเขาแล้ว ทั้งที่จริงคุณไม่ได้รัก บอกเขาไปตรงๆ จากคุณ : tormay เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 15:56:40

ความคิดเห็นที่ 56 คุณArchan Chan นั่นเป็นสิ่งที่ดิฉันกลัวมากเหมือนกัน เพราะเคยเห็นพี่ชายมีอาการอย่างคุณเลย  เค้านอนป่วยลุกไม่ขึ้นเป็นอาทิตย์หลังจากอกหัก  ตอนหลังเค้ากลายเป็นคนเจ้าชู้มาก  ดิฉันรู้สึกมาตลอดว่าผู้หญิงที่ทำให้ผู้ชายอกหักบาปมาก  เพราะทำร้ายหัวใจของใครหลายคนเลย   ดิฉันอยากให้เขาลืมดิฉัน เพื่อลดทอนบาปในใจ  แต่คิดวิธีไม่ออกเลย จากคุณ : ชอบปลูก เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 16:02:29

ความคิดเห็นที่ 57 เราไม่เคยรักผู้ชายคนไหนเลย  ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน  แล้วก็ไม่ได้ชอบเพศเดียวกันด้วย เพราะตอนเรียนก็มีผู้หญิงเหมือนกันนี่แหละมาชอบเรา  จะว่าเรามีปมเรื่องคบผู้ชายก็น่าจะใช่  เพราะทำให้เรารู้สึกว่าผู้ชายอันตราย  เรื่องมันยาวเหมือนกัน  ตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย จากคุณ : ชอบปลูก เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 16:09:23

ความคิดเห็นที่ 58 เลื่อนระยะเวลาการแต่งงานออกไป  แล้วลองเปิดใจรับความรู้สึกที่มีต่อผู้ชายคนนั้นดูก่อนครับ แต่ถ้ารู้สึกว่า มันไม่ใช่ หรือมีอคติเกี่ยวกับผู้ชายเหมือนเดิม ก็ขอให้พูดกันตรงๆ เปิดใจพูดกันดีกว่าครับ จากคุณ : nueng_love_you เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 16:41:07

ความคิดเห็นที่ 59 เอาเป็นว่า...ถ้าเค้ารู้ความจริงแล้วเจ็บ  ....เอาเบอร์ป้าไปหนู บอกเค้าให้โทรหาป้านะ >>>> หน้าที่ของหนูคือความกล้า หน้าที่ของป้าคือปลอบใจ.<<<<< ปล.ผู้ชายแสนดีอย่างนี้ เลยอยากดูแลแทน จากคุณ : ปุณอีม เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 16:54:26

ความคิดเห็นที่ 60 ^ ^ ^ 555 พลิกวิกฤติคนอื่น เป็นโอกาสของตัวเราเอง กระบวนท่านี้ร้ายกาจยิ่งนัก ข้าน้อยขอคารวะ จากคุณ : ลูกหมีเขี้ยวยาวเขาโง้ง เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 17:13:36

ความคิดเห็นที่ 61 ถ้ามั่นใจจริงๆว่าไม่ได้รัก ผช. คนนี้ คุณควรต้องบอกเขาให้ทราบ ด้วยวิธีใดวิธีนึงหละครับ -จะพิมพ์ email ก็ได้ -จะโทรศัพท์ ก็ดี ผมว่า 2 วิธีข้างต้น น่าจะดีกว่า นัดเจอ แล้วเล่าทุกอย่าง นะครับ (บางท่านอาจไม่เห็นด้วย แต่ผมมีเหตุผลอันน้อยนิดตามข้างล่างนี้หละครับ) อาการเสียใจที่ตามมาของ ผช. หลังจากทราบความจริง คงมีอยู่แล้วครับ ที่ไม่แนะนำให้นัดเจอกัน เพราะเผื่อว่า เขาจะเสียใจมาก จนขับรถกลับบ้านไม่ได้ และอีกอย่าง ผมกลัวคุณจะใจอ่อน ไม่กล้าพูดทุกอย่าง มากกว่า แล้วจะกลายเป็น คุณพูดความรู้สึกไม่หมด เมื่อเขามาอยู่ตรงหน้า/ข้างๆ คุณ ซึ่งผมว่า มันจะสวนทางกับความรู้สึกและจุดยืนจริงๆของคุณครับ ผมเองเจอ แบบ พิมพ์อีเมล์ทิ้งไว้เป็นหน้าๆ เล่าทุกอย่างไว้หมด พอผมตื่นเช้ามา เขาก็ sms มาบอกผมว่า "มีอะไรจะบอกแต่ให้ไปอ่านในอีเมล์" ผมขาดการติดต่อในทันที และเขาก็หายตัวไปเลยจากชีวิตผม   (ถ้าคิดจะทิ้งข้อความไว้ อย่าหายไปแบบนี้นะครับ) หลังจากนั้นอีก 1 ปี เขาถึงทักมาใน msn ถามไถ่ว่า "เป็นไงบ้าง" ไม่รู้ซิ ผมอยากพิมพ์ตอบตรงๆไปว่า "ชีวิตและฝันของผมมันพัง" (แต่ก็ไม่ได้ตอบไป) ได้แต่พิมพ์ตอบไปสั้นๆว่า "เรื่อยๆ" และก็หน้าจอก็นิ่งอยู่นานครับ ไม่มีการพิมพ์ตอบใดๆ กลับมาอีก นั่นก็เป็นครั้งสุดท้ายจริงๆที่คุยกันครับ ถ้าเขายังมีสติรู้ควรไม่ควรอยู่  "เวลา" จะช่วยให้เขาแกร่งขึ้นมาได้อีกครั้ง รีบบอกเขาเถอะครับ เพราะถึงยังไงซะ คุณก็ต้องบอกเขาอยู่ดี อืม .. หลังจากนั้น ผมเองก็ไม่ได้เจ้าชู้เลยนะครับ และ ก็ไม่เคยเปลี่ยนไป อยากจะบอกว่า ผู้ชายไม่ได้อันตราย อย่างที่เข้าใจเลยนะ "ถ้าเขารักคุณหมดทุกลมหายใจ" จากคุณ : Archarn Chan เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 17:23:30

ความคิดเห็นที่ 62 ยืดเวลางานหมั้นออกไป  อาจจะอ้างเรื่องความไม่พร้อมต่างๆนานา แล้วค่อยๆถอยห่างออกมาทีละนิดจะดีกว่ามั้ย จากคุณ : ลูกชิ้นเห็ดหอม เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 17:36:32

