ความคิดเห็นที่ 1 ตอนนี้ปฎิบติตามแพทย์สั่งก่อนครับ และความดันยังไม่สูงมาก ให้งดเค็ม ออกกำลังกาย ลดน้ำหนัก อย่างจริงจัง เมื่อลดได้คงที่จะได้ไม่ต้องกินยาไปตลอด จากคุณ : samr เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 54 09:25:32

ความคิดเห็นที่ 2 ป้าเราเป็นความดัน ต้องกินยาตลอดชีวิตค่ะ เห็นคุณหมอบอกว่า ถ้ากินแบบไม่สม่ำเสมอ เดี๋ยวกิน เดี๋ยวหยุด จะมีอาการหัวใจโตได้ ไม่ได้ถามต่อนะว่า หัวใจโตแล้วจะเกิดอะไรขึ้น จากคุณ : ข้าวปั้น เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 54 10:13:23 A:220.237.168.169 X: TicketID:188044

ความคิดเห็นที่ 3 อยากรู้ครับว่า หัวใจโตมันเป้นไง -*- ส่วนตัวเพิ่งไปตรวจมา หมอบอกกล้ามเนื้อหัวใจห้องล่างซ้าย หนา มาก จากคุณ : สักวันฉันจะอ้วนกลม เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 54 10:32:05

ความคิดเห็นที่ 4 ยาเกือบทุกชนิด มีสารเคมี สะสมมากๆก็มีผลกับตับและไต และอวัยวะต่างๆของร่างกาย เช่นพวกที่เป็นเบาหวาน จะอยู่ประมาณ 15-20ปี ไตก็จะวาย ไม่รอดสักคน เพราะมันต้องกินยา บำรุงเลือด วิตามิน ยาลดความดัน แล้วอีกสารพัด คือทุกครั้งที่ไปตรวจเบาหวาน มีอะไรผิดปรกติ คุณหมอก็ต้องสั่งยามาให้ควบคุมอาการ ถ้าเป็นไปได้ พยายามหาทางเลือกอื่นบ้างคะ อาหารเสริมบางตัวช่วยได้จริงๆ อย่างเช่น ถามว่าทำไมคนจึงเป็นเบาหวาน ก็เกิดจากในร่างกายขาดสารอินซูลีน อินซูลิน เป็นฮอร์โมนที่สร้างขึ้นโดยกลุ่มเซลล์ภายในตับอ่อน มีหน้าที่ในการนำน้ำตาลในเลือดไปสู่เนื้อเยื่อต่างๆทั่วร่างกายเพื่อใช้ใน การสร้างพลังงานและสร้างเซลล์ต่างๆ โดยปรกติแล้วเมื่อมีน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือดตับอ่อนก็จะถูกกระตุ้นให้หลั่ง อินซูลิน แล้วอินซูลินก็จะเข้าจับน้ำตาลเพื่อนำไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกาย แต่ในผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวาน ซึ่งร่างกายมี อินซูลิน ไม่เพียงพอก็จะทำให้มีน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น             ในอาหารเสริมบางตัว จะไปกระตุ้นการทำงานของตับอ่อน เมื่อตับอ่อนทำงานได้ปรกติ ก็สามารถ ผลิตอินซูลีนเองได้ เบาหวานก็ลดลง คนไทยทุกวันนี้ ชอบรักษาที่ปลายเหตุ ให้เป็นก่อนแล้วค่อยรักษา บางครั้งกว่ามันจะแสดงอาการ มันก็สายไปเสียแล้ว ที่พูดมาไม่ได้อยากขายอาหารเสริม แต่อยากบอกเพื่อเป็นบารมีทาน เพราะตัวเองกินมาแล้ว ดีขึ้นจริงๆ ทุกวันนี้ พยายามหลีกเลี่ยงยาที่มีสารเคมี ให้มากที่สุด เมื่อก่อนกินยามาตลอด กลับเมืองไทยแต่ละครั้งเจออากาศร้อนๆ ตัวบวม มือบวม เท้าบวม แต่หลังจากที่หันมากินอาหารเสริม ไม่มีอาการอะไรเลย หยุดกินยาแก้แพ้ทั้งหมด ทุกวันนี้ยอมรับ มีสุขภาพดีมากๆ นั่งเครื่องทั้งวันก็ไม่เหนื่อยไม่เพลีย ชีวิตคนเรามันมีแค่นี้ ชีวิตเรามีค่ามากกว่าราคาอาหารเสริม รอให้เป็นหนักๆจนมันแสดงอาการออกมาแล้วค่อยรักษาทีเดียว เสียเงินมากกว่าค่ะ///เห้อโชคดีทุกท่านค่ะ จากคุณ : gambei (gambei) เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 54 12:14:37

