ความคิดเห็นที่ 1 โอกาสหายขาด(ไม่มีโรคมะเร็งเต้านมกลับมาที่ 10 ปี) สำหรับระยะแรกนี้มากกว่า 90% ขึ้นไปครับขึ้นกับปัจจัยต่างๆร่วมด้วย การผ่าตัดโดยรักษาเต้านมไว้นอนรพ.ไม่นานครับน่าจะ 3-5 วันครับ ประสิทธิภาพการรักษาด้วยการผ่าตัดแบบเก็บเต้านมไว้ไม่ต่างจากการตัดทิ้ง หาก **กรุณาอ่าน** ได้รับการฉายแสงตามหลังด้วย อันนี้เป็นจุดอ่อนที่คนส่วนมากจะเข้าใจผิดว่าฉายแสงเฉพาะเป็นมากๆ ถ้าตัดโดยเก็บเต้านมไว้แต่ไม่ฉายแสงการรักษาจะแย่กว่าการตัดทิ้งทั้งหมดครับ ในทางกลับกันการผ่าตัดหมดในตอนนี้ก็อาจจะไม่ต้องฉายแสงเลยก็ได้ครับ ปล.ระยะที่แน่นอนจะต้องรอดูตอนผ่าตัดด้วยครับเพราะมักจะฉีดสีดูต่อมน้ำเหลืองด้วย(ในห้องผ่าตัด)หากไม่มีเซลล์มะเร็งลามไประยะก็จะเป็น 1-2 ครับ เพราะการคลำจะเจอเมื่อมันใหญ่กว่า 1 cm แต่มะเร็งสามารถพบได้แม้ต่อมน้ำเหลืองจะยังไม่โตมาก 3-5 มิล จากคุณ : oncodog เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 54 16:41:22

ความคิดเห็นที่ 2 ถ้าเป็นระยะแรก  หายเกือบ 100 % รักษาไม่นาน ของคุณป้าเป็นระยะแรก  รักษาแบบ ข้อ 1   ผ่านมา 15 ปีแล้ว  เดี๋ยวนี้ ก็เห็นยังร่างกายแข็งแรง ไม่บอกก็ไม่รู้ ว่าเคยเป็นมะร็ง   เดี๋ยวนี้เทคโนโลยีดีกว่าสมัยก่อน แก้ไขเมื่อ 20 พ.ย. 54 16:45:02 จากคุณ : ปากกาหมึกดำ เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 54 16:43:08

ความคิดเห็นที่ 3 ญาติเรา ก็ตัดทั้งหมดค่ะ เค้าตัดมาได้ 10 กว่าปีแล้วค่ะ แก้ไขเมื่อ 20 พ.ย. 54 17:04:03 จากคุณ : ยายภูธร เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 54 17:03:21

ความคิดเห็นที่ 4 ถามท่านoncodog  คคห.ที่1 นอนรพ.3-5วันนี่หมายถึงตัดชิ้นเนื้อและการฉายแสงแล้วใช่มั้ยครับ และหลังออกจากรพ.แล้วยังต้องกลับมาตรวจที่รพ.เป็นระยะต่ออีกมั้ยครับ จากคุณ : เด็ก ป.6 เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 54 17:21:26

ความคิดเห็นที่ 5 3-5 วันเฉพาะช่วงผ่าตัด จากคุณ : hinghoi เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 54 18:08:51

ความคิดเห็นที่ 6 ฉายแสงแล้วแต่คุณหมอนัดค่ะ หมอจะนัดเป็นจำนวนครั้ง 5 ครั้ง 10 ครั้ง แล้วแต่ค่ะ จากคุณ : @..DOYS..@ เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 54 22:34:45

ความคิดเห็นที่ 7 หลังจากออกโรงพยาบาล คือผ่าตัดเสร็จ ก้อต้องมาตรวจต่อ เพราะกระบวนการรักษายังไม่เสร็จ ปัจจุบันการรักษามะเร็งเต้านม หมอจะดูตาม risk category มากกว่าดูที่ระยะว่าเป็นระยะที่ 1, 2 หรือ 3 หมายความว่า ถึงแม้จะเป็นระยะที่ 1(ระยะต้น) แต่ถ้าเป็น intermediate or high risk ก้อจำเป็นต้องให้ยาเคมีบำบัดร่วมด้วย เพื่อหวังผลหายขาด สูตรเคมีที่ให้ก้อแล้วแต่ว่าจะ 4 ครั้งหรือ 6 ครั้ง จากนั้นก้อต้องมีการฉายแสง เพราะเลือกผ่าตัดแบบเก็บเต้านม จากนั้นอีก ในกรณีที่มะเร็งมีตัวรับที่ตอบสนองต่อฮอร์โมน หมอก้อจะพิจารณาให้กินยาฮอร์โมนต่ออีก 5 ปี เป็นอันเสร็จกระบวนการรักษา แต่หมอก้อจะนัดมาตรวจ follow up เป็นระยะๆไปตลอด จากคุณ : hinghoi เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 54 23:21:11

