ความคิดเห็นที่ 1 ถามชื่อยาก็น่าจะได้อยู่แล้วนะคะ ไม่น่ามีปัญหา จากคุณ : เด็กหญิงจูดี้ขี้บ่น เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 54 14:30:12

ความคิดเห็นที่ 2 มีสิทธิ์แน่นอน เป็นกฎกระทรวง(มั้ง) ที่สถานพยาบาลรวมทั้งร้านขายยาด้วย ต้องพิมพ์ generic name รวมทั้งวันหมดอายุแปะไว้ที่ฉลากซองยา แต่อย่างที่รู้กัน บ้านเรากฏมี ระเบียบและกฏหมายมี แต่ไม่มีใครรักษา ประชาชนต้องทราบสิทธิ์ของตน และรักษาสิทธิ์ของตน สามารถขอดูและขอทำสำเนาประวัติของเราได้ ทั้งประวัติผู้ป่วยนอก ผู้ป่วยใน และผลการตรวจต่างๆ แต่ของญาติไม่ได้ ต้องให้ญาติทำหนังสือยินยอม เหมือนที่ผู้ประกันสุขภาพทำหนังสือลงนามยินยอมให้บริษัทประกันขอสำเนาประวัติการรักษาที่เกี่ยวข้องของเราได้ จากคุณ : OG เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 54 14:32:58 A:110.168.60.101 X: TicketID:324242

ความคิดเห็นที่ 3 ปัจจุบันนี้ ทุกโรงพยาบาลแจ้ง generic name และวันหมดอายุ ไว้ที่ซองยาทุกซอง รวมทั้งวิธีใช้ยา ก่อนส่งมอบยาให้ผู้ป่วย ยังต้องมีกระบวนการที่ให้มั่นใจได้ว่า ส่งมอบยาไม่ผิดคน และยังต้องอธิบายวิธีใช้อีกด้วย แต่พูดเร็วมาก เพราะมีคนรอรับยาเป็นแถวยาว ไม่รู้คนรับฟังจะเข้าใจได้มากน้อยเพียงใด จากคุณ : OG เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 54 14:38:25 A:110.168.60.101 X: TicketID:324242

ความคิดเห็นที่ 4 ขอถามเพิ่มเติมครับ  แล้วการไม่บอก  หรือไม่ได้แปะชื่อยามาเนี่ยผิดไหมครับ จากคุณ : nasunap เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 54 14:54:36

ความคิดเห็นที่ 5 ผู้ป่วยควรรู้ชื่อยาทุกตัวที่กินและต้องจําชื่อยาที่เราแพ้ได้เพื่อจะได้ไม่กินยาที่เราแพ้ เพราะถ้าคนไข้เองไม่รู้ก็คงไม่มีใครรู้ ส่วนเรื่องopd cardไม่ทราบว่าอยากดูไปทําไมแต่ถ้าจะดูก็คงไม่มีปัญหาครับถ้าเป็นของตัวเอง แต่ของคนอื่นน่าจะไม่ได้ครับ จากคุณ : มีดหมอ เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 54 14:55:30 A:180.210.216.74 X: TicketID:154822

ความคิดเห็นที่ 6 ตามความเห็นส่วนตัวนะครับ 1.ยาทุกชนิดที่คนไข้ได้ไป คนไข้ควรจะต้องรู้ว่าตนเองได้รับยาชนิดใด จึงน่าจะเป็นสิทธิที่ควรจะได้รับทราบ 2.การที่แพทย์ไม่ได้แสดงข้อมูลชื่อยา  อันนี้ก็ผมเองไม่แน่ใจว่าจะผิดกฏหมายหรือไม่ แต่ปกติคนจ่ายยามักจะไม่ใช่แพทย์ และโดยทางปฎิบัติก็จะบอกแค่ว่ายาที่ได้เป็นยาอะไร แต่ไม่ได้บอกชื่อยา เพราะบอกไปก็มักจะจำไม่ได้ ดังนั้นถ้าคนไข้ไม่ได้ถามชื่อยา ก็เห็นว่าไม่จำเป็นจะต้องบอกถึงชื่อยา แต่ถ้าคนไข้ถามก็ควรจะต้องบอก(แต่ไม่ค่อยเห็นว่าจะถามกัน) อย่างไรก็ตามถ้าคนไข้เห็นว่าไม่ได้รับข้อมูลที่เหมาะสม คนไข้เองก็มีสิทธิที่จะปฏิเสธการรักษาแล้วไปรักษาที่อื่นก็ได้ 3.การขอดู OPD card ของตัวเราเองน่าจะเป็นสิ่งที่ทำได้แต่ควรคำนึงถึงมารยาทอันดีด้วย คงต้องถามกลับไปด้วยว่าจะขอดูเพราะอะไร? เพราะถึงดูไปถ้าไม่ใช่บุคลากรทางการแพทย์ก็อ่านไม่ออก ถ้ามีเหตุผลที่สมควร การจะขอสำเนาเวชระเบียนก็เป็นสิทธิของตัวเราเองซึ่งน่าจะกระทำได้ 4.การขอดูเวชระเบียนของคนอื่นหรือญาติ เป็นสิ่งที่ไม่น่าจะสามารถกระทำได้เพราะเป็นข้อมูลส่วนบุคคล จากคุณ : iatros (iatros) เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 54 14:56:15

