ความคิดเห็นที่ 1 ขอตอบจากประสบการณ์นะคะ ไม่ได้มีความรู้ด้านวิชาการโดยตรง แต่พอดีพ่อเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่เหมือนกัน พอผ่าตัดเอาส่วนทีเป็นมะเร็งออกไปแล้ว ก็ให้คีโม ของพ่อเราให้จนครบคอร์สค่ะ เพราะหมอ (รักษาที รพ.พระมงกุฏ) บอกว่าจะได้ฆ่าเซลล์ให้หมด พอให้ที ก็จะมานัดตรวจเลือดว่าค่า CEA (ถ้าจำไม่ผิด) ลดลงหรือยัง   แต่ของพ่อเรา รักษาร่วมกับแพทย์ทางเลือก  พอให้คีโมมาถึงบ้าน พ่อจะทำดีท็อกซ์ (สวนทวาร) ล้างสารพิษติดต่อกันหลายวัน และกินวิตามินเป็นกำ ๆ โดยส่วนตัวคิดว่าช่วยได้ระดับนึง เพราะเขาไม่มีอาการของการแพ้คีโมมาก มีแต่ผมร่วง  เพลีย แต่ก็ยังไปไหนมาไหนปกติ  กินได้ นอนหลับ  ปากไม่เปื่อย ขอให้คุณพ่อหายเร็ว ๆ นะคะ ระดับ 2 ยังสามารถรักษาให้หายขาดได้ค่ะ ของคุณพ่อเราตอนที่รู้เป็นระดับสุดท้ายแล้ว  หมอที่รักษาบอกว่าโรคนี้มีโอกาสถ่ายทอดทางพันธุกรรมด้วย  หมอแนะนำว่าพออายุ 40 ขึ้น ให้ลูกทุกคนไปส่องกล้องตรวจลำไส้ด้วย ถ้าเจอติ่งจะได้ตัดออก   ดูแลคุณพ่อแล้ว อย่าลืมดูแลตัวเองด้วยนะคะ  บุญรักษาค่ะ จากคุณ : mokkok เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 54 11:26:57

ความคิดเห็นที่ 2  หมอที่รักษาบอกว่าโรคนี้มีโอกาสถ่ายทอดทางพันธุกรรมด้วย  หมอแนะนำว่าพออายุ 40 ขึ้น ให้ลูกทุกคนไปส่องกล้องตรวจลำไส้ด้วย ถ้าเจอติ่งจะได้ตัดออก   ดูแลคุณพ่อแล้ว อย่าลืมดูแลตัวเองด้วยนะคะ  บุญรักษาค่ะ ขอขอบคุณ คุณmokkok มากนะครับ ผมก็ได้รับทราบมาอย่างนั้นครับ และตอนนี้ก็งดพวกของทอด ของมันมากขึ้นแล้วครับ ขอรบกวนอีกนิดนะครับ วิตามินที่ทาน เป็นแบบไหนครับ วิตามินรวม หรือ วิตามิน a b c d หรืออะไรครับขอรบกวรคำแนะนำอีกครั้งครับ ขอขอบคุณครับ จากคุณ : ผู้ชำนาญการด้านความเหงา เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 54 11:52:48

