ความคิดเห็นที่ 1 อยากรู้เหมือนกันค่ะ ถ้าเป็นที่กรามนี้เกิดจากการใช้โทรศัพท์รึเปล่านะ จากคุณ : ดอกเงาะป่า เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 54 09:08:56

ความคิดเห็นที่ 2 ยาสระผม กับ ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผม จากคุณ : พียอร์น้อยต่อยเตะ เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 54 09:53:23

ความคิดเห็นที่ 4 อาจมาจากการล้างหน้าไม่ทั่ว ไม่สะอาดพอ ชอบเท้าคาง  ใช้ผลิตภัณฑ์ใส่ผม แต่ก่อนเคยเป็น บีเอ คสอ. ยี่ห้อนึงบอกว่า ให้คุณไปลองสังเกตว่า คุณล้างหน้าทั่วถึงหรือไม่ ส่วนมากคนจะเน้นส่วนกลางหน้า  ละเลยกรอบหน้า คาง  หลังจากนั้น  ก็พยายามทำความสะอาดหน้าให้ทั่วถึง มันก็ดีขึ้น  ลองดูนะคะ จากคุณ : Whereabouts เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 54 13:05:15

ความคิดเห็นที่ 5 ตาม คห.1 เลยฮะ จากคุณ : Jeja เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 54 15:58:41

ความคิดเห็นที่ 6 เคยเป็นเหมือนกันที่เดียวกันเลยค่ะ พอลองไปหาหมอ สอบสวนซักประวัติเสร็จหมอบอกว่าน่าจะแพ้ซิลิโคนในแชมพู คือแชมพูที่ช่วยให้ผมไม่ชี้ฟูจะมีส่วนผสมของซิลิโคนทำให้เกิดสิวอุดตัน ได้ยากลับมาบ้านรักษาไปพร้อมกับเปลี่ยนแชมพูเดือนเดียวหายเกลี้ยงค่ะ แถมอีกนิดสิวที่ขึ้นรอบๆปาก เช่นเดียวกัน ลองเปลี่ยนยาสีฟันแล้วจะดีขึ้น จากคุณ : blackhoney เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 54 16:23:41

ความคิดเห็นที่ 7 ตอนนี้ไงๆก็ขึ้นค่ะ เพราะว่า น้ำประปา มีกลิ่นเเถมคันด้วยนะคะ จากคุณ : doong เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 54 21:02:57

ความคิดเห็นที่ 8 หมอบอกสิวขึ้นบริเวณนั้นเนื่องมาจากฮอร์โมนอ่ะคับ จากคุณ : Hope_Better_Life เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 54 22:35:06

ความคิดเห็นที่ 9 ถ้าเปลี่ยนแชมพูแล้ว เปลี่ยนยาสีฟันแล้วไม่หาย เป็นมานาน ทายาไม่หาย อาจจะเป็นเพราะฮอร์โมนค่ะ ตอนวัยรุ่นเราไม่เป็นสิว พึ่งมาเป็นมากตอนเลยเลข ๓ มาอ่ะค่ะ ทายาหายก็เป็นใหม่ ปลอกหมอนก็ซักแล้ว ก็ยังเป็น แชมพูก็ใช้แต่แบบใส่ๆ ไม่เน้นซิลิโคน ไม่เน้นมัน เมื่อวานลองค้นดูเรื่องสิวฮอร์โมน เห็นว่าตรงสุด จากคุณ : โดดเดี่ยวผู้น่ารัก เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 54 22:57:04

