ความคิดเห็นที่ 1   บทความแรก ของ คุณแนน สุขีรมย์   อุตส่าพิมพ์มาให้พวกเราอ่านกัน น่ารักมาก ๆ   วันนี้มี Tips เล็กน้อยสำหรับเพื่อนที่ออกกำลังกายโดยการวิ่งมาฝากจ้า จากนิตยสาร Women's Health   เมื่อวานลองทำดูด้วยตัวเองแล้วรู้สึกเหนื่อยจิงค่ะ   คอลัมน์นั้นจั่วหัวไว้ว่า " ทำไงดี วิ่งเท่าไหร่ ก็ไม่ผอม" แล้วเค้าก็จัดโปรแกรมวิ่ง เพื่อให้ฟิตง่าย และ ฟิตไวขึ้นมาให้กันค่ะ เพื่อนลองเอาไปใช้กันดูนะคะ จะได้สนุกกับการวิ่งมากขึ้น   เค้าแนะนำการออกกำลังกายแบบสลับค่ะ เค้าบอกว่าเผาผลาญได้มากกว่าการวิ่งไปเรื่อยๆ ในเวลาที่เท่ากันจ้ะ   เมื่อวานนี้เราลองใช้โปรแกรมด่วนดังนี้ค่ะ   วิ่งสปีดหนักๆในระดับที่รักษาความเร็วได้ เอาให้หอบแฮ่กไปเลยนะ นาน 15 วินาที จากนั้นจ็อกกิ้วหรือวิ่งเพื่อพักสบายๆอีก 60 วินาที ทำซ้ำแบบนี้ไปเรื่อยๆ เริ่มแรกเอาให้ได้ซัก 6 รอบ แต่พอชินแล้วก็เพิ่มให้ถึง 12 รอบ   จากที่แนนใช้วิธีนี้เมื่อวานพบว่าเหนื่อยกว่าที่ปกติเราวิ่งไปเรื่อยๆ 60 นาที แถมเผาผลาญแคลอรี่เกือบเื้ท่ากับวิ่ง 30 นาทีเลย ทั้งๆที่โปรแกรมนี้ใช้เวลา15 นาที และเราวิ่งเบาๆต่ออีกแค่ 5 นาทีเท่านั้น   จริงๆมีอีกหลายโปรแกรม แต่แนนเห็นว่าโปรแกรมนี้น่าจะเหมาะกับพวกเรามากที่สุดเพราะดูไม่หักโหมเกินไปค่ะ   โดยในคอลัมน์นี้เค้าให้เหตุผลเอาไว้ว่า คนส่วนใหญ่คิดว่า ยิ่งวิ่งเยอะก็ยิ่งลดน้ำหนักได้เยอะซึ่งก็จริงอยู่ แต่ในระดับหนึ่งเท่านั้น การวิ่งเป็นการออกกำลังกายที่ได้ผลดีมากในแง่เผาผลาญ แต่ปัญหาคือ ยิ่งคุณวิ่งมากเท่าไรร่างกายก็จะยิ่งปรับตัวและเพิ่มสมรรถภาพในการวิ่งให้มากขึ้นโดยใช้พลังงานน้อยลง   ทำให้ช่วงแรกจะลดน้ำหนักได้เยอะ จากนั้นความคืบหน้าจะเริ่มถดถอยจนกลายเป็นเส้นตรงทันทีที่ร่างกายปรับตัวเข้ากับโปรแกรมการออกกำลังได้ แถมการวิ่งระยะไกลเป็นประจำทำให้ร่ายกายอาจได้รับบาดเจ็บ และยังบั่นทอนความกระตือรือร้นได้ด้วย  อาการเจ็บปวดและความเบื่อหน่ายอาจทำให้หมดไฟและเลิกวิ่งในที่สุด   วิํีธีออกกำลังกายแบบสลับจึงเป็นวิธีที่ดีกว่าและง่ายกว่า เมื่อสามารถเรียนรู้วิธีวิ่งที่ช่วยเบิร์นไขมันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมทั้งได้ประโยชน์เพิ่มขึ้นโดยใช้้เวลาน้อยลง แต่ก็ยังคงต้องวิ่งให้ได้สัปดาห์ละ 3-5 ครั้งต่อไปนะคะ เพียงแต่ลดเวลาลงเหลือครั้งละไม่เกิน 20 นาที   ดร.เวสก็อตต์ ขยายความว่า " ร่างกายคนเราชอบเข้าโหมดนำร่องอัตโนมัติ เพราะเป็นโหมดที่ประหยัดพลังงานที่สุด แต่เมื่อคุณเร่งเครื่องตัวเองโดยการฝึกสลับช่วงหนัก-เบา สมรรถภาพร่างกายจะตกลงและต้องเผาผลาญเพิ่มเพื่อดึงพลังงานออกมาใช้"   การออกกำลังกายวิธีนี้นอกจากใช้เวลาน้อยลงแล้ว ยังได้เบิร์นแคลอรี่ในอัตราที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องแม้ในขณะพัก มีผลการศึกษาชิ้นหนึ่ง เน้นว่า ผู้หญิงที่วิ่งหนักๆ 2 นาที ตามด้วยการวิ่งเบาๆอีก 3 นาที จะเผาผลาญไปตลอด 24 ชม.หลังการออกกำลังมากกว่าคนที่วิ่งด้วยความเร็วคงที่ไปเรื่อยๆ และสามารถลดไขมันลงได้ 4% ในช่วงหลายสัปดาห์ต่อมาอีกด้วย ในขณะที่กลุ่มที่วิ่งเรื่อยๆ ไม่ได้ผลลัพธ์เช่นนี้   และอย่าลืมวอร์มอัพทุกครั้งก่อนเข้าโปรแกรมโดยการวิ่งจ็อกกิ้งสั้นๆหรือเดินสบายๆ จะได้กระตุ้นให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงกล้ามเนื้อสร้างความอบอุ่นและความยืดหยุ่นให้ร่างกาย ช่วยป้องกันการบาดเจ็บและเพิ่มสมรรถภาพได้     รายชื่อผู้เข้าแข่งขันของพวกเราในครั้งที่ 9 จัดทำโดยพี่แพม แบบเบิร์ดเบิร์ดค่ะ แก้ไขเมื่อ 26 พ.ย. 54 09:21:22 จากคุณ : meawki8 เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 09:20:32