ความคิดเห็นที่ 63 จขกท. ครับ ใครจะด่า ใครจะว่าคุณอย่างไร ผมคนนึงอยากจะบอกคุณว่า "ผมเข้าใจคุณนะ" คุณไม่ต้องสนใจใครจะว่าคุณหรอก.. จากประสบการณ์ การบอกเลิก หรือ ถูกบอกเลิก มันไม่สามารถหาอะไรหรือวิธีไหนมาทำให้ Soft หรือรุนแรงน้อยลงจริงๆครับ นอกจากเวลา เวลาที่จะทำให้คนเจ็บค่อยๆดีขึ้น แต่คนบอกเลิกบางครั้งก็ทรมานสิ้นดี เนื่องจากห่วงเค้านั่นเอง เคยถึงขนาดตั้งปฏิญาณว่า จะไม่บอกเลิกใครอีกแล้ว เห็นเค้าร้องไห้แล้วสงสาร แต่จะให้กลับไปคบกันก็ทำไม่ได้นะ คนไม่รักแล้ว ก็คือไม่รัก ถ้าเราไม่ตัดเค้าไป เราเองน่ะแหละคือคนที่ทรมานที่สุด ลองคิดดูอีกที ว่าไม่รักเค้าหรือแค่กลัวเสียความโสด ถ้าเป็นอย่างแรก แนะนำให้ใจแข็งๆครับ ส่วนญาติๆ ก็บอกเค้าไปตามจริง พ่อแม่อาจจะด่าเราบ้าง แต่เชื่อว่าเค้าจะเข้าใจคุณในที่สุดครับ ขอให้โชคดีครับ จากคุณ : Click_ที่นี่ เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 18:01:06

ความคิดเห็นที่ 64 เค้าไม่ได้ทำอะไรผิด คุณเองก็แค่ไม่แน่ใจในตัวเอง สรุปก็คือ ไม่ต้องบอกเลิกก็ได้ แค่เลื่อนไปก่อน เพราะเหตุผลก็ง่ายมาก คือมันแค่ 7 เดือน ไวมาก สำหรับที่จะแต่งกัน ยังไม่รู้จักกันดีพอ ที่พูดมานั่น ด้านบวกของกันและกันทั้งนั้น ขอเวลาศึกษากันและกันก่อน ดีกว่า... แต่งแล้วมาเลิกทีหลัง เป็นกำลังใจให้ครับ จากคุณ : Because (INeedYou) เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 18:08:37

ความคิดเห็นที่ 65 ต้องถามใจคุณเองดูก่อนว่าคุณมีความรักให้กับเพศตรงข้ามหรือเปล่า ไม่เฉพาะคนที่กำลังจะแต่งงานกับคุณนะ ถ้าคุณคิดว่าคุณมีความรักให้กับเพศตรงข้าม ปีนี้คุณอายุ 30 คุณก็ยังมีความรัก อายุ 35 คุณก็ยังมีความรัก อายุ 40 หรือมากกว่านั้น คุณก็ย่อมมีความรัก แต่ถ้า ณ วันนี้ คุณไม่มีใจ ไม่มีความรักให้กับเพศตรงข้ามเลย ต่อให้อีกกี่ปีผ่านไป คุณก็คงไม่มี และเมื่อ มีใครซักคนผ่านเข้ามาในชีวิตคุณอีก มันก็จะวนลูป อยู่อย่างนี้ไปเรื่อยๆ เพราะคุณคิดว่าผู้ชายที่ผ่านเข้ามาในชีวิตคุณ ไม่มีดีซักคน ถ้าเป็นเช่นนี้ ก็จงอย่าคบใคร อย่าให้ความหวังใครเลยครับ เพราะคุณคงเลือกแล้วว่าคุณจะอยู่เป็นโสด... อยากบอกว่า ผู้ชายแต่ละคน ก็เป็นมนุษย์ มนุษย์ทุกคนก็ย่อมมีดี มีเลว ปะปนกันไป อย่าปิดโอกาส ตัวเองเลยครับ การที่มีใครซักคนผ่านเข้ามา ก็เหมือนเป็นบททดสอบของเราในเบื้องต้นว่าเราจะผ่านจุด จุดหนึ่งของการมีกันและกันหรือเปล่า... หลังจากนั้นก็สานสัมพันธ์กันมา ตลอดเจ็ดเดือนที่ผ่านมา ผู้ชายคนนี้ ก็ไม่ได้ทำไม่มีกับคุณไม่ใช่หรือครับ กลับกัน ผู้ชายคนนี้ทำดีกับคุณทุกอย่าง เข้าตามตรอก ออกทางประตู ผู้ใหญ่ฝ่ายคุณก็ให้การสนับสนุน ... แล้วคุณจะปิดโอกาสของตัวเองทำไมครับ เปิดใจและมองให้ลึกอีกซักหน่อย ลองหาโอกาสอยู่ด้วยกัน เที่ยวด้วยกันบ้าง เพื่อศึกษาตัวตนผู้ชายคนนี้อย่างแท้จริง บางทีคุณอาจจะเปลี่ยนใจก็ได้นะครับ บางที 7 เดือนมันอาจจะเร็วไปสำหรับคนเพิ่งคบกัน แต่หมั้นไว้ก่อนซักปี แล้วค่อยแต่งค่อยๆ ศึกษากันไปก็ได้นะครับ ถ้าไม่ดีจริงๆ ค่อยเลิกกันก็ไม่เสียหายนี่ครับ แต่ ทั้งนี้ ทั้งนั้น ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคุณเองแหล่ะครับ :-) จากคุณ : บ๊อง เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 18:40:03

ความคิดเห็นที่ 66 พอจะเข้าใจความรู้สึกนี้ค่ะ เพราะตอนแรกเริ่มคุณไม่ได้คิดอะไรกับเขา ก็เลยสบายใจในการคบกัน ไม่เสแสร้งเป็นตัวของตัวเอง นั่นแหล่ะทำให้เขาหลงเสน่ห์คุณเข้าอย่างจัง เราว่าผู้หญิงส่วนใหญ่จะเป็นแบบนี้แหล่ะค่ะ กับคนที่เราคาดหวัง ก็มักจะไม่สมหวัง แต่คนที่ไม่คาดหวังก็ชอบมาหวังกับเราจัง สมัยเรียนก็เคยเจอแบบนี้ค่ะ ไม่คิดอะไรคุยเล่นเฮฮาแต่สุดท้ายดันมาอยากเป็นแฟน ด้วยความที่เป็นลูกคนจีน อายุ 30 นี่ก็เหมือนเส้นตายทีพ่อแม่กำหนดไว้ด้วยค่ะ ทุกอย่างมันประจวบเหมาะพอดีเลย จริง ๆ เขาก็ไม่ได้เลวร้ายเพียงแต่คุณอาจจะ ตั้งตัวไม่ทัน  ถ้าจะหยุดการติดต่อกับเขาเลยเราว่าไม่ค่อยเหมาะค่ะ เพราะพ่อแม่ ทั้งฝ่ายคุณและเขาต่างก็เข้าใจว่าคุณทั้งคู่คือคู่รักกันแล้ว คงจะดีกว่าถ้ายืดเวลาแต่งออกไปโดยขอหมั้นไว้ก่อน แล้วระหว่างนี้คุณอาจจะเริ่ม รู้สึกรักเขาขึ้นมาก็ได้ค่ะ ถ้าเขายังสม่ำเสมออยู่นะคะ หรือเขาอาจจะเป็นฝ่ายลังเล ก็ได้ ขึ้นอยู่กับบุพเพสันนิวาสแล้วล่ะค่ะ เราก็เคยเป็นเจ้าสาวที่กลัวฝนมาก่อน ไม่เคยคิดว่าชีวิตนี้จะต้องแต่งงานมีครอบครัว เพราะกลัวการผิดหวังเลยไม่กล้าที่จะหวัง ถ้าเจอคนที่คุณคิดว่าดีก็ให้โอกาสเขา ซักหน่อยเถอะค่ะ จากคุณ : paripan เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 19:07:22

