ความคิดเห็นที่ 1 หมอจึงเป็นคนที่ต้องบริหารความเสี่ยงงัย เพราะ ซวยได้ทั้งขึ้นทั้งล่อง จากคุณ : เอื้องฟ้าเวียงดอย เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 06:12:53 A:124.121.164.172 X: TicketID:295471

ความคิดเห็นที่ 2 เห็นใจครับ หมอที่ดีก็เจอมาเยอะ หมอที่แย่ก็พบเห็น ผมไม่แน่ใจว่าที่แย่เป็นเพราะความรู้สึกผมฝ่ายเดียวหรือเปล่า แต่ที่คุณพ่อไปหาหมอ แจ้งว่ายาที่ให้มา ทำให้ขาบวมตึง หมอดันบอกกลับมาว่า ถ้าไม่กินก็ตายไปแล้ว อ้าวววว น่าจะให้ข้อมูลหน่อยว่ามันเป็นผลข้างเคียง แก้ไขอย่างไร หรือว่าจะเปลี่ยนยาไหม อะไรก็ได้มากกว่านะครับ บ่นนิดหนอ่ยนะครับ แต่หมอที่ดีผมก็เจอมาเยอะนะครับ เยอะกว่าที่เจอไม่ดีซะอีก ยังไงผมก็ชื่นชมอาชีพนี้ครับ เป็นอาชีพที่เสียสละจริงๆ จากคุณ : TaTuMm เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 08:17:38

ความคิดเห็นที่ 3 น่าเห็นใจคุณหมอจริง ๆ งานด้านสาธารณสุข ผมว่าต้องทำบุคลิกให้เหมือนนักสังคมสงเคราะห์นะครับผมว่า  แต่ค่าตอบแทนสูงกว่าเป็นอาชีพที่มีเกียรติในสัังคม (จากสายตาคนภายนอกที่มองนะครับ )  ผมอยากแนะนำให้คุณหมอพยายามฝึกสมาธิครับ หาหนังสือธรรมะอ่านครับ ผมทราบดี บางครั้งเจอทั้งญาติคนไข้(เดี๋ยวนี้สังคมออนไลน์ถึงกันหมดบางคนชอบทำตัวฉลาดกว่าหมอเก่ง รู้ดี)    ทั้งคนไข้เรื่องมากสารพัด แต่ทั้งหมดทั้งมวลมันเป็น BASIC Need ของมนุษย์ครับ  มนุษย์เรามีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะีมีชีวิตอยู่  ลองศึกษาด้านจิตวิทยาควบคู่ไปด้วยก็ได้ครับ ผมชอบอ่านทฤษฎีของ มาสโลว์  และฟรอยด์ อ่ะครับ มันเรียนรู้พฤติกรรมมนุษย์ครับ  ลองดูนะครับเผื่อช่วยได้ เป็นกำลังใจให้ครับ สู้ ๆ  ท่าทางน่าจะเป็นคุณหมอจบใหม่นะครับ ชั่วโมงบินยังไม่สูง ประสบการณ์จะสอนเราไปเรื่อย ๆ ครับ เดี๋ยวก็เก่งครับ จากคุณ : Kim Sang Woo (kanfire) เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 08:30:07

ความคิดเห็นที่ 4 คนไข้ก็มีหลายประเภท หลายระดับความรู้ค่ะ เพราะฉะนั้นหมอบางคนจึงเลีี่ยงที่จะไม่อธิบายเพราะยิ่งอธิบายไป ยิ่งยาวไปใหญ่ บางคนไม่ยอมเข้าใจอะไรเลย แต่หมอบางคนก็นะ ไม่อยากพูด ยิ่งพวกหมอใหญ่ๆแล้ว โห...ด่าคนไข้กระเจิง ดีไม่ดีด่าพวกหมอเด็กๆอีกนะ ประมาณว่าเค้าก็เดินไปถามอาจารย์หมอแหละค่ะ คราวนี้โดนอาจารย์ด่ากลับมา หมอทำไรไม่ถูก สุดท้ายคนไข้ไม่ได้อะไรไปเลย แม้แต่ยาสักเม็ด ทั้งที่เสียเวลามารอเป็นวัน แย่ไหมละ ดิฉันว่านะ ตรงนี้ ควรจะไปสอนพวกหมอใหญ่ๆด้วยอ่ะคะ จะมาเริ่มที่หมอเด็กๆอย่างเราเป็นไปไม่ได้ จิตสำนึกต่อหน้าที่ มีกันบ้างไหม จากคุณ : วรินทร์ธารา เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 08:53:47