ความคิดเห็นที่ 2 อันนี้ก็จาก คุณแนน สุขีรมย์ เหมือนกันจ้า ^^ วันนี้แอบเอาเรื่องกินตามกรุ๊ปเลือดมาฝากกันจ้า  เผื่อมีประโยชน์ในการเลือกกินให้เหมาะกับร่างกายตัวเองนะจ๊ะ     ----------------------------------------------------------------------------------- ที่มา : http://www.student.chula.ac.th/~51370386/Blood_tpye.htm กรุ๊ป A นักมังสวิรัติดี ๆ นี่เอง คนเลือดกรุ๊ปนี้ส่วนใหญ่ จะมีกรดในกระเพาะต่ำ ทำให้ระบบการย่อยไม่ค่อยดี ระบบภูมิคุ้มกันก็ไม่ดี มีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและมะเร็ง กรุ๊ปเอ จึงถูกจัดเป็นนักมังสวิรัติ อาหารที่เหมาะกับกรุ๊ปเลือดนี้ กินปลาอาทิตย์ละ 3-4 ครั้ง เพื่อเสริมโปรตีน หลีกเลี่ยงปลาเนื้อขาว เช่น ปลาตาเดียว หรือปลาจะละเม็ด เพราะมีเล็คติน รบกวนระบบการย่อย หลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์ต่าง ๆ อาจกินเนื้อไก่ได้นิดหน่อย เลือกดื่มนมถั่วเหลือง นมแพะ หรือ โยเกิร์ตไขมันต่ำแทนนมวัว กินไข่ได้บ้างเป็นครั้งคราว บรรดาตระกูลถั่วต่าง ๆ เช่น อาทิ เมล็ดฟักทอง เมล็ดทานตะวัน ถั่วลิสงที่มีเยื่อหุ้มบาง ๆ และถั่วเหลือง เหมาะกับคนเลือดกรุ๊ปนี้ สามารถกินข้าวกล้องหรือซีเรียลได้วันละ 1-2 ครั้ง ผักทั้งสด และสุกกินแล้วดี โดยเฉพาะหอมหัวใหญ่และบร๊อคเคลลี มีสารแอนติออกซิแดนท์สูง แครอท ฟักทอง ผักโขม และกระเทียม ช่วยกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกัน กินผลไม้ได้แทบทุกชนิด ยกเว้น แตงโม แคนตาลูป มะม่วง มะละกอ กล้วย ส้ม เพราะย่อยยาก พวกชาสมุนไพร จะไปเพิ่มกรดในกระเพาะ ไวน์แดงดื่มได้ แต่ควรเลี่ยงเบียร์ และน้ำอัดลม     Top  กรุ๊ป B อ้วนง่าย คนที่มีเลือดกรุ๊ปนี้ ส่วนใหญ่มีปัญหากับไวรัส และภูมิคุ้มกันบกพร่อง ระบบประสาทไม่ค่อยดีชอบปวดตามข้อ ซึ่งไม่ใช่อาการของเกาต์  หรือรูมาทอยด์ มีโอกาสเกิดโรคแผลในสมอง (Sclerosis) หรือโรคแพ้ภูมิตัวเอง อาหารที่เหมาะกับกรุ๊ปเลือดนี้ เนื้อกระต่าย กวาง แกะ ไก่งวง ควรกินปลาน้ำลึก เช่น ปลาหิมะ และปลาเนื้อขาว อย่างปลาจาละเม็ด ปลาตาเดียว หลีกเลี่ยงเนื้อหมู ไก่ หอยเชลล์ กุ้ง ปู หอยแครง เพราะจะรบกวนระบบในร่างกาย สามารถกินนม เนย ไข่ ในปริมาณที่เหมาะสมได้ ข้าวโอ๊ตและข้าวกล้องดีต่อคนเลือดกรุ๊ปนี้ ขณะที่แป้งสาลี ถั่วลิสง และโฮลวีท ไม่ดีต่อระบบเผาผลาญของร่างกายทำให้อ้วน และไม่ดีต่อเลือด อาจเป็นสาเหตุของโรคเส้นโลหิตแตก ควรลองแป้งสเปลท์ (Spelt) ซึ่งเป็นแป้งที่มีคุณค่าทางสารอาหาร และมีไฟเบอร์สูง ผักใบเขียวทุกชนิดกินดีหมด เพราะมีแมกนีเซียม ช่วยป้องกันอาการผื่นคัน แต่ถ้าอยู่ระหว่างไดเอ็ท ควรหลีกเลี่ยงมะเขือเทศและข้าวโพด เพราะมีผลต่อการสร้างอินซูลิน และระบบเผาผลาญ กินผลไม้ได้แทบทุกชนิด ยกเว้น ลูกพลับ ทับทิม และลูกแพร์ ชาสมุนไพรที่ให้ประโยชน์ คือ ขิง เปปเปอร์มินต์ โสม ชาเขียว   กรุ๊ป O High Protein ปัญหาของคนเลือดกรุ๊ปนี้ คือ กระเพาะมีความเป็นกรดสูง สามารถย่อยอาหารจากเนื้อได้ดีกว่าเลือดกรุ๊ปอื่น แต่ระบบการเผาผลาญไม่ค่อยดี ระดับฮอร์โมนไทรอยด์ไม่ค่อยคงที่ จึงทำให้อ้วนง่าย ตามติดมาด้วยปัญหาเลือดแข็งตัวช้า อาหารที่เหมาะกับกรุ๊ปเลือดนี้ เลือกกินได้ตามใจชอบ กินอาหารทะเลได้เป็นประจำ เพื่อป้องกันโรคเลือดไม่แข็งตัว และไทรอยด์ แต่ระวังเรื่องไขมันและโคเรสเตอรอลด้วย กินนม เนย ไข่ในปริมาณที่พอเหมาะ ถ้าอยากผอมต้องเลี่ยงแป้งสาลี ข้าวโอ๊ต และบรรดาถั่วต่าง ๆ ผัก กินได้แทบทุกชนิด โดยเฉพาะบร๊อคเคอลี ผักโขม มีวิตามินเคสูง ช่วยให้เลือดแข็งตัว ส่วนผักตระกูลกะหล่ำหลีกเลี่ยงเพราะมีผลต่อไทรอยด์ เห็ดหอม และมะกอกดอง ทำให้เกิดอาการแพ้ มะเขือยาวและมันฝรั่งทำให้ปวดข้อ ผลไม้กินได้แทบทุกชนิด โดยเฉพาะตระกูลเกรปฟรุต ตระกูลเบอร์รี่ (ยกเว้นแบล็คเบอร์รี่) ช่วยลดน้ำหนัก ควรเลี่ยงแคนตาลูป มะพร้าว ส้ม และสตอเบอร์รี่ เพราะมีกรดสูงเกินไป ชา สมุนไพรที่ดีต่อสุขภาพ อาทิ เปปเปอร์มินต์ Licorice Tea Parsley ฯลฯ ไม่ควรดื่มเบียร์ ชา กาแฟ เพราะจะเพิ่มกรดในกระเพาะ ให้หนักเข้าไปอีก กรุ๊ป AB มังสวิรัติและคาร์โบไฮเดรต กรุ๊ปนี้เป็นการผสมผสานระหว่างกรุ๊ปเลือด เอ กับ บี ดังนั้นวิถีการกินที่เหมาะสมกับคนกรุ๊ปนี้เป็นการผสมผสานการกินมังสวิรัติหน่อย ๆ กับการกินแบบกรุ๊ปบี นิด ๆ คนที่มีเลือดกรุ๊ปนี้มีจุดอ่อนเรื่องสุขภาพ อยู่ที่ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ และกรดในกระเพาะต่ำ อาหารที่เหมาะกับกรุ๊ปเลือด ได้แก่ ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง และเต้าหู้ สามารถกินเนื้อแกะ กวาง กระต่าย และไก่งวงได้นิดหน่อย ไม่ควรกินปลาเนื้อขาว และแซลมอนรมควัน เพราะย่อยยาก และเป็นพิษต่อระบบทางเดินอาหาร สามารถกิน นม เนย ไข่ และโยเกิร์ตไขมันต่ำได้ จำพวกข้าว ข้าวโอ๊ต ข้าวไรย์ มีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่ควรงดเว้นการกินถั่วแดง งา เมล็ดฟักทอง เมล็ดทานตะวัน ข้าวโพด เพราะจะชะลอการทำงานของอินซูลิน ทำให้น้ำตาลในเลือดลดลงเฉียบพลัน ผักสดกินได้แทบทุกชนิด ช่วยป้องกันมะเร็งและโรคหัวใจ ผลไม้กินได้ดีเป็นบางอย่าง อาทิ องุ่น พลัม ตระกูลเบอร์รี่ สับปะรด ส้มโอ ฯลฯ เพราะช่วยสร้างความสมดุล ของกรดในเนื้อเยื่อ ไม่ควรกิน กล้วย มะม่วง ฝรั่ง ส้ม               ปฏิทินการแข่งขัน สีสันสดใสของพวกเราครั้งที่ 9 จัดทำโดยพี่สา เหมียวสีส้มค่ะ จากคุณ : meawki8 เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 09:25:20

ความคิดเห็นที่ 3 อันนี้จาก คุณ เก้า  kaoim ใครที่ชอบทานลองอ่านดูนะคะ จะได้ทานมันอย่างรู้ทัน ^^   วันนี้เอาเมนูกาแฟ และแคลอรี่มาฝากค่ะ Cappuccino – 12 oz – 10 grams carb, 80-120 calories depending on milk (more for half and half) 16 oz – 15 grams carb, 100-180 calories 20 oz – 17 grams carb, 130-210 calories Latte – 12 oz – 16 grams carb, 120-200 calories 16 oz – 21 grams carb, 160-260 calories 20 oz – 27 grams carb, 210-340 calories Mocha – 12 oz – 28-37 grams carb, 170-358 calories (Dunkin Donuts’ 10 oz mocha has 37 grams of carbs for a mere 10 oz drink) 16 oz - 33-42 grams carb, 210-433 calories 20 oz – 43-56 grams carb, 260-490 calories ตารางเป้าหมายของพวกเราในครั้งที่ 9 จัดทำโดยพี่แพม แบบเบิร์ดเบิร์ด หากเพื่อนๆ มาอ่านแล้วผลที่ได้ดีอย่างตั้งใจ วิขอแสดงความยินดีด้วยค่ะ แต่ถ้าไม่ได้ อย่าได้แคร์ เพราะวิตั้งไว้ครั้งนั้นก็ไม่ได้เหมือนกัน 555 ก็แค่ทำมันต่อไป เดี๊ยวก็ถึงสักวันเป้าหมายของเรา กิ๊กิ๊   จากคุณ : meawki8 เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 09:30:57

