|
มาให้กำลังใจ จขกท. รู้สึกแบบเดียวกันกับ จขกท. แต่อาจจะโชคดีกว่าหน่อยต้องที่ ยังไม่ทราบแน่ชัดว่า เป็นขั้นไหนแล้ว รู้เพียงแต่ว่า ยังไม่ ลามถึงกระดูกค่ะ ตอนนี้อาการของพ่อ เรียกได้ว่า ดีขึ้นตามลำดับ เป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก + โรคหลอดเลือดดำอุดตันค่ะ , ขาพ่อบวมมาก ๆ อาการต่อจากขาบวมก็ถ่ายปัสสวะไม่ออก ต้องใส่สายปัสสวะ ค่ะ รพ.ต่างจังหวัดก็ใส่ให้ไม่ดี ทำให้เกิดการติดเชื้อ ต้องพามาแอดมิดที่ รพ.ศิริราช พออาการดีขึ้นกลับบ้านกินข้าวได้ เช็ดตัว สายปัสสวะหลุดอีก ต้องกลับไปรพ.ใหม่อีกรอบ , เรียกได้ว่าดูแลกันกับแม่ 2 คน ไม่ได้นอนกันเลยที่เดียว กลัวว่าท่านจะเป็นอะไรไปซะก่อน เพราะคิดว่าเรายังให้ท่านไม่มากพอเท่าที่ท่านให้เรา
อาการของท่านเรียกว่าหนักสำหรับครอบครัวฉันเลยก็ว่าได้ เพราะ พ่อไม่เคยป่วยถึงนอน รพ. ท่านไม่เคยเป็นอะไร นอกจากไข้หวัด ฉันโตแล้วก็จริงแต่ว่า ใจของฉันมันอ่อนแอ ยังไม่มีภูมิต้านทาน นั้นเป็นเพราะคนใกล้ตัวฉันไม่มีใครเป็นอะไรที่หนัก ๆ
ตอนนี้ขาที่บวมมากดีขึ้นมากแล้วอันนี้โรคหลอดเลือดดำอุดตันนะค่ะ,ส่วนมะเร็งต่อมลูกหมากก็ต้องรอ ผลการตรวจ MRI ให้แน่ชัดอีกทีว่าจะทำการรักษาอย่างไร สภาพคนไข้ตอนนี้ เหมือนกับว่าจะไม่ค่อยรู้สึกเรื่องถ่ายปัสสวะเท่าไร เพราะสายปัสสวะ หลุด ถึง 2 รอบ ตอนต้องใส่ผ้าอ้อมค่ะ
เรามาคิดว่า โรคเหล่านี้มันเกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัวฉันคงต้องเตรียมความพร้อมสำหรับแม่ให้มากขึ้นเตรียมเรื่องเงินทองไว้ เพื่อรักษาให้ได้เต็มที่ เพราะฉันมีกรณีของพ่อให้ศึกษาแล้ว
สุดท้ายอยากให้ จขกท. ตั้งสติ และทำทุกอย่างให้ท่านมีความสุขที่สุด
ฉันเองคงทำหน้าที่ของลูกให้ดีที่สุดเท่าที่ตัวฉันจะทำได้ค่ะ
มีอีกสิ่งหนึ่งนะค่ะ ที่บ้านฉันทำ คือ พาพ่อไปให้หมอพระรักษาดูอาการค่ะ (เป็นความเชื่อส่วนบุคคล ไม่อยากให้ใครว่านะค่ะ พ่อเป็นคนไม่เชื่อเรื่องพวกนี้ แต่นี่ท่านอยากไปเอง คนแถวบ้านไปกันเยอะค่ะ) ไปเพื่อสร้างขวัญกำลังใจ เพื่อความสบายใจ
ท่านก็ไม่ได้ให้ยาอะไรมาทานหรอกค่ะ ท่านบอกแค่ว่า มี 3 สิ่งที่เกาะอยู่นะ 1.กรรมที่เกิดจากจิตผูกพัน นั้นคือ ปู่ท่านป่วยด้วยโรคนี้แล้วพ่อไม่เคยได้เยี่ยมปู่เลยเพราะเจ้านายไม่ให้ลางาน จนวินาทีสุดท้ายเจ้านายจึงยอมให้ลาแต่พ่อก็ไปไม่ทันค่ะ ปู่สิ้นใจตอนพ่ออยู่หมอชิต ปู่รักพ่อมากและคิดว่าพ่อจะรู้ไหมว่าปู่เจ็บมากขนาดไหน มันเลยกลายเป็นกรรมจากจิตที่คิดถึง พูกพัน นะค่ะ
2.เจ้ากรรมนายเวร นั้นคือ ปลาไหล ,สมัยหนุ่ม ๆ พ่อเคยจับปลาไหลมาทำกิน ต้มน้ำเดือด ๆ แล้วก็ใส่ลงหม้อ
3.เทวดาประจำต้นโพธิ์ที่ทำงานค่ะ
ก็พาพ่อไปทำบุญอุทิศหาปู่แล้วบอกปู่ว่า พ่อรู้แล้วถึงความเจ็บปวดนั้น พาพ่อไปปล่อยปลาไหล ไปบอกกล่าวขอขมา ต้นโพธิ์ แล้วพยายามให้พ่อสวดมนต์ทุกวันค่ะ (การปล่อยปลาไหลไม่ได้ปล่อยแค่ ครั้งเดียวนะค่ะ ต้องปล่อยไปเรื่อย ๆ จนกว่า....)
สิ่งที่ทำไม่ได้เพื่อให้โรคหาย แต่ทำเพื่อความสบายใจเพื่อไม่ให้เกิดความคล้องใจ คาใจ ค่ะ พ่อเองก็ไม่ได้เป็นคนชอบทำบุญสักเท่าไร แต่ต่อจากนี้ไปคงต้องพาท่านทำบุญให้มาก ๆ ค่ะ
แค่อยากแชร์ประสบการณ์นะค่ะ
จากคุณ |
:
ท้องฟ้าน้ำทะล
|
เขียนเมื่อ |
:
4 ส.ค. 54 14:35:10
|
|
|
|
|