ความคิดเห็นที่ 1 จริงจนน่ากลัว ลูกค้าบางทีขู่จะทำให้เสียชื่อเสีย เพราะอยากได้ค่าปิดปาก ทั้งที่เป็นเรื่องไม่จริง แต่การจ่ายเงินบางทีดูจะคุ้มค่ากว่าปล่อยให้ข่าวกระจายออกไป ตลกไม่ออกกันเลยทีเดียว จากคุณ : แมงแกลบ เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 54 16:28:57

ความคิดเห็นที่ 2 ก็น่าเห็นใจทั้งสองฝ่ายค่ะ หมอก็น่าเห็นใจ คนป่วยก็น่าเห็นใจ ถ้าเป็นไปได้ก็ไม่อยากให้มีการฟ้องร้องเลยค่ะ บางครั้งคนป่วยก็ทำเกินไป และบางครั้งหมอหรือโรงพยาบาลก็ทำเกินไป หนูขอเล่าประสบการณ์ที่ตัวเองเคยเจอบ้างนะคะ หนูเป็นเนื้องอกในมดลูกชนิดกล้ามเนื้อมดลูกรักษาต่อเนื่องกับรพ.แพทย์คุณหมอก็นัดให้มาตรวจต่อเนื่อง จนต้องผ่าเอาก้อนออกในที่สุด เคยเจอหมอให้ยาไปกินทุกๆ1เดือนเพราะจะให้ก้อนยุบก็กินยาไปเรื่อยๆ ยาที่กินอยู่นี่(duphaston)ไม่ได้ทำให้เนื้องอกเล็กลงแต่แต่ช่วยทำให้ประจำเดือนน้อยลงเท่านั้น(ข้อมูลนี้หมอคนใหม่ที่เปลี่ยนมารักษาเป็นคนบอกนะ) และพอได้มาตรวจกับหมอคนใหม่ หมอบอกว่าโรคนี้ต้องผ่าเอาออกเท่านั้นจะให้หนูตัดมดลูกทิ้ง หมอบอกว่าเป็นโรคเวรโรคกรรม ให้ทำใจซะ ถ้าไม่ตัดมดลูกก็ให้ไปผ่ากับหมอคนอื่นก็แล้วกันผมผ่าให้คุณไม่ได้ หนูก็เลยต้องเปลี่ยนหมอ ที่เปลี่ยนหมอใหม่เพราะหมอคนนี้นัดให้มาอีกครั้งเพื่อตกลงกันว่าจะเอายังไง(วิธีการรักษา)แต่วันที่หมอนัดให้หนูมาพบวันนั้น หมอไม่ได้ออกตรวจ(แล้วหนูจะตรวจกับใคร) สุดท้ายก็เลยได้ตรวจกับหมอคนใหม่ แต่คุณหมอคนใหม่ส่งหนูไปอีกแผนกนึง ซึ่งเป็นแผนกอะไรก็ไม่ทราบ แต่เกี่ยวกับการวิจัยอะไรสักอย่างที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเป็นเนื้องอกของหนูเลย(เสียเวลาอยู่ในแผนกนั้นสามอาทิตย์ลางานมาตรวจ ฝ่ายบุคคลก็บ่นแล้วบ่นอีก) จนในที่สุดก็ได้ผ่าตัด ตอนตรวจภายในก่อนผ่าตัด หมอที่มาดูแลก็เข้ามาตรวจและพานศ.แพทย์มาอีกสี่ห้าคนด้วย(เพื่อมาเรียน) หมอตรวจเสร็จก็บอกว่าเป็นเยอะแล้ว ตอนผ่าอาจจะต้องตัดมดลูกนะ หนูยืนกรานกับหมอว่าไม่ให้ตัดมดลูก(คุยกันแบบสุภาพปรกตินะคะ) ให้เอาแต่ก้อนเนื้อออก คุณหมอก็ขึ้นเสียงดังแล้วบอกว่า ถ้าคุณยืนกรานว่าไม่ให้ตัดมดลูกผมก็ผ่าให้คุณไม่ได้ แล้วบอกว่า เคสนี้ใครอยากจะผ่าก็ผ่านะผมไม่ผ่าแล้วก็เดินออกจากห้องไป แล้วนักศึกษาแพทย์ก็มองหน้ากันเลิกลั่กแล้วเดินตามกันออกไป ทิ้งให้หนูนอนอ้าขาอ้าซ่าอยู่ในห้องตรวจภายในกับพยาบาลหนึ่งคน หนูก็นั่งน้ำตาซึมเลยแต่งตัวแล้วกลับไปห้องผู้ป่วย รออีกครึ่งวันในที่สุดก็มีคุณหมอหญิงที่ใจดีมากๆรับอาสาผ่าให้ คืออยากจะบอกว่าการได้มาอยู่รพ.ครั้งนี้ทำให้หนูเจอเรื่องที่ทำให้รู้สึกว่าศักศรีความเป็นคนของเรามันหายไปเยอะมาก ทำไมถึงทำกับเราแบบนี้ เจอแบบนี้หนูก็รู้สึกแย่เหมือนกันนะ แต่ก้ได้เห็นอีกมุมหนึ่งของชีวิตพี่พยาบาลและหมอในโรงพยาบาล แต่ก็ยังไม่คิดจะฟ้องร้องใคร เพราะหนูเข้าใจว่าแพทย์ก็พยายามทำงานของตัวเองเต็มที่แล้ว ก็เลยมีความคิดเห็นกับกระทู้นี้ว่า อยากให้ทั้งสองฝ่ายทำความเข้าใจกันให้มากกว่าที่เป็นอยู่นี่นะคะ แก้ไขเมื่อ 06 ส.ค. 54 16:52:35 จากคุณ : น้องจุ่น เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 54 16:44:26