ความคิดเห็นที่ 4 อันนี้เป็นบทความที่พี่ริญ นำมานะคะ อ่านแล้วอยากกินฟักทองจังเลย ^^   อาทิตย์นี้ ทั้งอาทิตย์ กินฟักทองนึ่ง กะ บีทรูท เป็นอาหารเช้า และอาหารว่าง เลยเอาข้อมูลของฟักทองมาฝากจ้า เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม หนึ่งในพืชสีเหลืองที่เรามักจะเห็นคนนำมาประกอบอาหารอยู่บ่อย ๆ ก็คือ "ฟักทอง" นั่นเอง เพราะ "ฟักทอง" สามารถประกอบอาหารคาว-หวานได้สารพัดเมนู จึงไม่แปลกที่ "ฟักทอง" จะเป็นอาหารจานโปรดของใครหลายคน แล้วรู้ไหมคะว่า "ฟักทอง" นอกจากอิ่มอร่อยแล้ว ยังมีสรรพคุณทางยาอีกต่างหาก เอ้า...ถ้ายังไม่ทราบวันนี้เราขอเอาใจคนรัก "ฟักทอง" ด้วยการนำเรื่องราวประโยชน์ของ "ฟักทอง" มาเสิรฟ์ถึงมือคุณเลยค่ะ ฟักทอง เป็นพืชตระกูลมะระ ชนิดไม้เถาขนาดใหญ่ ผิวมีลักษณะขรุขระ เนื้อในสีเหลืองนิ่ม มีเมล็ดสีขาวแบน ๆ ติดอยู่ ซึ่งแต่ละส่วนของ "ฟักทอง" มีสรรพคุณทางมากมาย คือ §  เนื้อฟักทอง มีวิตามินเอสูง รวมทั้งฟอสฟอรัส แคลเซียม วิตามินซี แป้ง และที่จะลืมไปไม่ได้เลยก็คือ "เบต้าแคโรทีน" ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระอยู่ในเนื้อสีเหลืองของฟักทอง สามารถช่วยลดการเกิดมะเร็ง โรคหลอดเลือดหัวใจ และโรคหัวใจได้ แถมเบต้าแคโรทีน ยังช่วยต้านความชรา ป้องกันโรคผิวหนัง บรรเทาอาการปวดเมื่อยของข้อเข่า และบั้นเอวได้เป็นอย่างดี §  เปลือกฟักทอง มีฤทธิ์ทางยามากมาย หากทานฟักทองทั้งเปลือก จะสามารถกระตุ้นการหลั่งอินซูลินในร่างกาย ซึ่งช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ป้องกันการเกิดเบาหวาน ความดันโลหิต บำรุงตับ บำรุงไต บำรุงดวงตา และสร้างเซลล์ใหม่ทดแทนเซลล์ที่ตายไป ให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ §  ใบอ่อน มีวิตามินเอสูงเท่ากับเนื้อฟักทอง แต่มีแคลเซียมและฟอสฟอรัสสูงกว่าในเนื้อ §  ดอก มีวิตามินเอ ธาตุแคลเซียมและฟอสฟอรัส มีวิตามินซีเล็กน้อย §  เมล็ด ประกอบด้วยแป้ง ฟอสฟอรัส โปรตีนและวิตามิน รวมทั้งสารที่ชื่อว่า "คิวเคอร์บิติน" (cucurbitine) ซึ่งมีฤทธิ์ในการฆ่าพยาธิตัวตืดได้ดี และยังช่วยขับปัสสาวะ ป้องกันการเกิดนิ่ว มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ นอกจากนี้ น้ำมันจากเมล็ดฟักทองยังช่วยบำรุงประสาทได้ดี และยังมีกรดอะมิโนบางชนิดที่ช่วยป้องกันไม่ให้ต่อมลูกหมากของผู้ชายขยายใหญ่ขึ้น และช่วยปรับระดับฮอร์โมนเพศชายที่ได้จากลูกอัณฑะให้อยู่ในระดับปกติ §  ราก น้ำมาต้มน้ำใช้ดื่มแก้อาการไอได้ และยังช่วยบำรุงร่างกาย ถอนพิษของฝิ่นได้ §  เยื่อกลางผล สามารถนำมาพอกแผล แก้อาการฟกช้ำ อาการปวด อักเสบได้ ฟักทอง อาหารเพื่อคุณผู้หญิง และสำหรับคุณผู้หญิงที่ต้องการลดน้ำหนัก "ฟักทอง" นี่แหละค่ะคือ "ตัวช่วย" ที่ดีตัวหนึ่งเลยทีเดียว เพราะฟักทองเป็นพืชที่มีกากใยมาก และมีแคลอรีไม่สูง ไขมันน้อย จึงไม่ทำให้อ้วน นอกจากนี้ในฟักทองมีวิตามินหลายชนิดในปริมาณสูง จะช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวพรรณของคุณสาว ๆ มีน้ำมีนวล แถมสายตายังดูปิ๊งอีกต่างหาก นอกจากนี้ สำหรับสตรีหลังคลอดบุตร "ฟักทอง" ซึ่งมีฤทธิ์อุ่น จะช่วยย่อยอาหาร ทำให้กระเพาะอุ่น บำรุงกำลัง ลดอาการอักเสบ แก้ปวดได้อีกด้วย ข้อควรระวังในการทาน "ฟักทอง" เนื่องจาก "ฟักทอง" มีฤทธิ์อุ่น ดังนั้นคนที่ "กระเพาะร้อน" คือมีอาการเช่นกระหายน้ำ ปากเหม็น หิวง่าย ปัสสาวะเหลือง ท้องผูก เป็นแผลในช่องปาก เหงือกบวม ไม่ควรทานฟักทองมากเกินไป เพราะอาจกระตุ้นให้ร่างกายร้อนขึ้นได้นั่นเอง หรือแม้แต่ในคนปกติ การทานฟักทองมากเกินไป ก็อาจทำให้เกิดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ไม่สบายท้องได้เช่นกัน ได้เห็นประโยชน์ดี ๆ ของ "ฟักทอง" แล้วอย่าลืมหามาทานกันนะคะ   จากคุณ : meawki8 เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 09:35:26

ความคิดเห็นที่ 5 บทความ เรื่อง ด่างทับทิมจากคุณเก้า kaoim  ค่ะ  เหมาะกับสถานะการน้ำท่วมมาก ๆ Potassium Permanganate หรือที่เรียกกันว่า ด่างทับทิม เป็นสารเคมีใกล้ตัวใช้ล้างผักสด ใช้ฆ่าเชื้อโรคกันมาแต่นานนม เรียกว่าเป็นของคู่ครัวก็ว่าได้ ก่อนที่จะคุยกันเรื่อง PP Bomb ขอว่ากันด้วยอันตรายของด่างทับทิมกันเสียก่อน       1. PP เป็นเกล็ดสีม่วง เบาและปลิวได้ง่าย เวลาตักใช้ควรดูทิศทางลมให้ดี อาจฟุ้งกระเด็นติดเสื้อผ้าได้ ทำให้ เสื้อผ้าเสียหายแบบถาวร ซักไม่ออก หากกระเด็นเข้าตา ให้รีบล้างออกด้วยน้ำสะอาดทันที ล้างมาก ๆ และรีบไปพบแพทย์ทันที อาจถึงตาบอดได้ เรื่องนี้สำคัญมาก ฝรั่งบอกให้ใส่แว่นกันลม (แบบนักบิน) ด้วยซ้ำไป เวลาตัก PP       2. PP มีความเข้มข้นสูง ใช้แต่ละครั้งสัดส่วนไม่มากนัก การชั่งตวงน้ำหนักให้ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญ ไม่แนะนำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการตักวัดเป็นช้อนชา เนื่องจากมีความเบี่ยงเบนมาก ไม่แม่นยำ การชั่งโดยมีหน่วยน้ำหนักเป็นกรัม เป็นเรื่องสำคัญ       3. การใช้ PP Bomb จำเป็นต้องรู้ปริมาตรน้ำที่แน่นอน อย่างที่ว่าไปแล้ว PP มีความเข้มข้นสูง ถ้าคำนวณปริมาณน้ำผิดไป ทำให้ PP Bomb มีความเข้มข้นมากเกินไป อันตรายเป็นอย่างยิ่ง       PP. ลักษณะสมบัติ : เป็นสารประกอบอัลคาไล ละลายน้ำได้ดี แตกตัวเป็นโปตัสเซียมอิออน (K+) และเปอร์แมงกาเนตอิออน (MnO4-) ตัวหลังนี้เป็น Oxidizing agent อย่างแรง ว่ากันง่าย ๆ คือเป็นตัวกัด/ย่อย สลายสารอื่น ๆ โดยเฉพาะสารอินทรีย์ที่อยู่ในน้ำ เมื่อย่อยสลาย หรือ ออกซิไดซ์สารอื่นแล้วจะได้ แมงกานิสออกไซด์ (MnO2)      PP. ทำอะไรได้บ้าง ด้วยลักษณะการเป็นออกซิไดซิ่ง เอเจ้นท์ อย่างแรง PP.จะเจาะทำลายผนังชั้นนอกของเซลล์ และสร้างสารประกอบอื่น ขึ้นมาแทน (คราบสีน้ำตาล) สารอินทรีย์ ต่าง ๆ ทั้งที่มีชีวิตและไม่มีชีวิต เช่นแบคทีเรีย ปรสิต โปรโตซัว ตะกอน ขี้ปลา สาหร่ายเซลล์เดียว ตะไคร่น้ำ อย่างไรก็ตามความสามารถในการทำลายของ PP. ขึ้นอยู่กับความเข้มข้นที่ใช้ และระยะเวลาที่ใช้แช่      PP. สามารถใช้แก้ปัญหาในเบื้องต้นได้ในหลายกรณี มีปรสิต และแบคทีเรียหลายกลุ่ม หลายตัว ที่อยู่ในขอบเขตการทำลายของ PP. หลายชื่อคุ้น ๆ กันอยู่ Saprolegnia, Costia, Chilodinella, Ich, Fluke ทั้งที่เหงือกและตัว, Columnaris, กลุ่ม Aeromonas และ Pseudomonas รวมถึงเชื้อราและไวรัสต่าง ๆ ทั้งนี้ PP. สามารถกำจัดได้เฉพาะแต่ตัวที่อาศัยอยู่ในน้ำและภายนอกตัวปลาเท่านั้น พวกที่อาศัยอยู่ภายในตัวปลาและขี้ปลา อำนาจการทำลายล้างของ PP.ไม่อาจครอบคลุมได้ทั้งหมด คลิป ออกกำลังกาย นำมาโดยคุณแต้ว ts_ukjaii  Hot Core and Abs Exercises จากคุณ : meawki8 เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 09:42:30

