 |
F 56 wt 36 ht 155 no smoking Dx NSCLC IV c pleuropericardial effusion
ในแง่ของการรักษา
อย่างแรกคือต้องดูว่าคนไข้แข็งแรงแค่ไหน เพราะเท่าที่ดูน้ำหนักน้อยมากๆ แม้ว่าไม่ได้เห็นคนไข้แต่คิดว่าของจะดูผอมมากๆ การที่มีน้ำในช่องเยื่อหุ้มปอดและหัวใจมักมีผลให้คนไข้มีอาการเหนื่อยง่าย ดังนั้นโดยรวมคนไข้คงไม่ได้แข็งแรงมากนักครับ
อย่างแรกที่น่าจะต้องทำคือหากหลังเจาะน้ำมีน้ำมาเร็วควรผ่าตัดทำช่องเชื่อมช่องเยื่อหุ้มหัวใจกับช่องเยื่อหุ้มปอด(คนละข้างกับที่มีน้ำในช่องเยื่อหุ้มปอด) เพื่อไม่ให้เกิดอาการเหนื่อยจากน้ำกลับมาใหม่ ส่วนในช่องเยื่อหุ้มปอดข้างที่มีน้ำมากควรทำการเชื่อมช่องเยื่อหุ้มปอดเพื่อไม่ให้เกิดอาการเหนื่อยจากน้ำมันเพิ่มขึ้นมาก แล้วค่อยพิจารณาลำดับต่อไปคือ การรักษาที่เนื้องอก
แนวทางการรักษาในปัจจุบัน นอกจากการรักษาแบบประคับประคองซึ่งต้องทำไปตลอดการรักษาแล้ว ก็มีการรักษาที่เนื้องอก
1st line คือ การรักษา สูตรแรก 1 ส่งตรวจ EGFR mutation หากผลเป็นบวกสามารถใช้ยา TKI ปัจจุบันมีสองตัวคือ Gefitinib (Iressa) และ Erlotinib (Tarceva) หากเป็นลบต้องรักษาตามข้อ 2 ค่าใช้จ่ายในการตรวจ 8000-10000 ค่ายา 70000-100000 บาท***ต่อเดือน*** หากติดต่อโดยตรงกับผู้แทนยาอาจได้ราคาต่ำกว่านี้ สิทธิราชการก็ใช้กรณีแบบนี้ไม่ได้
โอกาสตรวจเจอเป็นบวกจะสูง (ราวๆ 50%) คือ เอเชีย ผู้หญิง ไม่สูบบุหรี่ และ เซลล์มะเร็งชนิด Adenocarcinoma การที่ระบุ NSCLC ถ้าเป็นเมืองนอกถือว่าต่ำกว่ามาตรฐานเพราะการรักษาต่างกัน แต่บ้านเรา ยังไม่ได้ถือว่าเป็นมาตรญานที่ต้องแยก Adenocarcinoma, Squamous cell carcinoma, Large cell carcinoma, และอื่นๆออกจากคำรวมๆว่า Non-small cell lung carcinoma (NSCLC)
ข้อดีคือเป็นยากิน ไม่ใช่เคมีบำบัด ผลข้างเคียงหลักๆคือ ผื่นคล้ายสิวที่ใบหน้า โอกาสตอบสนองสูง 50-70% โอกาสควบคุมโรคไม่ให้ลุกลาม 70-85% ระยะเวลาตอบสนองประมาณ 9-18 เดือน (แล้วแต่บุคคลบางคนอาจตอบสนองดีไปนานเกินสามปีก็มี)