ความคิดเห็นที่ 5 เพาะเหตุนี้ ธุรกิจอาหารเสริม จึงขายดี ครับ ที่ต้องกินยาไปตลอดชีวิต เพราะคนไข้ ไม่ค่อยดูแลตัวเอง คิดว่า ยาเอาอยู่ แต่ถ้าคนไข้ ดูแลตัวเองดี มีน้ำหนักที่เหมาะสม ออกกำลังกายประจำ คลอเลสเตอรอล LDL ไตรกลีเซอไร ปกติ หมอก็จะค่อยๆลดยา ถ้าตรวจเดือดแล้วค่าทุกอย่างปกติ คิดว่า ครั้งที่ 3-4 หมอก็จะค่อยๆลดยา ไปเรื่อยๆ ครับ จากคุณ : Oh-deh เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 54 13:30:15

ความคิดเห็นที่ 6 ในรายที่ความดันโลหิตสูงโดยไม่มีหรือไม่ทราบสาเหตุนั้นมักจะแก้ยากหรืแแก้ไม่เพียงพอด้วยการปรับพฤติกรรมเพียงอย่างเดียวทำให้จำเป็นต้องทานยาไปตลอด **** และความเข้าใจผิดที่น่ากลัวมากๆของคนไทยคือคิดว่ากินยาและความดันดีก็อยากหยุด(อาจเพราะเข้าใจว่าปกติแล้วหรือกลัวสารพิษสะสมซึ่งไม่จริง) สิ่งที่เกิดขึ้นคือเมื่อหยุดยาความดันจะพุ่งสูงกว่าตอนที่ไม่ได้ทานยาเสียอีกครับและเป็นจุดกระตุ้นอย่างหนึ่งของเส้นเลือดในสมองตีบหรือแตก(อัมพาต) เส้นเลือดหัวใจตีบ(กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด) ผมเจอมาหลายรายครับคุมดีมานานเกิดไปฟังใครมาก็ไม่รู้อยากหยุดก็หยุดแล้วได้มารพ.เพราะอัมพาตแทน อย่างไรก็ตามในคนที่ความดันโลหิตไม่ได้สูงมากแล้วปรับพฤติกรรมได้ดีความดันจะลดได้ประมาณ 10-20 ครับทำให้อยู่ในเกณฑ์ที่ปกติไม่จำเป็นต้องใช้ยาก็ได้อย่างก็ตามหากปล่อยตัวเหมือนเดิมความดันก็จะกลับมาสูงครับ ปล. คห.4 คนละเรื่องแล้วครับ และเบาหวานจริงอยู่ที่ยาคุมแบบกินนั้นมักจะดื้อยาในระยะยาวแต่หากคุมอาหารร่วมด้วยก็จะชะลอการดื้อยาเนื่องจากตับอ่อนทำงานไม่ไหว(ไม่ใช่ยาสะสมนะครับ) เนื่องจากยาไปเร่งให้ตับอ่อนทำงานมากขึ้นปล่อยอินซูลินมากขึ้น แต่ปัจจุบันก็มียาที่กินที่ออกฤทธิ์ในการทำให้ไวต่ออินซูลินมากขึ้นได้โอกาสดื้อยาจากยากินก็น้อยลง และในรายที่คุมด้วยยากินไม่ได้ การใช้ยาฉีดก็คุมได้ดีครับ ผมมีคนไข้ส่วนมากที่คุมดีๆตั้งใจคุมบางคนซื้อเครื่องตรวจน้ำตามที่บ้านด้วยเป็นเบาหวานมาเกินสามสิบปีก็ยังแข็งแรงครับ แต่คนไทยมักจะไม่คุมให้ดีไม่ว่าอาหาร หรือ ยา หรือ การปฏิบัติตัวอื่นๆจึงอายุสั้นกันครับ จากคุณ : oncodog เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 54 14:36:53

ความคิดเห็นที่ 7 ขอแย้งตรงนี้ "พวกที่เป็นเบาหวาน จะอยู่ประมาณ 15-20ปี ไตก็จะวาย " พ่อเราเป็นเบาหวานมาไม่ต่ำกว่า 30 ปี ตรวจเลือด ไตทำงานปกติดีค่ะ พี่เราความดันสูง ออกกำลังกาย คุมอาหาร ลดน้ำหนัก คุณหมอก็งดยาให้ค่ะ แต่ห้ามงดยาเองเด็ดขาด อันตรายมาก จากคุณ : . เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 54 15:42:56 A:115.87.193.202 X: TicketID:282073