ความคิดเห็นที่ 5 เห็นมีรายการทุกข์ของชาวบ้าน ตอนนี้มาเจอทุกข์ของหมอมั่งละ จากคุณ : Kim Sang Woo (kanfire) เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 09:28:59

ความคิดเห็นที่ 6 ผมอยากให้คนไข้มองหมอว่าเป็นญาติของท่านบ้างอ่ะครับ จะได้เกรงใจและให้เกียรติหมอบ้าง จากคุณ : GamaBunta เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 09:36:19

ความคิดเห็นที่ 7 เข้าใจค่ะ งานบริการบางทีผู้รับบริการก็ไม่เข้าใจ อย่างเราเคยไปหาหมอ เห็นคุณหมอบางคนละเอียดละเอียด ค่อย ๆ ตรวจค่อย ๆ คุย ช้ามาก จนเราที่รอเนี่ยหงุดหงิดไม่น้อย แต่พออายุมากขึ้น มีโอกาสเป็นผู้ให้บริการบ้าง ก็เลยเข้าใจในมุมของผู้ให้บริการ เค้าไม่ได้อู้ ไม่ได้อยากให้ช้า แต่อยากให้งานนั้นปราณีต และไม่มีการผิดพลาด ยังไงก็เอาใจช่วย เวลา ประสบการณ์ วัยวุฒิ คงช่วยให้ดีขึ้นได้ จากคุณ : มนอุ๊งอิ๊ง เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 09:42:41

ความคิดเห็นที่ 8 ไม่เคยหวังครับว่าหมอจะคิดว่าคนไข้เป็นญาติ อย่าไปคิดไกลใหญ่โตดูสูงส่งขนาดนั้นครับ แค่ขอให้ปฎิบัติเช่นเพื่อนมนุษย์ปฎิบัติต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกันก็พอ อย่าคิดไกลสงสัย จขกท เป็นหมอจบใหม่ กลับเข้าสู่โลกความจริงได้แล้วครับ เดียงสามากไปไม่ดีนะ จากคุณ : ลึกลับซับ_tui เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 09:46:38

ความคิดเห็นที่ 9 ในฐานะญาติคนไข้ (ความเห็นเราคนเดียว) เราก็ไม่ได้อยากให้หมอคิดว่าคนไข้เป็นญาติ แค่หมอทำตามหน้าที่เต็มความสามารถ เอื้ออารีตามสมควรก็เพียงพอแล้วค่ะ จากคุณ : นิจจังสังขารนั้นไม่เที่ยง เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 09:57:46

ความคิดเห็นที่ 10 ผมว่า "การเอาใจเขามาใส่ใจเรา" น่าจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุดนะ ต่างคนก็ต่างจุดประสงค์ เราเข้าใจความจำเป็นฝ่ายตรงข้าม ฝ่ายตรงข้ามเข้าใจหน้าที่เรา แค่นี้ก็น่าจะจบครับ ที่ทำงานของผม ก็มีคำขวัญให้ปฏิบัติอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันเหมือนกันว่า.. "จงปฎิบัติต่อผู้อื่น เหมือนปฏิบัติต่อตนเอง" จากคุณ : เป็ดเสรี เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 11:03:18