2 ไม่ส่งตรวจ EGFR mutation หรือ ผลตรวจเป็นลบ หากร่างกายแข็งแรงพอให้การรักษาด้วยยาเคมีบำบัด 2 ตัว หากแข็งแรงไม่มากอาจให้ตัวเดียวก่อน หากไม่แข็งแรงควรเลือกการรักษาตามอาการเท่านั้นแทน (ไม่ต้องรักษาที่เนื้องอก) สูตรยามีมากมายครับแตกต่างกันในวิธีให้ สิทธิการรักษาที่เลือกได้ และ ผลข้างเคียง โดยรวมๆ โอกาสตอบสนอง 30-50% แล้วแต่การศึกษา โอกาสควบคุมโรคราวๆ 60-70% ระยะเวลาตอบสนองราวๆ 6-7 เดือน โอกาสรอดชีวิตที่ 1 ปีหากไม่มีการรักษาใดๆอีกราวๆ 30%
2ก Platinum(Cisplatin or Carboplatin) + Pemetrexed (Alimta) ค่าใช้จ่าย 70000-80000 x 4 -6 รอบ เป็นยาสูตรใหม่ออกฤทธิ์ดีกับเซลล์ชนิด Adenocarcinoma แต่อาจจะไม่ดีต่อ Squamous cell ผลข้างเคียงโดยรวมต่ำ หลักๆคือ อ่อนเพลีย ไม่ค่อยกดภูมิคุ้มกัน(ต้องกินวิตามินตามกำหนด) ให้สามสัปดาห์ครั้ง อาจให้แบบนอนรพ.(กับ cisplatin) หรือไปกลับ (carboplatin) เฉพาะสิทธิราชการที่ใช้ได้
2ข Platinum(Cisplatin or Carboplatin) + Gemcitabine (Gemzar or local brand) ค่าใช้จ่าย 40000-60000 x 4 -6 รอบ or 15000-30000 x 4 - 6 รอบ (local) เป็นสูตรที่ผลข้างเคียงโดยรวมน้อย หลักๆคือกดไขกระดูกอาจมีเกร็ดเลือดต่ำได้ อ่อนเพลียน้อย และต้องมารพ.บ่อยซึ่งสำหรับบางคนมันเป็นทั้งความลำบากและสิ้นเปลือง การให้ให้ทุกสามสัปดาห์ต่อ 1 รอบ (ให้สัปดาห์ที่ 1 + 2 พัก สัปดาห์ 3) สามารถใช้ได้ทุกสิทธิ แต่สิทธิบัตรทองอาจมีข้อจำกัด
2ค Platinum(Carboplatin) + Paclitaxel (Taxol or local brand) ค่าใช้จ่าย 40000-60000 x 4 -6 รอบ or 12000-18000 x 4 - 6 รอบ (local) เป็นสูตรที่สะดวกในการให้เนื่องจากให้สามสัปดาห์ครั้ง ไม่ต้องมารพ.บ่อย ผลข้างเคียงที่สำคัฯคือ อาจมีอาการชาปลายมือปลายเท้า ซึ่งสำหรับบางคนมันน่ารำคาญ นอกจากนี้ผมมักจะร่วงมาก อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ มีโอกาสกดูมิคุ้มกันได้พอควร สามารถใช้ได้ทุกสิทธิ แต่สิทธิบัตรทองอาจมีข้อจำกัด
2ง Platinum(Cisplatin) + Docetaxel (Taxotere or local brand) ค่าใช้จ่าย 50000-70000 x 4 -6 รอบ or 20000-30000 x 4 - 6 รอบ (local) เฉพาะสิทธิราชการที่ใช้ได้ สูตรนี้ไม่ค่อยนิยมใช้เป็นสูตรแรกเนื่องจากมักจะมีการกดภูมิคุ้มกันรุนแรง ดังนั้นเมื่อมีทางเลือกคือยาสูตรอื่นให้ใช้จึงมักจะไม่ใช่เป็นสูตรแรก ในขณะเดียวกันยาตัวนี้มีข้อมูลในการให้ 2nd line ซึ่งเมื่อให้เป็น 2nd line จะเป็นยาตัวเดียวผลข้างเคียงนี้จะลดลงไปพอควรครับ ผลข้างเคียงอื่นๆจะคล้าย Paclitaxel แต่น้อยกว่า