ความคิดเห็นที่ 67 คุณจขกท.เป็นคนที่มีจิตใจโลเลค่ะ ไม่มีความมั่นคง รีบๆ บอกผู้ชายไปเถอะค่ะ มันจะเป็นโชคดีของผู้ชายเป็นอย่างยิ่ง ถ้าได้ออกมาห่างๆ จากคนอย่างคุณ เราว่าคุณผิดและใจร้ายมากที่ปล่อยให้เรื่องผ่านมาจนขนาดนี้ พูดง่ายๆ ก็คือหลอกลวง จากคุณ : จขกท.พูดไม่หมดและโกหก เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 19:15:30 A:27.130.72.250 X: TicketID:286693

ความคิดเห็นที่ 68 ฮ่าๆๆ เราก็โดนบางคนที่รู้จักทั้งเราและเขา เกลียดขี้หน้าเหมือนกันค่ะ แบบคุณข้างบนนี้เลย จนป่านนี้ ที่แฟนเก่าเราลูก 3 ขวบแล้ว คุณคนนั้นก็ยังมึนๆกับเราอยู่ ก็ได้แต่ก้มหน้ายอมรับไป และคิดว่าถ้าแคร์ความรู้สึกของทุกคน คงอึดอัดตายพอดี ก็รู้นะว่าตัวเองผิดที่คบเขาทั้งที่ไม่ได้รัก แค่สงสาร แต่เราไม่ใช่สภาสังคมสงเคราะห์นะ จะได้ต้องเอาทั้งชีวิตไปทิ้ง เพียงแค่กลัวคนประนามหรือเพียงเพราะกลัวเขาเสียใจ บางทีก็คิดนะ ไรว้า คบกัน ถ้าเข้ากันไม่ได้ก็เลิกกันไป มันผิดร้ายแรงขนาดนี้เลยเหรอ คบซ้อน ซ่อนกิ๊กหรือก็เปล่า คบกันแล้วไม่ว่าจะยังไงก็ห้ามเลิกเหรอ ตลกง่ะ แก้ไขเมื่อ 30 มิ.ย. 54 19:39:57 จากคุณ : แมวบอส เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 19:38:27

ความคิดเห็นที่ 69 หวังว่าเค้าคงไม่เป็นผู้ชายประเภทที่ว่า ถ้าไม่ได้ดั่งใจแล้วจะทำร้ายเรานะคะ ดิฉันเคยเจอผู้ชายประเภทนั้นค่ะ เป็นอะไรที่น่ากลัวที่สุดในชีวิต ขอสาปส่ง ไม่ว่าชาตินี้หรือชาติหน้าไม่ขอพบเจออีกต่อไป จากคุณ : ขอพบเจอแต่คนดี ๆ เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 20:12:02 A:58.8.13.52 X: TicketID:314041

ความคิดเห็นที่ 70 ถ้าเจ้าของกระทู้บอกเลิกไปแล้ว มาแนะนำให้เรารู้จักได้มั้ยคะ อยากไดผู้ชายแบบนี้น่ะค่ะ เขิลลลลลลล จากคุณ : เขียนบน iPad (Sweetiiez - Kim Sam Su) เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 20:32:51

ความคิดเห็นที่ 71 เข้ามาเป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้ค่ะ บอกเค้าไปตรง ๆ เหมือนที่พิมพ์ในนี้ก็ได้ จากคุณ : golove2 เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 20:40:30

ความคิดเห็นที่ 72 เอ่อ...รบกวนถามคุณ "click ที่นี่" อ่ะค่ะ จริงเหรอคะที่คนบอกเลิกจะรู้สึกทรมาน ถ้าจริง ก้อน้อยกว่าคนถูกบอกเลิกหรือเปล่า ไม่เข้าใจเลยอ่ะ คิดมาตลอดว่ากว่าจะบอกเลิกอ่ะ คงอึดอัด บอกแล้วกะโล่งไป เหลือกะแค่ปล่อยอีกฝ่ายไป ผ่านช่วงแย่ๆ เอาเอง (ป่านนี้เรายังทำได้มะถึงไหนเลย แต่ก้อยังคงพยายามอยู่ต่อไปค่ะ) ...แต่เชื่อว่าซักวันจะหายดีค่ะ!!! จากคุณ : ชิงช้าไม้ เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 21:01:34

ความคิดเห็นที่ 73 เจ็บมากครับ ตอบในฐานะเป็นผู้ชายคนหนึ่ง และเจ็บอีกหลายเท่าถ้ารู้ว่าความรักเกิดจากความสงสาร จากคุณ : Chenm เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 21:15:01

ความคิดเห็นที่ 74 ว่าที่เจ้าสาวกลัวฝน จากคุณ : ptboy เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 21:23:20

ความคิดเห็นที่ 75 มีโอกาสมากมายที่เราจะเจอ คนที่ เรารัก แต่มีโอกาสไม่มากนักที่จะเจอ คนที่ รักเรา จากคุณ : choosak.t เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 21:27:12

ความคิดเห็นที่ 76 ใจร้าย ปล่อยมาได้ยังไงขนาดนี้ ไม่เคยเจ็บใช่มั้ยครับจึงเอาเรื่องความรักมาล้อเล่น ขำคำถามบอกเลิกมีเจ็บมากเจ็บน้อยด้วยหรือครับ ลองเจ็บแบบนี้บ้างสิครับ มันมีแค่ระดับเดียวคือระดับเจียนตายครับคุณ จากคุณ : ลึกลับซับ_tui เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 21:51:49

ความคิดเห็นที่ 77 แวะมาอ่านอีกที เห็นคุณ"ชิงช้าไม้" ถาม ขออนุญาต จขกท ตอบคำถามในนี้เลยละกันครับ คนบอกเลิก ทรมานใจไม๊? สำหรับคนอื่น ผมไม่รู้ ขอตอบในกรณีของผมละกัน "ทรมานครับ" ช่วงเวลาทรมานคือ ก่อนจะบอก คิดมาก คิดแล้วคิดอีก ทบทวนหาวิธีที่จะทำให้เค้าเจ็บน้อยที่สุด(เหมือนคุณ จขกท.เลย แต่ในกรณีผม ผมมั่นใจแล้วว่าไปกันไม่รอดแน่) สงสารเค้านะครับ กลัวเค้าเสียใจ กลัวเค้าทำร้ายตัวเอง กลัวๆๆๆๆ ในขณะที่อีกใจนึงก็บอกเหมือนในนี้หลายๆท่านบอกว่า ไม่บอกวันนี้ วันหน้าก็ต้องบอก บอกตอนไหนก็เจ็บ ก็ทรมานเหมือนกัน สุดท้ายคนที่รู้อยู่แก่ใจว่า จบแน่ คือเรา ไม่มีทางเปลี่ยนใจแน่ๆ ไม่ว่าเค้าจะพยายามอย่างไรก็ตาม ตอนบอกเลิก เค้าทรุดต่อหน้าเลยครับ น้ำตาทะลักพลั่กๆๆๆ แถมอ้อนวอนขอแก้ตัว ขอปรับปรุงตัว ซึ่งคำตอบผมก็อย่างที่บอก มันเป็นไปไม่ได้แล้ว ความรักมันหมดแล้ว ตอนเค้าร้องไห้อ้อนวอน ผมโกรธตัวเองนะ โกรธที่ทำไมไม่รักเค้าให้ตลอดรอดฝั่ง โกรธที่ไปให้ความหวังเค้า โกรธการกระทำตัวเอง สารพัด สับสน สงสาร ฯลฯ นี่แหละที่ผมคิดไว้ว่าจะไม่บอกเลิกใครอีกเด็ดขาด ผมรับตัวเองไม่ได้จริงๆ จากคุณ : Click_ที่นี่ เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 22:04:08