ความคิดเห็นที่ 3 ในอนาคต ถ้าหากประเทศไทยจะเดินไปทางนั้นจริงๆ... ผมว่าหมอก็น่าจะมีทางออก  คือ การซื้อประกัน malpractice insurance ไว้ครับ... คือ เวลามีคดีความขึ้นมา ก็มีวงเงินประกัน และทนายจากประกันมาช่วยทำคดีให้ ซึ่งแน่นอนทนายพวกนั้นเขี้ยวลากดิน ไม่ยอมเสียเงินง่ายๆ แน่  เพราะถ้าแพ้คดี คนที่จ่ายเงิน คือ บริษัทประกัน แต่ถ้าหากยกฟ้อง บริษัทพวกนั้นคงฟ้องกลับเรียกคืนทั้งต้นทั้งดอกแน่ๆ.. ส่วนหมอ ก็ทำงานตัวเองไป.. จากคุณ : หมอก้อนหิน เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 54 21:30:43

ความคิดเห็นที่ 4 พี่ จขกท.คะ เราก็เพิ่งจะมาตั้งกระทู้เกี่ยวกับถามเรื่องหมอฟ้องกลับพอดีเลยค่ะ ขออนุญาตแปะลิงค์นะคะ http://www.pantip.com/cafe/lumpini/topic/L10901253/L10901253.html จากคุณ : แกลลุ เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 10:45:05

ความคิดเห็นที่ 5 สื่อไทย ผมเห็นหลายกรณีที่ออกข่าวผิดๆไปแล้วไม่ยอมแก้ข่าว สร้างชื่อเสียงไม่ดีให้กับผู้ตกเป็นข่าว ทั้งๆที่ไม่ได้ทำผิด จากคุณ : นิว ชะลาล่า เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 21:43:17

ความคิดเห็นที่ 6 ขอแสดงความเห็นใจน้องจุ่นด้วยนะครับ และขอชื่นชมที่รู้จักให้อภัย ปล่อยให้เป็นเรื่องของเวรของกรรมแทน ส่วนที่ว่าประเทศไทยจะไปทางนั้นจริง ทางที่พัฒนาขึ้น คนไข้มีสิทธิของตัวเองมากขึ้น และหมอก็ต้องหัดเรียนรู้เคารพสิทธิคนไข้มากขึ้น เหมือนที่เรียนรู้และหวงแหนสิทธิของตัวเองยิ่งนัก ก็ถือเป็นเรื่องที่ดีครับ เพราะทุกสาขาอาชีพเขาก็พัฒนาไปทางนี้กันหมดแล้ว มีหลัก Accountability มาตั้งนานแล้ว เหลือแต่นักการเมือง กะบางอาชีพเท่านั้นที่ยังล้าหลังอยู่ แต่....ประกันค้ำจุนน่ะ มันช่วยได้แค่ทางแพ่ง ช่วยได้แค่ในส่วนค่าเสียหายจากการละเมิดเท่านั้นหรอกนะท่าน แต่ทางอาญา ยังต้องติดคุกเองอยู่  ประกันไม่ได้มาติดแทนให้หรอกนะ เพราะงั้น เอาเวลาไปเรียนรู้ ไปคิดว่าทำไงจะไม่วินิจฉัยผิด ไม่ประมาทเลิ่นเล่อ และมีเซอร์วิสมายด์ จะดีกว่าไหม แก้ไขเมื่อ 08 ส.ค. 54 12:25:02 จากคุณ : ลูกหมีเขี้ยวยาวเขาโง้ง เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 54 12:08:00

