ความคิดเห็นที่ 1 เดินก่อนครับ เบาๆสัก 10 นาที แล้วค่อยเดินเร็ว อีก 10 นาที จากนั้นปั่นจักรยานต่ออีกซัก 10 นาที แล้วเริ่มคูลดาล์วอีก 5 นาที ปฏิบัติแบบนี้ซัก 2 อาทิตย์ให้ข้อเข่าเริ่มชิน แล้วค่อยขยับ เป็น เดินช้า 10 นาที เดินเร็ว 10 นาที ต่อด้วยเริ่มจ็อกกิ้ง สัก 5-10 นาที แล้วไปปั่นจักรยานอีก 15 นาทีึ  ที่แนะนำแบบนี้เพราะกลัวว่า จขกท. เข่าจะไปก่อน ถ้าวิ่ง แล้วรู้สึกเสียวเข่าให้หยุดครับ เปลี่ยนเป็นเดินเร็วแทนหรือปั่นจักรยาน สักสองสามเดือนจึงค่อยวิ่งเต็มที่ อย่าเร่งครับ คนรู้จักกันหักโหมมาก วิ่งเลยโดยไม่รอการพัฒนาของเอ็นข้อเข่า ผ่าตัดไปสองสามคน ข้อให้โชคดีครับ ถ้าชอบวิ่งจริงๆ คำแนะนำละเอียดในเวบ ไทยรันนิ่ง ข้อมูลเพียบ จากคุณ : TriNergy เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 10:45:49

ความคิดเห็นที่ 2 อุปกรณ์ในฟิตเนส แบ่งเป็น2โซนครับ 1.เล่นเพื่อสร้างกล้ามเนื้อ 2.กิจกรรมที่เป็น cardio ได้แก่ เดินเร็ว วิ่ง ปั่นจักรยาน บางคนก็เข้ามาเพื่อ ทำcardio อย่างเดียว ก็เริ่มจาก วอล์มอัพด้วยการเดินเร็ว และเพิ่มสปีดเป็นจ็อกกิ้ง ตบท้ายด้วยคูลดาวน์ รวมแล้วอย่างละ10นาที คือ วอล์มอัพเพื่อให้ เส้นเอ็นและข้อต่อ มีความพร้อมที่จะรับการทำงาน แล้วเพิ่มสปีด เพื่อให้เหนื่อยขึ้น เป็นการทำcardio (คือหัวใจเต้น 70%ขึ้นไป ของMHR) แล้วคูลดาวน์เพื่อไล่กรดแลคติก และคลายกล้ามเนื้อ บางคนก็เข้ามาเล่นเวท ก็เริ่มจาก วอล์มอัพด้วยการเดินเร็ว 10นาที และก็เดินไปหา เครื่องเล่นต่างๆ เพื่อเล่นเวท แล้วแต่ว่า ในวันนั้น เค้ามีโปรแกรมที่จะเล่นกล้ามเนื้อ ไหล่ หน้าแขน หลังแขน อก ท้อง หลัง ต้นขา น่อง เป็นกล้ามเนื้อหลักๆ8ส่วน โดยส่วนมาก จะเล่นแค่1ท่า ต่อกล้ามเนื้อ1ส่วน เพราะส่วนมาก ยังเป็น นักเพาะกายขั้นต้น แต่ถ้าเล่นมาจริงจัง หุ่นล่ำมากขึ้น ก็จะเล่น3-4ท่า ต่อกล้ามเนื้อ1ส่วน (เรียกว่า นักเพาะกายขั้นกลาง) จากคุณ : Patriots เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 12:22:55

ความคิดเห็นที่ 3 กีฬาแบ่งเป็น2กลุ่ม 1.การออกกำลังกาย ด้วยกีฬาในกลุ่ม aerobic ได้แก่ จ็อกกิ้ง ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน ฯลฯ ทำแล้ว เพิ่มความแข็งแรงของ ปอด หัวใจ และระบบหลอดเลือด โดยไม่ต้องเหนื่อยมาก แต่อาศัยว่าทำนานๆ (จะสังเกตุได้ว่า ความเหนื่อยคนเรา แบ่งเป็น เหนื่อยน้อย เหนื่อยกลางๆ เหนื่อยมาก) ปล.ตรงนี้ เวลามีคนพูดว่า ไปทำแอโรบิก จึงไม่จำเป็นต้อง แปลว่า เต้นแอโรบิก เสมอไป 2.กีฬาในกลุ่ม anaerobic  ได้แก่ เล่นเวท เพื่อเพิ่มกล้ามเนื้อ ประโยชน์พื้นฐานคือ มีกล้ามเนื้อมาพยุง ไม่ให้ภาระการรับน้ำหนัก ไปตกกับกระดูก มากนัก ปล.แต่การเล่นเวท ต้องระวังการบาดเจ็บ เส้นเอ็นและข้อต่อ จากคุณ : Patriots เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 12:32:57