ความคิดเห็นที่ 78 อ่านๆดูมันเหมือนลูกอ๊อต2ตัวในอ่าง ตัวผู้เจอถูกใจก็รีบต้อนๆลูกอ๊อตตัวเมีย จนๆมุม เสมือนว่าถ้าเลยเวลา จะสิ้นอายุไข มันไม่เป็นธรรมชาติหรือความโรแมนติกที่ควรจะเป็นของชีวิตคู่ จริงๆแล้วคุณอาจรักเค้าก็ได้ ถ้ามีการเว้นช่วง วรรคตอน ให้มากกว่านี้ เหตุ-ผล ผู้ชายผ่านหมดและ แต่อารมณ์ไม่ผ่านไง ถึงซื้อใจคุณยังไม่ได้ ใจเธอก็ชอบเค้าอยู่บ้างแหละ คน2คนคบกันต้องคู่คิด ถึงจะเป็นคู่ครองที่ดี ฉนั้น คุยกับเค้าดีๆสะ เป็นขั้นๆไป เลื่อนงานแต่งก่อน คบกันอีกสักพัก ถ้าเค้าดีจริง ต้องเข้าใจ ถ้าไม่ใช่ค่อยว่ากันอีกที อย่าทำให้เค้าตกบันไดลงมาทีเดียว จากคุณ : ปลาแมน เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 22:13:54 A:115.87.127.245 X: TicketID:148264

ความคิดเห็นที่ 79 อย่าไปแต่งงานแค่เพราะว่า เค้าไม่ได้ทำอะไรผิด อย่าไปคบต่อ หรือลองๆ ดู แค่เพราะว่า เค้าไม่ได้ทำอะไรผิด อย่าทำอะไรแค่เพราะว่า เค้าไม่ทำอะไรผิด ถ้าสุดท้ายแล้วมันก็จะทำร้ายเค้า เราว่าที่จขกท. คิดจะทำ มันก็ถูกแล้วนี่ เค้าจะเป็นยังไงต่อ เรื่องนั้นเป็นปัญหาของเค้า อาจฟังดูใจไม้ไส้ระกำ แต่ทุกคนก็ต้องแก้ปัญหาของตัวเอง ปัญหาของคุณคือ คุณไปหลวมตัวตอบรับเป็นแฟน มันไม่ดีเลย ถ้าไม่ได้อยากเป็น แต่คนเราก็มีภาวะมึนงงกันได้ แต่ถ้าแน่ใจในตัวเองแล้ว ก็ต้องพูดไปตรงๆ เราว่า จขกท. ใจร้ายตอนนี้ อยากเลิกตอนนี้ ดีแล้วค่ะ อาจจะไม่ได้ทำถูกทั้งหมดมาตั้งแต่ต้น แต่ดีกว่าคิดจะปล่อยให้มันผ่านๆ ไป เพราะกลัวเค้าจะเสียใจ ถ้าเค้ารักคุณ บอกวิธีไหนก็เสียใจอยู่แล้วค่ะ ก็บอกไปตามตรง ตามที่รู้สึก เราว่าทุกอย่างมันก็โทษคุณคนเดียวไม่ได้หรอก ถ้าไม่ได้ไปหลอกเค้าจริงๆ ก็ไม่มีใครในโลกหรอก ที่ไปหลอกให้คนอื่นรักได้ นอกจากคนคนนั้นน่ะจะหลอกตัวเอง แต่ปัญหาคือการไม่ยอมพูดกันตรงๆ มากกว่า มันเลยเป็นการไปให้ความหวังเค้า เพราะดูแล้ว ทุกอย่างมันก็เร็วมากเลย แต่คุณก็ต้องไม่หลอกตัวเองด้วยนะคะ เพราะมีบางคนนะ คิดว่าไม่รัก แต่เอาเข้าจริงขาดไม่ได้ แล้วก็กั๊กมันอยู่นั่น ทั้งขึ้นทั้งล่อง ให้เป็นแฟน ก็จะไม่เป็น แต่ให้ไม่มีเค้าเลย ก็ไม่เอาด้วย คุณต้องทำใจนะว่า กลับไปเป็นเพื่อนมันไม่ได้หรอก ปล่อยให้เค้าไปเหอะ ถ้าเค้าเป็นคนดีจริง เค้าก็ต้องคิดได้ ไม่เอาความเสียใจไปเป็นข้ออ้างทำร้ายใครหรอก จากคุณ : ZzIqka เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 22:33:35

ความคิดเห็นที่ 80 ขอบคุณ คุณ "click ที่นี่" มากๆค่ะที่ตอบอ่ะ ไม่รู้จะพูดยังไงดี แต่ที่คุณอธิบายมาทั้งหมด นั่นเราเลยค่ะ พยามยามที่สุดที่จะยื้อ ทำทุกอย่าง ทุกทาง เศร้าเกินไปแร่ะค่ะ ไม่คิดดีกว่า ยิ้มๆไว้ ขอโทษ จขกท ด้วยนะคะ ที่แอบใช้พื้นที่อ่ะคะ จากคุณ : ชิงช้าไม้ เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 23:01:01

ความคิดเห็นที่ 81 อาจดูใจร้าย แต่ถ้าไม่รัก อย่าให้ใครต้องมาเสียเวลากับคุณเลย จากคุณ : LNM เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 54 00:08:45

ความคิดเห็นที่ 82 ถ้าคุณ จขกท จะบอกเลิกจริง รบกวนช่วยส่งข้อความมาบอกด้วยนะคะ เราจะได้ไปขอตัวมาให้เพื่อนเราจีบทำสามี 55555555 จากคุณ : Living Extreme เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 54 03:09:44

ความคิดเห็นที่ 83 ผมเคยคบกับผู้หญิงคนนึง 8 ปี มารู้ว่าเขาไม่ได้รักผม ในวันที่ผมขอเขาแต่งงาน................................ อยากบอกว่าการถูกปฎิเสธ มันหมดหวัง เหมือนเราอยู่คนเดียวในโลก แต่ก็ต้องทำใจ และยอมรับกับความเป็นจริง ทุกวันนี้ผมยังโสดและก็คิดถึง.....เธอคนนั้น เสมอ ครับ อยากบอก จขกท ว่า ควรบอกเขา ตรงๆไม่ต้องใช้คำสวยหรูอะไรมาก ยังไงก็เขาก็เสียใจ เท่ากัน จากคุณ : ฤดูที่มีเสียง (ฤดูที่มีเสียง) เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 54 04:05:11