ความคิดเห็นที่ 7 อยากดู opd card เพราะว่า medication error มันเยอะมากครับ ถ้าญาติ admit คิดว่าคงจะอยากดูอ่ะครับ  เพราะถ้าไม่ใช่ รพ. เอกชนภาระส่วนใหญ่ในการแคร์คนไข้มันขึ้นอยู่กับ intern เป็นหลัก อันนี้ผมไม่พูดต่อแล้วกันนะครับ  นานาจิตตังจ้า ^^ จากคุณ : nasunap เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 54 15:53:00

ความคิดเห็นที่ 8 ก็เป็นเรื่องนานาจิตตังนะครับ แต่อยากให้ทราบว่า error มันมีได้เป็นเรื่องปกติไม่ว่าจะจากเครื่องมือ สถานที่ การสื่อสาร หรือจากคน(ไม่มีว่าจะเป็นinternหรือจะจบamerican board) ความสัมพันธ์ระหว่างบุคลากรทางการแพทย์และผู้รับการบริการควรจะตั้งอยู่บนความไว้เนื้อเชื่อใจกัน ความเห็นอกเห็นใจระหว่างกัน ความเอื้ออารี และศีลธรรม ถ้าไม่มีความเชื่อใจกันแล้ว จ้องแต่จะจับผิด(ซึ่งมันมีerrorได้อยู่แล้ว) ก็คงไม่มีประโยชน์ที่จะมารักษากัน ก็ควรจะไปรักษากับบุคคลที่คุณไว้เนื้อเชื่อใจกันจะดีกว่า จะได้ไม่ต้องลำบากใจทั้งสองฝ่าย   แต่อย่างไรผมก็คิดว่าการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ก็สมควรที่จะต้องมีการตรวจสอบกันได้(ด้วยความมีมารยาทและไม่มีbias)  มีความโปร่งใส คนที่มีเจตนากระทำ หรือเป็นความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงก็ควรได้รับโทษ แต่ถ้าเป็นerror ที่เล็กน้อย หรือเป็นสิ่งคาดหมายได้ยาก ก็น่าเห็นใจผู้ปฎิบัติงานด้วย กรณีโรงพยาบาลตามต่างจังหวัดมักใช้ intern ทำงาน ส่วน staff ก็ไม่ค่อยช่วยสอน แต่กลับเอาเวลาไปเปิดคลินิคปล่อยให้ intern ทำงานกันเอง ก็เป็นเรื่องที่สมควรต้องแก้ไข จากคุณ : iatros เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 54 16:21:06

ความคิดเห็นที่ 9 Medication errorที่ว่ามันเยอะมันคืออะไรเหรอครับเช่นจ่ายยาผิดหรือว่าจ่ายยาไม่ตรงกับโรค หรือส่งตรวจไม่เหมาะสม.เพราะถ้าเป็นเหตุการณ์ดัวกล่าวน่าจะน้อยนะครับ ยิ่งถ้าadmitด้วยแล้วยิ่งดูยากมากแม้แต่แพทย์ด้วยกันเองยังไม่เข้าใจเลยครับถ้าไม่เป็นแพทย์ แผนกเดียวกันเช่นให้หมอตาไปดูคนไข้หมออายุรกรรมอ่านไปก็ไม่เข้าใจครับ จากคุณ : มีดหมอ เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 54 16:47:01 A:180.210.216.74 X: TicketID:154822

ความคิดเห็นที่ 10 เฉพาะคนไข้ที่มีสิทธิ์ครับ ญาติจะขอดูได้ต้องได้รับการยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้ป่วยก่อน ยกเว้นกรณีคดีความเช่นผู้ป่วยตายก็อาศัยอำนาจตามกฏหมายขอเอาได้ครับ เรื่องฉลากยากฏหมายกำหนดให้ระบุไว้ครับ แต่....ก็อย่างที่เห็น รพ.รัฐระดับรพ.จังหวัดขึ้นไปไม่ได้ขึ้นกับอินเทิร์นอย่างเดียวนะครับ และอินเทิร์นก็คือหมอเต็มตัวแล้วหลายๆครั้งก็มีความเห็นที่ดีกว่าหมออวุโสครับ รพ.ที่เป็นโรงเรียนแพทย์ในกทม.แทบจะไม่มีอินเทิร์นแล้วนะครับ ส่วนรพ.อำเภอนี่แหละที่เป็นปัญหาจริงๆ อย่างไรก็ตามโปรดทราบด้วยว่าส่วนใหญ่ไม่มีหมอเฉพาะทางครับเป็นอินเทิร์นที่แก่แล้วซะส่วนใหญ่ที่ยังมีใจรักจะอยู่กับคนไข้ในชนบทห่างไกล กับอินเทิร์นใหม่ที่ไปใช้ทุน ปล.สมัยใช้ทุนไม่ค่อยมีปัญหาเพราะหน้าแก่ตัวใหญ่ชาวบ้านนึกว่าหมอใหญ่ตั้งแต่เรียนแล้วอ่ะ จากคุณ : oncodog เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 54 18:08:00