ความคิดเห็นที่ 11 สู้ๆนะคะ ยังมีอีกเยอะท่ีเข้าใจเรา เป็นกำลังใจให้ค่ะ :) จากคุณ : หมูอ้วนขี้อ้อน เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 11:07:02

ความคิดเห็นที่ 12 แค่นึก  ก็ดีใจแล้วครับ . จากคุณ : samr เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 12:48:17

ความคิดเห็นที่ 13 แล้วแต่คนไข้ประเภทไหนด้วยค่ะ สดๆร้อนๆเลยเจอมากับตัวเมื่อเช้านี้ ตรวจคนไข้พบมีความดันสูง มีประวัติกินยาไม่สม่ำเสมอ คุมความดันไม่ดีเพราะคนไข้หยุดยาเอง คนไข้ถามผมจำเป็นต้องกินยามั้ย บอกคนไข้ว่าถ้าคุณเป็นญาติหมอ หมอแนะนำให้กิน คนไข้สวนกลับมาเลยว่าผมไม่ใช่ญาติหมอ หมอไม่ต้องรักษาผมแบบญาติ อึ้งกิมกี่เลย  จากคุณ : น้ำตาลกะข้าวตัง เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 13:01:38

ความคิดเห็นที่ 14 โดยส่วนตัว...ถือคติที่ว่าถือผลประโยชน์ของคนไข้สูงสุดค่ะ จากคุณ : SCFM เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 13:10:12

ความคิดเห็นที่ 15 ผมว่าทำตามหน้าที่ให้ครบก็พอครับ อย่างสมัยก่อนตอนอยู่ชุมชน ผมตรวจผู้ป่วย OPD วันนึงเกือบร้อย แต่ถ้าซักรายไหนได้ว่าสูบบุหรี่ ผมก็จะยอมเสียเวลาซักห้านาที คุยกับเค้า (เทศก์) ชี้ให้เห็นโทษ และวิธีการเลิก แต่ผมจะทำสัญลักษณ์ไว้ใน OPD card ให้รู้เองว่าได้พูดแล้ว ทำตาม "หน้าที่" แล้ว วันหลังเจออีก จะได้ไม่ต้องพูดซ้ำให้เสียเวลา อย่างมากก็ถามซ้ำว่าเลิกหรือยัง คนเราโตๆกันแล้ว คุยครั้งเดียวน่าจะรู้เรื่อง สุขภาพใครก็ต้องดูแลเอง ผมคิดของผมแบบนี้นะ อ้อ แต่เจอรายนึง ถามซ้ำเค้าบอกว่าเค้าเลิกได้แล้ว เพราะเจอหมอไง เล่นเอาภูมิใจเหมือนกัน ^^ จากคุณ : mk096 เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 15:47:07

ความคิดเห็นที่ 16 พุทธภาษิตว่า ความใกล้ชิดเป็นญาติอย่างยิ่ง ลองสนใจชีวิตของคนไข้ดูสิครับ เช่น อาชีพอะไร มีลูกกี่คน เรียนอะไรบ้าง พอรู้จักกันแล้วก็จะเหมือนญาติไปเองทั้งสองฝ่าย แต่ว่าถ้าคนไข้เยอะเกินหมอก็ไม่มีเวลาทำ TT จากคุณ : meezaa เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 18:40:58

ความคิดเห็นที่ 17 เราเองก็ปฏิบัติต่อญาติเราแต่ละคนไม่เหมือนกัน เพราะความรู้ นิสัยแต่ละัคนต่างกัน แต่สิ่งหนึ่งที่ให้เหมือนกัน คือความเป็นมิตร จากคุณ : Anonym เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 19:26:08

ความคิดเห็นที่ 18 To cure sometimes, to relieve often, to comfort always... แก้ไขเมื่อ 09 ส.ค. 54 20:17:02 แก้ไขเมื่อ 09 ส.ค. 54 20:15:58 จากคุณ : Punky เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 20:15:32