ความคิดเห็นที่ 7 ทางเดียวที่จะไม่ถูกฟ้องและเป็นหมอที่น่ารักของคนไข้คือ รักษาตาม ความต้องการของคนไข้ คนไข้ต้องการยาชนิดไหนจัดให้ คนไข้คิดว่า ตัวเองเป็นโรคอะไร ก็จัดให้  อยากได้น้ำเกลือ ก็จัดให้   ไม่ว่าหมอจะมีความรู้แค่ไหน ไม่ประมาทเลินเล่อ   แต่ถ้าหมอไม่รักษา ตามที่คนไข้หรือญาติต้องการ  ก็มีสิทธิ์ถูกฟ้องร้องได้เสมอ จากคุณ : Sono เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 54 12:52:39

ความคิดเห็นที่ 8 คห.6 เอาเวลาไปเรียนรู้ คิดยังงัยจะไม่ให้วินิจฉัยผิด ก็ลองมาตรวจคนไข้วันละ 50-80 คนในเวลาสามชั่วโมงสิคะ สามชั่วโมง = 180 นาที เฉลี่ยคนละ 2-4 นาที ตรวจช้ากว่านี้ก็โดนร้องเรียนว่าคอยหมอนานไม่ได้ตรวจสักที พยาบาลก็มาเร่งเหลืออีกเยอะนะหมอ ตรวจเร็วก็โดนร้องเรียนว่าตรวจคนไข้ไม่ละเอียด หมอให้เวลากับคนไข้น้อย สรุปโดนทั้งขึ้นทั้งล่อง ถ้าให้ตรวจคนไข้วันละ 20-30 คนต่อวัน จะตรวจอย่างละเอียดเลยให้เวลาคนไข้คนละ 20-30 นาทีอยากถามอะไรถามมาจะตอบให้ จะอธิบายอย่างละเอียดเลย แต่ความเป็นจริงมันไม่ใช่ ไม่มีหมอคนไหนอยากวินิฉัยผิด ไม่มีใครอยากประมาท ทุกคนอยากมี service mild กันทั้งนั้น ใครบ้างอยากโดนฟ้อง จากคุณ : น้ำตาลกะข้าวตัง เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 54 15:04:44

ความคิดเห็นที่ 9 คห.7 รักษาอย่างนั้นก็ไม่รอดอยู่ดี... เคยเจอ เอาโน่นเอานี่ จัดให้ ปรากฏต่อมาแพ้ยา มาโวยวาย แอ๊บแบ๊วว่าไม่ได้บอกให้เอาตัวนี้ จากคุณ : หมอก้อนหิน เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 54 22:55:07

ความคิดเห็นที่ 10 แต่ถ้าหมอไม่รักษา ตามที่คนไข้หรือญาติต้องการ  ก็มีสิทธิ์ถูกฟ้องร้องได้เสมอ ไปเอามาจากไหน หือ ฟ้องมาศาลก็ยกฟ้อง ข้อโต้แย้งของหมอในกรณีนี้ง่ายจะตาย ไอ้ที่จะโดนก็คือวินิจฉัยผิด  ลืมโน่นนั่นนี่ไว้ในท้องเขา หรือฉีดยาให้เขา โดยไม่ถามก่อนหรือวินิจฉัยก่อนว่าแพ้หรือเปล่า หรือแย่กว่านั้น คือ อดนอนมาเลยรักษาส่งเดชไปงั้น แถมอารมณ์เสียใส่คนไข้อีกตะหาก อันสุดท้ายนี่ อย่าอ้างว่าไม่มีนะครับ เจอมากะตัว  เล่นเอาต้องเปลี่ยนไปคลีนิคเอกชนโดยด่วน ถึงได้รอดมาได้ แต่หมอคนนั้น ก็ไม่รอดไปง่ายๆ นะครับ ไม่ขอบอกแล้วกัน ว่าโดนอะไรเข้าไป วันๆ รักษาแต่คนไข้ประเภทหาเช้ากินค่ำ ไม่มีปากไม่มีเสียง ระวังนะครับ เจอแต่งตัวมอมแมมแต่เป็นของจริงเข้าไป แล้วจะต้องมาขอขมากันให้วุ่นวายเปล่าๆ จากคุณ : ลูกหมีเขี้ยวยาวเขาโง้ง เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 16:50:08

