ความคิดเห็นที่ 1 ปกติระยะที่ 4 เท่าที่เข้าใจ น่าจะเป็นระยะสุดท้ายแล้วนะค่ะ ว่าแต่เป็นมะเร็งที่ไหนละค่ะ เพื่อให้คนไข้มีกำลังใจ อย่าเพิ่งบอกเลยค่ะ ไม่แน่นะค่ะ ถ้าจิตใจเข้มแข็ง สู้ๆๆ คนไข้อาจอยู่ได้นานก็ได้ค่ะ เป็นกำลังใจให้นะค่ะ จากคุณ : porpong เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 54 00:44:02

ความคิดเห็นที่ 2 ไม่ใช่หมอนะคะ เท่าที่ทราบมา โอกาสหายของระยะ ที่ 4 น้อยมาก ยังไงให้กำลังใจมากๆค่ะ ลองคุยกับหมอดูตรงๆว่า จริงๆ เหลือเวลาเท่าไหร่ ถ้าไม่มาก เราว่าทางครอบครัว และคนใกล้ตัว ควรเลือกเลยว่า จะให้คนไข้รับการรักษาแบบทรมาน  หรือจะให้คนไข้ทำตามที่ตัวเองชอบ มีความสุขให้มากที่สุด   (เท่าที่ทราบคือการทำคีโม ค่อนข้างทรมาน ถ้าตรงนี้เราพูดผิด รบกวนผู้รู้แก้ด้วยนะค้ะ) จากคุณ : เหมียวอ้วนนึ่งมะนาว เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 54 01:30:00

ความคิดเห็นที่ 3 ระยะที่4 อย่าทำคีโมเลย มันจะกระจายเร็วมาก ตอนนี้เขาอยากทำอะไร อยากไปไหน ให้เขาทำให้หมด ทำบุญเยอะๆครับเป็นกำลังใจให้ครับ กับเวลาที่เหลืออยู่ ระยะเวลาที่เหลืออยู่จะไม่เกินจากที่คุณหมอเขาประเมินไว้ครับ สู้ๆๆๆ จากคุณ : ctbto (ctbto) เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 54 08:30:21

ความคิดเห็นที่ 4 ระยะที่ 4 บทจะทรุดแป๊บเดียวเองครับ พ่อผมเป็นมะเร็งลำไส้หมอบอกอยู่ได้อีก 6 เดือนถ้าไม่ทำคีโม พ่อผมตัดสินใจไม่ทำ ช่วงเดือนแรก ๆ ก็ดู ok อยู่ครับ ในใจยังนึกเลยแบบนี้น่าจะอยู่ได้นานกว่า 6 เดือน แต่พอเข้าช่วงเดือนหลัง ๆ นี่ทรุดเร็วมาก โรคนั่นโรคนี่แทรกเยอะมาก แล้วท่านก็จากไป เห็นด้วยกับ #3 ครับส่วนเรื่องที่จะบอกหรือไม่บอกให้ดูว่าเขาเข้มแข็งพอที่รับได้หรือไม่ครับ ถ้ารับไม่ได้ก็อย่าไปบอกครับ เพราะบอกแล้วจะบั่นทอนจิตใจผู้ป่วยมาก ๆ ถ้ารับได้ก็บอกไปเลย กรณีของพ่อผมเขารู้ตัวครับ เขาถามหมอตรง ๆ เลย เป็นกำลังใจให้นะครับ จากคุณ : Namor FC เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 54 08:45:52