ความคิดเห็นที่ 11 อยากบอกว่าคนเราถ้าจ้องจับผิดคนอื่นตลอดเวลา  ทั้งตัวเราเเละผู้ที่ถูกจ้องจะเป็นทุกข์ สัมพันธภาพจะเสื่อมถอย  เเละอะไรๆมันจะเเย่ลง จากคุณ : pchanng เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 54 19:35:56

ความคิดเห็นที่ 12 สถานพยาบาลไม่แจ้งชื่อ generic ของยา ผิดค่ะร้องเรียน ส.ค.บ. ได้ แต่ลงโทษอย่างไรไม่ทราบค่ะ จากคุณ : OG เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 54 20:46:39 A:124.122.26.79 X: TicketID:324242

ความคิดเห็นที่ 13 ข้อมูลการรักษา ความเจ็บป่วย ... เป็นของ " ผู้ป่วย "  เท่านั้นครับ ... คนอื่น (ญาติ) สงสัยก็ถามผู้ป่วยโดยตรง ...    ถ้า คนอื่น (ญาติ) มาสอบถามแพทย์ แพทย์ก็ไม่สามารถบอกได้ครับ (เป็นเรื่องการรักษาความลับของผู้ป่วย) สำหรับคำถาม ๑. ชื่อยา ... ถ้าไม่เขียนไว้ แต่อยากทราบ ก็ " สอบถาม  หรือ ให้เขียนชื่อยา " ได้ครับ           ถ้าสอบถามแล้ว ทางคลินิก หรือ รพ. ไม่ยอมแจ้งชื่อยา สามารถฟ้องร้อง ร้องเรียนได้  แต่จะคุ้มหรือเปล่า กับระเบียบขั้นตอนความยุ่งยาก ???   ๒. เวชระเบียน ถ้าผู้ป่วยจะขอดู  ก็น่าจะได้นะครับ แต่ ถ้าแพทย์จะไม่ให้ดู ก็ได้เช่นกัน ..             ถ้าผู้ป่วยอยากทราบประวัติ การรักษาของตนเอง ก็สามารถ ยื่นเรื่องขอประวัติการรักษา กับ ทาง รพ.ได้ครับ   ถ้าทำตามขั้นตอนปกติ แล้วยังไม่ได้ ก็สามารถ แจ้งความกับตำรวจ ว่า " โรงพยาบาล " ( ผู้อำนวยการ รพ.) ไม่ยอมให้ความร่วมมือ.. จากคุณ : หมอหมู เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 54 13:53:17

ความคิดเห็นที่ 14 มีสิทธิทราบค่ะ   ถามได้เลยถ้าอยากรู้  ขอจด หรือให้คุณหมอจดให้ตอนนั้นก็ได้ แต่ถ้าไปหาหมอตามคลินิก เค้าไม่ค่อยระบุชื่อยาหน้าซอง ด้วยเหตุผลนานาประการ ทั้งความสะดวกของหมอด้วย แต่ถ้าไป รพ  เรื่องนี้ไม่ต้องกังวล  ยามีชื่อและวิธีรับประทานอย่างละเอียดทุกซอง แถมมีเภสัชให้คำแนะนำด้วย จากคุณ : arra เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 54 22:54:21

ความคิดเห็นที่ 15 เรามีสิทธิ์ทราบชนิดยาที่แพทย์จ่ายไหมครับ ??? ผมขอถามกลับก่อนว่า คุณไม่ทราบจริงๆหรือครับ แล้วยาที่คุณเรียกว่า "แพทย์" จ่ายยามาให้คุณไม่ถามเลยหรือ ว่ารักษาอะไร เป็นยาชนิดใด ทำให้ง่วงหรือไม่ อย่างไรบ้าง หมอต้องบอกกลุ่มยา ชนิดยา และชื่อยา ต้องถามด้วยว่าแพ้ยาอะไรมั๊ย.. กับคนไข้ทุกคนครับ และคนไข้ก็ต้องถาม หรือคนไข้ไม่ถามคนพาไปลูก หรือญาติก็ต้องถามให้ชัดเจน และการที่เอายาใส่ซองมาอย่างเดียวโดยที่ไม่มีฉลากยา และรายละเอียด ผมว่าผิดครับ อย่างน้อยผิดจรรยาบรรณของแพทย์ จากคุณ : sundancer เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 10:32:41