ความคิดเห็นที่ 11 ถึงความเห็น 10 ไม่อยากบอก ว่าคนนิสัยแบบพวกเอ็งอะ โดนอะไรไปบ้างเหมือนกัน เห็นปากดีมาหลายกระทู้แล้ว แถมโดนไปก็มีแต่คนสมน้ำหน้า อยากรู้ว่าโดนอะไรก็ไปอ่านหนังสือพิมพ์ซักสามปีที่แล้วดู จากคุณ : เบื่อพวกโง่ เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 13:23:35 A:58.8.42.108 X: TicketID:306064

ความคิดเห็นที่ 12 ^ ^ ^ กล้าๆ หน่อยครับ จะใจตุ๊ดหลบหลังบัตรผ่านไปทำไม หือ ไม่มีเหตุผลจะโต้แย้งได้ ก็ออกนิสัยอันธพาลมาเลยเชียว สมเพชว่ะ จากคุณ : ลูกหมีเขี้ยวยาวเขาโง้ง เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 16:24:27

ความคิดเห็นที่ 13 หมอ คิดว่า  ถ้า คุณลูกหมีเขี้ยวยาวเขาโง้ง ไม่สบาย  แนะนำว่าไปโรงพยาบาลเอกชนนะแหละค่ะ ดีกว่าเพราะจะได้ สบายใจทั้งคนไข้ และคุณหมอ คิดง่ายๆว่า หมอที่ รพ.พยาบาลรัฐ ก็รอดจากที่จะโดนร้องเรียน แล้ว คุณ ลูกหมีเขี้ยวยาวเขาโง้ง ก็รอดจาก หมอที่อารมณเสียใส่ เพราะว่าทำงานหนักมาทั้งวัน หมอว่า win win นะค่ะ ไม่มีมาม่าใดๆเน้อ ^_^ จากคุณ : maytharat16 เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 20:54:26

ความคิดเห็นที่ 14 ที่ผม ใช่บัตรผ่านก็เพราะว่าปกติ ไม่มี user อยู่ในนี้ ไม่ได้เล่นมานานมากๆแล้วด้วย แต่อ่านความเห็นคุณแล้วมันทุเรศลูกกะตา สังเวชวะ คนอะไรเถียงแมร็งได้ทุกเรื่อง คนเขารุมด่ากันทั้งกระทู้แบบกระทู้นี้ http://www.pantip.com/cafe/lumpini/topic/L10901253/L10901253.html ก็ยังไม่เลิกโง่ มั่นใจว่ากูเจ๊ง กูมี user นะเว้ย ไม่ตุ๊ด ไม่เกรียน พอเถียงไม่ได้ทำมาเป็นขู่ "รู้ไหมหมอคนนั้นโดนยังไง" ก็อยากจะบอกไปว่า คุณจะร้องเรียนไปหานายก ผมก็ไม่เคยเห็นหมอคนไหนเขาสนใจเลย ผมเจอแต่เขาให้เบอร์โทรศัพท์หน่วยงานที่จะไปร้องเรียน บางคนบอกทางไปอีกต่างหาก สุดท้ายผมก็ไม่เคยเห็นหมอจะเป็นอะไรไปเลยซักคน เห็นก็มีแต่คนไข้แบบคุณนี่แหละ ที่เจอฟ้องกลับที 209 ล้านคดีอะไรไม่รู้ดังๆ ยังไม่รู้โงหัวขึ้นรึยัง หรือไปขายบ้าน ขายรถ ขายวัว ขายควายเอาเงินมาใช้เขาอยู่ "ไม่ขอบอกแล้วกัน ว่าโดนอะไรเข้าไป" ตัวเองพูดได้ แต่พอคนอื่นเขาพูดหาว่าอันธพาล คนอะไรวะ :-)ดีวะ "ไม่มีเหตุผลจะโต้แย้งได้ ก็ออกนิสัยอันธพาลมาเลยเชียว สมเพชว่ะ " เออ จริงๆด้วย จากคุณ : ยังไม่เลิกโง่ เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 22:34:16 A:115.87.238.236 X: TicketID:306064