ความคิดเห็นที่ 5          สวัสดีครับ...ต้องดูว่าคนไข้ กำลังใจเข้มแข็งแค่ไหน ทำใจยอมรับได้ไหม คุณต้องรู้จักนิสัยคนไข้ด้วยว่าทำใจยอมรับเรื่องอะไรๆต่างๆได้แค่ไหน ผมเองหมอรพ.ทรวงอกตรวจฟีล์ม เอ็กซเรย์ ดูผล จากทีซีสะแกน ว่าผมเองเป็นมะเร็งปอดระยะสี่กระจายทั่วปอด แรกๆผมเองรู้สึกแย่ไปวันต่อมา เอาคนเราทุกคนต้องตายผมทำใจได้เตรียมพร้อมจะสู้ และ เวลาต่อมาหมอขอผ่าตัด เอาชิ้นเนื้อสงสัยไปตรวจ เราว่าน่าจะมีทางเลือกกว่านี้ขอประวัติไปรักษารพ.อื่น  ผลผมเป็นแค่ทีบี.ขณะนี้กินยารักษาตัวมีผลตอบรับดีขึ้น ไอก็หายไปแล้ว จากไอจนตัวโยนบ่อยจนยอก อก ผมเสียเวลากับรพ.ทรวงอกกว่าสามเดือนครับ หมดค่ารักษาไม่น้อยกับ การไปหาหมอนอกเวลา (แพงกว่าปกติ) เข้าใจว่าหมอวินิจฉัยผิดครับ แต่ตอนนี้ผม ก็ตกงานเคราะห์ดีที่ผมพอมีเงินเก็บ เพราะหมอดึงผมไว้ เป็นกรณีศึกษาครับ จากคุณ : ขวัญชัยอิศรา (kwanchaiisra) เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 54 08:58:05

ความคิดเห็นที่ 6 มะเร็งระยะที่สี่คือระยะสุดท้ายอย่างไรก็ตามในแต่ละโรค(อวัยวะ)มีความแตกต่างกันอย่างมากนะครับ ตั้งแต่ไม่มีทางรักษาให้อยู่นานขึ้นเลยอาจเสียชีวิตในเวลาเฉลี่ยสามเดือน ไปจนถึงมีการรักษาดีๆสามารถอยู่ได้เฉลี่ยอย่างน้อย 2 ปี หรือแม้แต่หายขาด(มีชีวิตรอดเกิน 5 ปีโดยไม่มีมะเร็ง)ได้มากกว่า 30% (จำนวนคนไข้ไม่ใช่โอกาสของแต่ละคน) ความเชื่อเรื่องไม่ควรทำคีโมเพราะโรคจะลามเร็วนี่เมื่อไรจะหมดไปซักทีหนอ ทุกโรคที่มีการให้นั้นมีการศึกษาวิจัยเปรียบเทียบในคนไข้เป็นพันเป็นหมื่นระหว่างการให้กับไม่ให้พบว่าคนไข้อยู่ได้นานขึ้นชัดเจน สามารถเพิ่มคุณภาพชีวิตได้ ลดอาการจากมะเร็งได้ โดยที่ผลข้างเคียงไม่รุนแรง ผมยกตัวอย่างเรื่องมะเร็งปอดระยะที่สี่ให้เป็นตัวอย่างครับ ไม่รักษาอะไรเลย 3 เดือน รักษาตามอาการกับแพทย์แผนปัจจุบัน 4-6 เดือน ให้เคมีบำบัด 1 สูตร 7-9 เดือน ให้เคมีบำบัด 2 สูตร 10-11 เดือน ถ้าสามารถใช้ยากิน TKI ได้ 23-24 เดือน ในความเป็นจริงการรักษาจะต้องปรับไปตามคนไข้ให้เหมาะสมโดยมุ่งเน้นให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น หากอยู่ได้นานด้วยคือผลพลอยได้ และลดผลข้างเคียงให้เหลือน้อยที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ หลายคนที่อยู่ได้นานกว่าตัวเลขเหล่านี้มาก หลายคนที่ไปเร็วกว่านี้ก็มี ปล.สำหรับมะเร็งปอดที่เคยเจอมีตั้งแต่เสียภายใน 2 สัปดาห์โดยท่ียังไม่ทันจะเริ่มยาไปจนถึงให้เคมีแค่สูตรเดียวแต่อยู่ได้มานานกว่า 5 ปีแล้ว ส่วนเรื่องตัวโรคหากจะไม่รักษาจะบอกหรือไม่บอกแล้วแต่คุณ แต่ ถ้าจะรักษาต้องบอกครับเพราะความเข้าใจในตัวโรคสำคัญมากกับการรักษาให้ผลออกมาดีครับ และเชื่อเถอะว่าคนไข้รับได้ดีกว่าญาติๆซะอีกครับ จากคุณ : oncodog เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 54 09:20:57