ความคิดเห็นที่ 19 คคห.10 คุณเป็ดเสรี ครับ ถ้าให้คนไข้ปฏิบัติเหมือนหมอปฏิบัติตัว สงสัยคนไข้จะแย่กว่าเดิม มั้งครับ ผมเคยได้ยินหมอแนะนำให้คนไข้ออกกำลังกาย แต่ลองถามหมอสิครับว่า ปกติออกกำลังกายหรือเปล่า หมอบอกให้คนไข้พักผ่อนมากๆ  ลองถามหมอ(ต้องไม่ใช่หมอผู้ใหญ่นะ)สิครับ ว่าหมอนอนวันละกี่ชั่วโมง หมอบอกให้คนไข้กินอาหารให้เป็นเวลา  ดูหมอสิครับว่า มีกี่คนที่กินอาหาร เป็นเวลาและครบสามมื้อ จากคุณ : กินลม ชมทะเล เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 22:07:04

ความคิดเห็นที่ 20 ผมบริการเหมือนญาติมิตร เมาแล้วขับ เจออุบัติเหตุมา ผมก็ด่า ...  เป็นเพื่อน ผมก็ด่า เป็นญาติผม ผมก็ยิ่งด่า กินเหล้าแล้วปวดท้องมา ผมก็ด่้า... เป็นเพื่อน ผมก็ด่า เป็นญาติผม ผมก็ยิ่งด่า ฯลฯ ทำตามนโยบายกระทรวงแล้วครับ จากคุณ : หมอก้อนหิน เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 22:30:04

ความคิดเห็นที่ 21 เคยมีน้องหมอแอบนินทาเจ้าหน้าที่ให้เราฟังด้วย น้องเค้าคิดว่าเราเป็นญาติเค้าแน่ๆ ( แต่ไม่ร้ายแรงนะ แบบว่าหมอความเห็นไม่ตรงกันเจ้าหน้าที่ ) แก้ไขเมื่อ 10 ส.ค. 54 11:53:15 จากคุณ : - (สมหนิง) เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 11:04:16

ความคิดเห็นที่ 22 ไม่เคยอยากเป็นญาติกะหมอเลยค่ะ แค่คิดว่าต่างคนต่างทำหน้าที่ ณ ตรงนั้นของตัวเองให้ครบถ้วน ก็พอแล้ว หมอแค่ทำตามหน้าที่ ทำตามจรรยาบรรณก็พอ ส่วนเราก็จะพยายามทำตามหน้าที่คนไข้ ตามที่หมอสั่ง ก็แค่นั้น จากคุณ : สาวแว่นเลี้ยวซ้าย เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 17:55:41

ความคิดเห็นที่ 23 ญาติบางคน   ก็ไม่อยากจะนับญาติ -_-" แต่ยังไงก็ดีกว่ามองคนไข้เป็น "ลูกค้า" แหละน่า จากคุณ : ole (trufa) เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 22:01:16

ความคิดเห็นที่ 24 คงประมาณว่า    ดูแลเอาใจใส่    ให้เวลา    น่าเชื่อถือ    รับฟัง    ไม่คิดตังค์แพง แค่นี้ก็พอแล้ว จากคุณ : Dr.do.little (drbjps) เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 22:03:37

ความคิดเห็นที่ 25 คุณกำลังจะเป็นหมอที่ดีครับ เรื่องแบบนี้คุณยังใส่ใจที่จะพยายามเลยครับ ขอให้ทำใจได้เร็วๆ นะครับ คนไข้ยังต้องพึ่งพาหมอดีๆ อย่างคุณอีกเยอะ จากคุณ : ReHeat เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 54 20:20:27

ความคิดเห็นที่ 26 ตอนเราฝึกงานก็คิดว่าทำยังไงให้เค้าหาย ส่วนใหญ่ผลลัพธ์ก็ออกมาดีค่ะ จากคุณ : lincyberg เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 54 21:35:34