วิธีเรียกแรงฮึด ฉบับ The Secret

สวัสดีค่ะ วันนี้หมอก(เจ้าเก่า)ก็มาเผยแพร่ข้อมูลดีๆ มาให้เพื่อนๆ ได้อ่านเพิ่มแรงฮึดกันอีกแล้วนะคะ อย่าเพิ่งเบื่อหน้ากันนะคะ เพราะเรายังไม่เห็นหน้ากันเลย 5555555+

หมอกก็ลองเราบทความนี้มาเสิร์ชดูแล้วปรากฎว่ายังไม่มีใครลงไว้ หมอกขออนุญาตลงไว้ในคลับนะคะ คิดว่าคงจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ไม่มากก็น้อยค่ะ

ข้อมูลนี้หมอกไม่ได้เขียนเองนะคะ เป็นการเซฟมาจากบล็อกต่างๆ ที่เคยอ่านมาค่ะ เห็นว่าดีเลยเก็บไว้ วันนี้เลยเอามาแบ่งปันให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันด้วยค่ะ

..........................................................................................................................................
วิธีเรียกแรงฮึด ฉบับ The Secret

สมองของเราเป็นเครื่องไล่ล่าเป้าหมายตัวฉกาจ คิดดูสิคะ ตั้งแต่ลืมตาตื่น จนเข้านอน เราทำอะไรเป็นร้อยเป็นพันอย่างที่ตอบสนองเป้าหมายในทุกๆ ระดับ ตั้งแต่เป้าหมายระยะสั้นมากเช่น เดินทางจากเตียงไปห้องน้ำ จนถึงระยะสั้นเฉยๆ เช่น หาข้าวกิน ไปจนถึงเป้าหมายระยะยาวหน่อยเช่น ทำงานเก็บตัง หรือเป้าหมายของชีวิตทั้งชีวิตโดยรวม คือเอาชีวิตรอดจากอันตราย ทุกอย่างนี้เป็นไปโดยอัตโนมัติ เพราะหลักการของเป้าหมายมันถูกเก็บไว้ในจิตใต้สำนึก ทำให้เราพยายามบรรลุเป้าหมายโดยไม่ต้องคิดถึงเป้าหมายเลยด้วยซ้ำ

.

.

แต่คนเราเก็บเป้าหมายบางอย่างไว้ในจิตเหนือสำนึก ที่มักจะขัดกับจิตใต้สำนึก การควบคุมน้ำหนักนี่ก็เรื่องหนึ่ง คือจิตเหนือสำนึกบอก กินน้อยๆ นะ จะได้ผอมๆ จิตใต้สำนึกบอก กินเยอะๆ สิเดี๋ยวอดตาย หรือการเรียนหนังสือ จิตเหนือสำนึกบอก อ่านหนังสือเยอะๆ สิจะสอบแล้วนะ จิตใต้สำนึกบอก การเรียนไม่จำเป็นเท่าไหร่หรอก สงวนพลังงานไว้ดีกว่า(พูดง่ายๆ คือ ขี้เกียจนั่นแหละ) เมื่อมันขัดกันแบบนี้ การบรรลุเป้าหมายเลยไม่ effortless หรือมันมีแรงเฉื่อยมาก แรงต้านจากจิตใต้สำนึกที่คอยขัดความพยายามของเราตลอดเวลา ทำให้การทำตามมแผนยากลำบากขึ้น

.

แล้วเราจะทำอย่างไรเพื่อจะฝังเป้าหมายที่ปรารถนาไว้ในจิตใต้สำนึก?

.

มีการทดลองอันหนึ่งที่เราฟังมานานแล้ว แต่อาจจะจำรายละเอียดไม่ได้ทั้งหมด เค้าแบ่งคนออกเป็นสองกลุ่ม ตรวจร่างกายอย่างเรียบร้อย เสร็จแล้วให้คนกลุ่มแรก ออกกำลังกายโดยการยกเวทในยิมของแล็บทุกวัน เป็นเวลาเท่าๆ กัน ส่วนคนกลุ่มที่สอง ให้มาที่ห้องทดลองของแล็บทุกวัน แล้วนั่งหลับตาเฉยๆ จินตนาการอย่างละเอียดว่าตัวเองกำลังเข้าไปในยิม ยกน้ำหนักขึ้นมาออกกำลังกาย จินตนาการทุกขั้นตอนของสิ่งที่เกิดขึ้นในยิม

.

