น้ำมันปลามีรายงานว่าสามารถทำให้ระดับของยาป้องกันเลือดแข็งตัวผิดปกติได้ครับ
อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะยาใดหรือแม้แต่อาหารโดยเฉพาะผักนั้นมีโอกาสทำให้ระดับยาเปลี่ยนแปลงได้ทั้งสิ้น ดังนั้นจึงไม่ควรมีการเพิ่มหรือลดยาบ่อย หรือเปลี่ยนแปลงอาหารที่กินมากๆครับเพราะจะทำให้ระดับยาเปลี่ยนแปลงมาก
สำหรับผมถ้าคนไข้กินยา warfarin อยู่แล้วต้องการกินน้ำมันปลาจะให้กินได้แต่ต้องมาตรวจระดับยา(การแข็งตัวของเลือด) เร็วกว่าปกติครับ
แต่ถ้าเป็นยาในกลุ่มเกร็ดเลือดเช่น aspirin plavix ไม่ห้ามครับ
ปล. ยาละลายลิ่มเลือดเป็นคำมักง่ายกว้างๆครับในทางการแพทย์จริงๆมีสามอย่างครับ 1 ยาละลายลิ่มเลือดหรือสลายลิ่มเลือด Thrombolytic agent เป็นยาที่ทำหน้าที่ย่อยสลายลิ่มเลือดจริงๆ เอาไว้ใช้เฉพาะกรณีเส้นเลือดหัวใจหรือเส้นเลือดสมองตีบตันเฉียบพลันเท่านั้น อันตรายมากแพทย์ผู้ใช้ต้องมีความคุ้นเคย มีแต่รูปแบบฉีดครับ
2 ยาป้องกันเลือดแข็งตัวแต่นิยมเลือดว่ายาละลายลิ่มเลือด Coumadin ตัวยาที่ใช้บ่อยคือ Orfarin หรือ Warfarin เป็นยากิน เป็นยาที่ไปหยุดการสร้างสารที่ทำให้เลือดแข็งตัว ใช้ในการป้องกันการเกิดลิ่มเลือดแต่มีข้อเสียหรือมีโอกาสเลือดออกได้ง่ายถ้าระดับยาเกิน ใช้ในโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ คนไข้หลังผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจ ลิ้นหัวใจรั่วบางชนิด และคนไข้เส้นเลือดหัวใจหรือสมองตีบตันบางราย ใช้เป็นยาเบื่อหนู
ยาอีกกลุ่มที่คล้ายกันคือ Heparin แต่ส่วนใหญ่อยู่ในรูปแบบฉีด
3 ยาป้องกันเกร็ดเลือดแข็งตัวหรือยาต้านเกร็ดเลือดตัวที่คุ้นกันดีคือ aspirin อื่นๆเช่น Plavix(Clipipdrogel) ทำหน้าที่ต้านการทำงานของเกร็ดเลือดไม่ให้เกร็ดเลือดจับตัวจึงมีประโยชน์ในการป้องกันไม่ให้เกิดเกณ้ดเลือดใหม่
จากคุณ |
:
oncodog
|
เขียนเมื่อ |
:
13 ส.ค. 54 17:51:11
|
|
|
|