ความคิดเห็นที่ 1 รู้ว่าเป็นตั้งแต่ 17-18 ตอนนี้ 36 ยังปกติดีครับ ไม่รู้หายไปเองหรือยัง จากคุณ : เขียนบน IPhone5 (ananchai_y) เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 54 14:23:31

ความคิดเห็นที่ 2 คุณ เขียนบน IPhone5 ไปตรวจดูบ้างไหมค่ะ ไปตรวจบ้างนะคะ จากคุณ : hot pink hana เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 54 15:26:48

ความคิดเห็นที่ 3 รอฟังผลด้วยครับ รู้ว่าเป็นพาหะ ตั้งแต่ 20 ตอนนี้ 30 แล้วครับ ยังไม่ได้รักษาเลย มีปัญหาเรื่องการสมัครงานมาก ไม่มีบริษัทรับเลย อยากหายเหมือนกันครับ จากคุณ : taipremium เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 54 15:28:12

ความคิดเห็นที่ 4 ถ้าเป็นนานขาดนี้ เราว่าอาจจะไม่หายค่ะ แต่ก็ไม่แสดงอาการ คือก็ยังเป็นพาหะเหมือนเดิม  ยังไงก็งดเครื่องดื่มแอลกฮอล์ / งดสูบบุหรี่ นะคะ จากคุณ : kenanda เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 54 15:31:00

ความคิดเห็นที่ 5 คุณ taipremium มีปัญหาเรื่องสมัครงานเหมือนกันเหรอค่ะ เราก็มีค่ะ สัมภาษณ์ผ่านแล้วพอให้ไปรวจสุขภาพไม่รับซะงั้น เซงมากค่ะ แต่จะเป็นเฉพาะบริษัทใหญ่ๆนะคะ ตอนนี้เราได้งานใหม่แล้ว ใหญ่ไม่เท่าแต่ใหญ่เหมือนกัน เค๊าก็รับเราค่ะแต่ไม่ตรวจไวรัสบี จากคุณ : hot pink hana เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 54 15:41:33

ความคิดเห็นที่ 6 #5 ใช่ครับ โดนปฏิเสธ มา 3 ครั้งแล้ว บริษัทใหญ่ๆ ทั้งนั้น ผ่านสัมภาษณ์ทุกอย่าง แต่ไม่ผ่านตรวจร่างกาย ท้อเหมือนกัน อยากรักษาให้หายขาด จากคุณ : taipremium เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 54 15:47:32