.

หลายสัปดาห์ถัดมา คนกลุ่มแรกได้กล้ามเนื้อเพิ่มขึ้นมาก ก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ แต่ๆๆ คนกลุ่มที่สอง ได้กล้ามเนื้อเพิ่มมาเหมือนกัน แม้ว่าจะไม่มากเท่าคนกลุ่มแรก แต่ก็มากพอที่จะวัดความแตกต่างระหว่าง before และ after ได้อย่างชัดเจน อย่าลืมนะคะ ว่าคนกลุ่มที่สองไม่ได้ทำบ้าอะไรเลย นอกจากนั่งเฉยๆ แล้วฝันกลางวัน กล้ามเนื้อมาจากไหน?

.

.

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า จินตนาการของคนนั้นมีอำนาจต่อร่างกายมาก มีการวิจัยหลายชิ้นที่บอกว่า ส่วนใหญ่ของสมองคน คนหนึ่งทำงานโดยไม่สามารถแยกแยะสิ่งที่จินตนาการและสิ่งที่เกิดขึ้นจริงได้ คือไม่ว่าคุณจินตนาการ หรือระลึกความทรงจำที่เกิดขึ้นจริง คุณใช้สมองส่วนเดียวกันเป๊ะ นั่นแปลว่าคนที่เดินเข้าไปฝันกลางวันในแล็บนั้น สมองหลายส่วนของเค้าได้เชื่อไปแล้วว่า เค้าได้เข้าไปในยิมจริงๆ ทำให้ฮอร์โมนต่างๆ หลั่งออกมาสร้างกล้ามเนื้อ ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงแล้ว พวกเค้าไม่ได้ทำอะไรเลยสักกะติ๊ด!!

.

.

ทีนี้เราจะเอามาปรับใช้กับเป้าหมายของเราอย่างไรคะ แน่นอนไม่ใช่ว่าให้คุณนั่งฝันกลางวันแล้วไม่ออกกำลังกาย แต่เรากำลังบอกให้คุณใช้จินตนาการพาไปสู่เป้าหมาย ภาษาของ The Secret หนังสือที่สร้างแรงใจให้คนทำสิ่งที่เหลือเชื่อต่างๆ ให้เป็นไปได้ เค้าเรียกว่า visualization คือ สร้างมโนภาพของความสำเร็จ เพราะมันคือกลไกการทำงานของจิตใต้สำนึกของคุณ ประสบการณ์และความรู้สึกเป็นเครื่องหล่อหลอมเป้าหมายของคุณสำหรับจิตใต้สำนึก(เช่นความรู้สึกซาบซ่านมีความสุขเวลากินไอติม ทำให้คุณคอยมองหาไอติมกินอยู่เรื่อยโดยไม่ได้ตั้งใจ) เพราะฉะนั้นจะโปรแกรมเจ้าจิตใต้สำนึกให้ไล่ล่าเป้าหมายของคุณโดยอัตโนมัติก็ต้องใช้จินตนาการ ความรู้สึก และการล่อหลอกสมองให้เหมือนกับว่าได้ลิ้มรสความรู้สึกสุขสันต์จากการบรรลุเป้าหมายนั้นๆ แล้วจริงๆ

.

.

ว่ากันตามหนังสือเล่มนี้ และหนังสือที่สอนคนให้สำเร็จอีกหลายเล่มทั่วโลก เราเลยมีโปรแกรมนั่งสมาธิก่อนนอนทุกวัน เพื่อให้จิตสงบและแน่วแน่ หลังจากจิตมีสติแล้ว ก่อนจะนอนหลับก็จะเริ่มฝันด้วยตัวเอง เช่น สำหรับคนที่จะลดความอ้วน หนังสือเค้าสอนว่า ให้จินตนาการตัวคุณว่าได้เป้าหมายที่คุณต้องการ เช่น คุณจะรู้สึกอย่างไรเมื่อน้ำหนักของคุณถึงเป้าหมาย จินตนาการภาพตัวคุณตอนผอมอย่างละเอียดที่สุด คุณจะเดินเหินอย่างไร จับของอย่างไร แต่งตัวอย่างไร พูดจาอย่างไร ปฏิบัติต่อคนรอบข้างตัวคุณอย่างไร วันของคุณในร่างผอมเริ่มอย่างไร ดำเนินไปอย่างไร และจบลงอย่างไร จินตนาการตัวคุณเดินไปขึ้นเครื่องชั่งแล้วเห็นน้ำหนักเท่าไหร่ ให้รู้สึกดีใจราวกับคุณได้น้ำหนักนั้นแล้วจริงๆ ขณะที่อยู่ในร่างกายที่ผอมลงนั้นคุณรู้สึกอย่างไร กางเกงที่หลวมลง ความอึดอัดที่หายไป คนสำคัญในชีวิตจะมองคุณด้วยสายตาอย่างไร พูดจากับคุณอย่างไร จินตนาการอย่างละเอียดที่สุดจนกว่าจะเคลิ้มหลับไป

.

