Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
++ KAEW ไดอารี่ ++ ชีวิตสวนกระแส ต้องอดทน ติดต่อทีมงาน

สวัสดีค่ะ

มารายงานตัวเป็นระยะๆเช่นเคยว่ายังมีชีวิตอยู่  แต่เนื่องด้วยงานยุ่งมากๆๆ เลยไม่ค่อยได้เข้ามาโพสกระทู้อะไร  เรื่องสุขภาพร่างกายก็แข็งแรง บึกบึนมากๆค่ะ  หนัก 70  แล้วอ่ะ  เป็นผู้ติดเชื้อ HIV ที่ประสบความสำเร็จในการติดเชื้อ และดูแลตัวเองมากๆ  มากจนต้องบ่นกับเพื่อนว่า  \"ซวยแล้ว  สงสัยต้องอยู่จนแก่\"

ที่ว่า ซวยแล้ว  เพราะ ไม่คิดว่าจะได้แก่ตาย  ไม่คิดว่าจะอยู่นาน เมื่อ 10 ปีก่อนตอนเรียนจบปริญญาโท แล้วตรวจเจอว่ามี HIV แถมภูมิคุ้มกันเหลือแค่ 69 ตัว ไม่มีเงินซื้อยากิน ไม่มีงานทำ  แฟนก็รีบตายภายใน 3 เดือน คือชีวิตช่วงนั้นแย่สุดๆ ก็เลยคาดว่าตัวเองคงมีชีวิตอยู่ได้ไม่เกินปี เพราะมันแทบไม่มีภูมิคุ้มกันแล้ว จึงเดินสายทำบุญ เตรียมตัวตายอย่างเดียว

เผลอแป๊บเดียว ผ่านไป 10 ปีเต็มๆ มีนาคมปีหน้าก็เข้า 11 ปีแล้ว  เราก็ยังอยู่ แถมด้วยแข็งแรงมากๆๆๆ 6 ปีแรกของการติดเชื้อ ไม่ได้กินยาเลย และภูมิคุ้มกันต่ำกว่า 100 ตลอด มันก็ไม่ป่วย ไม่ตาย ไม่มีอาการ  พอภูมิตกเหลือ 9 แล้วมียาฟรีกินก็กิน  ถึงได้เริ่มป่วยกับเข้าบ้าง เพราะแพ้ยาแทบตาย  แต่ก็แค่ 3 เดือนแรก  แล้วก็กลับมาเป็นถึกควายทุย เหมือนเดิม

เพิ่งจะได้นอนโรงพยาบาลครั้งแรกในชีวิต(หลังจากเกิดมา) ก็เมื่อตุลา ปีก่อน เนื่องด้วยกินยาต้านหนักไปหน่อย  ไตเลยอักเสบ  แต่พอหายแล้ว ก็เหมือนเดิม แข็งแรงมาก แถมอ้วนนนนนนนนนนนนนน ด้วย

ตอนนี้แอบโทษน้ำเกลือของโรงพยาบาลอยู่  ปีก่อนได้ไปเป็นสิบขวด คาดว่าจะมีผลให้ตัวฟูถึงขนาดนี้ (ใช่รึเปล่าหว่า) แต่การตัวโตขนาดนี้ก็ดีนะคะ  ไม่เคยมีใครสงสัยว่าเราเป็นผู้ติดเชื้อ  ไม่มีใครคิดหรอกว่า บึกบึนยังกะนักยกน้ำหนัก จะเป็นเอดส์ได้

บางทีเวลามีแขกมาเยี่ยมเด็กกำพร้าที่ติดเชื้อ HIV ที่บ้านแกร์ด้าที่เราทำงานอยู่  เขามักจะถามเราว่า ไม่กลัวเหรอจ๊ะ มาทำงานกับผู้ติดเชื้อ  คือเขาคิดว่าเราอ่ะไม่ติด แต่ดันไปคิดว่าเพื่อนที่ตัวเล็กๆ ดำๆ ดูมอมๆ ว่าคนนั้นอ่ะติด จริงๆเพื่อนไม่ได้ติดเชื้อสักหน่อย แค่หน้าเหมือนเท่านั้นเอง