ความคิดเห็นที่ 8 คือตอนนี้ผู้ป่วยอยากทราบเรื่องเวลาคร่าวๆที่ต้องอยู่รพ.และต้องไปฉายแสงในระยะเวลาห่างกี่วัน/กี่ครั้ง เพื่อจะได้วางแผนล่วงหน้าเรื่องการเดินทางและฝากงานฝากลูก ไว้กับญาติๆน่ะครับ จากคุณ : เด็ก ป.6 เขียนเมื่อ : 21 พ.ย. 54 00:59:37

ความคิดเห็นที่ 9 ชมรมฟื้นฟูสุขภาพผู้ป่วยโรคมะเร็ง  ให้คำปรึกษาเกี่ยวมะเร็ง ฟรี!  Tel.02-664-0078-9 หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ ได้ที่ http://www.siamca.com ประวัติความเป็นมา :           การรักษาโรคมะเร็งในปัจจุบัน มีวิธีการหลักสำคัญ 3 ประการ คือ ผ่าตัดรักษา เคมีบำบัด และ รังสีรักษา ซึ่งถือว่าเป็นการรักษาโดยตรงที่จำเป็น แต่แม้ว่าวิทยาการต่างๆ จะก้าวหน้าเพียงใด ยังต้องยอมรับว่าจำนวนผู้ป่วยใหม่ และอัตราการเสียชีวิตจากโรคมะเร็ง ยังมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง อีกทั้งระหว่างการรักษา นอกจากผู้ป่วยโรคมะเร็งต้องต่อสู้กับอาการของโรคแล้ว วิธีการรักษายังทิ้งผลข้างเคียงที่สร้างความเจ็บปวด เหนื่อยล้า ทั้งร่างกายและใจให้กับผู้ป่วย จนมีผู้ป่วยจำนวนมาก จำต้องทิ้งโอกาสในการรักษาไปอย่างน่าเสียดาย           แต่มีกลุ่มผู้ป่วย ญาติผู้ป่วย ผู้ดูแล และบุคลากรทางการรักษาจำนวนหนึ่งเชื่อมั่นว่า โรคนี้ยังไม่หมดหนทางเสียทีเดียว กลุ่มคนดังกล่าวจึงรวมตัวกัน เมื่อปี พ.ศ.2542 ร่วมระดมความคิดและประสบการณ์ เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยให้ได้รับความรู้ในการรักษาที่ถูกต้อง การดูแลตนเองให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี และสิ่งสำคัญที่สุดคือสร้างกำลังใจให้กันและกัน สมาชิกชมรม : • ผู้ป่วยโรคมะเร็ง  • ครอบครัว ผู้ใกล้ชิด หรือผู้ดูแลผู้ป่วย  • บุคลากรทางด้านการรักษาและบำบัด  • อาสาสมัคร และผู้สนใจสุขภาพทั่วไป   วัตถุประสงค์ : 1. เพื่อเป็นศูนย์เผยแพร่ข้อมูลวิวัฒนาการด้านการรักษาโรคมะเร็งในทุกด้าน 2. เพื่อให้คำปรึกษาแก่ผู้ป่วยในการดูแลสุขภาพที่ถูกต้อง เพื่อการมีคุณภาพชีวิตที่ดี  3. เพื่อเป็นศูนย์กลางให้ผู้มีประสบการณ์เกี่ยวกับโรคมะเร็ง ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ซึ่งกันและกัน 4. เพื่อกระตุ้นให้ผู้ป่วยเกิดความเชื่อมั่น มีกำลังใจ มีความพร้อมทางด้านจิตใจในการต่อสู้กับโรค  5. เพื่อรณรงค์ให้คนในสังคม หันมาใส่ใจดูแลสุขภาพเพื่อป้องกันโรคมะเร็ง 6. เพื่อร่วมมือกับทั้งภาครัฐและเอกชนในการบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม และเผยแพร่งานต่อต้านโรคมะเร็ง จากคุณ : ชมรมฟื้นฟูสุขภาพผู้ป่วยมะเร็ง (sekyya1) เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 54 10:03:06