ความคิดเห็นที่ 8 รักษาไม่หายครับ รักษายังไง ก็ยังมีเชื้ออยู่... โรคไวรัสบี ยังไม่มีทางรักษาให้หายเด็ดขาด.. มีได้แต่ป้องกันไม่ให้เป็นโรคนี้ แต่ถ้าเป็นแล้ว ยังไม่มีทางรักษาให้เชื้อไวรัสหายไปจากร่างกายได้เด็ดขาด การรักษาด้วยการฉีดยาอินเตอร์เฟอรอน มันก็คล้ายๆกับการฉีดคีโม นั่นแหละ ระหว่างรักษา ร่างกายจะแพ้ กินข้าวไม่อร่อย ทำให้น้ำหนักลด ผอม ผมร่วง ผิวหนังแห้ง เพื่อนผม ฉีดอาทิตย์ละเข็ม เป็นเวลา 7-9 เดือน(ประมาณนี้ จำไม่ค่อยได้) ค่ารักษาเกือบล้าน หลังฉีดครบตามกำหนด ไปตรวจค่าตับ....ปกติ ผ่านไป 1 ปี ไปตรวจเชื้อ มีเหมือนเดิม ทั้งบี ทั้งซี แต่ค่าตับ..ปกติ ปัจจุบัน เพื่อนที่ว่า ดูๆแล้วสภาพร่างกาย กลับมาเป็นเหมือนเดิม (คือเหมือนก่อนการรักษา) คือ..อ้วน, เดินไม่สง่า เหมือนไม่ค่อยมีแรง..ยังไม่รู้ค่าตับเป็นอย่างไร ยังไม่ได้สอบถาม โรคนี้ ติดต่อทางเลือด น้ำคัดหลั่ง ส่วนใหญ่ก็ทางเพศสัมพันธ์กับคู่นอน ..ใครเป็นโรคไวรัสบี ให้ถามคู่นอนดูว่าเป็นหรือไม่ ให้ไปตรวจด้วย ส่วนใหญ่คู่นอนก็จะเป็นไวรัสบีด้วย แล้วก็แพร่เชื้อทางน้ำคัดหลั่งจากการมีเพศสัมพันธ์กัน...วัยรุ่นบ้านเราเป็นกันมาก เพราะไม่ค่อยได้รับข้อมูลเหล่านี้ แนะนำ..รักษาร่างกายให้แข็งแรงเสมอ ไม่ดื่มเหล้าไม่นอนดึก อย่าทานยามากเป็นประจำโดยไม่จำเป็น (ส่วนมากวัยรุ่นชอบเที่ยวกลางคืน นอนดึก ถ้าร่างกายรับเชื้อแล้ว และยังชอบเที่ยวดึก นอนน้อย ทำให้สุขภาพไม่แข็งแรง ก็ทำให้ภูมิฯน้อย ไม่สามารถต้านเชื้อได้ ก็มักจะเป็นพาหนะโรคนี้ แต่ส่วนน้อยนะที่จะเป็นโรคพาหนะไวรัสบีประมาณ5% เอง แต่ส่วนใหญ่ 95%จะสร้างภูมิฯป้องกันโรคนี้ได้เอง เมื่อได้รับเชื้อ) จากคุณ : ตามนั้น (phch) เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 54 16:01:00

ความคิดเห็นที่ 9 ขอบคุณความคิดเห็น 8 ค่ะ ทำไมเพื่อนคุณถึงไปฉีดยาค่ะ เพราะเป็นมากหรืออยากหายเหมือนกัน เท่าที่เรารู้ข้อมูลมา มีคนแนะนำให้กินต้นลูกใต้ใบ เอาใขมาบดและทำชา (ขมมาก ไม่ค่อยกินเลย) มีคนนอน 3 ทุ่มติดต่อกัน 7 ปี จากเป็นพาหะ มีภูมิซะงั้น (อิจฉาๆ) เห็ดหลิงจือ บำรุงตับ ประมาณนี้แหล่ะ ที่น่าทำตาม เราพยายามกินต้นลูกใต้ใบอยู่มันขมมากก แต่อ่านข้อมูลมา บอกว่ารสขมๆนี่แหล่ะ ที่มีประโยชน์ จากคุณ : hot pink hana เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 54 16:47:42

ความคิดเห็นที่ 10 ตอนนี้ 50 แล้วค่ะ รู้ตัวตั้งแต่ 27 ตอนนั้นเค้าฮิตตรวจกัน ก็เลยไปตรวจ แม่เคยเป็น น้าเคยเป็น น่าจะติดจากแม่ตั้งแต่คลอด เพราะไม่ได้ติดจากใคร คนอื่นหายหมด ยกเว้นเราคนเดียว ห่างหายมาหลายปี 3* กว่า ยังเป็น 47 ยังเป็นพร้อมตรวจค่าเอนไซน์ตับเพิ่ม ค่ายังปกติ  ตอน50 ตรวจเอนไซน์ตับ ค่าปกติ ก่อนหน้านั้นไม่เคยสนใจตับเลย จนน้องชายแฟน(น้องผู้ชายของแฟน-แวะสวนลุมเลยรู้จักน้องชายน้องสาว*_*)เป็นมะเร็งตับ เหตุจากไวรัส C  ดูน่ากลัวกว่าไวรัส B  อะ เลยเริ่มสนใจอาหารสุขภาพมากขึ้น วันก่อนเห็นคุณอะไรจำไม่ได้ ตั้งกระทู้ว่าหาย สุดยอดมาก เริ่มมีความหวัง แต่ยังนอน 6 ทุ่มอยู่เลย T_T  ต้องพยายามซะหน่อย จากคุณ : mamnoi เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 54 17:10:27