ความคิดเห็นที่ 10 สิวสาวสามสิบนั้นส่วนใหญ่เป็นปัญหาในเรื่องของฮอร์โมนไม่สมดุล ซึ่งอาจแบ่งได้คร่าวๆเป็น ฮอร์โมนเพศชายเด่นเกิน มักมากันเป็นแพคเกจคือ อ้วน หน้ามัน ผมมัน ผมบาง สิวขึ้นโดยเฉพาะช่วงขากรรไกร อาจสัมพันธ์หรือไม่สัมพันธ์กับรอบเดือนก็ได้ แต่ที่สำคัญคือรอบเดือนมักไม่ปกติ อาจตรวจเจอซีสต์ในรังไข่ ภาษาหมอๆจะเรียกภาวะนี้ว่า PCOS บางคนเป็นมากจะมีอาการทุกอย่างที่ว่ามาแบบจัดเต็ม แบบเดินเข้าห้อง โหงวเฮ้งPCOSก็เปล่งประกายออกมา บางคนเป็นน้อยก็มีแค่บางอาการ ตรวจภายในธรรมดาก็อาจไม่พบอะไร เจาะเลือดก็ยังไม่ได้ผลที่ฟันธง กรณีหลังจะวินิจฉัยและรักษาค่อนข้างยาก ฮอร์โมนเพศหญิงสองตัวไม่สมดุลกัน ปกติแล้วผู้หญิงเราจะมีฮอร์โมนนางเอกอยู่สองตัว คือ เอสโตรเจน และโปรเจสเตอโรน ถ้านางเอกสองคนมีบทเด่นเท่ากันร่างกายก็จะเกิดสมดุล แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นในกองถ่าย(ชักฟังดูตุๆ) เอาใหม่..ปัญหาที่เกิดขึ้นในร่างกายของผู้หญิงหลายคนคือ เจ้าฮอร์โมนเอสโตรเจนชอบที่จะแย่งเด่นเกินหน้าเกินตาโปรเจสเตอโรน ส่งผลให้ผู้หญิงหลายคนมีอาการPMS คือ หงุดหงิด งุ่นง่าน ฉุนเฉียว แน่นหน้าอก บวม กินจุ ซึมเศร้า และสิวระเบิดระเบ้อในช่วงก่อนมีรอบเดือน อ่านแล้วจี้ใจดำกันบ้างไหมคะ สิวที่คุณกำลังสู้รบด้วยอยู่นั้นเป็นสิวฮอร์โมนหรือไม่ เข้ากับประเภทหนึ่งหรือสอง สำหรับแนวทางการรักษาสิวทั้งสองประเภทในแบบที่คุณจะDo it yourselfได้นั้น มีความใกล้เคียงกันอยู่ หมอจึงขอสรุปรวบรัดตัดความสรุปออกมาเป็นข้อๆดังนี้ค่ะ ลดน้ำหนัก อันนี้เป็นข้อสำคัญที่ห้ามพลาด เพราะการกำจัดไขมันส่วนเกินออกจากร่างกายได้ จะช่วยนำความสมดุลและสงบสุขที่แท้จริงของฮอร์โมนกลับคืนสู่ร่างกายของคุณ ช่วยทั้งแก้ไขในผู้ที่มีภาวะPCOS และช่วยแก้ปัญหาฮอร์โมนเพศหญิงไม่สมดุลได้ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ การออกกำลังเป็นอีกวิธีที่ช่วยฟื้นคืนสมดุลให้กับฮอร์โมนได้ คำโบราณที่ว่า กีฬาๆเป็นยาวิเศษนั้น เป็นความจริงเสมอค่ะ ลดการรับประทานอาหารหวานๆ หรือให้เฉพาะเจาะจงกว่านั้นคือ อาหารที่มีค่าไกลซีมิกอินเด็กซ์สูง เพราะอาหารที่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดขึ้นเร็วนี้ จะกระตุ้นการหลั่งของฮอร์โมนอินซูลิน ทำให้ภาวะดื้ออินซูลินในผู้ที่มีPCOSแย่ลง ก่อให้เกิดการอักเสบในร่างกายมากขึ้น ลดการรับประทานอาหารที่อาจมีฮอร์โมนปะปน เช่น นมวัว เนื้อสัตว์ หลายการศึกษาพบว่า ผู้ที่รับประทานอาหารแบบมังสวิรัติ มีภาวะฮอร์โมนไม่สมดุลน้อยกว่าผู้ที่รับประทานเนื้อสัตว์ พยายามเลือกอาหารที่ ผ่านขั้นตอนการผลิตถูกหลัก ไม่มีการใช้ฮอร์โมนเจือปน เลี่ยงอาหารที่ปนเปื้อนยาฆ่าแมลง เพราะยาฆ่าแมลงเป็นสารในกลุ่ม ซีโนเอสโตรเจน (xenoestrogen) คือสารที่มีโครงสร้างคล้ายฮอร์โมนเพศหญิงเอสโตรเจน ส่งผลให้ภาวะไม่สมดุลของฮอร์โมนอลหม่านมากไปกว่าที่เป็นอยู่ นอกจากการดูแลรักษาด้วยตนเองแล้ว อาจลองปรึกษาแพทย์ถึงทางเลือกการรักษาโดยใช้ยาหรืออาหารเสริม ซึ่งมีหลายกลุ่มให้เลือกใช้ ต่างกันไปตามลักษณะความผิดปกติของฮอร์โมน ที่สำคัญที่สุดคือ อย่าหน้านิ่วคิ้วขมวด หรือเครียดกับปัญหาสิวมากเกินไป เดี๋ยวรักษาสิวหาย ต้องมาให้หมอฉีดโบท็อกซ์เพราะหน้าย่นจากความเครียดนะคะ http://www.pleasehealth.com/index.php?option=com_content&view=article&id=386:-anti-aging&catid=4:trendy-health&Itemid=6 จากคุณ : โดดเดี่ยวผู้น่ารัก เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 54 22:58:23