ความคิดเห็นที่ 7 สรุปแล้วหมอบอกคนไข้แล้ว ว่ามะเร็งลุกลามจากลำไส้มาที่หน้าท้อง และจะเริ่มนัดทำคีโม แต่ไม่ชอบใจคำพูดที่ว่า "ยังไงก็ไม่หาย" ที่หลุดจากปากหมอเลยครับ คุณน้าเขาเครียดมาก คุยกันระหว่างญาติ เขาบอกว่าบางครั้งถ้ารู้แล้ว เขาจะได้เตรียมตัว เตรียมเรื่องกฏหมาย เช่น บัญชีธนาคาร ประกันชีวิต หรือมีอะไรที่อยากจะทำเขาจะได้รีบทำ แก้ไขเมื่อ 30 พ.ย. 54 12:28:30 จากคุณ : uhuboy เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 54 12:22:07

ความคิดเห็นที่ 8 เราผ่านจุดนี้มาสองรอบ พ่อ กับ แม่ รู้ตอนระยะ 4 ทั้งคู่เพราะแข็งแรง ความแข็งแรงมันยันไว้จนสุดแล้ว พอรู้คือมันกินจนร่างกายไม่ไหวแล้ว ไม่ต้องทำหรอกค่ะ ทรมานคนไข้เปล่า ๆ ตอนนี้ทำสิ่งที่พวกเราควร คือครอบครัว ควรทำคือ ให้กำลังใจ เขาอยากทำอะไรให้ทำ อยากไปไหน พาไปซะ อยากกินอะไรให้ิกิน ไม่ต้องห่วงแล้วเพราะ ไม่นานแน่นอน เมื่อถึงเวลาท่านไม่ไหว ท่านไม่กินแล้ว เราจะขอให้กินท่านก็กลืนไม่ลงแล้ว ให้ทำตามใจเลยค่ะ กำลังใจสำคัญที่สุด เป็นกำลังใจให้นะคะ เข้าใจความรูั้้สึกเป็นอย่างดีค่ะ จากคุณ : gang (skhonchom) เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 54 13:13:09

ความคิดเห็นที่ 9 อ่านแล้วคิดถึงพ่อกับน้าขึ้นมาทันที  อย่างที่ คห.8 บอกเลยว่า พอถึงเวลาอยากให้เขากิน เขาก็กินไม่ได้แล้ว คะยั้นคะยอยังไงก็ไม่ได้ เพราะมันกลืนไม่ลง แล้วหลังจากนั้นก็อีกไม่นาน ...  เป็นกำลังใจให้นะคะ จากคุณ : mokkok เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 54 14:37:14

ความคิดเห็นที่ 10 คห 7 ความจริงนั้นขมหูแต่มันก็คือความจริง อย่างไรก็ตามหมอที่เก่งคือคนที่พูดความจริงให้ฟังได้โดยขมน้อยที่สุดครับ หมอทุกคนเรียนนะครับ (Breaking bad news) แต่ในชีวิตจริงเราไม่ค่อยทำกัน (แม้แต่ผมเอง) ด้วยหลายๆปัจจัยมันบังคับ นานๆทีก็อาจทำตามที่เรียนมาบ้าง ถามว่าคุ้มมั้ยมันก็คุ้มแต่ให้ทำกับทุกคนก็ไม่มีทางทำได้หมดอยู่ดี ปล.โดยเฉลี่ยการพูดแบบนั้นจะใช้เวลาราวๆ 1 ชั่วโมงต่อเคสครับ จากคุณ : oncodog เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 54 17:45:09