ความคิดเห็นที่ 15 http://www.pantip.com/cafe/social/topic/U10921279/U10921279.html ไปอ่านที่อันธพาลเขาเขียนกันซะ จะได้หายโง่ จากคุณ : หวังว่าคงจะหาย... เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 22:51:57 A:115.87.238.236 X: TicketID:306064

ความคิดเห็นที่ 16 คห. ๗ ... ต่อให้ รักษา ตามใจคนไข้ (ญาติ) .. แต่ถ้าเกิดปัญหาขึ้นก็โดนฟ้องได้อยู่ดี .. เคยมีำคำพิพากษาออกมาทำนองว่า " คนไข้(ญาติ) ไม่ได้มีความรุ้ แต่แพทย์มีความรู้ ฯลฯ จะมาอ้างว่าทำตามความต้องการของคนไข้(ญาติ) แล้วไม่ต้องรับผิด  .. ไม่ได้ " สรุป ก็คือ ถ้าเกิดปัญหาขึ้น คุณหมอ ก็ต้องรับผิดชอบ อยู่ดี .. ขอยกความเห็นจาก กระทู้โน้น มาด้วย .. คิดว่าเราจะได้เห็นหมอฟ้องกลับบ้างมั้ย?(พลีชีพรึเปล่าหว่า) http://www.pantip.com/cafe/lumpini/topic/L10901253/L10901253.html#49 ในอนาคตอันไกล้ ก็คงได้เห็นครับ .. ถึงแม้ว่าจะไม่มีใครอยากให้เป็นแบบนั้น แต่ มันก็คงเลี่ยงยาก ..   สิทธิฟ้องร้องทางกฏหมาย เป็น สิทธิพื้นฐานของบุคคล  (ไม่เกี่ยวกับ ฐานะ อาชีพ หรือ สถานะ)  ... คนไข้ ฟ้องหมอ .. ไม่ได้อยู่ในสถานะ "คนไข้" กับ " หมอ" อีกแล้วนะครับ เปลี่ยนสถานะเป็น " โจทย์ (ผู้เสียหาย) " กับ " จำเลย (ผู้ทำให้เกิดความเสียหาย)" .. ต้องแยกกันให้ออกว่า ขณะนั้น กำลังอยู่ในสถานะอะไร ... ในเมื่อ เป็น "บุคคล" เท่าเทียมกัน .. ก็ไม่แปลกอะไร ที่วันหนึ่ง  ที่โจทย์ จะกลายเป็น จำเลย และ จำเลย กลายเป็นโจทย์ ... ตอนนี้ ทุกคน ก็ต้องพยายามเรียนรู้ และ ปรับตัวให้อยู่รอด .. โดยเฉพาะ คุณหมอ .. ต้องเรียนรู้เรื่องกฏหมายเพิ่มเติมไว้บ้าง เผื่อจำเป็นต้องใช้ ... แถม .. แนะนำหนังสือ ... " กฏหมาย กับ การประกอบวิชาชีพเวชกรรม " ... ถ้ายังทำงานเป็น "หมอ "... ต้องอ่าน http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=cmu2807&date=09-03-2010&group=15&gblog=21 "มุมมองต่อหมอของคนไทยสมัยนี้เปลี่ยนไปแล้วล่ะมั้ง" ... โดย ปวัน ประสิทธิ์วุฒิ http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=cmu2807&date=19-06-2011&group=15&gblog=40 ทำไม ผมถึงลาออกจากราชการ .... เรื่องเก่าเขียนไว้ตั้งแต่ปี 2551 เอามาเล่าสู่กันฟัง http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=cmu2807&date=28-01-2011&group=15&gblog=37 เวลาเปลี่ยน คนไข้ (ญาติ) เปลี่ยน แต่ หมอ (บางคน) ไม่ยอมเปลี่ยน ... http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=cmu2807&date=19-06-2011&group=15&gblog=39 จากคุณ : หมอหมู เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 23:15:40