ความคิดเห็นที่ 11 ของเราแพ้ครีมนวดอ่า จากคุณ : หน้าแง๊ว~* เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 00:18:22

ความคิดเห็นที่ 12 ชอบเอามือมาเท้าคาง หรือชอบเอามือมาหนุนขมับหรือเปล่าค่ะ เพราะมือเรามีเชื้อโรคอยู่ ถ้าเป็นคนชอบเอามือมาเท้าหน้า เท้าคาง ก็ต้องปรับเปลี่ยนอิริยาบทค่ะ จากคุณ : fia_ เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 16:56:14

ความคิดเห็นที่ 13 อาจจะเกิดจากชอบเอามือเท้าคาง หรือจับหน้านะครับ ควรงดจับหน้าเลย เพราะมือคนเราสกปรกมาก และเวลานอน ถ้านอนตะแคงก็จะเป็นสิวที่คาง ใต้คางได้ง่าย แต่ก่อนผมก็ชอบนอนตะแคง แล้วสิวก็ขึ้นตรงกราม และคาง เลยต้องปรับพฤติกรรมการนอน หัดให้นอนหงาย ไม่นอนตะแคง หลังจากนั้นสิวก็ไม่ค่อยบุกครับ จากคุณ : pete_kk เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 15:10:11