ความคิดเห็นที่ 8 แง่ะ// ก็คุณที่เป็นเบาหวานมายี่สิบปี ไตก็วายแล้ว หมอสั่งให้ฟอก และก็หาไตมาเปลี่ยน แต่แกดันทะลึ่งมากินอาหารเสริม กินเข้าไปสามอาทิตย์ ไปตรวจหมอ หมอบอกว่าไตดีขึ้นมาก ไม่ต้องฟอกแล้ว และเบาหวานก็ลดลงจาก 370-600 วันที่ไปตรวจเหลือ 140 แต่ตั้งแต่วันที่แกเริ่มกินอาหารเสริม แกไม่กินยาหมอเลย อินซูลีนก็หยุดฉีดหลังจากนั้นหนึ่งเดือน และทุกวันนี้ แกก็มีชีวิตเหมือนคนปรกติ แต่ไม่กินยาหมอ และไม่ได้ฉีดอินซูลินอีกเลย ตอนนี้เป็นเวลา ห้าเดือนแล้วค่ะ ไม่ได้โจมตีคุณหมอนะคะ ยังไงเราก็ต้องพึ่งหมอค่ะ แต่ตัวเองประสบมาแบบนี้ และอาหารเสริมก็กินไม่เยอะค่ะ พออาการปรกติก็กินไม่เยอะ ตอนนี้กินสี่ตัวรวม 5,120 ต่อสองเดือน เฉลี่ยวันละ 86 บาท ถามว่าขายดีมั๊ยอาหารเสริม ขายยากสำหรับคนที่ยังไม่เป็นอะไรค่ะ เพราะคนกลัวกันเยอะ  ที่พูดมานี่ไม่ได้หวังจะขายค่ะ เพราะถ้าจะมาขาย ขายในนี้ไม่ได้หรอกค่ะ มันต้องไปที่มีคนป่วยเยอะๆ เบาหวานไต แล้วเอาไปให้คนกินสองสามคน อีกยี่สิบวันย้อนกลับไปใหม่ ทีนี้มากันทั้งหมู่บ้านเลย มาเล่าประสบการณ์ให้ฟังเฉยๆค่ะ เห้อ//คนไทยคุมไม่ได้หรอกค่ะคุณหมอ เรื่องอาหารการกิน เดินไปทางไหนก็มีแต่สารพิษ ขนาดผักในตลาด ก่อนวางขาย พวกยังเอาไปชุปฟอร์มาลีน ให้เห็นต่อหน้าต่อตา ที่เขียงหมูไปดูสิคะ อากาศบ้านเราร้อบตับแลบ แต่หมูอยู่บนเขียงทั้งวัน แดงสดเชียว แต่ทำไม หมูที่เมืองฝรั่ง อากาศก็เย็นกว่าบ้านเรา ไปซื้อจากร้านมา ลืมวางทิ้งไว้ครึ่งวัน ซีดเลย ผักบ้านเค้าก็เหมือนกัน ถ้าซื้อมาแล้วไม่รีบทำเหี่ยวซะ แต่ผักบ้านเรา สดใส เขียวสวยทั้งวัน ชีวิตของเราเสี่ยงตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง เง้ออออ// ปอลอ ยังไงก็รักคุณหมอนะคะ อาหารเสริมจะดีการแพทย์ปัจจุบันได้อย่างไร แต่ก็เป็นอีกหนึ่งทาง เลือกค่ะ จากคุณ : gambei (gambei) เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 54 15:45:13

ความคิดเห็นที่ 9 ^ ^ ต้องหลังไมค์ไปปรึกษามั๊ยอ่ะ 555 จากคุณ : arakball เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 54 17:43:13

ความคิดเห็นที่ 10 ขออธิบายแบบบ้านๆนะคะ ความดันตัวบนที่สูงขึ้น  หมายความว่าหัวใจห้องล่างซ้ายต้องออกแรงบีบสูงกว่าชาวบ้านเขาในการส่งเลือดไปเลี้ยงร่างกาย คนอื่นออกแรง 120  แต่บางคนต้องออกแรง 160 ซึ่งมันสูงเกินไป (ค่าปกติไม่เกิน140) ออกแรงบีบตัว นาทีละ 70-80 ครั้ง ชั่วโมงละ 480 ครั้ง วันละ 115,200 ครั้ง ป้าดดดด  ออกแรงเยอะกว่าคนอื่นเขา 20 - 40 mmHg วันละ 115,200 ครั้ง หัวใจมันจะไม่เสื่อมก่อนคนอื่นได้ยังไงกัน เมื่อทำงานหนักมากๆๆเข้าหลายเดือน  หลายปี กล้ามเนื้อหัวใจจะหนาตัวขึ้น  เรียกว่าภาวะหัวใจโต เหมือนจะดีแต่แทนที่จะโตแล้วมีแรงเยอะขึ้น กลับเทอะทะ ทำงานลำบากกว่าเดิม ในระยะยาวกลับทำให้หัวใจมันอ่อนแอลง  จนถึงระยะท้ายๆ  การบีบตัวจะน้อยลงเรื่อยๆ จนทำงานได้ไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย เรียกว่าหัวใจวาย  หัวใจอ่อนกำลัง ถ้าเป็นโรคความดันมานานๆ  ว่างๆสละเงิน 3-4 พัน  ไปตรวจการบีบตัวของหัวใจ  หรือการหนาตัวของกล้ามเนื้อหัวใจบ้างก็ดีนะคะ อาการมันค่อยเป็นค่อยไป  บางครั้งกว่าจะรู้ตัวก็สายเสียแล้ว อยากพาแม่ไปเหมือนกัน จากคุณ : ฝ้ายผู้น่ารัก เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 54 20:02:07