ความคิดเห็นที่ 6 บทความนี้มาจาก  พี่อุ๊ย ปอยฟ้าย มาลัยพร ค่ะ ^^   ***ดื่มนมสดลดความอ้วน***       เมื่อก่อนเราเชื่อว่านมสดเป็นอาหารที่ต้องหลีกเลี่ยงในช่วงลดน้ำหนัก เพราะนมมีไขมันเป็นส่วนประกอบอยู่ด้วย แต่ผลการวิจัยของสหรัฐอเมริกาได้ออกมายืนยันแล้วว่าการกินนมสดในระหว่างที่กำลังลดความอ้วนนอกจากจะไม่ทำให้อ้วนขึ้นแล้ว ยังช่วยลดน้ำหนักได้อีกด้วย           ที่เป็นเช่นนั้นเพราะในนมสดมีปริมาณแคลเซียมสูง ซึ่งมีส่วนช่วยขัดขวางการสร้างและสะสมไขมันของฮอร์โมนแคลซิไทออล (Calcitriol) ไม่ให้มากเกินไป นอกจากนี้สารอาหารในนมอย่างฟอสฟอรัสและแมกนิเซียมยังเป็นตัวเสริมให้แคลเซียมทำงานได้ดีขึ้นอีกด้วย    แค่เลือกดื่มนมสดไขมันต่ำวันละ 3-4 แก้ว ก็จะช่วยให้หุ่นเพรียวสมส่วนได้อย่างใจฝันแล้ว > ที่มา : นิตยสาร @Kitchen ฉบับตุลาคม 2554 และ women.sanook.com และเด็กน้อยของพี่เค้า  อิ๊กกิ๊  ภาพนี้ธรรมชาติมาก ๆ ค่ะ ^^   จากคุณ : meawki8 เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 09:45:02

ความคิดเห็นที่ 7   บทความนี้จาก คุณหมอก  Love in the mist            อ่านแล้วดีมาก ๆค่ะ ^^   ~MY TIP~ อะไรบ้างล่ะที่จะเอามาอ้างว่าลดน้ำหนักไม่ได้ เพราะ 1.กินอาหารนอกบ้านตลอด เลือกได้น้อย...(เหรอ) 2.มีประชุม สัมนา บ่อยมาก ต้องกินตลอด ทั้งอาหารว่าง อาหารหลัก...(เหรอ) 3.ต้องพาแขกไปเลี้ยงรับรองตลอด ต้องกินไปด้วยพร้อมกับแขก...(เหรอ) 4.เป็นแม่บ้านต้องทำอาหารให้สมาชิกในบ้าน ต้องซื้อ ต้องชิม เวลากิน ก็ต้องกินด้วย ซ้ำร้ายเมื่อมีอาหารเหลือนิดหน่อย เสียดายไม่อยากทิ้ง จะเก็บก็แค่นิดหน่อย กินให้หมดไปเลย...(ซะงั้น) 5.งานยุ่งมาก ไม่ค่อยมีเวลากินมื้อกลางวัน พอได้กินตอนบ่ายก็กินเพียบเลย ไม่เลือกด้วยว่าเป็นอะไร...(เคยเป็นเหมือนกัน) 6.ต้องกลับบ้านเย็นมาก ก่อนที่จะถึงมื้อเย็นก็ต้องหาอะไรรองท้องก่อน พอถึงบ้านมืดก็กินอาหารเย็นอีกที...(อันนี้โดนเต็มๆ) 7.เขาเอามาฝาก เพื่อนเอามาฝาก คนรู้จักเอามาฝาก ญาติเอามาฝาก กินสักหน่อย เดี๋ยวเขาเสียใจ...(ไม่เคยกลัวเขาเสียใจแต่มันอดไม่ได้ที่ได้กินของฟรีต่างหาก 555+) เหตุผลเหล่านี้คุณๆ คงเคยใช้กันมาแล้วทั้งนั้น ลองสังเกตดูสิ ข้ออ้างสารพัดที่ไม่ได้มีสาเหตุมาจากตนเอง โทษงาน โทษคนข้างเคียง โทษอาหาร ไม่ค่อยมีใครที่บอกตามตรงว่า อดใจไม่ได้ อยากกิน ของชอบยังไงก็ขอกินไว้ก่อน ลองเปลี่ยนพฤติกรรมตรงนี้ใหม่สักนิด ของอร่อยๆ ก็รู้จัก ก็กินกันมานานแล้ว กินกันมามากจนมาเป็นไขมันพอกอยู่ตามตัวเต็มไปหมด ถ้าจะต้องกินอีกขอแค่ชิมนิดๆ หน่อยพอแล้ว เราอยากสวยมากกว่าอยากกินไม่ใช่เหรอ....(กรี๊ดด..จริงด้วยๆ เรากินของอร่อยมามากแล้วนี่ ตอนนี้หยุดก่อนดีกว่า เพื่อสุขภาพของเราเองเนอะ อดเปรี้ยวไว้กินหวานดีกว่า สู้ๆ) ขอขอบคุณที่มา จากหนังสืออร่อยได้อร่อยดีไม่มีอ้วนค่ะ เด็กของหมอก ยุนอาเจ้าค่ะ ^^ จากคุณ : meawki8 เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 09:49:11