การที่อยู่มานานขนาดนี้ มันก็มีปัญหาเยอะค่ะ  เพราะอย่างที่บอก เราไม่เคยเตรียมการไว้สำหรับการมีชีวิตอยู่นานๆ  ก็เลยไม่ดิ้นรนหางานประจำทำในตอนช่วงแรกๆ  เพราะคิดว่าเดี๋ยวก็ตายแล้ว และบวกกับโชคร้าย ลองสมัครงานที่ไหนเขาก็ตรวจ HIV ทุกที่เลย ก็เลยเลิกหางาน

เหมือนมันเกิดไม่ตาย  คราวนี้ยุ่งหล่ะซิ  จะเอาอะไรกินหล่ะเนี่ย  ชีวิตเริ่มรู้สึกไม่มั่นคง  แต่มันสายไปแล้ว ที่จะหางานประจำ เงินเดือนปกติ แบบคนอื่นๆเขา

ตอนนี้เราก็มีงานทำ แต่เงินเดือนไม่ปกติ เพราะมันเป็นงานการกุศลอ่ะ เงินเดือนก็เป็นเงินเดือนเอื้ออาทร จิ๊บๆๆ  ช่วงนี้เลยจิตตกเยอะ เพราะรัฐบาลโปรโมตเรื่องเงินเดือนขั้นต่ำ ป.ตรี ต้องได้หมื่นห้า  ตูจบโทมาแท้ๆ เงินยังไม่ถึงหมื่นเลย

เจ้าความรู้สึกน้อยใจในชีวิต มันเลยกลับมาหลอกหลอนอีกที  มันก็คิดไปเรื่อยว่า ทำไมเราต้องมี HIV นะ เราไม่เคยมั่ว ไม่เคยสำส่อน เรามีแฟนคนเดียว และ กำลังจะแต่งงานกัน  ทำไมต้องเป็นเราที่เป็นอย่างนี้

แต่ก็น้อยใจเป็นพักๆอ่ะคะ  โชคดีที่เป็นคนไม่เศร้านาน เราก็พยายามมองหาข้อดีของชีวิตผู้ติดเชื้อ แบบเรา มันก็มีเหตุมีผล มีข้อดีอยู่บ้างนะ

อย่างแรก เขาอาจจะลิขิตไว้แล้ว ว่ามันควรมีผู้ติดเชื้อที่มีชีวิตไม่เหมือนใครบ้าง ลำบากบ้าง เอาไว้เป็นตัวอย่างให้คนอื่นดูว่า เอดส์มันน่ากลัวนะ เป็นแล้วชีวิตมืดมัว เพราะถ้ามีแต่ผู้ติดเชื้อที่โชคดี มีความสุข ยังทำงานปกติ เงินเดือนดีๆแบบคนทั่วไปได้ทั้งหมด เอดส์ก็ไม่น่ากลัวอ่ะดิ   ..  แต่ก็สงสัยว่า ทำไม่ต้องเป็นเรานะ ที่มาเป็นตัวอย่างเรื่องนี้

ส่วนข้อดีของชีวิตที่ไม่ต้องทำงานประจำ ก็คือ มีอิสสระสูง วันหยุดเยอะ(แลกกับเงินเดือนน้อยๆ งัย)  และงานการกุศลแบบนี้ มันก็คิดได้ว่า ได้ทำบุญไปด้วยอ่ะนะ

โดยปกติ เราก็อยู่ของเราได้กับชีวิตง่ายๆ ต้นทุนต่ำแบบที่เรามี  แต่ในความที่ยังเป็นคน ยังมีกิเลส มันก็แอบๆวอกแวกบ้าง หวั่นไหวบ้าง น้อยใจบ้าง เวลาเห็นผู้คนที่เขาสุขสบาย หรูหรา ฟุ้งเฟ้อ ได้เงินมาแบบง่ายๆ จะใช้อะไรไม่ต้องคิดมาก ไม่ต้องคิด 80 ตลบก่อนซื้อเหมือนเรา