ความคิดเห็นที่ 84 อ่า อ่านไม่จบเยอะจัด คุณจะตัดสินใจยังไงก็ให้ไวนะคะ อย่าให้ถึงขั้นตอนกำหนดวันแต่ง เคยได้ยินมา ว่าเจ้าสาว ไม่อยากแต่ง ตัดสินใจไม่ได้จนถึงวันแต่ง ก็ปฎิเสธและหนี จากงานไปดื้อๆนาทีสุดท้ายเลย อันนั้นแย่ ส่วนเคสเราก็คล้ายๆจขกท. เค้าเข้าออกบ้านเราบ่อยมาก ใจเรา ก็แบบไม่ได้รัก แต่รู้สึกดีผูกพันแบบเพื่อน ไม่เคยเอ่ยขอเป็นแฟน แต่ก็ติดต่อ มาหากันตลอด  นานวันหลายปีเข้า ไปๆมาๆกลายเป็น ฝ่ายพ่อเราเร่งรัดให้แต่ง เราก็บ่ายเบี่ยงมาได้2ปี สุดท้ายก็เออ แต่ง ก็แต่ง แต่งกับคนที่เค้ารักเราก็ดีกว่าแต่งกับคนที่เรารักเค้ามันเหนื่อย สุดท้ายก็แต่งกันแบบ งงๆเบลอๆ แต่เราก็ง่ายๆ ไม่ซีเรียส ไม่คิดอะไรมาก อยู่กันไปก็เหมือนอยู่กับเพื่อนสนิทไง จากคุณ : ขาวฟู เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 54 04:19:38

ความคิดเห็นที่ 85 จากใจคนที่เคยถูกปฏิเสธ..รัก เรายังเจ็บอยู่ทุกวันนี้ค่ะ การที่เขาพูดตรง ความจริงที่เขารักเราไม่ได้นั้น..มันเจ็บมาก แต่ความจริงก็คือความจริง ไม่รัก หรือรักไม่ได้ สุดท้ายก็ไม่ได้รักกัน เราค่อยๆดีขึ้น จากการยอมรับมัน ทุกวันนี้เราก็กลับมาคุยกันได้ เราไม่รู้ว่าเขาปฏิเสธเราแล้วเขาโล่งใจมั้ย..รู้แต่ว่าเขาก็เสียใจไม่แพ้กัน จากคุณ : รักใดใดในสายลมผ่าน เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 54 05:06:49

ความคิดเห็นที่ 86 ลองถามใจตัวเองรึยังคะ ว่ารัก ชอบ เฉยๆ หรือว่า เกลียด แนะนำให้ลอง บอกเค้าว่า "ห่างกันซักพัก" เพื่อถามใจตัวเองก่อน ว่า เมื่อไม่มีเสียงโทรศัพท์ของเค้า ไม่มีเค้าชวนไปโน่นมานี่  ไม่ได้เจอกัน ไม่ได้คุยกัน คุยจะรู้สึกเหงามั้ย คิดถึงเค้ามั้ย คนบางคนไม่ค่อยเห็นคุณค่าของคนที่รักเรา หรอกค่ะ จากคุณ : คนขี้ใจน้อย เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 54 09:34:28

ความคิดเห็นที่ 87 คุณ Archan Chan คะ  สิ่งที่คุณพูดมันได้เกิดขึ้นแล้วเมื่อคืน   พอเจอหน้าเค้าสิ่งที่อยากจะพูดมันพูดไม่ออก  แค่เกริ่นว่าอยากจะเลื่อนการหมั้น และการแต่งงานออกไป เขาก้มหน้าหลับตาเงียบสนิท ซักพักก็เอาศีรษะมาพิงไหล่ดิฉัน  แล้วก็ขอนอนหนุนตัก ดิฉันสงสารเขาเหลือเกิน  ก็เลยไม่พูดอะไรอีก  แล้วก็หลับตาเงียบกันไปทั้งคู่   นานเท่าไหร่ไม่รู้  ก็เลยปลุกเขาให้กลับบ้านบอกดิฉันง่วงแล้ว แต่ที่จริงนอนไม่หลับทั้งคืน   อันที่จริงดิฉันอาจจะชอบเขาก็ได้  เพราะไม่กล้าทำให้เขาเสียใจ ดิฉันจะรบกวนถามความเห็นคุณเพื่อประกอบการตัดสินใจได้มั้ยคะ ตอนนี้คุณหายเจ็บรึยัง  อะไรทำให้คุณรักผู้หญิงคนนั้นขนาดนั้น เธอสวยมากรึเปล่า   ที่ถามนี่เพราะดิฉันไม่ใช่คนสวย  แถมไม่แต่งหน้าแต่งตัวอีก เคยถามเขาเหมือนกันว่าชอบฉันเพราะอะไร เขาบอกไม่รู้ทุกที และเขาก็ไม่เคยชมดิฉันว่าสวยซะด้วย ก็เลยไม่มั่นใจ มีสิ่งหนึ่งที่ดิฉันยังไม่สามารถวางใจที่จะแต่งงานกับเขาได้ เพราะ...มีผู้หญิงเข้าหาเขาเยอะเหลือเกิน   เพื่อนผู้หญิงของเขาที่ดิฉันเคยเจอก็สวยกว่าดิฉันเยอะแยะ เขาเคยเอา SMS ของผู้หญิงคนนึงให้อ่าน  ส่งมาบอกรักนะ คิดถึงนะ เขาบอกไม่ได้คิดอะไร   แต่คนรวยมักมีเมียน้อย   ดิฉันไม่อยากเป็นเมียหลวง การได้แต่งงานกับผู้หญิงที่รัก  อาจทำให้เขามีความสุข แต่ปริมาณความรักของผู้ชายมันลดลงตามเวลาที่ผ่านไป และการแต่งงานมันเป็นจุดสิ้นสุดอิสรภาพของผู้หญิง และเป็นการเริ่มต้นของภาระรับผิดชอบ โดยเฉพาะสะใภ้คนจีนจะกดดันมาก   ดิฉันเห็นตัวอย่างจากแม่   ตอนนี้ชักเริ่มสับสนไม่รู้จะเอาไงดี   มันเหมือนมาถึงทางสามแพร่งที่ต้องตัดสินใจจะเลี้ยวซ้ายหรือขวา ไม่รู้ผู้หญิงคนอื่นจะคิดมากเหมือนดิฉันรึเปล่าสิ จากคุณ : ชอบปลูก เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 54 10:31:12