ความคิดเห็นที่ 8 บทความนี้ คุณหมอก  Love in the mist เป็นผู้นำมาค่ะ เคล็ดลับกระชับหุ่นอย่างดาราฮอลลีวูด ดาราฮอลลีวูดชื่อดังทั้งหลายต่างเข้มงวดกับการดูแลรูปร่าง ถึงขนาดจ้างเทรนเนอร์ส่วนตัวในราคาสูงลิบลิ่ว คิดท่าออกกำลังกายกระชับสัดส่วนให้ ก็เป็นอาชีพที่ใช้รูปร่างหน้าตา ที่สำคัญเดี๋ยวนี้ดาราเด็กหน้าใหม่ก้าวขึ้นมา อันที่จริงก็เหมือนดาราบ้านเรา แต่การลงทุนกับเทรนเนอร์และวินัยในการออกกำลังกายอาจไม่เท่า ดาราฮอลลีวูดหลายคนแม้จะมีอายุมากแต่รูปร่างเฟิร์ม แขนมีกล้ามน้อยๆ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด คือ เจนนิเฟอร์ อนิสตัน สุดยอดคุณป้ามาดอนน่า และกวินเนท พัลโทรว์ เรามีวิธีดูแลรูปร่างตามแบบดาราแต่ไม่ต้องโหมหนักเท่า เอาเป็นแนวทางก็ทำให้รูปร่างดีขึ้นได้ ลองดูค่ะว่าเขาทำอย่างไรกันบ้าง -ห้ามอดอาหาร ยิ่งอดก็ยิ่งกินเพิ่ม จำไว้ให้ขึ้นใจค่ะ วิธีลดความหิวได้ดีคือ แบ่งมื้ออาหารจาก 3 มื้อเป็น 4-6 มื้อ เช่น ปกติคุณกินอาหารมื้อละ 600 แคลอรี่ วันละ 3 มื้อ เท่ากับคุณจะได้รับ 1,800 แคลอรี่ เปลี่ยนมาเป็น 5 มื้อ มื้อละ 300 แคลอรี่ เท่ากับได้รับเพียง 1,500 แคลอรี่ โดยมื้อเช้า ของว่าง มื้อกลางวัน ของว่าง และมื้อเย็นของว่าง โดยของว่างอาจจะเป็นผลไม้ไม่หวาน อาทิ ฝรั่ง , ส้มโอ , แอ๊ปเปิ้ล , โยเกิร์ตพร่องไขมัน , นมสดพร่องไขมันและธัญพืชเพียง 1 กำมือ จะทำให้ระหว่างมื้อไม่หิวจนเกินไป -กินปลาสัปดาห์ละ 2 มื้อ ปลามีกรดโอเมก้า 6 และโอเมก้า 3 อีกทั้งยังช่วยลดระดับฮอร์โมน leptin ที่เกี่ยวพันกับความอ้วน ซึ่งถ้ามีฮอร์โมนตัวนี้มาก ประสิทธิภาพการเผาผลาญจะลดลง ทำให้อ้วนง่าย ดาราดังอย่าง ชารอน สโตน , จูเลีย โรเบิร์ต ชอบรับประทานปลามาก -หยุดกินเมื่อรู้สึกอิ่ม ประเภทท้องอิ่มปากยังอยากกินใช้ไม่ได้กับเหล่าดาราฮอลลีวู้ดค่ะ เพราะเมื่อรู้สึกอิ่มไม่ต้องถึงขนาดอิ่มจัดจนพุงกางหรอกนะคะ เอาแค่พอรู้สึกอิ่มน้อยๆ ก็วางช้อน แล้วยกอาหารออกไป หยุดกินได้เลยอย่าเสียดายโดยเด็ดขาด ความเสียดายเป็นบ่อเกิดของความอ้วน -ดื่มน้ำก่อนกินอาหาร ดื่มน้ำก่อนกินอาหารสักครึ่งชั่วโมงจะช่วยให้คุณอิ่มอาหารได้เร็วขึ้น เป็นการลดน้ำหนักที่ดีไม่ทำลายสุขภาพ ดาราฮอลลีวูดหลายคนนิยมดื่มน้ำตลอดเวลา -เคี้ยวช้าๆ และรู้ตัวว่าตักอะไรเข้าปาก การเคี้ยวช้าๆ เป็นเคล็ดลับการลดน้ำหนักที่ดี ช่วยให้อาหารย่อยง่ายและตักอาหารเข้าปากก็ให้พิถีพิถันเพราะ " you are what you eat " ซึ่งการกินอะไรเข้าไปก็ส่งผลต่อสุขภาพและรูปร่างของคุณ การเรียนรู้ว่าอาหารประเภทใดมีประโยชน์หรือมีโทษทำให้คุณฉลาดในการเลือกกิน -ลดความเครียด ความเครียดเป็นสาเหตุที่ทำให้ฮอร์โมนคอร์ติซอล(Cortisol) กระตุ้นให้อยากอาหารเพิ่มขึ้นและลดการเผาผลาญและกักเก็บไขมันไว้รอบพุงเราอีกด้วย คนเครียดอ้วนง่ายก็แบบนี้เองค่ะ -อย่าชั่งน้ำหนักบ่อย ทำให้เครียดเมื่อตาชั่งบอกกิโลที่เพิ่มขึ้น และอาจะทำให้คุณล้มเลิกการลดน้ำหนักไปเลยก็ได้ ให้ชั่งเดือนละ 2 ครั้ง และใช้สายวัดสัดส่วนแทน คอยติดตามผล อย่าเคร่งเครียดให้มากนัก ค่อยๆ ทำไป ดาราดังอย่าง เคท วินสเลต ชั่งน้ำหนักต้นเดือนและปลายเดือนเท่านั้น -เคลื่อนไหวให้มาก การเคลื่อนไหวเป็นการเผาผลาญพลังงานซึ่ง อูมา เธอร์แมน ใช้วิธีนี้ เช่น เดินเล่นในสวนสาธารณะ ชิตอัพระหว่างดูทีวี เดินขึ้นบันไดแทนขึ้นลิฟต์ จอดรถให้ห่างจุดหมายและใช้วิธีเดินให้ถึงแทน ดีกว่านั่งๆ นอนๆ รับรองค่ะว่า หุ่นเช้งแน่ๆ และยังได้นิสัยแอ๊คทีฟไม่เฉื่อยแฉะติดตัวไปด้วย -ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ทุกสูตรลดน้ำหนักมักบัญญัติการออกกำลังกายไว้ด้วยเสมอ ไม่ว่าคุณจะออกกำลังกายแบบไหน ขอให้สนุกกับมันและให้เวลาอย่างสม่ำเสมอ ก็จะทำให้คุณชื่นชอบและติดการออกกำลัง เริ่มตั้งแต่วันนี้นะคะ แค่เดินเร็วสักวันละ 30 นาทีก่อนก็ได้ค่ะ ให้ได้อาทิตย์ละ 3 วันนะคะ ปฏิบัติตามนี้เห็นการเปลี่ยนแปลงแน่นอน ขอสุขภาพและรูปร่างที่ดีจงเป็นของคุณตลอดไปค่ะ (ที่มาจากนิตยสาร ผู้หญิง ฉบับเดือนตุลาคม 2011) อาหารทีพี่เจ๊ใหญ่ลานนา ทำทานแล้วนำมาให้ดู  ไก่ต้มฮ่วยซัวโกจิเบอร์รี่(เกากี๊)เมนูปรุงด้วยความเข้าใจ   อะเฮ้ย ดูดีมากๆ  พี่เจ๊มีอย่างนี้ด้วยอ่า กิ๊กิ๊ เค้ามั่วเอง แก้ไขเมื่อ 26 พ.ย. 54 12:12:19 จากคุณ : meawki8 เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 09:53:42

ความคิดเห็นที่ 9 เดี๊ยววิ ขออู้ก่อนนะคะ ไปธุระ 3 ชั่วโมงแล้วจะมาทำต่อค่ะ ยังมีคลิปของคุณแต้วอีกเพียบ ^^ จากคุณ : meawki8 เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 09:55:51

ความคิดเห็นที่ 10 กลับมาแล้ว ธุระเลื่อนไปบ่าย ๆ แทนจ้า  จากคุณกุ้ง MaYa:ParadiseMedicine รวมคลิปลดเอวด้วยนะคะ เอาแคลอรี่ เครื่องดื่มมี แอลกอฮอล์ มาแปะ เผื่อ ชาวFF จะมีปาร์ตี้สังสรรค์ ช่วงสุดสัปดาห์ Gin or vodka and tonic =126 Dark rum and coke =142 Medium glass of white wine (175ml) =130 Medium glass of red wine (175ml) =120 Bottle of wine (white) =555 Bottle of wine (red) =510 5% Lager (pint) =240-50 Cider (pint) =180-250 Stout (pint) =210 Bitter/Ale =180-230 Liqueur (50ml) =100 - 170 Brandy (50ml) =110 Whiskey (25ml) =55 Mixed drink (Ready to drink) (275ml bottle) =160-228 ถ้ากินไวน์ 1 แก้ว จะ burn ให้หมด จะต้องทำอย่างใดอย่างหนึ่งดังนี้>>>    35 mins of walking    15 mins of jogging    11 mins of swimming    19 mins of cycling Based on a 35 year old female who is 5'7" and weighs 144lbs. T_T ฮึกๆๆ สงสัยวันอาทิตย์จะต้องไปว่ายน้ำซักสองชั่วโมง   เอาคลิป ลดเอว มาฝากเพื่อนๆ FF  Billy Blanks Ab-Boot Camp - part 1   http://www.youtube.com/watch?v=dkUK-vnlBKQ&feature=player_embedded เหนื่อยมากกก ขอบอก มี 4 part เต้นตามได้ 2 part ลิ้นห้อย ลมจะจับ      จากคุณ : meawki8 เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 10:35:00