นี่คือเหตุผลนึงที่เราไม่พยายามติดต่อคบหาเพื่อนเก่าๆ สมัย ปริญญาตรี ปริญญาโท เลย เพราะเดี๋ยวจิตตก อาการน้อยใจกำเริบ และขี้เกียจโกหกเรื่องทำงานอะไรอยู่ จะบอกเพื่อนว่าเป็นเอดส์ก็ไม่กล้า ก็เลยเลิกคบเพื่อน

แต่เราก็ยังมีเพื่อนอีกเยอะจากในเว็บ จากเพื่อนที่อ่านหนังสือเอดส์ไดอารี่ของเรา  เพื่อนพวกนี้ เขารู้อยู่แล้วว่าเราเป็นอะไร แล้วยังเต็มใจมาคบกัน  อยู่ด้วยแล้วมันอบอุ่น  มีความสุข มีกำลังใจอ่ะนะ

แต่การมีชีวิตที่สวนกระแสวัตถุนิยมแบบเรา  มันต้องใช้ความเข้มแข็งและอดทนมากๆ  เราว่ามันเป็นบทเรียนในการทดสอบจิตใจอ่ะเนอะ ถ้าสอบผ่านได้ เราว่าเก่งนะ

ทุกวันนี้ เรามีกิจกรรม เรียนพิเศษบางอย่าง ที่เพื่อนร่วมห้องเรา ไม่รู้ว่าเราติดเชื้อ ไปเรียนทุกวันก็ต้องแอบกินยาต้านในห้องน้ำทุกวัน  เพื่อนชวนไปค้าง ไม่เที่ยวทะเล ก็ไม่กล้าไป กลัวเพื่อนเห็นขาลายจากอาการแพ้ยุง กลัวเพื่อนเห็นตอนกินยา แต่ถ้าไปกับเพื่อนๆในเว็บก็ไม่ต้องกังวลอะไร สบายๆ

เวลาเราไปเรียน เราปิดมือถือ เก็บใส่กระเป๋าเลย ส่วนของคนอื่นเขาวางบนโต๊ะ ก็ของเขามัน Smart phone , BB หรือ กระดานชนวนอิเลคโทรนิค  กันทั้งหมดนี่  เรามีโทรศัพท์ 2 เครื่อง เครื่องส่วนตัวเป็น silly phone ยังใช้แบบกดๆๆๆ อยู่เลย  อีกเครื่องสำหรับให้คำปรึกษาเรื่อง HIV เครื่องนี้เป็น stupid phone แต่มันเป็นไฟฉายได้นะ

เวลาเพื่อนในห้องคุยเรื่องโบนัส ซื้อหุ้น ซื้อกองทุน ซื้อโน่นนี่นั่น  เราก็เดินไปหาขนมกิน อยู่ฟังด้วยแล้วมันหวั่นไหว

ก็ปลอบใจตัวเองอยู่ทุกวันว่า การมีชีวิตเรียบง่ายพออยู่พอกินพอเพียง มันก็ดีน๊า  เราก็มั่นใจว่ามันดี แต่การมาตกอยู่กลางวงล้อมของกระแสวัตถุนิยม มันต้องต่อสู้กับใจตัวเอง สู้กับกิเลส ต้องมีความอดทนสูง  แต่เราก็ว่าเราคงจะผ่านไปได้(มั้ง)

เขียนมาตั้งนาน   จะมาลาด้วยค่ะ  ลาไปเติมวิตตามินบำรุงใจ พอดีวันศุกร์ที่จะถึงนี้ วันเกิดเรา ช่วงวันเกิดทุกปี เราจะไปปฏิบัติธรรม 1 อาทิตย์ ให้ของขวัญกับตัวเอง และเติมความเข้มแข็งของใจ  จะเดินทางบ่ายนี้แล้วค่ะ  อนุโมทนาบุญกันด้วยนะคะ

กลับมาอาทิตย์หน้า ใจคงจะเข็มแข็งมาต่อสู้กับกิเลสได้อีกรอบจ้า   ไปเก็บของก่อนหล่ะน๊า  บายค่ะ

จากคุณ : ++MooKaew++
เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 54 09:07:54




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com