ความคิดเห็นที่ 17 อ่ะ แปะให้อ่านกันบ้างครับ บางความเห็นเป็นหมอมาให้ความเห็นเอง อ่านแล้วก็ชื่นใจ ว่ายังมีหมอที่มีจรรยาบรรณเหลืออยู่ http://topicstock.pantip.com/family/topicstock/2011/03/N10395711/N10395711.html จากคุณ : ลูกหมีเขี้ยวยาวเขาโง้ง เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 10:36:46

ความคิดเห็นที่ 18 http://www.pantip.com/cafe/social/topic/U10921279/U10921279.html ไปอ่านที่อันธพาลเขาเขียนกันซะ จะได้หายโง่       เดี๋ยวหลายท่านในนั้นเขาก็ฟ้องหมิ่นเอาหรอก ไอ้น้องเอ้ย ไปว่าเขาเป็นอันธพาลได้ไง  พี่ยังไม่โพสเลยสักความเห็นในกระทู้นั้นน่ะ     หายใจลึกๆๆ ค่อยๆ อ่าน ค่อยๆ พิมพ์ เครียดมากระวังนกเขาไม่ขันนะ จากคุณ : ลูกหมีเขี้ยวยาวเขาโง้ง เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 10:40:11

ความคิดเห็นที่ 19 ถึงความเห็น 18 อ้าว ก็เขาไม่เห็นด้วยกับท่านไม่ใช่เหรอครับ เพราะว่าเขาบอกว่าแพทย์ฟ้องกลับได้ อย่างงี้เขาไม่เห็นด้วยกับท่าน ก็ไม่ถือว่าเป็น "อันธพาล" เหรอครับ ถ้าเขาจะฟ้องหมิ่นประมาท ก็คงต้องมาฟ้องท่านไม่ใช่มาฟ้องผม เพราะคำว่าอันธพาลท่านเป็นคนแรกที่นำมาใช้ เรียกคนที่มีความเห็นไม่ต้องกับท่าน ดังนั้นใน topic นั้นคนที่ไม่เห็นด้วยกับท่านก็เป็น "อันธพาล" อันนี้ผมก็เข้าใจถูกแล้วนิครับ เพราะเห็นว่าผมไม่เห็นด้วยกับท่านที่ว่า "อันสุดท้ายนี่ อย่าอ้างว่าไม่มีนะครับ เจอมากะตัว เล่นเอาต้องเปลี่ยนไปคลีนิคเอกชนโดยด่วน ถึงได้รอดมาได้ แต่หมอคนนั้น ก็ไม่รอดไปง่ายๆ นะครับ ไม่ขอบอกแล้วกัน ว่าโดนอะไรเข้าไป" ผมก็บอกว่า คนปากดี นิสัยเที่ยวไปขู่คนอื่นแบบท่าน นี่โดนอะไรเข้าไปบ้างเหมือนกัน ทำไมท่านถึงดูเดือดร้อนมากละครับ หรือว่าประโยคที่ว่า โดนอะไรเข้าไป นี่ท่านพูดกับคนอื่นได้ แต่คนอื่นห้ามพูดกับท่านหรือครับ อืม ท่าทางท่านจะยิ่งใหญ่จริงๆ สมกับที่คุณ mk096 กล่าวไว้จริงๆ ยังไงผมก็รู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้สนทนากับท่าน เพราะท่านได้อุตส่าห์ "ลดตัว" มาสนทนากับคนต่ำๆ อย่างผมกับคุณ mk096 นะครับ จากคุณ : ยังไม่เลิก... เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 11:53:45 A:115.87.208.167 X: TicketID:306064

ความคิดเห็นที่ 20 ป.ล. แล้วเรื่องเครียดแล้วนกเขา ไม่ขัน นี่ท่านเป็นบ่อยเหรอครับ ดูท่าทางท่านจะมีความรู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี นี่ผมไม่รู้เลยนะ ว่ามันขันไม่ขัน มันเกี่ยวกับเครียดด้วย จากคุณ : พร้อมจะดราม่าเสมอ เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 12:52:57 A:115.87.208.167 X: TicketID:306064