ความคิดเห็นที่ 11 บทความนี้จาก คุณหมอก  Love in the mist   ชอบ ๆ ^^ ~TIP TODAY~ อะไรคือกิจกรรมของร่างกาย หลายคนคงเคยได้ยิน ได้คำแนะนำว่าให้มีกิจกรรมมากๆ เพื่อให้ร่างกายไม่อยู่เฉย มีการใช้พลังงานมากขึ้น คำๆ นี้แปลมาจากภาษอังกฤษที่ว่า "Physical Activity" คำนี้แปลง่ายๆ ก็คือ การเคลื่อนไหวร่างกายที่ต้องใช้พลังงาน เช่น เดิน ทำสวน ล้างรถ ถูบ้าน เต้นรำ ฯลฯ ถ้าจะให้ดีต่อสุขภาพแล้ว เราควรมีการเคลื่อนไหวร่างกายประมาณ 60-90 นาทีเกือบทุกวัน โดยเลือกชนิดที่ใช้แรงปานกลางไปถึงมากจึงจะมีผลต่อการเผาผลาญพลังงานอย่างดี เป็นการใช้ไขมันที่คุณสะสมไว้มากเกินไปด้วย แล้วคุณก็จะลดน้ำหนักได้อย่างง่ายดาย แต่ว่าห้ามกินเพิ่มนะ ต้องคุมอาหารด้วย ใช้พลังงานมากขึ้นด้วย คุณก็จะสวย จะหล่อ จะมีสุขภาพดีได้เร็วขึ้นทันตาเห็น ขอขอบคุณที่มา หนังสืออร่อยได้ อร่อยดี ไม่มีอ้วน ~Tip Today~ คนเราจะรู้สึกอิ่มเมื่อร่างกายได้รับสารอาหารครบถ้วนตามที่ต้องการแล้ว และความอิ่มนั้นไม่ได้หมายความว่าอิ่มแปล้ถึงขั้นอึดอัด แต่เป็นความอิ่มแบบกำลังสบาย   *************************** คลิปบริหารก้นโดยคุณแต้ว   ts_ukjaii http://www.youtube.com/watch?v=u83bMnU-9tE&feature=player_embedded   จากคุณ : meawki8 เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 10:38:28

ความคิดเห็นที่ 12 บทความนี้จากนำมาโดยคุณเจย์ The Starry Night ตอนนี้เจกำลังสนใจท่าบริหารของพิลาทิสอยู่ ไปเจออันนี้ ง่ายๆแบบเบื้องต้นเลยเอามาฝากเพื่อนๆด้วยค่ะ เผื่อว่าใครกำลังสนใจอยู่เหมือนกัน   Pilates เก็บ...พุง (Momypedia) โดย : เพรียวลม           ใครที่กำลังเบื่อหรือยอมยกธงขาวให้กับการซิตอัพมาแล้ว ลองเปลี่ยนมาฝึกท่าบริหารแบบใหม่กันดูบ้าง บางทีอาจจะถูกจริตกว่าการออกกำลังกายแบบเดิม ๆ ก็ได้นะคะ    ท่าที่ 1 The Roll Up บริหารส่วนท้อง           step 1 : นอนราบ ปลายเท้าเหยียดตรง แขนเหยียดขึ้นเหนือศีรษะ           step 2 : หายใจเข้าช้า ๆ พร้อมเหยียดแขนทั้ง 2 ข้างขึ้นช้า ๆ ปลายเท้างอเล็กน้อย           step 3 : หายใจเข้าพร้อมยกศีรษะขึ้น           step 4 : โน้มตัวไปด้านหน้า พร้อมหายใจออก และหายใจเข้าอีกครั้ง เมื่อแขนเหยียดตรง หลังจากนั้นค่อย ๆ เอนตัวกลับสู่ท่าเดิมพร้อมหายใจออก  ท่าที่ 2 Shoulder Bridge บริหารหัวไหล่ หลัง ท้อง ก้น และขา           step 1 : นอนหงาย เข่าคู้           step 2 : ยกลำตัวขึ้น แขนแนบพื้น           step 3 : หายใจเข้า แล้วยกเหยียดขาขึ้นตรง           step 4 : หายใจออกค่อย ๆ วางขาข้างที่เหยียดตรงกลับสู่ step 2 ทำสลับขาอีกข้าง  ท่าที่ 3 The Bicycle บริหารส่วนท้อง หลังและหัวไหล่           step 1 : นอนหงาย           step 2 : ยกลำตัวขึ้น โดยให้แขน ข้อศอก หัวไหล่ คอ รับน้ำหนัก หายใจเข้า           step 3 : งอเข่าข้างหนึ่งมาด้านหลัง เหมือนกำลังถีบจักรยาน หายใจออก           step 4 : สลับข้างถีบ หายใจเข้า            ทำเซตละประมาณ 8-10 ครั้งต่อเนื่องในแต่ละท่าค่ะ            ควรออกกำลังกาย 30 นาทีเป็นอย่างน้อย และงดอาหารก่อนอย่างน้อย 1 ชม.   ที่มา - http://health.kapook.com/view8381.html *********************************** กระทู้นี้ พี่สา เหมียวสีส้มนำมาค่ะ พลีชีพ ขอโทษที่หลอกตัวเองมาตลอดว่า.....เราผอมได้โดยไม่ต้องพึ่งยาลดความอ้วน http://www.pantip.com/cafe/woman/topic/Q11147451/Q11147451.html ******************************** คลิปนี้ค่ะพี่ติ่ง ต้อยติ่งส่องๆมาจากทู้แนะนำห้องแป้ง เอ๊า!! สาวๆน้ำหนักไม่ต่ำกว่า 60 ทั้งหลาย เราเอากำลังใจมากฝากจร้าาาา http://www.pantip.com/cafe/woman/topic/Q11149752/Q11149752.html ****************************** คลิปลดหน้าท้อง จากน้องแป้ง ชุดนอนลายจุด http://www.youtube.com/watch?v=x0hDB0Q_81c&feature=player_embedded   จากคุณ : meawki8 เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 10:50:59

ความคิดเห็นที่ 13 คลิปนำมาโดยคุณแต้วts_ukjaii  ค่ะ  เยอะมากๆ  ครบครัน คุณตุ๊ก----tookjah  ลองดูท่าฝึกพื้นฐานนี้ดูนะค่ะ  ทั้งอาทิตย์อาจจะเล่นวันเว้นวัน หรือแล้วแต่สะดวกก็ได้ค่ะ แต่ไม่ควรเล่นติดต่อกันทุกวัน ท่าละ1-3เซต, เซตละประมาณ 10-12 ครั้ง เริ่มน้ำหนักไม่ต้องเยอะ แต่เน้นจัดท่าให้ถูกต้อง วอร์มร่างกายให้เยอะๆก่อนเล่น จะได้ลดอาการบาดเจ็บ ท่าที่ 1 ฝึกไหล่ Press Behind Neck ท่าที่ 2 ฝึกต้นขา Squat ท่าที่ 3 ฝึกอก Bench Press ท่าที่ 4 ฝึกหลัง Bent Over Rowing ท่าที่ 5 ฝึกหน้าแขน Standing Barbell Curl ท่าที่ 6 ฝึกหลังแขน Lying Tricep Extention ท่าที่ 7 ฝึกน่อง Standing Calf Raise ท่าที่ 8 ฝึกกล้ามท้อง Crunch   ท่าที่ 1 ฝึกไหล่ Press Behind Neck http://www.youtube.com/watch?v=vC3Dh4RuzjI&feature=player_embedded ท่าที่ 2 ฝึกต้นขา Squat จริงๆเซิร์ตดูท่าต่อเนื่องจากคลิปเจ้แกก็เวิร์คน๊า ท่าเยอะมากกกกกกกกกกก อยากเล่นส่วนไหนมีหมดและเหนื่อยโฮก -*- http://www.youtube.com/watch?v=acRdlwx1Hh8&feature=player_embedded   ท่าที่ 3 ฝึกอก Bench Press ใช้ดัมเบลก็ได้นะค่ะ อย่ากลัวว่ายากไป ,,,,,,,,, จริงๆจากคลิปนี้จะเซิร์ตเปิดดูท่าต่างๆก็ได้อีกเช่นกัน (แต้วชอบมากเวบนี้กะเจ้คนข้างบน) http://www.youtube.com/watch?v=9l9guSIjnZY&feature=player_embedded ท่าที่ 4 ฝึกหลัง Bent Over Rowing http://www.youtube.com/watch?v=s-c7Zz2VjwI&feature=player_embedded ท่าที่ 5 ฝึกหน้าแขน Standing Barbell Curl จริงๆท่าฝึกแขนหน้ามีเยอะมากๆค่ะ ไม่ถนัดท่านี้ฝึกท่าอื่นก็ได้ ^^ http://www.youtube.com/watch?v=uTt1yNfweXg&feature=player_embedded ท่าที่ 6 ฝึกหลังแขน Lying Tricep Extention หรือจะเป็นท่า Triceps kickbacks, dips ก็ได้ แต้วชอบจัดชุดหลังแขนเล่นทั้ง 3 ท่า http://www.youtube.com/watch?v=fhX-ph3l9K8&feature=player_embedded แฮ่กๆๆๆๆๆๆๆ  ใกล้เสร็จล่ะ ท่าที่ 7 ฝึกน่อง Standing Calf Raise ------- ท่านี้ง่ายมากยืนเขย่งส้นเท้า ไม่ต้องมีคลิปก็ได้โน๊ะ ((มันเริ่มขี้เกียจ 55555)) . . . . ท่าที่ 8 ฝึกกล้ามท้อง Crunch เลือกท่าใดท่านึงจากคลิปนี้ หรือจะเล่นทุกท่าก็ได้ค่ะ แล้วแต่ความชอบเลย http://www.youtube.com/watch?v=vkKCVCZe474&feature=player_embedded   คลิปนี้มาจากท่าที่ 1 ฝึกไหล่ Press Behind Neck จากคุณ : meawki8 เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 10:58:43

