|
สัญญาณเตือนครั้งที่หนึ่ง, 5 สิงหาคม 2554 ตั้งใจว่าวันรุ่งขึ้นจะพาคุณพ่อไปเที่ยวทะเลพัทยากัน ตอนกลางวันแม่โทรบอกว่าวันนี้พ่อมีไข้สูง แม่ให้ยาลดไข้ และเช็ดตัวให้อยู่ ตอนเย็นลูกกลับจากงานพ่อไข้ลดแล้ว แต่ดูกระสับกระส่าย สามทุ่มพ่อดูเหนื่อยมากขึ้น สี่ทุ่มดูดเสมหะแล้วยังไม่ดีขึ้น เราจึงพาคุณพ่อไป รพ.แพทย์ปัญญา คุณหมอให้คุณพ่อเอ็กซเรย์ปอด และนอนไอซียู ให้ออกซิเจนและยาขยายหลอดลม ตอนนี้คุณหมอให้ออกซิเจนเต็มที่แล้ว แต่มีแนวโน้มที่คุณพ่อจะเหนื่อยมากขึ้น คราวนี้มาจากตัวมะเร็งไม่ใช่ปอดอักเสบเหมือนครั้งที่แล้ว คุณหมอถามเราว่าจะใส่ท่อช่วยหายใจหรือไม่ ลูกกับแม่ตัดสินใจว่าเราจะไม่ยื้อคุณพ่อไว้ เพราะคุณพ่ออยู่เพื่อเรามามากแล้ว เราไม่อยากให้ท่านเหนื่อยเพื่อเราอีกแล้ว อยากให้ท่านได้พักอย่างสงบ จะไม่มีการใส่ท่อช่วยหายใจและจะไม่ปั๊มหัวใจท่าน เวลาของคุณพ่อคงมาถึงแล้ว
เมื่อตัดสินใจไม่ใส่ท่อช่วยหายใจสองวันต่อมาคุณหมอจึงขอย้ายคุณพ่อมานอนห้องเดี่ยว เพื่อสงวนเตียงไอซียูสำหรับคนไข้อื่นที่จำเป็นกว่า คุณพ่อได้รับยาฆ่าเชื้อ น้ำเกลือ ออกซิเจน ยาละลายเสมหะ ยาขยายหลอดลม และอาหารทางสาย จนวันที่ 21 สิงหาคม 2554 คุณพ่อจึงได้กลับบ้านอีกครั้ง แต่ยังต้องให้ออกซิเจนตลอดเวลา สองวันต่อมาคุณพ่อดูแย่ลง เหนื่อยมากขึ้น 24 สิงหาคม 2554 คุณพ่อต้องกลับไปที่ รพ. อีกครั้ง
วันที่ 7 กันยายน 2554 คุณพ่อมือบวมนิดหน่อย เส้นเลือดเปราะให้ยาและน้ำเกลือทางเส้นแทบไม่ได้ รับอาหารไม่ได้ตามมื้อที่กำหนด ซึมลง คุณหมอให้เจาะเลือด ผล Albumin ต่ำ คุณหมอสั่ง Albumin ให้คุณพ่อ 10 ขวด พร้อมให้เลือดอีก 1 ถุง ผ่านไปสามวันคุณพ่อดูดีขึ้นมาก ดูสดชื่นขึ้น
สัญญาณเตือนครั้งที่สอง วันที่ 11 กันยายน 2554 คุณพ่อดูซึมลง นอนมากขึ้น ลูกต้องคอยเรียกท่านเรื่อยๆ ลืมตาแล้วก็หลับต่อ รับอาหารทางสายได้น้อยลง เสมหะเยอะ เหนื่อยมากขึ้น คุณหมอสั่งเอ็กซเรย์ดูอีกครั้ง วันจันทร์ที่ 12 คุณพ่อดูซึมมากขึ้น หลับและไม่ค่อยรู้สึกตัว คุณหมอมาตรวจแล้ว เรียกคุณพ่ออยู่นานกว่าท่านจะลืมตา คุณหมอบอกว่าพ่อดูไม่ค่อยไหวแล้ว น่าจะภายในวันสองวันนี้ ให้ตามญาติมาเยี่ยมเลย หมองดอาหารและน้ำเกลือเพื่อให้มีสิ่งรบกวนท่านน้อยที่สุด ใจลูกหายวาบเมื่อนึกถึงว่าเวลาของท่านมาถึงแล้วจริงๆ ถึงเวลาของคุณพ่อแล้วหรือ ลูกไม่ขอปาฏิหาริย์ใดๆ ทั้งนั้น ลูกขอเพียงสิ่งเดียวขอให้คุณพ่อจากไปอย่างสงบไม่เจ็บปวดทรมาน