ความคิดเห็นที่ 11 เข้ามาให้กำลังใจค่ะ คุณแม่ก็กำลังให้คีโมอยู่ ช่วงนี้เครียดมากเหมือนกันค่ะ แม่ทานไม่ค่อยได้ จากคุณ : ผู้หญิงที่สวยเลอค่าที่สุด เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 54 17:47:48

ความคิดเห็นที่ 12 ให้กำลังใจครับ ตอนที่แม่ผมป่วยหนักจากมะเร็งปอด พ่อผมและพี่น้องทุกคนก็ห้ามไม่ให้กินนู่นกินนี่ จนสุดท้ายท่านจากไปพร้อมกับข้อห้ามต่างๆผมยังนึกเสียใจอยู่จนทุกวันนี้ว่าไม่น่าห้ามท่านเลย ระยะนี้ท่านอยากทำิะไรก็ให้ทำเถอะครับพาท่านไปทำบุญถ้าสุขภาพพอสู้ไหวก็พาท่านไปวิปัสนาครับสร้างกำลังใจให้มากๆพอถึงเวลาท่านจากไปท่านก็จะจากไปอย่างมีความสุขไม่ทรมานครับสู้ๆนะครับ จากคุณ : Baramandi เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 54 22:08:11

ความคิดเห็นที่ 13 ขอแชร์บ้าง คุณพ่อผมเสียไปตั้งแต่ปี 34 ท่านเสียไปด้วยมะเร็งตับอ่อน ท่านอึดมาก ผ่าตัดไปร่วมสี่ครั้ง เท่าที่ผมจำได้ตอนนั้นผมไม่ทราบว่าจริงๆ มะเร็งคืออะไร ไม่รู้ระยะเวลาว่ามีเวลาเท่าไหร่ รู้แต่ว่าจากคนอ้วนๆ กลายเป็นคนผอมแห้งหนังติดกระดูก ทานอะไรก็จะอาเจียร และปวดตลอดเวลา ท่านเป็นคนอดทนมาก บางครั้งทนไม่ไหวก็จะร้องโอดโอยออกมา   ใครมียาดีอะไรลองหมด ท่านชอบให้ผมนวดท่านก่อนไปโรงเรียนทุกวัน แต่ท่านก็จากไปโดยที่ผมไม่เตรียมตัว ผมนึกอยู่เลยว่า ที่บ้านน่าจะบอกผมว่า ท่านเป็นอะไรในแบบที่เด็กเข้าใจ และท่านจะอยู่กับเราไม่นานคำว่าไม่นานคือเป็นเดือน ไม่ใช่ห้าปีหรือสิบปีในแบบเด็กเข้าใจ จากคุณ : uhuboy เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 54 22:35:37

ความคิดเห็นที่ 14 อย่างที่คุณหมอตอบค่ะ ขึ้นอยู่กับอวัยวะที่เป็น คุณแม่เป็นระยะที่สี่มากว่า 2 ปีแล้วค่ะ จากเต้านมลามไปกระดูก และคุณแม่ก็ยืนยันจะสู้ต่อไป กำลังใจสำคัญที่สุดค่ะ รักษาตัวให้แข็งแรง ถ้าทานอาหารได้ก็ทานให้ครบหมู่ ครอบครัวเราเชื่อคุณหมอค่ะ อย่าไปห้ามโน่นนี่(โดยเฉพาะเนื้อสัตว์)จนร่างกายขาดอาหาร ขอให้คุณน้าดีขึ้นนะคะ จากคุณ : Graceful Cantabile~ เขียนเมื่อ : วันเอดส์โลก 54 07:03:23

ความคิดเห็นที่ 15 เป็นกําลังใจให้คุณน้านะคะ เสียพ่อไปเพราะมะเร็งปอด ตอนเเรกลูกๆปิดไม่ยอมบอก ตัวเเกบอก บอกมาเหอะว่าเเกเป็นอะไร กันเเน่ สุดท้ายเราลูกๆก้อต้องบอกความจริง เเกอยู่ได้3เดือน ทรมานมากๆค่ะ อาการทรุดไวมาก จากคุณ : this_is_more_than_love เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 54 20:41:43