ความคิดเห็นที่ 14 กำลังมีปัญหาเลยมาเจอ สิวขึ้นที่นู่น ที่นี่ บอกให้เรารู้อะไรบ้าง?   1. สิวขึ้นที่หน้าผาก : แบ่งเป็น 3 ส่วน บนสุดหมายถึงกระเพาะปัสสาวะ, ตรงกลางคือกระเพาะอาหารและส่วนล่าง                สุดบริเวณใกล้ๆ คิ้ว เกี่ยวข้องกับตับ คำอธิบายโดยรวมสำหรับสิว ที่ขึ้นหน้าผากคือ ร่างกายได้รับ                สารพิษ และพยายามขับออกมา แต่ถ้าขึ้นตรงหัวคิ้ว และขมับ จะเกี่ยวข้องกับต่อมหมวกไต                แสดงว่าคุณมีอาการเครียดจัด วิธีการแก้คือ ออกกำลังกาย และทำใจให้ผ่อนคลาย 2. สิวที่จมูกและแก้ม : บริเวณนี้สัมพันธ์กับปอด หากคุณเป็นหวัดคัดจมูกหรือ ภูมิแพ้ สิวจะขึ้น นอกจากนี้การดื่ม                แอลกอฮอล์ หรือ กินอาหารผสมเครื่องเทศ อาจทำให้เกิดผดผื่นแดง คล้ายสิว ขึ้นที่ แก้ม คอ                และหน้าอกด้วย 3. สิวรอบปาก : ลักษณะสิวนูนเม็ดเล็กๆ ส่วนใหญ่เกิดจากการแพ้ผลิตภัณฑ์ที่สัมผัสผิวหน้า ยิ่งกว่านั้น 1 ใน 10             ของผู้หญิงที่มีสิว ขึ้นรอบปากและคาง อาจมีสาเหตุมาจากภาวะผิดปกติของรังไข่ 4. สิวที่คาง : หากสิวขึ้นที่คางและใต้ริมฝีปากล่าง แสดงว่ารอบเดือนใกล้จะมา เพราะบริเวณนี้เกี่ยวข้องกับฮอร์โมนโดย            ตรง แต่ในบาง รายจะมีสิวขึ้นต่อเนื่องบริเวณนี้แม้ว่าประจำเดือนจะหมดแล้วก็ตาม 5. สิวที่ลำคอ : สิวที่ขึ้นบริเวณลำคอไปจนถึงใต้คางและ กราม สันนิฐานว่าต่อมหมวกไตทำงานหนัก ซึ่งอาจเกี่ยวกับ            ความเครียด ทำให้เกิดสิวอักเสบเม็ดใหญ่แสนเจ็บปวด หรือมีปัญหาสุขภาพฟัน จึงควรพบทันตแพทย์           เพื่อตรวจเช็กว่ามีฟันผุหรือรากฟันอักเสบ แต่มีสาเหตุอื่นร่วมด้วย เช่น แบคทีเรียจากโทรศัพท์มือถือ จึง            ควรเช็ดทำควมสะอาดทุกครั้งหลังใช้งาน 6. สิวที่หน้าอก : มีแนวโน้มมาจากพันธุกรรม ลองสืบถามคนในครอบครัวว่ามีปัญหาสิวที่บริเวณเดียวกันหรือไม่ การ             อาบน้ำให้สะอาดหมดจดและเลือกใช้ผลิตภัณฑ์อ่อนโยน จะช่วยให้เบาบางลง เพราะผิวหน้าอกอาจ             มันกว่าส่วนอื่นๆ จนเกิดเป็นสิวได้ง่าย 7. สิวที่หลัง : ถ้าสิวขึ้นเฉพาะที่แผ่นหลัง อาจเป็นผลมาจากการเล่นกีฬาจนทำให้เหงื่อออกมาก บวกกับชุดที่รัดตึง ไม่            สามารถระบาย อากาศ อย่าลืมว่า ผิวหนังคืออวัยวะที่มีกระบวนการกำจัดของเสียออกมาทางเหงื่อ ดัง            นั้นเมื่อออกกำลังกายเสร็จแล้ว ควรอาบน้ำชำระคราบเหงื่อไคลทันที 8. สิวบริเวณสะโพก: สภาพผิวแห้งบริเวณสะโพกทำให้ระคายเคืองได้ง่าย โดยเฉพาะชุดชั้นในผ้าใยสังเคราะห์ที่อับ                ชื้นทุกครั้งที่อาบน้ำ ควรใช้ครีมสครับขัดผิวและ ทาโลชั่นที่มีความมันพอดีให้ความชุ่มชื้น ผิวจะ                ยืดหยุ่น นุ่มนวล และปลอดสิว 9.สิวใต้วงแขน : สิวเม็ดเล็กๆ คล้ายตุ่มผดทำให้ผิวหนังดูหยาบเหมือนหนังไก่ เกิดจากเซลล์เสื่อมสภาพพอกพูน            บริเวณรูขุมขน การทาครีมที่มีส่วนผสมของกรดซาลิไซลิกเพื่อเร่งการะบวนการผลัดเซลล์ และใช้ผ้าขน             หนูเนื้อหยาบๆถูเบาขณะอาบน้ำ รวมทั้งทา moisturizer จะทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น ขอบคุณข้อมูลจากนิตยสารแพรว จากคุณ : อืม (jay_mayz) เขียนเมื่อ : 25 พ.ย. 54 15:24:44