เมื่อผ่านสองวันนั้นไป คุณพ่อกลับมีแรงฮึด ดีขึ้นเรื่อยๆ ลูกขอลองฟีดอาหารท่าน ครั้งนี้ท่านรับอาหารได้ดี อาการท่านดีขึ้นจนคุณหมอพูดเต็มปากว่าคุณพ่อดีขึ้น ตอนนี้เราดูแลคุณพ่อเองแทบทุกอย่าง ทำความสะอาด เช็ดตัว ป้อนข้าว ป้อนยา รวมถึงดูดเสมหะด้วย ทุกครั้งที่ดูดเสมหะให้คุณพ่อ ใจลูกมันจะขาดตามไปด้วยทุกครั้ง คุณพ่อไม่บ่นซักคำ แต่ความเจ็บทำให้ท่านน้ำตาซึม เข้าใจแล้วว่าอยากเจ็บแทนกันนั้นมันเป็นอย่างไร เวลาที่คุณพ่อต้องเจาะเข็มน้ำเกลือใหม่ครั้งแล้วครั้งเล่า เพราะเจาะไปกี่ครั้งเส้นเลือดก็แตกต้องเจาะใหม่ ใจลูกจะขาดซะให้ได้สงสารท่าน ท่านไม่บ่นได้แต่นิ่วหน้าด้วยความเจ็บ พยาบาลชมเสมอว่าคุณพ่ออดทนและใจสู้มาก
สัญญาณเตือนครั้งที่สาม สองสามคืนมานี้คุณพ่อมักจะตื่นกลางดึก กระวนกระวาย เรียกลูกมากอด ลูกกอดพ่อไว้แล้วบอกท่านว่า พ่อไม่ต้องกลัวนะลูกอยู่ตรงนี้แล้ว ถ้าพ่อเหนื่อยก็นอนพักไม่ต้องห่วงอะไรทั้งนั้น ถ้าไม่ไหวก็ไม่เป็นไรนะพ่อ ได้แค่ไหนก็แค่นั้น ร่างกายนี้ถ้ามันไม่ดีแล้ว มันผุพังแล้ว ก็ทิ้งมันไปเถอะ อย่าไปเสียดายเลยนะพ่อ ลูกพ่นยาขยายหลอดลมและดูดเสมหะให้ท่าน สวดมนต์ให้ท่านฟัง ดูท่านสบายขึ้น และหลับได้ เมื่อลืมตาตื่นขึ้นก็จะเรียกลูกมากอดเช่นเดิม
เมื่อคืนนี้พ่อดูหลับสบายกว่าทุกวัน เช้าวันที่ 21 กันยายน 2554 เช็ดตัวเสร็จแล้วคุณพ่อรับอาหารเช้าได้ตามปกติ ก่อนที่จะหลับต่อ วันนี้คุณหมอยังสู้ไม่ถอยให้ Albumin และเลือดคุณพ่ออีกครั้ง เพราะ Albumin ต่ำและซีด ตอนเย็นกลับจากทำงานก็มาเช็ดตัวให้ท่าน ดูดเสมหะให้เหมือนเดิม ครั้งนี้ท่านเหนื่อยกว่าทุกครั้งเหมือนจะขาดใจ ลูกก็ถามว่าพ่อไหวมั๊ย ทุกครั้งพ่อจะพยักหน้าแต่ครั้งนี้พ่อส่ายหน้า เมื่อให้ออกซิเจนเพิ่มแล้วท่านก็ดีขึ้น พอฟีดอาหารและยาเสร็จก็บอกให้ท่านนอนพัก เดี๋ยวพี่สาวมาแล้วจะปลุก แม่บอกว่าวันนี้ท่านถามหาลูกๆ ทั้งวัน เมื่อพี่สาวมาก็ปลุกพ่อ ท่านก็ลืมตานั่งมองพวกเราไม่หลับต่อ ประมาณสองทุ่มครึ่งลูกบอกพ่อว่าลูกพาแม่ไปนอนก่อนนะ (แปลว่า จะกลับบ้านแล้ว) พรุ่งนี้เจอกัน ทุกวันพ่อจะพยักหน้ารับ แต่วันนี้พ่อกลับมองเฉยๆ เหมือนยังไม่อยากให้กลับ คุณพ่อมองตามจนเราเดินพ้นประตูไป