ความคิดเห็นที่ 3 1 การให้เคมีบำบัดตามหลังการผ่าตัดมีหลักฐานทางงานวิจัยชัดเจนว่าสามารถลดการกลับมาเป็นซ้ำและอัตราตายจากทุกสาเหตุได้จริง (รวมถึงอัตราตายจากการรักษาด้วย) ดังนั้นในคนที่แข็งแรง โดยนิยามไว้ว่าใช้เวลาในที่นอน(เดินไปไหนมาไหนไม่ไหว)ไม่ถึงครึ่งหนึ่งของเวลาที่ตื่น และ สามารถช่วยเหลือตัวเองได้พอควร ควรได้รับการรักษาด้วยเคมีบำบัด 2 เนื่องจากการรักษาด้วยคีโมหรือเคมีบำบัดมีหลากหลายสูตร แต่โดยปกติที่นิยมคือการให้ แบบไปกลับ 5 วันต่อรอบ ทั้งหมด 6 รอบ เนื่องจาก จขกท ไม่ได้ให้รายละเอียดมามากกว่านี้ จึงไม่สามารถระบุผลข้างเคียงที่พบบ่อยได้แม่นยำนัก แต่ตัวยาหลักจะเป็นอนุพันธ์ของ 5-FU ครับที่นิยมจะให้แบบฉีดเร็วๆ ซึ่งสามารถพบผลข้างเคียงที่เจอบ่อยคือ ท้องเสียถ่ายเหลว แผลในปาก กดภูมิคุ้มกัน ซึ่งเป็นชั่วคราวและหายได้เอง ในคนไทยพบว่าจะมีคนไข้บางคนที่บกพร่องในเอนไซม์ที่ใช้กำจัดยาดังนั้นในรอบแรกอาจพบผลข้างเคียงแบบรุนแรงได้ (แต่น้อยมาก) ซึ่งการปรับขนาดยาในรอบต่อๆมาจะสามารถลดผลข้างเคียงได้เป็นอย่างดี ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นอย่างไรก็ควรให้แพทย์ที่สั่งยาประเมินก่อน และ ถ้าคิดว่าไม่ไหวก็สามารถคุยกับหมอเพื่อหยุดยาได้ครับ อนึ่งอายุ 67 ปีนี่ไม่ถือว่าแก่เกินไปสำหรับการรักษาด้วยเคมีบำบัดครับ ถ้าแข็งแรงสมวัยนี่สบายมากครับ 3 เรื่องพันธุกรรม ถ้ามีแค่คุณพ่อเป็นตอนอายุ 67 คนเดียวการตรวจคัดกรองที่แนะนำยังเป็นเหมือนคนปกติคือที่ อายุ 50 ปีขึ้นไปครับ แต่ถ้าญาติที่เป็นเป็นตอนอายุน้อยกว่า 60 ปีจะแนะนำให้ตรวจที่อายุคนป่วยลบด้วย 10 ครับ อย่างไรก็ตามคำแนะนำในการตรวจคัดกรองนั้นมีความแตกต่างกันมากในแต่ละสถาบัน แม้ในอเมริกาเองก็มีอย่างน้อยถึง 3 ไกด์ไลน์ครับ จากคุณ : oncodog เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 54 12:19:04

ความคิดเห็นที่ 4 เข้ามาเป็นกำลังให้จ้ะ  ดูแลสุขภาพตัวเราเอง และครอบครัวด้วยนะ จากคุณ : Lucky go star เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 54 12:51:50

ความคิดเห็นที่ 5 วิตามินที่พ่อทาน มีหลายชนิดมากเลยค่ะ เป็นแพทย์ทางเลือกสั่งให้ทานน่ะค่ะ จะไม่ใช่รวม แต่ต้องเรียนตามตรงว่าจำไม่ได้ ที่พอจำได้มีเซเลเนี่ยม วิตามินซี  แต่ไม่แนะนำให้ซื้อทานเองนะคะ พอดีของพ่อคุณหมอแพทย์ทางเลือกเป็นคนสั่งให้ค่ะ วันนึงทานเป็นกำๆ  หลาย ๆ ชนิดรวมกัน แล้วก็ยังให้ระวังเรื่องอาหาร ทานพวกธัญพืช และต้องคั้น   แครอทสดให้ดื่มทุกวัน     สำหรับเรื่องตรวจคัดกรองน่าจะเป็นอย่างที่คุณoncodogบอกนะคะ พอดีพ่อเป็นตอน63 แล้วปู่ก็เป็น ป้าก็เป็น เรียกว่าทางสายพ่อเป็นติดต่อกันมา 2 generation เลยค่ะ คุณหมอเลยให้ลูก ๆ ตรวจตั้งแต่ 40 เป็นต้นไป แต่ถ้าทั่วไปคงน่าจะเริ่มตอนอายุ 50 แต่ยังไงก็อย่าประมาทนะคะ ดูแลตัวเองดี ๆ ของพี่สาวไปส่องกล้องตอน 40 เจอติ่งเนื้อ คุณหมอก็ตัดทิ้งให้เลย อีก 5 ปีนัดไปตรวจใหม่     ขอโทษทีนะคะ จำชื่อวิตามินไม่ได้  แต่แพทย์ทางเลือกที่ไปรักษา รักษาที่คลินิกบัลวีน่ะค่ะ  ราคาค่อนข้างสูงมาก ตอนหลังพอวิตามินหมดเลยใช้วิธีโทรหาตัวแทนขายยา แล้วซื้อตรงผ่านบริษัทเลย จะประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้เยอะมากค่ะ   ขอให้คุณพ่อแข็งแรงเร็ว ๆ นะคะ จากคุณ : mokkok เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 54 14:22:37

ความคิดเห็นที่ 6 ขอขอบคุณคุณหมอ oncodog และเพื่อนสมาชิกมากๆครับ ที่กรุณาเสียสละเวลา เข้ามาตอบและให้กำลังใจ ตอนนี้ล่าสุดที่ได้ทราบ คือ คุณพ่อต้องรับ "คีโม" แล้ว ผมเชื่อคุณหมอนะครับว่า มันเป็นการระงับยับยั้งไม่ให้เชื้อนั้นกลับมาลุกลามได้อีก แต่ห่วงผลข้างเคียง กลัวแกทรุด โทรมมากๆ ขอขอบคุณคุณหมออีกครั้งในเมตตาจิต ที่อุทิศตนเสียสละเวลาเข้ามาตอบเพื่อประโยชน์แก่ผมและเพื่อนมนุษย์คนอื่นๆ ขอขอบพระคุณจากใจจริงครับ แก้ไขเมื่อ 15 ก.ย. 54 14:26:04 จากคุณ : ผู้ชำนาญการด้านความเหงา เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 54 14:25:54