ความคิดเห็นที่ 11 ถ้าเป็นพาหะ ไม่น่าจะหายนะคะ เพราะไม่แสดงอาการ ถ้าเป็นโรคเนี่ยสิ มีโอกาสหาย เพราะมันจะแสดงอาการรุนแรง เหมือนเราเป็นโรคนั้นขึ้นมา เพราะร่างกายต่อต้านได้ มันก็จะหาย แต่ก็อันตรายเหมือนกัน จากคุณ : Aqualela เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 54 22:57:14

ความคิดเห็นที่ 12 รู้สึกอบอุ่นT^Tขอบคุณทุกคน จากคุณ : hot pink hana เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 54 23:42:52

ความคิดเห็นที่ 13 1 เอา มะกรูด มา 4 ลูก    แต่ละลูก ผ่าออกมา 4 ซีก   ให้เก็บไว้ลูกละ  1 ซีก อีก3 ซีกทิ้งไป ( จะได้ มะกรูด 4 ชิ้น จาก4 ลูก) 2 จันทน์ขาว 2 บาท 3. นำมาต้ม รวมกัน  ใส่น้ำ 2ชาม ต้มจนเหลือ ชามเดียว ทำกินไปเรื่อยๆ แล้วลองไปตรวจดูครับ  ถ้าหายแล้วบอกด้วย จากคุณ : zoba (zoba) เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 54 12:22:50

ความคิดเห็นที่ 14 ควรทราบ 1. ไม่ใช่ต้องรักษาทุกราย มี indication หลายข้อ 2. ยากินก็มี efficacy ไม่ใด้ต่างมากมาย 3. คำว่าหาย มีหลายระดับ ถามแพทย์ที่รักษา จากคุณ : no preservation เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 54 23:03:10

ความคิดเห็นที่ 15 เคยปรึกษาแพทย์แล้วค่ะ ได้รับคำตอบว่าเป็นพาหะ ไม่หายค่ะ คือเป็นอย่างนั้นไปตลอดชีวิต หมอแนะนำให้ไปตรวจมะเร็งตับค่ะ เพิ่งไปตรวจมาเมื่อสองเดือนก่อน คือเจาะเลือดด้วย ทำอัลตร้าซาวน์ดูด้วยว่ามีอะไรผิดปกติหรือเปล่า นัดหมออีกสามอาทิตย์ จะถามเหมือนกันว่า ต้องตรวจแบบนี้ทุกปีหรือไม่ ตอนนี้มาเริ่มกินวิตะมิน liver detox อยู่ หวังว่าจะช่วยขับพิษออกจากตับบ้าง จากคุณ : พาหะไวรัสบี เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 54 10:18:53 A:220.237.170.187 X: TicketID:188044

ความคิดเห็นที่ 16 เป็นพาหนะ แล้ว ไม่หาย มีโอกาสเป็นมะเร็งตับ มากกว่า คนไม่เป็นพาหนะ 200 เท่า คนที่เป็นนานๆ อายุมากๆแล้ว สัก 45-60 ปี ควรมั่นตรวจครับ จากคุณ : ตามนั้น (phch) เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 54 16:28:13

ความคิดเห็นที่ 17 เมื่อพ.ศ.2541 หมอบอกว่าเป็นแล้วไม่หายครับ แต่นี่ พ.ศ.2554 แล้ว ข้อมูลที่ท่านมีอยู่สมควรได้รับการupdate ตามลิงค์นี้ครับ http://th.answers.yahoo.com/question/index?qid=20110327031829AA1kAwe หากว่าท่านยังสะลึมสะลือยังไม่ตื่นจากการหลับไหลให้เข้าไปที่นี่ครับ http://www.thailiverfoundation.org/th/index.php ถือบัตรทองไปหาหมอ ถือบัตรประกันสังคมไปหาหมอ ถือบัตรข้าราชการไปหาหมอ กำเงินสดๆไปหาหมอ หมอจะพูดไม่เหมือนกันครับ จากคุณ : Sawakato (Sawakato) เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 18:07:52