ความคิดเห็นที่ 88 อย่าเอา คคห. ของผม ไปใช้ในการตัดสินใจของคุณเลยนะครับ "ชีวิตคุณ" และ "ชีวิตผู้ชายอีกคน" ทั้งชีวิต คุณควรใช้หัวใจและความรู้สึกของคุณตัดสิน จากเหตุการณ์ที่คุณสัมผัสมา จะดีกว่า คคห. ของผมและเพื่อนสมาชิกท่านอื่นๆ นะครับ และผมก็เชื่อว่า เพื่อนๆสมาชิก อีกหลายๆท่าน ก็อยากจะให้คุณ ตัดสินใจด้วยตัวคุณเอง มากกว่าคำแนะนำของใคร คนใดคนหนึ่ง นะครับ "ตอนนี้คุณหายเจ็บรึยัง"   ผมซึมเศร้าอยู่ได้ซักพักใหญ่ๆครับ จนมีอาการป่วยบ้าๆนั่นออกมา จากที่ผมเคยหนัก 69 กิโล มันลงไปได้ ถึง 58 กิโล ในช่วงเวลานั้น แต่ความเศร้ามันก็เกือบจะหายไปในทันที ที่รู้ว่า "คุณแม่ป่วยหนัก" ครับ สมองมันเบลอมาก คิดอะไรไม่ออก รู้แต่ว่า ต่อไปนี้ไม่ต้องคิดอะไร แม่ต้องมาก่อน และ จะต้องดูแลช่วงเวลาสุดท้ายของ คุณแม่ ให้ดีที่สุด ตอนนี้ คงตอบได้ว่า หายแล้วครับ ไม่รู้สึกอะไร (ถ้าไม่คิด) เพราะชีวิตต้องเดินต่อ ครอบครัว เพื่อน และ งาน ช่วยได้จริงๆ นะครับ "อะไรทำให้คุณรักผู้หญิงคนนั้นขนาดนั้น" ผมคงยกเหตุผล/ข้อดีมาตอบเป็นข้อๆไม่ได้หละครับ ผมเจอเค้าในงานวันเกิดเพื่อน และเพื่อนก็พยายามแนะนำให้รู้จัก ผมรู้สึก ตกหลุมรัก ในทันที แบบที่เรียกได้ว่า คนนี้แหละใช่เลย เธอเพรียบพร้อม และ เป็นตัวของตัวเองดี มากๆ ครับ แต่สุดท้ายเขาให้เหตุผล คล้ายๆคุณครับ ว่า อยากอยู่คนเดียว ไม่ได้อยากแต่งงาน "เธอสวยมากรึเปล่า" เธอเป็นผู้หญิงทั่วๆไปครับ ก็ดูดีในแบบของเธอ ผมคิดว่าเธอมีเสน่ห์ แต่ยังไม่ถึงกับขนาดมี ออร่า เหมือนดารา ครับ   ผมเองก็พอมี เพื่อนสวยๆ อยู่เหมือนกันนะ แต่บางครั้ง คนสวยๆเหล่านั้น ผมมองว่า เขาไม่เหมาะกับผมหรอก จากที่คุณเล่ามา ผมว่าคุณอย่าเพิ่งคาดการณ์ในสิ่งที่ยังมาไม่ถึงซิครับ อยากให้ดูจากพฤติกรรมของเขา เขามีแนวโน้มว่าต่อไปจะมี ภรรยาน้อยเหรอครับ ?? การที่ ผช มีเพื่อน ผญ สวยๆ แวดล้อม แค่มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น แต่ไม่ได้หมายความว่า เขาจะมีภรรยาน้อย อย่างที่คุณกังวลนะครับ อย่างที่เคยบอกไว้ ใน คคห ก่อนหน้านี้ ถ้าเขารักคุณทุกลมหายใจ ทุกการตัดสินใจของเขา เขาจะคิดถึงคุณก่อนแล้วหละก็ คุณหมดกังวล ผช คนนี้ไปได้เลยครับ ผมเองก็เติบโตมาจากครอบครัวคนจีน ตั้งแต่เด็กจนโต จะเห็นคุณแม่ โดนว่า อยู่เสมอๆ ทำถูกก็จะโดนว่า ถ้าทำผิดจะยิ่ง ผิด x 2 อะไรแบบนั้นเลยนะ จริงๆแล้วคุณเองก็รู้สึก เริ่ม ที่จะชอบเขา ขึ้นมาบ้าง ผมว่าคุณควรต้องคุย และ ให้เวลาเขา มากขึ้นกว่าเดิมครับ เดาว่า คุณเอง แค่กลัวชีวิตหลังแต่งงาน และ เสียดายชีวิตโสด ผมขอไม่กล่าวถึง ผช. คนนี้ครับ เพราะคุณเองรู้จักตัวตนเขาดีที่สุด จากคุณ : Archarn Chan เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 54 11:55:57

ความคิดเห็นที่ 89 เข้าใจความรู้สึกคุณนะครับ ลองทบทวนดีๆ อยากให้มองกว้างๆ มองนานๆ  แล้วตั้งคำถามตัวเอง รักคนที่เค้ารักเรามันจะสุขเพียงใด  โอกาสที่จะเจอคนดีๆมีมาไม่บ่อย  โอกาสจะได้เจอคนที่เพียบพร้อมมันก้ไม่มาหาถี่  คำว่ารักมันมีอะไรผสมผสานอีกมากมาย  อยากให้ทบทวนก่อนตัดสินใจครับ  เสียดายแทน  ไม่รู้จะพูดอะไรนะ  หากเค้ามาอ่านเจอก็คงซบที่แทบเท้าแล้วบอกกับคุณว่า"อย่าทิ้งผมไปเลย"   คงมีแค่นี้ จากคุณ : โชคดีทุกทีไป (เหล่าทุ้ย555) เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 54 12:07:23

ความคิดเห็นที่ 90 ถามแม่เลยค่ะ ขอให้ตอบตามความจริง เพราะคุณไม่อยากมีชีวิตเหมือนแม่หลังแต่งงาน แม่ต้องอดทนกับอะไรบ้าง  ความสุขที่มีแลกกับอะไร ถ้าเป็นคุณจะแลกไม๊ จากคุณ : เห็นใจแต่ไม่อยากให้เสียใจ (majoyka) เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 54 12:13:20

ความคิดเห็นที่ 91 ขอบคุณ คุณArchan Chanมากค่ะ  แม่คุณโดนเหมือนแม่เราเลย  เห็นตั้งแต่เด็กๆ คุณmajoykaค่ะ แม่เราบ่นให้เรากับน้องสาวฟังเสมอว่า ถ้าจะแต่งงานอย่าแต่งเข้าบ้านคนจีน จะลำบากเหมือนแม่ ในความคิดเห็นเราความสุขจากความรักมีไม่มากหรอก ความทุกข์มีมากกว่า แต่เราโฟกัสไปที่ความสุขเพราะเราอยากได้ความสุข จนลืมมองความทุกข์ที่จะตามมา ขอบคุณทุกความคิดเห็นมากๆเลยค่ะ  ดิฉันได้คำตอบแล้วแหละ จากคุณ : ชอบปลูก เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 54 13:06:13

ความคิดเห็นที่ 92 หยุดทำร้ายคนอื่นด้วยความสงสาร หรือแกล้งว่ารัก ว่าเห็นใจ จากคุณ : p3024 เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 54 13:25:55

ความคิดเห็นที่ 93 ส่ง link กระทู้นี้ให้เขาอ่านครับ จากคุณ : a-ผู้ชั่วร้าย เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 54 13:35:03

ความคิดเห็นที่ 94 อีกหน่อยเธอคงเข้าใจ http://www.youtube.com/watch?v=iFEUfD2uyKM จากคุณ : นายน้อยโนริ๊ เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 54 14:05:30