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบคุณคุณ mokkok  ด้วยนะครับ เรื่องประวัติของคนในครอบครัวอันนี้ที่ยังไม่ชัดเจนเลยครับ ต้องรอถามคุณพ่อก่อน ขอขอบพระคุณจากใจจริงครับ จากคุณ : ผู้ชำนาญการด้านความเหงา เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 54 14:37:52

ความคิดเห็นที่ 8 ใช่ครับถ้ามีคนในครอบครัวเป็นมากกว่าคนเดียวโดยเฉพาะถ้าคนๆนั้นเป็นญาติสายตรงกัน คำแนะนำจะเป็นให้ตรวจเร็วขึ้นประมาณ 10 ปีก่อนคนที่อายุน้อยที่สุดเป็นหรือไม่เกิน 40 ปี เนื่องจากมีโอกาสท่ีจะถ่ายทอดทางพันธุกรรมสูงขึ้นครับ อย่างที่บอกครับ ว่าถ้าโดยรวมแข็งแรงสมวัยไม่น่ากลัวมาก ที่แก่ที่สุดที่ผมเคยให้ในมะเร็งลำไส้คือ 79 ครับและรายนั้นได้ฉายแสงร่วมด้วย ยอมรับว่าหมอเองยังกลัวแต่ก็พอผ่านไปได้ครับ จากคุณ : oncodog เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 54 16:00:11

ความคิดเห็นที่ 9 ที่แก่ที่สุดที่ผมเคยให้ในมะเร็งลำไส้คือ 79 ครับและรายนั้นได้ฉายแสงร่วมด้วย ยอมรับว่าหมอเองยังกลัวแต่ก็พอผ่านไปได้ครับ กลัวด้วยคนครับ  67 ปี ของพ่อนี่บางทีโทรมมากจนน่ากลัว และน่าเวทนามาก เห็นแล้วก็คิดถึงคำพระท่านว่า "เรามีความ เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็น ธรรมดา จากคุณ : ผู้ชำนาญการด้านความเหงา เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 54 19:49:14

ความคิดเห็นที่ 10 ทานไข่เยอะๆนะคะ เน้นไข่ขาวค่ะ ไข่แดงคอเลสเตอรอลเยอะเกินไปไม่ดีค่ะ ไข่ช่วยให้เกล็ดเลือด (อะไรสักอย่างจำไม่ได้) ไม่ต่ำค่ะ ถ้าต่ำจะให้คีโมไม่ได้ ตอนแม่เรา แรกๆ 3ฟอง หลังๆวันละโหลค่ะ แต่ทานเป็นไข่ลวกค่ะ เพราะจะได้ไม่อิ่มเกินไป ทานอย่างอื่นได้อีก ถ้าเป็นไข่ต้มจะอิ่มเร็วค่ะ ตอนให้คีโมแม่เราไม่โทรมนะคะ อาจจะเป็นเพราว่ากำลังใจดี และไม่รู้ว่าตัวเองป่วยด้วยมั้งคะ คือไม่ได้บอกว่าเป็นมะเร็งและเค้าก็จะไม่ค่อยรู้ด้วยค่ะ คนแก่ วันๆมีแต่ขายของเก็บเงินค่ะ อย่าทานหมู และซุปไก่สกัดที่เป็นขวดๆแพงๆ นี่ห้ามเด็ดขาด ขนาดคนธรรมดาๆอย่างเราๆหมอยังไม่แนะนำเลยค่ะ หายไวๆนะคะ อยู่ที่กำลังใจจริงๆค่ะ จากคุณ : สาวน้อยเหล็กดัดฟัน เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 54 20:27:28

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณมากครับ คุณ สาวน้อยเหล็กดัดฟัน  ตอนแรกๆก็ไม่มีใครกล้าบอก แต่คุณพ่อก็เหมือนจะรู้แล้วล่ะ   ข้อสุดท้ายที่ห้าม หมู ไก่ นี่ขัดใจพ่ออย่างแรงครับ ทุกมื้อต้องมีเนื้อสัตว์ แต่ตอนนี้ก็ลดลงได้เยอะ แล้ว บางมื้อแค่ข้าวไข่เจียวธรรมดา ก็ได้แล้ว ขอบคุณมากครับจะนำไปปรับใช้นะครับ   จากคุณ : ผู้ชำนาญการด้านความเหงา เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 54 01:35:17