ความคิดเห็นที่ 14 ข้อความต่อไปนี้เป็น สิ่งที่พวกเราพูดคุยกันนะคะ วิเห็นว่าน่าสนใจ เลยเอามาด้วย มีเรื่องอยากจะถามค่ะ .... งง ๆ กับการไปอ่านข้อมูลมานิดหน่อย คือตัวเองก็ไม่ได้ลดน้ำหนักแบบอดมื้อเย็นหรอกนะค่ะ ช่วงนี้ทานบ้างเล็กน้อยตอนประมาณ 5 โมง แล้วก็ออกกำลังกาย จากน้ำค่อยทานน้ำขิงร้อนก่อนนอน แต่ไปอ่านเจอมาว่า เราควรทานอาหารจำพวกโปรตีนในมื้อเย็นเพื่อใช้เป็นพลังงานในการเผาพลาญช่วงก่ลางคืน เอ๊ะะะะ .... แล้วยังนี้มันจะไม่สะสมเหรอค่ะ (เข้าใจนะค่ะว่าให้ทานก่อน 3 ชั่วโมง) แต่ทานแล้วมันจะเผาพลาญหมดจริงเหรอ ....   คำตอบจากพี่เจ๊ใหญ่ลานนา ไมยจัง อ่านเยอะ +55 งงเอง ..คืองี้ โปรตีน เค้าหมายถึง ???(อยากอธิบาย เเต่...คุณเจ๊งงเองง่ะ)...เอาใหม่.. โปรตีนมีหลายชนิด เเละร่างกายจะใช้โปรตีนซึ่งเมื่อย่อยให้มันเเตกก็คือกรดอะมิโนที่จำเป็น(จะงงไปกันใหญ่+555)  นั้นเเหละ มันจะไปเป็นพลังงานให้เราซ่อมเเซมร่างกายยามหลับงัย ซึ่ง เพ่เจ๊เเนะนำว่า ไอ้โปรตีนจากหลายๆแหล่ง ยกตัวอย่างเช่น เนื้อสัตว์ นม ไข่ ถั่วไรเงี๊ยค่ะ ซึ่งเวลาย่อยเเล้วเนี๊ย ก็จะได้อนุภาคเล็กๆที่มี 20 กว่าชนิด ไปเปิดหนังสืออ่านเอาเอง จำเป็นบ้างไม่จำเป็นบ้าง  ความเเตกต่างของเต่ละอย่างก็คือ การย่อยได้ของเเหล่งโปรตีนเเต่ละชนิด ก็เรยจะบอกว่า ให้เลือกกินโปรตีน ตามศักยภาพของร่างกาย อาธิเช่น เราคนกระเพาะไม่เเข็งเเรง ก็เลือกที่มันย่อยง่ายหน่อย (แบบว่าเเก่) หรือเด็กเฟรชย่อยอะไรก็ได้ ง่ายดีไปหมด ดูได้จากกินเเล้วท้องอืดรึเปล่า เงี๊ยอ้า หรือกินเเล้วปวดท้องน่าดู(แสดงว่าเค้าพยายามมากมาย) หรือท้องเสียไปเลย อันนั้นถือว่า เราไม่มีศักยภาพพอที่จะรับประทานโปรตีนชนินั้นๆ ก็จำไว้ครั้งหน้าอย่ากิน อ่ะงงเดะ ก็กินบ้างพอให้ร่างกายได้รู้ว่า ต้องย่อยนะ เเต่ที่พี่กิน ก่อนนอนน่ะนะ(กันเเก่) โปรตีนสำเร็จ อาธิเช่น แอมเว เฮร์บไล อารายเงี๊ย ซึ่ง ถ้าอ่านมาเยอะฟังเยอะอีก ก็ โปรตีนนักกล้่าม คุณภาพที่เเตกต่างกันเมื่อกินเเละนำไปใช้ หรือรสชาติ มันก็แปลไปตามราคาเช่นกัน โปรตีนน้ำ กินไป ดูดซึมได้เลย เรียกโปรตีนสำเร็จ ..........ก็ไม่ต้องยอ่ยให้เหนื่อยกระเพาะ .......... ก็ประมาณเนี๊ย ถ้านู๋ไมยเข้าใจพี่เจ๊ได้นะ ..ไมยก็จะเก่งBioChem +55  เสร็จต่อไปก็จะเก่งเรื่องสรีระด้วยนะเป๊ะเรย ...เเล้วเสร็จนะ ก็ไปเปงพวกนักโภชนากรอ่ะคะ่ พี่ไม่เเน่ใจ เเต่มันจะผสมกันเรื่องการคำนวนพลังงานเเละวัตถุดิบ ....ลองหาหนังสืออ่านดูค่ะ เเต่พี่อ่ะขี้เกียจ ไม่ค่อยชอบอ่านอะไรเยอะเยะ พอรู้บ้างเรื่องที่จำเป็นต้องรู้อ้า ...ถ้าไมยงงเพราะพี่เจ๊นะ  พี่เจ๊ขอโทษไว้ก่อนเลยน๊า พยายามอยากบอก...เเต่ต้องงมากเเน่เลย ..........เกิดมามีปมด้อยน่ะ พูดไรก็ไม่ค่อยมีคนเข้าใจ ........กระซิกๆ ... ลากันไปด้วยอาหารเช้า เบรคคั่นการออกกุลัง บักขบเลิฟๆ   พี่สา เหมียวสีส้ม มาเสริมด้วยค่ะ ขอตอบเพิ่มเติมจากเจ๊ใหญ่นะคะ  สำหรับผู้ที่ลดน้ำหนักด้วยการควบคุมอาหารและออกกำลังกายนั้น ในมื้อเย็นควรมีทั้งคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และวิตามิน เพียงแต่คาร์บจะน้อยหน่อย ทีนี้มื้อเย็นเรามักกินสลัด ซึ่งผักหน่ะมีวิตามินก็จริงแต่ก็มีคาร์บแฝงอยู่เยอะ ส่วนโปรตีนมักจะกินน้อยกว่าที่ร่างกายต้องการ หรือบางคนละเลยโปรตีนไปก็มี เช่น มื้อเย็นกินแต่ผลไม้ แน่นอนค่ะ น้ำหนักลดลงเร็วแน่ๆ แต่ว่าผิวจะเหี่ยว ไม่เฟิร์ม และในระยะยาวหากกลับมากินข้าวปกติ น้ำหนักก็จะขึ้นง่าย กินโปรตีนในมื้อเย็นมันจะไม่สะสมเหรอ ? กินอะไรถ้ามันมากไปก็สะสมหมดหล่ะค่ะ ดังนั้นเราก็ต้องกินให้เหมาะสม หลักง่ายๆ ค่ะ ให้กินโปรตีนประมาณมื้อละ 1 ฝ่ามือของเราค่ะ เช่น ปลาขนาดกลาง 1 ตัว สเต็ก 1 ชิ้น ไข่ต้ม 2 ฟอง ฯลฯ ถ้าเราออกกำลังกายยิ่งออกมาก โปรตีนก็ยิ่งสำคัญค่ะ โปรตีนเป็นส่วนสำคัญที่จะไปเสริมสร้างกล้ามเนื้อและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ (ในช่วงที่เรานอน) ยิ่งมีกล้ามเนื้อมาก การเผาผลาญของเราก็จะมีมากขึ้น ข้อมูลจากเวบนี้ค่ะ เรื่องโปรตีน เข้าใจง่ายดีค่ะ http://www.seabuckthornthai.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=5364844&Ntype=5 ********************************   พร้อมภาพกระชับต้นขา นำมาโดยน้องไมยราฟโปร่งแสงค่ะ   จากคุณ : meawki8 เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 11:06:52