ความคิดเห็นที่ 95 คุยตรงๆ น่าจะดีที่สุดครับ แต่อย่าคาดหวังว่าจะกลับมาเป็นเพื่อนได้เหมือนเดิม ทุกอย่างคงจะเปลี่ยนไปครับ ถ้าคุณมั่นใจว่าไม่ได้รักชอบ ก็ว่ากันตามตรงครับ ไม่ต้องห่วงเรื่องผู้ชายมากนัก ผู้ชายไม่ค่อยติดใจจำอะไรนานนักหรอก (ก็มีบางคนล่ะนะ แต่ไม่ใช่ส่วนใหญ่หรอก) เอาง่ายๆ แฟนผม เคยมีแฟนอีกคนที่เลิกกันไป ตอนนั้นผู้ชายถึงกับคร่ำครวญว่าคง มีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ได้  ผ่านไปซักสามสี่ปี ก็เห็นแต่งงานและมีครอบครัวที่สมบูรณ์ดีครับ จากคุณ : ดาวสุริยะ เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 54 14:13:12

ความคิดเห็นที่ 96 บอกอย่างที่มาพิมพ์ก็ได้ครับ แต่เท่าที่อ่านเขาก็ไม่ได้ เสียหายอะไร คุณก้ไม่ได้เกลียดอะไรเขา คบกันไปก่อน แบบเพื่อนก็ได้ ถ้าจะเป็นแฟนหรือแต่งงานก็บอกเขาว่ายังไม่พร้อม ส่วนเรื่องเขาจะคบต่อไป รอ หรือจะไปหาคนอื่นก็แล้วแต่เขาครับบ ผู้ชายเจ็บครับ แต่เจ็บน้อยกว่าโกหกกัน และเจ็บฝ่ายเดียว ถ้าปล่อยให้บานปลายจะเจ็บกันหลายคน รวมถึงผู้ใหญ่ จากคุณ : neetnoskub เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 54 15:17:42

ความคิดเห็นที่ 97 ยังไม่ได้อ่านทั้งหมดนะครับ ยาวเกิน แต่แค่แปลกใจที่คุณรับเค้าเป็นแฟน และเรียกเค้าว่าแฟน (จากกระทู้) แต่คุณกลับบอกว่าคุณไม่ได้รักแฟนคุณ (มีงี้ด้วย ??) และถ้าสิ่งที่คุณเล่ามาคือความจริงทั้งหมด ผมสงสัยจริงๆว่าคุณบริหารธุรกิจของคุณได้อย่างไร เพราะคุณไม่เคยโต้แย้งข้อเสนอ แถมยังเป็นคนที่มีการตัดสินใจไม่เด็ดขาดเอามากๆ บอกเลิกเค้าไปเถอะครับ ผมสงสารผู้ชายคนนั้นจริงๆ จากคุณ : Leopaul เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 54 17:00:31

ความคิดเห็นที่ 98 ถ้าคุณคิดว่าคุณอาจจะชอบเขาแบบนั้น ให้เวลาเขาค่ะ แล้วบอกขอช่องว่างเพิ่มหน่อย คุณหายใจไม่ออก ณ จุดนี้ แต่ถ้ามั่นใจว่า หัวเด็ดตีนขาด ชั้นก็ไม่รู้สึกแบบนี้กับนายคนนี้ รีบบอกเลยค่ะ ยิ่งสาย ยิ่งแย่ ยิ่งเจ็บ ตัดสินใจดีๆและขอให้โชคดีนะคะ จากคุณ : ArtemissAss เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 54 17:05:15

ความคิดเห็นที่ 99 ถ้าคุณไม่รักเค้า แล้วคุณคิดว่าทางข้างหน้าจะเจอที่ดีกว่านี้หรือ อยากให้คุณยืนตรงนี้ให้นานอีกหน่อย ให้โอกาสเค้าและคุณได้รู้จักกันให้มากอีกนิด เลื่อนการหมั้นและการแต่งไปก่อน คิดว่าเวลาจะทำให้ได้คำตอบ มากว่าคำพิพากษาผู้ชายคนหนึ่งในวันนี้ค่ะ จากคุณ : ดาหลารัศมี เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 54 18:34:17

ความคิดเห็นที่ 100 ผมว่าตอนแรกคุนรู้ว่าเค้าจีบแต่แรกแล้วละ เพียงแต่คุนค่ิดว่าจะคุมเกมได้ ประกอบกับคิดว่าได้เพื่อนที่มีคอนเนกชั่นเยอะๆไว้เพิ่มดีกว่า จนสุดท้ายเค้ารักคุนจริงๆและคิดว่าคุนเองก็มีใจเรื่องมันเลยจบแบบนี้ เกบไว้เปนบทเรียนละกันคับ งานนี้พูดยังไงก็เจบ ก็บอกๆไปรีบจบสะ จากคุณ : NAN_KUNG เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 54 18:55:07

ความคิดเห็นที่ 101 เราว่า จขกท น่าจะรู้สึกดีกับผู้ชายคนนี้มากกว่านะ หรืออาจจะกำลังสับสนว่ามันใข่รักไม๊ ไม่งั้นคงไม่เรียกว่า "แฟนหรอก" แต่กลัวการแต่งงานมากกว่า เพราะยังไม่รู้จักกันมากพอ อาจจะรู้สึกว่ามันเร็วไป หรืออาจจะมีบางอย่างที่ทำให้ จขกท คิดว่าไปกันไม่ได้ เช่นการเข้าสังคมของฝั่งชาย!!! ดูๆ กันไปก่อนนะคะ ถ้าคุณรู้สึกดีกับเค้า อยู่กับเค้าแล้วมีความสุข เราเชื่อว่าอีกหน่อยคุณจะพูดว่ารักเค้าได้เต็มปาก อย่าเพิ่งไปตัดเบื่อใบกับเค้า ลองคุยกับเค้า ปรึกษาผู้ใหญ่ดู สิ่งที่คุณกังวลคืออะไร แล้วลองคบกันไปอีกซักพัก อีก 2 ปีค่อยแต่งยังไงสาย ถ้าคุณสองคนรักกันจริง!!! สู้ๆ คะ จากคุณ : ... (goco) เขียนเมื่อ : 2 ก.ค. 54 15:20:20

ความคิดเห็นที่ 102 "คิดยังไงก็พูดอย่างนั้นครับ" อยู่ที่เราจะกล้าพอมั้ย มันยากที่จะทำ ขอให้ผ่านวันที่แสนจะทรมานไปได้ด้วยดี สำหรับผม เมื่อใหร่ก็เจ็บ ก็เสียใจเหมือนกัน แต่มันมีค่าไม่เท่ากันครับ เวลาผ่านไปนานเท่าไร เวลาเจ็บก็เจ็บมากขึ้นตามเวลา บางครั้งความสงสารนี่ล่ะ เป็นจุดเริ่มต้น เพราะผมก็รักผู้หญิงคนหนึ่งทั้งใจ เพราผมสงสารเขา มากกว่ารักเขา ผมบอกอย่างนี้ตรงๆ กับผู้หญิงคนนั้น เพราะเขามีเรื่องราวที่ทำให้ผมรักเขาด้วยความสงสาร ทุกวันนี้ผมยังคิดถึงเขาอยู่เสมอ คุณเองก็ควรตระหนักว่า "เวลามันคือสิ่งช่วยที่เยียวยา และในขณะเดียวกัน มันก็เป็นนักฆ่าเช่นกัน" เป็นกำลังใจให้นะครับ จากคุณ : khonkuy เขียนเมื่อ : 2 ก.ค. 54 20:00:32

