|
ดูแลตัวเองอย่างไร
เมื่อคุณเป็นโรคสะเก็ดเงิน คุณจะมีความเสี่ยงต่อโรคบางชนิดเพิ่มมากขึ้น เช่น Metabolic syndrome (ความดันโลหิตสูงและระดับน้ำตาลในเลือดสูง) โรคลำไส้แปรปรวน โรคหัวใจและหลอดเลือด และอาจรวมถึงโรคมะเร็ง
นอกจากนี้ยังอาจมีอาการปวดข้อจากตัวโรคเองที่ทำให้ใช้ชีวิตประจำวันได้ลำบากขึ้น ดังนั้น นอกเหนือไปจากการรักษาจากแพทย์แล้ว การดูแลตัวเองตามคำแนะนำเหล่านี้จะช่วยให้อาการของโรคสะเก็ดดีขึ้นได้และ ยังช่วยลดความเสี่ยงจากโรคข้างต้น
อาหารการกิน รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะผักผลไม้หลากสี สารต้านอนุมูลอิสระที่มีมากในผักผลไม้จะช่วยลดความรุนแรงของโรคลงได้ รับประทานปลาหรือน้ำมันปลาเป็นประจำจะช่วยบรรเทาการอักเสบของผิวหนังและข้อ หลีกเลี่ยงอาหารที่คุณสังเกตพบว่าอาจกระตุ้นให้ผื่นกำเริบ หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เช่น เหล้า เบียร์ ไวน์ เพราะเป็นปัจจัยกระตุ้นให้อาการเป็นมากขึ้น
การดูแลผิว การอาบน้ำช่วยชะล้างสะเก็ดผิวที่ลอกออกได้และช่วยบรรเทาผิวที่อักเสบ แต่ไม่ควรอาบน้ำร้อนจัดหรือใช้สบู่ที่รุนแรงกับผิว ทาครีมหรือโลชั่นให้ความชุ่มชื้นผิวทันทีหลังอาบน้ำ หากผิวแห้งมากควรทาซ้ำอีกระหว่างวัน ใช้ชีวิตกลางแจ้งเพื่อรับแสงแดดบ้าง แต่ควรทาครีมกันแดดให้ทั่วบริเวณผิวหนังปกติ และระวังอย่าตากแดดมากเกินไป พยายามไม่รบกวนให้ผิวระคายเคืองด้วยการแกะ เกา กระแทก หรือเสียดสี ซึ่งจะทำให้ผื่นสะเก็ดเงินเกิดขึ้นได้
การดูแลอื่นๆ งดสูบบุหรี่ เพราะบุหรี่เป็นตัวการทำลายผิวและกระตุ้นให้เกิดผื่นสะเก็ดเงิน ผ่อนคลายความเครียด พักผ่อนให้เพียงพอ ความเครียดไม่ว่าจะมาจากโรค การงาน หรือเรื่องใดๆ มีผลให้ผื่นเห่อขึ้นได้ทั้งสิ้น ควบคุมน้ำหนักและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ความอ้วนมีผลต่อความรุนแรงของโรคสะเก็ดเงิน และผื่นมักเกิดบริเวณรอยพับของผิวหนัง ยาบางชนิด เช่น ยาลดความดันโลหิตกลุ่ม Beta blocker, และกลุ่ม ACE inhibitor ยาต้านมาลาเรีย ยารักษาโรคซึมเศร้า ยาลดไขมัน อาจกระตุ้นให้โรคสะเก็ดเงินแย่ลง อย่าหยุดหรือเปลี่ยนยาเอง ควรปรึกษาแพทย์ เมื่อพบแพทย์ให้แจ้งโรคประจำตัว ยาบางชนิดกระตุ้นให้ผื่นกำเริบได้
จากคุณ |
:
ช่วยกันๆ (design 09)
|
เขียนเมื่อ |
:
20 ธ.ค. 54 11:41:17
|
|
|
|
|