ความคิดเห็นที่ 4 ถ้าเรา เคยสังเกตุความเหนื่อย หรือดีกว่านั้นคือ มีนาฬิกาวัดชีพจร (heart rate monitor) เราก็สามารถ เล่นกีฬาอะไรก็ได้ เพื่อให้เหนื่อยกลางๆ (ไม่ต้องเหนื่อยมาก แต่ทำนานๆ) ซึ่งกิจกรรมแบบนี้ เค้าเรียกว่า การทำcardio ปล.จะสังเกตุได้ว่า ความเหนื่อยคนเรา แบ่งเป็น เหนื่อยน้อย เหนื่อยกลางๆ เหนื่อยมาก ตลอดเวลาของการ cardio ร่างกายจะใช้ทั้ง แป้ง โปรตีน ไขมัน มาเป็นพลังงาน อยู่ที่ว่า ตอนไหน จะใช้อะไรมากกว่า (ขึ้นอยู่กับ ระดับความเหนื่อย) เช่น เราเลือก cardio โดยการ เดินเร็วบนลู่วิ่งไฟฟ้า 10-15นาทีแรก ร่างกายจะใช้แป้ง เป็นเชื้อเพลิง ในส่วนมาก (ไกลโคเจนในกล้ามเนื้อ) ทีนี้ พอไกลโคเจนในกล้ามเนื้อต่ำลง ร่างกายจะหันไปใช้ ไขมัน เป็นเชื้อเพลิงในส่วนมาก ตรงนี้เป็นนาทีทอง ของการเบิร์นไขมัน ให้ทำต่อไป20-30นาที แล้วแต่ความอ่อนล้า ถ้าทำcardio นานเกินไป หรือเพิ่มความหนักหน่วง/เหนื่อย ร่างกายจะหันไป สลายกล้ามเนื้อมาเป็นพลังงาน มากขึ้น (คนเล่นเวทไม่ชอบให้กล้ามเนื้อหาย) เช่น เริ่มวิ่งเร็วขึ้น ดังนั้น ถ้าเราเหนื่อยกลางๆอยู่แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องเพิ่มสปีด ความเร็ว คำว่าเหนื่อยกลางๆ ก็คือ อัตราการเต้นของหัวใจ 65-75% ของ max heart rate เช่น นายrobert อายุ20 max heart rate ก็คือ เอา220 ลบด้วยอายุ 220-20 = 200 65-75% ของ max heart rate ก็คือ = 130-150 bpm (อัตราการเต้นหัวใจ ต่อ1นาที) จากคุณ : Patriots เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 12:34:13

ความคิดเห็นที่ 5 แบบที่คุณ TriNergy บอกครับ ให้เล่นเบาๆไปก่อน เมื่อร่างกายพร้อม ก็ให้เล่นหนักขึ้น นานขึ้น การลดน้ำหนัก คือเราตั้งใจจะเบิร์นไขมัน ตรงนี้มาถูกทางแล้วครับ เนื่องจาก ผู้หญิงมักจะคุยกันว่า บริหารท่าไหนดี ให้ต้นขาเล็กลง แต่จริงๆ ถ้าเราเบิร์นไขมันออก ต้นขาก็จะเล็กเอง _________________________________________ ข้อดีของการใช้จักรยานไฟฟ้า หรือลู่วิ่งไฟฟ้าก็คือ เรามีระดับ ความเหนื่อยที่ต่อเนื่อง ซึ่ง อัตราการเต้นของหัวใจ (ความเหนื่อย) ในระดับ 65-75% ของmax heart rate ถือว่าพอเพียงต่อการเบิร์นไขมัน ถ้าเราจะทำความเหนื่อย ขึ้นไปที่ระดับ80-85% ก็ขอให้ทำเป็นครั้งคราว 1-2นาที เพื่อเพิ่มความเหนื่อย แล้วค่อยลดลงมา เพราะถ้าเหนื่อยมาก ร่างกายจะสลายกล้ามเนื้อ มาเป็นพลังงาน มากขึ้น จากคุณ : Patriots เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 12:35:53

ความคิดเห็นที่ 6 ขอบคุณ คุณ Patriots มากเลยนะครับ อ่านแล้วได้ความรู้เยอาะมากเลยครับ จากคุณ : น้าหมีอ้วน เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 19:27:45

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบคุณทุกๆคนมากเลยค่า อ่านแล้วกระจ่างเลย จะนำไปปฏิบัติค่า จากคุณ : คนตุ้ยนุ้ย (คนตุ้ยนุ้ย) เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 22:33:02