2จ Platinum(Cisplatin) + Etoposide ค่าใช้จ่าย 3000 x 4 - 6 รอบ (ไม่รวมค่านอนรพ.) เป็นยาสูตรเก่า แต่ยังมีที่ใช้ในการรักษาระยะต้นๆ ข้อมูลจะน้อยในปัจจุบันเนื่องจากยาขาดสิทธิบัตรจึงแทบจะไม่มีใครเอามาศึกษาอีก โดยรวมๆประสิทธิภาพไม่แตกต่างจากสูตรอื่นมาก เป็นสูตรแรกสุดที่สิทธิบัตรทองแนะนำให้ใช้ เนื่องจากราคาถูกมากๆๆ สูตรนี้จำเป็นต้องนอนรพ.เพื่อให้ยา (นี่เป็นอีกสาเหตุที่เมืองนอกไม่นิยมเพราะค่านอนรพ.แพงกว่าค่ายาใหม่ๆอีก) ผลข้างเคียงหลักๆคือกดภูมิคุ้มกัน ผมร่วง สิทธิอะไรก็ใช้ได้
2nd line คือการรักษาสูตรที่สอง มีสูตรยาให้เลือกลดลง และต้องไม่ซ้ำกับยาสูตรแรก (เพราะมันดื้อแล้ว) และย้ำเหมือนเดิมว่าคนไข้ควรจะแข็งแรงพอควร ก TKI หากยังไม่เคยได้ ไม่จำเป็นต้องตรวจ EGFR mutation แต่หากตรวจแล้วผลเป็นบวกโอกาสตอบสนองจะสูงขึ้น
การให้ในระยะนี้โดยไม่ได้ตรวจโอกาสตอบสนองราวๆ 20% โอกาสควบคุมโรคประมาณ 30-50% ระยะตอบสนองราวๆ 9-18 เดือนในคนที่ตอบสนอง แต่ บางรายก็ไม่ตอบสนองเลย ข้อดีเหมือนข้อ 1
ข Pemetexed (Alimta) ข้อมูลเหมือนๆ 2ก คืออาจจะตอบสนองน้อยกับเซลล์ชนิด Squamous cell โอกาสตอบสนอง 15-20% โอกาสควบคุมโรคได้ 30% ระยะเวลาตอบสนองราวๆ 4-6 เดือน
ค Docetaxel (Taxotere or local brand) เป็นตัวเดียวที่สิทธิบัตรทองประกันสังคมใช้ได้ ข้อมูลเหมือนๆ 2ง โอกาสตอบสนอง 15-20% โอกาสควบคุมโรคได้ 30% ระยะเวลาตอบสนองราวๆ 4-6 เดือน
3rd line and beyond คือการรักษาสูตรที่สามและต่อไป ต้องพิจารณาเป็นรายๆไปครับ
ปล.นี่เป็นเพียงความเห็นของหมอหนึ่งคนและไม่ได้เห็นคนไข้ ควรปรึกษากับหมอที่ดูแลด้วยครับว่าทางเลือกใดเหมาะสมหรือไม่เพราะเหตุใดครับ ราคาโดยประมาณจะแตกต่างกันในแต่ละรพ.และยี่ห้อของยาที่ใช้ครับ
ปล2. ผลข้างเคียงที่ระบุไว้ส่วนมากไม่ได้เกิดในทุกคนแต่จะระบุไว้ในกรณีที่เจอบ่อย(มากกว่า 10%)หรือสำคัญ แต่ทุกสูตรคนไข้เกือบทั้งหมดผ่านไปได้สบายๆ อายุ 70 กว่าๆถ้าแข็งแรงสมวัยก็ไหวครับ
จากคุณ |
:
oncodog
|
เขียนเมื่อ |
:
3 ธ.ค. 54 10:27:55
|
|
|
|
 |