ความคิดเห็นที่ 21 คุณลูกหมีสู้ๆ ลูกหมีสู้ตายยยยยยย... เงียบไปเลย...สงสัยจะหลบเลียแผลใจ หรือนอนหยอดน้ำข้าวต้มอยู่ก็ไม่รู้ อยากเห็นจริงๆ ฝ่ายผู้ป่วยที่มีข้อโต้แย้งที่ดูดีมีเหตุผล พยาย๊าม พยายามเชียร์อยู่นะ แต่ทำไมสุดท้ายเสียท่าหมอทุ๊กที T__T หมอปากจัดจริง - -" .... งับลูกหมีซะจมเขี้ยวเลย ปล.นับว่าเป็นเรื่องดีที่มีบอร์ดให้ได้ถกกันนะคะ ถือเป็นการแลกเปลี่ยนมุมมองและได้รู้ถึงปัญหาของแต่ละฝ่าย เป็นอีกทางที่ช่วยให้ทั้งหมอและผู้ป่วยมีความเข้าใจกันมากยิ่งขึ้น แต่อย่าเครียดกันมากนะคะ เคยได้ยินมาว่า "เครียดลงไข่"...อันนี้มีจริงมั๊ยคะคุณหมอ? - -. จากคุณ : เขิน เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 54 18:46:19

ความคิดเห็นที่ 22 ^ ^ ไปทำหน้าที่ที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้น่ะครับ พอดีวันที่ 11-12 ข้าราชการในส่วนกลางจะไม่ว่างกันหรอกครับ เพราะต้องไปทำงาน ทำภารกิจสำคัญอย่างหนึ่ง เลยหายหน้าหายตาไป ว่าแต่ อ่านความเห็น 18-19 แล้วเพลียใจ จบอะไรมาเนี่ย ทำไม logic แกถึงได้เข้าป่าได้ขนาดนี้ ดีนะนักกฎหมายในกระทู้นั้น ส่วนใหญ่เขาเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว ไม่งั้นล่ะก็ หึ หึ อันที่จริง น่าจะรอให้ผมไปโพสก่อน   แล้วค่อยระบุไปเลยว่า ความเห็นผมเป็นอันธพาล ผมจะได้ให้มีโอกาสเรียนรู้กฎหมายจากประสบการณ์จริงกันเลย ลองโดนฟ้อง ลองโดนสอบสวน ลองไปขึ้นศาลดูบ้าง จะได้มีข้อมูลมาฟาดงวงฟาดงาได้มีสาระขึ้น เหอะๆ แต่ตอนนี้ขอหัวเราะเป็นภาษาชาวนาบูก่อน ทำไมมันมั่วได้ขนาดนี้ หวังว่าคงไม่ได้เป็นหมอหรอกนะครับ เพราะผมยังคาดหวังไว้ว่า ถ้าเป็นหมอ ถึงจะดีจะชั่วอย่างไร อย่างน้อยก็ฉลาดในการถ่ายทอดความคิดออกมาเป็นถ้อยคำ หรือโต้แย้งด้วยเหตุด้วยผมในระดับหนึ่งอ่ะครับ ไม่ใช่จับแพะมาชนแกะให้วุ่นวายขนาดนี้ จากคุณ : ลูกหมีเขี้ยวยาวเขาโง้ง เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 20:24:25

ความคิดเห็นที่ 23 อ่ะ อันนี้จากคุณหมอท่านหนึ่ง ที่เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ในวงการ ที่หน่วยงานราชการต่างๆ ขอให้เป็นวิทยากรให้บ่อยๆ ผมเห็นว่ามีประโยชน์กะกรณีที่วิวาทะกันอยู่นี่ เลยฝากให้อ่านกันนะคับ สำหรับคนที่อคติยังไม่บดบังตาจนหาประเด็นไม่เจอ โดยส่วนตัว ผมชอบที่่ท่านไม่คิดว่าหมอทำอะไรก็ไม่ผิด หรือหมอไม่เคยพลาด แต่ตรงข้าม ท่านมองอย่างเข้าใจว่าเหตุเช่นนั้นมันเกิดขึ้นได้ ไม่ใช่ต้องถูกตลอดเวลา และการแก้ไขให้เรื่องมันไม่บานปลายสิ ควรทำอย่างไร อันนี้ น่าสนใจครับ ลองอ่านดูเองล่ะกัน http://www.peaceinhealth.com/index.php/2010-10-18-07-21-20.html จากคุณ : ลูกหมีเขี้ยวยาวเขาโง้ง เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 20:49:45