.

หรือจินตนาการวันลดน้ำหนักที่เพอร์เฟ็คของคุณ ที่คุณทำตามแผนการทุกอย่าง ตื่นขึ้นมาออกกำลังกายด้วยความรู้สึกแจ่มใส ทานอาหารเช้าอย่างไร ทานน้อยหรือมากเท่าไหร่ ไปทำงานแล้วมีวันที่จิตใจเบิกบานอย่างไร เพื่อนร่วมงานพูดกับคุณว่าอย่างไร พาตัวคุณเองในจินตนาการเดินผ่านขั้นตอนทีละขั้นที่มีความสุขกับการใช้ชีวิตในหนึ่งวัน ความรู้สึกภาคภูมิใจในตอนท้ายสุดของวันว่าคุณได้ทำสำเร็จตามเป้าหมายทุกประการ เมื่อเป้าหมายถูกหล่อหลอมด้วยประสบการณ์ความสำเร็จในจินตนาการ มันไม่ยากที่จิตใต้สำนึกจะไล่ล่าความรู้สึกดีๆ เหล่านั้น โดยที่คุณไม่ต้องพยายามเลยสักนิด!

.

.

ฟังดูอาจจะตลกและบ้าบอนะคะ แต่นักธุรกิจและอาจารย์ที่สอนการใช้ชีวิตทั่วโลก รับหลักการนี้เข้าในชีวิตประจำวัน มันทำให้พวกเขาทำสิ่งเหลือเชื่อ เอาชนะความกลัว เอาชนะความขี้เกียจของตัวเอง ฝ่าฟันอุปสรรค และความเบื่อหน่าย เพื่อทำงานให้สำเร็จตามเป้าหมาย คุณคิดว่า ถ้าจิตใต้สำนึกของเค้าไม่ได้เห็นดีเห็นงามด้วย เค้าจะทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่เหล่านั้นให้สำเร็จได้อย่างไร? ถ้าคุณลอง google คำว่า Law of attraction , visualization , affirmation รูปแบบใครรูปแบบหนึ่งของหลักการตอกย้ำจิตด้วยจินตนาการและประสบการณ์ คุณจะเห็นว่ามันเป็นสิ่งที่ปรากฎอยู่ในหนังสือจิตวิทยาความสำเร็จที่ขายดีแทบทุกเล่ม

.

.

และเรื่องนี้ไม่ได้ใช้เฉพาะการควบคุมน้ำหนักแน่นอน เราคนหนึ่งล่ะที่ใช้มันทุกวัน ในการผลักดันการเรียน การงานความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง มันเป็นอาวุธ เคล็ดลับและของขวัญที่สำคัญที่สุด ที่ทำให้ขวนขวายทำสิ่งต่างๆ ในชีวิต โดยไม่ได้พยายามบังคับจิตใจหรือฝืนใจตัวเองมากมายนัก และมันใช้เวลาแค่ 5 นาที 10 นาทีก่อนจะเคลิ้มหลับไปในแต่ละวันเท่านั้น

.

.

ใครยังไม่ได้อ่านหนังสือ The Secret เล่มนี้ ขอแนะนำอย่างแรงเลยค่ะ มันอาจเปลี่ยนชีวิตคุณ เหมือนที่มันเปลี่ยนชีวิตเราก็ได้นะ

ขอขอบคุณ http://shining-coral.บล็อกสปอต.com/ (ผู้เขียน)
..........................................................................................................................................
หมายเหตุ จะเข้าลิ้งค์ ต้องเปลี่ยนคำว่าบล็อกสปอต ให้เป็นภาษาอังกฤษก่อนค่ะ

จากคุณ	: Love in the mist
เขียนเมื่อ	: 7 ก.ย. 54 08:58:21