ประมาณสามทุ่มครึ่ง พี่สาวโทรมาบอกคุณพ่อดูไม่ดีเลย ตอนนี้ตามหมอแล้ว เมื่อเรามาถึงปอดคุณพ่อไม่ทำงานแล้ว มีเพียงหัวใจที่เต้นแผ่วๆ เท่านั้น คุณหมอบอกว่าให้ท่านค่อยๆ หลับไปอย่างนี้ดีกว่า ลูกก็บอกคุณพ่อว่า คุณพ่อหลับให้สบาย ไม่ต้องเป็นห่วงแม่ ลูกและพี่สาวจะดูแลคุณแม่ให้เอง จะดูแลให้ดีเหมือนที่ดูแลคุณพ่อ แล้วก็สวดมนต์บทที่ท่านชอบสวดบ่อยๆ ให้ท่านฟัง ดวงตาคุณพ่อหลับสนิท ไม่มีความกังวลหรือร่องรอยความเหน็ดเหนื่อยบนใบหน้าของท่านอีกแล้วการเดินทางของท่านสิ้นสุดลงแล้ว...
คุณพ่อได้แสดงความจำนงขอบริจาคร่างกายให้กับสภากาชาด ท่านเตรียมตัวของท่านพร้อม น้ำหนักของท่านได้ตามเกณฑ์ ไม่ผอมลีบ แขนขาของท่านเหยียดตรง ผลเลือดของท่านผ่านตามเกณฑ์ทุกตัว ร่างของท่านถูกส่งต่อไปที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์เพื่อให้นักศึกษาได้เรียน ส่วนหัวใจของท่านอยู่ในหัวใจของลูกและแม่ตลอดไป...
ขอขอบพระคุณคุณหมออรดี จากเวชศาสตร์ครอบครัว รพ.รามาฯ กรุณามาเยี่ยมครอบครัวเราที่บ้านเสมอ และคุณหมอวสันต์ จากจิตเวช รพ.รามาฯ สำหรับคำแนะนำดีๆ และกำลังใจ ขอบพระคุณคุณหมอจากสถาบันมะเร็งและ รพ.จุฬาภรณ์ สำหรับคำแนะนำดีๆ แนวทางการดูแลที่ทำให้คุณพ่ออยู่กับเราได้นานถึงเกือบสองปี
ขอบพระคุณคุณหมอรุ่งลัดดา และคุณหมอสนั่น จาก รพ.แพทย์ปัญญา ที่กรุณาดูแลคุณพ่อเป็นอย่างดีตลอดเวลาที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ โดยเฉพาะคุณหมอรุ่งลัดดาที่กรุณาพาคุณพ่อผ่านพ้นวิกฤติมาหลายครั้งและไม่เคยยอมแพ้
ขอบคุณพี่ๆ พยาบาล และน้องๆ ผู้ช่วยพยาบาล และเจ้าหน้าที่ รพ.แพทย์ปัญญาทุกท่านที่ช่วยดูแลคุณพ่อเป็นอย่างดีตลอดเวลาที่ท่านพักรักษาตัวที่นั่น
แก้ไขเมื่อ 03 ต.ค. 54 16:59:05
แก้ไขเมื่อ 02 ต.ค. 54 20:32:04
แก้ไขเมื่อ 02 ต.ค. 54 19:03:54
จากคุณ |
:
นิจจังสังขารนั้นไม่เที่ยง
|
เขียนเมื่อ |
:
2 ต.ค. 54 18:57:01
|
|
|
|
|