ความคิดเห็นที่ 24 ถึงความเห็น 22 สมัยก่อนผมก็ไม่ว่างหรอกครับ ทำงานทุกวัน ไม่เว้นแม้แต่วันหยุดราชการ หรือ วันหยุดราชการยามวิกาล มาอ่านความเห็น 22-23 แล้วรู้สึกสมเพช หวังว่าคงไม่ได้เป็นนักกฏหมายนะครับ นี่ถ้าเป็นนักกฏหมาย ก็ขอแสดงความไว้อาลัยให้กับประเทศไทยด้วย ที่มีนักกฏหมายแบบนี้ ไม่รู้ทำไมถึงได้มีสิ่งที่เขาเรียกว่า "Fixed false believe" ขนาดนี้ ว่างๆลองหายามากินดูจะดีขึ้นครับ แล้วก็ดีนะที่หมอส่วนใหญ่ที่เขามาเกี่ยวข้องกับคุณเขาเป็นผู้ใหญ่พอ "ไม่งั้นนะ หึ หึ" ไม่สงสัยเลยว่าประเทศไทยเป็นประเทศกำลังพัฒนาตั้งแต่ผมเรียนอนุบาล จนบัดนี้มันก็ยังเป็นประเทศกำลังพัฒนาอยู่(หรือบางที่ได้จัดให้เป็นประเทศด้อยพัฒนาไปแล้ว) เพราะมีคนที่ใช้กฏหมายแบบนี้อยู่นี่เอง มีคนนึงสังคมก็ได้วุ่นวายขนาดนี้ มีซักครึ่งประเทศ ประเทศไทยคงกลายเป็น sierra leone ส่วนเรื่องขึ้นศาลนี่ก็ไปบ่อยแล้วครับ ส่วนใหญ่เขาก็รีบๆถามผมแล้วก็เชิญผมออกจากห้องพิจารณาคดี ก็สนุกดี งานไม่ได้ทำ รับ 200 บาท(หรือมากกว่านั้น) บางครั้งไป แล้วจำเลยยอมรับผิดซะงั้น ไม่ต้องทำอะไร สบายใจได้หยุดงานฟรีๆ 1 วัน ว่างๆก็มาคุยกันใหม่นะครับ สนุกดี จากคุณ : ไม่เลิกก็ไม่เลิก เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 54 08:26:34 A:61.90.41.127 X: TicketID:306064

ความคิดเห็นที่ 25 เอาเป็นว่าคุณลูกหมี ถ้าคุณจบตรงนี้ ผมก็จบ ถ้ามาไถต่อ ผมก็ต่อให้ได้เรื่อยๆ พอดีช่วงนี้ไม่เหมือนก่อน ผมค่อนข้างมีเวลาทั้งวัน จากคุณ : เราหยุดแล้ว เหตุใดท่านไม่หยุด เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 54 08:59:40 A:61.90.41.127 X: TicketID:306064

ความคิดเห็นที่ 26 ^ ^ ^ ไถนาต่อไปเถอะครับ เพราะผมคงไม่เสียเวลาด้วย ถ้าโต้แย้งด้วยเหตุผลไม่ได้ ผมก็อ่านผ่านๆ ล่ะครับ จะเสียเวลาโต้แย้งด้วย ก็เฉพาะคนที่เขามีวุฒิภาวะ มีเหตุมีผลในระดับเดียวกัน ที่โพสในความเห็น 22 ไปอย่างนั้น เพราะแปลกใจจริงๆ แปลกใจเกินกว่าจะเก็บไว้ได้ ในชีวิตจริง มั่วอย่างนี้สม่ำเสมอไหมเนี่ย จากคุณ : ลูกหมีเขี้ยวยาวเขาโง้ง เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 54 14:58:17

ความคิดเห็นที่ 27 ^ ^ ^ นั่นนะดิ จากคุณ : ตลกดี มนุษย์ เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 54 16:11:38 A:61.90.41.127 X: TicketID:306064