ความคิดเห็นที่ 15 บทความน่ารักๆอยากให้เพื่อนๆ ไม่เครียดในช่วงน้ำท่วม ของคุณเจย์ The Starry Night  วันนี้พานอกเรื่องนิดนึงดีกว่า เรามาแชร์เรื่องอะไรให้พอหัวเราะกันดีมั้ยคะ คลายเครียด  ของเจคิดมุขไม่ออก ขอนำมุขภาษาจีนนอกตำรามานำเสนอแล้วกันค่ะ คือว่าเจอยู่จีนก็จริง แต่พูดภาษาจีนไม่เป็นเจนะคะ ตอนนี้อาศัยเรียนด้วยตัวเองอยู่ กะถามดิกเดินได้ที่อยู่ใกล้ตัว บางคำก็รู้มาแบบขำๆ ไอ้บางคำที่เค้าไม่สอนกันในหนังสือ พวกคำด่า คำทะลึ่งเนี่ยดันรู้ดีนักเชียว วันนี้ขอยกมาเล่าให้ฟังแค่พองามดีกว่า พอขำๆนะคะ คำพ้องเสียงภาษาจีนกะภาษาไทย แบบทะลึ่งกะคำหยาบเค้าไม่สอนหรอก เดี๋ยวกระทู้โดนเซ็นเซอร์ อิ อิ อิ   เริ่มกันด้วยเรื่องฉี่.... "ฉี่ไหล" แปลว่า ลุกขึ้น ที่ฮากว่านั้นคือเพลงชาติของประเทศจีน ขึ้นต้นด้วยคำว่า ฉี่ไหล (จริงๆนะ ไม่เชื่อไปหาฟังดู) เวลานักกีฬาจีนเค้ารับเหรียญทองน่ะ ฉี่ไหล(ภาษาจีน)กันทุกคนเลย "ฉี่ไหลเล่อ" (ฟังดูคล้ายๆ ฉี่ไหลเลอะ)  แปลว่า ตื่นนอนแล้วจ้า อันนี้เราพูดทุกเช้าเลย ชอบๆๆ บอกตัวเองว่าชั้นพูดจีนได้นะ "คั่นฉี่ไหล" แปลว่า ดูเหมือนว่า ต่อมา เกี่ยวกับเรื่องค้าขาย... "ม่ายตงซี" แปลว่า ขายของ (เห็นปะ คนจีนขายของ บอกเองเลยว่า ไม่ตรงสิ) เวลาไปเดินตลาด ได้ยินแม่ค้าพูดฟังดูคล้ายๆว่า ไม่ใช่ หรือ ไม่ต้องกลัว อย่าแปลกใจไป เค้าไม่ได้พยายามพูดไทยกับเราค่ะ "ม่ายช่าย" แปลว่า ขายผัก "ม่ายตงกัว" แปลว่า ขายฟัก   เวลาใช้ให้ใครไปทำอะไรให้ แล้วเค้าเดินมาบอกเราว่า "หวานล่ะ" นั่นแปลว่า เค้าทำเสร็จแล้ว ส่วนถ้าเรามีนัดกะใคร แล้วเค้าบอกว่า "ไหลล่ะ" แปลว่า เค้ามาถึงแล้ว   ส่วนถ้าตกใจหรือละห้อยละเหี่ยเศร้าแซดเมื่อไหร่  ร้อง "อ๋ายหยา" ไปเลย คลาสสิคที่สุดในสามโลกแล้วค่ะคำนี้ ไม่ต้องแปล   ตอนนี้นึกออกแค่นี้ค่ะ ใครรู้บ้างว่าภาษาอื่นมีพ้องเสียงอันไหนฮาๆอีกมั่งรึเปล่าค้า  ภาพแลนซ์ จากพี่แพมแบบเบิร์ดเบิร์ดค่ะ น่ารักมากกกกกกกกกกกกกกกกก ^^ จากคุณ : meawki8 เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 11:13:40

ความคิดเห็นที่ 16 ตอนพิมพ์ใส่ชื่อพี่ปรางค์ แล้วอ่ะ หายไปใหน มาเช็ค อ้าวไม่มี ข้อคิดจากพี่ปรางค์ พระจันทร์เดือนแรม ค่ะ   ๑ ตุลาคม ๒๕๕๔ ชีวิตมาไกล เกินกว่าจะยอมกลับไปเริ่มต้นนับ 1ใหม่ เวลาที่เหลืออยู่มันน้อยนิด @@@...เมื่อเริ่มต้นเฟส ทุกคนก็ประกาศก้อง...ว่าข้า....จะลดน้ำหนักให้ได้ตามที่ตั้งใจหวัง เป้าหมาย ...นู่ นี่ โน่น... @@@@เริ่มต้นก็แข็งขัน บ้างก็เฮฮา...หนุกหนานไปตามตามจังหวะลมหายใจ  หัวเราะเอิ๊กอาก บ้างก็งานท่วมหัว พร้อมๆกับกินท่วมกะเพาะ.......ลืมออกกำลังกาย บ้างก็กินลูกท้อ เมื่อถึงกลางเฟส ..แล้ว..บ้างก็หลุดไปจากวงโคจรนางงาม  กลับไปเดินเล่นที่เวทีอินางอ้วน แต่ทั้งหมด พร้อมที่ยังนึกกล่าวไม่หมด มันก็คือเรื่องจริงของชีวิต ลดได้ตามเป้าหมาย..อย่างนี้ต้องฉลอง..กินอีกแร่ะ ลดไม่ได้ตามเป้าหมาย..อย่างนี้ต้องแก้เซ็ง..กินไปเหอะน๊า..... ผ่านมาถึงตรงนี้ ลองคิดดู อะไรเป็นสาเหตุที่เราทำไม่ได้.... ....คิดว่าทุกคนคงมีคำตอบ... อย่าตอบนะ..ว่าไม่มีเวลา   เคืองตายเลย พี่ปรางก็มีคำตอบของตัวเองแล้วแร่ะ...555 ........................................................................ พี่ปรางเอาข้อความนี้มาหลอนหลอก จากวันปิดเฟส 8 เข้ามาอ่านดูเมนท์น้องๆแล้วคึกคักใช่เล่น แต่ถ้าผ่านไปสัก week 2week  ..จะเหลือวิ่งเข้าเส้นชัยสักกี่คนหน๊อ..... สู้ๆ นะคะ ใจเป็นใหญ่ ใจเป็นประธาน  ตั้งใจใดไว้ ขอให้ลงมือทำ ผลสำเร็จจะตามมาค่ะ แก้ไขเมื่อ 27 พ.ย. 54 05:13:36 จากคุณ : meawki8 เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 11:17:10

ความคิดเห็นที่ 17 เสร็จแล้วค่ะ เย๊ ๆๆๆ เค้าไปนอนก่อนละ **ภาพนี้แถม เค้าคือ ที่รักของพี่เจ๊ คุณบักขบเลิฟ ๆ สีขาวนวล ความจริงเค้าคงเป็นเจ้าชายปลอมตัวมา ^^ จากคุณ : meawki8 เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 11:23:53

ความคิดเห็นที่ 18 คลิปออกกำลังกายเพียบเลยอ่ ชอบๆๆๆๆๆ  จากคุณ : เหมียวสีส้ม เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 12:30:29

ความคิดเห็นที่ 19 ว้ายๆๆ เขินจัง  ได้เอาบทความที่เก้ามาฝาก มาแปะไว้ด้วย   5555 ฝากข่าวว่า  หลังจากที่เก้าเอา เรื่องแคลอรี่ของกาแฟเย็นต่างๆ มาลงแล้ว เก้ายังไม่หยุดกินกาแฟแต่อย่างใด   ป่อยๆๆๆ แต่ตอนนี้หยุดไปเรียบร้อยแล้วค่ะ  เพราะเป็นโรคกรดในกระเพาะ ผลจากการหยุดกินกาแฟคือ  น้ำหนักจะลดลงได้เยอะ   แสดงว่า ที่ผ่านมา  อ้วนเพราะกาแฟเย็นนี่เอง  - -" จากคุณ : kaoim เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 14:26:06

ความคิดเห็นที่ 20 ขอบคุงคุงวิและเจ้าของข้อมูลทุกคนค่า มีประโยชน์กับเรามากมาย ^^ จากคุณ : White River เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 15:59:55

ความคิดเห็นที่ 21 เก็บเข้าคลังกระทู้ คลังความรู้ดีๆ ไว้แล้วค๊า ขอบคุณคุณวิที่รวบรวมข้อมูลไว้ให้พวกเราด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : It's me...Joo. เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 16:32:48

ความคิดเห็นที่ 22 ไรน่ะ ...สัตว์อ้วน ย่อมกินไปตามกัน ????......บ้าเเระวิกิ เขิน จากคุณ : เจ๊ใหญ่ลานนา เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 16:59:49

ความคิดเห็นที่ 23 อ่านแล้วจะกลับไปฮึกเฮิม จากคุณ : miffy_bunny เขียนเมื่อ : วันสาธารณสุขแห่งชาติ 54 22:32:56