ความคิดเห็นที่ 103 มาเป็นกำลังใจให้ค่ะ มองหัวใจตัวเองให้ดีๆ ทำใจสบายๆนะคะ ^ ^ จากคุณ : poisonlove เขียนเมื่อ : 2 ก.ค. 54 22:54:56

ความคิดเห็นที่ 104 จขกท มีทัศนคติที่ไม่ดีต่อความรักและการแต่งงาน ทั้งที่ความจริง คุณก็รู้สึกดีกับเขาเช่นกัน แต่เก็บกดความรู้สึกของตัวเองไว้ คุณไม่กล้ารักใครเพราะกลัวว่าแต่งงานไป จะต้องลำบากเหมือนคุณแม่ ขอเตือนว่าถ้าคุณบอกเลิกกับผู้ชายคนนี้ในตอนนี้ คุณจะมีชีวิตที่ไร้ความสุขไปตลอดชาติ ความรักอย่างชายหญิง ก็เหมือนไฟไหม้ฟาง ร้อนแรงแค่วูบเดียว แล้วก็ดับไป สิ่งที่ยาวนานและมั่นคงกว่าคือมิตรภาพและความปรารถนาดีที่มีต่อกัน สิ่งที่คุณต้องทำเป็นสิ่งแรกคือเปิดใจรับรู้ความต้องการที่แท้จริงของตัวเอง ถามใจตัวเองดูว่าต้องการเพื่อนแท้ไหม คนที่จะอยู่เคียงข้างคุณ ดูแลกันและกันไปจนวันตาย ไม่ว่ายามสุขหรือทุกข์ แล้วเขาคนนี้ พอจะเป็นเพื่อนแท้ของคุณได้ไหม ยังไม่ต้องตอบว่าได้หรือไม่ได้... ขั้นต่อไป คุณต้องไปคิดดูว่าเพราะอะไร คุณแม่จึงลำบากมาก เมื่อแต่งงานเข้ามาอยู่กับครอบครัวฝ่ายคุณพ่อ สมมติว่าคุณเป็นคุณแม่ คุณจะทำอย่างไร จึงจะไม่ประสบปัญหาอย่างเดียวกัน ต่อจากนั้นก็คุยกับเขาถึงความต้องการของคุณ ปรึกษาเขาเรื่องที่คุณกังวลทุกเรื่อง เขาจริงใจกับคุณแค่ไหน แล้วเอาคำตอบที่ได้ไปพิจารณาเพื่อตอบคำถามข้างบน ขอให้โชคดี จากคุณ : บุษยมาศ เขียนเมื่อ : 3 ก.ค. 54 10:16:09

ความคิดเห็นที่ 105 บอกไปเหอะ พวกผู้ชายอย่างเรา ทนได้ ชีวิตไม่เหมือนละครทุกครั้งหรอก แต่ว่า ว่าที่เจ้าบ่าวคุณอ่ะ เหมือนพวกลูกชายคนเล็กเลยอ่ะ ไม่ประสา ลูกไม้ตื้นๆ รวบรัด ลูกแหง่ โลกแคบ ฯลฯ จากคุณ : มาคัส (cool_khaew) เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 54 05:05:39

ความคิดเห็นที่ 106 ถ้าคุณไม่กล้าทำอะไร ก็ทนต่อไป จากคุณ : aoxkup เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 54 15:23:36

ความคิดเห็นที่ 107 ตื่นๆๆๆๆๆๆๆๆ จากคุณ : โท๊ด9116 เขียนเมื่อ : 5 ก.ค. 54 02:37:02

ความคิดเห็นที่ 108 ผ่านมาหลายวัน คุณจขกท.จะกลับมาอ่านรึเปล่าไม่รู้ ผมอ่านความเห็นคุณทุกอัน อยากบอกอย่างนี้ครับว่า มองโลกให้กว้างกว่านี้หน่อย  ผู้ชายไม่ได้เป็นแบบที่คุณเคยพบเคยเจอ เคยเห็น ทุกๆคนไป ผู้หญิงหลังแต่งงานก็ไม่ได้มีชีวิตแต่ในแบบที่คุณเห็นมาตลอด 30ปีนั่น คุณอยู่กับที่บ้าน มานานครึ่งค่อนชีวิต เห็นแต่โลกในแบบ ในแง่มุมปิดๆ แล้วก็ฝังหัวบอกตัวเองว่า ต่อไปก็จะเจอแบบนั้น แบบนี้ แค่คำถามว่า "ผู้หญิงคนนั้นสวยมั้ย"....  รับรู้ได้ถึงความไม่มีโลกทัศน์ของแง่การใช้ชีวิตเลย คนจะรักใครสักคน ไม่ได้จำเป็นว่าเค้าต้องสวย ต้องดูดีเสมอไป  ความงามที่น่าประทับใจบางครั้งมันคือความเป็นตัวตนของคนๆนั้นต่างหาก หน้าตาดีเป็นแค่ส่วนประกอบเมื่อแรกเห็นแค่นั้น อายุก็ไม่น้อยแล้ว หัดมีความเป็นตัวของตัวเองบ้างนะครับ แล้วก็เคารพจิตใจของตัวเองบ้าง อย่าเอาแต่กลัวนั่นนี่ ที่ตัวเองสรรหามาปรุงแต่งเพื่อเป็นข้ออ้าง ในการที่จะบอกว่าไม่อยากแต่งกับเขา คำตอบผมเชื่อว่าคุณมีอยู่ในใจ แต่คุณแค่ "กลัว" เกินไปที่จะกล้าตอบว่าคุณก็รู้สึกดีๆกับเขา เพราะเอาเหตุผลร้อยแปดในอดีตแคบๆที่เห็นมาอ้างแล้วตีว่ามันคือทั้งหมดของชีวิต คุณน่ะต้องการเวลาอีกซักพัก ที่จะทบทวนความรู้สึกตัวเอง ก่อนจะตกลงแต่งงาน มันปุบปับเกินไปกับการตัดสินใจของคุณ ข้อนี้คุณก็ต้องเคารพการตัดสินใจของคุณเองด้วย เลื่อนคือเลื่อน ขอเวลาก็คือขอเวลา  ถ้าเค้ารักคุณจริงเค้าต้องรับได้ด้วย ที่สำคัญพูดให้ชัดเจนเสียที พูดอ้อมๆแอ้มๆ นิดๆแล้วก็เงียบไม่กล้าพูดต่อ หวังว่าเค้าจะเข้าใจไปได้เอง เป็นการกระทำที่ผิดมหันต์ เพราะเค้าจะไม่มีวันเข้าใจได้ตรงกับความตั้งใจจริงของคุณ คุณมีหน้าทีต้องบอกให้หมด ให้ครบ อย่าคิดว่าเดี๋ยวเค้าน่าจะเข้าใจเอง...เด็ดขาด หวังว่าคงมาอ่านนะครับ แล้วถามตัวเองดูอย่างจริงใจว่า จริงมั้ยที่ผมเขียนไว้นี่ จากคุณ : สายน้ำ ||เวอร์ชั่นล็อคอิน|| เขียนเมื่อ : 5 ก.ค. 54 17:33:52